ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Because I hate you เกลียดนาย...น้องชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 :: จุดเริ่มต้นของการสังหาร

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 52


     

     

     

     

     

    ตอนที่ 6 จุดเริ่มต้นของการสังหาร

     

    เคยรู้สึกบ้างไหมว่ามันว่างเปล่า

     

     

     

     

                ความลับไม่มีในโลก

     

     

                ดงเฮรู้ข้อนี้ดีตอนนี้คิบอมรู้แล้วเขาเป็นใคร  ซึ่งถ้าคิบอมรู้  ฮันคยองเองก็น่าจะรู้ด้วยเช่นกัน

     

     

                พ่อบ้านแม่บ้านไม่รู้และฮยอกแจเองก็ไม่รู้

     

     

                ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี  แต่ก็คงจะมีสักวันที่ความจะแตกว่าเขาเป็นบอดี้การ์ด

     

     

                ขืนบอกไปโจ่ง ๆ ว่าฉันเนี่ยแหละบอดี้การ์ดนายฮยอกแจก็คงอึดอัดและทำอะไรไม่สะดวก  เลยขอเป็นเพื่อนผู้ขี้แยตามติดฮยอกแจเหมือนเงาตามตัวคงจะดีกว่า  จะได้ทำอะไรได้สะดวกด้วยในฐานะเพื่อนรัก

     

     

                เขายอมรับว่านิสัยฮยอกแจนั้นดีพอควรเลยทีเดียว  เพราะตอนนี้เขาเองก็รู้สึกชักจะติดฮยอกแจขึ้นมาจริง ๆ ซะแล้วสิ   เขาอยากเป็นเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคน ๆ นี้

     

     

                นี่ดงเฮ  พักหลังเนี่ยนายดูสนิทกับคิบอมมากขึ้นนะ  ไม่กลัวคิบอมแล้วหรอ ร่างบางที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอนนุ่มเอ่ยถามพลางเอามือเท้าคางตาใส  ดงเฮที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะเล็ก ๆ พับได้ใกล้เตียงจึงชะงักเล็กน้อยกับคำถาม

     

     

                อะอืม ก็ประมาณนั้น ตอบทั้ง ๆ ที่สายตายังคงจ้องตัวหนังสือ

     

     

                หืม..” เจ้าตัวดีหรี่ตามองเพื่อนอย่างจ้องจับผิด ไม่ใช่ว่านายหลงรักคิบอมแล้วหรอกหรอ

     

     

                แก๊ก!

     

     

                คำถามจี้ใจดำทำเอาคนถูกถามหยุดชะงักเผลอไปกดดินสอแรงจนไส้ดินสอหัก

     

     

                อะอะไรทำให้นายคิดแบบนั้น

     

     

                เอ้า!  ก็นายดูสนิทกับคิบอมมากเลยนี่  บางทีก็เดินไปคุยกันบนห้องของคิบอมด้วย  ถามจริง ๆ เหอะ นายเข้าไปในห้องของคิบอมนายคงไม่ได้ไปเล่นจ้ำจี้กันหรอกใช่มั้ย

     

     

                กร๊อบ!!

     

     

                คราวนี้ไม่ใช่ไส้ดินสอที่หัก  แต่เป็นดินสอทั้งแท่งที่หักเป็นสองท่อน! 

     

     

                เล่นจ้ำจี้กับไอแก้มแตกนี่เพื่อนเขาเอาอะไรคิด!!

     

     

                เขาเข้าไปในห้องของคิบอมเพื่อดูข้อมูลของพวกมาเฟียตัวเกร็ง ๆ ที่คิบอมหาไว้ให้ต่างหาก  การรู้ข้อมูลไว้เป็นสิ่งที่บอดี้การ์ดอย่างเขาควรจะทำเพื่อจะได้ปกป้องเพื่อนตัวดีได้ง่ายขึ้น  แต่กลับเป็นจุดชนวนให้เจ้าตัวคิดอย่างนี้ซะงั้น

     

     

                ให้ตายเขาก็ไม่มีวันชอบไอแก้มแตกนี่หรอก  ยิ่งเล่นจ้ำจี้อะจึ๋ย ๆ ยิ่งอย่าหวัง!

     

     

                ก็ดูสิ..คิบอมชอบทายใจเขาออกอยู่เรื่อยเลย  แถมยังแม่นหยั่งกะหมอดู  ยิ่งมันยิ้มให้นี่ใจของเขาไม่รู้จะเต้นแรงไปถึงไหน 

     

     

                ก็ไหนบอกคิบอมชอบเก๊กหน้านิ่งไงแต่ทำไมอยู่กับเขาเนี่ยยิ้มบ๊อยบ่อย  ยิ้มแล้วตาหาย ยิ้มแล้วแก้มป่อง  ยิ้มแล้วใจเต้น  ยิ้มแล้วทำเขาหน้าแดง  โอ้ย!  ทำหน้านิ่ง ๆ สักวันมันจะตายมั้ย  ชอบมากวนใจอยู่เรื่อย  อะ ๆๆ  ที่ใจเต้นเนี่ยอย่าคิดว่าเขาชอบไอแก้มแตกนั่นเข้าเชียวนะ  เขาใจเต้นหน้าแดงเพราะกำลังโกรธอยู่ต่างหากล่ะ

     

     

                จะบ้าหรอ!  ฉ่ะฉันเข้าไปถามการบ้านคิบอมต่างหากล่ะ ดูสิข้อยาก ๆ ทั้งนั้นเลย  ฉันทำไม่เป็น ดงเฮรีบปฏิเสธแล้วโบกมือไปมา

     

     

                แน่ใจหรอ แน่ะ  ยังมีซักไซ้

     

     

                เออ!  แน่ใจสิ  ถามนู้นถามนี่ฉันอยู่ได้  ว่าแต่ตัวเองเถอะทำเสร็จรึยัง  เข้ามาในห้องฉันแล้วยังทำที่นอนยับหมดอีก ร่างเล็กบ่นอุบอิบเฉไฉไปเรื่องอื่น  แต่เพราะคำถูกดุนั้นแหละทำฮยอกแจหน้ามุ่ย

     

     

                ทำเสร็จแล้ว!”

     

     

                จริงอะ?”

     

     

                ไม่จริง

     

     

                ไปเอาการบ้านมาเดี๋ยวนี้เลย!  ไม่งั้นนายเจอดีแน่!!” เพื่อนที่ดีเริ่มแผลงฤทธิ์  ร่างบางเลยจำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างเร่งด่วน  แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทิ้งท้าย

     

     

                งั้นทำเสร็จแล้วต้องไปเที่ยวกับฉันนะ!”

     

     

     

    ..~~~~***Because I hate you***~~~~..

