คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #68 : บทเรียนที่ 62 ZONE
บทเรียนที่ 62 ZONE
โซเฟียสูดหายใจเข้าคราหนึ่ง ขณะนี้เวลาเริ่มนับถอยหลังแล้ว เธอไม่รอช้าตั้งท่าทะลวงวิ่งเข้าหาจีดาบคลั่งที่อยู่ในโหมดอสูรโดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
“ ฮ่าๆๆ ”
จีดาบคลั่งก็เช่นกันหัวเราะราวปีศาจ จิตสำนึกหลอมรวมเป็นหนึ่งกับดาบทมิฬ พุ่งเข้าหาโซเฟียราวอสูรร้าย ไม่มีทีท่าหวั่นเกรงต่อดาบเพลิงอัคคีที่ลุกโชติช่วงกว่าเดิมเท่าตัวเลย
พริบตานั้นการต่อสู้ที่แทบหยุดลมหายใจของผู้คนก็เปิดฉากขึ้น
ทันทีที่โซเฟียวิ่งเข้าใกล้ระยะของดาบทิมฬก็รู้สึกถึงไอปีศาจซึ่งเป็นลมปราณที่จีดาบคลั่งปล่อยออกมากดดันเข้าอย่างรุนแรง แต่ด้วยพลังแห่งเพลิงอัคคีอันโชติช่วงที่ช่วยปลุกขวัญให้ ทำให้เธอตัดสินใจตวัดดาบแรกเข้าฟาดฟันอย่างไม่ลังเล
ด้านจีดาบคลั่งพริ้วตัวเสือกแทงดาบทมิฬเข้าใส่จุดตายของโซเฟีย นี่ไม่นับว่าเป็นกระบวนท่าแต่อย่างใด แต่เป็นการจู่โจมแบบปลิดชีพที่ไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเอง
เหลือเวลาอีกสามสิบห้าวิ
..
ด้วยกระบวนท่าเอาชีวิตของจีดาบคลั่งทำให้โซเฟียต้องรีบเปลี่ยนวิถีดาบกลับมาปัดดาบทมิฬที่แทงเข้าคอหอยของเธอ
“ สู้เขาค่ะพี่โซ ” ซิลเวียร์ป้องปากตะโกน แม้ใจอยากจะช่วยบอกจุดอ่อนของจีดาบคลั่งให้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้เร่งเร้าจนไม่สามารถเอ่ยปากได้ และตอนนี้การบอกกล่าวของเธออาจดึงสมาธิของโซเฟียได้ ซึ่งหากเสียสมาธิไปเพียงวูบหนึ่งนั่นหมายถึงความปราชัยอย่างแน่นอน
อย่าว่าแต่กระบวนท่าของจีดาบคลั่งในตอนนี้ไม่ใช่กระบวนท่าอีกต่อไปแล้ว เป็นเพียงการจู่โจมเอาชีวิตเท่านั้น แต่โซเฟียไม่ยอมถอดใจ กระหน่ำวาดดาบเพลิงอัคคีฟาดฟันใส่จีดาบคลั่งไม่หยุดยั้ง กระบวนท่าที่ร่ำเรียนมาทั้งหมดถูกหล่อหลอมผลิกแพลงใช้ออกจนหมดสิ้น
ดาบเพลิงอัคคีที่ลุกโชติช่วงกำลังฟาดฟันใส่ดาบทมิฬอย่างสวยงามและน่าเกรงขาม เป็นภาพที่เร้าอารมณ์ผู้ชมจนหัวใจแทบหยุดเต้น
เหลือเวลาอีกสามสิบวิ
..
‘ เช้ง เช้ง ขวับ ! ’
ดาบสองเล่มปะทะกันอย่างหักโหม เกิดประกายไฟแปล๊บปร๊าบต่อเนื่อง ดาบทมิฬที่ปกติดำขลับบัดนี้เมื่อปะทะกับดาบเพลิงอัคคีที่ลุกโชติช่วงถึงกับเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานราวกับดาบที่เพิ่งถูกตีขึ้นใหม่
‘ อะไรกัน พลังของดาบเล่มนี้ถึงกับทำให้ดาบทมิฬของจีที่ตัดศาสตราวุธอื่นๆได้ราวกับฟันหยวกเปลี่ยนสีได้เชียวหรือ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปไม่แน่ว่าดาบทมิฬอาจจะ
.. ’ ไซเมตตะลึง
แต่จีดาบคลั่งในโหมดอสูรไม่คำนึงมากความ จิตใจที่รวมเป็นหนึ่งกับดาบคิดเพียงแต่จะปลิดชีพคู่ต่อให้ได้เท่านั้น เร่งรัดเสือกแทงดาบทมิฬใส่โซเฟียไม่หยุดยั้ง
จีดาบคลั่งเอี้ยวตัวไปมาแทงดาบจากล่างขึ้นบน จากซ้ายไปขวาสับสนวุ่นวายไปหมด หากเปลี่ยนเป็นวามายืนแทนโซเฟีย ร่างกายคงจะถูกแทงเป็นรูพรุนไปแล้ว ดีที่โซเฟียมีพื้นฐานการตั้งรับและการใช้กระบวนท่าที่รัดกุมสามารถปัดป้องการโจมตีของจีดาบคลั่งได้หมดสิ้น แต่นั่นก็เป็นการปิดโอกาสรุกของตัวเธอเช่นกัน
เหลือเวลาอีกสิบห้าวิ
..
จังหวะเพียงวูบเดียวจากฝ่ายรุกก็เปลี่ยนเป็นรับ ขอเพียงมีช่องโหว่เพียงเล็กน้อยดาบของฝ่ายตรงข้ามก็จะโจมตีใส่ยังช่องโหว่ของอีกฝ่ายทันที เป็นการปะทะดาบที่ยากจะคาดเดาผลได้
โซเฟียรู้สึกข้อมือปวดร้าวไปหมด แต่เมื่อรู้ว่าเวลาเหลือไม่มากแล้ว ก็รวบรวมดเรี่ยวแรงตวัดดาบออกอย่างสุดกำลัง พริบตานั้นเธอควงดาบไปมา หมุนตัวฟาดฟันดาบใส่จีดาบคลั่ง ใช้ออกด้วยกระบวนท่าดาบอัคคีเริงระบำ
ด้วยเพลิงอัคคีที่โชติช่วงถึงขนาดนี้ แม้แต่จีดาบคลั่งในโหมดอสูรยังอดหวั่นมิได้
กระบวนท่าดาบอัคคีเริงระบำไม่ใช่กระบวนท่าที่เน้นการฟาดฟันเอาชัยคู่ต่อสู้ เป็นเป็นกระบวนท่าที่เน้นการหลอกล่อให้คู่ต่อสู้สับสนและลายตา เพื่อรอโอกาสจัดการในดาบเดียว ที่โซเฟียนำมาใช้ในตอนนี้นับว่าตัดสินใจได้สุขุมมาก เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วินาที เธอจึงหวังใช้กระบวนท่านี้หลอกล่อและตัดสินกันในดาบเดียว
ซึ่งความจริงหากไม่ใช่เพราะพลังของเพลิงอัคคีกระบวนท่านี้ย่อมไม่สามารถทำให้จีดาบคลั่งสับสนได้ แต่ด้วยความที่จีดาบคลั่งต่อสู้กับโซเฟียในสภาพที่ดาบเพลิงอัคคีลุกโชตชิช่วงอยู่ตั้งแต่เริ่มแข่ง ผลจากการจับจ้องแสงไฟนานๆจึงเริ่มปรากฏ ยิ่งเพลิงอัคคีในตอนนี้ลุกโชนกว่าเดิมเท่าตัว แม้จะหลอมรวมจิตเป็นหนึ่งกับดาบแต่อาการตาพล่าก็เริ่มเห็นผลแล้ว
เหลือเวลาอีกห้าวิ
..
