ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF. SJ] รวมสารพัดรื่องสั้น WonHyuk SJ และคู่อื่นๆ

    ลำดับตอนที่ #6 : [SF] ~The Red Ribbon~ (II)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 54









             ริบบิ้นสีแดงที่่ฮยอกแจเก็บมาหลายปี วันนี้ได้เวลาโบยบินแล้ว...

            Title:: ~The Red Ribbon~ # 2
          
            Pairing:: WonHyuk

            Author:: Grazia

            Rating :: PG-13

            Author's note ::    ริบบิ้นสีแดงที่่ฮยอกแจเก็บมาหลายปี วันนี้ได้เวลาโบยบินแล้ว...

    __________________________________________________________________________________




                วาเลนไทน์ปีนี้เซอไพรซ์ฮยอกแจซะแล้วสิ  เมื่อเดินเที่ยวอยู่ดีๆ ริบบิ้นแดงที่ใส่กระเป๋ามาถูกลมพัดไปโรยตัวลงข้างคนๆ หนึ่ง คนที่ไม่ได้เจอกันนานแสนนาน แถมคนๆ นั้นยังมาขอความรักจากเขาชนิดไม่ทันตั้งตัว
                 “บ้าหรือเปล่า รอได้ยังไง 6 ปี แถมยังไม่เคยเป็นอะไรกับนายด้วย เคยให้ดอกไม้แค่ช่อเดียว ซีวอนนี่มันคนหรือควาย โคตรถึกหนึ่งในบรรดาเพื่อนสนิทพูดติดตลกหลังจากฟังเรื่องเล่าในคืนวาเลนไทน์จบ

    นั่นสิ รอได้ยังไง อะไรทำให้รอ
                “นอกจากว่า  นายมีความหมายมากสำหรับเขาจริงๆ ฮยอกแจ หรือว่านายกับเขา...เคย...ซองมินยื่นหน้ามาถามอย่างไร้เดียงสา

    ไม่เคยร่างบางตอบทันควัน ทุกคนพากันหัวเราะ

                อ่าว แค่หมายถึงทำอะไรบางอย่างให้เขาประทับใจมากๆ โดยที่นายอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้  ไม่เคยจริงๆ หรอเจ้าของฟันกระต่ายเปลี่ยนคำถามใหม่ให้ชัดเจนขึ้น ร่างบางกระดิกขาที่นั่งไขว่ห้าง วางนมสตอเบอรี่ลงบนเคาเตอร์ แล้วก็นึกย้อนไปว่าตนเคยไปทำอะไรให้ซีวอนติดใจตั้งแต่เมื่อ

                [~ปิ๊ป ~ ปิ๊ป~ ปิ๊ป~]  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกฮยอกแจออกจากภวังค์

    ครับ

    เดี๋ยวลงไปรับนะ
    ร่างบางดีดตัวออกจากเก้าอี้ทรงสูง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาจับผิดมากมาย

    ใครหรอเพื่อนที่ได้ฟังฮยอกแจคุยโทรศัพท์รู้สึกแปลกใจเมื่อฮยอกแจพูดว่า ครับ ทำไมวันนี้มันสุภาพผิดปกติ

    ก็...ซีวอน ไม่มีอะไร
    แอ่....เกิดเสียงดังขึ้นพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ของผองเพื่อน อะไรมันจะไวอย่างนี้ไหนว่าเพิ่งเจอกันเมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

    แล้วนี่กำลังจะไปไหน ครับซองมินรีบถาม ตรงคำหลังตั้งใจแซวร่างบางเป็นพิเศษ
    ก็ที่บ้านซีวอนเขาไปญี่ปุ่นมา ซีวอนก็เลยเอาขนมจากญี่ปุ่นมาฝากพวกนายไงเอาขนมมาล่อเผื่อว่าจะทำให้เพื่อนๆ ตัวดีสงบปากสงบคำได้บ้าง

    ให้พวกฉัน ให้ทำไม เขาไม่รู้จักพวกเราสักหน่อย ฮยอกแจ
    ไปก่อนนะคนตัวขาวรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว อยู่นานเดี๋ยวได้โดนพวกมันแซวอีก เขินนะ (แล้วหนูจะเขินทำไมละลูก)

    ไม่ต้องรีบขนาดนั้น 6 ปีเขายังรอมาแล้ว แค่ 3 นาทีมันไม่เป็นไรหรอก ครับ...ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะตามไล่หลัง
    ปัง เสียงประตูพลันตามมา

    ดูเหมือนเพื่อนเรามันมีใจให้เขาว่ะ

    มีหรอจะไม่…” ซองมินพูด จะเป็นใครก็ได้ ขอให้เขารักนายมากๆ เพื่อนคนนี้ก็ดีใจแล้ว

                เมื่อมาถึงลานจอดรถใต้อพาร์ทเมนท์ ร่างบางรีบมองหารถเก๋งสีดำคันโตที่เคยมาส่งเขาเมื่อสองสามวันก่อน แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่แล่นเข้ามาเทียบใกล้ๆ บังลมหมวกนิรภัยเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าคมคายในมาดใหม่พร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจที่ถูกส่งมา ซีวอนเปลี่ยนไป คิดจะทำคะแนนล่ะสินะ

                สีหน้าของฮยอกแจดูจะอึ้งไปเล็กน้อย ก็คุณชายกลายเป็นเด็กแว้นสุดเท่ห์ คนอะไรแมนได้อีก

