คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #61 : - ICE[2] 52 - บทสรุป
‘ ICE[2] 52 ’
_____________
“ ลองสมัครดูสิ เห็นเขาว่าเป็นบริษัทใหญ่แล้วก็ตอนนี้เขาก็รับสมัครเลขาอยู่ ยังไงก็ถือว่าหาประสบการณ์ ”
เป็นธรรมดาที่คนที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆจะต้องการที่จะลองวิชาโดยการเข้าไปสมัครงานตามสถานที่ต่างๆที่เขารับสมัครซึ่งพอเขาเรียนจบได้ไม่นานเพื่อนของเขาก็ชวนเขาไปสมัครงานแห่งหนึ่งโดยหลังจากอาทิตย์กว่าๆที่เขาได้ลองยื่นใบสมัครไป วันนี้เขาก็ได้ถูกนัดมาดูตัวซึ่งนั้นก็ทำให้เขานั้นได้มายืนอยู่หน้าตึกสูงสง่าแบบนี้ ปาร์คยูฮวาน ยืนถอนหายใจอยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในบริษัทใหญ่...ทำไมถึงได้รนขนาดนี้นะ
“ เออ..ขอโทษนะครับ คือผมมา--- ”
“สมัครงานใช่ไหมคะ? คุณ... ”
“ ยูฮวานครับ...ปาร์ค ยูฮวาน ” ร่างบางมองหญิงสาวที่กำลังยกหูโทรศัพท์ขึ้นคุยอยู่ซักพักก่อนจะหันมายิ้มให้ตนเอง “ โชคดีจังนะคะ วันนี้ท่านรองประธานจะขอสัมภาษณ์คุณเอง ”
...โชคดีตรงไหนหว่า...
“ ขึ้นลิฟท์ทางได้ขวามือ..ชั้น54นะคะ ” ใบหน้าเรียวขยับขึ้นลงน้อยๆแล้วไม่ลืมที่จะหยิบการ์ดขอเข้าพบติดไปด้วย ขาเรียวพาตนเองเดินไปยังลิฟท์แก้วตัวที่ว่าแถมมันยังใช้เวลาเพียงไม่นานเลยที่ประตูลิฟท์มันจะเปิดออกแล้วเสียงปิดลิฟท์เมื่อร่างบางเดินเข้าไปภายในแล้ว
...ยิ่งมันขึ้นสูงใกล้ชั้นเจ้าปัญหาเนี่ยเท่าไหร่เขายิ่งใจเต้นมากขึ้นเท่านั้น หาแต่มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่ชายหนุ่มผู้นี้จะรนรานเพราะนี้ก็เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้มาสมัครงานแล้วก็มาได้สอบสัมภาษณ์อะไรแบบนี้ เล่นเอามือไม้สั่นไปหมดเสียแล้ว...