‘ ว้าบ ! ’
“ อะไรกันตาของเรา ! ” พริบตานั้นจีดาบคลั่งตาพล่ามัว งุนงงไปวูบหนึ่ง
‘ จังหวะนี้ละ ’ โซเฟียกัดฟันง้างดาบเพลิงอัคคีไปด้านหลัง นี่เป็นโอกาสลงมือเพียงครั้งเดียวของเธอ หากพลาดหรือไม่สามารถล้มจีดาบคลั่งในดาบนี้ได้คงจะไม่มีโอกาสโจมตีจีดาบคลั่งอีกแล้ว
“ SOFIA FINISH !!! ”
ดาบเพลิงอัคคีตวัดวูบวาบสองครั้ง เห็นเป็นตัวอักษรรูปเอสกลางอากาศฟันใส่ร่างของจีดาบคลั่งที่ไร้ซึ่งการป้องกัน กระบวนท่านี้เคยใช้จัดการกับเทพสายลมฟูจินอย่างมาซาซึมุจนหมดรูปมาแล้ว
“ คุณโคทาโร่ครับ นะ นั่นมันมังกรเพลิงในตำนานไม้ตายสุดยอดของพวกนินจาเงาอัคคีที่ว่ากันว่าห่างหายจากการสืบทอดไปแล้ว ช่างเป็นบุญตาเสียจริงๆ ” มาซาซึมุประสานอินกล่าวตะกุกตะกัก น้ำตาไหลพรากด้วยความปิติ หารู้ไม่ว่าท่านี้ตัวเองก็เคยเจอกับตัวมาแล้ว
มิคาดเสี้ยววินาทีก่อนที่ดาบเพลิงอัคคีจะตวัดจนครบกระบวน จีดาบคลั่งก็คำรามก้อง ตาทั้งสองข้างปิดลง พุ่งตัวและดาบเข้าหาโซเฟียอย่างบ้าคลั่ง
ผลจากการวาดดาบไม่ครบกระบวนของโซเฟียทำให้พลังชีวิตของจีดาบคลั่งยังคงเหลืออยู่ 500 หน่วย หากโดนฟันใส่จังๆอีกเพียงครั้งเดียวจีดาบคลั่งต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ด้วยสภาพดวงตาที่มองไม่เห็นเช่นนี้แทนที่จะถอยไปตั้งหลักจีดาบคลั่งกลับพุ่งตัวเข้าหาโซเฟียอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เสือกแทงดาบเข้าใส่ร่างของเธอในระยะประชิด
‘ ฟ้าววว ! ’
ทันใดนั้นเพลิงอัคคีลุกโชนขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว
ระยะเวลาของเพลิงอัคคีเกินกว่าจุดที่เธอจะควบคุมได้แล้ว หากเธอไม่รีบปิดอุปกรณ์เพลิงอัคคีจะลุกหนักขึ้นจนอาจเกิดผลร้ายได้
แต่วินาทีนี้เธอไม่มีเวลาพอจะทำอะไรได้ นอกจากใช้สองมือตั้งการ์ดป้องกันการโจมตีที่เหนือการคาดหมายของจีดาบคลั่ง และรีบถลันตัวหลบออกมาให้ได้
“ ย๊าก ! ”
จีดาบคลั่งคำราม ด้วยพละกำลังที่มหาศาลจากการใช้ลมปราณและการรุกที่อำมหิต ดาบทมิฬแทงทะลุการ์ดของดาบเพลิงอัคคีและแขนอีกข้างของเธอ ทะลวงเข้าถูกท้องอย่างจัง
‘ ปัก ! ’
ร่างของโซเฟียเซถอยไปด้านหลังพร้อมดาบเพลิงอัคคีที่หลุดลอยจากมือ พลังชีวิตลดลงฮวบฮาบแต่ก็ยังคงเหลืออยู่ 200 หน่วย
จีดาบคลั่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุดโจมตี ตะโกนก้องฟาดดาบทมิฬออกอย่างบ้าคลั่ง
‘ ต้องรีบหลบให้พ้นระยะ ’ โซเฟียทราบว่าจีดาบคลั่งยังตาพล่าอยู่ จึงต้องหลับตาไว้ ดังนั้นขอเพียงหลบให้พ้นระยะการโจมตี แล้ววิ่งไปเก็บดาบได้เธอก็จะเป็นฝ่ายชนะแล้ว
ชัยชนะของเธออยู่แค่เอื้อมแล้ว
‘ เอาละนะ ’ โซเฟียตั้งสมาธิมั่น สลัดความเจ็บปวดที่ได้รับการโจมตีเมื่อสักครู่ และความเหนื่อยล้าจับจ้องไปยังดาบทมิฬที่กำลังฟาดใส่ตน
‘ จังหวะนี้แหละ !’ พริบตานั้นเธอรวบรวมเรี่ยวแรงเอี้ยวตัวหลบได้อย่างสวยงาม ก่อนจะพุ่งตัวไปเก็บดาบเพลิงอัคคีที่อยู่บนพื้น
‘ ฟู้ว ! ’
ทว่าเพลิงอัคคีบนดาบลุกโชนเกินไป แถมเวลาที่ใช้อุปกรณ์ตอนนี้เกินกว่าหกสิบวินาทีหรือเวลาที่เหมาะสมแล้ว แม้เธอจะใส่เกราะป้องกันแต่ความร้อนของเพลิงบนดาบก็ทำให้เธอต้องหดมือกลับไปวูบหนึ่ง
‘ ฟึ่บ ! ’
ทันใดนั้นเงาร่างของจีดาบคลั่งก็ทอดปกคลุมเบื้องหลังของเธอ ดาบทมิฬแทงใส่หลังเธออย่างอำมหิตราวกับมีตา
“ ตายซะเถอะ ! ”
โซเฟียไม่ครุ่นคิดอีกต่อไป พริบตานั้นรีบคว้าดาบแทงกลับหลังทันที
‘ ฉึบ ! ’
เสียงดาบฟันใส่ชุดเกราะดังขึ้น พร้อมเสียงออดสัญญาณประกาศสิ้นสุดการแข่งขัน จากนั้นเสียงฮืออึงดังทั่วห้อง ดีว่าลุกขึ้นพรวด
ผู้ชนะในครั้งนี้กลับเป็นจีดาบคลั่ง !
การแทงสวนกลับหลังของโซเฟียนับว่าทำได้สวยงาม แต่ทว่าด้วยเพลิงอัคคีที่ลุกโชนเกินไป ความร้อนของเพลิงอัคคีจึงลดพลังชีวิตของเธอหมดเสียก่อนที่จะแทงถูกตัวของจีดาบคลั่ง
ทางด้านจีดาบคลั่งเองแม้จะถูกแทงใส่ท้องน้อยอย่างจัง จนพลังชีวิตติดลบ แต่ทว่าตามกฏผู้ที่พลังชีวิตหมดก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้ ดังนั้นโซเฟียนับว่าแพ้เพราะไม่สามารถควบคุมเพลิงอัคคีบนดาบได้
เพียงแต่การโจมตีของจีดาบคลั่งยังไม่ยอมหยุดยั้ง ดาบทมิฬไม่มีชีวิตจิตใจฟาดใส่ไหล่ขวาของโซเฟียจากด้านหลังอย่างอำมหิต
‘ เคร้ง ! ’
ดาบเพลิงอัคคีหมุนไปกับพื้น พร้อมร่างบอบบางที่ล้มลงอย่างหมดแรงสู้ ความเจ็บปวดที่ทนมานานจากการถูกอัดลมปราณใส่ร่างเริ่มส่งผล ประกอบกับการโดนฟาดดาบใส่ไหล่ขวาอย่างจัง แม้จะมีเกราะป้องกันก็ตามแต่ความรุนแรงที่ได้รับจากแรงสะเทือนหนักหน่วงเกินไปจนรู้สึกเหมือนว่าไหล่เคลื่อนไปวูบหนึ่ง
‘ แฮ่ก แฮ่ก ’
จีดาบคลั่งหอบหายใจ ไม่ทราบว่าการแข่งขันยุติลงแล้ว ดังนั้นถาโถมเข้าหาโซเฟียอย่างบ้าคลั่ง ตาสีแดงกร่ำสองข้างเบิกโพลง
โซเฟียไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่จะตะโกนห้าม พยายามจะยกมือปราม แต่ไม่สำเร็จแขนของเธอล้าเกินกว่าจะยกขึ้นได้
“ หยุดได้แล้ว ! ” ไซเมตตะโกน แต่ดูเหมือนไร้ผล ดังนั้นรีบพุ่งตัวไปบนเวทีหวังจะหยุดจีดาบคลั่งให้ทัน
จีดาบคลั่งในตอนนี้ผนึกจิตรวมเป็นหนึ่งกับดาบไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก ตวัดดาบทมิฬใส่โซเฟีย
“ อย่าทำอะไรพี่โซนะ ” ซิลเวียร์กรี๊ด
“ นินจาเงาอัคคีระวัง ” โคทาโร่กับมาซาซึมุตะโกนพร้อมกัน
ขณะที่ดาบทมิฬกำลังจะฟาดใส่ร่างของโซเฟียก็ได้ยินเสียงบีบอัดของอากาศดังขึ้นอย่างเร่งร้อน
‘ วี๊ดๆๆๆ ’
อากาศคล้ายใบมีดพุ่งตรงเข้าใส่จีดาบคลั่งอย่างรวดเร็ว ด้วยสัญชาตญาณจีดาบคลั่งหมุนตัวกลับหลังทันที
‘ ปัก ! ’
ร่างของจีดาบคลั่งถูกลมปราณกระแทกเข้าอย่างจัง กระเด็นถอยหลังเสียหลักอย่างหมดรูป จากนั้นเงาร่างสายหนึ่งพริ้วตัวขึ้นบนเวทีก่อนที่เงาร่างของไซเมตจะเหยียบเวทีห่างกันเพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
มิคาดเงาร่างสายนั้นกลับเป็นดีว่าที่อยู่ในชุดเกราะป้องกันเรียบร้อยแล้ว
