ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #112 : Have a Good Day!

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 64


    Have a Good Day!
    Playlist: Fukuyama Masaharu – HELLO











    .

    หลังจากที่กองหนังสือถูกจัดเก็บเข้าชั้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่เคยว่างเปล่าถึงก่อนหน้านี้ก็กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยข้าวของจำนวนมากมายจากผู้เช่าห้องรายใหม่ ซึ่งจะล้มตัวลงนอนผ่อนความเมื่อยล้าจากการจัดห้องมาตลอดครึ่งวันเช้า แสงแดดอ่อนๆ และสายลมที่พัดโชยผ่านผ้าม่านสีขาวผืนบางให้พลิ้วไสวในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ ของฤดูใบไม้ผลิ เป็นเหมือนสัญญาณการเริ่มต้นที่ดีสำหรับยูกิ มิยะ จนนัยน์ตาที่ปิดลงต้องลืมตื่นและเด้งตัวผลุนขึ้นจากเตียง พรวดพราดไปหยิบเอาถุงกระดาษที่มีห่อคุกกี้สไตล์แฮนด์เมดฝีมือตัวเอง ทั้งผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้สำหรับเพื่อนร่วมหอพักคนใหม่ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ถึงแม้ว่ามิยะอาจจะไม่ได้มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากนัก หากการผูกมิตรสัมพันธ์กับผู้คนนั้นถือเป็นเรื่องที่พึงกระทำ ต่อให้ผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ อย่างน้อยก็ถือว่าเธอได้พยายาม

    มิยะจึงกอดถุงกระดาษทั้งที่มีเชือกเป็นหูหิ้วไว้แนบอก ด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มน้อยๆ และหัวใจที่พองโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อจับลูกบิดเปิดออกจากห้อง เสียงฝีเท้าที่เดินขึ้นบันไดมาเรียกความสนใจใคร่รู้ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ ที่แม้กระทั่งตัวเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสีหน้าของตนเองในเวลานี้นั้นเป็นเช่นไร?

    นอกจากรอยยิ้มกว้างแล้วก็ไม่มีคำพูดอื่นใดอีก ในยามที่เจสซี่ ลูอิสก้าวเร่งฝีเท้าเดินตรงมาหาเธอที่ราวกับถูกตอกตรึงอยู่กับที่ ปล่อยให้เขามาหยุดอยู่ตรงหน้าโดยไม่ปิดบังความดีใจในน้ำเสียงเมื่อทักทายเลยแม้แต่น้อย

    “มิยะ! ใช่เธอจริงๆ ด้วย!

    เธอเพียงพยักหน้า รู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ถุงกระดาษจนเกิดเป็นเสียงดังเสียดสีกันไปมา

    “ย้ายมาพักที่นี่เหรอ?” หากสิ่งที่ชายหนุ่มให้ความสนใจในตอนนี้กลับมีเพียงเพื่อนเก่านับแต่สมัยไฮสคูลเสียมากกว่า

    “อื้อ” อีกครั้งที่เธอเพียงแค่พยักหน้าตอบรับด้วยเสียงแผ่วค่อย จากนั้นริมฝีปากสีชมพูก็ขยับขึ้นลงเป็นคำถาม พร้อมกับที่นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอจะจดจ้องมองเขาตรงๆ อยู่ครู่หนึ่ง “แล้วเจสซี่ล่ะ พักที่นี่เหมือนกันเหรอ?”

    “ฉันพักอยู่ที่ห้อง 203 นี่เอง เธอพักอยู่ห้อง 202 นี่ใช่ไหม? โชคดีชะมัดเลยที่เราพักอยู่ห้องใกล้กัน”

    คำพูดของเขาจะทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว จนต้องรีบกลบเกลื่อนด้วยการหยิบห่อคุกกี้ยื่นให้แก่เขา เพื่อปกปิดความรู้สึกที่ตีกันอยู่ข้างในใจ มิยะจึงเอ่ยขึ้นก่อนคำพูดของเขาจะส่งมาว่า “ฉันทำมาให้ทุกคนในหอพักน่ะ ไม่ได้พิเศษอะไรหรอก” เสียรวดเร็ว

    เพราะมัวแต่แสร้งก้มหน้าจัดของในถุง เธอจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มที่เจื่อนลงไปชั่วแว่บหนึ่งของเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเช่นปกติเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เจสซี่เปล่งเสียงหัวเราะในตอนที่หยิบห่อถุงกระดาษมาพลิกพิจารณาอย่างสนใจ

    “ไม่ยักรู้ว่าเธอทำคุกกี้เป็นด้วย”

    “เป็นสิ!” คนถูกพาดพิงถึงกับต้องตะโกนเสียลั่น “อร่อยด้วยนะ!