    “...เอ่อ มาส่งพิซซ่าหรอครับ

                คำทักทายของร่างบางทำให้รอยยิ้มทรงเสน่ห์ยู่ลงเล็กน้อย ที่พูดอย่างนี้เพราะคนๆ นี้ไม่เคยชมใครว่า หล่อ เท่านั้นเอง  แต่เมื่อตาคมกวาดลงไปเห็นสร้อยข้อมือสีเงินกับจี้รูปตัว H อยู่ที่ข้อมือบางก็อิ่มใจพร้อมจะฟื้นชีพขึ้นมาเล่นมุกต่อ

    พิซซ่าน่ะคุณเอาไปเถอะครับ แต่หัวใจผมฝากไว้ให้ฮยอกแจได้ไหมยิ้มแก้มบุ๋มมัดใจ

    ขนมอยู่ไหน เอามา แล้วเชิญกลับไปเลยครับ อย่าอยู่นาน...เลี่ยน

    ฮยอกแจ...แววตาแจ่มใสหม่นหมองลงทันที แค่อยากทำให้ประทับใจมันผิดด้วยหรอ 

    (คุณชายอุตส่าห์ขี่มอเตอร์ไซด์มาเลยนะ)

    ถ้าไม่รังเกียจไปนั่งเล่นในห้องของฉันกับซองมินก่อนก็ได้ แต่มันเล็กหน่อยนะ แถมคนยังเยอะอีกด้วย” 

    ฮยอกแจทานข้าวหรือยัง มีร้านพิซซ่าเปิดใหม่อยู่ไม่ไกล ไปลองทานกันไหมพยายามแก้ตัวอีกครั้ง

    พิซซ่าหรอ ระดับซีวอนจะพาเขาไปกินพิซซ่าแบบไหนกันนะ ฉวยโอกาสไว้ก่อนดีกว่า

    เดี๋ยวลองโทรไปถามซองมินกับเพื่อนๆ ก่อนนะว่าจะไปด้วยกันไหม ไปกันเยอะๆ สนุกดี

                มือบางต่อโทรศัพท์ถึงเพื่อนกระต่ายตัวน้อย

    [ฮยอกแจ ว่าไงเอ่ย]

    ซีวอนชวนพวกเราไปกินพิซซ่าดัวยกันน่ะซองมิน

    [จริงหรอ....] แล้วซองมินก็เงียบไป เหมือนจะหันไปคุยกับเพื่อนๆ อยู่
    [พวกเรามีกัน 4 คนข้างบนนี้ จะไปกันหมดไหม คุณซีวอนเอารถอะไรมาล่ะ]

    มอเตอร์ไซด์ ไก่น้อยหัวเราะแห้งๆ หลังจากตัวเองพูดจบ

    [… -  - ||…]

    [ งั้นเขาคงชวนนายคนเดียวแล้วล่ะ ไม่ได้ชวนพวกฉันหรอก ] ไม่ใช่เสียงของซองมินแน่นอน 

                จบการสนทนา

                ลมเย็นๆ แล่นเข้ามาปะทะผิวกาย นานแค่ไหนแล้วนะที่ฮยอกแจไม่ได้ขึ้นมอเตอร์ไซด์ ครั้งสุดท้ายคงจะเป็นตอนเรียนประถมเพราะพ่อของเขาจะขี่มอเตอร์ไซด์ไปส่งฮยอกแจกับพี่โซราทุกวัน หลังจากขึ้นมัธยมเขาก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการขึ้นรถประจำทาง พ่อและแม่ไม่อนุญาตให้ลูกชายลูกสาวจับมอเตอร์ไซด์เป็นอันขาด เพราะลูกพี่ลูกน้องของพวกเขาเสียชีวิตขณะขับขี่ยานพาหนะประเภทนี้ คุณแม่เลยบอกว่าว่าการมีลูกที่ขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ได้ดีกว่ามีลูกที่ตายไปพร้อมกับมอเตอร์ไซด์           
                แต่มันก็เป็นอะไรที่เท่อย่าบอกใคร ยานพาหนะที่ปราดเปรียวทรงพลัง ยิ่งเป็นรถของซีวอนด้วยแล้วเรื่องความอลังการไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ใครๆ คงมองว่าซีวอนเท่มากๆ พอๆ กับพระเอกหนังบู๊ที่ชอบขี่มอเตอร์ไซด์จับผู้ร้าย ส่วนเขาล่ะ...เป็นอะไรถึงได้มาอยู่ตำแหน่งเบาะท้ายของฮีโร่ จะมีก็แต่นางเอกเท่านั้นแหละ...ทันใดนั้นฮยอกแจก็อ๋อ...แผนการของคุณชายนี่มันร้ายจริงๆ 

