ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sf | os } NCT - #taeten #jaedo #johnil

    ลำดับตอนที่ #63 : { TaeTen } Bed.Friend

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 60


    เรื่องย่อ : เตนล์แอบชอบเพื่อนร่วมห้องอย่างแทยงที่เป็นคนเจ้าชู้เอาแต่ใจ แล้ววันหนึ่ง เตนล์ตื่นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นผู้หญิง

    คำเตือน : มีฉากชายหญิงนาจา ใครรับแนวนี้ไม่ได้ก็ไม่อ่าน ไม่ด่า ไม่ว่าหน่องมอนะคะ หน่องแค่อยากลองเขียนแนวนี้บ้าง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ลี แทยง !!!"

     

    เสียงร้องดังลั่นพร้อมกับเสื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ฟาดใส่หน้าคนที่นอนหลับสบายใจเฉิ่มไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

     

    "เสียงดังไรวะ" คนนอนพอโดนรบกวนก็พลิกตัวไปอีกทาง พับหมอนอุดหูแล้วมุดหน้าหนี

     

    "กูนอนค้างที่คณะสองวันมึงเอาผู้หญิงขึ้นห้องเลยอ๋อวะ กูบอกแล้วว่ามึงจะไปลาก ไปเอาที่ไหนก็ได้ยกเว้นห้องนี้ กูไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว" เจ้าของห้องอีกคนกรอกตาแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลันสายตาก็ไปเห็นกางเกงในเข้าชุดกับชุดชั้นในที่เตนล์โยนใส่แทยงไปก่อนหน้านั้น

     

    "เอาบนเตียงกูไม่ได้ล้ำเขตมึงเลย สบายใจได้" เสียงอู้อี้จากหมอนนุ่ม แทยงยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง มีแต่ปากที่ขยับจนเตนล์แทบจะเอากางเกงในลูกไม้สีดำนี่ไปรัดคอให้เงยหน้าขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง

     

    "เตียงมึงก็เตียงกูไหมสัส"

     

    "เตียงมึงชั้นบน เตียงกูชั้นล่าง"

     

    "ไอ้เหี้ย มึงแม่งไม่สำนึกเลย เราอยู่ด้วยกันนะเว้ยไม่ได้อยู่คนเดียว" เพราะตั้งแต่ตอนที่มาอยู่ด้วยกัน.. หมายถึงเช่าหออยู่ด้วยกันระหว่างที่เรียนมหาลัย ถึงแม้ตอนนี้จะปิดเทอมแล้วก็เถอะ แต่เตนล์ก็ยังต้องไปทำงานที่คณะอยู่เรื่อยๆ เพราะได้ทุนวิจัยกับทางมหาลัย ส่วนแทยงก็เก็บกระเป๋าเตรียมจะกลับบ้านในอีกสองสามวันยังไม่กำหนด เพราะจะขับรถกลับไปเอง

     

    แต่พออยู่ร่วมกันแบบนี้แล้วก็ตั้งกฎขึ้นมาไม่กี่อย่าง แค่ช่วยกันรักษาความสะอาด แล้วก็ไม่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวกันและกัน และที่สำคัญที่สุดคือถ้าไม่ใช่เพื่อนที่รู้จักกันทั้งคู่ก็ห้ามพาเข้าห้องเด็จขาด โดยเฉพาะผู้หญิงของแทยง

     

    แม่ง..

     

    เจ้าชู้

     

    เอาไม่เลือก

     

    ขี้เงี่--

     

    เตนล์รู้ข้อนี้ดีที่สุด เลยขีดเส้นใต้กฎข้อนี้ไว้ชัดๆ เน้นๆ แต่แทยงก็ละเลยอยู่บ่อยจนแทบอ่อนใจ

     

    พอโวยไปแล้วแทยงก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสำนึกอะไร เตนล์ก็ได้แต่หงุดหงิดโมโหไปคนเดียว โกรธจนน้ำตาจะไหล เจ็บใจไปหมด เหตุผลมันมีไม่กี่อย่างหรอก.. ก็เตนล์ชอบแทยง

     

    แค่นี้ก็ไม่รู้ตัวหรือไง

     

    แล้วทุกครั้งที่เตนล์เห็นแทยงไปกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ามันทำให้ปวดใจได้ไม่น้อยเลย.. แต่แม่งก็ยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้เลิกชอบ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

     

     

     

     


    "แล้วมึงก็มานั่งเศร้าอยู่แบบนี้อะนะ" มุน แทอิล รุ่นพี่ที่สนิทกันเมื่อสมัยเรียนตอนนี้เปิดบาร์เล็กๆ ที่ชั้นใต้ดินของร้านอาหาร แม้ร้านจะยังไม่ถึงเวลาเปิด แต่พอน้องมีเรื่องไม่สบาย ซึ่งก็แน่ละ มีเพียงไม่กี่เรื่องหรอก แทอิลก็จะเปิดบาร์และแอลกอฮอล์ผสมบางๆ ให้เตนล์ดื่มแก้เซ็ง

     

    "เออดิพี่ ผมทำไรได้มั้งอ่ะ" รู้สึกเหมือนคนอกหักแต่มันก็ไม่สุด ถ้าลองชั่งน้ำหนักความสำคัญแล้วเตนล์ก็มั่นใจว่าตัวเองต้องสำคัญกับแทยงมากกว่าผู้หญิงพวกนั้นแน่ แค่คู่นอนในบางวันกับเขาที่เป็นเพื่อนร่วมเตียง (ถึงจะคนละชั้นก็เหอะ)

     

    "ก็ชอบต่อไป ไม่ก็ตัดใจซะก็สิ้นเรื่อง" คำแนะนำเดิมๆ คำพูดเดิมๆ จากคนเดิมๆ แทอิลพูดทำนองนี้มาทุกครั้งๆ ที่เตนล์งอแงเรื่องแทยง ไม่รู้ว่ามีอะไรดีนักหนา ยิ่งรู้จักก็ยิ่งไม่มีข้อดี ทั้งดื่มหนัก ขี้เมา เอาแต่ใจแล้วก็เจ้าชู้ไม่หยอก

     

    "ฮือ" เตนล์ครางเสียงเหมือนคนร้องไห้ เพราะเป็นคนที่คอค่อนข้างอ่อน เลยเมาง่าย พอแทอิลเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ หันไปพยักหน้าใส่แฟนหนุ่มที่ยืนจัดร้านเช็ดโต๊ะอยู่ไม่ไกลว่าให้ไปเตรียมที่นอนสำหรับน้องชายคนสนิทไว้เผื่อตกดึกแล้วเตนล์จะได้ไม่ต้องถ่อกลับหอเอง

     

    เตนล์หยิบเอากระเป๋าเงินออกมาเปิดดู ไม่ใช่ว่ามีรูปถ่ายของแทยงเอาไว้หรอก แต่ว่ามันมีเครื่องรางเรื่องความรักที่ยูตะเอามาจากฝากประเทศญี่ปุ่น

     

    "ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย !!" โวยวายใส่ไปก็เท่านั้น เตนล์เบะปากแล้วกรอกน้ำหวานที่ผสมแอลกอฮอล์ไว้เข้าปากอย่างเพลิดเพลินต่อจนใกล้จะง่วง

     

    "ถ้าจะนอนก็ขึ้นไปนอนดีๆ" แทอิลเริ่มเก็บข้าวของบนโต๊ะให้เข้าที่ก่อนที่ร้านจะเปิดในอีกไม่ช้า

     

    "ผมกลับดีกว่า หวัดดีคับ" เตนล์โค้งลงจนหน้าทิ่มไปกับเคาท์เตอร์บาร์ แต่ไม่ยักกะลุกขึ้นมายืนดีๆ เตนล์ก็หมุนตัวไปโค้งต่อให้แฟนหนุ่มของรุ่นพี่แล้วค่อยลุกขึ้นมายืนดีๆ จากนั้นก็เดินโซซัดโซเซตั้งสติแล้วค่อยออกจากร้านไป

     

    ดูท่าว่าไม่ได้เมามากถึงขั้นกลับห้องไม่ได้ อีกอย่างหอเตนล์ก็ไม่ได้ไกลจากที่นี้เท่าไรนัก จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

     

    แต่คนเมาแต่ยังไม่ถึงสองทุ่มดีเดินเตาะแตะกลับห้องแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะนั่งพักบนม้าหินอ่อนข้างทาง เครื่องรางในมือยังกำเอาไว้ถูกยกขึ้นมามองอย่างพินิจ

     

    "หึ เครื่องรางความรักประสาอะไร ไม่เห็นจะสมหวังเลย"

     

    พูดจบก็หลับตาส่ายหน้าใส่เครื่องราง ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ที่ตรงไหนนอกจากทำให้กระเป๋าเงินตุงๆ ไปวันๆ ทำให้ความรักสมหวังสักหน่อยก็ไม่ได้ ขอแค่แทยงไม่พาสาวเข้าห้อง ไม่ควงสาวให้เห็นยังทำไม่ได้เลย

     

    "ถ้าเป็นผู้หญิงอะไรมันก็คงจะง่ายกว่านี้" พูดจบก็กดเครื่องรางเอาไว้แน่น

     

    "จะบ้าหรือไง โว๊ยยยยยยย" แล้วก็เขวี้ยงเข้าไปในสวนสาธารณะด้านหลัง เมื่อโวยวายออกมาแล้วก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับห้องไป

     

    ไฟห้องปิด แทยงก็ไม่อยู่ แน่สิ เวลาออกหากินเขาเลยหนิ เตนล์เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่อาบน้ำก่อนเพราะขี้เกียจแล้วปีนขึ้นเตียงไปหลับๆ เสียเพราะปวดหัวตึงๆ จากฤทธ์แอลกอฮอล์