‘ เจ้าหมอนั่น ! ’ รูเกียร์ตะลึง ไม่อยากเชื่อสายตาว่าดีว่าที่ถูกเขาเล่นงานด้วยมังกรพิโรธไปเสียขนาดนั้นจะสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถใช้ลมปราณพลังแรงสูงอัดจีดาบคลั่งที่มีพลังลมปราณปีศาจกระเด็นได้
‘ ขวับ ขวับ ! ’
กระบี่ในมือควงสองรอบจากนั้นจ่อยังร่างที่ล้มลงของจีดาบคลั่ง ตัวกระบี่สีฟ้าอ่อนสะท้อนประกายประหลาด ลักษณะกระบี่สั้นกว่าปกติเล็กน้อย สันกระบี่หมุนคดคล้ายสัญาลักษณ์ของลมปราณ กลับเป็นกระบี่วิเศษเทพกระบี่ประกายแสงที่ร่ำลือกัน
‘ หวังว่าท่านผู้เฒ่าคงไม่ว่านะ ’
ดีว่ากว่าจะรู้สึกตัวก็เผลอใช้พลังลมปราณเพื่อช่วยโซเฟียออกไปแล้ว ทั้งๆที่อาการบาดเจ็บของตัวเองยังไม่หายดี แต่ด้วยการรักษาอันพิสดารของผู้อาวุโสเสี่ยงและพลังลมปราณที่ถูกถ่ายทอดใส่เทพกระบี่ประกายแสงทำให้เขาสามารถใช้พลังลมปราณได้สามครั้งตามคำสั่งของผู้อาวุโสเสี่ยง
‘ ด้วยสภาพของเจ้าในตอนนี้คงมิอาจต่อกรกับคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปได้ ดังนั้นข้าจะให้เจ้าหยิบยืมเทพกระบี่ประกายแสงซึ่งข้าได้ถ่ายทอดพลังลมปราณเอาไว้ แต่ด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้จะสามารถใช้พลังลมปราณได้อีกแค่สามครั้งเท่านั้น จงใช้มันอย่างระมัดระวังที่สุดเข้าใจไหม ’
เสียงผู้อาวุโสเสี่ยงที่กำชับเขาไว้ดังขึ้น
แต่ก่อนจะคิดถึงเรื่องนั้นร่างของจีดาบคลั่งที่นอนนิ่งก็สั่นกระตุก พริบตานั้นผลิกตัวคลานสี่ขาก่อนจะพุ่งเข้าจู่โจมใส่ดีว่าราวปีศาจร้าย ไอปีศาจคุกรุ่นถาโถมเข้าใส่ดีว่าอย่างน่าสะพรึงกลัว
“ ระวัง ”
ไซเมตร้องเตือน แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ดาบทมิฬรวดเร็วเกินไป กราดแทงใส่ดีว่าต่อเนื่องหลายสิบดาบ จากผลการต่อสู้ครั้งล่าสุดของดีว่า ไม่มีทางที่เขาจะจัดการจีดาบคลั่งได้ อย่างว่าแต่หลบให้พ้นคมดาบ ไหนเลยจะไอปีศาจที่แผ่พุ่งออกมาขนาดนี้ ด้วยลมปราณที่มีอยู่ของดีว่าไม่มีทางเพียงพอที่จะต้านรับได้เลยแม้แต่น้อย
มิคาดดีว่าเอี้ยวตัวแทงเทพกระบี่ประกายแสงสวนกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ใช้พลังลมปราณเลยแม้แต่น้อย
‘ ฉึก ’
เทพกระบี่ประกายแสงแทงใส่ท้องน้อยของจีดาบคลั่ง ทำให้จีดาบคลั่งหยุดชะงัก ส่วนดาบทมิฬตวัดถูกอากาศธาตุ พร้อมกับไอปีศาจที่หายไปหมดสิ้น
เพียงกระบี่เดียวเท่านั้น จีดาบคลั่งในโหมดอสูรก็ผ่ายแพ้อย่างหมดรูป กระบี่เมื่อครู่ทั้งไม่ใช่กระบี่ที่รวดเร็วเหนือกระบี่อื่น แน่นอนว่าย่อมมิใช่เชื่องช้า เพียงแต่เป็นกระบี่ที่แทงออกได้อย่างเหมาะสมที่สุด สู่ตำแหน่งดีที่สุด เพราะท้องน้อยเป็นบริเวณที่สะสมของลมปราณทั้งหมด ดังนั้นการโจมตีของจีดาบคลั่งทั้งหมดจึงถูกทำลายลงด้วยการโจมตีใส่จุดตายเพียงจุดเดียว
‘ เจ้านั่นมองช่องโหว่ของจุดตายออกในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีได้ยังไง แล้วกระบวนท่าเมื่อครู่นี้มันเป็นกระบวนท่าอะไรกัน ’
รูเกียร์ครุ่นคิดถึงกระบวนท่าที่ร่ำเรียนมาทั้งหมด นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าดีว่าใช้ออกด้วยกระบวนท่าอันใด เพราะหากวิเคราะห์จากการลงมือเมื่อครู่แล้วหากไม่ใช้กระบวนท่าดึงดารามาป้องกันเสียก่อน ก็มีเพียงแต่กระบวนท่าหันเกาทัณท์ยิงจันทร์เท่านั้นที่พอจะใช้ออกได้ แต่ที่ดีว่าใช้ออกกลับไม่คล้ายกระบวนท่าดังกล่าวเลย ซ้ำยังเหมือนกับการแทงกระบี่ออกมั่วๆเสียอีก
ไซเมตที่ไม่เคยหวั่นเกรงต่อสิ่งใด พอเห็นการลงมือของดีว่าที่แม้แต่ตนยังไม่มั่นใจว่าจะหยุดจีดาบคลั่งได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้หรือไม่ ก็อดเหงื่อตกไม่ได้
‘ ผลจากการฝึกพิเศษสินะ ’ ไซโคร แนชยิ้ม
“ โอ้ว ! สุดยอดเลยครับท่านผู้ชม ผู้เข้าแข่งดีว่าสามารถหยุดจีดาบคลั่งที่แสนจะโหดร้ายได้ในกระบี่เดียวนับว่าร้ายกาจจริงๆ ”
เด็กชายนักประกาศดีอกดีใจอย่างลืมตัวพอนึกขึ้นได้จึงรีบประกาศผล
“ อะ เออต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ แต่ผลการแข่งขันในรอบนี้อัศวินเพลิงของเราพลังชีวิตหมดลงเสียก่อน ผู้ชนะจึงได้แก่จีดาบคลั่งแห่งโรงเรียนเกบรียลครับ ”
แทบไม่ได้ยินเสียงปรบมือ คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอาการบาดเจ็บของโซเฟียมากกว่า
ไซเมตหลังจากลากตัวจีดาบคลั่งที่ไร้สติกลับไปแล้ว ก็เดินไปดูอาการของโซเฟียที่นอนอยู่ ซึ่งดีว่ากำลังใช้ปราณกระบี่สายที่สองต่อปราณรักษาให้อยู่
ซิลเวียร์น้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วงโซเฟีย
“ พี่โซ ” เธอร้องเรียกจากนั้นเค้นเสียงกับดีว่า “ ต้องรักษาให้หายนะ ”
ดีว่าหันมายิ้ม
“ ไม่ต้องห่วงครับ อาการบาดเจ็บที่เกิดจากลมปราณผมใช้ปราณรักษาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสภาพร่างกายนั้นทายา แล้วพักสักหน่อยก็หายแล้วละครับ ”
ซิลเวียร์ชะงักเมื่อเห็นสายตาอ่อนโยนของดีว่า
“ พี่ไม่เป็นไรแล้วจ๊ะ ขอบใจมากนะ ” โซเฟียค่อยๆประคองตัวขึ้นโดยมีดีว่ากับไซเมตคอยช่วย
“ ที่เหลือเดี๋ยวข้าดูแลเอง เจ้าไปประลองเถอะ ” ไซโคร แนชเดินเข้ามาช่วยประคองโซเฟีย จากนั้นหันไปกล่าวกับไซเมต
“ ขอบใจมากนะ ”
“ ไม่ต้องขอบใจหรอกครับ มันเป็นความผิดของเพื่อนร่วมทีมผม ต้องขออภัยแทนจริงๆ ” ไซเมตโค้งตัวอย่างสุภาพ แล้วเดินขึ้นไปยังเวที
เมื่อพาโซเฟียไปนั่งที่แล้ว ไซโคร แนชก็เดินมาหาดีว่า
“ จริงๆก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะ ” ไซโคร แนชมองดีว่าด้วยแววตาจริงจัง “ แต่ช่วยชนะเจ้าหมอนั่นด้วยเถอะ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าขอร้องละ ”
ไซโคร แนชก้มหัวลง ทำเอาดีว่าตกใจ
“ อะไรกันครับ ยังไงผมก็จะพยายามเต็มที่อยู่แล้ว ”
“ ไม่พอหรอก ” ไซโคร แนชที่ยังก้มหัวอยู่กล่าวเสียงแข็ง “ ไม่ใช่แค่จะพยายาม แต่ต้องชนะให้ได้ ได้โปรดเถอะ ”
“ ระ รุ่นพี่ ” ดีว่าจับบ่าไซโคร แนชไม่ถามแม้คำเดียวว่าเพราะอะไรไซโคร แนชถึงต้องจริงจังถึงขนาดนี้ คนเราย่อมมีเรื่องที่ไม่อาจบอกใครได้อยู่
“ ได้ครับ ผมจะเอาชนะไซเมตให้ได้ ผมสัญญา ”
