ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] I want to you

    ลำดับตอนที่ #6 : II - I Want To You [4] - II

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 55


    -4-




     

     

    เมื่อหลายวันก่อนจู่ๆนูน่าก็พาผู้ชายเข้าบ้าน! ใช่ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นูน่าเอาผู้ชายเข้าบ้านแล้วหายเข้าไปในห้องทำงานนูน่า ผมได้แต่มองอึ้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีโอกาสได้ถามนูน่าเลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร -0-

     

    แต่ตอนนี้ผมขอเอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า

     

    ผมคิดออกแล้วละว่าผมทำมันหายตอนไหน ต้องเป็นตอนที่ผมข้ามมิติไปหา โยซอบฮยองแน่ๆ ชิชะ แล้วมันหายที่ไหนละเนี่ย  สมองพยายามคิดแล้วคิดอีกจน..

     

     

    ก๊อกๆ

     

     

    เสียงประตูห้องทำงานของผมดังขึ้น ต้องมีคนเคาะมาจากด้านนอกชัวร์ ผมเลยรีบเดินไปเปิดอย่างรวดเร็ว

     

     

    “นี่ น้องชายฉัน จองแดฮยอน เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฉันอยากให้นายช่วยเอาน้องฉันไปสแกนความจำน่ะ” ฮโยซองนูน่าเข้ามากับผู้ชายสวมแว่นกรอบดำ หน้าตาตี๋ รูปร่างล่ำสันได้อีก แต่นูน่าแกพูดอะไรมาเนี่ย สแกนอะไรงง -0-

     

     

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม ลีกีกวัง”

     

     

    “เพื่อนนูน่าหรอ..?”หรือแฟนแจ๊ะ *0*

     

     

     

    “ใช่เพื่อนฉันเอง เค้าเป็นทหารหน่วยลับหน่ะ พอดีเค้าบอกว่าเค้ารู้จักด็อกเตอร์คนนึงเลยจะพานายไปสแกนสมองลื้อความจำหน่อยน่ะ” เครื่องสแกนสมอง? มันคงเป็นเครื่องที่ไว้สำหรับลื้อฟื้นความทรงจำใช่มั้ย ผมเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่เค้าบอกว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นเดียวที่ด็อกเอตร์คนนึงสร้างขึ้นมา อู้ว เจ๋งอะ ผมจะได้ใช้ด้วย

     

     

    อ้ะ แล้วงี้ทุกคนจะรู้เรื่องที่ผมลื้อฟื้นมั้ยอะ -0-

     

     

    “นูน่าๆ คือขอคุยด้วยหน่อยดิ” ผมรีบดึงแขนเสื้อนูน่าให้ออกห่างมาจากกีกวังฮยองนั้น

     

     

     

    “มีไร - -”

     

     

    “แล้วถ้าผมไปสแกนแล้วคนอื่นไม่รู้เรื่องของเราหมดหรอ เรื่องเจ้าของลูกแก้วอะ?”

     

     

    “ไม่มีทาง เพราะว่าความทรงจำพวกนั้นมีนายคนเดียวที่เห็น คนอื่นไม่มีสิทธิ์เห็น นายก็เงียบๆไว้ละกัน”

     

     

    “อ่อ โอเค”

     

     

    นูน่าเดินไปหากีกวังอีกครั้งและพูดคุยกันต่อเรื่อยเปื่อย คิกคักจนลืมว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ เอิ่มมม - -

     

     

    “แล้วผมจะได้สแกนเมื่อไหร่หรอครับฮยอง” ผมดูนูน่ากับฮยองคุยคิกคักกันมานานละ เลยพูดแทรกขึ้นมาซะเลย คิคิ

     

     

     

    “อ่อ ขอโทษที ฉันคิดว่าพรุ่งนี้นะ จะพาไปบ้านด็อกเตอร์”

     

     

    “โอเคครับ”

     

     

     

    “กีกวังนายหิวหรือป่าว ฉันจะทำอาหารให้นะ ตอบแทนที่นายเหนื่อยมาช่วยฉัน^ ^

     

     

    “อ่า ก็ได้ครับ”

     

     

     