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

    "...นล์"

     

    "เตนล์"

     

    น้อยครั้งที่แทยงจะเป็นฝ่ายตื่นก่อน แต่จริงๆ จะเรียกว่าตื่นก็ไม่ได้เพราะเมื่อวานไปออกรอบกับเพื่อนตั้งแต่บ่าย แล้วไปต่อกันนิดๆ หน่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็ใกล้เช้า กว่าจะขับกลับมาถึงห้องก็สว่างพอดี แล้วก็เพราะว่ามีแต่น้ำที่ตกถึงท้องทำให้ตอนเช้าถึงเริ่มหิว ไม่เริ่มละ โคตรหิวเลย

     

    "เตนล์ ไปหาไรกินกัน"

     

    แทยงยื่นมือขึ้นไปเขย่าแขนคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง แล้วก็ได้ผลเมื่อคนที่กำลังนอนส่งเสียงครางเบาๆ เมื่อถูกรบกวน

     

    "อืออออออ ปวดหั...ว" เสียงแหบงัวเงียไม่อยากตื่น มือเรียวกุมเข้าที่ขมับ จำได้ว่าไม่ได้ดื่มหนักจนลืมทางกลับห้อง แต่ทำไมมันหลับนานแล้วก็ปวดหัวขนาดนี้

     

    "ตื่น ไปหาไรกินกัน หิว"

     

    "..." คนถูกปลุกค่อยๆ ลืมตาขึ้นมากระพริบช้าๆ เพื่อปรับแสง ทำไมวันนี้มันอากาศร้อนแปลกๆ มีอะไรพันหน้าพันคอเต็มไปหมด

     

    "..."

     

    "..."

     

    พอลุกขึ้นมานั่งขยี้ผมขยี้ตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เผื่อมันจะช่วยให้ตื่นเต็มตามาขึ้น

     

    "เตนล์ !!" แทยงหมุนตัวไปทางอื่น เดินไปเปิดประตูห้องน้ำก็ไม่มีใครอยู่ กระเป๋ากับเสื้อผ้าอะไรก็อยู่ครบ การกระทำแปลกๆ จนคนบนเตียงงงว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้เป็นอะไร

     

    "เรียกทำไมเสียงดัง ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง" เตนล์นั่งหรี่ตามอง เพราะสายตาสั้นเลยต้องใช้มือควานหาแว่นที่ปกติวางไว้ข้างหมอนมาใส่

     

    "…!!" ปฏิกิริยาแปลกประหลาดของแทยง เหลือกตามองอย่างตกใจไม่พอยังเดินเร็วๆ มายืนบนเตียงเพื่อเพิ่มความสูงขึ้นไปเกาะขอบเตียงชั้นที่สองดูว่ามีใครนอนอยู่อีกหรือเปล่า

     

    "หาอะไร" เตนล์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แทยงจนจมูกแทบจะชนกัน

     

    โครม !!

     

    ความตกใจจนแทบส่าง แทยงร่วงตกไปกองบนพื้น หัวใจเต้นตึกตักโครมครามอย่างห้ามไม่อยู่

     

    "เอ้ย ไม่เอานา เพราะกูชอบเอาผู้หญิงเข้าห้องมึงเลยจะทำบ้างใช่ปะ"

     

    แทยงพยายามหาข้ออ้างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นตรงหน้า ก็ใครมันจะไปเชื่อไหว คนที่นั่งอยู่บนเตียงเตนล์ และคนที่บอกว่าตัวเองคือเตนล์นั่งอยู่ตรงนั้น.. คือผู้หญิงแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้ !!

     

    เอาว่าจริงๆ ก็มีส่วนที่คล้ายเตนล์มากเหมือนกัน แต่เฮ้ย เพื่อนเขามันเป็นผู้ชายนะเว้ย แล้วต่อให้เสียงแห่บพร่ายังไงแต่โทนเสียงที่สูงกว่าผู้ชายทั่วไป โครงหน้า ผมยาว แล้วไหนจะก้อนกลมๆ บนอกที่ถึงจะไม่ใหญ่มากแต่มันก็น่าจะพอดีมือ เอ้ย กลมนูนกว่าผู้ชายจริงๆ แน่

     

    "ก็เหี้ยละ" ในขณะที่เตนล์ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าแทยงเอาตรรกะแบบนั้นมาจากไหน กล้าคิดได้ไงว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้าห้อง ประสาท อย่าว่าแต่พาเข้าห้องเลย ชีวิตนี้ให้เลิกชอบแทยงให้ได้ก่อนเหอะ ค่อยคิดเรื่องจะไปกับคนอื่น

     

    เพี๊ยะ

     

    แทยงตบหน้าตัวเองจนหันไปอีกทางหมายจะตื่นจากฝันแปลกๆ นี่สักที คนเห็นเหตุการณ์ก็สะดุ้งเฮือกจนต้องยกมือขึ้นมาลูบหน้าอกให้ใจเย็นลง ใครจะไม่ตกใจก็อยู่ดีๆ มาตบหน้าตัวเองต่อหน้าคนอื่น บ้าหรือเปล่า

     

    แต่เอ๊ะ..

     

    มือน้อยๆ ลูบบนอกอย่างนิสัยปกติที่ทำตอนตกใจ แต่คราวนี้มันไม่ปกติ.. มันมีอะไรที่ผิดปกติ

     

    เตนล์ก้มลงมองตัวเอง แต่เพราะเสื้อยืดที่สวมเอาไว้ทำให้มองไม่ถนัดเลยเอามือจับให้แน่ชัดอีกที

     

    "..."

     

    มาเป็นลูกเลย

     

    "เฮ้ย !!" คราวนี้เป็นเตนล์เองที่สะดุ้ง บีบๆ จับๆ หน้าอกตัวเองอย่างไม่เชื่อ แล้วก็ไม่เชื่อจนถึงขั้นถอดเสื้อออกมาดูชัดๆ

     

    "เหี้ย !!!" ทั้งเตนล์และแทยงอุทานออกมาพร้อมกัน แต่ด้วยอารมณ์คนละอย่าง เมื่อเตนล์ตกใจที่ก้อนกลมๆ นี่มันมาอยู่บนหน้าอก แต่แทยงกำลังช็อคเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงมาถอดเสื้อโชว์ต่อหน้า.. ถึงจะเคยเห็นมาหลายคนแล้วก็เหอะ แต่นี้มันคนละสถานการณ์เลย

     

    เตนล์รีบปีนลงจากเตียงโดยที่ยังไม่สวมเสื้อ วิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อนส่องกระจก รูปร่างทรวงทรงองค์เอวเข้ารูปนุ่มนิ่มน่ากอด ไม่ได้ผอมกร่องแบบพวกนางแบบผอมๆ แต่หุ่นกำลังดีและน่าขยี้มาในสายตาของคนที่มองตาอย่างไม่กระพริบตา

     

    ผิวขาวๆ แขนกลมกลึงตามข้อต่างๆ ก็มีสีชมพูจางๆ จนต้องตบหน้าเรียกสติอีกที

     

    เพี๊ยะ

     

    เตนล์หันมาตามเสียงสบตาเข้ากับแทยงที่มองมาอย่างไม่ลดละ

     

    "มึงคือกูแบบ.." เตนล์เดินไปนั่งทับขาหน้าแทยง มือไม้ไม่เป็นสุข ไม่รู้จะพูดหรืออธิบายอะไรออกมานอกจากทำท่าทางใหญ่โต มันเกินจะพูดอะไรออกมาจริงๆ

     

    แต่ยิ่งเตนล์ขยับ ยกแขนขึ้นลง ก้อนบนอกทั้งสองก็เด้งไปตามอย่างไม่เป็นจังหวะ

     

    "อ..โอเค" แทยงรวบรวมสติไว้ที่มือ เหมือนพึ่งหามือเจอ คว้าที่ข้อมือบางให้นิ่งลง กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พยายามชักสายตาตัวเองไม่ให้มองต่ำลงไปมากกว่าคาง

     

    "แทยง.."

     

    "ห..หืม?" เหมือนคอจะเกร็ง จริงๆ ก็เกร็งไปหมด

     

    "เลือดกำเดาไหล" เตนล์ยกมือที่โดยแทยงจับข้อมือไว้นั้นแหล่ะขึ้นมาชี้นิ้วใส่ พยายามมองซ้ายมองขวาจะหาอะไรมาให้เช็ด แต่พอมองเลยไปเห็นเงาของกระจกใสๆ ที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเป็นเงาของชายหญิงคู่หนึ่งนั่งหันหน้าเข้าหากันโดยที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังเปลือยท่อนบน

     

    "เชี่ย !!" เตนล์สะบัดมือแทยงมากอดอกตัวเองไว้แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำล็อกประตู

     

     

     

     

     

    กว่าทุกคนจะเข้าสู่สภาวะปกติ จากที่หิวๆ ตอนนี้ก็กินอะไรไม่ลง มันจุกๆ ไปหมด โดยเฉพาะตรงส่วนอ่อนไหวที่มันตึงๆ คับกางเกงตั้งแต่ที่เห็นเจ้าตัวขยี้นมตัวเองบนเตียงแล้ว แทยงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่คิดไม่พูดอะไรที่มันจะเกินเลยไปมากกว่านั้น แต่พอเตนล์เดินออกจากห้องน้ำมาไอ้ที่จะสงบๆ ก็ลุกขึ้นมาอีกจนอยากจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนสักยี่สิบนาที

     

    "คือ.."

     

    "...."