                ในร้านพิซซ่าที่ตกแต่งด้วยโทนสว่าง ทั้งคู่เลือกที่นั่งริมกระจกซึ่งสามารถมองออกไปเห็นไม้ดัด และไม้ดอกที่ทางร้านจัดตกแต่งเอาไว้ด้านนอก ฮยอกแจเพลิดเพลินกับภาพพิมพ์ติดผนังฝีมือศิลปินอิตาเลียนที่รู้ได้เพราะมีชื่อศิลปินกำกับ ร้านออกแบบได้ร่วมสมัยผสมผสานความเป็นสมัยใหม่และเรนาซองส์อ่อนๆ ได้อย่างน่ารัก แถมรูปพิซซ่าแต่ละรายการที่โชว์ในเมนูยังดูน่ารับประทานมาก มีตั้งแต่หน้าที่เขารุ้จักอย่าง เปปเปอโรนี่ ฮาวายเอี้ยน ซีฟู้ด นาโปลีตาน่า ไปจนถึงหน้าพิเศษเฉพาะของทางร้าน  สิ่งหนึ่งที่ทำตาของฮยอกแจให้โตได้คือชีสเยิ้มๆ ที่โปะอยู่บนหน้าอย่างไม่อั้น แถมยังขอพิเศษเพิ่มชีสได้อีกด้วย ฮยอกแจใช้นิ้วจิ้มสั่งบนภาพโน้นภาพนี้อย่างเมามันโดยมีซีวอนมองอย่างเอ็นดู นี่ขนาดยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันยังตามใจขนาดนี้ วันข้างหน้ามีหวังไก่น้อยลอยขึ้นวอแน่ๆ . . . เมื่อสั่งพิซซ่าขนาดถาดกลางทั้งหมด 8 ถาด กับเมนูแนะนำอื่นๆ จากทางร้านแล้วรอยยิ้มสดใสของร่างบางก็ระบายเต็มใบหน้า           
                ฉันจะถล่มนายให้เละเลยซีวอน           
                ไก่น้อยจ๋า...ถูกหลอกมาออกเดตแล้วยังไม่รู้อีกหรอลูก (เอ หรือว่ารู้แต่แรกแล้ว)           
                พิซซ่าเตาถ่านอบใหม่ๆ ร้อนๆ ถูกนำมาจัดเรียงทีละเมนู กลิ่นหอมน่ารับประทานพร้อมกับความเย้ายวนของชีสทำให้ฮยอกแจตื่นเต้นเป็นพิเศษ มือบางไม่รอช้าหยิบเข้าปากน้อยๆ พลางเคี้ยวตุ้ยๆ...อร่อยจังเลย...ฮยอกแจมีความสุขหลือเกินกับการลิ้มลองความแปลกใหม่ น่าแปลกจริงๆ ที่ซีวอนไม่เห็นตื่นเต้น แถมยังเอาแต่ตักโน่นตักนี่ให้เขา ทำตัวแบบนี้ไม่สนุกเลย ถ้ามากับเพื่อนๆ ป่านนี้เหลือแต่จานเปล่าๆ หมดแล้ว           
                ฉันให้อาหารนายบ้างนะมือบางตักลาซานญ่าคำโตลงไปในจานที่ว่างของซีวอน

    ให้อาหารหรอ...ฟังดูยังไงๆ แต่ก็           
                ขอบคุณครับ”            
                หลังจากลาซานญ่า ก็ตามมาด้วยกุ้งตัวโต หอยแมลงภู่ยักษ์ พิซซ่ากับชีสพูนๆ ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังสนุกสนานกับการให้อาหารกัน โดยมีข้อแม้ว่าอีกฝ่ายต้องกินอาหารที่อีกคนตักให้ให้หมด สงครามเริ่มดุเดือดเมื่อต่างคนต่างก็อิ่มกันมากแล้ว คราวนี้ใครตักใส่จากอีกคนลงไปได้มากยิ่งสนุกมากเท่านั้น
                 “พอแล้วๆ เลิกๆฮยอกแจประกาศจบเกมทันทีหลังจากพบว่าจานตรงหน้าของตัวเองพูนมากขนาดไหน คนอะไรมือยาวจริงๆ เลยซีวอนเนี่ย เอาเปรียบเห็นๆ
               
                หลังจากที่กินอะไรไม่ได้อีกแล้วทั้งสองก็ไม่ลืมสั่งพิซซ่าจากที่ร้านให้ไปส่งที่อพาร์ตเมนท์สำหรับซองมินและเพื่อนๆ...เพิ่งนึกถึงเพื่อนก็ตอนอิ่มแล้วนี่แหละ

    กลับกันเลยไหมครับ”  ซีวอนเอ่ยถามอีกคน
    เดี๋ยวก่อนสิ ไปเดินเล่นด้วยกันก่อน”  

                เวลาบ่ายคล้อย ตะวันลอยลดต่ำ แสงสีทองทาบประกายบนผิวน้ำ ร่างบางและร่างสูงเดินเคียงกันไปใต้ร่มไม้
                 “มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”  ซีวอนมองคนอีกคนที่ยังคงเดินหน้านิ่งเรียบ ไม่มีวี่แววจะสนใจบรรยากาศสวยงามรอบตัว
               
                ใช่ เกี่ยวกับนาย
                 “ฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจหรือเปล่าฮยอกแจ”  หลังจากพบกันวันวาเลนไทน์ ซีวอนก็ติดต่อฮยอกแจโดยการส่งข้อความหามาได้สองสามวันแล้ว 

    “...”
    นายอึดอัดใจที่อยู่กับฉันหรอ

    นายทำให้ฉันปวดหัว

    “...”

    ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของนายชัดเจนว่านายเข้ามาหาฉันทำไม แต่ฉันไม่เข้าใจที่มาของมัน
    ตั้งแต่รู้จักกันนายให้ดอกไม้ฉันแค่ช่อเดียว ทำไมเมื่อวันก่อนนายไม่ลังเลที่จะขอคบฉันทั้งที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกหลังเรียนจบ นั่นนายพูดจริงหรือพูดเล่นๆ ทำไมถึงรอฉันได้นานถึง 6 ปี ถ้ารู้สึกดีกับฉันขนาดนั้นทำไมตอนนั้นไม่แสดงออกให้มากกว่านี้ ทำไมไม่ติดต่อกันบ้าง”
    ฉันทำให้นายคิดมากขนาดนั้นเลยหรอ

    คำถามสุดท้ายชเวซีวอน...ที่นายบอกว่า เรารู้จักกันมากกว่านั้น หมายความว่ายังไงร่างบางทบทวนเท่าไรก็จนมุม อยากฟังคำเฉลยเต็มที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสงสัยอีกต่อไป

    ริมฝีปากเรียวบางได้รูปหยักเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับสายตาอ่อนโยน ทั้งสองหยุดนั่งลงบนม้านั่งตัวยาวใต้ต้นไม้ หันหน้าออกไปมองระลอกบนผิวน้ำที่ไหลเป็นสายยาว...ยาวไกลเหมือนกาลเวลาที่ไหลจากอดีตไปสู่อนาคต

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

    -------------------------------------------~~~~~~~~~~~~~~~~-----------------------------------------

                       เมืองซูวอน ในฤดูที่ดอกลิลี่เบ่งบาน เด็กชายวัย 5 ปีจากกรุงโซลถูกพ่อแม่ฝากฝังไว้ให้อยู่กับญาติสนิทชั่วคราวเพราะท่านทั้งสองมีธุระต้องเดินทางไปต่างประเทศหลายเดือน            
                บ้านพักฤดูร้อนที่เด็กชายอาศัยอยู่สุขสบายและสวยงามราวกับพระราชวังโบราณ  อีกทั้งคุณลุงคุณป้า กับพี่สาวลูกของท่านยังใจดีกับเขามาก ในบ้านหลังนี้มีสิ่งของสารพัดที่จะทำให้เด็กชายสนุกสนาน แต่สิ่งที่เด็กอย่างเขาต้องการนอกจากของเล่นคือเพื่อนที่จะมาร่วมเล่นด้วยกัน
                วันหนึ่งขณะเด็กชายเดินเที่ยวในสนามเด็กเล่นใกล้บ้านกับพี่สาวและพี่เลี้ยง มีเด็กผู้หญิงมัดผมเปียวิ่งมาเก็บลูกขนไก่ใกล้ๆ แล้วเธอก็ร้องขอให้ใครคนใดคนหนึ่งก็ได้มาเล่นตีลูกขนไก่คู่กับน้องชายของเธอ เพราะตัวเองจะรีบกลับบ้าน

                เด็กชายจึงรับปากกับเธอ เพราะใจหนึ่งก็อยากเล่นอยู่แล้ว           
                นายชื่อะไรเขาเอ่ยถามคู่เล่นตัวน้อย           
                ฮยอกแจ นายล่ะ”            
                ซี...           
                ซิมบ้า เดี๋ยวพี่มานะ เล่นอยู่ที่นี่กับเพื่อนแล้วก็พี่แดอึนไปก่อนยุนอาลูกพี่ลูกน้องของเขาบอกก่อนเดินไปกับพี่เลี้ยงของตัวเอง ทิ้งเขาไว้กับพี่เลี้ยงอีกคน           
                ซิมบ้า มาเล่นกันเร็ว ตาพวกเราแล้วยังไม่ทันได้บอกชื่อ เด็กตัวเล็กคนนั้นก็เรียกแทนตัวเขาว่า ซิมบ้า ไปแล้ว           
                ซิมบ้าพบว่าเมื่อพี่สาวผมเปียจากไป ฮยอกแจก็ถูกเด็กคนอื่นรังแกตลอด

                แทบทุกครั้งที่ถึงคราวฮยอกแจตีลูกขนไก่ พวกเด็กที่เล่นด้วยจะแกล้งนับคะแนนผิด หรือไม่ก็ตั้งใจหวดลูกขนไก่แรงๆ ให้ฮยอกแจรับไม่ได้           
                ไปเถอะ ถ้าเขาไม่อยากให้เราเล่นก็ไม่ต้องไปเล่นกับเขาซิมบ้าพูดขึ้น           
                แต่ฉันอยากจะเล่น
                 “ไปเล่นเกมกดกับฉันดีกว่า ฉันเต็มใจให้นายเล่นเด็กชายเจ้าเนื้อลากแขนของฮยอกแจออกจากสนามมุ่งหน้าไปทางพี่เลี้ยงที่นั่งรออยู่ 

                  “นี่ไง ให้นายเล่นก่อนเลยเขาหยิบสี่เหลี่ยมขนาดเหมาะมือ มีปุ่มกดและจอภาพออกมาจากกระเป๋าสะพายที่ฝากพี่แดอึนไว้ มือบางรับมาดูอย่างสนใจ
               
                เพื่อนนายนี่นิสัยไม่ดีเลยเขาบ่นกับคนที่เริ่มยิ้มได้เพราะมีของเล่นใหม่           
                พวกเขาไม่ใช่เพื่อนฉัน เพื่อนพี่โซราต่างหาก           
                แล้วเพื่อนนายไปไหนล่ะ           
                พวกเพื่อนสนิทที่โรงเรียนบ้านอยู่ไกลทั้งนั้นเลย ฉันเลยมาเล่นกับเด็กแถวนี้           
                งั้นนายก็ไม่มีเพื่อนแถวนี้ล่ะสิ           
                ก็นายไง เพื่อนฉันคนตัวบางยิ้มตอบกลับมา

