ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (-short fic-) TAOKACHA

    ลำดับตอนที่ #6 : ( SF ) หนี tao x kacha

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.37K
      5
      17 ต.ค. 54


    ' คชา เราเลิกกันเถอะนะ คบกันต่อไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก '  ผมกำลังทนฟังผู้หญิงหน้าตาหน้ารัก
    ปากนิดจมูกหน่อยที่กำลัง   ร้องไห้ น้ำตาคลอ  ...  เขาเป็นคนที่ผมรักที่สุด  แต่ตอนนี้เขาไม่ได้รักผมอีกแล้วล่ะ  


    'ถ้านาวอยากเลิกกับเรา เราก็ไม่ว่าอะไรนะ ถ้านาวไม่รักเราแล้วคบต่อไปก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน' 


    'นาวขอโทษนะ ' น้ำตาใสๆเริ่มไหลอาบแก้มแดงๆของคนตรงหน้า มันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก
     ผมไม่สามารถปกป้องคนที่ผมรักได้เลย

    'ขอให้นาวเจอคนที่ดีกว่าคชานะ อย่าเสียใจอีกเลยนะครับ' ผมฝืนยิ้มหวานเป็นครั้งสุดท้ายก่อน
    ผู้หญิงที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของผมจะเดินหันหลังไป  และคง .. ไม่มีทางจะกลับมาอีกแล้ว
     ผมมันแย่ชะมัด โถ่เว้ย ! 


    ถึงแม้คำพูดของผม ท่าทีของผม อาจจะดูไม่เป็นทุกข์ร้อน แต่จริงๆผมเจ็บ เจ็บมาก
    นาวเป็นแฟนคนแรกของผม  เป็นคนที่ผมรักที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับมาบอกเลิกผมต่อหน้า
    ผมแสดงออกทางสีหน้าไม่เก่งหรอกครับ ทำได้ก็แค่ ....เก็บไว้ในใจ 

    ขาของผมพาผมก้าวมาจนถึงหน้าประตูบ้าน ตอนนี้ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว ไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะไป 
    ไปให้ไกลที่สุด  เท่าที่จะทำได้ ! 




    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    'ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปประเทศอิตาลี ขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ '

    เสียงประกาศที่ดังไปทั่วทั้งสนามบินดังขึ้น ปลุกผมที่อยู่กับความคิดตัวเองให้เดินไปขึ้นเครื่อง
    ผมกำลังจะไปอิตาลี  ไปในที่ที่ไม่มีนาว ผมหวังว่าชีวิตผมจะดีขึ้นบ้าง

     


    หลังจากที่ผมลงจากเครื่องมาเหยียบอิตาลี ผมก็ขนเอาข้าวของทั้งหมดที่แพ็คมา ขึ้นรถตรงไปยังโรงแรม
    เดินทางมาเหนื่อยแล้ว ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา ปล่อยความคิดของผมไว้เพียงเท่านั้น


                   วันนี้ผมมาเที่ยวที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมเป็นน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในโรม กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน  
    ซึ่งเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญลงไป ในน้ำพุแห่งนี้ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้
    คนละหนึ่งข้อหนึ่งประการ ...  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่นี้  มันสวยมากจริงๆ ผู้คนมากมายพากันโยนเหรียญลงไป
    ในน้ำพุ  สมหวังงั้นหรอ  หึ  


    ว่าแล้วผมก็หยิบเหรียญออกมาหลับตาแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ 
    'ขอให้ผม ลืมรักเก่าแล้วเจอเนื้อคู่ซักที' จะฟังผมออกไหมเนี่ย - -
     จากนั้นผมก็จัดการโยนเหรียญด้วยมือขขวาผ่านไหล่ด้านซ้าย  แบบตรงตำราเป๊ะๆ ไปยังน้ำพุ  
    ก่อนจะเดินออกมาจากบริเวรนั้น  

     ผมเดินเล่นไปทั่วก่อนจะเงยดูท้องฟ้า ที่กำลังมือลงเย็นแล้วหรอว่ะเนี่ย ผมรู้สึกเหมือนเวลาที่นี้ผ่านไปเร็วมาก
    อาจเป็นเพราะที่นี่มีสิ่งสวยงาม ดึงดูดสายตาตลอดเวลา จนผมไม่ได้ไปคิดเรื่องอื่นเลย  ผมชักชอบที่นี้แล้วสิ
     