     

    "เอาไงดีวะ" เตนล์ที่สวมเสื้อเรียบร้อยแล้วนั่งกุมขมับ เส้นผมที่ยาวลงมาเกือบถึงกลางหลัง ตกลงมาปรกหน้าจนต้องขมุ้ยเอาไว้เหมือนทึ้งหัว พอเห็นเตนล์เครียด แทยงก็ไม่กล้าลุก กลัวว่าถ้าลุกแล้วมันจะไปอยู่ระดับสายตาพอดี ตอนนี้ก็นั่งท่องหมาตายลอยน้ำ หมาตายลอยน้ำอยู่ในใจ

     

    "มัน.. ก็อาจจะไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้.. มั้ง"

     

    "ผีอะสิ"

     

    พอแทยงพูดจบเตนล์ก็หวีดแทรกเสียงขึ้นมาจนแทยงสะดุ้ง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเจอผู้หญิงวีนๆ นะ แต่ไม่เคยเจอวีนทั้งๆ ที่รู้สึกว่ามันมีชะนักติดหลังแบบนี้เลย

     

    "ทำไงดีวะเนี่ย" เตนล์ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเบะปากอยากจะร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด

     

    "คือกูก็ไม่รู้.."

     

    "ฮือออออออ" แล้วเตนล์ก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แทยงเห็นผู้หญิงร้องไห้ แต่นี้ก็เป็นครั้งแรกที่แทยงรับมือผู้หญิงร้องไห้ไม่ถูก

     

    ครืดดด

     

    เสียงเก้าอี้เลื่อนเรียกให้เตนล์เงยหน้าขึ้นมามอง แทยงเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าที่เป็นตู้แยกส่วนตัวของแทยงเอง ถึงหลายๆ ครั้งพวกเขาจะแชร์เสื้อผ้ากันใส่บ้างก็เหอะ ลิ้นชักชั้นล่างสุดที่เตนล์ไม่เคยเปิดเพราะคิดว่าน่าจะเป็นพวกกางเกงในหรืออะไรเล็กๆ น้อยๆ และเตนล์ไม่จำเป็นต้องยืมใส่ถูกเปิดออก แทยงเดินกลับมาพร้อมกับชุดชั้นในลูกไม้ และวางไว้บนหน้าเตนล์

     

    "คือยังไงก็ใส่อันนี้ไปก่อนแล้วกัน"

     

    "..."

     

    "ซักแล้วสบายใจได้"

     

    "..."

     

    "ของผู้หญิงสักคนที่ลืมทิ้งไว้ เลยเก็บไว้เผื่อเขากลับมาเอา"

     

    ทุกคำที่แทยงพูดมันดูเป็นข้ออ้างและข้อแก้ตัวทั้งสิ้น จากที่รู้สึกแย่อยู่แล้วก็ต้องแย่ขึ้นไปอีก แทยงยังคงทำเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติ.. ก็แน่ละสิ คนที่มันรู้สึกก็เป็นฝ่ายแพ้ตลอดนั้นแหล่ะ

     

    "คือไม่ใช่อะไรนะ แค่แบบ.. มัน..ตั้..งอ่ะ" แทยงก้มหน้าเกาคอทำเสียงอ้อมแอ้ม จริงๆ มันก็สักพักแล้ว ถึงเตนล์จะใส่เสื้อแล้วก็เถอะ แต่จุกบนอกมันก็ตั้งๆ ชี้ๆ แล้วมันแบบ..

     

    พอแทยงพูดแบบนั้นแล้วเตนล์ก็รีบคว้าชุดชั้นในที่ไม่อยากจะใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    ฮือ เตนล์อยากจะร้องไห้

     

    แล้วเศษผ้านี่มันใส่ยังไงวะ

     

    "แทยง.." เตนล์เปิดประตูห้องน้ำช้าๆ แล้วโผล่แค่หน้าที่ออกไป

     

    "ไอ้นี่ใส่ไงอ่ะ"

     

    คำถามที่แทยงก็ไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง ในหัวมีคำตอบแค่อย่างเดียวคือ

     

    "ปกติถอดอ่ะ ไม่เคยใส่ให้ใคร" เพียงเท่านั้นประตูห้องน้ำก็ปิดดังปั้งใส่หน้า

     

    กว่าเตนล์จะหาวิธีใส่เข้าไปคิดว่ามันน่าจะเหมือนพวกเข็มขัด สายคล้องบ้าบออะไรพวกนั้น แต่พอออกจากห้องน้ำมาก็เห็นแทยงนอนแนบไปกับโต๊ะ

     

    "แทยง" เตนล์เดินไปเขย่าแขนแทยงพอให้รู้สึกตัว ขืนเรียกเบาๆ แทยงก็ไม่ตื่นหรอก

     

    "ไปนอนบนเตียง" แทยงพยักหน้าหงึกหงักแล้วทำตามอย่างว่าง่าย ส่วนคนที่เหลืออยู่จากที่ง่วงๆ ก็ตื่นเสียเต็มตา พอเงียบๆ ก็กลับมานั่งคิดกับตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้วจะเอายังไงต่อ

     

     

     

     

     

     

    ในส่วนของแทยงที่พึ่งตื่นอีกรอบก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ จากที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน จริงๆ มันก็เวลาตื่นปกติในช่วงปิดเทอม เหตุการณ์เมื่อเช้าเลยเหมือนเป็นแค่ความฝัน เพราะตอนนี้รู้สึกปวดหัวหน่วงๆ เพราะนอนเยอะเกินไป เมื่อลุกไปอาบน้ำจัดการร่างกายให้หอมสะอาดเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับท้องที่ร้องโครกคราก

     

    "เตนล์ ไปหาไรกินกัน" เพราะไม่ได้มองดูชัดๆ แต่เห็นอยู่ตลอดที่หางตา เตนล์นั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโน้ตบุ๊คไม่หือไม่อืออะไรตั้งแต่เขาตื่น แต่เตนล์ตื่นแบบนี้ก็ดีแล้วเหมือนกันจะได้ชวนออกไปหาไรกินง่ายๆ

     

    "ไม่ไป" น้ำเสียงที่ตอบกลับมามันทำให้แทยงสะดุดกึก หันไปมองอีกทีให้แน่ใจว่าเมื่อเช้ามันเป็นแค่ความฝันหรือเรื่องจริง แต่เส้นผมที่ยาวปรกหลังกับน้ำเสียงที่แหลมว่าผู้ชายมันทำให้แทยงเริ่มมั่นใจแล้วว่าไม่ได้ฝันไปจริงๆ

     

    แต่เสียงเตนล์สั่นๆ

     

    "ร้องไห้เหรอ"

     

    แทยงเดินไปยืนข้างๆ หญิงสาวที่นั่งอยู่ปาดน้ำตาลวกๆ แต่ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง จากประสบการณ์ที่เคยรับมือน้ำตาผู้หญิงมาหลายรูปแบบและเพื่อนตัวแสบแล้วแทยงรู้ว่าเตนล์คงยังไม่อยากจะพูดอะไรมาก จะเรียกว่าเข้าใจก็ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้อยู่ๆ ตื่นมาก็กลายเป็นผู้หญิงสักหน่อย แต่ถ้าจะให้ลองคิดว่าถ้าอยู่ดีๆ ตื่นมากลายเป็นผู้หญิงเขาก็คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

     

    "โอ๋ๆ ขี้แยนะเราอ่ะ" แทยงจับหัวเตนล์ให้มาพิงที่หน้าท้องตัวเองแล้วลูบผมนิ่มเบาๆ ปลอม เตนล์หันหน้าเข้าหาแทยงแล้วสูดน้ำมูกดังฟืด ปกติก็เป็นคนขี้แยอยู่แล้วแต่พอมาเจอเรื่องนี้ีรวมกับอะไรหลายๆ อย่างก็รู้สึกเหมือนร่างจะพัง ทำอะไรต่อไม่ถูกเลย

     

    "เอางี้ ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน จะได้อารมณ์ดีขึ้น" ส่วนหนึ่งแทยงก็กำลังหิวมากนั้นเอง เตนล์ส่ายหน้าเช็ดน้ำตาที่ชายเสื้อแทยงแล้วผละออกมาสูดน้ำมูกอีกรอบ

     

    "ไปไม่ไป" แทยงคีบจมูกรั้นๆ ที่ขึ้นสีแดงจนน่ารัก ไหนจะแพขนตาที่กำลังรื่นไปด้วยน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเตนล์ก็น่ารักน่ามองอยู่เสมอเลย

     

    เตนล์ไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้ารับ ยังไงมันก็เกิดไปแล้ว ดีที่ช่วงนี้ปิดเทอมแล้ววิจัยมหาลัยก็พึ่งเสร็จไปเมื่อวาน ระหว่างนั้นเตนล์ก็คงจะไม่กลับบ้านแล้วหาทางกลับร่างเดิมให้ได้ แต่ว่าตอนนี้ท้องก็ว่างมากด้วย ถ้าไม่กินอะไรให้ลงท้องซะบ้างก็คงจะคิดอะไรไม่ออก

     

    "ไป ไปอาบน้ำแต่งตัวให้สวยๆ สมร่างหน่อยสิ"

     

    เพี๊ยะ

     

    เตนล์ฟาดเข้าที่ข้างแขนแทยงแล้วชี้หน้าบอกเหมือนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาเล่น แต่ก็ยอมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเองเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี

     

     

     

     

    ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างใกล้ๆ มหาลัยและยิ่งใกล้หอของทั้งคู่กว่าอีก จึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่หิวมากอย่างแทยงที่ขับรถเข้ามาหาอย่างไม่ต้องคิดมาก แต่หน้าที่ตัดสินใจเลือกอาหารนี่ยกให้เตนล์ เอาใจเขาหน่อย ตอนนี้เขากำลังสับสน

     

    "นี่กูรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่"

     

    ระหว่างที่รออาหาร แทยงก็เปิดประเด็นพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เตนล์นั่งใช้หลอดคนแก้วน้ำไม่ยอมดื่มดีๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามอง

     