    “ไม่เจอกันแค่ห้าปี เดี๋ยวนี้ชมตัวเองก็เป็นแล้วเหรอ?” เจสซี่ยิ่งดูเหมือนจะชอบใจขึ้นไปอีก เมื่อใบหน้าสดสวยของคนตรงหน้าจะงอง้ำลงไปกว่าเดิม

    “ฉันไม่ได้ชมตัวเองสักหน่อย!” เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งด้วยอาการฟึดฟัดอย่างที่เจสซี่ไม่คุ้นเคย...แต่ก็พอจะเคยคุ้น “ไม่เชื่อก็ลองชิมดูเลย ถ้าติดใจก็อย่ามาง้ออีกแล้วกัน!

    ครั้นเจสซี่หัวเราะรวนร่า เปิดถุงกระดาษผูกโบสีแดงออก แล้วหยิบเอาคุกกี้อัลมอนด์ขึ้นมากัดชิมเพื่อพิสูจน์ฝีมือตามคำท้า หัวใจของเธอก็เหมือนกับจะเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้งอย่างที่ได้เคยเป็นมาตลอดสามปีที่รู้จัก นั่นทำให้เธอต้องร้องเตือนตัวเองในใจดังๆ ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยสักนิด! ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็มีคนรักเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ส่วนเขาก็อาจจะมีใครในใจอยู่แล้วก็ได้ แน่สิ! เขาเคยเป็นหนุ่มป็อปปูลาร์ประจำโรงเรียน และมันยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในความคิดของมิยะเลยสักนิด จะมีก็แต่ผมสีทองสว่างที่ทำให้เขาดูแปลกตาไปจากเดิม หากนอกเหนือจากนั้นแล้ว เขาก็ยังคงเป็นเจสซี่ ลูอิสที่ดูดีที่สุดในสายตาของเธอเสมอ

    “เฮ้ยจริงด้วย อร่อยมากเลย!” เป็นปฏิกิริยาที่ออกมาจากใจจริง จนมิยะไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี สุดท้ายก็เพียงแค่ยกยิ้ม ยืดตัวเชิดใบหน้าโอ่ตัวเองเล็กๆ อย่างภาคภูมิใจกับคำชมที่ได้รับ

    “ใครได้เธอไปเป็นแฟนคงจะโชคดีมากแน่ๆ” ก่อนสีหน้าของเธอจะเปลี่ยนเป็นกระตุกวูบ ยิ่งเมื่อเขาเอ่ยประโยคคำถามถัดมาด้วยท่าทีเบาสบายว่า “ว่าแต่เธอมีแฟนแล้วหรือยัง?”

    การกระทำกลับไวกว่าความคิดและคำพูดที่พยักหน้าแทนการตอบคำถาม ก่อนจะโยนคำถามเดียวกันกลับไปหาเขาที่จะทำให้เธอประหลาดใจว่า “งั้นเหรอ? แต่ฉันยังไม่มีหรอก”

    หัวสมองของเธอตีรันไปหมดกับสิ่งที่ได้ยิน การได้รู้ว่าเขาไม่มีใครมันคงจะเป็นเรื่องดี ถ้าเพียงแต่เธอเองก็จะยังไม่มีใครเหมือนกัน

    ครั้นแล้วสายลมก็พัดผ่านบานกระจกเข้ามาราวกับจะปัดเป่าความกังวลให้เบาบาง มิยะเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มกว้างๆ บนใบหน้าอย่างที่เป็นตัวเธอ...เป็นตัวเธอในแบบที่ดีและเป็นแบบที่เจสซี่ชอบมองดูมันอยู่เสมอ เมื่อนั้นเขาจึงแตะระบายรอยยิ้มกว้างๆ ออกมาเช่นเดียวกัน

    “ถ้ายังไงก็ขอฝากตัวอีกครั้งด้วยนะคะ คุณเจ้าของห้องข้างๆ” ด้วยน้ำเสียงล้อเลียนในท้ายประโยคชัดเจน

    “ไม่มีปัญหาครับ คุณเจ้าของห้องข้างๆ เหมือนกัน” ซึ่งจะเรียกเสียงหัวเราะและยอกย้อนคำพูดกลับคืนไปเป็นเชิงหยอกเย้า ตามประสาชายหนุ่มคนร่าเริงขึ้นมาได้ “เอาเป็นว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกให้ฉันช่วยได้เสมอเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ เหมือนอย่างสมัยเรียนไง”