            ผมสาวเท้าเร็วขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่ผมเดินมาเมื่อกี้มันคุ้นๆ เหมือนจะเป็นทางเดิม อ่าวเห้ย
    หลงทางหรอว่ะเนี่ยแล้วผมก็ต้องหยุดเมื่อพบว่าตัวเองเดินเข้ามาสุดซอย ถึงซอยตันซะแล้ว
     แถวนี้เหมือนเป็นบ้านโบราณ  ที่ไม่มีใครอยู่ ซอยก็มืด  มีผู้ชายหุ่นกำยำสองคนเดินลิ่วเข้ามาหาผม
    ดูจะเป็นคนอิตาลีนี่แหละ แล้วผม  จะถามทางกลับโรงแรมยังไงว่ะเนี่ย  อังกฤษก็โง่
         
                   ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาล๊อกแขนของผมไว้ ส่วนอีกคนคว้ามีดพับ ออกมาจากกระเป๋า
    พร้อมกับชี้ที่กระเป๋าของผมแล้วพูดเชิงให้เอากระเป๋าไปให้ ผมฟังไม่ออกเว้ย   รู้แต่ว่า



    'ปล่อยกู !!!  ช่วยด้วยย help me help me !!! ' อะไรตะโกนได้ตะโกนไปก่อนละกันกู - -


    ทำไมไม่มีใครมาช่วยผมแบบในหนังบ้างว้ะ ไม่เอาผมยังไม่อยากตาย! หลังจากผมตะโกนไปมันก็ต่อยเข้าที่ท้อง
    ทำเอาผมจุกจนไม่มีแรงแม้แต่จะพูด ก่อนมันจะค่อยๆง้างมือที่ถือมีดออกแล้วพุ่งมาที่ผม  

    'hey ! ' ภาพตรงหน้าของผมมีผู้ชายร่างสูง ผิวขาว  คว้าตัวไอเหี้ยที่จะแทงผมเมื่อกี้ไปต่อยเข้าสองสามที
    ก่อนนอนไปนอนจมอยู่ที่พื่น  แล้วคว้ามือผมให้วิ่งตามมันไป  ตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายของ
    ไอสองตัวนั่น ซึ่งผมก็ยังฟังไม่ออกอยู่ดี  เราวิ่งกันมาจนถึงเกือบสุดซอย  ทางตันชิบหาย !! 
    ผมทำหน้าตกใจนิดหน่อยก่อน  คนข้างๆผมจะดึงมือของผมเข้าไปในซอกข้างตึก 


                                        เหงื่อของผมไหลไม่หยุด แม้ที่นี่จะอากาศหนาวแต่เล่นวิ่งสามร้อยเมตรขนาดนี้ใคร
    ไม่เหนื่อยก็ไม่ใช่คนแล่ว   แต่ที่อากาศตอนนี้มันร้อนเพราะผมวิ่งมาไกล หรือซอกตึกที่เรายืนหลบไอพวก
    นั้นมันเล็กไปจนหน้าผมกับหน้า   คนอีกคนที่มาช่วยผมไว้ แทบจะชนกัน

     ก็มันเล่นเอาแขนยันไว้ข้างตัวผมทั้งสองข้าง แถมยังเอามือมาปิดปากผมอีก  ทำเอาหน้าร้อนผ่าวแล้ว
    ใจผมก็เต้นรัวผิดปกติ แต่ผมทำได้แค่นิ่งตามมัน  ก่อนจะได้ยินเสียงไอพวกนั้นตามมา  
     เหมือนจะหาเราไม่เจอ จากนั้นเสียงฝีเท้า ก็เริ่มจะหายไป   ผมกับมันเลยเดินออกมาจากซอกตึก
    ด้วยความทุลักทุเล ก่อนมันจะหันมายิ้มให้ผมแล้วเดิน หันหลังไป  อ่าวเห้ยอย่าพึ่งไป !  เอาไงดีว่ะกู
    อังกฤษโง่ๆของกูจะช่วยอะไรได้ไหม 


    'เอ่อม you ! ' ได้ผลเว้ย มันหันมาด้วยท่าทีงงๆ ช่วยไม่ได้กูโง่อังกฤษ แล้วมันก็เดินเข้ามาหาผม ก่อนมันจะ
    มากระซิบข้างหูของผม


