คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Byakuya || Rare Alpha 3 (α x α)
Rare Alpha 3 .
แรร์อัลฟ่า 3 .
R || Short Fic (2-4ตอน)
Kuchiki Byakuyax Hitsugaya Toshiro
___________________________________________
ผ่านจากวันประชุมนั่นมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆแต่ผมก็ยังไม่สามารถสลัดเรื่องหลุดออกจากหัวไปได้ อาจจะเป็นเพราะผ้าพันคอราคาแพงน่ารำคาญผืนนี้ที่ซักกี่รอบกลิ่นฟีโรโมนดอกไม้นั่นก็ยังไม่ลบเลือนหายไป
ซ้ำยังเด่นชัดขึ้นจนน่าแปลกใจ...บางทีอาจจะเป็นผมเองที่ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งเพ่งเล็งถึงกลิ่นจนมันติดจมูก
กลิ่นฟีโรโมนที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของหัวหน้าตระกูลคุจิกิคนใหม่นั้นแปลกประหลาดนัก มันเป็นกลิ่นดอกไม้หอมหวานไม่น่ากดดันอย่างตอนที่อยู่ด้วยกันซึ่งๆหน้า ยิ่งดมก็รู้สึกว่ากลิ่นแบบนี้มันน่าจะเหมาะกับโอเมก้าสาวสวยน่าลุ่มหลงคนหนึ่งเสียมากกว่า ถ้าหากเรื่องไม่ยุ่งยากขนาดนี้แล้วเขาเป็นอัลฟ่าสาวสวยซักคน ผมก็คงจะไม่ลังเลที่จะผูกพันธะด้วย
จิตนาการความทรงจำที่ผ่านมาถูกปรุงแต่งมาหลายวันจนตอนนี้ประโยคที่สะท้อนในหัวไม่ใช่แค่ 'จดทะเบียนสมรสกับฉัน' แต่กลับกลายเป็นว่า 'กัดฉัน ผูกพันธะกับฉัน และแต่งงานกับฉันซะ' โดนข่มขู่อย่างกับคนที่เป็นคนกัดผูกพันธะได้เป็นเขาเองยังไงยังงั้นเลยแหละ
ผมเข้าใจดีว่าผ่านเกณฑ์ธรรมเนียมในฐานะที่เป็นอัลฟ่าตระกูลใหญ่(แน่นอนว่าไม่นับรวมปัญหามากมายของการเป็นลูกบุญธรรม) ตระกูลคุจิกิก็ต้องการอัลฟ่าที่แข็งแกร่งและฉลาดมาเป็นคู่แต่ไหนแต่ไร แต่รอบนี้คนที่กัดและผูกพันธะได้คือผมนะ ไม่ใช่เขา!
ผมเขียนจดหมายไปโดยเพิ่มความน่ากลัวเปรียบเทียบการที่โดนกัดว่า 'ถ้าคุณโดนผมกัดก็จะไม่ต่างกับแะไรกับการเป็นโอเมก้า ทั้งชีวิตคุณมีผมได้คนเดียวเลยนะ'
แต่เขาก็ไม่สนใจ ส่งจดหมายเกี่ยวกับผลประโยชน์มากมายที่ผมจะได้หลังแต่งงานราวกับไม่ได้รับจดหมายนั่น
รอบหลังผมก็เลยเขียนจดหมายตอบไปว่า 'ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่เหมาะที่จะแต่งงาน'
แต่เขาก็ไม่สนใจอีก ส่งจดหมายตอบกลับมาสั้นๆว่า 'ฉันรู้ว่าเธอ19ตั้งแต่ปลายปีแล้ว อีกแค่ไม่กี่เดือนไม่เห็นเป็นไรเลย'
ผมขบเขี้ยวด้วยความขัดใจ อะไรจะรู้ดีขนาดนั้น! อยากจะรู้นักว่าคุจิกิ เบียคุยะผู้เก่งกาจจะเอายังไงกับเรื่องทายาทเพราะผมมีให้ไม่ได้!