    ทั้งคู่เดินออกไปทิ้งผมอีกแล้ว สงสัยไวๆนี้ผมคงจะได้พี่เขยซะละมั้ง - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รถคันสวยจอดลงที่จอดรถของคอนโดระดับ8ดาวก็ว่าได้ ที่นี้เป็นคอนโดที่ใหม่และทันสมัยที่สุดในโซลตอนนี้ และเป็นคอนโดส่วนตัวของบังยงกุกอีกด้วย

     

     

     

    ร่างสูงลงมาจากรถและเดินข้ามไปเปิดประตูฝั่งข้างๆให้คนที่เค้าคิดว่าเลว ออกมาจากรถของเค้า

     

     

     

    “โอ้ย เจ็บนะ นี่ยังคุยไม่รู้เรื่องอีกหรอวะ!” คนหน้าสวยบิดเบี้ยวเมื่อโดนคนตัวสูงกำต้นแขนแน่นและลากออกมาจากรถ มุ่งตรงไปที่ลิฟท์เพื่อไปห้องส่วนตัวของเค้า

     

    วันนี้นายต้องชดใช้นะ คิมฮิมชาน!

     

    ร่างสูงพยายามข่มสติตัวเองเอาไว้ เค้าค่อนข้างมีความอดทนสูงพอตัวเพราะการเป็นหทารของเค้า แต่ก็หัวรุนแรงไม่ใช่เล่นเพราะการเป็นทหารของเค้าเช่นกัน - -

     

     

     

     

    ตุบ!

     

     

    ร่างบางกระเด็นลงพื้นห้องทันทีที่ยงกุกเปิดประตูเข้ามาในห้องได้

     

     

     

    “คิมฮิมชาน ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้าย นายเอาน้องชายฉันไปไว้ที่ไหน!” ยงกุกกดเสียงต่ำพอๆกับการเก็บอารมณ์โทสะของเค้า

     

     

    “กูไม่ได้เอาน้องมึงไป เข้าใจมั้ย! ดูจุนก็รู้ หมอนั้นก็มาหาหลังจากที่กูกลับมาแล้วไม่เจอเจลโล่เหมือนกัน”

     

     

    “หึ แกจะให้ฉันเชื่อหรอคิมฮิมชาน ถ้านายมีน้องชายแล้วน้องชายนายมีแฟนที่รักกันมากๆ แล้ววันหนึ่งน้องแกหายตัวไป มีคนบอกว่าน้องแกโดนแฟนตัวเองจับตัวไป แกจะเชื่อหรอคิมฮิมชาน?” ยงกุกนั่งยองๆมองเข้ามาในดวงตาของฮิมชาน เค้าจะต้องทำให้ฮิมชานเจ็บปวดเหมือนเค้าตอนนี้ให้ได้!

     

     

     

    “ก็รู้ว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่กูไม่รู้จริงๆโว้ย!!” ฮิมชานดิ้นพล่านเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่น ไม่สิ เด็กที่พ่อแม่ไม่เข้าใจมากกว่า

     

     

     

    “หึ” เสียงอุทานเบาๆในลำคอของยงกุก ทำให้ฮิมชานที่ดิ้นพล่านต้องหยุดนิ่งและมองคนตรงหน้าที่กำลังลุกขึ้นยืนจับเค้าให้ลุกขึ้นยืนตาม

     

     

    มาไม้ไหนวะเนี่ย

     

     

     

    ยงกุกออกแรงดันฮิมชานที่กำลังยืนคิดอยู่ว่ายงกุกกำลังจะมาไม้ไหนโดยไม่ทันตั้งตัว ยงกุกใช้อีกมือเปิดประตูห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ในนั้นเลยและผลักฮิมชานเข้าไปในนั้น

     

     

    ร่างบางโดนผลักจนล้มลงไปที่พื้นของใหม่อีกครั้ง กำลังจะตั้งตัวตั้งสติได้ ประตูก็ปิดลงซะแล้ว

     

     

    คนข้างนอกล็อกกลอนเรียบร้อย ปล่อยให้คนหน้าสวยข้างในห้องถล่มเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง

     

    ปังๆ ปัง ๆ ๆๆ!!