    'พูดไทยก็ได้ กูเป็นคนไทย '


    'อ่าว แล้วทำไมไม่บอกกูว่ะ '


    'ก็ไม่ได้ถามนี่ :) ' กวนตีน ไม่ได้ๆมันช่วยผมไว้ มีบุญคุณ


    'มึงชื่ออะไรล่ะ กูชื่อคชานะ '


    'ชื่อเต๋าน่ะ :)' 

     
    'เออขอบคุณนะที่มาช่วย '


    'ถ้ากูไม่มาช่วยป่านนี้มึงคงโดนพวกมันข่มขืน ฮ่า ๆ' 'แต่คำขอบคุณน่ะกูไม่รับหรอกนะ กูขออย่างอื่นแทนได้ไหม'


    'อะไร ' 


    'กูมาโรมคนเดียว ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ ' 


    'เออก็ได้ ' มีเพื่อนไปเที่ยวก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีคนช่วยถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแบบเมื่อกี้ 


    'แต่ ....'  พอผมขึ้นคำนี้มามันทำหน้างงๆ


    'ตอนนี้พากูกลับโรงแรมหน่อยกูหลง ' พอจบประโยคนี้เท่านั้นแหละ มันหัวเราะรวนทันที  กูไม่เคยมานี่กูผิดไหม



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

       ตลอดสองอาทิตย์พานี่ ผมกับเต๋าใช้เวลาไปไหนต่อไหนด้วยกันตลอด  เราสนิทกันเร็วมากจนไม่น่าเชื่อ
    จนเราย้ายมานอนโรงแรมเดียวกัน ผมเห็นว่ามันเป็นการประหยัดกว่าเลยชวนมันมานอนห้องเดียวกันไปเลย

          ตลอดเวลาผมกรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน  ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่มันคอยช่วยผม ทำอะไรดีดีให้  ผมรู้สึกว่า
    มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก และมีความสุขที่สุข จนผมลืมเรื่องของนาวไปเลย  



              เหมือนวันนี้เช่นกันเรามาเที่ยวกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่นี่สวยมาก บรรยากาศดี   มีคนไม่มาก 
    ผมนั่งมองไปรอบๆ ก่อนจะรู้สึกถึงความเย็นที่ต้นคอ  ผมหันหน้าไปมองก็เจอหน้าขาวๆยิ้มแป้นพร้องยื่นขวดน้ำ
    ให้ผมอยู่  

    'ทำไมมึงมาเที่ยวคนเดียวว่ะคชา  ' มันถามผม 


    'กูอกหักน่ะ กูรู้สึกอยากจะหนี หนีไปในที่ไม่มีคนคนนั้น '  


    'อ่อ กูเข้าใจ '


    'ทำไม  มึงอกหักมาเหมือนกันหรอ ' 


    'ก็ไม่เชิง แต่กูไม่ได้มาที่นี้เพื่อต้องการหนี กูแค่ ... มาตามหาเนื้อคู่ ' มันพูดก่อนจะยิ้มหวานมาให้ผม 


    'แล้ว.. มึงเจอรึยังล่ะ ' ผมหันไปถามมันกวนๆ 


    'คิดว่าเจอแล้วล่ะ ' 


    'เจอที่ไหนว่ะ !' 



    'ตรงหน้าไง '  มันพูดแล้วชี้มาที่ผม  ผม ผมจริงๆน่ะหรอ  


    'แต่ไม่รู้เนื้อคู่กู จะเห็นกูเป็นเนื้อคู่ด้วยรึเปล่าน่ะสิ '  อย่ามาแกล้งทำหน้างอเลย ผมเขินจะตายอยู่แล้ว 


    ' มึงรู้ไหม ก่อนเจอมึง กูไปน้ำพุเทรวีมา แล้วกูขออะไร '


    'กูขอให้เจอเนื้อคู่   แล้วอยู่ดีๆ...มึงก็โผล่มา ' 'กูไม่รู้หรอกนะว่ามันจริงรึเปล่า แต่ที่กูรู้ตอนนี้ กูรู้สึกดีกับมึง ถึงแม้ว่ามึงจะเป็นเนื้อคู่กูหรือไม่ก็ตาม  '  


    'กูรักมึงนะ ' 



    FIN-)
    ___________________________________________________________________________



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×