คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ( sf ) The Second Lover - chapter 6 - [HUNHAN ft.KAI]
Title : THE SECOND LOVER
Chapter : 6
Story by : Vanilla1127
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านผืนบางปลุกให้คนบนเตียงตื่นจากนิทราทั้งที่ยังเพลียไม่หาย ร่างบอบบางขยับตัวเข้าหาไออุ่น ซุกหน้าคลอเคลียกับแผ่นอกกว้างของคนข้างกายออดอ้อนเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตา คนที่ตื่นอยู่ก่อนแล้วไล้ก้านนิ้วยาวไปตามโครงหน้าเล็กได้รูป ผ่านพวงแก้มใสก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากกระจับเล็กที่ยังคงแดงก่ำและบวมเจ่ออยู่เล็กน้อยเพราะฝีมือเขาเมื่อคืน
ลู่หานครางเบาๆ ยกมือขึ้นขยี้ตาเหมือนเด็กน้อยพลางทำปากยู่ใส่คนที่ปลุกเขาแต่เช้า ทั้งที่เมื่อคืนกว่าเซฮุนจะปล่อยให้เขานอนได้ก็ปาไปเกือบตีสอง
“อือ เซฮุนนา”
“ตื่นได้แล้วครับเสี่ยวลู่ วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ หืม” ร่างสูงถามเสียงอ่อน กดจูบที่ขมับเนียนอย่างรักใคร่
“ไม่เอา ไม่อยากไป เหนื่อย...อ๊ะ!”
คนตัวเล็กงอแง พลิกตัวจะหันหนีแต่ความเจ็บหน่วงที่ช่วงล่างทำเอาต้องนิ่วหน้าและเผลออุทานออกมา ร้อนให้ร่างสูงรีบถามอย่างเป็นห่วง ฝ่ามืออุ่นลูบไหล่เล็กปลอบประโลม
“เจ็บเหรอครับ ผมขอโทษนะ”
ลู่หานส่ายหน้าไปมาแทนคำพูดว่าไม่เป็นไร มือเล็กคว้ามืออีกข้างของเซฮุนที่กอดเอวบางจากทางด้านอยู่ขึ้นมาทาบกับมือตัวเอง ใบหน้าหวานใสประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
“เซฮุนมือใหญ่จัง”
“ก็เสี่ยวลู่มือเล็กนี่ครับ”
ลู่หานปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีมากเหลือเกิน มือใหญ่ของเซฮุนที่กอบกุมมือเขาไว้ทำให้รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น การกระทำที่เซฮุนปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน ไม่เร่งร้อนก็ทำให้รู้สึกถึงความรักและการทะนุถนอมเอาใจใส่จากคนตัวสูง ดังนั้นคงไม่แปลกอะไร
หากลู่หานจะยอมมอบทั้งตัวและหัวใจให้เป็นของเซฮุน
“รักเซฮุนนาที่สุดเลย”
“อ้อนกันแบบนี้ อยากโดนแบบเมื่อคืนหรือไงครับ”
“ปละ...เปล่านะ”
“ผมพูดเล่น”
ปรางแก้มแดงน่ามองเรียกรอยยิ้มของอีกฝ่าย เซฮุนบีบปลายจมูกรั้นด้วยความเอ็นดู หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของตัวเองที่ตกอยู่ข้างเตียงมาสวมให้คนตัวเล็ก ลู่หานเองก็ได้แต่นอนหน้าแดงปล่อยให้อีกคนสวมเสื้อให้อย่างง่ายดาย เสร็จแล้วก็หยิบกางแกงแสล็คสีดำมาสวมให้ตัวเอง ก่อนจะลุกจากเตียงก็ไม่ลืมจูบข้างขมับเล็กไปอีกครั้ง
“เซฮุนนา จะไปไหน”
“ไปหาอะไรให้เสี่ยวลู่ทานไงครับ” เซฮุนตอบ แต่พอเห็นคิ้วสวยขมวดกันเป็นเชิงสงสัยก็เลยต้องตอบคำถามให้คนตัวเล็กหายข้องใจ
“ตอนเรียนไฮสคูลที่เมืองนอกผมทำอาหารทานเองบ่อย ไม่ต้องห่วงว่าผมจะทำครัวไหม้หรอกครับ”
“อื้อ รีบมานะ”
คล้อยหลังร่างสูงไปแล้วลู่หานก็ฉวยเอาหมอนใบโตที่เซฮุนใช้หนุนมากอด ใบหน้าหวานเกลือกกลิ้งไปมาก่อนจะยิ้มออกมาเพราะความสุขที่ล้นอก ที่หมอนยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเซฮุนติดอยู่ด้วยซ้ำ
ห่างกันไม่ถึงห้านาทีลู่หานก็คิดถึงเซฮุนจะแย่แล้วสิ (.////.)
