ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Shot / Short Fiction | HUNHAN

    ลำดับตอนที่ #6 : ( sf ) The Second Lover - chapter 6 - [HUNHAN ft.KAI]

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 59







     

    Title : THE SECOND LOVER

     

    Chapter : 6

     

    Pairing : Sehun x Luhan ft.KAI


    Story by : Vanilla1127

     

     

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านผืนบางปลุกให้คนบนเตียงตื่นจากนิทราทั้งที่ยังเพลียไม่หาย ร่างบอบบางขยับตัวเข้าหาไออุ่น ซุกหน้าคลอเคลียกับแผ่นอกกว้างของคนข้างกายออดอ้อนเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตา คนที่ตื่นอยู่ก่อนแล้วไล้ก้านนิ้วยาวไปตามโครงหน้าเล็กได้รูป ผ่านพวงแก้มใสก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากกระจับเล็กที่ยังคงแดงก่ำและบวมเจ่ออยู่เล็กน้อยเพราะฝีมือเขาเมื่อคืน

     

    ลู่หานครางเบาๆ ยกมือขึ้นขยี้ตาเหมือนเด็กน้อยพลางทำปากยู่ใส่คนที่ปลุกเขาแต่เช้า ทั้งที่เมื่อคืนกว่าเซฮุนจะปล่อยให้เขานอนได้ก็ปาไปเกือบตีสอง

     

    “อือ เซฮุนนา”

     

    “ตื่นได้แล้วครับเสี่ยวลู่ วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ หืม” ร่างสูงถามเสียงอ่อน กดจูบที่ขมับเนียนอย่างรักใคร่

     

    “ไม่เอา ไม่อยากไป เหนื่อย...อ๊ะ!

     

    คนตัวเล็กงอแง พลิกตัวจะหันหนีแต่ความเจ็บหน่วงที่ช่วงล่างทำเอาต้องนิ่วหน้าและเผลออุทานออกมา ร้อนให้ร่างสูงรีบถามอย่างเป็นห่วง ฝ่ามืออุ่นลูบไหล่เล็กปลอบประโลม

     

    “เจ็บเหรอครับ ผมขอโทษนะ”

     

    ลู่หานส่ายหน้าไปมาแทนคำพูดว่าไม่เป็นไร มือเล็กคว้ามืออีกข้างของเซฮุนที่กอดเอวบางจากทางด้านอยู่ขึ้นมาทาบกับมือตัวเอง ใบหน้าหวานใสประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

     

    “เซฮุนมือใหญ่จัง”

     

    “ก็เสี่ยวลู่มือเล็กนี่ครับ”

     

    ลู่หานปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีมากเหลือเกิน มือใหญ่ของเซฮุนที่กอบกุมมือเขาไว้ทำให้รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น การกระทำที่เซฮุนปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน ไม่เร่งร้อนก็ทำให้รู้สึกถึงความรักและการทะนุถนอมเอาใจใส่จากคนตัวสูง ดังนั้นคงไม่แปลกอะไร

     

    หากลู่หานจะยอมมอบทั้งตัวและหัวใจให้เป็นของเซฮุน

     

    “รักเซฮุนนาที่สุดเลย”

     

    “อ้อนกันแบบนี้ อยากโดนแบบเมื่อคืนหรือไงครับ”

     

    “ปละ...เปล่านะ”

     

    “ผมพูดเล่น”

     

    ปรางแก้มแดงน่ามองเรียกรอยยิ้มของอีกฝ่าย เซฮุนบีบปลายจมูกรั้นด้วยความเอ็นดู หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของตัวเองที่ตกอยู่ข้างเตียงมาสวมให้คนตัวเล็ก ลู่หานเองก็ได้แต่นอนหน้าแดงปล่อยให้อีกคนสวมเสื้อให้อย่างง่ายดาย เสร็จแล้วก็หยิบกางแกงแสล็คสีดำมาสวมให้ตัวเอง ก่อนจะลุกจากเตียงก็ไม่ลืมจูบข้างขมับเล็กไปอีกครั้ง

     

    “เซฮุนนา จะไปไหน”

     

    “ไปหาอะไรให้เสี่ยวลู่ทานไงครับ” เซฮุนตอบ แต่พอเห็นคิ้วสวยขมวดกันเป็นเชิงสงสัยก็เลยต้องตอบคำถามให้คนตัวเล็กหายข้องใจ

     

    “ตอนเรียนไฮสคูลที่เมืองนอกผมทำอาหารทานเองบ่อย ไม่ต้องห่วงว่าผมจะทำครัวไหม้หรอกครับ”

     

    “อื้อ รีบมานะ”

     

    คล้อยหลังร่างสูงไปแล้วลู่หานก็ฉวยเอาหมอนใบโตที่เซฮุนใช้หนุนมากอด ใบหน้าหวานเกลือกกลิ้งไปมาก่อนจะยิ้มออกมาเพราะความสุขที่ล้นอก ที่หมอนยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเซฮุนติดอยู่ด้วยซ้ำ

     

    ห่างกันไม่ถึงห้านาทีลู่หานก็คิดถึงเซฮุนจะแย่แล้วสิ (.////.)