คำกล่าวหนักแน่น ตาประสานตาไม่มีความลังเล หรือกล่าวเพื่อเอาใจแม้แต่น้อย ทำให้ไซโคร แนชต้องก้มหัวขอบคุณอีกครั้ง
“ พอแล้วครับ ถ้ารุ่นพี่ยังทำแบบนี้อีกผมคงลำบากใจนะครับ ” ดีว่าก้มหัว “ ผมไปก่อนนะครับ ”
เทพกระบี่ประกายแสงถูกควงขวับขวับ จากนั้นผู้ถือกระบี่เดินขึ้นเวทีด้วยความมาดมั่น นี่เป็นความมาดมั่นที่ดีว่าสูญเสียไปตั้งแต่ผ่ายแพ้ให้แก่จีดาบคลั่งเมื่อพบกันครั้งกระนู้น บัดนี้มันได้กลับมาอีกครั้งแล้ว แต่ด้วยสภาพที่ไม่อาจใช้ลมปราณได้ดั่งใจดีว่าจะสามารถต่อกรกับผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นหัตถ์ของพระเจ้าได้จริงหรือ
“ วา ” โซเฟียพยายามยันตัวลุกขึ้น เธอเป็นห่วงการแข่งของวามากกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองเสียอีก แต่ก็ไร้ผลร่างกายเธอบอบช้ำเกินกว่าจะลุกขึ้นได้
“ ไม่ต้องห่วง เจ้านั่นไม่แพ้ใครง่ายๆหรอก ” ไซโคร แนชกล่าว “ เจ้าเก็บแรงไว้เชียร์เจ้านั่นตอนรอบชิงเถอะ ”
โซเฟียพยักหน้า ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้ก็มีเพียงแค่เชื่อในตัววาเท่านั้น เช่นเดียวกับไซโคร แนชที่ได้แต่ต้องเชื่อในตัวดีว่าเช่นกัน
“ แต่ถ้านั่งไม่ไหวจะไปนอนที่ห้องพยาบาลก่อนก็ได้นะ ”
“ แหะๆ ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้สบายมาก ได้ดีว่าใช้ลมปราณช่วยแล้ว อาการแน่นหน้าอกหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ”
กล่าวถึงตอนนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าการแข่งที่ด้านบนเวทีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ เอาละครับในที่สุดการแข่งรอบรองชนะเลิศระหว่างโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ ทีมมิราเคิล และโรงเรียนเกเบรียลก็ได้ดำเนินมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่ารอบที่แล้วผู้เข้าแข่งจีจะทำเกินเลยไปบ้าง แต่เป็นการทำไปด้วยความขาดสติดังนั้นทางคณะกรรมการจึงไม่ตัดสิทธิการแข่ง ทำให้ผลแพ้ชนะขึ้นอยู่กับการแข่งในรอบนี้ ”
เด็กชายนักประกาศกล่าวเสียงก้อง
“ โดยตัวแทนฝั่งโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ได้แก่ มือกระบี่ผู้ได้ฉายาว่า ปราณกระบี่ไร้เงา ดีว่า นั่นเอง ! ” โบกมือไปทางดีว่า
เสียงเชียร์ของบรรดาแฟนๆดีว่าดังกระหึ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีวีวี่รวมอยู่ด้วย เธอตะโกนเชียร์อย่างสุดใจ ยิ่งไม่มีนายมิวคอยนั่งแซวอยู่ข้างๆเพราะแยกไปดูวาแข่งปิงปองแล้วด้วย เสียงของเธอจึงดังกว่าแฟนคลับคนอื่นๆ
“ และอีกมุมหนึ่งตัวแทนฝั่งโรงเรียนเกเบรียลชายที่ได้ชื่อว่าเป็นหัตถ์ของพระเจ้าซึ่งยังไม่เคยเห็นลงเวทีเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก๊อดแฮนด์ไซเมต ”
เมื่อมองไปยังไซเมตทุกคนก็ต้องประหลาดใจนั่นเพราะไซเมตไม่มีอาวุธ เขาเพียงสวมสนับมือที่มีรูปกางเขนเท่านั้น อาวุธเช่นนี้หากเทียบพลานุภาพกับเทพกระบี่ประกายแสงแล้วนับว่าห่างชั้นมากนัก
แต่สำหรับดีว่าเขาไม่คิดประมาทไซเมตแม้แต่น้อย ไซโคร แนชเองก็เช่นกันหากจะพูดกันตามตรงแล้วคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดในทีมนี้คือ ไซเมต นั่นเพราะเขาทราบถึงความสามารถของผู้ที่ได้ชื่อว่าก๊อดแฮนด์ดี
“ ผู้เข้าแข่งไซเมตจะมีฝีไม้ลายมือขนาดไหน ต้องจับตาดูกันให้ดีๆนะครับ ” เด็กชายนักประกาศกล่าว “ และเมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ผมขอประกาศเริ่มการแข่งรอบตัดสินรองชนะเลิศได้ ณ บัดนี้ ! ”
‘ วี๊ดๆๆ ’
“ ไม่คิดเลยนะว่านายกับเราต้องมาเจอกันจริงๆ ปกติได้แต่ช่วยพยุงนายเท่านั้น ครั้งนี้หวังว่าคงไม่ต้องช่วยพยุงอีกนะ ”
เสียงสายฟ้าดังลั่น พริบตานั้นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้างของไซเมต เพิ่มพลานุภาพและความกดดันขึ้นมาทันที
“ ถึงนายจะบาดเจ็บ แต่ก็จะไม่มีการออมมือให้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นลุยเข้ามาให้เต็มที่ พร้อมแล้วรึยังดีว่า ! ” ไซเมตตั้งท่า
“ พร้อมแล้วครับ ” ดีว่าตอบกลับอย่างสงบนิ่ง ตั้งท่ากระบี่
วิสด้อมหลังจากได้ยินวากล่าวก็โยนลูกปิงปองขึ้นเสิร์ฟออกทันที ลูกสปินพลังแรงสูงพุ่งเข้าหาวาอย่างรวดเร็ว แต่วากลับไม่มีทีท่าจะตั้งรับแม้แต่น้อย
‘ เลิกล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นสักทีได้ไหม ’
ในหัวของวาขณะนี้มีเพียงความเจ็บช้ำที่วนเวียนไปมา พื้นที่ยืนอยู่คล้ายกำลังเปลี่ยนเป็นปุยนุ่นราวกับอยู่ในความฝัน คำพูดและรอยน้ำตาบนใบหน้าของสโนว์ได้หยุดโลกของเขาไปแล้ว
‘ รู้ผลแล้วสินะ จุดอ่อนของนายชั้นอ่านออกหมดแล้ว นั่นก็คือ ไม่สามารถตบลูกกลับมาได้ยังไงละ ’ วิสด้อมยิ้มกริ่ม สังเกตจากการโต้กับวาแล้ว มีโอกาสที่วาสามารถตบกลับมาได้มีอยู่หลายครั้ง แต่วากลับไม่ตบ อาจเป็นเพราะการเล่นของวาเน้นอาศัยจังหวะ และความเร็วในการเอาชนะคู่ต่อสู้มากกว่าการตบ เพราะความสามารถในการควบคุมลูก และการปรับองศาหน้าไม้ของการจับแบบไม้จีนค่อนข้างลำบากสำหรับวาก็เป็นได้
“ ทำไมถึงไม่เตรียมตั้งรับ ” พรีสไซเอะใจ “ ท่าแบบนั้น ระ หรือว่าจะเป็น
”
‘ ทุกครั้งเลย ทุกครั้งที่เราทำใจได้แล้วเธอก็กลับมา คิดว่าเราเป็นตัวอะไรกัน ! ’
พริบตานั้น ขณะที่ลูกปิงปองห่างจากร่างเพียงไม่กี่เซนต์ ไม้ในมือวาก็ตวัดตบวูบ
‘ ความหวังดีแบบนี้ ช่วยเอามันให้ไปให้พ้นๆทีเถอะ !!! ’
‘ ฟึ่บ ! ’
นี่ไม่ใช่การตั้งรับ แต่เป็นการตบสวนลูกตัดความแรงสูงที่วาไม่เคยตบออกไปเลยตั้งแต่เริ่มแข่งมา การตบสวนอย่างกระทันหันแบบนี้ไม่ว่าใครต่างก็ไม่คาดคิดมาก่อน ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยจังหวะที่พอดี ความสามารถในการควบคุมลูก และปรับองศาหน้าไม้ต้องทำได้อย่างไร้ที่ติ
ลูกตบตรงที่รวดเร็วยิ่งกว่าลูกตบที่ผ่านมาทั้งหมดของวิสด้อม พุ่งข้ามเฉียดติดตาข่ายไปเพียงไม่กี่มิลเท่านั้น ก่อนจะเด้งลงโต๊ะและพุ่งผ่านหน้าของวิสด้อมไปอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า