     

    “เห้ย มึงจะทำอะไรวะเนี้ย” เสียงแหบแห้งของคนในห้องเล็ดลอดออกมาทำให้คนที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องอมยิ้มขึ้นมาอย่างผู้ชนะ

     

     

    “ให้มึงอยู่ในห้องนั้นเงียบๆดู เพื่อจะนึกอยากเล่าความจริงออกมา”

     

     

     

    “โว้ยยยยย ไรวะเนี้ยย!!” เสียงในห้องโวยวายใหญ่ ทำให้ยงกุกเผลอหัวเราะออกมาแทนที่จะโมโห

     

    หึ เค้าหัวเราะ? นี้มันคนที่ทำให้น้องเราต้องหายตัวไปนะ

     

    จู่ๆความรู้สึกชอบ(แกล้ง)ไอคนในห้องก็ผุดขึ้นมาในหัวเค้า  อ่ายงกุกนี้มันไม่ใช่เวลามาสนุกนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ก๊อกๆ

     

    “ดงโฮอา นายตื่นหรือยัง”

     

    ตอนนี้ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปเมียงดงอีกครั้ง เพราะวันนี้มีการประลองเต้นบีบอยกันอีกน่ะสิ ผมต้องไปเตรียมตัว แต่เมื่อวานมีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันสดๆร้อนๆ มาขอค้างคืนด้วย เลยต้องไปเรียกซะก่อนแล้วค่อยไปเมียงดง

     

     

    “ตื่นนานแล้วๆ ขอโทษที่รบกวนให้นายมาเรียกนะ” ดงโฮออกมาจากห้องพี่ฮิมชาน ใช่ห้องพี่ฮิมชานตอนที่พี่เค้ายังอยู่บ้านหลังนี้ไงละ

     

     

    “ไม่เป็นไร นายหิวมั้ย? เดี๋ยวฉันต้องไปเมียงดงน่ะ”

     

     

     

    “นายเป็นอะไรกับเมียงดงหรอ? - -”

     

     

     

    “ฮ่าๆ ฉันเป็นนักเต้นที่นั้นนะ มีคนจ้างให้ฉันไปงานไหน ฉันก็ไปทั้งนั้นแหละ” ผมเป็นนักเต้นบีบอยที่มีชื่อเสียงพอสมควรในเมียงดง หลายปีก่อนผมสนใจการเต้นบีบอยเลยฝึกหัดและเต้นแข่งไปเรื่อยๆ จนเก่งและมีชื่อเสียง

     

     

     

    “แล้วนาย...จะไม่กลับบ้านหรอ”

     

     

    “ฉันคิดว่าจะกลับวันนี้ล่ะ เมื่อวานฉันมันอารมณ์ร้อนเกินไป - -*”

     

     

    “โอเค งั้นวันนี้นายไปดูฉันเต้นสิ แล้วก็เราไปหาอะไรกินกันนะ” ผมตรงเข้าไปโอบบ่าเพื่อนใหม่อย่างเป็นกันเอง ดงโฮเผยยิ้มออกมาน้อยๆ

     

     

    “อื้มตามนั้น”

     

     

     

    เมื่อออกมาจากบ้านแล้ว ผมก็แนะนำดงโฮให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก และขออนุญาติท่านพาดงโฮออกมาเที่ยวเมียงดงด้วย(ท่านเอ็นดูดงโฮใช่ย่อยเลยละ ^ ^) ตอนนี้ดูเหมือนดงโฮจะใจเย็นลงและตัดสินใจจะกลับบ้านได้แล้ว

     

     

    Rrrr Rrrr

     

    เสียงริงโทนดังขึ้นระหว่างการกินจังมยอนของเราสองคน ผมเลยหยิบขึ้นมารับทันที

     

    “จงออบบอา นายอยู่ไหน”

     

     

    “ผมอยู่ร้านจังมยอนน่ะ ฮยองมากินด้วยกันสิ”

     

     

    “ตรงไหน ร้านเดิมหรือป่าว ฉันหิวพอดีเลยอะ ~

     

     

     

