คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : II - I Want To You [4] - II
-4-
เมื่อหลายวันก่อนจู่ๆนูน่าก็พาผู้ชายเข้าบ้าน! ใช่ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นูน่าเอาผู้ชายเข้าบ้านแล้วหายเข้าไปในห้องทำงานนูน่า ผมได้แต่มองอึ้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีโอกาสได้ถามนูน่าเลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร -0-
แต่ตอนนี้ผมขอเอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า
ผมคิดออกแล้วละว่าผมทำมันหายตอนไหน ต้องเป็นตอนที่ผมข้ามมิติไปหา โยซอบฮยองแน่ๆ ชิชะ แล้วมันหายที่ไหนละเนี่ย สมองพยายามคิดแล้วคิดอีกจน..
ก๊อกๆ
เสียงประตูห้องทำงานของผมดังขึ้น ต้องมีคนเคาะมาจากด้านนอกชัวร์ ผมเลยรีบเดินไปเปิดอย่างรวดเร็ว
“นี่ น้องชายฉัน จองแดฮยอน เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฉันอยากให้นายช่วยเอาน้องฉันไปสแกนความจำน่ะ” ฮโยซองนูน่าเข้ามากับผู้ชายสวมแว่นกรอบดำ หน้าตาตี๋ รูปร่างล่ำสันได้อีก แต่นูน่าแกพูดอะไรมาเนี่ย สแกนอะไรงง -0-
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม ลีกีกวัง”
“เพื่อนนูน่าหรอ..?”หรือแฟนแจ๊ะ *0*
“ใช่เพื่อนฉันเอง เค้าเป็นทหารหน่วยลับหน่ะ พอดีเค้าบอกว่าเค้ารู้จักด็อกเตอร์คนนึงเลยจะพานายไปสแกนสมองลื้อความจำหน่อยน่ะ” เครื่องสแกนสมอง? มันคงเป็นเครื่องที่ไว้สำหรับลื้อฟื้นความทรงจำใช่มั้ย ผมเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่เค้าบอกว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นเดียวที่ด็อกเอตร์คนนึงสร้างขึ้นมา อู้ว เจ๋งอะ ผมจะได้ใช้ด้วย
อ้ะ แล้วงี้ทุกคนจะรู้เรื่องที่ผมลื้อฟื้นมั้ยอะ -0-
“นูน่าๆ คือขอคุยด้วยหน่อยดิ” ผมรีบดึงแขนเสื้อนูน่าให้ออกห่างมาจากกีกวังฮยองนั้น
“มีไร - -”
“แล้วถ้าผมไปสแกนแล้วคนอื่นไม่รู้เรื่องของเราหมดหรอ เรื่องเจ้าของลูกแก้วอะ?”
“ไม่มีทาง เพราะว่าความทรงจำพวกนั้นมีนายคนเดียวที่เห็น คนอื่นไม่มีสิทธิ์เห็น นายก็เงียบๆไว้ละกัน”
“อ่อ โอเค”
นูน่าเดินไปหากีกวังอีกครั้งและพูดคุยกันต่อเรื่อยเปื่อย คิกคักจนลืมว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ เอิ่มมม - -
“แล้วผมจะได้สแกนเมื่อไหร่หรอครับฮยอง” ผมดูนูน่ากับฮยองคุยคิกคักกันมานานละ เลยพูดแทรกขึ้นมาซะเลย คิคิ
“อ่อ ขอโทษที ฉันคิดว่าพรุ่งนี้นะ จะพาไปบ้านด็อกเตอร์”
“โอเคครับ”
“กีกวังนายหิวหรือป่าว ฉันจะทำอาหารให้นะ ตอบแทนที่นายเหนื่อยมาช่วยฉัน^ ^”
“อ่า ก็ได้ครับ”
ทั้งคู่เดินออกไปทิ้งผมอีกแล้ว สงสัยไวๆนี้ผมคงจะได้พี่เขยซะละมั้ง - -
รถคันสวยจอดลงที่จอดรถของคอนโดระดับ8ดาวก็ว่าได้ ที่นี้เป็นคอนโดที่ใหม่และทันสมัยที่สุดในโซลตอนนี้ และเป็นคอนโดส่วนตัวของบังยงกุกอีกด้วย
ร่างสูงลงมาจากรถและเดินข้ามไปเปิดประตูฝั่งข้างๆให้คนที่เค้าคิดว่าเลว ออกมาจากรถของเค้า
“โอ้ย เจ็บนะ นี่ยังคุยไม่รู้เรื่องอีกหรอวะ!” คนหน้าสวยบิดเบี้ยวเมื่อโดนคนตัวสูงกำต้นแขนแน่นและลากออกมาจากรถ มุ่งตรงไปที่ลิฟท์เพื่อไปห้องส่วนตัวของเค้า
วันนี้นายต้องชดใช้นะ คิมฮิมชาน!
