คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : Special: ชะตาลิขิตถึงอนาคต (4)
Note: แนะนำว่าให้ฟังเพลงนี้เพื่อได้บรรยากาศ(?)
https://www.youtube.com/watch?v=dr0Nxj6G4JA
หลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้และฆาตกรรมคฤหาสน์ชิโรซากิวันนั้น ซาโตรุก็ไม่ได้เจอกับยูกิฮิเมะอีกเลยทำให้ชายหนุ่มเศร้าซึมไปพักใหญ่ ถึงจะไม่ได้อาการหนักอย่างไม่ยอมกินข้าวกินปลาหรือขังตัวเองอยู่ในห้อง เขาก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแต่บรรยากาศรอบตัวเขามันหมองลงอย่างเห็นได้ชัดจนเจ้านายของซาโตรุอดเป็นห่วงไม่ได้และคอยสังเกตอาการของอีกฝ่ายเป็นประจำ
จนกระทั่งหนึ่งปีต่อมา มีอยู่วันหนึ่งที่ซาโตรุทำงานอยู่นั้นจู่ๆก็มีผีเสื้อน้ำแข็งบินมาหาพร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง พอเขารับมาเปิดอ่านและเห็นลายมือบนจดหมายนั้นก็จำได้ทันทีว่านี่คือลายมือของยูกิฮิเมะจากการที่เป็นเพื่อนทางจดหมายมานานจนเขาจำลายมือเธอได้ โดยเนื้อหาในนั้นพูดถึงชีวิตหลังจากที่กลายเป็นคำสาปแต่ก็ยังมีถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอีกฝ่ายด้วย ตรงเนื้อหาช่วงท้ายยังบอกขอโทษที่อยู่ๆก็หนีไปดื้อๆ ถ้าเกิดไม่อยากคุยกันอีกแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายังอยากคุยอยู่เหมือนเดิมก็สามารถเขียนจดหมายและให้ผีเสื้อที่บินมาหาเขาไปส่งจดหมายให้เธอได้ แน่นอนว่าด้วยความคิดถึงเขาอยากจะคุยกับเธอต่อเลยเขียนจดหมายถึงเธอทันทีและส่งให้ผีเสื้อน้ำแข็งตัวนั้นส่งไปยังเจ้านายของมัน
แม้ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันต่อหน้าแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีการติดต่อกันผ่านจดหมายเป็นแบบนี้เรื่อยๆ แถมยูกิฮิเมะบอกว่าตัวเองได้ประมือกับราชาคำสาปเรียวเมน สุคุนะโดยไม่ได้ตั้งใจแต่ก็หนีรอดมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดแต่ต้องแลกกับอาการบาดเจ็บที่หนักเอาการ
จนกระทั่ง
วันที่ 24 ธันวาคม ปี 1275
เวลาได้ล่วงเลยไปเกือบถึง 75 ปี ซาโตรุในวัยชรานอนป่วยติดเตียงอยู่ในบ้านของตนและคิดว่าอาการป่วยเรื้อรังมาเป็นเวลานานนี่น่าจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะมีชีวิตอยู่แล้วและเลือกที่จะจากไปอย่างสงบ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ภาวนาว่าไหนๆตัวเองก็กำลังจะตายแล้วหากพระเจ้ามีอยู่จริง
ขอให้เขาเจอกับยูกิฮิเมะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเถิด
และทันใดนั้นเอง จู่ๆลมหนาวกลับพัดเข้ามาในห้องให้เย็นขึ้นมาดื้อๆ เขาหันหน้าไปมองแล้วพบว่าประตูฝั่งสวนหลังบ้านของตนมันเปิดอยู่ซึ่งเขาสงสัยว่าก่อนหน้านี้มันปิดอยู่แล้วมันเปิดเองได้ยังไง แต่ไม่นานความสงสัยก็กระจ่างเมื่อมีร่างของหญิงสาวปริศนาสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าเข้ามาในบ้านและยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปาก พอเธอก็ยกผ้าคลุมขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงและเปรยตามองเขาเท่านั้นแหละ ชายแก่ก็อึ้งไปในทันทีเพราะว่าหญิงสาวปริศนาคนนั้น
คือชิโรซากิ ยูกิฮิเมะนั่นเอง นอกจากม่านตาของเธอที่มีลักษณะเรียวเหมือนมังกรแล้ว ตรงโหนกแก้มของเธอก็มีเกล็ดมังกรขึ้นอยู่ตรงนั้นอีก
“...เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ซาโตรุ” ยูกิฮิเมะในชุดกิโมโนปาดไหล่โทนสีฟ้าขาวเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ซาโตรุได้ยินแล้วกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ท่านยัง…เหมือนเดิมเลยนะขอรับท่านยูกิฮิเมะ”
“เอาอะไรมาเหมือนเดิมกัน ข้าไม่ใช่มนุษย์เหมือนเจ้าแล้วนะ” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยแล้วนั่งลงข้างๆ
“ถึงท่านจะพูดแบบนั้นแต่ในสายตาข้าท่านยังคงเป็นท่านยูกิฮิเมะคนเดิมที่ข้ารู้จักอยู่ดีนะขอรับ”
“เฮ้อ…” เธอถอนหายใจก้มหน้ายอมแพ้
“...จะไปแล้วเหรอ”
“ขอรับ ข้าคงอยู่ได้อีกไม่นานแต่การที่ท่านปรากฏตัวอีกครั้งแบบนี้ ข้ารู้สึกดีใจเหลือเกินขอรับ” ชายแก่ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะเหลือบไปเห็นว่าข้างตัวเธอมีดาบคาตานะอยู่
“ท่านใช้วิชาดาบได้แล้วเหรอขอรับ”
“ก็…ประมาณนั้น”
“ฮึๆ ถ้าเป็นไปได้ข้าเองก็อยากเห็นนะขอรับ” แล้วทั้งคู่ก็เงียบไประยะนึง จนกระทั่งยูกิฮิเมะเอ่ยปากพูด
“นี่ซาโตรุ”
“?”