ติ้ง..////
“ อ่ะ... ” เมื่อไหร่ไม่รู้ว่าที่อาการเหม่อของเขาต้องชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงประตูลิฟท์ที่เปิดออก ร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่เพียงเสียววิเพื่อทำใจก่อนจะค่อยๆเดินออกมายืนอยู่เบื้องหน้า...เอาวะปาร์ค ยูฮวานพี่ชายแกรอความสำเร็จของแกอยู่ที่บ้าน
คนตัวเล็กในชุดสูทพอดีตัวเดินตรงไปยังโต๊ะเบื้องหน้าที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับป้ายที่ติดอยู่หน้าโต๊ะว่า ‘จุดนัดสัมภาษณ์’ มือขาวที่ติดเย็นนิดๆซึ่งเป็นผลมาจากความตื่นเต้นของเจ้าตัวยืนส่งบัตรแสดงตัวให้หญิงสาวตรงหน้า
“ คุณ... ”
“ ปาร์ค ยูฮวานครับผม ” คนตัวเล็กเอ่อตอบไป หล่อนเผยยิ้มบางๆให้ก่อนจะก้มลงหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดดูอะไรอยู่สักพักก่อนที่จะยกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อสายไปหาใครซักคนซึ่งนั้นเขาก็คงเดาได้ว่าคงเป็นรองประธานที่จะทำหน้าที่สัมภาษณ์เขานั้นแหละ
“ เออ...คุณปาร์คค่ะ เขาต้องขอแจ้งนิดนึงว่าพอดีว่าท่านรองประธานถูกเรียกตัวด่วนไปเมื่อกี้นี่เอง เพราะงั้นคนที่จะมาสัมภาษณ์คุณนั้นจะเป็นผู้ช่วยของรองประธานแทนนะคะ ” ใบหน้าหวานหยักหน้าตกลง จากอาการเกร็งเมื่อกี้ดูจะดูขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็นะ...ถ้าได้สัมภาษณ์กับคนที่เป็นถึงรองประธานก็ต้องระวังคำพูดกับมากถึงมากที่สุด คงต้องผิดไม่ได้เลยแน่ๆ แล้วยิ่งเขาเป็นพวกที่ไม่ค่อยระวังหน้าระวังหลังแล้วด้วย..
“ โอเคคะ ถ้าพร้อมแล้วก็...เชิญเข้าไปพบท่านได้เลยคะ ” แม้หล่อนจะเผยยิ้มกว้างมาให้ตนเองแต่เขาก็นั้นยอมรับตามตรงว่าความพร้อมที่พกมาจากบ้านไม่รู้ว่ามันไปล่วงหายอยู่ที่ไหน เสียงกลอนประตูที่เปิดออกโดนอัตโนมัติ ทำเอาใจเขาเต้นแรงขึ้นอีก
...จะช็อคก่อนสัมภาษณ์เสร็จไหม??
“ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกคะ...ท่านผู้ช่วยเขาใจดีมากนะคะ ยังไงก็โชดดีนะคะ ” อาการเกร็งจนเห็นได้ชัดนั้นทำเอาคนที่เคยเป็นเหมือนกับเด็กคนนี้มาก่อนเป็นอันต้องพูดปลอบใจ ยูฮวานหันมายิ้มแห้งๆให้ก่อนจะกระชับแฟ้มประวัติและผลงานของตนเองในมือแน่นแล้วค่อยๆย่างกายตนเองเข้าไปในห้อง
...เป็นไงเป็นกัน
_______________
“ วันนี้มาร้านฉันเช้าจังเลยมิคกี้ ”
กลิ่นกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ประจำลอยฟุ้งไปทั่วร้าน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ แถมมุมสงบๆที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ในอเมริกาเช่นนี้... ร่างสูงรับกาแฟร้อนควันชุ่ยที่เพิ่งทำเสร็จขึ้นมาจิบดื่มเพื่อคลายหนาวจากอากาศเบื้องนอก