‘ 9 4 อับดุลอินเตอร์ ’
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบพักหนึ่ง ก่อนที่เสียงปรบมือจะดังขึ้น ทุกคนต่างพากันงุนงันไปกับการสวนกลับแบบสายฟ้าแล่บของวา
“ เยี่ยม ”
วิสด้อมยิ้มมุมปากท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่ม แม้จะการตบครั้งนี้จะอยู่เหนือความคาดหมายไปบ้าง แต่สีหน้าที่ดูไร้ชีวิตของวากลับดูน่าประหลาดใจมากกว่า
สโนว์ยกนิ้วโป้งให้วา แต่วาไม่แม้แต่จะเหลือบมอง เพียงเค้นเสียงเบาๆ
“ เสิร์ฟลูกต่อไปได้เลย ”
“ ฮ่าๆ ในที่สุดก็เอาจริงแล้วสินะ ไหนขอดูหน่อยสิว่าจะแน่สักแค่ไหน ” วิสด้อมหยอก เสิร์ฟลูกออกทันที คราวนี้เพิ่มความแรงของลูกเสิร์ฟขึ้นอีกเท่าตัว
พริบตาที่ลูกเสิร์ฟพุ่งข้ามตาข่ายมา ม่านตาของวาก็เบิกกว้าง จากนั้นมือปรับองศาไม้อย่างคล่องแคล่ว แล้วตบกลับไปอย่างไม่ลังเล
ลูกตบของวาพุ่งข้ามทแยงไปตกยังมุมโต๊ะอย่างสวยงามและหวุดหวิดที่สุด เป็นลูกตบที่ยังไงวิสด้อมก็ไม่มีทางตั้งรับได้ในสภาวะการณ์เช่นนี้
“ BRAVO ! ” มิวปรบมือชอบใจ
“ เฮ้ เกิดอะไรขึ้น ” ผู้คุมกฏผิวดำขาวทั้งสองเกาหัวกล่าวสลับกันไปมา “ นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น ”
ครอสที่นั่งดูอยู่ไม่อาจเชื่อสายตา แอบสะท้านขึ้นมา แต่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็กลับมาสงบอีกครั้ง
‘ ความสามารถแบบนี้หรือว่าเจ้านี่ก็จะใช้มันได้เหมือนกัน
.’
‘ 9 6 อับดุลอินเตอร์ เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ช่างเป็นการแข่งที่น่าแปลกประหลาดเสียจริงๆ เกมที่ดูเหมือนจะจบลงโดยไม่มีแววว่าจะตีโต้ขึ้นมาได้ กลับผลิกขึ้นมาได้อีกครั้ง
แม้แต่วิสด้อมเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าวาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจะใช่คนเดียวกันกับที่เล่นมาตั้งแต่เริ่มเกม
วารับลูกปิงปองที่วิสด้อมโยนมาอย่างเงียบงัน ยังคงก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าของสโนว์
“ เห็นไหมละ คิดจะสู้จริงๆก็สู้ได้ ”
วาเหมือนไม่ได้ยินเสียงใดทั้งสิ้น โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้าแล้วตวัดไม้ตบออกโดยไร้ความลังเล ไร้ซึ่งความเกรงกลัว ดังนั้นลูกเสิร์ฟคราวนี้เรียกได้ว่าเป็นการตีออกอย่างสุดกำลัง หากพลาดปรับองศาไม้ไม่ดีพอ ลูกก็จะติดตาข่ายเสียแต้มทันที
แต่ผิดคาดด้วยความเร็ว และแรงขนาดนี้ลูกปิงปองยังสามารถถพุ่งข้ามตาข่ายไปได้อย่างรวบรัดและสวยงามที่สุด
‘ อะไรกัน ! ’ วิสด้อมตะลึง แต่คราวนี้ไม่ยอมปล่อยให้เสียแต้มอีกแล้ว ดังนั้นตั้งสมาธิตั้งรับลูกเสิร์ฟอันแสนร้ายกาจอย่างสุดกำลัง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยื่นไม้ตั้งรับเท่านั้น
‘ ป๊อก !’
ลูกปิงปองเด้งกลับไปอย่างรวดเร็ว เห็นภาพวาง้างไม้รออยู่แล้ว และทันใดนั้นไม้ปิงปองในท่าจับไม้จีนก็ตวัดตบออกอย่างหนักหน่วง ไม่เกรงว่าจะตีลูกออกเลยแม้แต่น้อย
‘ ปัก ! ’
ลูกปิงปองกระแทกลงมุมโต๊ะอย่างสวยงามอีกครั้ง เป็นลูกตบที่เรียกได้ว่าหนึ่งในร้อยหรือพันคนเท่านั้นที่จะสามารถรับได้ เพราะเป็นการตบที่รวดเร็ว รุนแรง และวิถีของลูกเป็นการตบจากขวาไปซ้ายหรือเรียกได้ว่าทแยงมุมแบบสุดๆ แถมยังเลียดจนแทบติดพื้นโต๊ะ ไม่เด้งขึ้นสูงแบบลูกตบทั่วไป ถ้าวัดมุมกระทบเป็นองศาลูกตบของวาสามลูกที่ผ่านมาคงเด้งทำมุมไม่เกินยี่สิบห้าองศาแน่นอน
‘ 7 9 อับดุลอินเตอร์ ! ’
เหงื่อเม็ดเล็กๆไหลผ่านแก้มของวิสด้อมโดยเจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว
‘ นี่เราจะไม่สามารถโต้กลับไปได้เลยหรือยังไง ทำไมจู่ๆเจ้านั่นก็เล่นดีขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตานะ ’
สายตาเย็นชาของวาเหลือบมองไปยังครอส ทั้งคู่จับจ้องกันไม่มีใครยอมถอยให้แก่กันแม้แต่ก้าวเดียว จนกระทั่งกรรมการทักเรียกให้วาเสริฟ์ลูกต่อไป ถึงค่อยกลับมาจดจ่อกับการแข่ง
วายังคงไม่ชายตามองสโนว์แม้แต่น้อย ราวกับเธอไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
วาเสิร์ฟลูกออกอย่างรวดเร็ว ด้วยจิตใจที่เต็มีไปด้วยความบีบคั้น ในใจหวังเพียงให้สโนว์รีบหลบไปให้พ้นจากตรงนั้นเสีย
‘ รอก่อนเถอะ แล้วเราจะทำให้เธอรู้เองว่าใครจะแน่กว่ากัน ’
วิสด้อมทำได้เพียงแค่ตั้งรับ ลูกเสิร์ฟของวารวดเร็วเกินกว่าจะตบสวนกลับไปได้ทัน
ลูกปิงปองพอลอยข้ามตาข่ายมา วาก็ตวัดไม้ออกเปลี่ยนเป็นลูกตัดที่มีความแรงไม่ต่างจากลูกตบ หมุนควงพุ่งกลับไปอย่างรวดเร็ว
‘ อะไรกัน ทำไมถึงตีลูกตัดได้แรงและเลียดพื้นขนาดนี้ ’ วิสด้อมตะลึง พยายามปรับหน้าไม้และสวนกลับไปอย่างพะอืดพะอม จากนั้นวาง้างไม้ตบลูกท๊อปสปินออกเป็นว่าเล่น ราวกับทุกการตีล้วนอยู่ในการควบคุมหมดสิ้น
‘ เก้าเท่า อับดุลอินเตอร์ !’
และแล้วแต้มก็ค่อยๆถูกตีตื้นขึ้นมา การตีของวาไม่เปิดโอกาสให้วิสด้อมได้ตีโต้เลยแม้แต่น้อย ทั้งลูกสปิน ลูกตัด และลูกตบโหมกระหน่ำซัดออกอย่างไม่ปราณี แม้วิสด้อมจะพยายามโยกกลับแต่ก็ไร้ผล ถูกวาตบสวนกลับจนเสียแต้มในที่สุด
‘ แบบนี้มันไม่ตลกแล้ว ’ วิสด้อมตะลึง มือขวาที่จับไม้รู้สึกลื่นเพราะเหงื่อที่ไหลออกมามากอย่างไม่รู้ตัว
“ สู้เขาสิ ” ทันใดนั้นเสียงตะโกนจากโทโมะก็ดังขึ้นจากเบื้องหลัง “ โดนเขาตบกลับมาแค่นี้ก็หง๋อแล้วหรอ ลืมไปแล้วหรอว่าตัวเองเป็นใคร ”
“ ใช่ ตบกลับไปเลยสิ ” คิงสตันถึงกับยอมคายหมากฝรั่งตะโกนเชียร์
‘ นั่นสินะ ฉายาของเราคือ ดาบอัคคีทมิฬ จ้าวแห่งการตบลูก ไม่มีลูกแบบไหนที่เราไม่สามารถตบกลับไปได้ไม่ใช่หรือยังไง ! ’
ว่าแล้วแววตาของวิสด้อมก็กลับมามุ่งมั่นอีกครั้ง ทันทีที่วาเสิร์ฟลูกมาวิสก้อมก็ตวัดไม้ตบกลับอย่างไม่กลัวเกรงเช่นกัน
ฉายาดาบอัคคีทมิฬไม่ได้ได้มาเพราะคำกล่าวอ้างจริงๆ ขนาดลูกเสิร์ฟของวารวดเร็ว และเลียดพื้นถึงเพียงนี้ วิสด้อมยังสามารถตบกลับไปได้นับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ
‘ Heat !!!’