ร่างสูงพยายามข่มสติตัวเองเอาไว้ เค้าค่อนข้างมีความอดทนสูงพอตัวเพราะการเป็นหทารของเค้า แต่ก็หัวรุนแรงไม่ใช่เล่นเพราะการเป็นทหารของเค้าเช่นกัน - -
ตุบ!
ร่างบางกระเด็นลงพื้นห้องทันทีที่ยงกุกเปิดประตูเข้ามาในห้องได้
“คิมฮิมชาน ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้าย นายเอาน้องชายฉันไปไว้ที่ไหน!” ยงกุกกดเสียงต่ำพอๆกับการเก็บอารมณ์โทสะของเค้า
“กูไม่ได้เอาน้องมึงไป เข้าใจมั้ย! ดูจุนก็รู้ หมอนั้นก็มาหาหลังจากที่กูกลับมาแล้วไม่เจอเจลโล่เหมือนกัน”
“หึ แกจะให้ฉันเชื่อหรอคิมฮิมชาน ถ้านายมีน้องชายแล้วน้องชายนายมีแฟนที่รักกันมากๆ แล้ววันหนึ่งน้องแกหายตัวไป มีคนบอกว่าน้องแกโดนแฟนตัวเองจับตัวไป แกจะเชื่อหรอคิมฮิมชาน?” ยงกุกนั่งยองๆมองเข้ามาในดวงตาของฮิมชาน เค้าจะต้องทำให้ฮิมชานเจ็บปวดเหมือนเค้าตอนนี้ให้ได้!
“ก็รู้ว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่กูไม่รู้จริงๆโว้ย!!” ฮิมชานดิ้นพล่านเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่น ไม่สิ เด็กที่พ่อแม่ไม่เข้าใจมากกว่า
“หึ” เสียงอุทานเบาๆในลำคอของยงกุก ทำให้ฮิมชานที่ดิ้นพล่านต้องหยุดนิ่งและมองคนตรงหน้าที่กำลังลุกขึ้นยืนจับเค้าให้ลุกขึ้นยืนตาม
มาไม้ไหนวะเนี่ย
ยงกุกออกแรงดันฮิมชานที่กำลังยืนคิดอยู่ว่ายงกุกกำลังจะมาไม้ไหนโดยไม่ทันตั้งตัว ยงกุกใช้อีกมือเปิดประตูห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ในนั้นเลยและผลักฮิมชานเข้าไปในนั้น
ร่างบางโดนผลักจนล้มลงไปที่พื้นของใหม่อีกครั้ง กำลังจะตั้งตัวตั้งสติได้ ประตูก็ปิดลงซะแล้ว
คนข้างนอกล็อกกลอนเรียบร้อย ปล่อยให้คนหน้าสวยข้างในห้องถล่มเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง
ปังๆ ปัง ๆ ๆๆ!!