“ พอดีน้องฉันมีสอบสัมภาษณ์งานเช้าน่ะ เลยไปส่งแล้วก็แวะมาหาร้านนายเนี่ยแหละ ” อันที่จริงร้านนี้เขาก็เคยมาอยู่เมื่อหลายปีมาแล้วแต่เพราะว่าตนเองนั้นไม่ได้อาศัยอยู่ย่านนี้เขาจึงไม่ค่อยที่จะย่างกายเข้ามาในร้านนี้เท่าไหร่ แต่เมื่อเขามาแล้วก็ดันติดใจบรรยากาศของร้านซะนี้ อีกอย่างคือเขาก็มาที่นี่กับน้องชายเพียงคนเดียวเมื่อน้องตนเองไปเรียนเขาก็ต้องหาอะไรทำแก้เหงาซึ่งเจ้าของร้านช่างพูดแห่งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะช่วยได้ดี
“ เดี๋ยวนี้เวลามันไววะเนอะ ฉันรู้สึกเหมือนน้องแกยังพึ่งเข้ามหาลัยอยู่เลย...แต่น้องแกมันก็เก่งนะ สอบเข้าที่นี่ได้น่ะ...ฉันว่ามันมีเปอร์เซ็นต์สูงอยู่นาที่ทางบริษัทนั้นเขาจะรับน้องนายน่ะ ” ปากว่าไปมือก็ขยับชงกาแฟให้ลูกค้าในร้านไป มิคกี้..หรือว่าปาร์คยูชอนพยักหน้ารับน้อยๆพลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“ ก็ดูเหมือนน้องฉันมันหวังที่นี่เอาไว้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ได้...ฉันก็พอมีบริษัทที่รู้จักอยู่ ”
“ ก็เป็นบริษัทชั้นนำนิหว่า ใครก็ฝันที่จะอยากเข้าไปทำงานด้วยกันทั้งนั้น...แต่ฉันว่ายังไงริคกี้มันก็ต้องได้อยู่แล้ว จบตั้งที่นี่ไม่ได้ก็แปลก ”
“ ฮ่าๆ ฉันก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น แต่กลัวว่ามันจะไปทำเปิ่นใส่น่ะสิ...ยิ่งเป็นพวกไม่ค่อยชอบระวังอะไรอยู่ ” คนฟังก็พลอยหัวเราะได้ด้วย เพราะเขาเองก็สนิทกับน้องชายของมิคกี้ไม่ต่างกัน วันหยุดว่างๆบางวันน้องชายมันก็มักจะเข้ามาแวะกินโกโก้ร้อนบ้าง อ่านหนังสือบ้างหรือไม่ก็เข้ามาช่วยชงหรือเสิร์ฟกาแฟ
“ แล้วนี่สัมภาษณ์เสร็จเมื่อไหร่? ”
“ เดี๋ยวมันเสร็จก็คงโทรมาให้ไปรับเองหล่ะ ”
“ ขอให้ได้ฟังข่าวดีล่ะกัน ”
“ ขอบใจวะ ”
_______________
ใบหน้าหวานก้มลงต่ำเล็กน้อย หากแต่ริมฝีปากอิ่มยังคงพูดตอบคำถามไปเรื่อยๆอย่างไม่มีข้อบกพร่อง ระหว่างที่รอคำถามต่อไปเขาก็เอาแต่ก้มหน้านิ่ง...จะบอกว่าตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์มาเกือบ20นาที เขายังไม่ได้เงยหน้ามองเลยว่าไอ้คนสัมภาษณ์หน้าตาเป็นยังไง
“ ฮ่ะๆ...นี่คุณนะก้มหน้าไปแบบนี้ทั้งการสัมภาษณ์ผมก็ไม่ว่าคุณหรอกนะ แต่เกรงว่าหลังจากที่เราสัมภาษณ์กันเสร็จแล้วคุณจะปวดคอเอานะ ” ใบหน้าหวานค่อยๆเงยขึ้นมาพลางยิ้มแห้งๆให้แก่คนตรงหน้า แต่นั้นกลับทำให้สีหน้าของเขาซีดลง
...เป็นไปไม่ได้...
“ หน้าผมมีอะไรติดรึเปล่าครับ? ” เสียงทุ่มที่เอ่ยเรียกสติเขาเอาไว้ทำให้คนที่เหม่อไปส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิม
“ เปล่าครับ...ไม่มีอะไร ”
...ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก...