                เด็กชายจากโซลเจอแล้ว เพื่อนคนแรกในฤดูร้อน           
                เดี๋ยววันหลังจะเอาช็อกโก้มาแบ่งนายเล่นบ้างนะซิมบ้า           
                ช็อกโก้ นี่เกมอะไรไม่เคยได้ยิน เกมกด หรือ วิดีโอเกม มีรุ่นช็อกโก้มาก่อน 

    หมาที่บ้าน
    “ - -|| ”


    ฮยอกแจ...ช็อกโก้นี่มันน่ารักดีนะ”  เด็กชายใช้นิ้วหลอกล่อสุนัขขนปุยสีน้ำตาลทองให้กระโดดไปมารอบตัวเขา
    ชอบใช่ไหมล่ะเจ้าของสุนัขรีบภูมิใจเสนอ

    ชอบ

    วันหลังก็มาเล่นบ้านฉันอีกสิ

    ฮยอกแจ นายใส่อะไรที่ข้อมืออ่ะซีวอนมองเห็นสายสีเงินวาวคล้องอยู่รอบข้อมือบาง

    นี่ แม่ของฉันร้อยให้เองเลย พี่โซราก็มีแต่เอาไปใส่ให้ตุ๊กตาแทนเพื่อนตัวเล็กอวดสร้อยข้อมือให้เขาดู ที่สายสร้อยมีตัวอักษร H สีน้ำเงินห้อยลงมา

     “ตัว H หมายถึงอะไรหรอเด็กชายเอ่ยถามเจ้าของสร้อย

    อืม...คิดไม่ออก
    หมายถึงแม่ไก่หรือเปล่า เอช-อี-เอ็น เฮ็นแม่ไก่ประสาเด็ก 5 ขวบก็ท่องศัพท์อังกฤษได้ไม่กี่คำ ใครจะไปรู้ว่าชื่อ ฮยอกแจ ก็ขึ้นต้นด้วยตัว H เหมือนกัน

    คงใช่มั้ง
    ฮยอกแจ แล้วทางนั้นอะไรเด็กชายมองดูบริเวณบ้านที่ค่อนข้างกว้างขวาง เห็นมุมที่มีสีเขียวร่มรื่นเป็นพิเศษ

    ทางนั้นปลูกผักสวนครัว แล้วก็มีบ่อเลี้ยงปลา

    ฉันอยากไปดูบ่อเลี้ยงปลา

                 แม่ไก่และพี่โซรานำเขาเดินมายังบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดย่อม  เงาในน้ำบ่งบอกว่ามันไม่ตื้นเลย            
                ปู่ฉันขุดไว้เลี้ยงปลา  แล้วเราก็จะเอามากินกันไกด์หนุ่มน้อยบรรยาย           
                ซิมบ้า อย่าเข้าไปใกล้บ่อมาก น้ำมันลึก ถ้าแม่เรากับพี่เลี้ยงเธอรู้ต้องโดนดุแน่ๆ พี่โซราส่งเสียงเตือน
                ครับแล้วทำไมปลาตัวนั้นมันไม่ว่ายน้ำ มันตายแล้วหรอ” 

                ร่างเจ้าเนื้อเดินมาริมขอบบ่อ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบ แต่มือก็สั้นเกินกว่าจะแตะผิวน้ำที่อยู่ต่ำลงไปได้           
                ซิมบ้า จะทำอะไรฮยอกแจส่งเสียงร้องเตือน           
                เด็กชายจากในเมืองเพียงแค่อยากได้ปลาตัวนั้น ด้วยความไร้เดียงสา เขาใช้มือข้างหนึ่งยึดไว้กับต้นหญ้าที่ขึ้นริมขอบบ่อ แล้วค่อยๆ โน้มตัวเอื้อมลงไป หมายจะจับเจ้าปลาที่นอนตายอยู่  อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว แต่มือที่จับหญ้าไว้กลับโหวงเหวงขึ้นมา เมื่อต้นหญ้าขาดออกจากพื้นดิน ร่างของเด็กชายดิ่งไปหาพื้นน้ำ...น้ำพี่โซราย้ำนักย้ำหนาว่ามันลึกขนาดไหน
                เงาของตัวเองที่สะท้อนจากผิวน้ำวิ่งเข้ามาใกล้ หัวใจดวงน้อยหล่นวูบ ดวงตาคมเบิกกว้าง

                แต่...