    “ครับ ร้านนั้นละ เดี๋ยวผมสั่งให้เลยละกันนะ ฮยองจะได้มากินเลย”

     

     

    “โอเค แต๊งกิ้วจงออบบี้ รักนายที่สุดเลย > <

     

     

     

    “เพื่อนโทรตามแล้วหรอ” ดงโฮกำลังยัดส้นจังมยอนดำๆเข้าปากจนตุงไปหมด เงยหน้ามาถามผมเมื่อสิ้นเสียงสนทนานั้น

     

     

     

    “อื้ม ฮยองที่สนิทด้วยน่ะ เราตระเวนไปร้องเพลง เต้นแข่งด้วยกันตลอด” ผมอธิบายดงโฮพลางเรียกบริกรเพื่อสั่งจังมยอนเพิ่มอีกที่ให้เควินฮยอง

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อ๊ะ จงออบบี้นั่งอยู่นี้.....เอง” เควินฮยองเดินเข้ามาในร้านมองซ้ายมองขวาก่อนจะตรงเข้ามาที่โต๊ะเราและดูฮยองจะอึ้งๆอะไรเล็กน้อย

     

     

    “อ่อ ฮยอง นี้เพื่อนใหม่ผม ชื่อชิน ดงโฮน่ะ” ผมคิดว่าคงเป็นเพราะฮยองแปลกใจที่เจอคนแปลกน่าเลยรีบแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน

     

    “นี่มันคนที่เก็บหูฟังให้ฉันนี่” ดงโฮวางตะเกียบและใช้มือชี้ไปที่หน้าฮยองเควินเหมือนคิดออก

     

    ฮยองเควินหน้าเปลี่ยนสีขึ้นเรื่อยๆ จนผมสังเกตได้ -0-

     

     

     

    คนตัวบางค่อยๆนั่งลงข้างจงออบและยกยิ้มหวานให้คนที่แอบชอบอย่าง ชิน ดงโฮ ใช่ เค้าแอบหลงรักเด็กนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ครั้งแรกที่ได้เห็นเด็กคนนี้ยืนมุงดูจงออบกำลังเต้นบีบอยอยู่ เค้าพยายามแทรกตัวเข้ามายืนข้างๆ แม้ว่าคนข้างๆจะไม่รู้ตัว แต่สักพักเท่านั้นความสุขนั้นก็หายไปเมื่อดงโฮเดินออกมานอกกลุ่มคนที่ยืนดู สายตาพลันหันไปเจอคนมือดีคว้าเอาสายหูฟังที่ห้อยอยู่บนคอของดงโฮ มือเร็วกว่ารีบคว้าคืนมาและส่งสายตาจิกกัดไปที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงที่จ้องจะขโมยของของยอดยาหยีเค้าไป เมื่อได้คืนมา ร่างบางรีบเร่งฝีเท้าตามดงโฮไป นี้เป็นโอกาสเดียวที่เค้าจะได้พูดคุยกับดงโฮ

     

    มือเรียวเอื้อมไปดึงมือคนที่เดินหนีออกมาจากกลุ่มผู้คนเมื่อกี้  ดงโฮหันมาพร้อมขมวดคิ้วน้อยๆ บ่งบอกว่าเค้าลำคานอะไรสักอย่าง แต่ไม่ละความพยายาม ร่างบางรีบยิ้มหวานที่กระชากใจหนุ่มๆสาวๆออกมาให้คนข้างหน้าเหวอและยืนมืออีกข้างที่ถือหูฟังออกมาให้คนตรงหน้าดู

     

     

    “ของนายหรือป่าว ^ ^

     

    “อ่ะ อื้ม ขอบใจ”

     

     

    เพียงแค่คำขอบคุณสั้นๆ ก็ทำให้เควินเขินจนทำอะไรไม่ถูก คืนนั้นหลังจากแยกจากจงออบ เค้าภาวนาให้ได้เจอเด็กที่ดูอายุน้อยกว่าเค้าอีกสักครั้ง และตอนนี้เค้าก็กำลังเจออยู่....ตรงหน้านี้เอง

     

     

     

     

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันเควิน^ ^” คนหน้าหวานมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างหลงใหล