    "ควรเป็นกูปะวะที่ต้องพูดคำนั้นอ่ะ"

     

    "อ้าว นี่มึงก็ฝันเหมือนกันเหรอ นี่เรามาเจอกันในฝันสินะ"

     

    "ใครจะอยากเจอมึงในฝันกัน"

     

    "แต่ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันนะ"

     

    เตนล์กรอกตาไปมาแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ ไม่รู้จะเขินอะไรนักหนา แทยงก็ขยันเล่นกับหัวใจเขาจริงๆ เลยต้องทำท่าโมโหกลบเกลื่อน บ้าบออะไรมาบอกว่าเจอกันในฝัน แล้วก็อยู่ด้วยกัน เตนล์ทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้แล้วคว้ามือถือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ ตั้งใจจะส่งข้อความบอกที่บ้านว่าตลอดปิดเทอมนี้จะอยู่หอ ด้วยเหตุผลว่ายังทำวิจัยไม่เสร็จดี

     

    "โหย ไรอ่ะ อยู่ด้วยกันอย่าเอาแต่เล่นโทรศัพท์ดิ" แทยงลุกขึ้นโน้มตัวเข้ามาใกล้แล้วดันมือเตนล์ลงไม่ให้บังหน้า เป็นไปได้อยากจะหยิบมือถือออกมาเก็บไว้เอง นานๆ ทีจะได้ออกมากินข้าวด้วยกัน ก็น่าจะได้นั่งคุยกันมากกว่าจะมาเล่นมือถือแบบนี้

     

    "คุยกับที่บ้านอยู่" เตนล์ตีมือแทยงให้ปล่อย แล้วเอามือถือขึ้นมากดๆ พิมพ์ๆ ต่อพอกดส่งไปแล้วก็หันหน้าจอโชว์ให้แทยงดูจากนั้นก็วางลงข้างๆ จังหวะเดียวกับที่อาหารเริ่มยกมาเสิร์ฟ

     

    "เดี๋ยวกินเสร็จพาไปซื้อชุดชั้นใน"

     

    เคร้ง

     

    ช้อนสีขาวในมือร่วงกระทบจานเสียงดัง เตนล์เบิกตากว้างมองแทยงด้วยสายตาแปลกๆ

     

    "เฮ้ย คือไม่ได้จะทะลึ่งหรืออะไรนะ เสื้อมึงมันตกร่องในขอบเสื้ออ่ะ" แทยงชี้ไปที่ที่อกสลับกับเขี่ยคิ้วตัวเอง ถึงจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นเพื่อนก็เถอะ แต่อยู่ดีๆ จะไปชี้ที่อกของผู้หญิงสักคนมันก็ดูไม่ดี

     

    เตนล์ก้มลงทองเสื้อตัวเองแล้วดึงเสื้อที่มันตกร่องจริงๆ ออกมา ทำปากมุบมิบแล้วจับช้อนที่ตกไปขึ้นมาตักซุปขึ้นมาซดช้าๆ

     

    "เขินอะดิ" เตนล์แซวแทยงหลังจากที่กลืนน้ำซุปในปากลงท้องหมด ท่าทางแทยงมันดูออกง่ายจนน่าขำ นี่เหรอเสือผู้หญิง กะอิแค่เสื้อตกร่องชุดชั้นในจะชี้บอกก็ทำเขิน ไหนจะเมื่อเช้าที่เตนล์เผลอลืมตัวถอดเสื้อต่อหน้าแทยงอีก

     

    "งั้นมั้ง"

     

    "อ่ะ อ่ะ เขินเชี่ยไร นี่เพื่อนไง"

     

    แทยงยักไหล่ "มั้ง"

     

    เตนล์เบะปากใส่ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาจัดการมื้ออาหารตรงหน้าต่อ ส่วนแทยงไม่ต้องพูดถึงรายนั้นจัดการเสร็จไปอย่างรวดเร็วและสั่งข้าวจานที่สองมาแล้ว

     

    "แล้วมึงจะกลับบ้านปะ" แทยงถามหลังจากที่คืนเมนูอาหารกลับคืนให้พนักงาน

     

    "กลับให้เป็นเรื่องดิ ไหนๆ ก็ต้องเช่าห้องทิ้งไว้ตั้งเดือนกว่า อยู่หาวิธีกลับไปเป็นผู้ชายดีกว่า"

     

    "งั้นกูอยู่ด้วย"

     

    "เฮ้ย ไม่เป็นไร กูอยู่คนเดียวได้"

     

    "อือ มึงอยู่คนเดียวได้ แต่กูอยากอยู่ด้วยอ่ะ" พอแทยงเข้าโหมดดื้อ เตนล์ก็รู้แล้วว่าคงทำอะไรไม่ได้นอกจาก

     

    "เรื่องของมึง" ปล่อยเลยตามเลย

     

    "เออ แต่กูเลือกชุดชั้นในไม่เป็นนะ" เตนล์บอก ก็แน่ละสิ เกิดมาเป็นผู้ชายทั้งแท่งอยู่ดีๆ จะให้มาเลือกชุดชั้นในใส่เอง จะไปเลือกเป็นได้ไง

     

    "มึงก็ลองวัดดูว่าหน้าอกมึงไซส์เท่าไร แล้วก็เลือกแบบที่ชอบกับพนักงาน"

     

    "เชี่ยวชาญนักนะ" แล้วก็เผลอคิดไปอีกจนได้ว่าแทยงคงจะพาสาวมาซื้อชุดชั้นในบ่อยๆ พอคิดไปแบบนั้นมันก็อดนอยด์ไม่ได้ บางทีตอนนี้แทยงอาจจะเห็นเตนล์เป็นผู้หญิงสักคนที่ต้องพาไปซื้อของเท่านั้น

     

    "ก็กูไปช่วยพี่ซื้อของบ่อย" เตนล์ทำปากตามที่แทยงพูดแบบไม่มีเสียง จริงๆ ก็ค่อนข้างบ่อยที่แทยงชวนเตนล์ออกไปข้างนอกเพราะพี่สาวแทยงเรียกให้ไปขับรถและช่วยถือของ ที่ชวนเพราะไม่อยากไปคนเดียว ถ้ามีเตนล์ไปด้วยอย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย

     

    "แต่กูไม่รู้ไซส์ของตัวเองอ่ะ" เตนล์ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาจับนมตัวเอง แทยงเกือบสำลัก รู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปตอนอายุ 13 ที่ยังใสๆ กับเรื่องอย่างว่า

     

    "มันก็ไม่ใหญ่มากแต่ก็พอดีมือนะ" คำพูดที่แทยงต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    "ให้ช่วยวัดมะ" แทยงยืนมือเข้าไปแล้วก็โดนเตนล์ตีมือ

     

    "ทะลึ่งนะมึงอ่ะ"

     

    "แล้วมาจับนมต่อหน้าผู้ชาย"

     

    "กูก็ผู้ชาย" แทยงเลิกคิ้วให้กับคำพูดของเตนล์ จะบอกว่าเป็นผู้ชายก็ไม่เถียงแต่ตอนนี้มันดูไม่ค่อยจะใช่เท่าไรนะ

     

    พอกินเสร็จแทยงก็เดินนำไปร้านขายชุดชั้นในผู้หญิงที่พี่สาวชอบไปซื้อบ่อยๆ กว่าเจ้าตัวจะยอมให้พนักงานมาวัดตัวได้แล้วใช้เวลาสักพัก อ้างว่าไม่กล้าให้ผู้หญิงมาวัด แต่เรื่องนี้แทยงจะไม่ยุ่ง

     

    ไปยุ่งทางอื่นดีกว่า

     

    "พี่ครับ เอาแบบนี้ไซส์เขาให้ด้วยนะ"

     

    "อ๋อ ได้ค่ะ จะรับเป็นสีอะไรดีคะ"

     

    "สีขาว.. สีดำดีกว่า แต่พี่อย่าให้เขาเห็นนะ"

     

    "ได้ค่ะ" พนักงานสาวยิ้มเขินๆ ให้แล้วเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเตรียมเอาสินค้าที่เลือกไว้มาแกะซองให้เตนล์ดูทีละชุด ยกเว้นที่แทยงบอกห้ามเอาไว้

     

    "เดี๋ยวจ่ายให้" พอมากับสาวทีไรก็เผลอออกตัวเป็นป๋าทุกที เมื่อเตนล์ยกกระเป๋าเงินขึ้นมา แทยงก็เดินไปโอบแขนรวบตัวเอาไว้จนเปิดกระเป๋าเงินไม่ถนัด บัตรเครดิตที่เตรียมเอาไว้แล้วถูกยื่นให้พนักงานเพื่อรับไปชำระเงินอย่างรวดเร็วไม่ทันให้ได้ด่า

     

    "เฮ้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อเอง"

     

    "เออ ซื้อไปก็ได้ใส่ไม่บ่อยหรอก" กอดยื้อแย่งจนเตนล์ยอม พอแทยงยกเอาเหตุผลว่าถ้าเตนล์กลับร่างเดิมแทยงก็จะได้เอาไปให้คนอื่นต่อ หรือถ้าเตนล์อยากจะเก็บไว้เองก็จะยอมให้จ่ายเอง ระหว่างนั้นก็ถือว่ายืมใส่ก่อน

     

    "เสร็จแล้วอยากไปไหนต่อไหมครับคุณผู้หญิง"

     

    เตนล์ทำหน้าหงิกใส่ เรื่องอะไรมาเรียกคุณผู้หญิง ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่แทยงเริ่มทำตัวเหมือนกับออกมาเที่ยวกับผู้หญิงสักคน เหมือนเตนล์จะกลายเป็นหนึ่งในสต็อคของแทยงซึ่งไม่โอเคเลยสักนิด

     

    ชอบก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้อยากอยู่เพื่อเป็นตัวเลือกสักหน่อย

     

    "หรืออยากกลับห้องแล้ว?"