     

     

     

                ดงเฮรู้สึกอยากจะกุมขมับอย่างรุนแรง

     

     

                สถานที่ ๆ ร่างบางอ้อนเขาให้พามานักหนาคืองานเทศกาล  เหตุผลน่ะหรอก็เพราะของกินไง!   งานเทศกาลประจำปีมีการเชิญศิลปินดัง ๆ มาร่วมร้องเพลงจัดเป็นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ มากมาย  และมีซุ่มของเล่นเต็มไปหมด  แต่ลี  ฮยอกแจกลับสนใจพวกของกินและอาหารมากกว่า 

     

     

                และแน่นอนว่าวันนี้คนคงจะเยอะเป็นพิเศษ

     

     

                อยากให้พี่ฮันมาด้วยจัง..” เสียงหวานพูดลอย ๆ

     

     

                อ่าฉันหมายความว่าพี่ฮันเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งสิบปีแน่ะ  พอกลับมาก็ต้องจมอยู่กับงาน  ฉันอยากจะให้พี่ฮันมาพักผ่อนบ้าง ฮยอกแจรีบขยายความทันควันเมื่อเห็นว่าคนข้าง ๆ กำลังมองเขาด้วยสายตาสงสัย

     

     

                อืม ดงเฮรับคำอย่างแผ่วเบา

     

     

                เขารู้ว่าฮยอกแจต้องหมายความมากกว่านั้น

     

     

                นัยน์ตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีจับจ้องไปสองพี่น้องที่กำลังเล่นเกมปาลูกโป่งเพื่อแย่งเอาของรางวัลกันอย่างสนุกสนาน  ฮยอกแจมองภาพนั้นอย่างเอ็นดูพลางถวิลหานึกถึงอดีต

     

     

                พี่ฮัน   ผมอยากได้หุ่นยนต์ตัวนั้นเด็กชายวัยเจ็ดขวบกระตุกเสื้อคนข้าง ๆ พลางจ้องมองของที่อยากได้ตาเป็นมัน  หุ่นยนต์ที่ว่าตั้งอยู่บนชั้นวางโชว์ของรางวัลในการเล่นปาลูกโป่ง  คนถูกกระตุกเสื้อจึงกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย

     

     

              อยากได้ก็เล่นเกมเอาเองสิเด็กชายวัยสิบเอ็ดพูดอย่างไม่ยี่หระ  คนน้องจึงเริ่มจะเบะปากเมื่อถูกขัดใจ

     

     

              แต่ผมอยากได้นี่!” เด็กน้อยเริ่มงอแง

     

     

              โอ้ย! รำคาญจริง  เออ ๆ งั้นตามมาสิ

     

     

              ฉึก! ฉึก! ฉึก!

     

     

              เสียงลูกโป่งแตกติดต่อกันสามลูกเมื่อถูกลูกดอกปาใส่

     

     

              ฉึก! ฉึก! ฉึก!

     

     

              แม่นยำรวดเร็ว  ลูกโป่งแตกติดต่อกันอีกสามครั้ง

     

     

              และสุดท้าย

     

     

              ฉึก!

     

     

              ลูกโป่งใบสุดท้ายก็แตกลงท่ามกลางความดีใจของผู้เป็นน้องชาย กับความอึ้งทึ่งของคนขาย

     

     

              จนแล้วจนรอด....ฮยอกแจก็ได้หุ่นยนต์ตัวนั้นสมใจ

     

     

              ก็แค่หุ่นยนต์ธรรมดาถูก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีค่าอะไร...แต่เพราะได้มาจากคนสำคัญต่างหากมันถึงมีค่า

     

     

                ตราบจนวันนี้มันก็ยังคงอยู่ในห้องนอนของเขา

     

     

                แจ....ฮยอกแจ!”

     

     

                หะ...ห๊า?” ร่างบางตอบรับหน้าเหวอพลางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนใส่  ดงเฮจึงส่ายหน้าอย่าปลง ๆ ในความใจลอยของเพื่อน

     

     

                เป็นอะไรไป  อยากเล่นปาลูกโป่งหรอ  เห็นจ้องตาเป็นมันเชียว

     

     

                อะ...อ่า  ก็ดีนะ  แต่ตอนนี้ฉันหิวมากกว่า

     

     

                แต่สุดท้ายเรื่องกินก็มาก่อนจนได้...

     

     

               

     

     

                ดงเฮ  ฉันอยากกินอันนี้

     

     

                ดงเฮ  อันนั้นน่ากินจัง

     

     

                ดงเฮ  เห็นเขาบอกว่าขนมนี่อร่อยล่ะ

     

     

                ดงเฮ~”

     

     

                ดงเฮ ดงเฮ ดงเฮ!” เจ้าตัวเรียกชื่อตัวเองไปมาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่  เมื่อเพื่อนตัวดีลี  ฮยอกแจเรียกเขาไม่รู้กี่ร้อยรอบในวันนี้   แถมยังลากเขาไปนู้นไปนี่อีก  ทั้งนี่ทั้งนั้นก็เพราะขนมนั่นแหละ  เขาเดินจนขาจะลากอยู่แล้ว!

     

     

                ดงเฮ  ฉันอยากกินทาโกยากิ คนตะกละพูดน้ำเสียงเหมือนเด็กอยากได้ของเล่นพลางกระตุกแขนเสื้อร่างเล็กแล้วชี้ไปทางซุ่มร้านค้าที่ติดป้ายโชว์เด่นว่าทาโกยากิ   เชิญชวนให้ผู้เป็นเพื่อนมาปฏิบัติการกินไปเดินไปไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ทำเอาคนโดนชวนต้องหน้าแหยเก

     

     

                ฮะ?  ยังจะกินอีกหรอไอไก่อ้วน  กินจนฉันจะอิ่มแทนอยู่แล้วเนี่ยบอกได้เลยว่าเขาชักจะเบื่ออาหารเป็นครั้งแรกก็วันนี้

     

     

                ง่ะ  ก็ฉันอยากกินนี่  ถ้านายอิ่มก็เลี้ยงขนมฉันสิ  ฉันชอบของฟรี เจ้าตัวดีพูดพร้อมทำตาปริบ ๆ

     

     

                ไม่เอา ไม่เลี้ยงพอเถอะพอ  กินให้มันรู้จักพอมั้ง  คนเราเกิดมากินเพื่ออยู่นะไม่ใช่อยู่เพื่อกิน

     

     

                แต่ฉันเป็นไก่  ฉันอยู่เพื่อกิน

     

     

                นายกำลังจะบอกว่านายไม่ใช่คน  แต่เป็นไก่?”

     

     

                ใช่!!”

     

     

                คำตอบที่ดูเหมือนร่างบางจะภูมิใจในชาติเกิดเสียเต็มประดาทำดงเฮกุมขมับ  ดีมันเป็นไก่  สมองมันก็ไก่จริง ๆ

     

     

                ไม่ได้  นายต้องมากับฉัน  ฉันอยากเล่นเกมปาเป้า ร่างเล็กพูด

     

     

                เห  ฉันว่านายไปเล่นช้อนปลาทองดีกว่า  เหมาะดี ฮยอกแจค้านสายตากรุ้มกริ่ม

     

     

                ทำไม

     

     

                ก็เพราะนายมันหน้าปลาทองไง!”

     

     

                ไอไก่!!”

     

     

                สุดท้ายลี  ฮยอกแจก็โดนมะเขกมหากาฬไปหนึ่งทีก่อนจะโดนดงเฮลากไปยังซุ่มเกมปาเป้า

     

     

                ดงเฮฉันหิว ร่างบางพูดเสียงอ่อยหลังจากที่โดนลากไปเล่นเกมนู้นเกมนี้ได้สักพัก  ตอนนี้เขาทั้งสองคนกำลังหยุดอยู่ตรงซุ่มเกมยิงธนูที่ดูเหมือนดงเฮจะจริงจังเป็นพิเศษ  ดวงตากลมโตข้างหนึ่งหรี่ลงเพื่อใช้สายตากะระยะให้พอดี  แต่ก็ต้องมาหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อฮยอกแจทัก  เสียงหวานจึงตอบกลับไปแบบส่ง ๆ

     

     

                อืม ๆ จะไปไหนก็ไปเถอะ

     

     

                เพราะเหตุนี้...ฮยอกแจก็เลยตัดสินใจเดินออกมาคนเดียว  คนอาจจะเยอะไปนิด...แต่เขามั่นใจว่าคงไม่หลงกับดงเฮแน่นอน

     

     

                มั้งนะ...

     

     

                ฉึก!