.
.
.
“หางานให้ฉันอีกแล้วนะ ไอ้เซฮุน…เออ โอเค แค่นี้ใช่ไหม”
ร่างสูงโปร่งทำหน้าบูดทันทีที่วางสายจากลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ชานยอลหันไปทำหน้าหน่ายให้คนรักที่นั่งเท้าคางมองตาแป๋ว
“เซฮุนมันโทรมาบอกว่าจะไม่มาเรียน ลู่หานฮยองก็ด้วย”
“อยู่ด้วยกันงั้นสิ”
“อืม”
ทั้งคู่ต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความหนักอก ชานยอลเองก็เคยถามเซฮุนออกไปตรงๆเหมือนกับที่แบคฮยอนเคยถามลู่หานเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ และเซฮุนก็ยอมรับอย่างไม่ปิดบังว่าเขารักคนหน้าหวานแค่ไหน เพียงแต่ขอให้ชานยอลกับแบคฮยอนช่วยปิดเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาที่ลู่หานเข้มแข็งพอที่จะบอกลาใครอีกคน
“สงสารจงอินจัง” ศีรษะเล็กเอียงพิงไหล่ของคนรัก
“พูดถึงก็มา ตายยากจริงเว้ย!”
“พูดถึงเรื่องอะไร นินทาเหรอ”
ชานยอลตะโกนแซวทันทีที่เห็นจงอินเดินสะพายเป้ใบโปรดเดินเข้ามาในบริเวณลานหน้าคณะก่อนจะแท็กมือทักทายกันตามประสา แบคฮยอนส่งยิ้มให้อ่อนๆทั้งที่ในใจหดหู่เหลือเกิน ยิ่งเห็นหน้าจงอินน้ำตาก็ยิ่งพาลจะไหล คนตัวเล็กรู้ดีว่ารุ่นน้องที่แสนดีคนนี้รักเพื่อนเขามากขนาดไหน แต่ด้วยความรักเพื่อนถึงได้รับปากว่าจะช่วยปิดบังจนกว่าลู่หานจะเป็นคนบอกความจริงกับจงอินเอง
แบคฮยอนก็ได้แต่ภาวนาให้ถึงเวลานั้นโดยเร็ว ยิ่งปล่อยไว้นาน จงอินก็มีแต่จะยิ่งเจ็บ
“แล้วคนอื่นยังไม่มาเหรอ”
“อ๋อ...ไอ้เซฮุนมันไปธุระกับพ่อที่ต่างจังหวัดน่ะ มันเพิ่งโทรมาบอกเมื่อเช้านี่เอง”
เสียงที่สูงผิดปกติบวกกับสายตาที่มองกันอย่างล่อกแล่กของคนทั้งคู่ทำให้จงอินรู้สึกไม่ชอบมาพากล ตาคมเขม้นมองอย่างสงสัย ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นร่าเริงเหมือนกับว่าเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จงอินก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เขารู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองยังอ่อนแอ ยังคงระแวงในความสัมพันธ์ของคนสองคน ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่ก็ทำใจให้เชื่อได้ยากเต็มที
รอยยิ้มอย่างคนอารมณ์ดีที่มีมาเมื่อครู่ค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงแววตาที่แสดงออกถึงความกังวลเข้ามาแทนที่
“แล้วลู่หานฮยองล่ะ คงไม่ได้ไปด้วยกันหรอกนะ”
“เอ่อ...ลู่หานไม่สบาย โทรมาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง”
แบคฮยอนตอบอย่างอ้อมแอ้ม เขาไม่แปลกใจเลยถ้าหากจงอินจะระแวงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั่น เพราะคนนอกอย่างเขากับชานยอลยังมองออกว่าเซฮุนกับลู่หานลึกๆแล้วคงไม่ใช่เพียงคบกันประสาพี่กับน้อง
ถึงแม้ทั้งสองคนจะช่วยกันยืนยันแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างสูงแคลงใจน้อยลง กระเป๋าสะพายที่เพิ่งถูกโยนลงบนโต๊ะเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่แล้วถูกหยิบขึ้นมาสะพายอีกครั้ง แบคฮยอนรีบรั้งไว้ทันทีเมื่อเห็นจงอินรีบร้อนจะวิ่งออกไป
“จะไปไหนจงอิน ชั่วโมงแรกจะเริ่มเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ผมจะไปหาลู่หานฮยองครับ”
“แต่ว่าลู่หานบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องไปหรอก”
“ฮยองครับ ให้ผมไปเถอะ”
ท่าทีร้อนรนของแบคฮยอนทำให้จงอินยิ่งไม่สบายใจ ภายในดวงตารีที่ไหวระริกนั้นเขารู้สึกได้ว่าคนรักตัวเล็กของชานยอลต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่อย่างแน่นอน
“แบคกี้ ให้จงอินมันไปเถอะ”
ชานยอลดึงร่างบางให้มายืนข้างตัวเอง มือแกร่งบีบไหล่เล็กอย่างปลอบประโลม คล้อยหลังร่างสูงที่วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน เสียงทุ้มก็เปรยออกมาเบาๆ
“ผมว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ”
.