     

    "..ไม่รู้ว่ะ" ไม่อยากไปไหนต่อ แล้วก็ยังไม่อยากกลับห้องตอนนี้ด้วย มันเบื่อๆ รำคาญๆ ตัวเองยังไงไม่รู้

     

    "งั้นไปช็อปปิ้งต่อ จะได้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง"

     

    "ช็อปปิ้งต่อแล้วไงอ่ะ มึงจ่ายหรือกูจ่าย พอกูกลับไปเป็นผู้ชาย มึงก็จะขนของพวกนั้นไปให้ผู้หญิงคนอื่นอีกใช่ปะ"

     

    เตนล์เผลองอนขึ้นเสียงใส่ แทยงนิ่งไปกับท่าทีของเพื่อน และเมื่อเตนล์เห็นแทยงนิ่งไปแบบนั้นก็ก้าวขาเดินหนีไปอีกทาง เพราะวันนี้ใส่เสื้อผ้าตัวเองตอนที่เป็นผู้ชายมันก็เลยทั้งหลวมทั้งใหญ่ กางเกงที่ต้องเจาะรูเข็มขัดเพิ่มอย่างเสียไม่ได้แต่รอบขาที่ใหญ่กว่ามันทำให้เทอะทะเดินไม่สะดวก บวกกับรองเท้าที่ใหญ่เกินไปเกือบสามไซส์ของเตนล์อีก

     

    มันน่าหงุดหงิดไปหมดเลย

     

    "เฮ้ย เตนล์ อย่างอนดิ" แทยงรีบเดินตามไปดึงแขนเล็กๆ นั้น ที่ท่าออกแรงให้มากกว่านี่คงจะหักเอาง่ายๆ ไม่ว่าจะตอนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เตนล์ก็ดูบอบบางไปหมด

     

    "ไม่ได้งอน" ไม่ได้งอนเลยสักนิด แค่ไม่ยอมมองหน้า แถมน้ำเสียงยังห้วนๆ ไม่งอนเลย

     

    "งั้นเอางี้ ซื้อแค่กางเกงสักตัวหรืออะไรที่มันทำให้ใส่สบายกว่านี้ โอเคไหม?"

     

    "..."

     

    "ร้านนั้นเป็นไง" ว่าแล้วก็เริ่มเสนอไปที่ร้านเสื้อผ้าแบบ unisex ที่ไม่ว่าจะเพศไหนก็ใส่ได้

     

    "หรือร้านนั้น"

     

    "ร้านนู่นก็สวยดีนะ"

     

    "ไปลองก่อนก็ได้ วันนี้มีเวลาทั้งวัน" เพราะยังไงห้างก็ไม่ปิดตอนทุ่มครึ่งหรอก

     

    เพราะเห็นแก่ว่าตอนนี้มันไม่สะดวกเตนล์ก็เลยยอมหรอกนะ

     

    "ตัวนี้เปนไง??" เตนล์หยิบเอากางเกงขาสั้นสีขาวขึ้นมาเทียบกับตัวเพื่อลองดูความยาว เห็นพวกผู้หญิงชอบใส่กันไม่รู้สึกหนาวๆ หวิวๆ ทีขาบ้างหรือไง

     

    "ลองดูดิ" แทยงหยิบเอาเสื้อกับกางเกงแถวๆ นั้นส่งให้แล้วผายมือไปทางห้องลอง จากที่เมื่อกี้กำลังหงุดหงิดพอได้มาลองๆ เลือกๆ อะไรพวกนี้สักพักก็อารมณ์ดีขึ้นผิดเป็นกอง เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงบางคนเวลาเครียดชอบออกไปช็อปปิ้ง การได้เสียเงินนี่มันทำให้อารมณ์ดีขนาดนั้นเลยหรือไง วันนี้พึ่งเข้าใจจริงๆ

     

    กางเกงขาสั้นสีขาวเป็นตัวแรกที่เตนล์ลองใส่ก่อน ขนาดที่ดูเล็กแต่กลับพอดีตัว และสั้นมาก สั้นจนนึกขำกับความอยากลองของตัวเอง พอใส่แบบนี้เหมือนไปนอนบ้านแฟนแล้วเอาเสื้อแฟนมาใส่เลย เพราะเตนล์ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ มันทั้งหลวมทั้งใหญ่ พอเห็นแล้วก็เปิดม่านออกไปให้แทยงดู เผื่อจะขำเหมือนกัน

     

    "ไม่เวิร์คว่ะ" คำตอบที่แทยงพูดมาทำเอาเตนล์แทบหุบยิ้ม ไม่เวิร์คคือยังไง เมื่อกี้ดูในกระจกก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นปะ แต่พอถูกทักแบบนี้ก็ไม่กล้าขัด พอลองกางเกงยีนส์ตัวอื่น เสื้ออีกสองสามตัวที่ไซส์พอดีก็เลือกไปจ่ายเงิน แต่คราวนี้เตนล์ไม่ยอมให้แทยงจ่าย บอกจะจ่ายเอง ถ้าได้กลับร่างเดิมก็จะส่งต่อให้น้องสาวเอง แต่พวกชุดชั้นในนี่ไม่รู้จะอธิบายกับน้องยังไงจริงๆ

     

    นอกจากที่เตนล์จะซื้อแล้วแทยงก็มีติดไม้ติดมือไปบ้างสองสามตัวไม่เยอะเท่าคุณเธอที่ตอนนี้ดูท่าจะเพลิน

     

    "กลับเลยไหม?"

     

    ".. ยังไม่อยากกลับอ่ะ" แต่ก็ไม่ใช่ว่าเตนล์จะอยากอยู่ที่ห้างต่อ เดินมาทั้งวันแล้วเริ่มเมื่อย ดีที่แวะซื้อรองเท้าแตะโง่ๆ สักคู่มาใส่แทนรองเท้าที่ใส่มา

     

    "งั้นไปนี่กัน"

     

    "ไปไหน?"

     

    แทยงคว้าถุงช้อปปิ้งในมือเตนล์มาถือเอาไว้เองแล้วคว้ามือข้างนั้นมากุมไว้ จากนั้นก็ออกแรงดึงให้รีบเดินตามไปที่รถ

     

    "ไปหาที่ระบายกัน"

     

    "ไม่กินเหล้านะ" เข็ดแล้วจริงๆ กินไปนิดเดียวตื่นมาเป็นผู้หญิงบอกเลยว่าไม่โอเค

     

    "เออน่าา" แทยงสตาร์ทรถขับออกไปตามเส้นทาง ความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ ตลอดเส้นทางที่เริ่มดึกและรถน้อยไม่เงียบเลยเมื่อมีคนช่างพูดช่างจ้อนั่งอยู่ข้างๆ

     

    ใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงจนวันเวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่ บรรยากาศข้างนอกก็เริ่มเผยให้เห็นสถานที่ที่แทยงพอามา แม้มันจะมืดจนแทบมองไม่เห็นแต่เตนล์ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน

     

    "ทะเล??"

     

    "อือ"

     

    "ทำไมอ่ะ"

     

    "กูชอบมาเวลาเหงาๆ เศร้าๆ ซึมๆ"

     

    "มึงเคยมีช่วงเวลาแบบนั้นด้วยหรือไง" เห็นมีคนช่วยคลายเหงาตลอด

     

    "ออกจะบ่อย"

     

    รถถูกบังคับให้เลี้ยวเข้าที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นที่ประหลาดใจเหมือนกันว่าแทยงมีบ้านพักตากอากาศกับเขาด้วยเหรอ รู้ว่ารวยแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ ถึงจะเป็นบ้านทรงเก่าๆ หน่อยแต่ก็ดูสวยไม่หยอกเลย ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางคืนมองไม่ค่อยเห็น

     

    "เวลานั่งจิบเบียร์แล้วโวยวายใส่ทะเลแบบนี้ก็สดชื่นดีเหมือนกันนะ" กลอนประตูบ้านถูกปลดออก แทยงเปิดไฟให้สว่างแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ข้างทีวี

     

    "สักหน่อยไหม?" ขวดเบียร์สีเขียวถูกแช่เย็นจนมีไอน้ำเกาะ เตนล์ไม่อยากเมาแล้วแต่ก็รู้สึกลังเล เวลาเครีดยๆ แบบนี้ถ้าได้น้ำเมามาสักขวดก็น่าจะดี

     

    "ไปข้างนอกกัน"

     

    ท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกวางไว้ใต้ต้นไม้เหมือนเป็นโซฟาประจำตัว แทยงนั่งลงไปก่อนแล้วค่อยดึงให้เตนล์นั่งลงตาม ท้องทะเลสีดำมองอะไรแทบไม่เห็น ถ้าไม่ได้แสงไฟจากตัวบ้าน ป่านนี้เตนล์คงนั่งร้องไห้ไปแล้วเพราะมันมืดมาก

     

    "นี่เป็นที่ลับเฉพาะของกูเลยนะ ไม่เคยมีใครมา"

     

    "เหรอ กูควรดีใจไหมเนี่ย"

     

    "คนแรกเลยนะครับ พ่อแม่ผมยังไม่รู้เลยว่าผมซื้อบ้าน"

     

    "จริงปะเนี่ย แล้วทีห้องกูบอกห้ามคนอื่นเข้ามึงก็ยังพาเข้าอะนะ"

     

    "หึหึหึ" หัวเราะไป เพราะไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้น จะให้บอกว่าอยากดื้อแล้วชอบที่เตนล์บ่นคงได้โดนเอาขวดเขียวๆ ในมือเล็กๆ นั้นฟาดเอา

     

    "หื่มมม" เตนล์พ่นลมหายใจออกมาทางจมูกแรงๆ พอได้มานั่งในที่ที่มีแต่เสียงคลื่นกับลมแค่นี้มันก็สบายใจดีแปลกๆ

     

    "ดีขึ้นไหม?"