     

    .

    .

    .

     

    “หางานให้ฉันอีกแล้วนะ ไอ้เซฮุนเออ โอเค แค่นี้ใช่ไหม”

     

    ร่างสูงโปร่งทำหน้าบูดทันทีที่วางสายจากลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ชานยอลหันไปทำหน้าหน่ายให้คนรักที่นั่งเท้าคางมองตาแป๋ว

     

    “เซฮุนมันโทรมาบอกว่าจะไม่มาเรียน ลู่หานฮยองก็ด้วย”

     

    “อยู่ด้วยกันงั้นสิ”

     

    “อืม”

     

    ทั้งคู่ต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความหนักอก ชานยอลเองก็เคยถามเซฮุนออกไปตรงๆเหมือนกับที่แบคฮยอนเคยถามลู่หานเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ และเซฮุนก็ยอมรับอย่างไม่ปิดบังว่าเขารักคนหน้าหวานแค่ไหน เพียงแต่ขอให้ชานยอลกับแบคฮยอนช่วยปิดเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาที่ลู่หานเข้มแข็งพอที่จะบอกลาใครอีกคน

     

    “สงสารจงอินจัง” ศีรษะเล็กเอียงพิงไหล่ของคนรัก

     

    “พูดถึงก็มา ตายยากจริงเว้ย!

     

    “พูดถึงเรื่องอะไร นินทาเหรอ”

     

    ชานยอลตะโกนแซวทันทีที่เห็นจงอินเดินสะพายเป้ใบโปรดเดินเข้ามาในบริเวณลานหน้าคณะก่อนจะแท็กมือทักทายกันตามประสา แบคฮยอนส่งยิ้มให้อ่อนๆทั้งที่ในใจหดหู่เหลือเกิน ยิ่งเห็นหน้าจงอินน้ำตาก็ยิ่งพาลจะไหล คนตัวเล็กรู้ดีว่ารุ่นน้องที่แสนดีคนนี้รักเพื่อนเขามากขนาดไหน แต่ด้วยความรักเพื่อนถึงได้รับปากว่าจะช่วยปิดบังจนกว่าลู่หานจะเป็นคนบอกความจริงกับจงอินเอง

     

    แบคฮยอนก็ได้แต่ภาวนาให้ถึงเวลานั้นโดยเร็ว ยิ่งปล่อยไว้นาน จงอินก็มีแต่จะยิ่งเจ็บ

     

    “แล้วคนอื่นยังไม่มาเหรอ”

     

    “อ๋อ...ไอ้เซฮุนมันไปธุระกับพ่อที่ต่างจังหวัดน่ะ มันเพิ่งโทรมาบอกเมื่อเช้านี่เอง”

     

    เสียงที่สูงผิดปกติบวกกับสายตาที่มองกันอย่างล่อกแล่กของคนทั้งคู่ทำให้จงอินรู้สึกไม่ชอบมาพากล ตาคมเขม้นมองอย่างสงสัย ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นร่าเริงเหมือนกับว่าเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จงอินก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เขารู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองยังอ่อนแอ ยังคงระแวงในความสัมพันธ์ของคนสองคน ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่ก็ทำใจให้เชื่อได้ยากเต็มที

     

    รอยยิ้มอย่างคนอารมณ์ดีที่มีมาเมื่อครู่ค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงแววตาที่แสดงออกถึงความกังวลเข้ามาแทนที่

     

    “แล้วลู่หานฮยองล่ะ คงไม่ได้ไปด้วยกันหรอกนะ”

     

    “เอ่อ...ลู่หานไม่สบาย โทรมาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง”

     

    แบคฮยอนตอบอย่างอ้อมแอ้ม เขาไม่แปลกใจเลยถ้าหากจงอินจะระแวงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั่น เพราะคนนอกอย่างเขากับชานยอลยังมองออกว่าเซฮุนกับลู่หานลึกๆแล้วคงไม่ใช่เพียงคบกันประสาพี่กับน้อง

     