                อะไรบางอย่างหยุดการเคลื่อนที่ของเขาไว้ ซีวอนสัมผัสได้ถึงแรงยึดเหนี่ยวรอบข้อมือของเขา            
                ฮยอกแจ’ 
                เป็นมือเล็กบางนั่นเองที่จับเขาไว้ได้ทัน มือนั้นเกาะกุมไว้แน่น ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา เจ้าของมือบางคู่นั้นกำลังใช้สมาธิ และพลังทั้งหมดที่มีดึงเด็กซนๆ ขึ้นจากบ่อ ก่อนที่พี่โซราจะรีบวิ่งเข้ามาช่วยกันดึงมืออีกข้างของซีวอน ขณะที่ร่างท้วมค่อยๆ เคลื่อนขึ้นจากบ่อ เศษโลหะสีเงินก็ค่อยๆ ขาดร่วงลงไปทีละเล็กละน้อย เพราะข้อมือของฮยอกแจเสียดสีกับข้างบ่อ
                คู่พี่สาวและน้องชายล้มตัวลงหอบเมื่อดึงเด็กตัวหนักขึ้นมาได้ ต่างคนต่างก็เหนื่อยเหลือเกินโดยเฉพาะคนน้อง
                ตัวเล็กขนาดนั้น ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน’ 
                ซีวอนมองทั้งสองคนด้วยความตื้นตันใจ จะมีคำพูดไหนที่เขาสามารถมอบให้ได้บ้าง คำที่มีความหมายมากกว่าคำว่า 
                ขอบคุณ


    ฮยอกแจ ยู อาร์ ดิ โอนลี่ วัน ไอ เลิฟ ซีวอนส่งเสียงทักทายเมื่อเจอหน้ากันในวันใหม่

    แปลว่าอะไรอ่ะ ซิมบ้า

    ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเอามาจากเนื้อเพลงในละครเวทีที่ไปดูกับคุณแม่

    อืม...ฉันไม่รู้...ไว้วันหลังฉันจะให้พ่อพาไปดูบ้างนะ

    มันเป็นคำที่วิคตอเรียพูดกับโรเบิร์ต เพราะว่าโรเบิร์ตเป็นคนดีแล้วก็มีความหมายกับวิคตอเรียมากๆ...นายก็มีความหมายกับฉันมาก ฉันเลยเอามาพูดกับนายบ้าง

    อือ…” แม่ไก่พยักหน้า  ยังไงก็งงอยู่ดี

     ก่อนจะเห็นพี่เลี้ยงของซีวอนจะเดินเข้ามาฮยอกแจเลยรีบถาม พี่แดอึนครับ ยู อาร์ วัน เลิฟ เลิฟ แปลว่าอะไรครับ
                  “ฮ่าๆๆ ไปเอามาจากไหนนี่เราพี่เลี้ยงใจดีถามอย่างไม่เชื่อหู ก็มันฟังๆ ดูเหมือนคำบอกรัก แล้วเด็กขนาดนี้หัดบอกรักกันแล้วหรอ

                ไม่ใช่ๆ ยู อาร์ ดิ โอนลี่ วัน ไอ เลิฟเจ้าของประโยคแก้ให้           
                ฮ่าๆ แปลว่า เธอเป็นคนเดียวที่ฉันรัก ค่ะพี่แดอึนบอกอย่างไม่ลังเล

    อ้อ / พี่เก่งจังเลยเด็กน้อยทั้งสองคนดีใจที่ไขปริศนาได้

                 “ฮยอกแจ นายเป็นคนเดียวที่ฉันรักซิมบ้าแปลข้อความของตัวเองอย่างภาคภูมิ พร้อมกับตบบ่าบางๆ ของเพื่อนหนักแน่น

    สุดยอด คำพูดนายเจ๋งสุดๆ...ไปขุดดินเล่นกันเถอะ

    ไป...

                แล้วทั้งสองก็แล่นถลาไปเล่นกันต่อ

                โดยที่ไม่รู้ตัว โดยที่ไม่มีใครใส่ใจ

                คำบอกรักหลุดลอยออกไปแล้ว


                หลายปีต่อมา...จากเด็กน้อยใบหน้ากลมๆ กลับกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าคม ร่างเจ้าเนื้อเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง  ความสง่างาม ความสามารถ และกริยามารยาทที่ได้รับการฝึกอบรมทำให้เขาเป็นคนที่ใครๆ ต่างชื่นชมและหมายปอง

    แต่เขากลับไม่ได้สัมผัสคำว่ารักจากหญิงสาวมากมายที่เข้ามาหา...ทำไมถึงไม่รู้สึกรัก  ทำไมพอถูกใจใครแล้วสุดท้ายมันก็กลับกลายเป็นความรู้สึกดีๆ อย่างอื่นแทน           
                “...นายเป็นคนเดียวที่ฉันจะรัก”                                                                                                                                                               ประโยคที่พูดตามประสาเด็กๆ ลอยขึ้นมา ทำให้เขาอมยิ้มได้ไม่น้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ความสุขตีตื้นขึ้นมาจุกอก จะกี่ครั้งที่นึกถึงก็ยังเป็นสุข หรือมันเป็นเพราะคำๆ นั้น ที่ทำให้เขาไม่สามารถรักใครได้สักที คำพูดจริงใจที่พูดออกไปง่ายๆ แต่เป็นดั่งคำสัญญา

                ซีวอน นี่คือริบบิ้นแห่งคำสัญญาพี่ยุนอา ลูกพี่ลูกน้องของซีวอนถือริบบิ้นสีแดงเส้นยาวไว้ในมือ           
                เมื่อไรที่ยังคงรักษาคำสัญญา ริบบิ้นจะยาวขึ้นเรื่อยๆ” 