     

    "..มั้ง มาบ่อยเหรอ?"

     

    "ก็ค่อนข้าง แอบมาตอนมึงไม่รู้"

     

    "ทำไมต้องแอบ"

     

    "เดี๋ยวมึงคิดว่าไปพาใครเที่ยวอีก"

     

    "ก็เห็นเป็นแบบนั้นทุกวันอ่ะ"

     

    และก็เป็นอีกครั้งที่แทยงไม่แก้ตัวอะไร เตนล์จิบเบียร์เย็นๆ เข้าปากไปเรื่อยๆ เงียบๆ จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

     

    "แล้วจะเอายังไงต่อ" แทยงท้าวคางมองไปทางเตนล์ ฝ่ายนั้นก็เงยหน้ามองฟ้า ดีที่เป็นคืนเดือนมืดถึงได้เห็นดวงดาวมากมายเต็มฟ้า ถ้าคืนนี้มีเมฆมากสักหน่อยคงเสียอารมณ์น่าดู

     

    "หมายถึงเรื่องไหน?"

     

    "เรื่องที่เป็นแบบนี้เนี่ย" มือที่ว่างอยู่ของแทยงก็เริ่มซน เกี่ยวผมยาวของเตนล์ที่ถูกปล่อยเอาไว้ลวกๆ ขึ้นมาเล่น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร

     

    "ไม่รู้ดิ กูพยายามนั่งคิดมาทั้งวันแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ นี่กูถึงขั้นเสิร์จหาในเน็ตอ่านเลยนะเว้ย แม่งอย่างกะนิยายอ่ะชีวิตกู" เตนล์พูดอย่างใส่อารมณ์แล้วหันมาทางแทยงเหมือนเด็กกำลังฟ้อง พอเห็นอีกคนมองมาอยู่แล้วแถมยังเกลี่ยผมเตนล์เล่นเหมือนจะเอามาดมนั้นอีก ใจมันก็หวิวๆ แปลกๆ

     

    คงเพราะบรรยากาศมันชวนให้หวั่นไหวได้ง่ายๆ แต่เตนล์จะแพ้ใจตัวเองง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้

     

     

     

     

    "ถ้าเป็นผู้หญิงอะไรมันก็คงจะง่ายกว่านี้"

     

     

     

     

    อยู่ๆ ก็เหมือนกับเครื่องกรอเทปในหัวหมุนวนกลับไปเมื่อวาน คำพูดที่พูดเมาๆ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอะไรอยู่

     

    "หรือว่า.." เตนล์ไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกี่ยวไหม แต่พอได้คิดถึงมันแล้วก็เอาออกจากหัวไปไม่ได้

     

    "อะไร"

     

    "..เปล่า" ถ้าขืนบอกได้ต้องโดนมองแปลกๆ แน่ พอดีบอกกับเครื่องรางจากญี่ปุ่นที่ยูตะให้มาว่าอยากลองเป็นผู้หญิงดู เผื่อแทยงจะชอบ ให้ตายเตนล์ก็ไม่พูดหรอก

     

    ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรหรือทำอะไรไปมากกว่านั่งจิบเบียร์คิดเรื่องของตัวเองไปเงียบๆ พักใหญ่

     

    "ไปนอนกันเถอะ" ความเงียบถูกทำลายเมื่อแทยงลุกพรวดขึ้นแล้วกระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งขวดหมดภายในคำเดียว

     

    "อ..อื้ม อ้ะ" พอเตนล์จะลุกแล้วกระดกเบียร์ตามบ้างก็โดนแทยงแย่งไปกินแทน เบียร์ที่เหลืออยู่ของเตนล์มันเหลือมากกว่าครึ่งขวดเสียอีกเพราะเตนล์ไม่กล้ากินเยอะมาก รู้ลิมิตความคออ่อนของตัวเองดี กินเบียร์แค่ขวดเดียวก็น็อคได้แล้ว

     

    ภายในบ้านหลังเล็กมีเพียง 1 ห้องนอน จึงไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะนอนห้องไหน แทยงมีเสื้อผ้าอยู่ที่นี้บ้างอยู่แล้วจึงเข้าไปอาบน้ำก่อนออกมาเพื่อหาอะไรให้เตนล์ใส่นอนสำหรับคืนนี้ เพราะเสื้อผ้าที่เจ้าตัวเลือกมาส่วนมากก็เป็นกางเกงยีนส์ หรือกางเกงที่เอาไว้ใส่สำหรับออกไปข้างนอก

     

    "นี้ซื้อตัวนี้มาด้วยเหรอ" แทยงทักเมื่อเตนล์อาบน้ำออกมาเรียบร้อย กางเกงขาสั้นสีขากับเสื้อยืดแบบ oversize ของแทยงบนเรือนร่างอรชรของเตนล์

     

    "ก็กะเอาไว้ใส่เวลานอน"

     

    เมื่อแทยงไม่พูดอะไรต่อ เตนล์ก็เดินอ้อมเตียงไปอีกทางเพื่อเช็ดผมต่อให้แห้ง เพราะไม่รู้จักวิธีรวบผมยังให้ผมไปกองอยู่บนหัวได้ แล้วก็ไม่มียางรัดผมด้วย เตนล์เลยต้องอาบน้ำทั้งผมยาวๆ อยู่แบบนั้น

     

    "ผมยาวนี่มันยุ่งยากจริงๆ"

     

    "เช็ดแบบนั้นเดี๋ยวหัวก็ฟูกันพอดี" เมื่อเตนล์เอาผ้าคลุมหัวแล้วใช้สองมือขยี้ๆ จนผมเริ่มฟู แทยงก็ลุกไปเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอาไดร์เป่าผมออกมา

     

    "เดี๋ยวช่วย" ผ้าเช็ดตัวที่คลุมหัวอยู่ถูกแทยงจับออกไปวางบนหน้าตักของเตนล์แทน ลมร้อนที่ไม่ร้อนจนเกินไปถูกเป่าออกมาจากเครื่องพอดีมือ แทยงค่อยๆ แบ่งกลุ่มผมของเตนล์ออกมาสางเบาๆ เพราะตอนนี้มันพันกันแล้วกลัวอีกคนจะเจ็บ

     

    "ทำบ่อยเหรอ" คำถามที่ไม่รู้จถามไปทำไม ถ้าได้คำตอบกลับมาว่าใช่ ก็มีแต่เตนล์นั้นแหล่ะที่จะเจ็บเอง

     

    "ก็บ่อยนะ"

     

    "..."

     

    "ทุกครั้งที่อาบน้ำให้หมาก็มาเป่าขนให้แบบนี้แหล่ะ"

     

    "นี่! อย่าบอกนะว่าอันนี้คือไดร์เป่าขนหมา??" เตนล์รีบหันขวับกลับมาทางแทยง จับมือที่่ถือไดร์เป่าผมเอาไว้

     

    "หึหึ ไม่ใช่หรอก ก็ซื้อติดไว้เผื่อได้ใช้ประโยชน์"

     

    "แล้วไป"

     

    เตนล์ปล่อยให้แทยงเป่าผมต่อให้จนแห้ง เพราะแทยงทำอย่างเบามือ แล้วมันสบายกับลมอุ่นๆ ผสมกับฤทธ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปมันทำให้เผลอหลับกลางอากาศจนอีกคนคว้าแทบไม่ทัน

     

    แทยงจับเตนล์ให้นอนห่มผ้าให้เรียบร้อยก็ลุกไปปิดไฟ ค่ำคืนที่แสนวุ่นวายวันนี้ก็จบลง

     

     

     

     

     

     

    กลิ่นหอมของขนมปังที่กำลังกรอบกับเบค่อนและไข่คน อาหารเช้าง่ายๆ ที่ถูกทำแบ่งออกเป็น 2 จานจากวัตถุดิบที่เหลืออยู่ในตู้เย็น แทยงวางจานอาหารเช้าไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปปลุกเจ้าหญิงนิทราขี้เซาที่ตื่นสายอีกแล้วให้ลุกขึ้นมา แต่กว่าจะยือแย่งกันอยู่บนเตียงให้เตนล์ตื่นเต็มตาได้ก็นานสองนานจนกลัวว่าไข่คนนุ่มๆ จะเริ่มเย็นชืดไม่อร่อย

     

    "เอานมหรือน้ำส้ม"

     

    "น้ำส้ม.. ทำไมถึงมีของพวกนี้เยอะจัง" เตนล์สงสัย ถ้าจะบอกว่าเป็นบ้านพักต่างอากาศแล้วทำไมถึงมีของสดในตู้เย็นเยอะขนาดนี้ แม้แต่ตู้แช่เบียร์ก็ยังมีพร้อม

     

    "ก็บอกแล้วว่ามาบ่อย"

     

    มื้ออาหารไม่ได้อร่อยเท่าที่ควร เพราะทุกอย่างมันเริ่มเย็นจากระยะเวลาที่ไปปลุกเตนล์ แต่ทั้งคู่ก็นั่งกินต่อจนหมด

     

    "เดี๋ยวสายๆ ไปเล่นน้ำกัน"

     

    "ไม่ได้เอาชุดมา"

     

    "มีอยู่แล้ว" แทยงชี้ไปที่ถุงข้าวของที่ไปซื้อกันมาเมื่อวาน

     