แต่นึกไปนึกมา ผมก็ไม่ได้เขียนจดหมายถามคำถามนี้ต่อไปเพราะเอาเข้าจริงแล้ว ลึกๆก็แอบกลัวกับคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อย
วันแล้ววันเล่าที่จดหมายเกี่ยวกับผลประโยชน์มากมายถูกส่งมาไม่เว้นวัน จนตอนนี้นอกจากคำสัญญาที่ผมจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลแล้ว หุ้นส่วนอีกหลายที่ของตระกูลคุจิกิเองก็จะเป็นของผมด้วย ในทุกๆวันได้รับจดหมายยิ่งอ่านก็ยิ่งสับสนว่านี่มันเป็นการหลอกล่อประเภทไหน แต่เพราะต้องเก็บเป็นความลับจะถามใครก็ไม่ได้
พอจดหมายครบสิบฉบับก็เหมือนอีกฝ่ายจะหมดความอดทน จดหมายสุดท้ายที่ได้มาเขียนไว้ว่า 'เอาคำตอบมาให้ฉันภายในอีกสองวันข้างหน้า'
คิดจนหัวแทบแตกก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี อยากอธิบายว่าบางทีท่านประมุขคุจิกิอาจจะเข้าใจผิดตั้งแต่เริ่มต้นว่าที่ผมปลื้มคือเห็นท่านเป็นต้นแบบ ไม่ได้รักชอบอะไรแบบนั้น
แต่ลึกๆก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ฟัง ส่งจดหมายไปต่อรองไม่เคยมีประโยชน์
"ผมจะไปบ้านใหญ่ตระกูลคุจิกิช่วยจัดรถให้ด้วย"
"ตอนนี้เลยเหรอครับ" ผู้ช่วยคนสนิทดูสับสนกับคำสั่งที่อยู่นอกเหนือตาราง โดยเฉพาะการไปบ้านใหญ่หัวหน้าตระกูลคุจิกิ
"ใช่ มีเรื่องเจรจานิดหน่อยและผมอยากจะกลับมาบ้านก่อนมืด" นั่นหมายความว่าให้รีบ ผู้ช่วยจึงไม่ได้ถามอะไรอีกและโทรศัพท์ติดต่อคนขับรถทันที
บ้านใหญ่ตระกูลคุจิกิกินเนื้อที่มากเพราะยังคงเป็นบ้านแบบดั้งเดิมชั้นเดียว โชจิกั้นประตูเลื่อนที่ซ้อนกันจากบานแรกไปจนบานสุดท้ายก็แทบจะมองไม่เห็นเพราะต่อกันยาวกว่าสิบบาน บอดี้การ์ดเห็นผมเอาจดหมายจ่าหน้าจากท่านผู้นำคนใหม่โดยตรงก็โค้งรับ พาผมอ้อมไปที่สวนหลังบ้าน หน้าระเบียงตั่งมีเสื่อทาทามิผืนใหญ่ คุจิกิ เบียคุยะ ผู้นำตระกูลนั่งอยู่พร้อมกับโปรเจกต์เตอร์ที่มีสายประชุมลูกน้องจากบริษัทเครือข่ายในตระกูล
"ไปรอที่ห้องรับรองก่อนดีกว่าครับ นายท่านยังอยู่ในการประชุมสาย" ที่ปรึกษาคนสนิทคนเดิมลุกขึ้นเดินมาหาทันทีที่สังเกตเห็น
"เดี๋ยวผมยืนรอตรงนี้ก็ได้"
"การประชุมอาจใช้เวลาอีกสักพัก รบบกวนไปนั่งนอนตามอัธยาศัยก่อนดีกว่าครับ"
ผมไม่ได้ค้านอะไรอีก เดินตามเข้าไปนั่งรอในห้องทึบที่เปิดแอร์และดูทันสมัยกว่ามาก ชายสูงวัยบอกผมว่าคงต้องรออีกสักสิบนาที แต่รอมาจนผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว
"ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว"
"15:00น. ครับนายน้อย" ผู้ช่วยของผมบอกเวลาตามหน้าที่แต่มันยิ่งทำให้ผมหัวเสีย ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่โผล่หัวมาอีก