______________
ตึก.. ///
“ อ้าว...กลับมาแล้วเหรอยูฮวาน นี่ซีเวียสเขาทำโกโก้ร้อนมาให้น่ะ ใส่กระติกมาให้ว่างอยู่บนเคาน์เตอร์ที่ครัวน่ะ ” คนที่เอ่ยขึ้นกำลังนั่งเปิดไล่ช่องโทรทัศน์ดู หันกลับมามองน้องชายของตนเองที่เพิ่งเปิดประตูบ้านเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบๆ
“ ทำไมสัมภาษณ์เสร็จแล้วไม่โทรหาพี่ล่ะ จะได้ไปรับ ” ยูชอนมองน้องชายตนเองที่เดินเข้ามานั่งข้างๆพร้อมกับใบหน้าที่เฉยชา ต่างจากเมื่อเช้าที่ดูจะแสดงถึงว่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“ พอดีว่าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะฮะ จะรู้สึกตัวอีกทีก็นั่งรถกลับมาบ้านแล้ว ”
“ เหรอ...แล้วสอบสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง? ” ความสำคัญของโทรทัศน์ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับน้องชายของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆอีกแล้ว คนโดนถามค่อยๆถอนหายใจแล้วหันมามองพี่ชายตนเอง
“ ผมไม่ค่อยหวังแล้วล่ะ ”
“ ทำไมวะ? มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เฮ้ย...เขาเห็นชื่อมหาลัยแกเขาก็น่าจะเก็บเอาไว้พิจารณาหน่อยจะเว้ย ” คนตัวเล็กส่ายหน้าช้าๆแล้วก็นิ่งเงียบไป สุดท้ายแล้วปาร์ค ยูชอนก็ทำได้แค่นั่งปลอบน้องชายตนเองว่าไม่เป็นไร บริษัทดีๆที่นี่มันก็ยังมีอีกเยอะ หรือดีกว่านี้ก็ยังมีอีกอย่างเขาก็ไม่ได้รีบร้อนเงินขนาดต้องรีบหางาน เพราะฉะนั้นนั้นไม่เป็นไรเลย
...ผมไม่อยากทำงานหรืออยู่ร่วมกับคนๆนั้นอีกแล้ว
แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าตัวเขาเองนั้นสามารถควบคุมสภาพจิตใจของตนเองได้แล้ว เขาเปลี่ยนแล้ว เขาไม่ใช่ปาร์ค ยูฮวานคนเดิมอีกแล้ว...แต่มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะกลับมาอีกครั้งไม่ได้ ความรู้สึกลึกๆที่เขาเก็บมันเอาไว้ลึกที่สุด ลึกจนทำให้เขากลัวว่ามันจะประทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ เอาน่า...เลิกเครียดได้แล้ว นี่ไอ้ซีเวียสมันอุตส่าห์ทำโกโก้แบบที่แกชอบมาด้วยนะรู้ไหม เอามากินแก้เครียดดีกว่า ” ยูฮวานมองพี่ชายตนเองที่ลุกเดินไปยังเคาน์เตอร์รินโกโก้ที่ยังคงร้อนอยู่ใส่แก้วกระเบื้องแล้วนำมายื่นให้
“ ขอบคุณฮะ ”
“ พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรทำ ไอ้นั้นมันชวนไปช่วยงานที่ร้าน...รู้สึกว่ามันจะชอบแกนะเนี่ยเจ้านี่น่ะ ” ร่างเล็กหัวเราะกับสิ่งที่พี่ชายตนเองบ่นไม่ยอมหยุดว่าวันนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งมันก็ได้ทำให้เขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี่ไปได้อย่างดี
...มันก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
_______________
“ ริคกี้ วันนี้ขอบคุณมานะที่มาช่วย...พี่ว่านะ ลูกค้ามาเพราะว่าติดใจเด็กเสิร์ฟคนนี้แน่ๆเลย ” คนถูกชมหัวเราะร่าพลางถอดเสื้อกันเปื้อนออกมาแขวนไว้เอาในที่เก็บของมัน คนตัวเล็กเดินกลับออกมายังหน้าร้านที่มีซีเวียสหรือว่าเจ้าของร้านกำลังยื่นอยู่ เนื่องจากหลังจากที่เขาทำงานเสร็จแล้วผู้ชายคนนี้ก็จะอาสาไปส่งเขาที่บ้าน บ้านที่พี่ยูชอนกับเขาซื้อมากันอยู่ บ้านที่เป็นเพียงหลังเล็กๆเท่านั้น อีกอย่างคือมันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากร้านนี้มาเท่าใดนัก