    "นั้นมันชุดชั้นใน" เตนล์รู้ว่าไม่ควรเอาชุดชั้นในมาใส่เล่นน้ำ เพราะเตนล์จะไม่มีใส่อีก เพราะซื้อมาแค่สองชุด ชุดแรกคือที่ใส่เมื่อวานกับเอาไว้ใส่วันนี้ ไม่อยากซื้อมาเยอะเพราะมันไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร หมายถึง คงไม่จำเป็นจะต้องใช้มากอะไรขนาดนั้นมั้ง ถ้าได้กลับไปเป็นผู้ชายแล้วจะให้เอามาใส่ก็คงแปลกๆ

     

    "ลองเปิดดูยัง"

     

    "หืม??" ว่าแล้วก็ลุกไปหยิบเอาถุงของร้านชื่อดังมาเปิดออกดูว่ามีอะไรที่เพิ่มมาผิดปกติ จากที่ควรมีชุดชั้นในสีครีมแค่ชุดเดียวกลับมีบางสิ่งเพิ่มขึ้นมาอีก

     

    "จะบ้าหรือไง" เตนล์โวยเมื่อสองสิ่งที่อยู่ในมือ บิกินี่สีดำที่ไม่รู้เข้ามาอยู่ในถุงนี่ตั้งแต่เมื่อไร หรือบางทีก็อาจจะตั้งแต่ตอนซื้อแต่เตนล์ไม่รู้ ถึงว่าทำไมถึงดึงดันจะจ่ายให้ เพราะกลัวเตนล์จะรู้ว่ามีอะไรที่เพิ่มมาในใบเสร็จสินะ

     

    "ก็เอาไว้เล่นน้ำ"

     

    "ทะลึ่งเหรอแทยง"

     

    แทยงไม่ตอบ เอาแต่นั่งเกาคิ้วมองเพดาน มองอากาศไปเรื่อย

     

    "นี่กูเป็นผู้ชายนะ"

     

    "ก็..มั้งนะ ไม่เห็นเป็นไรเลย นานๆ ที" คำพูดและการกระทำแสนกวนทำเอาสาวเจ้าต้องเดินปึงปังกลับเข้าห้องนอน เรื่องอะไรมาทำเหมือนเขาเป็นผู้หญิง รู้ทั้งรู้อยู่ว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังจะเล่นอีก

     

     

    "ถ้าเป็นผู้หญิงอะไรมันก็คงจะง่ายกว่านี้"

     

     

    คำพูดเดิมวนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง เตนล์นั่งลงบนเตียงมองผ้าชิ้นเล็กในมือแล้วก็ถอนหายใจออกมา หากนี่เป็นเพราะเตนล์พูดแบบนั้นกับเครื่องรางจริงๆ การที่ได้เป็นผู้หญิงแบบนี้แล้วก็ควรจะเดินหน้าต่อเลยหรือเปล่า

     

    ถ้าเป็นผู้หญิงมาได้ครึ่งทางแบบนี้แล้วก็ควรจะไปต่อให้ความรักมันสมหวังเลยหรือเปล่า

     

    "เตนล์ ออกไปเล่นน้ำกันก่อนที่แดดมันจะแรงกว่านี้" แทยงเคาะประตูห้องแล้วพูดจากด้านนอก เตนล์ไม่ตอบอะไรกลับมา แต่แทยงก็เดินไปเตรียมผ้าเช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อเหลือแค่กางเกงตัวเดียว ขวดครีมกันแดดอยู่ในห้องนอนเลยไม่ได้หยิบออกมาด้วย แทยงเดินออกไปข้างนอกบริเวณขอนไม้ที่เดิม วางข้าวของไว้ให้เป็นที่แล้วบิดขี้เกียจรอจนกว่าอีกคนจะออกมา

     

    ถ้าให้ไปเล่นน้ำคนเดียวคงไม่เอา แถวนี้ไม่ค่อยมีบ้านคน หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่มี มันค่อนข้างจะเงียบสงบ แทยงถึงได้เลือกซื้อบ้านตรงนี้ไว้ด้วยเงินที่ทำงานพิเศษช่วงมหาลัยและหุ้นที่มีกับบริษัทของครอบครัว

     

    เสียงฝีเท้าที่เดินตามมาจากด้านหลัง แทยงยกยิ้มเบาๆ เมื่อเตนล์ยอมออกมา และไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าตัวจะยอมใส่บิกินี่ที่สู้อุตส่าห์ซื้อในราคาที่แพงทั้งๆ ที่ก็เป็นแค่ผ้าชิ้นเล็กสองชิ้นเท่านั้น แต่พอหันไปมอง เรือนร่างอรชรสีขาวราวกับน้ำนม แขนขากลมกลึงนุ่มนิ่มน่าสัมผัส เตนล์ไม่ผอมแห้งแค่พอมีน้ำมีนวลตัดกับบิกินี่สองชิ้นสีดำ คนที่ยอมใส่เดินออกมาแบบไม่มองทาง เสตามองนกมองไม้ไปเรื่อยจนมาหยุดอยู่ข้างๆ แทยงที่นั่งรออยู่ก่อน

     

    "มึงสวยว่ะ"

     

    "กูหล่อเหอะ"

     

    "อื้มมม" แทยงแกล้งขึ้นเสียงสูงยาวอย่างกวนประสาท ยิ่งเตนล์เข้ามายืนใกล้ๆ ให้ได้สำรวจง่ายๆ ความเป็นชายมันก็เรียกร้องจนเริ่มตึง อากาศในตอนเช้ากับลมทะเลยังไม่ร้อนมาก แต่แทยงกลับรู้สึกว่ามันร้อนสุดๆ จนแสบจมูก

     

    "เชี่ย แทยงเลือดกำเดามึงไหลอีกแล้ว" พอเตนล์หันมามองก็ตกใจ เมื่อแทยงเลือดกำเดาไหลอีกรอบหลังจากเมื่อวาน พอถูกทักแทยงก็ยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ไหลออกมา ไม่น่าเชื่อว่าเจอผู้หญิงมานักต่อนัก แต่พอเจอเตนล์แค่นี่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไก่อ่อน

     

    "คึคึ ชอบอะดิ๊ สาวๆ สวยๆ แบบกูนี่"

     

    แทยงไม่ตอบ เพราะใช้ทั้งหลังมือ นิ้วโป้งปาดเลือดที่จมูกออกช้าเรื่อยๆ เพราะมันจะไหลไม่หยุด

     

    "แมนๆ คุยกันดิ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย"

     

    หมับ

     

    พอไม่มีที่จะเช็ดห้ามเลือด แทยงก็คว้าคนที่เอาแต่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่นั้นเข้ามาใกล้จนเกือบเซล้มลงไป ปลายจมูกโด่งที่มีคราบเลือดติดอยู่ฝังลงบนผ้านุ่มบนอกขาว แขนซ้ายโอบรอบเอวบางเอาไว้ เพื่อล็อกไม่ให้เจ้าตัวดิ้น คนที่อยู่ๆ ก็โดนดึงตัวไปถึงกับตัวเกร็ง ใครจะไม่เกร็ง อยู่ดีๆ มีคนเอาจมูกมาทิ่มนมตัวเองแบบนั้น หัวใจเต้นโครมครามจนมันแทบทะลุอกออกมา

     

    "อะไร แมนๆ คุยกันไม่ใช่เหรอ" ไม่รู้ว่าตั้งใจแกล้งหรืออะไร เมื่อแทยงพูด ริมฝีปากมันก็สัมผัสเข้าที่ผิวเนื้อของเตนล์เบาๆ กับลมร้อนที่เป่าผ่านคำพูดมาอีกจนไรขนอ่อนลุกพรึ่บอย่างห้ามไม่อยู่ มือของแทยงที่อ้อมเอวเตนล์ไว้สัมผัสอยู่บนหน้าท้องพอดี แทยงลูบขึ้นลงช้าๆ แล้วกดนิ้วลงไปตามผิว สัมผัสนุ่มนิ่มไม่ต่างจากที่คิด แต่มันกลับเพิ่มความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่

     

    "ถึงกูจะรู้ว่ามึงเป็นผู้ชายยังไง แต่ตอนนี้มึงอยู่ในร่างของผู้หญิงนะเตนล์"

     

    "..."

     

    แทยงใช้ขาซ้ายยกขึ้นอ้อมไปด้านหลังเตนล์ แล้วดันตัวให้อีกคนนั่งลงบนตัก ซึ่งเตนล์ก็ทำอย่างว่าง่าย จริงๆ แล้วเข่ามันแทบอ่อนอยู่แล้วแค่แทยงพูดแล้วเกลี่ยจมูกกับเนื้อผ้าเหมือนพยายามจะเช็ดเลือดหรืออะไรก็ไม่รู้

     

    "แล้วมันก็ทำให้กูรู้สึกมากเหมือนกัน ถ้าไม่ตั้งใจก็อย่าเล่นแบบนี้อีก" เพราะเตนล์บอกว่าแมนๆ คุนกันดิ แทยงเลยจับมือของเตนล์เข้ามาสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวใต้ร่มผ้าของตัวเองที่เริ่มแข็งตึง แต่ยังไม่มาพอที่จะปลดปล่อย และถ้าพวกเขาหยุดกันตรงนี้แล้วลงไปเล่นน้ำสักพักมันก็คงหาย

     

    เลือดแทยงหยุดไหลแล้ว จึงผละออกจากตัวของเตนล์แล้วไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาเทน้ำเปล่าใส่เพื่อเช็ดคราบเลือดในมือ และที่ยังเหลือติดจมูกไว้ แบบที่เตนล์สงสัยว่าทำไมถึงไม่เอาผ้ามาเช็ดตั้งแต่แรก

     

    คำพูดที่เอาออกจากใจไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน เตนล์นั่งกุมมืออยู่บนตักแทยงไม่ยอมลุกไปไหน ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเช็ดคราบเลือดออก พอแทยงกำลังจะวางผ้าลงเตนล์ก็คว้ามาถือไว้ก่อนโดยที่ไม่ทันคิดอะไร

     

    "..."