     

     

                เจ๋ง!!” ดงเฮร้องลั่นอย่างดีใจเมื่อลูกศรที่ตัวเองยิงออกไปนั้นเข้าเป้าตรงกลางเป๊ะ  แหงล่ะ...ก็เขาเคยฝึกมาก่อน   ยิ่งอาวุธระยะไกลเขายิ่งถนัด

     

     

                ฮยอกแจดูสิ!  ตรงกลางเป๊ะ ๆ เลย!!” เสียงหวานร้องอย่างดีใจพลางหันไปยังข้าง ๆ ตัวที่คิดว่ามีร่างบางยืนอยู่  แต่กลับไม่เห็นเลยแม้แต่เงาของผู้เป็นเพื่อน

     

     

                ฮยอกแ..

     

     

                ดงเฮ

     

     

                น้ำเสียงหนึ่งที่แสนคุ้นเคยเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง  ดงเฮจึงหยุดชะงักเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่ราวกับโลกทั้งโลกกำลังหยุดหมุน

     

     

                ดวงตาสุกใสอ่อนไหววูบ  พลางภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด

     

     

                แต่โชคชะตามักชอบเล่นตลกกับเราเสมอ

     

     

                ดงเฮ...นั่นดงเฮใช่มั้ยลูก  พระเจ้า...บอกแม่หน่อยว่านี่คือดงเฮจริง ๆ หญิงวัยอายุย่างเลขสี่เอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือ  มือบางยื่นไปสัมผัสใบหน้าหวานของคนตรงหน้าอย่างช้า ๆ และเกรงกลัวราวกับต้องการพิสูจน์ว่าตนไม่ได้ฝันไป   ก่อนที่น้ำตาใสจะเอ่อล้นคลอเบ้าตาด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มเมื่อคนที่ตัวเองคิดถึงมาตลอดกำลังอยู่ตรงหน้านี้จริง 

     

     

                สัมผัสนี้...ไม่ผิดแน่

     

     

                หญิงคนนี้....คือแม่ของเขา

     

     

                หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเริ่มแก่ชราตามกาลเวลา  เส้นผมที่เคยดกดำบัดนี้มีเส้นสีขาว ๆ แซมเล็กน้อย  ใบหน้าดูอิดโรยเหมือนมีเรื่องค้างคาใจตลอดเวลาแต่แววตานั้นกลับดูไม่เปลี่ยนแปลง

     

     

                มีแต่จะถวิลหามากขึ้น..

     

     

                ...ขอโทษนะครับ  แต่ผมไม่รู้จักคุณ หากแต่ร่างบางกลับเลือกที่จะตอบด้วยท่าทีห่างเหิน  ใบหน้าหวานยังคงเจือด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ตามประสาคนถูกทักผิด

     

     

                ทำไมล่ะดงเฮ

     

     

                ทำไมถึงปฏิเสธ..

     

     

                ร่ะ...หรอจ้ะ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนความผิดหวัง  ได้แต่ส่งยิ้มฝืด ๆ ไปให้ก่อนจะรีบหันหน้าหนีแล้วเช็ดรอยน้ำตา

     

     

                ง่ะ...งั้นป้าขอโทษนะจ้ะ...ป้าคงจะจำคนผิด หญิงวัยกลางคนเงียบไปสักครู่ ...ยังไง...ก็ลองไปหาอะไรร้อน ๆ ดื่มที่ร้านป้าดูก่อนดีมั้ย  อากาศตอนนี้เริ่มเย็นแล้ว  เสื้อที่หนูใส่ก็บางเชียวป้าไม่อยากให้เป็นหวัด หล่อนยิ้มอ่อนโยน  หากแต่แววตาคู่นั้นกลับมีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่อย่างปิดไม่มิด

     

     

                ครับ..

     

     

                และดงเฮก็ไม่ลังเลที่จะเลือกตอบตกลง

     

     

    ..…~~~~~*~~~~~**~~~~~*~~~~~…..

     

     

     

                บรรยากาศภายในร้านกาแฟดูเป็นกันเอง  ดูท่าทางคนออกแบบคนเลือกสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียว  วอลเปเปอร์ภายในร้านเป็นสีขาวนวลประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างสีที่ประกอบกันได้อย่างลงตัวชวนดูคลาสสิก  เพียงแค่ก้าวเข้ามาในร้านกลิ่นไอหอมกรุ่นของกาแฟก็ลอยมาแตะจมูก  ดงเฮหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้นุ่มพลางมองไปรอบ ๆ ร้านอย่างทำเป็นสนใจพลางเหลือบตามองหญิงวัยกลางคนเป็นพัก ๆ

     

     

                ดื่มโกโก้อุ่น ๆ ก็แล้วกันนะจ้ะ  แก้วนี้ป้าเลี้ยงเอง เธอส่งให้พร้อมรอยยิ้มเอ็นดู  ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มแล้วรับแก้วโกโก้ร้อนที่มีกลิ่นไออุ่น ๆ มา

     

     

                ขอบคุณฮะ

     

     

                ระหว่างทางที่หญิงคนนี้พาเขาเดินมายังร้านมีการแนะนำตัวกันเล็กน้อย  ทำให้เขารู้ว่าคนตรงหน้าชื่อคิม  ซอนฮโย

     

     

                แน่นอนว่าเขารู้ชื่ออยู่แล้ว  แต่เพียงแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วแนะนำตัวเอง

     

     

                โดยใช้ชื่อลี  ดงเฮ

     

     

                ไม่ใช่คิม  ดงเฮ

     

     

                ฤดูหนาวเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว…” ซอนฮโยลากเสียงแผ่วเบา มันทำให้ป้านึกถึงวันเก่า ๆ

     

     

                ร่างเล็กก้มหน้านิ่งพลางค่อย ๆ ประคองโกโก้ร้อนขึ้นมาดื่ม  รสชาติหวานกลมกล่อมแผ่ซานเข้ามาในปาก  รสชาตินี้เขาคุ้นเคยดี  โกโก้สูตรพิเศษของแม่..

     

     

                ขอโทษนะจ้ะที่จู่ ๆ ก็ชวนหนูเข้ามาในร้านแบบนี้  ป้าแค่รู้สึกคุ้นเคยกับหนูมากเป็นพิเศษ หญิงวัยกลางคนพูดพร้อมรอยยิ้มบางทันทีที่โอกาสเหมาะ

     

     

                ไม่เป็นไรหรอกฮะ  ผมต่างหากที่ต้องขอโทษขอโทษที่ทำให้เสียเวลา  และขอบคุณที่อุตส่าห์เลี้ยงโกโก้แก้วนี้  มันอร่อยมากเลย ร่างบางยิ้มหวาน  ยืนยันว่าตนพูดออกมาจากใจ

     

     

                จ้ะ  แล้ว..หนูชื่อดงเฮใช่มั้ยจ้ะ

     

     

                ใช่ฮะ เสียงหวานตอบ

     

     

                งั้นหรอจ้ะชื่อเหมือนลูกชายของป้าเลย ซอนฮโยผลุบสายตาลงต่ำราวกับมีคำพูดอะไรค้างคาอยู่ในใจแต่ไม่พูดออกมา  และในฐานะคนนอกคนที่เพิ่งเคยรู้จักกัน  ดงเฮก็รู้ดีว่าควรจะทำเช่นไร

     

     

                เออ..แล้วลูกชายของป้าไปไหนหรอฮะ  ผมยังไม่เห็นเขาเลย แต่คำถามก็ดูจะล่วงเกินกันเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน  ถึงแม้จะรู้คำตอบดีอยู่แก่ใจในเมื่อตนคือลูกชายคนนั้นที่หายไปแต่ก็ยังอยากจะถามเพื่อให้รู้ว่าแม่คิดยังไงกับการที่เขาหนีออกจากบ้าน

     

     

                เพราะเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าตนนั้นโหยหาคนตรงหน้านี้เหลือเกิน

     

     