    “อื้อ ขอบคุณมากนะ” เธอพยักหน้ารับแรงๆ ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะสดใสไม่ได้ต่าง ความเก้อเขินและกระอักกระอ่วนถึงก่อนหน้าดูจะจางหายไป สถานการณ์ระหว่างเธอกับเจสซี่ราวหวนกลับคืนสู่ปกติที่เคยเป็นมานับแต่สมัยเรียน นั่นคือความรู้สึกดีและวางใจเสมอเมื่อได้อยู่เคียงข้างกัน

    ก่อนโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของมิยะจะดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อเธอยกขึ้นดูและเห็นเป็นชื่อเล่นของคนรักจึงรีบลดมันลง หารู้ไม่ว่าเจสซี่เองก็ทันได้มองเห็นมัน แม้ไม่อยากจะให้ช่วงเวลาดีๆ ระหว่างกันต้องสิ้นสุดลงไปไวนัก แต่มิยะก็จำต้องขอตัวก่อน บอกลาเจสซี่ที่โบกไม้โบกมือเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร

    คุกกี้ในมือ แสงแดดที่สาดส่อง และสายลมของฤดูใบไม้ผลิ เขามองเห็นต้นและดอกของซากุระสีชมพูที่เบ่งบานอยู่ในสวนผ่านหน้าต่างทางเดิน ทุกอย่างช่างดูดีจนเขาอดไม่ได้ที่จะร้องเรียกเธออีกครั้ง

    “มิยะ”

    เพราะยังไม่ทันได้ตอบรับสายจากปลายทาง เสียงริงโทนจึงยังคงดังเป็นเพลงประกอบฉากให้แก่พวกเขาทั้งสองคน มันคือเพลงฮิตของศิลปินชายเบอร์ต้นๆ ของญี่ปุ่นนามฟุคุยามะ มาซาฮารุที่วางขายตั้งแต่ปีหนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบห้า  เจสซี่แน่ใจว่าเขาไม่เคยเห็นเธอฟังเพลงเก่าขนาดนี้ตลอดช่วงเวลาที่รู้จักกันมา แตกต่างกับเขาที่เติบโตมากับบทเพลงนี้ตั้งแต่จำความได้เพราะพ่อชอบ ท่อนฮุคของเพลง เฮลโล ที่บันทึกอยู่ในเมมโมรี่ของความทรงจำนานนับสิบปีหวนคืนกลับมาให้ได้รำลึกอีกครั้ง

    สีหน้าแทนคำถามในยามที่เอียงคอจ้องสบนัยน์ตากลมโตมายังเขา นั่นเรียกความกล้าขึ้นมาอย่างที่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะสามารถขนาดนั้น  ไวกว่าที่จะทันรู้ตัว เขาก็พูดทวนประโยคจากเนื้อเพลงท่อนที่เพิ่งจะจบลงก่อนเริ่มต้นขึ้นท่อนฮุคใหม่อีกครั้ง

     

    君と笑顔 つかまえるのさ きっと

    ผมมั่นใจว่าจะต้องไขว่คว้าทั้งตัวและรอยยิ้มของคุณมาให้ได้

     

    “เอ๊ะ?

    “ขอให้เป็นวันที่ดีนะ!

    ตัดบทสนทนาก่อนหญิงสาวที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวเดินจะได้เอ่ยถามอะไรอีก เขายิ้ม มั่นใจว่าเห็นใบหน้าของเธอขึ้นสีระเรื่อที่ไม่ได้มาจากบรัชออนสีชมพูอ่อนจางบนพวกแก้มอย่างแน่นอน

    เพียงแค่นั้น เจสซี่ก็รู้ว่าฤดูใบไม้ผลิแห่งความรักและโชคชะตาได้หวนกลับคืนมาอีกครั้งแล้ว

     