                ดวงตาคมจ้องมองริบบิ้นอย่างสงสัย ยาวขึ้น มันจะยาวขึ้นได้ยังไง...แต่พี่ยุนอาก็เป็นแบบนี้เสมอล่ะ เชื่อเกี่ยวกับโชคลางตลอด           
                ยุนอาวางริบบิ้นยาวลงในมือของน้องชาย เด็กหนุ่มจ้องมองหาความประหลาดพิสดารของเจ้าริบบิ้นมหัศจรรย์แต่ก็ไม่พบ เป็นแต่เพียงริบบิ้นผ้า เรียบเนียน ที่มีสีแดง  ต่างกับริบบิ้นอันอื่นๆ ก็ตรงความแดงของมันแด๊งแดงกว่า เจิดจรัสมากกว่า           
                มันยาวขึ้นได้หรอครับคุณชายก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ขอไม่เถียงดีกว่า

    ได้สิ ตราบใดที่เรายังรักษาคำสัญญาเสียงใสๆ ของพี่สาวตรึงเขาไว้ราวกับมีเวทมนต์

                วาเลนไทน์ตอนมัธยมปลายปีสุดท้าย ซีวอนนำริบบิ้นสีแดงมาผูกติดไว้กับช่อดอกไม้ที่เขาต้องการจะให้กับคนพิเศษ คนที่ใกล้แค่เอื้อมแต่ก็เอื้อมไม่ถึงสักที 

    ‘You are the only one I love.’

                เขานึกถึงคำพูดของตัวเองสมัยเด็ก คำพูดที่เกิดจากความรักบริสุทธิ์ของเด็กน้อย คำพูดที่จริงใจจนมีค่าเท่ากับคำสัญญา  คำพูดสำหรับคนที่มีความหมายสำหรับเขามาก

                ตลอดเวลาที่ผ่านมา...สายสร้อยข้อมือสีเงินวาวที่ไม่เต็มเส้นยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี  สิ่งนี้มีค่าขนาดไหนเขาเองก็ตอบไม่ได้ รู้แต่ว่ามันมีค่ามากกว่าชีวิตของชเวซีวอน ชีวิตที่เป็นหนี้มือเล็กๆ มือนั้น

                แม้วันเวลาจะผ่านเลย เลยช่วงเวลาได้ใกล้ชิด เลยช่วงเวลาได้บอกความในใจ เขาปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยมาตลอด แต่ไม่เคยปล่อยความรู้สึกดีๆ ให้หายไป 
                ไม่รู้ตัวว่ายังรอฮยอกแจอยู่หรือเปล่า

                แต่เขาแค่มีความหวังว่าจะได้พบกันเสมอ

                เขาไม่รู้ว่ารักฮยอกแจแบบไหน

                แต่ รัก ก็ยังคงเป็น รัก 

                ในปีนี้...เรื่องที่เกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ทำให้ซีวอนต่อโทรศัพท์คุยกับพี่สาวที่อยู่อีกซีกโลก โดยพี่สาวก็ยังคงเชื่อในโชคลางนั้นไม่น้อยกว่าสมัย 6 ปีก่อน 
                 “สีแดง เป็นสีแห่งความรักน่ะจ้ะ การที่ริบบิ้นยาวไม่ได้หมายถึงความยาวของมันเพิ่มขึ้น แต่หมายถึงโชคด้านความรักที่เพิ่มขึ้นต่างหาก ริบบิ้นสีแดงจะนำทางความรักให้คนที่รักษาคำสัญญาจ้ะ

                จากกันมา 12 ปี ตั้งแต่ตอน 5 ขวบ พบกันอีกครั้งตอนอายุ 17  แต่ก็ปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ 

                แล้วริบบิ้นสีแดงก็นำทางให้คนสองคนมาพบกันอีกใน 6 ปีต่อมา 

                คราวนี้ซีวอนบอกกับตัวเองว่าเขาจะไม่ปล่อยฮยอกแจให้เดินผ่านไปอีกแน่นอน

    -------------------------------------------~~~~~~~~~~~~~~~~-----------------------------------------

                ฮยอกแจก้มลงมองดูสร้อยข้อมือที่ซีวอนซื้อให้เขาในวันวาเลนไทน์ เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องเป็นสร้อยข้อมือ ซีวอนคงอยากชดใช้แทนอันเก่าที่เขาเป็นต้นเหตุให้มันขาด           
                ฮยอกแจ...

                ความรู้สึกท่วมท้นร่างบางอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกอะไรดีล่ะ ประหลาดใจ ดีใจ ตื้นตัน ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่งแต่เป็นทั้งหมดและมากกว่านั้นรวมกัน

    ซิมบ้า...”  เสียงใสสั่นระริกเมื่อพูดคำนี้ออกมา

    แม่ไก่”  เสียงทุ้มตอบกลับอย่างนุ่มนวล

                  “ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่สมัยที่เรายังเรียนอยู่ด้วยกันคนบ้าอะไรก็ไม่รู้ เจอกันตั้งนานแล้วแต่ดันไม่บอกกันว่าตัวเองเป็นใคร จากเด็กอ้วนๆ กลมๆ กลายเป็นคนหล่อๆ ใครจะไปจำได้

                  “…นายจะให้ฉันพูดกับนายยังไง ฮยอกแจสมัยนั้นไปไหนมาไหนกับลีทงเฮตลอด พูดกับชาวบ้านไม่เกิน 3 นาที เราเคยคุยกันนานที่สุดตั้ง 20 วินาทีเลยนะ