                หญิงวัยกลางคนมองคนตรงหน้าเล็กน้อยอย่างแปลกใจที่จู่ ๆ ก็อยู่ถามตรงซะขนาดนี้  ทำให้ดงเฮรีบขอโทษขอโพยทันที

     

     

                ขอโทษครับ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน คำตอบอันใสซื่อทำซอนฮโยหัวเราะร่วน

     

     

                ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หญิงวัยกลางคนตอบ  รอยยิ้มบางเริ่มจางหายไปจากใบหน้า

     

     

                ลูกชายป้าเขาหนีออกจากบ้านไปจ้ะ

     

     

                แต่เธอกลับเลือกที่จะตอบความจริงกับคนแปลกหน้า

     

     

                ไม่ใช่ว่าเธอไว้ใจใครง่ายแต่เธอรู้สึกลึกซึ้งกับคนตรงหน้า

     

     

                เธอมั่นใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนไกล

     

     

                ลูกชายของป้าเขาเป็นเด็กน่ารักมาก  ชื่อดงเฮแปลว่าทะเลตะวันออก  รอยยิ้มของเขาเหมือนลมริมทะเลอ่อน ๆ ที่พัดผ่านทำให้ป้ารู้สึกผ่อนคลายเวลามีเรื่องไม่สบายใจ  อีกอย่าง..บ้านเกิดของเขาก็อยู่แถว ๆ ทะเลด้วยนะ

     

     

                ซอนฮโยเริ่มเล่าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อนึกถึงภาพในอดีต

     

     

                แต่พ่อของเขากลับเสียชีวิตกะทันหัด  ตอนนั้นป้าติดหนี้อยู่หลานล้าน  ลำบากมากทีเดียว  ตามลำพังคงไม่สามารถเลี้ยงดูดงเฮได้แน่  ป้าก็เลยแต่งงานใหม่  ตอนนั้นดงเฮอายุแปดขวบพอดี

     

     

                ดงเฮรับฟังอย่างตั้งใจ  แต่พอมาถึงจุดนี้ความรู้สึกโกรธแค้นก็เริ่มถูกจุกแน่นอยู่ในอก

     

     

                แม่ของเขาแต่งงานกับไอเลวนั่น..

     

     

                เขาเป็นคนดี  ใช่จ้ะป้าเชื่อแบบนั้น  ป้ามั่นใจว่าเขาคงดูแลดงเฮได้  และดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ  แต่น่าแปลกมากที่ดงเฮกลายเป็นเด็กเก็บตัวเงียบตั้งแต่วัยที่เริ่มก้าวเข้าอายุสิบเอ็ดขวบ  เขากลายเป็นเด็กที่เริ่มไม่สุงสิงกับใครจนป้านึกเป็นห่วง  แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหนี้ก็เริ่มที่จะทวงหนักขึ้นเรื่อย ๆ

     

     

                “…”

     

     

                ป้าจำเป็นต้องออกไปจากบ้านมากขึ้น  ทำงานมากขึ้นและกลับบ้านดึก  สามีของป้าก็ทำงานนะ  แต่กลับบ้านเร็วกว่า  อันนั้นทำให้ป้าเริ่มเบาใจขึ้นอีกนิดเพราะอย่างน้อยจะได้มีคนดูแลดงเฮ  จริงอยู่ที่ป้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก  แต่ยังไงพ่อกับแม่ลูกก็ย่อมคุ้นเคยกว่าจริงมั้ยจ้ะซอนฮโยพูดกลั้วหัวเราะเมื่อพูดถึงจุดนี้  แต่แล้วพอเอื้อนเอ่ยประโยคต่อไปกลับเสียงแผ่วลง

     

     

                เมื่อต้องเล่าเรื่องแห่งความหลังที่แทบไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง

     

     

                แต่แล้ววันหนึ่งตอนดงเฮอายุสิบสอง เขาก็มาร้องไห้กับป้าแล้วบอกว่าสามีของป้าข่มขื่นเขา  ป้าตกใจมากแต่สามีป้าก็ค้าน  เขาบอกว่าเขาไม่เคยทำและไม่คิดจะทำ  คงเป็นเพราะป้ากลับบ้านดึกทุกวัน  ดงเฮก็เลยเริ่มเรียกร้องความสนใจ  ป้าเชื่อเขา  เพราะดูแล้วเขาไม่น่าเป็นคนแบบนั้น

     

     

                “..”

     

     

                แต่การที่ดงเฮรบเร้ามาก ๆ เข้าและร้องห่มร้องไห้มากขึ้นทำให้ป้านึกสงสัย  วันนั้นป้ากลับบ้านไวกว่าทุกครั้งก่อนที่สามีป้าจะกลับบ้านแล้วซุ่มดูและมันก็เป็นอย่างที่ดงเฮพูด  สามีของป้าข่มขื่นเขาจริง ๆ น้ำตาใสเริ่มไหลรินให้กับความผิดพลาดของตัวเอง  ผิดที่ไปไว้ใจคนแบบนั้น..

     

     

                ดงเฮขัดขืนสุดชีวิตแล้ววิ่งไปทางห้องครัว  หยิบมีดมาป้องกันตัวแล้วแทงเข้าที่ท้องของสามีป้า

     

     

                ยังจำได้ติดตา

     

     

                ใบหน้าของลูกชายที่กำลังเปื้อนเลือด

     

     

             

    ….

     

     

     

     

                อ่อก!” เสียงกระอักเลือดอึกใหญ่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับเลือดที่ไหลพ่นออกมาตามริมฝีปาก  ชายชราโอดครวญด้วยความเจ็บปวด  มือหนาพยายามกุมท้องบริเวณบาดแผลที่มีเลือดไหลไม่หยุดเอาไว้ก่อนจะเดินโซเซด้วยล้มตึงไปในที่สุด  นัยน์ตาสีดำขลับจ้องมองเด็กชายต้นเหตุที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างอาฆาตและสบถหยาบแช่ง  ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เจียนตายเนื่องจากโดนแทงเข้าที่จุดสำคัญ

     

     

                ม่ะ  ไม่..ไม่  ผมไม่ได้ทำ..” เสียงใสกล่าวซ้ำไปซ้ำมาพลางส่ายหน้าปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองก่อไว้  ดวงตาสุกใสเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวระคนสับสน

     

     

                เขาทำอะไรลงไป

     

     

                ยิ่งคิดยิ่งเหมือนอยากจะร้องไห้  มีดเล่มใหญ่ที่อยู่ในมือเป็นหลักฐานชัดเจน  เขาเพิ่งใช้มีดแทงพ่อเลี้ยงของตัวเองไปเมื่อกี้นี้

     

     

                แก..!” เสียงทุ้มพูดเกรี้ยวกราด  พยายามเดินเข้ามาหาเด็กชายแต่ดูเหมือนสภาพร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยทำให้ได้แต่เดินโซเซมาเท่านั้น   เด็กชายยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ  ดวงตาใสเบิกกว้างพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาเป็นสาย

     

     

                รออะไรล่ะดงเฮ  รีบฆ่ามันซะก่อนที่มันจะฆ่านาย!’  เสียงใสของตัวเองดังขึ้นในโสตประสาท

     

     

                ไม่ฮึก..”  หากแต่ดูเหมือนความชั่วดีจะยังมีอยู่ในตัว  เขาฆ่าคนตรงหน้าไม่ลง

     

     

                ฆ่ามันซะ  ไม่งั้นคนที่แย่จะเป็นนายนะ

     

     

                ต่ะแต่ฉัน..”

     

     

                เร็วสิดงเฮ  อย่าให้มันแย่งมีดไป!’