ความรวดเร็ว และรุนแรงของวิสด้อมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ลูกตบของวิสด้อมร้ายกาจยิ่งนัก ไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังตีเข้าใส่ด้านที่ยากจะสวนกลับไปได้ ซึ่งก็คือด้านซ้ายมือของวา และเป็นด้านที่ยากจะตบกลับไปได้ด้วยการจับแบบไม้จีน และด้วยความเร็วขนาดนี้ยากนักที่วาจะสวนกลับไปได้ทัน
ทว่าเสี้ยววินาทีนั้นเองท่าร่าของวาก็เปลี่ยน วาเอี้ยวตัวไปทางขวาเล็กน้อย ก่อนจะตวัดไม้ตบกลับไปอย่างบ้าคลั่งไม่คิดจะตั้งรับแม้แต่น้อย ต่างจากสไตล์การตีของเขาโดยสิ้นเชิง
ด้านวิสด้อมก็เช่นกันตบกลับลูกตบของวาได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งสองโต้กันไปมาอย่างน่าอัศจรรย์ ทางด้านวาบางครั้งเปลี่ยนจากตบเป็นลูกตัด ไม่ก็ตบท๊อปสปิน ส่วนด้านวิสด้อมนั้นไม่ว่าวาจะตีลุกอะไรมาก็ตบกลับไปได้อย่างเหลือเชื่อ
เป็นการโต้กันอย่างไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว นั่นเพราะคนที่ชิงแต้มสิบได้ก่อนย่อมได้เปรียบในด้านจิตวิทยามากกว่า เพราะสามารถลดความกังวลว่าจะตบพลาดแล้วแพ้เลยไปได้
“ สุดยอด ” มิวอุทาน ไม่คิดว่าวาจะสามารถโต้กับวิสด้อมได้ถึงพริกถึงขิงขนาดนี้
ไลร่าก็เช่นกัน ยืนดูจนแทบลืมกระพริบตา วาในตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่ซ้อมกับเธอแม้แต่น้อย แต่ที่เธอรู้สึกเหลือเชื่อไปกว่านั้นคือ นอกจากเธอแล้วเธอไม่คิดว่าจะมีใครสามารถโต้กับวิสด้อมได้นานขนาดนี้ แถมยังไม่ใช่เพราะการตั้งรับแต่กลับเป็นเพราะการตีโต้
บางครั้งการตั้งรับที่ดีที่สุดก็คือ การโจมตีนั่นเอง
‘ ยังไม่ยอมแพ้อีกเรอะ ’ วิสด้อมคิด พลางตบลูกกลับ ตั้งแต่แข่งมานี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เขาถูกต้อนได้ถึงขนาดนี้ ‘ เจ้าหมอซ่อนฝีมือขนาดนี้ตั้งแต่เริ่มเกมไว้เพื่ออะไรกัน ’
อย่าว่าแต่วิสด้อมเลย แม้แต่ตัวของวาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน เขาเพียงอยากให้เกมนี้จบลงให้เร็วที่สุดเท่านั้น เผื่อที่จะได้รอโค่นครอสด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด พลังสมาธิของวาในตอนนี้เรียกได้ว่า หลอมรวมเป็นหนึ่งและพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้ว
‘ จังหวะนี้แหละ ’
ทันใดนั้นเองท่าร่างของวิสด้อมก็เปลี่ยนไป เมื่อลูกตบของวาเด้งเข้ามุมขวาของโต๊ะ วิสก้อมก็กระโดดเอียงตัวตามลูก ซึ่งถ้าจำไม่ผิดนั่นคือ หนึ่งในท่าไม้ตายของวิสด้อมที่ไม่มีใครสามารถสวนกลับมาได้ แม้แต่โล่ห์น้ำแข็งแห่งแสงอย่างไลร่าก็ไม่มีข้อยกเว้น
‘ Unreturned !!!’
ลูกตบที่รุนแรงราวเปลวอัคคีที่สามารถแผดเผาทุกสรรพสิ่งให้เป็นจุล พุ่งข้ามตาข่ายไปอย่างรวดเร็ว ต่อให้วาจะเตรียมตั้งรับก็ยากที่จะควบลูกที่มีความรุนแรงขนาดนี้กลับไปได้โดยที่ไม่เด้งออกจากโต๊ะ ความจริงอย่าว่าแต่โต้ลูกกลับไปเลย แค่ตีให้โดนลูกที่มีความเร็วขนาดนี้ก็นับว่ายากแล้ว
‘ ใครจะไปยอมกัน ! ’
วารวบรวมสมาธิที่มีอยู่ทั้งหมดจับจ้องไปยังลูกปิงปอง ทันใดนั้นภาพเบื้องหน้าคล้ายเคลื่อนไหวช้าลง ก่อนที่เท้าจะสลับก้าวตามลูก และง้างไม้ตวัดออก
‘ ฟึ่บ !!! ’
ลูกตบที่คล้ายดังประกาศิตพุ่งข้ามตาข่ายกลับไป ก่อนจะตกลงยังมุมโต๊ะฝั่งที่วิสด้อมตบมาอย่างอย่างพอดิบพอดี โดยที่ขาของวิสด้อมยังไม่ทันได้สัมผัสพื้นดี จากนั้นลูกปิงปองเด้งใส่เสื้อทีมบริงเกอร์เสียงดังแป๊ก ก่อนจะตกลงและหมุนคว้างไปกับพื้น
นั่นเป็นลูกตบที่เฉียบขาดที่สุด ยากที่จะหาคำใดมาบรรยายได้จริงๆ เพราะลูกตกลงยังมุมสามเหลี่ยมของขอบโต๊ะอย่างพอดิบพอดี ซึ่งยากมากที่จะตีลงได้ และแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตีโต้ ทั้งความเร็วและมุมที่ตกเรียกได้ว่า สุดยอดจริงๆ
‘ เป็นไปไม่ได้ ’
วิสด้อมแทบไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง มือซ้ายที่ก้มลงเก็บลูกปิงปองสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แม้กระทั่งตอนนี้ก็ไม่ยังอาจเชื่อว่าลูกตบที่ไม่น่าจะมีใครรับได้จะถูกสวนกลับมาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นสวนกลับที่เหนือกว่าลูกตบของตนอีกขั้นนึง
ลูกปิงปองที่วิสด้อมโยนกลับหาวาตกลงก่อนจะถึงหน้าวา เพราะแรงโยนไม่มา วิสด้อมถูกทำลายความเชื่อมั่นลงเสียแล้ว
‘ 10 9 อับดุลอินเตอร์ ’
กองเชียร์วาส่งเสียงกู่ร้องดังกระหึ่ม แม้แต่ไลร่าก็อดปรบมือให้ไม่ได้ ลูกตบเมื่อสักครู่ต่อให้เป็นเธอก็ไม่สามารถตั้งรับได้
“ สุดยอดจริงๆ ” โย และเรย์สองรุ่นน้องลมดำกล่าวแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
“ นี่แหละที่มาของฉายา ปีศาจ
. ” ลมดำยิ้มอย่างภูมิใจ แต่ในรอยยิ้มนั้นซ่อนความทุกข์ใจเอาไว้
‘ ตึก ’
วิสด้อมทรุดลงกับพื้น สูญเสียซึ่งความมั่นใจจนไม่กล้าตีลูกต่อไป แต่ก็ไม่แปลกหากใครก็ตามถูกตีโต้ขึ้นมาเจ็ดแปดลูกรวดโดยใช้ฝีมือเต็มที่แล้วยังไม่สามารถเบรกเกมเสิร์ฟได้ก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา
“ นี่ ” เสียงของโทโมะดังมาจากด้านหลัง “ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ”
แต่วิสด้อมเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงทรุดอยู่ตรงนั้นราวกับต้องการให้ทุกสิ่งหยุดลงแค่นี้
“ เฮ้ นายยังไม่แพ้สักหน่อย ลุกขึ้นสู้สิพวก ” คิงสตันเชียร์ แต่ผลก็ยังคงเดิม จนกระทั่งโทโมะทนไม่ไหวต้องวิ่งจากที่นั่งนักกีฬาไปหาวิสด้อม
“ ลุกชึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ”
โทโมะยืนสั่งวิสด้อม ไม่สนสายตาของคนทั้งห้อง
วาเหม่อมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไร้ความรู้สึก นี่ต่างจากเขากับสโนว์ตรงไหนกัน ทุกครั้งที่เขาล้มลงสโนว์ก็จะมาให้กำลังใจเขาเสมอ จากนั้นแววตาของวาดูเศร้าซึมขึ้นมา
ใช่แล้ว มันต้องต่างอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะดีกับเขาถึงเพียงใด สุดท้ายคนที่เธอเลือกก็ไม่ใช่เขาอยู่ดี ดังนั้นภาพเบื้องหน้าคล้ายเศษแก้วที่กรีดลงยังหัวใจของเขาอย่างช้าๆ สมาธิที่มีอยู่เริ่มรวน
“ ยังไม่รีบลุกอีก ” โทโมะเริ่มมีน้ำโห “ ถ้านายจะแพ้ชั้นก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ท่าจะมานั่งคุกเข่าแบบน่าสมเพชอยู่อย่างนี้ ชั้นรับไม่ได้ย่ะ ”
จากนั้นเค้นเสียงใส่วิสด้อม
“ นี่น่ะหรอผู้ชายที่ชั้นรัก ! ”
ทันใดนั้นวิสด้อมหันขวับไปที่โทโมะ หัวใจของเขาถูกจุดให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ด้วยกำลังใจที่โทโมะให้มา แต่ทว่าภาพที่เขาเห็นกลับตรงข้ามกับความหอมหวานนั้น
รองเท้าผ้าใบสีแดงที่ตีวงโค้งเข้าใส่ก้านคอวิสด้อมอย่างรวดเร็ว
และโดยไม่ทันได้ตั้งตัววิสด้อมที่เกือบจะลุกขึ้นได้ก็ลงไปนอนกับพื้น เพราะลูกเตะก้านคอแก้เขินของโทโมะ
“ แค่นี้ละ ขืนสู้ไม่เต็มที่เจอดีแน่ ” โทโมะปัดมือ จากนั้นกำมือก้าวกลับที่นั่งอย่างเร็ว พร้อมเสียงปรบมือแซวจากคนทั้งห้อง
พริบตานั้นวิสด้อมดีดตัวขึ้นมา ดันแว่นสีฟ้าและยิ้มอย่างมั่นใจ
“ ได้เลยสาวน้อย พี่จะไม่ทำให้รน้องผิดหวังแน่นอน ”
แต่ก็รีบหุบปากเมื่อเจอสายตาอำมหิตของโทโมะ ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่า ‘แข่งเสร็จแกตายแน่’
“ เอาละมาเริ่มกันเลย ” วิสด้อมบิดคอไปมา ท่าจะแพ้ก็คงเป็นเพราะโทโมะนี่แหละ
วาทอดสายตามองพื้น จากนั้นตีลูกออก ทว่าความเร็วกลับแตกต่างจากเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิง
“ เฮ้ ความเร็วตกลงได้ยังไงกัน ” วิสด้อมที่กำลังใจเต็มเปี่ยมหวดไม้ตบไปอย่างไม่ปราณี ครั้งนี้วากลับไปตั้งรับเหมือนเดิม ท่าทางกระตือรือร้นค่อยๆหายไป จากนั้นวิสด้อมหวดใส่ไม่ยั้ง แม้วาจะมีตบกลับไปบ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรวิสด้อมได้ เพราะวิสด้อมในตอนนี้ลุกโชนด้วยกำลังใจกว่าเดิมหลายสิบเท่า ดูไม่ออกเลยว่าเป็นฝ่ายที่โดยนำอยู่ และไร้ซึ่งความกดดันที่จะตีพลาดแม้แต่น้อย
ภาพโทโมะที่ให้กำลังใจวิสด้อมเสียดแทงจิตใจเบื้องลึกของวา ประกอบกับเสียงเชียร์ของสโนว์ที่เห็นว่าวากำลังแย่ นั่นยิ่งทำให้สมาธิของเขาเริ่มหมดไปทีละน้อยๆ
ลูกตบของวิสด้อมสาดมาไม่ยั้ง จนกระทั่งวาไม่สามารถต้านทานได้อีก เสียสมาธิตีลูกออกไปในที่สุด
‘ สิบเท่า ! เปลี่ยนเสิร์ฟ ’
เกมกลับมาผลิกอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไม่มีดิวเกม ซึ่งก็คือตัดสินกันในลูกต่อจากนี้ แถมวิสด้อมยังได้เป็นฝ่ายเสิร์ฟเสียด้วย
“ แย่แล้วสิ ” พรีสไซกัดฟัน
วาส่ายหน้าพยายามตั้งสติ แต่จู่ๆมือที่จับไม้ และขาก็สั่นขึ้นมา
‘ หยุดสั่นสิ อีกลูกเดียว ตั้งสมาธิหน่อยสิ ’ วาบอกกับตัวเอง แต่ร่างกายยังคงไม่เชื่อฟัง
“ จะเสิร์ฟละนะ”
วิสด้อมไม่เปิดโอกาสให้วากลับมามีสมาธิอีก รีบชิงโอกาสเสิร์ฟต่อทันที
‘ ฟึ่บ ’
ทันใดนั้นลูกเสิร์ฟที่ร้อนแรงราวเปลวอัคคีสีดำก็พุ่งตรงเข้าหาวา
‘ ป๊อก ’
ยังดีที่วาเรียกสมาธิกลับมาได้ ตั้งรับลูกเสิร์ฟไว้ได้ทัน วินาทีตัดสินมาเร็วกว่าที่เขาคิดไว้ หากเขายังไม่เสียสมาธิไป เขาคงจะปิดฉากวิสด้อมได้ตั้งแต่ลูกที่แล้วไปแล้ว
‘ เราจะแพ้ไม่ได้ ’ วาบอกกับตัวเองขณะพยายามตั้งรับอย่างสุดกำลัง รู้สึกเลยว่าสมาธิ และความมั่นใจที่จะตบลูกแบบเมื่อสักครู่นี้หายไปเสียแล้ว ตอนนี้เขาทำได้แค่เพียงตั้งรับเท่านั้น
แต่หากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ใช่หมายถึงความผ่ายแพ้หรอกหรือ อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีท่าทีว่าจะตีโต้ หรือตบกลับไปแม้แต่น้อย ซึ่งความจริงหากวาเพียงแค่ตบกลับไป วิสด้อมก็ต้องเขว หรืออย่างดีที่สุดก็คือ วิสด้อมอาจจะแพ้ไปเลยก็ได้ เพราะลูกตบของวาแต่ละครั้งเฉียบคมและรุนแรงไม่แพ้ลูกตบของวิสด้อมเลยแม้แต่น้อย หากวัดกันตามความเป็นจริง ถึงกับเหนือกว่าด้วยซ้ำ แต่วาไม่กล้าตบออกไป เขาไม่มีความมั่นใจว่าตนจะควบคุมลุกไม่ให้ออกได้ และนั่นคือจุดอ่อนอันยิ่งใหญ่ของเขา
“ ทำไมพี่ว่าถึงไม่ตบกลับไปละ แค่ตบกลับก็อาจจะชนะแล้วก็ได้ ” โยถามลมดำ แต่ไร้ซึ่งคำตอบ ทุกคนในตอนนี้ต่างลุ้นกับการแข่งครั้งนี้อย่างลืมหายใจ ผิดกับสโนว์ที่ยังคงตะโกนเชียร์วาอย่างไม่ขาดสาย
“ สู้เขา ระวังนะ ว๊าย ! ”
‘ ไม่ไหวแล้ว ’ วาล้าเต็มที่ แต่ละเสี้ยววินาทีที่เขาต้องคอยตั้งรับแทบจะดึงสมาธิทั้งร่างกายของเขาไป ซึ่งก็จริงวาในขณะนี้ตั้งรับได้ไม่แพ้ไลร่าเลยทีเดียว แต่สมาธิของสาไม่มากพอที่จะตั้งรับอีกต่อไปแล้ว
‘ ป๊อก ’
วาปรับหน้าไม้ตั้งรับอย่างหมดแรง สมาธิทั้งหมดตกวูบไปหมดสิ้นแล้ว นี่คงจะเป็นการตั้งรับครั้งสุดท้ายของเขา ภาพลูกปิงปองลอยโด่งข้ามไปหาวิสด้อมที่กำลังเตรียมตบปิดเกมในลูกต่อไปตรงหน้าเขา คงจะเป็นภาพสุดท้ายของเกมนี้
ขาของวาล้าเกินกว่าจะวิ่งไปตั้งรับลูกยก และแขนของเขาล้าเกินกว่าที่จะตั้งรับได้อีกแล้ว
“ จบเกมสักที !!! ”