.
.
มือหนาควานหากุญแจสำรองใต้กระถางดอกไม้หน้าบ้าน จงอินรู้เพราะลู่หานเคยบอกเขา เวลาที่คนตัวเล็กไม่สบายร่างสูงก็จะเข้าออกบ้านนี้เป็นประจำเพื่อมาดูแลเจ้าของบ้าน
ถึงแม้รองเท้าคู่ใหญ่แปลกตาที่วางอยู่ตรงหน้าประตูบ้านจะทำขายาวนั้นสั่นจนเกือบยืนไม่ไหว แต่ก็ยอมแข็งใจไขกุญแจและผลักประตูเข้าไป ร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบนที่หน้าห้องนอนของลู่หานอย่างไม่รีรอ จงอินช่างใจอยู่พักหนึ่ง มือกำลูกบิดแน่น ความกลัวและหวาดระแวงภายในจิตใจตีวนขึ้นมาจนแทบไม่มีแรง
จงอินถามตัวเอง หลังประตูบานนี้หากทุกสิ่งมันเป็นอย่างที่เขากังวลมาตลอด จะทำใจได้ยอมรับได้จริงเหรอ?
ร่างสูงหายใจลึกๆอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูออกอย่างแผ่วเบา ตาคมมองไล่ตั้งแต่พื้นห้อง เพียงเห็นเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ สภาพเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ ใจก็ชาแทบไม่เหลือความรู้สึก ร่างกายเหมือนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ เมื่อสุดท้ายแล้วภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้ามันตอกย้ำให้เขาแน่ใจว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดเป็นความจริง
ไม่มีประโยชน์ที่จะหลอกตัวเองอีกต่อไป ถึงเวลาที่จะต้องเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง
จงอินปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่าคนที่ได้ยืนอยู่ในใจของลู่หานไม่ใช่เขา แต่เป็นโอเซฮุน
ภาพเซฮุนที่ยืนกอดลู่หานที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวปกปิดร่างกายจากทางด้านหลังอยู่ที่ระเบียงห้องทำเอาสายตาพร่าเลือนเพราะม่านน้ำตาบดบัง ไม่ต้องมีคำอธิบายขยายความ จงอินก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี ร่างบอบบางที่เพียรเฝ้าทะนุถนอม ไม่เคยล่วงเกินหรือแตะต้องให้เสียน้ำใจ แต่ผู้ชายอีกคนกับได้ครอบครองร่างเล็กนั้นไปอย่างง่ายดาย
ความจุกแน่นที่อกทำให้จงอินรู้สึกทรมาน ไม่อยากจะทนเห็นมันอีกต่อไป
“ฮยอง...”
“จงอิน!”
เสียงทุ้มแหบแห้งเต็มทน แม้ในเวลานี้จงอินจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจแค่ไหนก็ยังคงเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลเสมอ ลู่หานสะดุ้งสุดตัว ผละจากอ้อมกอดของเซฮุนอย่างรวดเร็ว ไม่คาดคิดว่าคิมจงอินจะมายืนอยู่ภายในห้องนอนของเขาในเวลานี้
“ไอ้เซฮุน!”
จงอินพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนจะปล่อยหมัดหนักๆใส่จนเซฮุนที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไป มือขาวยกมือปาดเลือดที่มุมปากออก ไม่มีการโต้ตอบเพราะเซฮุนรู้ดีแก่ใจว่าเขาผิดเต็มประตู เขาแย่งลู่หานมาจากจงอินทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายรักร่างบางมากแค่ไหน แต่เซฮุนก็สาบานได้ว่าเขาก็รักลู่หานไม่แพ้คิมจงอินเลย
บันดาลโทสะที่มีทำให้จงอินจะเข้าไปต่อยซ้ำอีกรอบ แต่สองแขนเล็กที่กางปกป้องคนข้างหลังไว้อย่างห่วงใยทำเอาต้องชะงัก น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นจากดวงตาคู่คมอย่างห้ามไม่ไหวอีกต่อไป จงอินกัดริมฝีปากจนห้อเลือด
“อย่าทำเซฮุนนะจงอิน!”
“ทำไมล่ะครับฮยอง รักมันมากนักเหรอ แล้วผมล่ะ ฮยองเอาผมไปไว้ที่ไหน?”
“พี่...พี่ขอโทษ”
“ฮยองไม่ต้องขอโทษ เพราะผมไม่เคยโกรธฮยอง ผมขอแค่อย่าทิ้งผมไปก็พอ”
จงอินทรุดตัวลงต่อหน้าร่างบางอย่างหมดท่า สองแขนคว้ากายเล็กเข้ามากอด ซุกหน้าลงกับเอวบางจนลู่หานสัมผัสได้ถึงความชื้นจากน้ำตามากมาย
ขอแค่ให้มีคนตัวเล็กที่เขารักอย่างหมดหัวใจเคียงข้างต่อไป ต่อให้ต้องแลกกับอะไรเขาก็ยอม
“ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฮยอง อยู่กับผมนะครับ”
มือเล็กลูบหัวอีกคนด้วยความสงสาร จงอินในเวลานี้ช่างดูอ่อนแอเหลือเกิน ภาพที่ลู่หานเคยเห็นมีแต่ภาพของจงอินที่เข้มแข็งและสงบนิ่งเยือกเย็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันโหดร้ายกับคนตรงหน้าแค่ไหน นั่นทำให้ลู่หานไม่กล้าปฏิเสธคำขอร้อง เขาไม่อยากทำร้ายคนดีๆอย่างจงอินไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เซฮุนเม้มปากแน่น ตัดสินใจเดินผ่านคนทั้งสองไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง การที่ลู่หานนิ่งเงียบมันทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าควรจะกลับไปยืนในที่เดิม ในเมื่อลู่หานยังลังเล นั่นก็เท่ากับว่าเขายังสำคัญกับลู่หานไม่เพียงพอ
อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ถึงแม้จะมาทีหลัง เซฮุนก็ยังอยากเป็นคนที่ลู่หานรักอย่างหมดหัวใจ และเป็นคนที่ลู่หานรักเพียงคนเดียวเท่านั้น
ตากลมโตที่เคยสดใสช่างดูเศร้าสร้อย มือเล็กยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ได้แต่มองเซฮุนเดินจากไป
ถ้าหากยังตัดขาดจากจงอินไม่ได้ ลู่หานรู้ดีว่าเขาไม่ควรรั้งเซฮุนเอาไว้
และเบื้องหลังประตูบานนั้นใครเลยจะรู้ว่าโอเซฮุนทรุดอยู่ตรงนั้น ได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเพียงลำพัง
To be continue.
สรุปก็ไม่จบ แต่งนู่นเติมนี่ยาวเลย แต่ใกล้แล้วจริงๆนะ
ใจจริงเราอยากให้มันจบพาร์ทนี้ เพราะมันเกินช็อทฟิคแล้ว เป็นฟิคเกือบยาวค่ะ ฮ่า
พาร์ทนี้ทิ้งห่างหลายวัน สั้นด้วย ยอมรับผิด
ขอโทษค่า (โค้ง)
เหมือนเดิมค่ะ ชอบไม่ชอบหรือมีข้อสงสัยอะไร ถามได้ ติชมได้
อย่าลืมคอมเมนท์หน่อยน้า :3
แล้วเจอกันเร็วๆนี้ค่ะ
ความคิดเห็น