ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทาคายาม่า ทาคาโตะ :: Tsuki Dorm ::

    ลำดับตอนที่ #6 : Wenn die Sonne scheint!!! 50%

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 54


     (พ.ค.) ------------------------------(วันจันทร์)







    ปล. ฟังเพื่อสร้างบรรยากาศในตอนเน้อ...
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ชายหนุ่มบรรจงปั้นข้าวสวยหุงสุกด้วยความระมัดระวัง อย่างชำนานจนน่าประหลาดใจ ที่เด็กรุ่นหนุ่มเช่นเขา จะมีทักษะการทำอาหาร ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเชฟมือหนึ่งของภัตตาคารชื่อดัง
     
    “หูวววววววว” เสียงครางของเด็กสาวตัวเล็ก ดังมาจากฝั่งโต๊ะรับประทานอาหาร สร้างความแปลกใจให้ชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ถึงเหตุจูงใจที่ดลให้เจ้าของทรงผมทวินเทลสีทองคนนี้ ตื่นเช้าจนผิดวิสัย ทั้งๆที่งานเลี้ยงเล็กๆเมื่อคืน ก็เลิกเอาเสียดึกดื่นแท้ๆ
     
    “ตื่นแต่เช้าเลยนะ คุณสึสึเนะ”เขาพูดพลาง หันกลับมาส่งยิ้มให้เด็กสาวตัวเล็ก แววตาอ่อนต่อโลกของเจ้าหล่อน มักจะทำให้เขานึกถึงน้องสาวตัวน้อยๆทุกครั้งไป ทั้งๆที่เขาไม่เคยมีน้องสาว และไม่คิดอยากมีด้วย...
     
    “สงสัยเมื่อคืนไอจะตื่นเต้นไปหน่อยน่ะคุณพ่อบ้าน เลยหลับไม่ค่อยจะสนิทเท่าไหร่”ไอยูริพูดพลางหัวเราะแห้งๆ
     
    ชายหนุ่มคลี่ยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ด้วยความเอ็นดูกับท่าทีของเด็กสาวตัวน้อย ก่อนจะนึกขึ้นได้ ถึงมารยาทการทักทายตอนเช้า ที่เขาเผลอละเลยไป
     
    “ว้าวววววว เป็นสามเหลี่ยมแล้ว” จู่ๆเด็กสาวก็โพล่งขึ้น ก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยประโยคใดๆออกมา ชายหนุ่มหันขวับไปมองเด็กสาวด้วยความฉงนระคนกับความตกใจ ก่อนที่ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะนิดๆ เมื่อเห็นดวงตากลมโตคู่นั้นเป็นประกายระยับราวกับเด็กเจอสิ่งของถูกใจ
     
    “ถ้าไม่รังเกียจ ให้ผมปั้นเผื่อไว้เป็นมื้อเช้าดีมั้ย”ทาคาโตะเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะจัดเรียงข้าวปั้นสามเหลี่ยมสามสี่ก้อนใส่จาน แล้วยื่นให้เด็กสาวตรงหน้า
     
    “แล้วคุณพ่อบ้านตื่นมาทำอะไรแต่เช้าเหรอ”เด็กสาวพูด ขณะเพ่งพิจารณาอาหารตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ ราวกับว่ามันเป็นวัตถุหายาก ที่ไม่เคยมีผู้ใดค้นพบมาก่อน
     
    “ทำกล่องข้าวน่ะคุณสึสึเนะ”เขาพูดอย่างเริงร่า กลั้วหัวเราะ“รู้แล้วเหยียบไว้นะ วันนี้ผมมีเดทน่ะ”
     
    “เดทเหรอ” เด็กสาวตาเป็นประกาย เหตุเพราะเธอนั้นเติบโตมาในตระกูลที่ร่ำรวย ชีวิตที่ผ่านมาของเธอจึงไม่เคยได้สัมผัสกับการมีความรักสักครั้ง คำว่าเดทสำหรับเธอนั้น จึงเป็นอะไรที่ดูยิ่งใหญ่ และ โรแมนติกมากๆสำหรับเธอ
     
    ชายหนุ่มคลี่ยิ้มนิดๆให้เด็กสาว ก่อนจะลงมือทำอาหารต่ออย่างชำนาญ โดยที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่า... เสียงพูดของเด็กสาวเมื่อครู่ จะปลุกคนที่หลับใหลอยู่ ให้ตื่นขึ้นมา จนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายก่อนการเดทอันแสนสำคัญ
     
     
     
     
     