     

     

                แก!!!” พ่อเลี้ยงคำรามร้องพยายามจะตะครุบคนตรงหน้าแล้วฆ่าให้ตายในคราเดียว  ดงเฮสะดุ้งเฮือกยกมือแทงคนตรงหน้าทันที  ก่อให้เกิดเสียงร้องโหยหวนของชายชราดังลั่น

     

     

                และไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาชักมีดออก  เลือดสีแดงจำนวนมากจึงไหลทะลักออกมาทันที  เป็นเหตุทำให้ชายชราต้องล้มตึงไปอีกรอบด้วยความเจ็บปวดและสูญเสียเลือดมาก

     

     

                จัดการต่อสิดงเฮ

     

     

                เสียงใสแต่แฝงด้วยความน่าขนลุกยังพร่ำบอกไม่เลิกรา  ดงเฮส่ายหน้าปฏิเสธระรัว  ม่านตาเบิกกว้างอย่างคนกำลังสับสน  ความรู้สึกผิดและความหวาดกลัวถาโถมเข้ามาในจิตใจ

     

     

                เขาเพิ่งแทงพ่อเลี้ยงของเขา!

     

     

              นายยังจะสงสารมันอีกหรอ

     

     

                เสียงใสเพรียกบอก

     

     

                อย่าลืมสิว่ามันเคยทำอะไรนายไว้  มันทำนายเจ็บแค่ไหน  ทรมานแค่ไหน  ที่นายทำกับมันแค่นี้ยังไม่สาสมหรอกนะ

     

     

                แต่..” เด็กชายพูดได้แค่นั้นก่อนจะเงียบไป  จริงอยู่ที่ชายคนนี้เคยทำกับเขาไว้  แต่มันจะดีหรอ

     

     

                ถ้าฆ่าแล้วจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดจริง ๆ หรอ

     

     

              รออะไรอยู่ล่ะ  ดงเฮ

     

     

                อีกคราที่เสียงใสนั้นดังขึ้นอีกรอบ  ไม่รู้ว่าเขากำลังจะจิตหรือย่างไรแต่ดูเหมือนมันกำลังชี้แนะเขา  เสียงที่ดังอยู่โสตประสาทนั่นคือเสียงเขา  ความคิดยุ่งเหยิงกำลังตีกันไปมาในหัวสมอง

     

     

                ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทางออก  เขาเชื่อแบบนั้นแต่สำหรับเขา  ตอนนี้มีอยู่แค่สองทาง

     

     

                หนึ่ง  ปล่อยมันไป

     

     

                สอง  ฆ่าให้ตาย

     

     

                แน่นอนว่าจิตใจลึก ๆ มันเรียกร้องให้เขาลงมือกำจัดคน ๆ นี้ให้หายไปจากโลกนี้  แต่ความดีที่อยู่ให้หัวสมองมันบอกว่าชายผู้นี้คือคนรักของแม่  คือพ่อเลี้ยงของเขา  และการฆ่าคือการสร้างบาปให้กับตัว

     

     

                หากแต่คิดในอีกแง่หนึ่ง  หากเขาปล่อยมันไปไม่ช้าก็เร็วที่คน ๆ นี้จะกลายเป็นงูพิษหันมาทำร้ายเขาในภายหลังแน่นอน

     

     

                เลือกสิ  ดงเฮ

     

     

                นายจะเลือกทางไหน

     

     

                บีบก็ตายคลายก็รอด

     

     

                บีบเพื่อฆ่า  ฆ่าความแค้นที่ยังคงฝังอยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ

     

     

                หรือคลายเพื่อรักษาชีวิตและความถูกต้อง

     

     

                ฉัน..” เสียงหวานเอ่ยสั่นเครือ  หัวสมองตีกันยุ่งเหยิงเป็นสองทางพลางเบือนสายตามองไปยังมัจจุราชกระหายเลือดที่ถืออยู่ในมือ 

     

     

                เขาคงไม่ได้ทำผิดใช่ไหมถ้าจะฆ่าคน ๆ นี้เพื่อแลกกับอิสรภาพ

     

     

                คงไม่ผิดใช่ไหมที่จะกำจัดเศษเดนนรกนี่ให้หายไปจากโลก

     

     

                และถ้าเพราะความไม่ผิดคือความถูกต้อง

     

     

                ในเมื่อเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง  ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร

     

     

                มือบางเริ่มกระชับมีดเล่มใหญ่เปื้อนเลือดในมือแน่น

     

     

                ลองนึกดูสิถ้าเขาปล่อยไป  อาจจะเป็นเขาต่างหากที่แย่  และมันคงจะไปสร้างความชั่วเพิ่มอีกซึ่งนั่นก็หมายความว่าอาจจะมีเด็กอีกหลาย ๆ คนที่อาจจะต้องโดนทรมานแบบเขา

     

     

                ในเมื่อมีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมีครั้งที่สอง  มีครั้งที่สองก็ต้องมีครั้งที่สาม

     

     

                แม้ดูภายนอกคนนี้อาจจะดูเป็นคนดีมีรากฐาน   แต่ภายในกลับเน่าเฟอะยิ่งกว่าซากศพ

     

     

                ถึงตอนนี้แล้ว  ถ้าคิดว่าฆ่าหมอนี่ก็คงไม่เป็นไร

     

     

                คนเลว ๆ แบบนี้อยู่ต่อไปก็รกโลก

     

     

                ไม่เป็นไรหรอก

     

     

                ต่อให้มันเจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ไม่สน  เพราะนั้นคือสิ่งที่มันสมควรจะได้รับ

     

     

                มันคือสิ่งที่ถูกต้อง

     

     

                ก็ในเมื่อเขาทำถูกแล้วนี่นา..

     

     

                ..เนอะ

     

     

                นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเริ่มสงบนิ่งเพื่อรวบรวมสติ  ต่างจากความตื่นเต้นที่เริ่มถูกปลุกขึ้นจากเบื้องลึกภายในจิตใจ  กลิ่นคาวเลือดที่ลอยมาแตะจมูกมันทำให้เขาเริ่มรู้สึกอยากจะเป็นยมทูตแห่งความตายดูสักครั้ง

     

     

                การฆ่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง

     

     

                ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว..

     

     

                ลองมาเป็นตัวทดลองการฆ่าครั้งแรกของฉันจะเป็นไรไป

     

     

                รอยยิ้มหวานเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า  ขาเล็กเริ่มก้าวเข้าไปใกล้ชายชราที่กระเสือกระสนหาทางหนีรอดไปยังประตูห้องครัวพร้อมส่งเสียงร้องของความช่วยเหลือ  แต่เพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวยทำให้เขาสามารถทำได้แค่แทบเป็นแกระซิบและคลานทิ้งรอยเลือดเอาไว้ทุกครั้งที่เคลื่อนที่

     

     

                จะหนีไปไหนล่ะ ดงเฮพูดเสียงหวาน  หากแต่กลับแฝงเอาไว้ด้วยความน่าขนลุกเย็นเชียบไปถึงหัวใจ  ชายชราจึงสะดุ้งสุดตัว  ม่านตาดำเบิกกว้างพร้อมเหงื่อที่ไหลย้อยตามใบหน้า  เนื้อตัวสั่นระริกไม่ต่างจากคนเสียสติตามโรงพยาบาลประสาท

     

     

                เล่นอยู่ด้วยกันอีกหน่อยสิ

     

     

                เด็กชายเริ่มเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ชายชราอย่างไม่เร่งรีบ

     

     

                จะเร่งรีบไปทำไม

     

     

                ในเมื่อสุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี..