วิสด้อมกระโดดเอี้ยวตัวตบลูกอย่างสุดกำลัง ลูกตบที่ไม่มีใครรับได้เป็นครั้งที่สอง
‘ Unreturned !!! ’
“ ไม่นะ ! ” สโนว์อุทาน เห็นชัดแล้วว่าวิสด้อมเป็นฝ่ายชนะ ลูกตบอันบ้าคลั่งพุ่งข้ามตาข่ายมาอย่างดุดัน ด้วยการตั้งท่าของวาในตอนนี้ไม่สามารถใช้การตั้งรับได้ เพราะลูกตบนั้นแรงเกินไป และองศาประกอบกับพลังสมาธิในตอนนี้ของวามีน้อยเกินไป
ทว่าทันใดนั้นเอง ขณะที่ลุกปิงปองกำลังจะสัมผัสพื้นโต๊ะฝั่งวา ประตูห้องแข่งก็เปิดออกอย่างเร่งร้อน ก่อนที่เสียงใสจะตะโกนข้ามจากประตูอย่างสุดเสียง
“ อย่าแพ้เขานะ ”
พริบตานั้นภาพเบื้องหน้าของวาคล้ายกลับมาเป็นภาพช้า ตาของวาเบิกกว้าง จับจ้องยังลูกปิงปอง ขณะนี้เขาเห็นทุกอย่างชัดเจนหมด ลูกปิงปองของวิสด้อมพอสัมผัสกับพื้นโต๊ะก็เด้งขึ้นอย่างรุนแรง
ด้วยสภาวะเช่นนี้วาไม่สามารถตั้งรับได้อีกต่อไป แต่ด้วยเคมีบางอย่างในร่างกายทำให้วาตัดสินใจตวัดไม้ออกไปในเสี้ยววินาทีนั้น
‘ ฟึ่บ !!! ’
ลูกปิงปองพุ่งเฉียดตาข่ายกลับไป ก่อนที่จะปาดกับขอบโต๊ะลงยังพื้นอย่างรวดเร็วโดยที่ขาของวิสด้อมยังเตะพื้นไม่ถึงวินาที
พร้อมกันนั้นเสียงออดคะแนนจบการแข่งก็ดังก้อง ทุกคนรีบหันขวับไปยังสกอลบอร์ด จากนั้นต่างพากันไม่เชื่อสายตาตัวเอง
‘ 11 10 ดับดุลอินเตอร์เป็นฝ่ายชนะ ! ’
มีเพียงเสียงอื้ออึงจากความสงสัยเท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นวิถีของลูกตบของวาเมื่อสักครู่
“ เฮ้ย ประกาศคะแนนผิดหรือเปล่า ”
นักเรียนบริงเกอร์ที่นั่งแถวๆมิวเริ่มบ่น แม้แต่มิวเองก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าตาเขาไม่ได้ฟาดเมื่อสักครู่ภาพที่เขาเห็นก็คือ วาที่จู่ๆทำท่าจะแพ้แล้วก็ตัดสินใจตวัดไม้ออกในท่าที่เหมือนจะกระโดดจากพื้นเล็กน้อย จากนั้นลูกตบของวาก็พุ่งปาดลงยังขอบโต๊ะ
นั่นมันเป็นลูกตบที่ไม่มีวันรับได้ชัดๆ เพราะมันเป็นลูกตบที่เฉียดขอบโต๊ะ และจะไม่มีการเด้งขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมีเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้น
ลมดำหัวเราะอย่างมีความสุข มองไปยังวา “ ดาบอัคคีทมิฬถูกโค่นลงเสียแล้ว สมแล้วจริงๆที่ได้ฉายาว่า ปีศาจ ”
“ เล่นเอาแทบหยุดหายใจเลยนะไอ้บ้านี่ ” พรีสไซเบาลมออกจากปาก ความดีใจระคนปลาบปลื้มทำให้เลือดในกายสูดฉีดไปทั่วร่าง
“ ลูกตบแบบนี้ ต่อให้เป็นนายก็คงจะรับไม่ได้จริงไหม ” ยิ้มกริ่มให้โซลีน
“ ไม่ผิดแน่ พลังสมาธินั่นเป็นของจริง ” โซลีนกล่าว
“ ยะ ยิน
”
สโนว์ขณะกำลังจะก้าวเข้าไปแสดงความยินดีกับวาก็ถูกหญิงสาวท่าทางอิดโรยคนหนึ่งเข้ามายิ้มตัดหน้าให้กับวาก่อนเสียแล้ว
“ ยินดีด้วยนะ”
วาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง แต่พอหันไปเขาก็รู้อยู่แล้วว่าผู้กล่าวเป็นใคร
“ ขอบคุณมากนะ ”
“ แหะๆ ไม่เป็นไรจ๊ะ ” โซเฟียหอบหายใจ “ ว่าแต่ลุ้นเป็นบ้าเลยนะ เราเกือบจะทำนายแพ้แน่ะ ”
วาเอียงคออย่างสงสัย
“ ก็เราเผลอพูดขัดตอนที่นายกำลังใช้สมาธิอยู่นี่ ”
คำพูดนี้พอสโนว์ได้ยินก็คล้ายโดนมีดกรีด
“ คิดมากน่า ถ้าไม่ได้ยินเสียงเธอป่านนี้เราคงแพ้ไปแล้วละ ”
หัวใจของสโนว์สั่น เธอรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
‘ นี่เสียงเชียร์ของเราไม่มีความหมายเลยหรือยังไง ’ แต่สโนว์ก็ฝืนใจปั้นยิ้มเมื่อเห็นวาหันมาทางตน ขณะกำลังจะกล่าวแสดงความยินดีอีกครั้ง ไหล่ของตนก็ถูกโอบด้วยแขนที่ร้อนผาว
“ ไม่เลวนี่ ” ครอสเอ่ยปาก สายตาเต็มไปด้วยความแค้น พร้อมกับสองผู้คุมกฏดำขาวที่หัวเราะร่าอย่างน่ากวนโมโห
“ แต่ก็ได้แค่นี้แหละ ” ทูตดำกล่าว
“ ใช่ๆ ก็ได้แค่นี้แหละ เพราะว่ายังไง
” ทูตขาวเสริมจากนั้นชูนิ้วโป้งขึ้น แล้วค่อยกลับหัวลง “ แกก็ต้องแพ้พวกเราอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ ”
‘ ฟ้าว ! ’
ทันใดนั้นลูกปิงปองพุ่งใส่หน้าทูตขาวที่กำลังกล่าวอยู่ แต่ถูกไม้ปิงปองในมือครอสตบกลับไปได้อย่างเหลือเชื่อ แม้แต่วาเองก็ไม่คาดคิดว่าปฎิกิริยาตอบสนองของคนๆหนึ่งจะทำได้เร็วถึงเพียงนี้
“ ร้ายกาจมาก ”
พรีสไซรับลูกปิงปองที่สวนกลับมาได้อย่างหวุดหวิด มือที่รับลูกรับรู้ได้ถึงพลังการตบและพลังสปินลูกอันน่ากลัว
“ หนอย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน ” ทูตขาวไม่พอใจ แต่ถูกครอสปรามไว้ สายตานั้นเย็นชาจนน่ากลัว แม้กระทั่งพรีสไซหรือโซลีนก็อดขนลุกไม่ได้
“ ไว้เจอกันในรอบชิง ถึงตอนนั้นชั้นจะเป็นคนขยี้พวกแกเอง ”
จากนั้นดึงแขนสโนว์
“ ไปก่อนเถอะ ”
“ ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นแกสองคนเสร็จพวกเราแน่ ” ทูตดำแลบลิ้น ส่วนทูตขาวกล่าวย้ำ “ เสร็จพวกเราแน่ ”
“ เฮ้ ที่ว่าจะขยี้พวกนายน่ะ นั่นมันคำพูดของเราต่างหาก ! ”
วาตะโกนลับหลัง ทำให้ครอสหยุดกึก หนึ่งสายตาเย็นชา หนึ่งสายตาขี้เล่นท้าทายหันมาประสานกัน
ส่วนสโนว์กับโซเฟียก็เช่นกัน หนึ่งสายตาไร้เดียงสา กับหนึ่งสายตาริษยาประสานหากันโดยไม่รู้ตัว ทางด้านพรีสไซกับโซลีน และทูตดำขาวเองก็เช่นกัน
ทั้งแปดนิ่งเงียบ ก่อนที่จะบรรยากาศตึงเครียดจะถูกสลายไปด้วยเสียงปรบมือจากคนทั้งห้อง ตามมาด้วยเสียงขานเรียกผู้เข้าแข่งขันแต่ละโรงเรียนให้มาจับมือกัน
ครอสไม่ต่อคำ เพียงทิ้งท้ายไว้ด้วยสายตาอำมหิต จากนั้นหันหลังเดินจากไปพร้อมกับสโนว์
สิ่งที่วาบอกได้ก็คือ เรื่องราวต่อจากนี้คงไม่ง่ายแน่นอน
..
_________________________________________
ความคิดเห็น