"นายออกไปสืบมาหน่อยซิว่าทำอะไรกันอยู่ชักช้า ไม่ใช่ว่าตุกติกกับเรา" ผมพูดเสียงเบาด้วยความคิสันนิษฐานว่าไม่ไว้ใจ อย่างไรผมก็ไม่ได้มีบอดี้การ์ดคอยส่งข่าวล้อมรอบเหมือนทายาทตระกูลจริงๆจึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
ครืด
"ไม่ต้อง" ไม่ทันจะเปิดประตู หัวหน้าตระกูลคุจิกิก็เลื่อนเปิดเข้ามาพอดี เลือกได้ผิดจังหวะเหลือเกินจนแอบกลัวว่าจะได้ยินที่พูดสบประมาทว่าเขาเล่นตุกติกไปเมื่อตะกี้รึเปล่า
"ฉันเข้ามาเรียบร้อยแล้วฉะนั้นก็ออกไปได้ ยืนขวางประตูทำไม" ผู้ช่วยของผมอึกอักไม่รู้จะทำอย่างไร แต่พอโดนแรงกดดันของผู้นำตระกูลอัลฟ่าเข้าไปทีก็ผงกหัวรีบจ้ำออกไปก่อนที่จะเป็นเรื่อง
เหลือเพียงสองคนในห้องบรรยากาศน่าอึดอัดราวกับเดจาวูอาทิตย์ก่อนที่เจอกัน
"ไหนล่ะคำตอบ"
"ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรผิด ผมไม่ได้พิศวาสคุณเป็นพิเศษและตัวเลือกนอกจากผมนั้นก็มีเยอะกว่ามาก"
"ฉันต้องการคำตอบของเธอไม่ใช่เหตุผล"
"เรื่องนั้นผมยังไม่สามารถตัดสินใจได้ตอนนี้ ขอเวลาจนกว่าผมจะบรรลุนิติภาวะ--"
"รับข้อเสนอ หรือ ไม่รับ" คุจิกิ เบียคุยะเฉียบขาดยืนยันต้องการคำตอบไม่ต่างจากการเจรจาธุรกิจ เมื่อดวงตาจ้องประสานก็เข้าใจได้ทันทีว่าไม่มีทางเลี่ยงตอบคำถาม มีแค่ตกลง หรือไม่ตกลงเท่านั้น
"ผมรับข้อเสนอครับแต่ว่า--"
"ทุกอย่างเป็นไปตามจดหมายเหล่านั้นไม่มีแต่" ผมอ้าปากกว้างเมื่อเอกสารก๊อปปี้ของจดหมายทั้งสิบฉบับถูกจับยัดเข้ามาในมือของผม บางส่วนที่เขามอบให้เป็นเช็คและรายละเอียดสิทธิในนามผมไปแล้วเสียซะด้วยซ้ำ
"ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ" เหมือนเขาจะรีบมากผมจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนเข้าตรงประเด็น
"เธอเชื่อในเรื่องพรรค์นั้นด้วยหรือ มันมีผลแค่เรื่องสมรสงานฉากหน้าเท่านั้นแหละ" หัวหน้าตระกูลคุจิกิพูดราวกับตระกูลตนไม่ใช่ผู้ที่เคร่งครัดที่สุดอย่างนั้น
"แต่ตระกูลคุณเคร่งครัดธรรมเนียมเป็นที่สุด ผมไม่อยากจะจินตนาการว่าทายาทสักคนคุณจะหามาจากไหนหากคุณยอมให้ผมกัด" ผมเบ้ปากส่งสายตาดูถูกอย่างโจ่งแจ้ง
ถ้าทางเขาจะไม่พอใจอยู่มากเพราะทันใดเขาก็ปล่อยกลิ่นฟีโรโมนดอกไม้หอมฟุ้งฉุนทั่วห้อง
"อย่าได้หมิ่นประมาทผู้นำตระกูลคนใหม่นัก" นัยน์ตาดำขลับจ้องตรงมาที่ผมดุดันกว่าที่เคย
กลิ่นฟีโรโมนดอกไม้พลันส่งกลิ่นหอมหวานผิดแผกจากความฉุนที่ผมเคยได้กลิ่นจากอัลฟ่าคนไหน มีความน่าเกรงขามผสมกับความลุ่มหลงดึงดูดจนน่าแปลก
"ประมุขคุจิกิ ฟีโรโมนท่านมัน--"
"ไม่แรงเท่าของเธอตอนนี้หรอก" เขาตอบอย่างรู้ทัน
แรร์อัลฟ่าย่อมมีฟีโรโมนที่รุนแรงกว่าแต่เจ้าตัวย่อมไม่ได้กลิ่นเท่าไรนัก หอมมินต์อ่อนๆแตะจมูกผมคงเป็นกลิ่นเย็นฉุนสำหรับเขา ผมชะงักเมื่อนึกได้ พยายามตั้งสติเก็บกลิ่นของตนเองก่อนที่จะเอ่ยปากขอโทษที่เสียมารยาท