     

     

                เอาล่ะ  จะเลือกทางไหนดี  ระหว่างตายไวกับตายช้า เสียงหวานพูดสบาย ๆ ด้วยท่าทีร่าเริงราวกับเด็กเล่นของเล่น  หย่อนกายนั่งหย่อง ๆ ข้าง ๆ พลางมองชายชราผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงตาใส

     

     

                ได้โปรดว่ะ  ไว้ชีวิตฉัน เสียงทุ้มร้องขออย่างไร้เรี่ยวแรงเพราะเสียเลือดมากเกินไป  ดูช่างน่าขันเสียเหลือที่ต้องมาขอชีวิตกับเด็กที่อายุต่างกันตั้งยี่สิบกว่าปี

     

     

                แต่ใครจะสนล่ะในเมื่อความเป็นความตายของเขากำลังขึ้นอยู่กับเด็กชายตรงหน้าเพียงคนเดียว!

     

     

                ดงเฮขมวดคิ้วน้อย ๆ กับคำขอ

     

     

                ไม่ได้นะ  มันไม่อยู่ในข้อตกลงของเรา  ฉันมีให้แกเลือกแค่สองทางระหว่างตายไวกับตายช้า อีกคราที่ดงเฮพูดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา  นัยน์ตาใสสีน้ำตาลเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของอีกฝ่าย

     

     

                ชายชราสะดุ้งเฮือก  ความหวาดกลัวเริ่มถาโถมเข้ามาในจิตใจเมื่อเห็นว่าสายตาคู่นั้นกำลังมองแค่ว่าการฆ่าเป็นเรื่องสนุก

     

     

                ยิ่งพูดเหมือนยิ่งราดน้ำมันใส่กองไฟ

     

     

                ดงเฮกำลังสนุกกับการเห็นเหยื่อตรงหน้าทุกข์ทรมาน

     

     

                ยิ่งทรมานมากแค่ไหนยิ่งดี 

     

     

                ยิ่งหวาดกลัวและสับสนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

     

     

                อาแค่คิดเนื้อตัวก็สั่นระริกระรี้เสียแล้วสิ

     

     

                จะหันหน้าหนีทำไม  หันมานี่สิ มือบางบีบโครงหน้าของชายชราแล้วกระชากให้หันมาอย่างแรงไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ  ดงเฮยิ้มน้อย ๆ พลางพิจารณาโครงหน้าของอีกฝ่าย

     

     

                และเขาก็ได้ไอเดียใหม่

     

     

                ฉันเปลี่ยนใจแล้ว

     

     

                ชายชราสะดุ้งเฮือก  ม่านตาเบิกกว้างด้วยความหวาดหลัวกับการตัดสินใจของอีกฝ่าย

     

     

                รู้ดีว่าไม่มีทางรอด..

     

     

                แค่นี้ก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว  แล้วนี่จะทำยังไงกับเขาต่อไปอีก!

     

     

                ฉันเลือกให้นะ  เอาแบบตายช้าอย่างทรมานก็แล้วกัน  ตอนแรกฉันกะว่าตายเร็วจะปลิดชีพแกให้ตายในคราเดียว  ส่วนตายช้าคือให้แกเสียเลือดแล้วตายไปเอง ดงเฮหัวเราะคิกคัก  ท่าทางถูกใจกับทางเลือกใหม่

     

     

                เอาล่ะ  เรามาเล่นกันดีกว่า  ดีใจหน่อยสิ  แกเป็นเหยื่อคนแรกของฉันเลยนะ..” ดงเฮเอ่ยเสียงแผ่ว  หันเหความสนใจไปยังปลายมีดที่กำลังลากผ่านโครงหน้าต้นคอ  ไหปลาร้า  ไปจนถึงตำแหน่งอกด้านซ้ายที่มีก้อนเนื้อสีแดงกำลังเต้นตุบตับอยู่

     

     

                แทงเลยดีมั้ย?

     

     

                อืมไม่เอาดีกว่า  เดี๋ยวตายไว

     

     

                ชายชราหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว  ส่งเสียงร้องขอชีวิตไม่หยุดหย่อน  ก่อนจะกรีดร้องออกมาดังลั่นเมื่อมีดเล่มใหญ่ปักฉึกตรงบริเวณหัวไหล่

     

     

                แย่จัง  เส้นเอ็นขาดแล้ว  แกคงขยับแขนไม่ได้แล้วล่ะ เสียงหวานแสร้งทำเป็นตกใจเล็กน้อย  พลางฮึมเพลงในลำคอไปมาอย่างนึกสนุก  ไม่สนใจกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งที่กำลังฟุ้งไปทั่วห้องครัวชวนให้อาเจียน

     

     

                และไม่แน่ว่ากลิ่นนั้นอาจจะโชยไปยังห้องอื่น ๆ เลยก็ได้..

     

     

                ม่ะ..ไม่  อ๊ากกกกกกกกกก!!!!” ชายชราร้องลั่นเมื่อร่างบางจิกเข้าที่เบ้าตาแล้วล้วงเข้าไปคว้านหาลูกตาจนเกิดเสียงแฉะ ๆ  ดึงออกมาอย่างรุนแรงจนเลือดสีแดงสาดกระเด็นตามทิศทางที่ถูกดึงเปรอะใบหน้าของเด็กชาย 

     

     

                นี่ลูกตาแกหรอเหมือนลูกปิงปองเลยเนอะ เสียงใสพูดกับตัวเองอย่างแผ่วเบาเมื่อจ้องมองวัตถุทรงกลมกลมที่อยู่ในมือ

     

     

                แผละ!

     

     

                และจัดการบีบให้มันเละไม่มีชิ้นดี...  ของกึ่งเหลวใสคล้าย ๆ วุ้นจึงไหลทะลักออกมาตามช่องมือ  นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนิ่งเฉย  ไม่สนใจชายชราที่กำลังดิ้นไปมาเอามือปิดเบ้าตาที่ไม่มีลูกตาของตนอยู่ด้วยความทรมานพร้อมส่งเสียงกรีดร้อง

     

     

                กรีดร้องและกรีดร้อง 

     

     

                กลัวหรอ..”

     

     

                เสียงหวานเอ่ยถามชายชราที่กำลงดิ้นรนกระเสือกกระสนด้วยความทรมานไม่ต่างอะไรจากปลาเป็น ๆ ที่กำลังโดนต้มน้ำเดือด

     

     

                ทีแบบนี้ล่ะทำเป็นกลัว

     

     

                แล้วที่ผ่านมาที่มันข่มขื่นเขาด้วยความสุขสมล่ะ  เคยคิดบ้างไหมว่าเขาเจ็บปวดขนาดไหน

     

     

                เคยคิดบ้างไหมว่าเขาเหมือนตายทั้งเป็น

     

     

                อ่าว…” ดงเฮอุทานพลางสะกิดคนตรงหน้าเบา ๆ แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับเลยแม้แต่น้อย  นิ้วเรียวจึงจ่อตรงจมูกของอีกฝ่ายไม่มีแม้แต่ลมหายใจ

     

     

                ตายแล้ว

     

     

                พ่อเลี้ยงของเขาตายแล้ว

               

             

              ไม่สนุกเลย  เสียงหวานพร่ำบอกแผ่วเบา  แกน่าจะทรมานกว่านี้..”