“เห้ย มึงจะทำอะไรวะเนี้ย” เสียงแหบแห้งของคนในห้องเล็ดลอดออกมาทำให้คนที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องอมยิ้มขึ้นมาอย่างผู้ชนะ
“ให้มึงอยู่ในห้องนั้นเงียบๆดู เพื่อจะนึกอยากเล่าความจริงออกมา”
“โว้ยยยยย ไรวะเนี้ยย!!” เสียงในห้องโวยวายใหญ่ ทำให้ยงกุกเผลอหัวเราะออกมาแทนที่จะโมโห
หึ เค้าหัวเราะ? นี้มันคนที่ทำให้น้องเราต้องหายตัวไปนะ
จู่ๆความรู้สึกชอบ(แกล้ง)ไอคนในห้องก็ผุดขึ้นมาในหัวเค้า อ่ายงกุกนี้มันไม่ใช่เวลามาสนุกนะ
ก๊อกๆ
“ดงโฮอา นายตื่นหรือยัง”
ตอนนี้ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปเมียงดงอีกครั้ง เพราะวันนี้มีการประลองเต้นบีบอยกันอีกน่ะสิ ผมต้องไปเตรียมตัว แต่เมื่อวานมีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันสดๆร้อนๆ มาขอค้างคืนด้วย เลยต้องไปเรียกซะก่อนแล้วค่อยไปเมียงดง
“ตื่นนานแล้วๆ ขอโทษที่รบกวนให้นายมาเรียกนะ” ดงโฮออกมาจากห้องพี่ฮิมชาน ใช่ห้องพี่ฮิมชานตอนที่พี่เค้ายังอยู่บ้านหลังนี้ไงละ
“ไม่เป็นไร นายหิวมั้ย? เดี๋ยวฉันต้องไปเมียงดงน่ะ”
“นายเป็นอะไรกับเมียงดงหรอ? - -”
“ฮ่าๆ ฉันเป็นนักเต้นที่นั้นนะ มีคนจ้างให้ฉันไปงานไหน ฉันก็ไปทั้งนั้นแหละ” ผมเป็นนักเต้นบีบอยที่มีชื่อเสียงพอสมควรในเมียงดง หลายปีก่อนผมสนใจการเต้นบีบอยเลยฝึกหัดและเต้นแข่งไปเรื่อยๆ จนเก่งและมีชื่อเสียง
“แล้วนาย...จะไม่กลับบ้านหรอ”
“ฉันคิดว่าจะกลับวันนี้ล่ะ เมื่อวานฉันมันอารมณ์ร้อนเกินไป - -*”
“โอเค งั้นวันนี้นายไปดูฉันเต้นสิ แล้วก็เราไปหาอะไรกินกันนะ” ผมตรงเข้าไปโอบบ่าเพื่อนใหม่อย่างเป็นกันเอง ดงโฮเผยยิ้มออกมาน้อยๆ
“อื้มตามนั้น”
เมื่อออกมาจากบ้านแล้ว ผมก็แนะนำดงโฮให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก และขออนุญาติท่านพาดงโฮออกมาเที่ยวเมียงดงด้วย(ท่านเอ็นดูดงโฮใช่ย่อยเลยละ ^ ^) ตอนนี้ดูเหมือนดงโฮจะใจเย็นลงและตัดสินใจจะกลับบ้านได้แล้ว
Rrrr Rrrr
เสียงริงโทนดังขึ้นระหว่างการกินจังมยอนของเราสองคน ผมเลยหยิบขึ้นมารับทันที
“จงออบบอา นายอยู่ไหน”
“ผมอยู่ร้านจังมยอนน่ะ ฮยองมากินด้วยกันสิ”
“ตรงไหน ร้านเดิมหรือป่าว ฉันหิวพอดีเลยอะ ~ ”
“ครับ ร้านนั้นละ เดี๋ยวผมสั่งให้เลยละกันนะ ฮยองจะได้มากินเลย”
“โอเค แต๊งกิ้วจงออบบี้ รักนายที่สุดเลย > <”
“เพื่อนโทรตามแล้วหรอ” ดงโฮกำลังยัดส้นจังมยอนดำๆเข้าปากจนตุงไปหมด เงยหน้ามาถามผมเมื่อสิ้นเสียงสนทนานั้น