    ฮยอกแจได้แต่ยิ้มเหงือกบาน ก็นั่นเป็นความจริง เขาค่อนข้างจะปิดตัวนิดหน่อย

                 “รุ้ไหมครับว่าอีกเหตุผลนึงคือ ฉันกลัว

    กลัวหรอ กลัวฉันหรอฮยอกแจทำสีหน้าประหลาดใจ 

    กลัวเข้าไปบอกว่า

     ‘ฮยอกแจ ฉันซิมบ้านะ’  

    แล้วนายถ้าตอบกลับมาว่า

    แล้วไง นายไม่ใช่ทงเฮนี่

    ความทรงจำที่ฉันอุตส่าห์ทะนุถนอมมาคงเปลี่ยนเป็นความเศร้าไปเลย

    รู้ไหมกว่าจะตัดสินใจเอาดอกไม้ไปให้นาย ฉันคิดแล้วคิดอีกว่าจะให้นายยังไง

    แล้วโชคดีที่วันนั้นทงเฮไม่มาโรงเรียน ฉันเลยนำมันไปให้นายด้วยมือของฉัน

    เผื่อว่านายจะพูดกับฉันอีกบ้าง แต่นายรับแล้วก็เดินหนีไป นายไม่ดีใจเลยที่ได้มัน...ใบหน้าหล่อเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต

     “ฉันคิดถึงนายมากรู้ไหมร่างบางปลอบใจด้วยคำสั้นๆ แต่กินความหมายลึก 

                แล้วถ้าช่อดอกไม้นั่นไม่มีความหมายกับฉัน ฉันคงไม่เก็บโบว์แดงไว้หรอก

                ทั้งสองต่างยิ้มให้กัน รอยยิ้มของฮยอกแจเคยสดใสอย่างไรก็อย่างนั้น 

                "ซีวอน...

                ครับ           
                เรื่องที่นายพูดกับฉันเมื่อสองสามวันก่อน...บนรถ นายพูดว่าอะไรนะ”  ถามอย่างเลี่ยงๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ

    นั่นสิ พูดว่าอะไรนะ...คิ้วหล่อผูกโบว์ แกล้งทำหน้านึก 

    เอาไว้อีก 8 ปีค่อยนึกก็ได้…” ร่างบางแสร้งทำเป็นลุกหนี ก่อนที่มือเรียวจะคว้าข้อแขนเล็กๆ แล้วดึงกลับมาที่เดิม

     “จริงจังแล้วนะครับ...” 

    “...”ตาเรียวมองมาที่ซีวอนอย่างรอคอย

    นายอยากได้ตุ๊กตาไก่ที่ฉันบอกว่าจะซื้อให้หรอ

    “…” ไร้สาระจริง
    เราคบกันได้ไหมเมื่อสายตาของซีวอนปราศจากแววล้อเล่น ฮยอกแจก็ไม่สามรถจ้องตอบมันได้

    มองตาฉันสิ จะหลบไปไหน” 

    “...”  (ดูนกบนฟ้าอยู่)

    ว่าไงครับ

    นายบอกเองว่าฉันไม่ต้องรีบตอบก็ได้ไม่ใช่หรอ

    ฉันว่านายอยากตอบจะแย่แล้ว ไม่งั้นคงไม่พูดขึ้นมาก่อนใช่ไหมครับคนดี

    ตาสีน้ำตาลเฉไปมองต้นไม้ข้างๆ ไม่ใช่เพราะมันน่าสนใจ แต่ดวงตาของคนตรงหน้าทำให้เขาอ่อนเป็นช็อกโกแลตโดนความร้อน 

    ฉันจะให้โอกาสนายฮยอกแจพูดทั้งที่ยังมองกระถางต้นไม้

                โอกาส  ฟังแล้วรอยยิ้มได้รูปคลี่ออกกว้าง 

                แค่คำนี้ก็วิเศษแล้ว...แต่ฮยอกแจยังพูดไม่จบ

    ถ้านายพิสูจน์ตัวเองให้ฉันยอมรับได้...(ดวงตาเรียวสวยกลับมาหยุดตรงกับนัยย์ตาสีดำ)…You will be the only one I love.” (นายจะเป็นคนเดียว ที่ฉันรัก)

                มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง นี่ฮยอกแจพูดอะไรออกไป หวานซะมัด

                หวานสมกับการรอคอยแสนนาน

                แต่ต่อให้นานสักเท่าไร

                หัวใจกลับรักษาสิ่งที่มีความหมายไว้ได้ตลอดมา

                ขอบคุณริบบิ้นสีแดงของพี่ยุนอา



    ~End.~

     




            อ่านจบแล้วเป็นไงกันบ้างคะ คือว่าไรเตอร์ก็คือซีวอนเองเนี่ยแหละที่จะเอื้อมไปหยิบปลาในบ่อ บ่อมันลึกมากๆ เลยนะ ตอนนั้นไปเล่นกับเพื่อน มือนึงก็กำหญ้าไว้ อีกมือก็เอื้อมหาปลา เท่านั้นล่ะรู้สึกเหมือนหญ้าขาดกะว่าคงได้ร่วงลงไปแล้วแต่เพื่อนไรเตอร์มือไวมากๆ มาคว้าไว้ทันแล้วเขาก็ดึงไรเตอร์ขึ้นมาจากบ่อ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลย ตื่นเต้น ประทับใจจริงๆ ค่ะไรเตอร์ยังนึกถึงเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้



    shala.la ขอบคุณธีมจาก
    http://img153.imageshack.us/img153/7366/shalaa.gif




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×