     

     

                ตายแบบนี้ยังไม่สาสมกับสิ่งที่มันทำกับเขา

     

     

                ใจร้าย

     

     

                พระเจ้าใจร้าย

     

     

                ทำไมถึงให้มันตายไวขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่มันทำกับเขาไว้ตั้งมากมาย  ทุก ๆ คืนในกาลอดีตของเขาไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น

     

     

                ทั้ง ๆ ที่น่าจะให้มันตายช้ากว่านี้อีกหน่อย  ทรมานกว่านี้อีกหน่อย

     

     

                ไม่ยุติธรรมเลย

     

     

                ไม่ยุติธรรม

     

     

                คงเป็นเพราะการเสียเลือดมากและการได้รับความเจ็บปวดจนสิ่งขีดสุดมันทำให้พ่อเลี้ยงของเขาช็อกตาย

     

     

                ดงเฮนิ่งเงียบ  หายใจอย่างแผ่วเบาและเชื่องช้า  พลางใช้สายตาพิจารณาสภาพของศพที่เกิดขึ้นจากฝีมือตัวเอง

     

     

                ดวงตาหายไปหนึ่งข้าง  บริเวณหน้าท้องมีสองแผลถูกแทงด้วยความรุนแรง  ศพนอนจมกองเลือด  ใบหน้ามีคราบเลือดไหลย้อยเนื่องจากไหลทะลักออกมาตามเบ้าตาข้างที่ถูกควัก ส่วนดวงตาที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งข้างกำลังเบิกกว้างตายตาค้าง

     

     

                รู้งี้ควักอีกข้างซะก็ดี

     

     

                แต่เขาไม่ควักตอนนี้แน่ร่างที่ไร้วิญญาณมันไม่ค่อยน่าเล่นด้วยสักเท่าไหร่

     

     

                ไม่สะใจ

     

     

                ไม่เร้าใจ

     

     

                และไม่มีเสียงกรีดร้อง

     

     

                เด็กชายนิ่งเงียบด้วยท่าทีเรียบเฉยราวกับกำลังตกอยู่ในวังวนความคิดของตัวเอง  ต่างจากใครบางคนที่กำลังแอบอยู่หลังบานประตูห้องครัวสีขาว  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างและสั่นระริกพร้อม ๆ กับมือเรียวที่พยายามปิดปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา

     

     

                เธอเห็นทุกอย่างหมดแล้วผ่านทางช่องแง้มประตูนี้  เห็นแม้แต่สิ่งสุดท้ายที่สะท้อนอยู่ในแววตาของสามีเธอก่อนจะสิ้นลมหายใจด้วยความหวาดกลัว

     

     

                เหลือไว้แต่เพียงภาพของเธอที่กำลังแอบดูทางช่องประตูสะท้อนอยู่ในดวงตา

     

     

                อึก..!” ซอนฮโยครางอื้ออึงในลำคอด้วยความรู้สึกที่แทบอยากจะล้มทั้งยืน  อยากจะส่งเสียงกรีดร้องออกมาแล้ววิ่งหนีหายไปให้พ้น ๆ จากตรงนี้แต่กลับทำไม่ได้

     

     

                ห้ามกรีดร้องเด็ดขาดซอนฮโยได้โปรด

     

     

                อย่ากรีดร้องแม้จะกลัวแค่ไหน

     

     

                อย่าร้องไห้แม้จะกลัวหมดหัวใจ

     

     

                ในเมื่อลูกของเธอกำลังกลายเป็นฆาตกร..

     

     

                เลือดสีแดงสดจากศพไหลเจิ่งนองไปทั่วพื้น  ไหลไปเรื่อยจนถึงหลังบานประตู  หญิงวัยกลางคนที่กำลังซ่อนตัวจึงสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งเปียกแฉะที่เท้า

     

     

                แล้วแทบอยากจะกรีดร้องเมื่อหล่อนก้มหน้ามองดู

     

     

                ซอนฮโยเอามือปิดปากตัวเองแน่น  น้ำตาใสไหลรินด้วยความหวาดกลัวระคนสับสนไม่ขาดสาย เป็นสัญญาณว่าเธอเริ่มจะอำพรางตัวอยู่แบบนี้ไม่ไหวแล้ว

     

     

                ดงเฮมองภาพของชายชรานิ่ง  ทิศทางการมองของศพมันทำให้เขาเอะใจ  ดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวกำลังมองตรงไปที่ประตู

     

     

                เขาจึงมองไปที่ประตู

     

     

                มองไปยังช่องแง้มทำเอาคนที่ซ่อนอยู่ต้องรีบหันหลบแทบไม่ทัน

     

     

                ตรงนั้นมีอะไร

     

     

                คำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเด็กชาย 

     

     

                สุดท้ายดงเฮก็ลุกขึ้นยืน  ก้าวขาตรงไปยังประตูบานสีขาว  ซอนฮโยสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ได้ถึงอีกชีวิตที่กำลังตรงมาทางนี้

     

     

                ตึก..ตึก..

     

     

                ก้าวที่หนึ่ง  ก้าวที่สอง

     

     

                ตึก  ตึก..

     

     

                ก้าวที่สาม  ก้าวที่สี่

     

     

                ตึก..

     

     

                และก้าวที่ห้าดงเฮจึงหยุด  หยุดอยู่ตรงหน้าประตูพอดี  พลางจ้องมองมันเพื่อหาคำตอบ  ซอนฮโยหลับตาแน่น  อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าได้โปรด  อย่าเปิดประตู!

     

     

                สุดท้าย..เด็กชายหันหลังกลับ  ตัดสินใจเดินตรงไปยังประตูอีกบานแทน

     

     

                เฮ้อ…”ซอนฮโยถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ รู้สึกโล่งใจที่ลูกชายเธอไม่เคลือบแคลงสงสัย  แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าเด็กชายจะทำอะไรต่อไปจึงตัดสินใจสะกดรอยตามไปอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

     

                ขาเล็กพาตัวเองเคลื่อนย้ายไปยังห้องนอน  จัดการเก็บกระเป๋าและเลือกจัดเสื้อผ้าลงไปสักสองสามชุด  ตามด้วยของที่จำเป็นและแคะเศษเงินที่ตัวเองเคยสะสมไว้ในกระปุกออมสินและบัตรบัญชีธนาคารของตัวเองออกมาใส่กระเป๋ากางเกง  ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังประตูที่ตัวเองเพิ่งเดินเข้ามา  ซอนฮโยที่แอบดูอยู่จึงรีบเบือนตัวหลบทันทีด้วยแววตาตื่นตระหนก  เหงื่อเม็ดใสเริ่มผุดและไหลย้อยลงมาตามใบหน้า

     

     

                ดงเฮมองประตูบานนั้นนิ่ง  ยกกระเป๋าขึ้นสะพาย  มองไปยังรอบ ๆ ห้องของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดหน้าต่างแล้วมองออกไปทางด้านนอก

     

     

                ทางสะดวก  ไม่มีคนเดิน..บวกกับเป็นเวลากลางคืน

     

     

                โชคกำลังเข้าข้างเขาเหมาะเจาะราวกับเป็นเรื่องตลก

     

     

                มือบางจับขอบหน้าต่าง  หายใจเข้าลึก ๆ แล้วกระโดดปีนบันไดลิงลงไปจากหน้าต่างชั้นสอง..

     

     

                เหลือไว้แต่ผู้เป็นมารดาที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยหัวใจแตกสลายอยู่ทางด้านหลังประตู

     

     

     

    To be continue..

     

     

     

    ตอนนี้รีไรท์หลายรอบมาก  TT TT

    มันต้องจิตกว่านี้เซ่!!  แง้

     

    แต่ยาวนิดนึงนะ  อ่านกันเหนื่อยมั้ยคะ  อิอิ

    ตอนต่อไปเริ่มเข้าเนื้อหาฮันฮยอกแล้วล่ะค่ะ

     

    ขอคอมเม้นต์ให้แฟร์คนนี้ชื่นใจหน่อยนะคะ

    >3<! จุ๊บ!

    /me โดนคนอ่านถีบหน้าเพราะไม่อยากให้จูบ

     

     

    >____________________<!!!

     

    Love U reader!!

     

               

    ความคิดเห็นที่ 36

    กดให้เจ็บปวด! 

    >> เรียบร้อยแล้วนะหนูแฟร์ > <  กรี๊ดดดดดดดดด!!
    ทำใน photo Scape แทน
    เพราะถ้ารอ Photoshop ติดอาจจะอีกนาน TT''  ขอบคุณค่า > <~!