“อื้ม ฮยองที่สนิทด้วยน่ะ เราตระเวนไปร้องเพลง เต้นแข่งด้วยกันตลอด” ผมอธิบายดงโฮพลางเรียกบริกรเพื่อสั่งจังมยอนเพิ่มอีกที่ให้เควินฮยอง
“อ๊ะ จงออบบี้นั่งอยู่นี้.....เอง” เควินฮยองเดินเข้ามาในร้านมองซ้ายมองขวาก่อนจะตรงเข้ามาที่โต๊ะเราและดูฮยองจะอึ้งๆอะไรเล็กน้อย
“อ่อ ฮยอง นี้เพื่อนใหม่ผม ชื่อชิน ดงโฮน่ะ” ผมคิดว่าคงเป็นเพราะฮยองแปลกใจที่เจอคนแปลกน่าเลยรีบแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
“นี่มันคนที่เก็บหูฟังให้ฉันนี่” ดงโฮวางตะเกียบและใช้มือชี้ไปที่หน้าฮยองเควินเหมือนคิดออก
ฮยองเควินหน้าเปลี่ยนสีขึ้นเรื่อยๆ จนผมสังเกตได้ -0-
คนตัวบางค่อยๆนั่งลงข้างจงออบและยกยิ้มหวานให้คนที่แอบชอบอย่าง ชิน ดงโฮ ใช่ เค้าแอบหลงรักเด็กนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ครั้งแรกที่ได้เห็นเด็กคนนี้ยืนมุงดูจงออบกำลังเต้นบีบอยอยู่ เค้าพยายามแทรกตัวเข้ามายืนข้างๆ แม้ว่าคนข้างๆจะไม่รู้ตัว แต่สักพักเท่านั้นความสุขนั้นก็หายไปเมื่อดงโฮเดินออกมานอกกลุ่มคนที่ยืนดู สายตาพลันหันไปเจอคนมือดีคว้าเอาสายหูฟังที่ห้อยอยู่บนคอของดงโฮ มือเร็วกว่ารีบคว้าคืนมาและส่งสายตาจิกกัดไปที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงที่จ้องจะขโมยของของยอดยาหยีเค้าไป เมื่อได้คืนมา ร่างบางรีบเร่งฝีเท้าตามดงโฮไป นี้เป็นโอกาสเดียวที่เค้าจะได้พูดคุยกับดงโฮ
มือเรียวเอื้อมไปดึงมือคนที่เดินหนีออกมาจากกลุ่มผู้คนเมื่อกี้ ดงโฮหันมาพร้อมขมวดคิ้วน้อยๆ บ่งบอกว่าเค้าลำคานอะไรสักอย่าง แต่ไม่ละความพยายาม ร่างบางรีบยิ้มหวานที่กระชากใจหนุ่มๆสาวๆออกมาให้คนข้างหน้าเหวอและยืนมืออีกข้างที่ถือหูฟังออกมาให้คนตรงหน้าดู
“ของนายหรือป่าว ^ ^”
“อ่ะ อื้ม ขอบใจ”
เพียงแค่คำขอบคุณสั้นๆ ก็ทำให้เควินเขินจนทำอะไรไม่ถูก คืนนั้นหลังจากแยกจากจงออบ เค้าภาวนาให้ได้เจอเด็กที่ดูอายุน้อยกว่าเค้าอีกสักครั้ง และตอนนี้เค้าก็กำลังเจออยู่....ตรงหน้านี้เอง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันเควิน^ ^” คนหน้าหวานมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างหลงใหล
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก^ )3( ^”ดงโฮอมยิ้มทั้งๆที่ยังกินจังมยอนอยู่ในปาก ยิ่งทำให้คนแอบหลงรัก เขินขึ้นมาใหญ่เพราะความน่ารักของดงโฮ