“ ผมว่ามันเป็นเพราะว่ามีเจ้าของร้านแบบพี่มากกว่าครับ ” ร่างสูงหัวเราะ มันก็อาจจะเป็นเรื่องจริงที่ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ติดใจในรสชาติกาแฟอีกทั้งบรรยากาศในร้าน แต่เปอร์เซ็นต์อีกบางส่วนนั้นอาจจะมาจากร่างสูงที่ดูว่าหน้าตาก็ไม่ได้น้อยหน้าดาราชั้นนำเท่าไหร่นัก
“ เสร็จแล้วล่ะ...ป่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งเราแล้วกัน ” มันเป็นแบบนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติของทุกๆวัน แต่วันนี้มันต่างตรงที่คำตอบของยูฮวานกลับเป็นคำปฏิเสธ
“ พอดีว่าวันนี้ผมเห็นว่าอากาศดีน่ะฮะ...เลยกะว่าจะไปเดินเล่นก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน อีกอย่างพี่ชายผมก็ออกไปธุระข้างนอกด้วยคงจะกลับมาค่ำๆ ผมจะได้ไปซื้อของสดเข้าบ้านด้วย ”
“ ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม? ” คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง ตกลงกันไปตกลงกันมาสุดท้ายซีเวียสก็ยอมปล่อยให้น้องชายของเพื่อนกลับบ้านเองจนได้ ยูฮวานยืนมองดูจนกระทั้งรถของเพื่อนพี่ชายขับออกไปไกลแล้วเขาถึงได้ออกเดินไปเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นอีกวันหนึ่งที่ดูจะมีอากาศที่ดีเหมาะกับการเดินเล่นไปเรื่อยๆ เพราะมันก็ไม่ได้หนาวมากแล้วก็ไม่ได้ร้อนมากจนเกินไปนัก เขาเลยเดินไปได้ไกลโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้มๆบงบอกได้ว่าอีกไม่นานนั้นมันก็เข้าสู่ช่วงหัวค่ำแล้ว แต่เขาก็ยังคงเดินดูข้างทางต่อไปเรื่อยๆ
โดยตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เรื่องที่เขายังคงสะบัดมันออกไปจากหัวไม่ได้ก็คือเรื่องที่เขาได้ไปสอบสัมภาษณ์มา ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าตนเองนั้นจะได้เข้าทำงานในที่ที่ตนเองฝันเอาไว้ได้หรือไม่ แต่ตอนนี้หัวเขากลับสนคนที่สัมภาษณ์เขามากกว่า
...ทำเหมือนว่าเราเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ผ่านมาหลายวันแล้วที่ผลการสอบสัมภาษณ์ไม่ได้ส่งมาถึงมือของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลุ่นอะไรกับมันก็ตามที่ เพราะว่าเขาเองก็ได้ทำใจเอาไว้แล้วว่าผลของมันจะออกมาเป็นอย่างไร
“ เฮ้อ... ” เสียงถอนหายใจยาวๆเมื่อได้นำพาตัวเองมายืนอยู่ที่สะพานที่ข้ามกับแม่น้ำขนาดย่อม ลมเย็นพัดปะทะใบหน้าหวานเอื่อยๆ พัดพาปรอยผมให้ปลิวไปด้านหลังเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่าเขานั้นจะเดินมาได้นานขนาดที่ว่าฟ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม สองข้างทางเต็มไปด้วยเสาไฟที่เปิดสว่างจ้าตลอดสะพานข้ามแม่น้ำเส้นนี้
บรรยากาศสบายๆที่ทำให้สมองของเขาคิดอะไรไปได้มากลับถูกขัดเมื่อมีใครสักคนมายื่นอยู่ข้างๆ ดวงตากลมเล็กเหลือบมองเพียงแต่น้อยแล้วค่อยขยับตัว...เขาเห็นเพียงแค่ว่าอีกคนใส่ชุดสูทซึ่งดูแล้วก็น่าจะแพงใช่เล่นเพราะฉะนั้นก็คงไม่ใช่โจรโรคจิตที่ไหน อีกทั้งลักษณะสูงเด่นแบบนี้ก็คงไม่ใช่หญิงสาว แต่ด้วยความเคยชินที่ว่าคนข้างๆไม่ใช่คนสนิทหรือรู้จักเขาจึงต้องขยับตัวออกห่าง
“ จะไม่ไปฟังผลของตนเองหน่อยเหรอ? ” เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด...ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่กับพี่ชาย ภาษาบ้านเกิดของตนเองก็ได้ใช้แค่กับพี่ชายของตนเองเท่านั้น หาได้น้อยมาที่จะได้ยินหรือว่าโดนคนประเทศเดียวกันทักขึ้นมาแบบนี้ทั้งๆที่ไม่รู้จัก
...แน่ใจเหรอ?