    ถึงแม้ทั้งสองคนจะช่วยกันยืนยันแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างสูงแคลงใจน้อยลง กระเป๋าสะพายที่เพิ่งถูกโยนลงบนโต๊ะเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่แล้วถูกหยิบขึ้นมาสะพายอีกครั้ง แบคฮยอนรีบรั้งไว้ทันทีเมื่อเห็นจงอินรีบร้อนจะวิ่งออกไป

     

    “จะไปไหนจงอิน ชั่วโมงแรกจะเริ่มเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ”

     

    “ผมจะไปหาลู่หานฮยองครับ”

     

    “แต่ว่าลู่หานบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องไปหรอก”

     

    “ฮยองครับ ให้ผมไปเถอะ”

     

    ท่าทีร้อนรนของแบคฮยอนทำให้จงอินยิ่งไม่สบายใจ ภายในดวงตารีที่ไหวระริกนั้นเขารู้สึกได้ว่าคนรักตัวเล็กของชานยอลต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่อย่างแน่นอน

     

    “แบคกี้ ให้จงอินมันไปเถอะ”

     

    ชานยอลดึงร่างบางให้มายืนข้างตัวเอง มือแกร่งบีบไหล่เล็กอย่างปลอบประโลม คล้อยหลังร่างสูงที่วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน เสียงทุ้มก็เปรยออกมาเบาๆ

     

    “ผมว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ”

     

    .

    .

    .

     

    มือหนาควานหากุญแจสำรองใต้กระถางดอกไม้หน้าบ้าน จงอินรู้เพราะลู่หานเคยบอกเขา เวลาที่คนตัวเล็กไม่สบายร่างสูงก็จะเข้าออกบ้านนี้เป็นประจำเพื่อมาดูแลเจ้าของบ้าน

     

    ถึงแม้รองเท้าคู่ใหญ่แปลกตาที่วางอยู่ตรงหน้าประตูบ้านจะทำขายาวนั้นสั่นจนเกือบยืนไม่ไหว แต่ก็ยอมแข็งใจไขกุญแจและผลักประตูเข้าไป ร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบนที่หน้าห้องนอนของลู่หานอย่างไม่รีรอ จงอินช่างใจอยู่พักหนึ่ง มือกำลูกบิดแน่น ความกลัวและหวาดระแวงภายในจิตใจตีวนขึ้นมาจนแทบไม่มีแรง

     

    จงอินถามตัวเอง หลังประตูบานนี้หากทุกสิ่งมันเป็นอย่างที่เขากังวลมาตลอด จะทำใจได้ยอมรับได้จริงเหรอ?

     

    ร่างสูงหายใจลึกๆอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูออกอย่างแผ่วเบา ตาคมมองไล่ตั้งแต่พื้นห้อง เพียงเห็นเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ สภาพเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ ใจก็ชาแทบไม่เหลือความรู้สึก ร่างกายเหมือนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ เมื่อสุดท้ายแล้วภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้ามันตอกย้ำให้เขาแน่ใจว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดเป็นความจริง

     

    ไม่มีประโยชน์ที่จะหลอกตัวเองอีกต่อไป ถึงเวลาที่จะต้องเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง

     

    จงอินปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่าคนที่ได้ยืนอยู่ในใจของลู่หานไม่ใช่เขา แต่เป็นโอเซฮุน

     

    ภาพเซฮุนที่ยืนกอดลู่หานที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวปกปิดร่างกายจากทางด้านหลังอยู่ที่ระเบียงห้องทำเอาสายตาพร่าเลือนเพราะม่านน้ำตาบดบัง ไม่ต้องมีคำอธิบายขยายความ จงอินก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี ร่างบอบบางที่เพียรเฝ้าทะนุถนอม ไม่เคยล่วงเกินหรือแตะต้องให้เสียน้ำใจ แต่ผู้ชายอีกคนกับได้ครอบครองร่างเล็กนั้นไปอย่างง่ายดาย

     

    ความจุกแน่นที่อกทำให้จงอินรู้สึกทรมาน ไม่อยากจะทนเห็นมันอีกต่อไป

     

    “ฮยอง...”

     

    “จงอิน!

     

    เสียงทุ้มแหบแห้งเต็มทน แม้ในเวลานี้จงอินจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจแค่ไหนก็ยังคงเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลเสมอ ลู่หานสะดุ้งสุดตัว ผละจากอ้อมกอดของเซฮุนอย่างรวดเร็ว ไม่คาดคิดว่าคิมจงอินจะมายืนอยู่ภายในห้องนอนของเขาในเวลานี้

     

    “ไอ้เซฮุน!