“รู้จักกันแล้วนะ งั้นเราจะได้คุยกันสบายๆเนอะ” จงออบหันมาพูดอีกครั้งหลังจากสาวเส้นจังมยอนเข้าปาก
สวรรค์ชั่งเมตตาผมจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อคืนผมแค่ภาวนาในใจขอให้ได้เจอเด็กคนนั้นอีกครั้ง และเช้ามาก็เจอเด็กคนนั้นอยู่กับจงออบด้วย แปลว่าเราจะได้สนิทกันสินะ > < รู้มาจากจงออบเล็กน้อยว่าเมื่อคืนหลังจากแยกกับผมที่ร้านราเม็ง ก็เจอเด็กนี่นั่งขดอยู่น่าร้าน และเด็กนี่ก็ขอไปค้างบ้านจงออบเพราะตัวเองหนีออกมาจากบ้าน (ทำไมไม่มาค้างบ้านผมนะ >///<) แต่ตอนนี้เราก็คุยกันและสนิทกันได้ระดับหนึ่งแล้ว ดงโฮดูเป็นคนร่าเริงเฮฮา น่ารักมากๆเลย
“คืนนี้ฮยองร้องเพลงอีกหรอครับ” ดงโฮหันมาถามผม ที่ปากเด็กนี่มีไอศกรีมติดด้วยละ เด็กน้อยดงโฮก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมและหันมาถามผม
นายไม่รู้อะไรเลยหรอ ดงโฮอา > <
สายตาผมจ้องไปที่ไอศกรีมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากดงโฮอย่างอยากจะชิม แต่ต้องพยายามตั้งสติไว้ให้มั่น - -
“อะอื้ม ฉันเป็นนักร้องเลยต้องมาร้องที่นี่เกือบทุกคืน”
ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว จงออบขอตัวไปซ้อมบีบอยวอมร์มก่อนจะแข่งคืนนี้ ผมเลยนั่งรอกับดงโฮแถวๆนี้ แต่ที่สำคัญตอนนี้คือริมฝีปากที่เปื้อนไอศกรีมนั้น >///<
“น นาย ไอศกรีมติดปากน่ะ” ผมกลั้นใจบอกให้เจ้าตัวรู้ตัวและชี้ไปที่ริมฝีปากเรียวนั้น
“ไหนอะ” ดงโฮพยายามใช้ลิ้นไล่เลียไปตามริมฝีปากตัวเอง แต่มันก็ไม่หมดอยู่ดีละลูกเอ้ยย
“ตรงไหนอะฮ่...0.0”
จุ๊บ ~
กรี๊ดดดดดดดดดด ผมทำมันลงไปได้ไง ผมเผลอตัวก้มลงไปชิมไอศกรีมบนริมฝีปากนั้นแล้ว ดงโฮอึ้งตาโตเป็นไข่ห่าน ผมเองก็อึ้งเหมือนกัน ผมต้องโดนเด็กคนนี้เกลียดเอาแน่ๆเลยที่ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไป T^T
“ด ดงโฮ ฉันขอโทษ” ผมลุกขึ้นวิ่งไม่คิดชีวิต ตอนนี้ไปไหนก็ได้ที่ไกลจากดงโฮ ผมแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว โอ้ยทำอะไรลงไปเนี่ยย
ดงโฮนั่งอึ้งค้างกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา สายตามองไปที่คนที่เพิ่งทำกับเค้าเมื่อกี้ ที่วิ่งหนีหายไปในฝูงชนแล้ว -0- นี้ผมโดนจุ๊บหรอเนี่ย หน้าขึ้นสีของดงโฮทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามอง ตายละ ผมเป็นอะไรไป */////*
ความคิดเห็น