“ ผล...? ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองอีกคนที่ยืนเอามือทั้งสองข้างสอดเข้าไปในเสื้อสูทของตนเอง ใบหน้าคมเข้มที่เห็นเพียงครึ่งเดียวเนื่องจากอีกคนไม่ได้หันใบหน้าเข้ามาคุยกับตนเองโดยตรง...นั้นเพียงแค่นั้นก็ทำให้เขารู้มากพอว่าเป็นใคร
“ ใช่...ผลประกาศว่านายจะได้มาเป็นเลขารึเปล่าน่ะ ”
“ ฉันไม่อยากรู้แล้ว...ขอตัวก่อนนะ ” พูดจบร่างบางก็รีบหันตัวออกเพื่อที่จะเดินออกไป หากแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาข้อแขนเล็กก็ได้ถูกจับคว้าเอาไว้เสียก่อน “ อย่าเพิ่งสิ...ยูฮวาน ”
“ มีอะไรเหรอครับ? ” น้ำเสียงหวานที่กดเข้มเสียจนดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะขานรับเท่าใดนัก คนที่รั้งเอาไว้ก้าวขายาวของตนเองมายืนอยู่ตรงหน้าปาร์คยูฮวานได้ในเวลาอันสั้น ใบหน้าคมที่เขาเคนเห็นเพียงด้านข้างตอนนี้เขากลับได้เต็มมันเต็มตา
“ ฉันตามตัวนายมาตั้งหลายวัน วันประกาศก็ไม่ได้ไป...นายหาไปไหน ” ร่างบางทำได้เพียงเค้นยิ้มให้อีกคนสงสัยเล่น
...วันนั้นก็ทำเป็นไม่รู้จัก...วันนี้กลับดูเหมือนรู้จักกันดี นายจะเอายังไง
...ชิมชางมิน
“ ผมไม่ได้คิดที่จะเข้าบริษัทนั้นอีกแล้ว...ขอโทษที ” มือขาวอีกข้างยกขึ้นแกะมือหนาออกไปก่อนที่ตัวเองจะหันตัวกลับเพื่อที่จะเดินกลับไปอีกทางแทน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ร่างสูงโปร่งนี้เดินมาตัดหน้าเขาเอาไว้
“ แต่ฉันต้องการให้นายมาเป็นเลขา ”
“ ให้เจ้านายของคุณเหรอ? ผมว่าไม่หรอก คนที่เก่งกว่าผมมีเยอะ...ท่านคงจะเลือกคนอื่นมากกว่านะ ”
“ ใช่...เขาเลือกคนอื่นไปแล้ว ”
“ อื้ม... ”
“ แต่มันก็เรื่องของเขา...เขาจะตกลงเลือกใครมันก็เป็นเรื่องของเขา แต่เลขาที่ฉันเลือกน่ะ มันนายตะหาก ปาร์คยูฮวาน ”
“ ว่ายังไงนะ... ”
“ เจ้านายของฉันเลือกเลขาของตนเองไปแล้ว ก็เหลือเพียงฉันที่ต้องเลือก...แล้วฉันก็เลือกนาย ” คนที่ได้รับฟังความเป็นจริงจนกระจ่างเบิกดวงตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตนเอง
...ทำไม ?