    ปอลิง .. ถ้าไม่สวยบอกนะ  สวยแล้ว  แฟร์ชอบมากเลย TwT
    ตอนเปิด photoshop ติดพี่จะได้ทำให้ใหม่

    แต่เค้าชอบอันนี้อ่ะ
    เพราะ .. เกิงแมน 55555555555 ใช่  ตรงคาแร็กเตอร์เลย  ฮ่าๆๆ

    แฟร์ก็อปไปแปะได้เลยนะ
    พี่แอบจิ๊กไปแปะฟิคพี่ด้วย 55555555 
    อ่า  งั้นเดี๋ยวแฟร์จะเอาสี่พีป้าโลมาแปะนะ >''<


    PS.  รักป๋า(เกิง) ,, อย่าหยุดหื่น!
    Name : $+> lolita <+$< My.iD > [ IP : 117.47.169.13 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 17 เมษายน 2552 / 12:27

    ความคิดเห็นที่ 35 (จากตอนที่ 6)
    ด๊องจัยอ่อนหั้ยบอม

    บอมจัยอ่อนหั้ยด๊อง

    คู่นี้จายังไง??  นั่นสิ  จะเอายังไง =[]=!! 

    55555.
    Name : naezii-oaezii< My.iD > [ IP : 114.128.229.162 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 16 เมษายน 2552 / 19:11

    ความคิดเห็นที่ 34 (จากตอนที่ 6)

    คิเฮน่ารักแบบซาดิสม์ๆ 55+ เถียงกันไปเถียงกันมา ฮิ้วววว  ว้าวว  อยากได้ s กว่านี้ไหม?  ฮ่าๆๆ

    ด๊องเป็นบอดี้การ์ด ว้าวๆๆๆ ดีนะที่ไม่ได้เป็นตัวร้ายยยยย

    อยากจับพ่อเลี้ยงของยัยด๊องขึ้นมาฆ่าอีกซักที-*-  =O=..

    ทำกับที่รักของชั้น(?)ได้ยังไงงงงงงงง  กำ  ที่รักแฟร์(!?) ต่างหาก

    แฟร์เที่ยวสนุกมั้ยจ้ะ^^ ยังไงก็อย่าลืมมาอัพน้า  สนุกมาก > <  แฟร์มาอัพแล้วค่า


    PS.  Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry
    Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.245.246 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 16 เมษายน 2552 / 17:04

    ความคิดเห็นที่ 33 (จากตอนที่ 6)
    อ๊ากกกกก คิเฮน่ารักอ่ะ  O_o!

    ไรเตอร์จ๋า มาอัพด้วยนะ  อัพแล้วค่า  อิอิ

    คยูมินของเรา รออยู่นะ 

    เอ่อ แล้วก็อย่าลืมฮันฮยอกนะ  ไม่ลืมแน่นอน =,.=

    ขอหวานๆก่องน้า อย่าเพิ่งเศร้า

    ถ้าทำอย่างที่ขอนะ จะรักไรเตอร์ที่ซู้ดดดเลย   อ่า...แฟร์ไม่รับประกันนะ  55
    Name : MoLoVeKyUmIn [ IP : 210.86.209.109 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 16 เมษายน 2552 / 12:07

    ความคิดเห็นที่ 32

    อ๊างง>///< สนุกมากกก ปกติเราไม่ค่อยชอบเเนวนี้  ขอบคุณค่ะ! >//<

    เเต่ก็อ่านข้าเวลาค่ะ บางอันมันเขียนเป้นความรู้สึกดีๆเหมือนนิยายรักทำมดาอ่ะ  

    มิ้งชอบอ่าน^^  แฟร์ก็ชอบ =..=

    อ่า.. ชอบมาก คลั่งเเล้ว  555+

    เขียนเก่งมาก เขียนถูกเเนว เพราะฟิคน้อยอัน น้อยจริงๆที่มิ้งชอบอ่า 

    ^^ สู้ๆค้ะ  ค่ะ!  สู้ๆ


    PS.  ฝากนิยายเรื่อง ...+-MiScOnCeIvC-+ ..คริสต์มอส..เเค้น..รัก..ศรัทธา... ด้วยนะค่ะ^o^
    Name : ...o0~PrinCess~0o< My.iD > [ IP : 124.120.135.32 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 16 เมษายน 2552 / 01:14

    ความคิดเห็นที่ 31 (จากตอนที่ 6)
    เพิ่งเห็นเรื่องนี้


    สนุกดีอ่ะ  ขอบคุณค่ะ  ฮ่าๆๆ



    ตอนแรกนึกว่าด๊องจะร้าย


    เอาไปเอามาเป็นการ์ดของฮยอกซะงั้น  ใช่แล้ว 



    ฮยอกช่างเป็นคนดีจริงๆ


    ไม่อยากให้ฮันฮยอกเกลียดกันเลย TT^TT   อ่า...หรอคะ  แต่ส่วนใหญ่แฟร์แต่งสนองตัวเองนะ ฮ่าๆๆ
    Name : ^@^ ChOmPoO ^@^< My.iD > [ IP : 114.128.16.146 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 15 เมษายน 2552 / 20:31

    ความคิดเห็นที่ 30 (จากตอนที่ 6)
    ด๊องเป็นบอดิการ์ดของฮยอกหรอนี่

    หวังว่าเฮอึนคงมีไม่เยอะนะ  แน่ะ...ไม่ดีหรอ ;_;  (ล้อเล่นน)

    ชอบเวลาที่ด๊องลับฝีปากกับบอมอ่า (โรคจิต-*-)  แฟร์ก็ชอบ =,.=  แต่ชอบแบบลับฝีปากแบบนั้นนะ... (หื่น)

    สงสารด๊องจัง โดนพ่อเลี้ยงรังแกแถมแม่ยังไม่สนใจอีก  อ่า  เรื่องแม่...เดี๋ยวจะขยายให้ในตอนต่อไปจ้ะ

    บอมดูแลด่วน!!

    แฟร์ขา...NC ฮันฮยอก เร็วๆนี่จริงหรอ *0*

    แต่ไม่ใช่ว่ามีเอ็นซีแล้วป๋าจะเย็นชากะฮยอกหรอกนะ - -   ไม่บอกดีกว่า =x=

    TT^TT

    สู้ๆนะค่ะแฟร์ จะติดตามตอนต่อไปค่ะ  ค่า  สู้ๆ!

    ปล. ชอบปรากฏการณ์ 38 ที่แฟร์เล่าจัง

    ก็นะ ของเขาเรียลจริงๆ ^o^   อ๊ายย~!! >//<
    Name : yaoisang [ IP : 125.27.34.251 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 15 เมษายน 2552 / 16:34

    ความคิดเห็นที่ 29 (จากตอนที่ 6)
    อ่า ด๊องมาช่วยนี่เอง

    ไ อ้ เราก็นึกว่าเป็นใคร  555+

    ด๊องน่าสงสารอ่า TT^TT  เนอะ 

    แต่ทำไมป๋าต้องทำเป็นเกลียดฮยอกกี้ด้วย = ^ =  ก็เพราะรักไง  (!?)

    ไรท์เตอร์ รีบมาต่อเร็วๆนะคะ  มาต่อแล้วจ้ะ
    Name : €*//JiAh//*€< My.iD > [ IP : 125.26.185.47 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 14 เมษายน 2552 / 20:05

    ความคิดเห็นที่ 28 (จากตอนที่ 3)
    ชอบ ๆ สนุกมาก ๆ เลยนะ ขอบคุณค่ะ >//<
    Name : tus [ IP : 124.120.35.50 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 14 เมษายน 2552 / 19:39

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×