     

    แทยงมองหน้าเหมือนสงสัยว่าจะเอาอะไรอีก แต่เตนล์ไม่ตอบ สัมผัสของผ้าเช็ดตัวที่เปียกชื่นและมีคราบเลือดจางๆ ของแทยง เตนล์กำเอาไว้แน่นเหมือนเรียกกำลังใจ

     

    เอาวะ

     

    มาถึงขนาดนี้แล้ว

     

    มาถึงขนาดนี้แล้ว ไปให้สุดค่ะ !!

     

     

     

     

    สุดท้ายแล้วก็ใช้ทุกยางไม่หมด เมื่อปล่อยน้ำที่ 4 ออกมาเตนล์ก็เบะปากงอแงจะร้องไห้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงได้ยอมปล่อยให้นอน เพราะเอาเข้าจริงแทยงก็เริ่มเพลียแล้วเหมือนกัน

     

     

     

    แทยงตื่นขึ้นมาตอนบ่ายกว่าๆ ร่างของอีกคนที่นอนมุดผ้าห่มพันตัวแน่นเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรอีก เสี้ยวของใบหน้าน่ารักยู่เข้าหากันเป็นก้อนกลมๆ จนนึกอยากหอม

     

    แทยงหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแจ้งเตือนมากมายก่อนจะลบอะไรที่ไม่จำเป็นออก เหลือแค่ข้อความจากเพื่อนในมหาลัยที่ส่งมาชวนไปเที่ยวบ้างแต่ก็ตอบปฏิเสธไป ช่วงนี้เขาไม่ว่างแล้ว และคงไม่ว่างไปอีกนาน

     

    พอจะลุกไปทำมื้อเที่ยง ก็นึกได้ว่าไม่มีของสดนอกเหนือจากไข่กับเบค่อนแล้ว จึงคิดว่าปลุกเตนล์ไปอาบน้ำออกไปหาอะไรกินข้าวนอกแล้วค่อยคิดดีกว่าว่าจะกลับห้องเลยหรือจะอยู่ที่นี้ต่อ

     

    "เตนล์" แทยงไม่ไปอาบน้ำก่อน แต่เลือกที่จะปลุกเตนล์ก่อน คนขี้เซาตื่นยากก็ปลุกยากเช่นเดิม ต้องเรียกต้องเขย่าจนเริ่มรู้สึกตัว

     

    "ไปอาบน้ำกัน"

     

    "อื่อออ" ครางเบาๆ ในลำคอเพราะโดนรบกวน เตนล์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อคลายก้อนผ้าห่มที่พันรอบตัวเองไว้ ก่อนจะสะดุ้งลุกพรวดขึ้นมาแล้วถอยไปจนชนหัวเตียง

     

    เพราะสัมผัสบางอย่างที่มันอยู่ตรงระหว่างขามันเปลี่ยนไป เป็นบางอย่างที่คุ้นเคย

     

    ผ้าห่มที่คลุมตัวร่นตกลงมา ก้อนหน้าอกพอดีมือกลายเป็นแผ่นแบนตามแบบของผู้ชายทั่วๆ ไป เส้นผมที่ยาวปรกหน้าปรกหลังสั้นเหลือเท่าเดิม

     

    ร่างกายของเขากลับมาเป็นผู้ชายแล้ว

     

    สิ่งที่ทำให้แทยงตกใจไม่แพ้กัน

     

    "..ค..คือ.."

     

    "..."

     

    พอเห็นแทยงเงียบ แววตามองมาเหมือนตั้งคำถาม คนไม่กล้าสู้หน้าก็รีบลุกตั้งใจจะเดินหนี

     

    "เดี๋ยวสิ"

     

    "..."

     

    "ไปอาบน้ำกัน"

     

    ที่เงียบไปเมื่อครู่ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะกลับมาเป็นผู้ชายได้เร็วขนาดนี้ หรือเตนล์จะสามารถแปลงร่างชายหญิงแบบนี้ได้ แต่ก็ไม่น่าใช่ คือเขาแค่ยังประมวลผลไม่ทัน แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ เตนล์ก็คือเตนล์

     

    "ปล่อยเหอะ กูจะกลับแล้ว"

     

    "กลับได้ไง กูชวนมึงไปกินข้าวอยู่นะ"

     

    "ไม่..คือไม่ มึงก็รู้ว่าทำไม"

     

    "ทำไม ไม่อะไร ตั้งแต่เช้าแล้วนะ บอกไม่รู้ๆ ไม่รู้อะไร"

     

    "..ตอนนี้กูกลับมาเป็นผู้ชายแล้ว"

     

    "แล้วไง"

     

    "ก็มันจบแล้วไง กูจะกลับบ้านแล้ว"

     

    "...นี่มึงจะทิ้งกูเหรอเตนล์ ได้กูแล้วทิ้งอ๋อ"

     

    "ห้ะ"

     

    "กูไม่ยอมจบกับมึงเพราะเรื่องแค่นี้หรอกนะเตนล์"

     

    "..มันไม่ใช่เรื่องแค่นี้ปะวะ มึงชอบผู้หญิงก็เห็นๆ อยู่ ตอนนี้กูเป็นผู้ชายแล้วมึงยังจะชอบกูเหรอ"

     

    หลังจากที่พยายามคิดตามแล้วว่าเตนล์เป็นอะไร ตอนนี้แทยงก็เริ่มเข้าใจมาหน่อยๆ แล้วล่ะ ว่าเจ้าตัวคงคิดว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แต่พอเป็นผู้ชายแล้วทุกอย่างมันก็คงจบ

     

    "อ๋อ เข้าใจละ"

     

    "เข้าใจแล้วก็ปล่อยดิ"

     

    "ที่กูบอกว่ารัก บอกว่าชอบไปนี่ไม่เข้าหูเลยใช่ไหม? หรือต้องให้ซ้ำอีกรอบถึงจะยอมเข้าใจ?" แทยงดึงเตนล์เข้ามากอด ถึงคราวนี้จะเป็นร่างผู้ชายที่ใกล้เคียงกันแต่ถ้าเทียบดูแล้วเตนล์ก็อ่อนแอกว่าเขามาก ดูแค่ที่แขนก็รู้แล้วเตนล์ไม่มีกล้ามเนื้อเลยมาแต่ความนุ่มนิ่มน่าจับ

     

    "...มึงชอบกูจริงๆ เหรอ.." คนที่ไม่มั่นใจก็ยังไม่มั่นใจอยู่ จะให้บอกว่าเชื่อได้ยังไง แทยงเป็นยังไงที่ผ่านมาก็รู้ดีอยู่ แล้วอยู่ๆ จะมาบอกว่าชอบกันแบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ

     

    "อ่า ไม่เชื่อ ได้ กูมีเวลาอีกทั้งวันที่จะทำให้มึงเชื่อ" พูดแล้วก็ดันตัวอีกคนลงนอนบนพื้นฟูกนุ่มๆ ทันที

     

    "เดี๋ยวดิ"

     

    "อะไรอีก"

     

    "จริงๆ เหรอ นี่คือกูเป็นผู้ชายน--"

     

    แทยงจัดการจูบปิดปากคนขี้สงสัย จะมาเป็นเจ้าหนูจำไมอะไรตอนนี้ ทีเมื่อเช้าเป็นคนยั่วเขาก่อนแท้ๆ

     

    "ลองดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อ ถุงยางกูเหลืออีก 2 อัน"

     

    "พอเลย" เตนล์บีบแก้มแทยงแล้วดันออก ตอนนี้เปลือยกันทั้งคู่ไม่แน่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้ง่ายๆ

     

    "เชื่อยัง? เชื่อได้ยัง ถ้าเชื่อแล้วก็ไปอาบน้ำกันกูหิวข้าวมาก ก่อนที่กูจะเริ่มกินอย่างอื่นแทน"

     

    "เอาจริงๆ มันก็ยังไม่ค่อยน่าเชื่ออยู่ดีอ่ะ"

     

    "ซักทีดีมั้ย?" เอะอะก็ไม่เชื่อ คำที่แทยงพูดออกมานี่มันไม่มีน้ำหนักให้เชื่อเลยสักนิดหรือไง

     

    "อือ เอาดิ"

     

    แทยงเลิกคิ้วขึ้นเหมือนสงสัย อยู่ดีๆ ก็ท่าแต่แววตาประหม่าไม่มีความมั่นใจนั้นทำให้แทยงลุกขึ้น

     

    แล้วเดินไปหยิบทุกอย่างอีก 2 อันจากกระเป๋าเงินข้างนอกเข้ามาในห้องเพื่อย้ำให้เจ้าหนูจำไมขี้สงสัยและไม่มั่นใจในตัวเองนี่มั่นใจได้สักที

     

    "รักนะ"

     

    "อื่ออ..อ้ะ.. แท..ย..ง อ่า.."

     






    ---------------------------------

    อยู่ดีๆ ก็อยากลองแต่งแนวนี้ หมายถึง ชายหญิง มั้ง ฮือ อย่าว่าเรา เราคิดนานเหมือนกันค่ะว่าจะแต่งดีไหม โดนด่าแน่เลยไรงี้ 555555555555555555 แต่ก็อยากลองดู นี่เมื่อคืนฝนตกไฟดับไม่มีเน็ต ก็ยังแต่ง แต่งยาวด้วยไม่อยากแบ่งพาร์ท เลยมาตอนเดียวรวด ยาวๆ ไปเลยฮะะะ 

    อาจจะอธิบายเรื่องเครื่องรางไม่ค่อยดี ไม่มีตอนจบ เพราะ... เหนื่อยแล้ว เอาเป็นว่า นั้นแหล่ะ อย่าถือสานุเลย นุขอโทษ แง๊


    #มอฟิค

    @mellopizery

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×