“ ไม่...ขอโทษทีนะครับ คุณคงต้องหาผู้ช่วยคนใหม่ ”
“ ฉันไม่เอาคนไหนทั้งนั้น ”
“ นั้นมันเรื่องของคุณ ”
“ มันจะไม่ใช่เรื่องของนายได้ยังไง...ก็ในเมื่อเลขาที่ฉันเลือกมันเป็นนาย ” ดวงตาคมที่จ้องอีกคนที่ดื้อหันรั้นเสียจนทำเอาอีกคนเงียบไป ใบหน้าหวานเบือนหนีก่อนจะเอ่ยยืนยันคำพูดเดิมของตนเอง “ ถ้างั้นฉันก็ลาออก ”
“ ไม่ได้...ฉันไม่อนุมัติ ”
“ ชิมชางมิน!! ”
“ จำชื่อฉันได้แล้วสิ? ” คนกวนประสาทเผยยิ้มกว้างเสียจนคนที่เห็นออกอาการหมั่นไส้ ถึงเช่นนั้น ชางมินก็คงไม่สนอยู่แล้วว่ายูฮวานจะปฏิเสธเขาแบบไหน มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่เจ้าตัวเข้ามาสมัครงานที่นี่ แล้วเขาก็รับเข้ามาเป็นเลขาแต่แค่ไม่อนุมัติให้ร่างบางลาออกก็แค่นั้นเอง
“ นายมัน...! ”
“ เริ่มทำงานพรุ่งนี้เลยนะ เพราะพนักงานคนอื่นๆเขาเริ่มทำกันแล้ว..อ๋อ ขอให้มาให้ตรงเวลาด้วยนะครับคุณปาร์คยูฮวาน ”
“ ฉันไม่ไป ”
“ ที่อยู่บ้านนายก็มี...ฉันไปตามถึงที่เลยก็ยังได้นะ ”
“ นาย! ”
...ทำไมถึงได้กลายมาเป็นคนกวนประสาทได้ขนาดนี้นะ
บ้าจริง!!!
_______________
“ งั้นเหรอ...ดีแล้ว ขอบคุณ ” บทสนทนาที่ไม่ยาวนักเพราะโดยส่วนมากคนจากปลายสายต้องพูดรายงานเสียโดยส่วนใหญ่ ร่างสูงที่ได้แต่ยืนฟังก้มลงยิ้มให้กับสิ่งที่กำลังเกาะอยู่ที่เอวเขา
“ ครับ...ขอบคุณครับ ” นิ้วยาวกดวางสายไปแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าใส่ในกระเป๋ากางเกงเช่นเดิม ร่างสูงหันกลับมายิ้มให้กับเจ้าตัวเล็กที่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ตนเอง ชองยุนโฮก้มลงอุ้มตัวน้อยที่ยืนเกาะเอวเขาขึ้นมา
“ ว่ายังไงครับลูกสาวตัวน้อยๆ ”
“ ปะป๊า...ยองเอหิวแล้ว ยองเออยากกินขนมจังเลย ได้ไหมค่ะ? ”
“ ได้สิคะ...มา เดี๋ยวป๊าพาไปซื้อนะ ” ร่างสูงว่าบุตรสาวของตนเองลงก่อนจะเดินจูงมือออกไปจากห้องนอนพร้อมกับไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าเงินกับจุญแจรถออกมาด้วย
...ดีใจที่เธอมีความสุขนะ คิมแจจุง...
_______________
ขอบคุณสำหรับการติดตามเรื่อยมานะคะ.. ขอบคุณจริงๆ
ความคิดเห็น