     

     

    “ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก^ )3( ^”ดงโฮอมยิ้มทั้งๆที่ยังกินจังมยอนอยู่ในปาก ยิ่งทำให้คนแอบหลงรัก เขินขึ้นมาใหญ่เพราะความน่ารักของดงโฮ

     

     

    “รู้จักกันแล้วนะ งั้นเราจะได้คุยกันสบายๆเนอะ” จงออบหันมาพูดอีกครั้งหลังจากสาวเส้นจังมยอนเข้าปาก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สวรรค์ชั่งเมตตาผมจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อคืนผมแค่ภาวนาในใจขอให้ได้เจอเด็กคนนั้นอีกครั้ง และเช้ามาก็เจอเด็กคนนั้นอยู่กับจงออบด้วย แปลว่าเราจะได้สนิทกันสินะ >  <   รู้มาจากจงออบเล็กน้อยว่าเมื่อคืนหลังจากแยกกับผมที่ร้านราเม็ง ก็เจอเด็กนี่นั่งขดอยู่น่าร้าน และเด็กนี่ก็ขอไปค้างบ้านจงออบเพราะตัวเองหนีออกมาจากบ้าน (ทำไมไม่มาค้างบ้านผมนะ >///<) แต่ตอนนี้เราก็คุยกันและสนิทกันได้ระดับหนึ่งแล้ว ดงโฮดูเป็นคนร่าเริงเฮฮา น่ารักมากๆเลย

     

     

    “คืนนี้ฮยองร้องเพลงอีกหรอครับ” ดงโฮหันมาถามผม ที่ปากเด็กนี่มีไอศกรีมติดด้วยละ เด็กน้อยดงโฮก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมและหันมาถามผม

     

     

    นายไม่รู้อะไรเลยหรอ ดงโฮอา >  <

     

     

    สายตาผมจ้องไปที่ไอศกรีมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากดงโฮอย่างอยากจะชิม แต่ต้องพยายามตั้งสติไว้ให้มั่น - -

     

    “อะอื้ม ฉันเป็นนักร้องเลยต้องมาร้องที่นี่เกือบทุกคืน”

     

     

    ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว จงออบขอตัวไปซ้อมบีบอยวอมร์มก่อนจะแข่งคืนนี้ ผมเลยนั่งรอกับดงโฮแถวๆนี้ แต่ที่สำคัญตอนนี้คือริมฝีปากที่เปื้อนไอศกรีมนั้น >///<

     

     

    “น นาย ไอศกรีมติดปากน่ะ” ผมกลั้นใจบอกให้เจ้าตัวรู้ตัวและชี้ไปที่ริมฝีปากเรียวนั้น

     

     

    “ไหนอะ” ดงโฮพยายามใช้ลิ้นไล่เลียไปตามริมฝีปากตัวเอง แต่มันก็ไม่หมดอยู่ดีละลูกเอ้ยย

     

     

    “ตรงไหนอะฮ่...0.0”

     

    จุ๊บ ~

     

    กรี๊ดดดดดดดดดด ผมทำมันลงไปได้ไง ผมเผลอตัวก้มลงไปชิมไอศกรีมบนริมฝีปากนั้นแล้ว ดงโฮอึ้งตาโตเป็นไข่ห่าน ผมเองก็อึ้งเหมือนกัน ผมต้องโดนเด็กคนนี้เกลียดเอาแน่ๆเลยที่ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไป T^T

     

     

     

    “ด ดงโฮ ฉันขอโทษ” ผมลุกขึ้นวิ่งไม่คิดชีวิต ตอนนี้ไปไหนก็ได้ที่ไกลจากดงโฮ ผมแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว โอ้ยทำอะไรลงไปเนี่ยย

     

     

     

    ดงโฮนั่งอึ้งค้างกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา สายตามองไปที่คนที่เพิ่งทำกับเค้าเมื่อกี้ ที่วิ่งหนีหายไปในฝูงชนแล้ว -0- นี้ผมโดนจุ๊บหรอเนี่ย หน้าขึ้นสีของดงโฮทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามอง ตายละ ผมเป็นอะไรไป */////*







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×