“เสียใจรึเปล่า”
“เรื่องอะไรเหรอขอรับ”
“ที่รู้จักข้า” สิ้นประโยคของเธอ ซาโตรุก็เงียบใช้ความคิดไปพักใหญ่
“ตรงชั้นหนังสือที่อยู่ข้างโต๊ะวางแจกันมันจะมีสมุดปกสีดำอยู่เล่มนึง ท่านช่วยไปหยิบทีขอรับ”
“?” คำสาปสาวทำหน้างงแต่ก็หยิบของที่ว่ามาแล้วกลับมานั่งข้างๆซาโตรุ
“ท่านเปิดอ่านได้เลยขอรับ”
“จะให้ดูอะไรกัน-” ยูกิฮิเมะลองเปิดอ่านคร่าวๆก็หยุดพูดทันที เพราะเนื้อหาในสมุดนั้นมันคือไดอารี่ที่เขาเขียนถึงยูกิฮิเมะทั้งสิ้น
“ข้าไม่เคยเสียใจที่ได้รู้จักกับท่านเลย และไม่เคยมีวันไหน…ที่ข้าไม่คิดถึงท่านขอรับ” ชายแก่พูด “ไม่ว่าท่านจะเป็นคำสาปหรือมนุษย์ข้าก็ยังรักท่าน ต่อให้ตายหรือเกิดใหม่อีกครั้งข้าก็ยังรักท่านอยู่”
“แล้วท่านล่ะ? ท่านเสียใจที่ได้รู้จักข้ารึเปล่าขอรับ” พอซาโตรุถามกลับ คำสาปสาวจึงเอามือกุมหน้าอกตัวเองราวกับทุกคำพูดที่อยากจะเอ่ยมันจุกอยู่ตรงนั้น
“ชีวิตของข้าเมื่อก่อนมันช่างมืดมน แต่หลังจากที่ได้พบกับเจ้าแล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งหลังจากที่ท่านพ่อกับท่านแม่จากไป แล้วก็เป็นครั้งแรก…ที่ข้ารู้จักกับความรัก” แต่ในเมื่อนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทั้งคู่จะได้เจอกันแล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะพูดมันออกมา “นิยามความรักของแต่ละคนมักไม่เหมือนกัน สำหรับข้าแล้วความรักที่ว่าคือเจ้า”
“ที่ข้าหนีไปเมื่อตอนนั้นก็เพราะข้ารับตัวเองไม่ได้ที่ตกอยู่ในสภาพอมนุษย์ แต่พอเวลาผ่านไปที่ข้าเคยบอกว่าอยากจะเป็นนักดาบ ข้าก็เริ่มฝึกวิชาดาบเพื่อในอนาคตข้าแข็งแกร่งพอที่จะสามารถปกป้องเจ้าอย่างลับๆได้ ท่านพ่อเคยบอกข้าว่าการที่คนเราจับดาบก็เพราะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป และที่ข้าจับดาบก็เพื่อฟาดฟันอุปสรรคและปกป้องคนที่ข้ารัก”
“เพราะงั้นหากเจ้าบอกว่าไม่เคยเสียใจที่รู้จักกับข้า ข้าเองก็ไม่ได้เสียใจที่รู้จักกับเจ้าเช่นกัน”
“…ดีใจเหลือเกินที่ได้ยินแบบนั้นนะขอรับ” ซาโตรุระบายยิ้มพลางขยับมือที่เต็มไปรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลามาจับมือของยูกิฮิเมะที่ยังคงเรียบเนียนอยู่เหมือนเดิม “สมุดเล่มนั้นข้าอยากให้ท่านเก็บมันไว้นะขอรับ”
“แต่ว่ามันเป็นของส่วนตัวเจ้านะ? จะดีเหรอ”
“ดีสิขอรับ ที่ข้าอยากท่านเป็นคนเก็บไว้เพราะข้าไม่อยากให้ท่านลืมทุกความทรงจำที่พวกเรามีด้วยกันน่ะขอรับ แล้วก็ไหนๆข้าก็จะตายแล้ว…”
“ช่วยมีชีวิตต่อไปแทนข้าด้วยนะขอรับ” ยูกิฮิเมะได้ฟังแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าขอบตาตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาจนอีกฝ่ายอดทักไม่ได้
“อย่าร้องสิขอรับ ข้าอยากจากลา…ด้วยรอยยิ้ม…มากกว่านะ”
“…” คำสาปสาวไม่ตอบอะไรกลับไปเพราะเธอรับรู้ได้ว่าลมหายใจของชายแก่เริ่มโรยรินเต็มทีแล้ว ทำให้น้ำตาที่คลออยู่ที่ขอบตาได้ไหลรินลงมา
“ท่าน…ยูกิ…ฮิเมะ…”
“…ซักวัน…”
“?”