    2020年11月17日
    ______________
     ทอล์คเก่าเล่าว่า...เนื่องจากเอ็มสเตวีคที่สโตนส์ไปพร้อมทไวซ์และคุณฟุคุยามะที่รักของเตง แล้วกูก็นึกขึ้นได้ว่าเคยแต่งฟิคที่ใช้เพลงนี้ มันก็ไม่ถึงขนาดเห่ยจนรับไม่ได้ เพราะแต่งตั้งแต่สมัยปี 2013 ที่เป็นวัยรุ่นวัยใส ไม่แนวไฮสคูลก็อินดี้แบบใสมาก คาเฟ่ สตรีทไลฟ์ ว่าไป ไนท์ไลฟ์อะไรยังไม่มี๊ (ตอแหล) แต่ภาษาก็ถือว่าใช้ได้ว่ะ เอามาตบๆ นิดหน่อยก็ไม่เลว พล็อตอาจดูเหมือนเจสซี่จะไปแย่งมิยะมา...ซึ่งถูกต้องแล้ว ไม่ปฏิเสธ เพราะมิยะเองก็ชอบเจสซี่มาตั้งแต่สมัยเรียนเหมือนกัน รักแรกมันแยกยาก ชีวิตก็งี้แหละ อุทิศฟิคนี้ให้มึงเพราะพอเพลงนี้ขึ้นโมโมะกับเจสซี่ก็โยกหัวตาม (จริงๆ ซานะด้วย ไทกะก็ด้วยโว้ย!) เราเลยแบบเฮ้ย ไม่ได้ละป่ะ! คิดดู มึงชอบไซไอมากกล้องก็จับหน้าพี่เจสซี่ร้องเพลงนี้ อย่างกูนี่ชอบนิจิมากก็เป็นเพลงโปรดของไทกะกับโคจิ เนื้อคู่แล้วนะแบบนี้ ส่วนฟิคซากุระซากะรอกูคอมมิชรูปก่อนแล้วจะเอามาลงใหม่นะ 55555 (โอ๊ยจริงๆ แอบอยากเปลี่ยนเป็นเซเว่นเม็นเพราะเป็นวงดนตรี แต่พล็อตของโฮคุโตะมันเหมาะกับคนปี้ที่สุด ทีนี้พอนึกถึงฉากแบกขึ้นหลังคือไม่ได้ว่ะ จริงๆ ทั้งวงก็ไม่ได้สักคนแหละ หลังหักหมด ฉะนั้นเราจึงจะยังอยู่กับโฮคุเจบนเนินซากุระกันต่อไป สวัสดี)
     และขอบคุณรูปคอมมิชจากคุณแองเจิ้ลจังคนดีที่ห่างหายไปนานของกูเอง ถึงอย่างนั้นก็ยังส่องงานเค้าอยู่เรื่อยๆ ที่งานอัพขึ้นมากในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี ประทับใจมาก และกูดีใจมากที่มีคนจ้างเค้าเยอะขึ้นแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เค้ามาแซวฮาๆ ว่ามีแต่กู (เศร้า) แต่ก่อนหน้านั้นมันติดอะไรไม่รู้ กูก็ไม่รู้ เลยไม่ได้กลับไปจ้างสักที ทีนี้พอเห็นเค้ากลับมาเปิดในกรุ๊ปเลยว่าเอาล่ะ เราจะคัมแบคกับแนวใสๆ ญี่ปุ่นๆ ที่เรื่องนี้แหละ! ที่จริงตอนแรกจะให้นางเอกถือตุ๊กตาม้าลายเว้ย แต่หายังไงก็ไม่น่ารัก ม้าลายไม่น่ารักอ๊ะป่าว U_U เลยเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาหมีแล้วให้ผูกโบว์สีแดงแทน ที่หมีนุ้บนิ้บนุ่มฟูมากเว้อ แบ๊วเว้อค่ะพี่สาว >_< ส่วนคอสตูมกับต่างหูมาจากจื่อวี่ที่มีการดัดแปลงนิดหน่อย  ส่วนพวกจัดวางอะไรนี่กูให้เค้าทำเองหมดเลยเพราะกูเชื่อใจไอเดียของเค้าอยู่แล้วที่ก็ไม่ผิดหวังจริงไหมวะ! ส่วนภาพก็เน้นสีเหลืองแดงให้สุดไปเลย ที่ก็ออกมาลงตัวดีมาก โอ๊ยยย แล้วคือไม่ได้ตั้งใจอยากให้ภาพออกมาแนวยุคเก่างี้นะ แต่พอใส่ฟอนต์ ใส่ของโน่นนี่เข้าไปมันดันออกมาได้ว่ะ! เหมือนพวกแฟนอีดิทวงเกาหลีเป็นรูปปกแมกญี่ปุ่นไรงี้เลยซึ่งกูก็มองๆ หาเรฟไว้อยู่ เนี่ย คุรเจิ้ลกูไม่เคยทำให้ผิดหวังไหมวะ! เพราะฉะนั้นฟิคซิตี้ป็อปกูต้องมาได้แล้ว รอดูได้เลย ถึงจะมาแค่คาแรคฯแต่ก็มาแน่ ซูชิคุยเนะกับกูไหมล่ะ!
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×