"เก็บคำไร้สาระนั่นไป ฉันไม่ต้องการได้ยิน" มือแกร่งตะครุบปากผมไว้ไม่ปล่อยเสียงเล็ดลอดออกมา เพียงแค่นิ้วเรียวที่ไล้ต่ำลงมาตามลำคอก็ทำให้ผมเม้มปากแน่น พยายามไม่พูดอะไรหรือแสดงออกถึงความรู้สึกตน
"ทำตามสัญญาให้เป็นรูปธรรมซะ" น้ำหนักหัวแม่โป้งที่วางอยู่บนหลังคอบอกถึงความนัยน์ได้อย่างดีว่าเขาหมายถึงอะไร ยิ่งดวงตาดำขลับสะท้อนไฟส้มเพดานห้องก็จุดประกายบางอย่างให้ผมสะท้านหนัก
กลิ่นดอกไม้ปลิดปลิวรัญจวนราวโอบล้อมจนรู้สึกมึนงงทำตามคำอย่างว่าง่าย ผมโน้มตัวลงไปหาคนเบื้องหน้า จับปอยผมยาวสยายมาพักไว้บนไหล่ฝั่งเดียว ปล่อยสายตาไล้ไปตามคอขาวด้วยข้อความฝังใจหน้าที่เดียวที่จะทำให้มันเป็นจริง
ผูกพันธะกับท่านหัวหน้าตระกูลคุจิกิ เบียคุยะ
จนปลายจมูกชนหลังสันคอขาว แรร์อัลฟ่าผู้เตรียมพร้อมทำหน้าที่กลับชะงักงันกับคำพูดฝ่ายตรงข้าม
"คิดจะกัดลงไปแบบนั้นเลยหรือ"
"มะ มันคงจะทำให้ท่านประมุขเจ็บ.." ทันใดที่เพิ่งจะนึกได้ ดวงตาประกายแสงน้ำทะเลลึกก็มีแววเคร่งเครียดว่าจะทำอย่างไรดี
คุจิกิ เบียคุยะ ลืมนึกไปจริงๆว่าชายผู้นี้ยังคงเด็กนัก แถมเป็นแรร์อัลฟ่ารู้มาตั้งแต่เกิด ไม่ต้องผ่านอาการน๊อตหรือประสบการณ์ใดที่จะบ่งบอกถึงเพศของตนแบบคนทั่วไป
"มาถึงขนาดนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้"
"ผมควรทำยังไง-"
"จงทำตามฉัน" น้ำเสียงกึ่งออกคำสั่งตามแบบฉบับของผู้นำตระกูลคุจิกิยังคงนิ่งเช่นเคยดั่งอัลฟ่าผู้เกรงขามผ่านร้อนผ่านหนาว เมื่อเทียบกับแรร์อัลฟ่าไร้ประสบการณ์แล้วจึงแทบไม่ต่างจากเด็กอนุบาล
เพียงบทเรียนแรกก็สติหลุดไม่สามารถทำตามคำสั่งได้เสียแล้ว..
เวลาผ่านพ้นไปลมหายใจหนักหน่วงถูกแทนที่ลงด้วยเสียงหายใจเบาบางของผู้ที่หลุดเข้าสู่ห้วงภวังค์ คุจิกิ เบียคุยะไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่หลับลืมตาเป็นระยะสลับไปจ้องมองคู่พันธะอายุน้อยของตนผู้ยังทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่ดีของเขาอย่างเงียบงัน
❄
อธิบายเพิ่มเติม(ซึ่งอันนี้อาจจะบิดเบือนจากเวอร์สทั่วไปเพราะเราไม่เคยเห็นแรร์อัลฟ่า..) :: แรร์อัลฟ่า = เหนืออัลฟ่า สามารถผูกพันธะกับใครก็ได้(อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า) มีฟีโรโมนแรงกว่าเพศอื่น แต่ก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษถึงขนาดที่จะทำให้อัลฟ่า(ผู้ชาย)หรือเบต้า(ผู้ชาย)ท้องได้นะคะ แรร์อัลฟ่าเองก็ท้องโดยธรรมชาติไม่ได้เหมือนกัน//ฮรุก
__________________________________________________
ที่สุดของความกาวมาแล้วค่ะฮือออ อ่านโดจินไปสิบเพื่อบิ้วเขียนฉากเดียว5555 เรื่องแบบนี้ต้องมาตอนดึก-
+
CUT (เลิกแจกแล้วนะคะ)
ความคิดเห็น