    ท้องฟ้าสีครามวันนี้เต็มไปด้วยปุยเมฆที่ลอยอ้อยอิ่ง ราวกับถูกแขวนไว้เหนือยอดไม้สูง ในขณะที่แสงอาทิตย์ยังคงส่องสว่างจ้า หยอกล้อกับฝูงนกที่บินไปมา จากขอบฟ้าหนึ่ง ไปสู้อีกขอบฟ้าหนึ่ง สร้างบรรยากาศให้ทุกผู้คนล้วนรู้สึกอยากจะเอนกายนอนลงใต้เงาของต้นไม้ใหญ่ที่กำลังผลิใบอ่อน แล้วทอดถอนอารมณ์สักครั้ง เพียงแต่ไม่ใช่สำหรับเด็กหนุ่มร่างสูง เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินซอยรากไทร ที่เริ่มกระเซิง จากการขี่จักรยานสวนทางลม คนนี้
     
    เขารีบสาวเท้าวิ่งไป ทั้งๆที่ในมือยังคงหอบหิ้วปิ่นโตไว้ อย่างทะนุถนอม ราวกับว่ามันเป็นของที่สำคัญมาก
     
    เขาต้องรีบ เขาต้องเร่งฝีเท้าให้มากกว่านี้ แค่นี้เขาก็สายไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอยังคงรอเขาอยู่ไหม แล้วเธอจะโกรธเขาไหม คำถามต่างๆนาๆต่างวนเวียนไปมาในสมองเขาอย่างไม่รู้จักหยุด พร้อมกับนึกโทษตัวเองที่กะเวลาผิด จนต้องสายขนาดนี้
     
    เจ้าหล่อน เอื้อมมือบอบบางของ คว้ากิ่งไม้เตี้ยให้โน้มลงมา พลางเด็ดพวงช่อดอกไม้สีสวยบนกิ่ง ลงมาชื่นชม เส้นผมของเธอเป็นสีดำขลับ เช่นเดียวกับดวงตากลมโตหวานซึ้งคู่นั้น ผิวพรรณของเธอ ขาวอย่างน่าประหลาด ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับจมูก และริมฝีปากอันบอบบางคู่นั้น ทำให้เธอดูราวกับองค์หญิง ที่รอคอยให้ใครซักคนมาปกป้อง
     
    ดวงตาสีดำขลับพลันเป็นประกาย เมื่อเงาร่างอันคุ้นเคยสายหนึ่งของคนที่เธอรอคอย ปรากฏขึ้นมาในสายตา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มที่เสริมเสน่ห์ให้เจ้าหล่อนชวนพิศยิ่งกว่าเดิม
     
    “ทาคาโตะจัง” หญิงสาวขานขึ้น ด้วยโทนเสียงหวานใสดุจระฆัง
     
    ชายหนุ่มหยุดเท้าลงตรงหน้าร่างบาง พลางกระหืดกระหอบ ก่อนจะส่งยิ้มจืดๆให้หญิงสาวเป็นเชิงขอโทษ
     
    สาวน้อยหยิบผ้าเช็ดหน้าผ้าแพรผืนบางออกมาจากกระเป๋ากระโปรงจีบรอบสีขาวที่เจ้าตัวสวมใส่ พลางใช้มันซับหยาดเหงื่อบนใบหน้าของชายผู้เป็นที่รักอย่างละมุนละไม
     
    มือคนมาสายคว้าข้อมือบางไว้เป็นเชิงห้ามปราม “ไม่เป็นไรหรอก นามิ” เขากล่าวก่อนเหยียดกายยืนตรง พลางเบือนหน้าหนีแววตาหวานซึ้งที่กำลังมองเขาด้วยความเป็นห่วง
     
    “ผมขอโทษนะ ผมกะเวลาผิดไปหน่อย”เขากล่าวเสียงอ่อย ด้วยชนักความผิดที่ติดอยู่ เขาไม่กล้ารับความห่วงใยจากเธอ ไม่กล้าแม้จะมองหน้าเธอตรงๆเสียด้วยซ้ำไป
     
    ร่างบางคลี่รอยยิ้มแสนหวาน ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นดีดหน้าผากของชายหนุ่มเบาๆ “แค่สิบนาที ฉันไม่ถือว่าสายหรอกนะทาคาโตะจัง อีกอย่าง ทาคาโตะจังก็สายเพราะมัวแต่ทำข้าวกล่องใช่มั้ยล่ะ”
     
    “นามิ เธอไม่โกรธฉันเหรอ”ชายหนุ่มถามย้ำ อย่างไม่เชื่อหู
     
    หญิงสาวคลี่ยิ้ม พลางส่ายหน้าช้าๆ “นายคิดว่าฉันเป็นคนยังไงฮึ”
     
    ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆกับท่าทีของเธอ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×