“ซักวัน…เราจะได้อยู่ด้วยกัน…เพราะงั้น…” ยูกิฮิเมะพูดทั้งน้ำตาแต่ทว่ากลับมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ข้ารักเจ้านะซาโตรุ รักมากกว่าใคร มากกว่าใครในโลกนี้ด้วย”
“…:)” ซาโตรุยิ้มให้กับประโยคดังกล่าวก่อนจะสิ้นใจไปในที่สุด ส่วนคำสาปสาวเห็นคนบนเตียงนั้นได้จากไปแล้ว เธอเม้มปากกลั้นความเสียใจที่ถาโถมเข้ามาแล้วโค้งหัวให้เป็นการเคารพศพ จากนั้นก็จากไปพร้อมกับสมุดไดอารี่ที่อีกฝ่ายยกให้เธอ
“…ฮึก!” พอออกมาได้ไกลแล้ว เธอก็ปล่อยน้ำตาและระบายความเสียใจที่กลั้นไว้ออกมา ถึงแม้ว่าเธอจะพูดทุกอย่างที่อยากจะพูดออกไปหมดแล้วแต่ทว่าความเศร้าและความเสียใจกลับไม่จางหายไป
อาจจะเป็นเพราะตั้งแต่ที่เธอกลายเป็นคำสาป เธอคงเสียใจอยู่ทุกวันที่ตนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนรักได้
และคำสั่งเสียที่ซาโตรุทิ้งท้ายไว้ มันก็กลายคำสาปที่คอยทรมานจิตใจเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คำสาปที่ชื่อว่าความรัก ความคิดถึง คำสัญญาและการมีชีวิต
หลังจากนั้น ยูกิฮิเมะก็ได้พัฒนาฝีมือการต่อสู้และพลังไสยเวทจนกลายเป็นคำสาประดับพิเศษไปในที่สุด พบปะผู้คนและสร้างสายสัมพันธ์ทั้งสั้นและยาว นั่นคือได้ชิองมาเป็นคำสาปรับใช้จากการไปช่วยเหลือรวมถึงฮิรามารุ ซายากะในอดีตที่มาสนิทกับเธอได้ก็เพราะยื่นมือเข้าไปช่วยเช่นกัน จนกระทั่งเด็กสาวเสียชีวิตจากฝีมือของเคนจาคุและเป็นเหตุยูกิฮิเมะถูกใส่ร้ายอยู่เรื่อยมา
จนกระทั่งเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปเกือบ 600 ปี พระเจ้าก็ได้เล่นตลกกับเธอที่ไม่เชื่อในพระเจ้า
ด้วยการส่งบางอย่างที่ทำให้เธอได้เจอกับคนรักอีกครั้งที่มาเกิดใหม่ในฐานะโกะโจ ซาโตรุ ผู้ใช้คุณไสยที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน
นักปราชญ์ผู้ขีดเขียนอนาคต
อิฟรินแห่งจุดเริ่มต้น (Ifrinn of Beginning)
.
.
.
Talkๆdesu: ก็จบไปแล้วกับพาร์ทอดีตของยูกิฮิเมะช่วงก่อนเจอเรียวตะแล้วนะคะ และตอนหน้าเรายังคงอยู่กับพาร์ทย้อนอดีตของแม่ต่อแต่เป็นหลังจากที่เจอกับเรียวตะแล้ว ก็คือ 4 ตอนที่ผ่านมาข้ามได้เลยแต่ว่าที่เราเขียนมาก็เพื่อปูพาร์ทหลังโดยเฉพาะ
ทำไมถึงมีพาร์ทย้อนอดีตเวอร์ชั่นหลังเจอเรียวตะด้วย ก็เพราะในพาร์ทนี้มันมีประเด็นที่จะไปขยายความในซีซั่น 3 เพราะงั้นเราเลยเขียนไปก่อนเพื่อปูให้ทุกคนเข้าใจว่าซีซั่นหน้ามันจะมีพูดเรื่องนี้กันนะ พอเข้าเนื้อหาภาคนั้นแล้วจะได้ไม่งงกัน
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันมาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยย
S Q W E E Z T H E M E @ D E K - D
ความคิดเห็น