     

    จงอินพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนจะปล่อยหมัดหนักๆใส่จนเซฮุนที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไป มือขาวยกมือปาดเลือดที่มุมปากออก ไม่มีการโต้ตอบเพราะเซฮุนรู้ดีแก่ใจว่าเขาผิดเต็มประตู เขาแย่งลู่หานมาจากจงอินทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายรักร่างบางมากแค่ไหน แต่เซฮุนก็สาบานได้ว่าเขาก็รักลู่หานไม่แพ้คิมจงอินเลย

     

    บันดาลโทสะที่มีทำให้จงอินจะเข้าไปต่อยซ้ำอีกรอบ แต่สองแขนเล็กที่กางปกป้องคนข้างหลังไว้อย่างห่วงใยทำเอาต้องชะงัก น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นจากดวงตาคู่คมอย่างห้ามไม่ไหวอีกต่อไป จงอินกัดริมฝีปากจนห้อเลือด

     

    “อย่าทำเซฮุนนะจงอิน!

     

    “ทำไมล่ะครับฮยอง รักมันมากนักเหรอ แล้วผมล่ะ ฮยองเอาผมไปไว้ที่ไหน?”

     

    “พี่...พี่ขอโทษ”

     

    “ฮยองไม่ต้องขอโทษ เพราะผมไม่เคยโกรธฮยอง ผมขอแค่อย่าทิ้งผมไปก็พอ”

     

    จงอินทรุดตัวลงต่อหน้าร่างบางอย่างหมดท่า สองแขนคว้ากายเล็กเข้ามากอด ซุกหน้าลงกับเอวบางจนลู่หานสัมผัสได้ถึงความชื้นจากน้ำตามากมาย

     

    ขอแค่ให้มีคนตัวเล็กที่เขารักอย่างหมดหัวใจเคียงข้างต่อไป ต่อให้ต้องแลกกับอะไรเขาก็ยอม

     

    “ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฮยอง อยู่กับผมนะครับ”

     

    มือเล็กลูบหัวอีกคนด้วยความสงสาร จงอินในเวลานี้ช่างดูอ่อนแอเหลือเกิน ภาพที่ลู่หานเคยเห็นมีแต่ภาพของจงอินที่เข้มแข็งและสงบนิ่งเยือกเย็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันโหดร้ายกับคนตรงหน้าแค่ไหน นั่นทำให้ลู่หานไม่กล้าปฏิเสธคำขอร้อง เขาไม่อยากทำร้ายคนดีๆอย่างจงอินไปมากกว่านี้อีกแล้ว

     

    เซฮุนเม้มปากแน่น ตัดสินใจเดินผ่านคนทั้งสองไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง การที่ลู่หานนิ่งเงียบมันทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าควรจะกลับไปยืนในที่เดิม ในเมื่อลู่หานยังลังเล นั่นก็เท่ากับว่าเขายังสำคัญกับลู่หานไม่เพียงพอ

     

    อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ถึงแม้จะมาทีหลัง เซฮุนก็ยังอยากเป็นคนที่ลู่หานรักอย่างหมดหัวใจ และเป็นคนที่ลู่หานรักเพียงคนเดียวเท่านั้น

     

    ตากลมโตที่เคยสดใสช่างดูเศร้าสร้อย มือเล็กยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ได้แต่มองเซฮุนเดินจากไป

     

    ถ้าหากยังตัดขาดจากจงอินไม่ได้ ลู่หานรู้ดีว่าเขาไม่ควรรั้งเซฮุนเอาไว้

     

    และเบื้องหลังประตูบานนั้นใครเลยจะรู้ว่าโอเซฮุนทรุดอยู่ตรงนั้น ได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเพียงลำพัง

     

    To be continue.


    สรุปก็ไม่จบ แต่งนู่นเติมนี่ยาวเลย แต่ใกล้แล้วจริงๆนะ
    ใจจริงเราอยากให้มันจบพาร์ทนี้ เพราะมันเกินช็อทฟิคแล้ว เป็นฟิคเกือบยาวค่ะ ฮ่า
    พาร์ทนี้ทิ้งห่างหลายวัน สั้นด้วย ยอมรับผิด
    ขอโทษค่า (โค้ง)

    เหมือนเดิมค่ะ ชอบไม่ชอบหรือมีข้อสงสัยอะไร ถามได้ ติชมได้
    อย่าลืมคอมเมนท์หน่อยน้า :3
    แล้วเจอกันเร็วๆนี้ค่ะ


     

     

     
    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×