คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 : การ์เดี้ยน!
Chapter 3 : การ์เดี้ยน!
[เรียวจิ]
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!”
เหมือนๆกับทุกวัน...
สาวๆ... เสียงกรี๊ด... มันทำเอาผมแย่อยู่เหมือนกัน - -;;;
ทั้งเรื่องประธานนักเรียน... เรื่องที่พ่อรวยมหาศาลบานตะไท... ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแค่พวกเธอถึงชอบนักชอบหนา... แค่เห็นผมเป็นแบบนี้ก็พากันกรี๊ดกร๊าดกันแบบนั้น... ผมว่ามันไม่ไร้สาระไปหน่อยเหรอ...
ทำไมต้องเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ = =; หูชาจะตายอยู่แล้ว...
“ทะ...ทะ... ท่านเรียวค่ะ”
นักเรียนหญิงที่น่าจะเป็นรุ่นน้อง(ดูจากเครื่องแบบ)มายืนอยู่ข้างหน้าผมด้วยอาการสั่นๆพร้อมกล่องเล็กๆในมือ แน่ล่ะเธอไม่กล้าสบตาผม หน้าก็แดงระเรื่อเหมือนกำลังอายมาก
“อะไรหรอครับ”
ผมถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ =_=
“นะ....นะ... หนูอบเค้มาให้ค่ะ ระ... รบกวนช่วยรับไว้ได้ไหมค่ะ!”
เสียงฮือฮาดังอยู่รอบด้าน รุ่นน้องก้มตัวลงแล้วเยื่อนกล่องเค้กมาให้ผมแล้วหลับตาปี๋แล้วสั่นไปทั้งตัว ผมยิ้มแล้วรับกล่องเค้กมา
“ขอบคุณนะ ^^”
“กรี๊ดดดดดดดด!!!”
อ้าก! หูผม T T;;
รุ่นน้องคนนั้นหน้าแดงก่ำแล้วยิ้มให้ผมพร้อมท่าทางเหมือนกำลังได้ตั๋วขึ้นไปทัวร์สวรรค์ยังไงอย่างงั้นแล้วเดินตัวลอยจากผมไป เอ๊ะ เจ้าเค้กนี่ก็น่ากินดีเหมือนกันแฮะ ท่าจะอร่อยแน่เลย ^^ ผมคิดแล้วเดินต่อขึ้นไปถึงห้องเรียนแล้ววางกระเป๋าลง
ทันใดนั้น...
พรืดดด! โครมมม!!
เสียงเหมือนมีใครล้มเมื่อกี้ทำให้ทุกคนรวมทั้งผมหันไปมอง แล้วผมก็ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะคนที่ล้มคือรุ่นน้องที่พึ่งให้เค้กกับผมไปหยกๆเองน่ะสิ! =O= แถมน้องคนนั้นยังล้มแบบไม่เป็นท่า กระโปรงเปิด... เอ่อ... ข้ามดีกว่า... หัวก็โขกกับเก้าอี้ข้างๆ... บาดเจ็บหรือเปล่านะ O_O?
“ดูสิ เด็กคนที่ให้เค้กกับท่านเรียวต่อหน้าทุกคนเมื่อเช้านี่”
เสียงซุบซิบจากรอบด้านเริ่มดังมาแว่วๆ
“สงสัยจะโดนการ์เดี้ยนของท่านเรียวจัดการแน่ๆเลย”
หา!!! กะ... กะ... การ์เดี้ยนอะไรกัน!? O_O
“นั่นสิๆ น่าสงสารเนอะ”
“ถ้าจะให้ของกับท่านเรียวแต่ทีนี่คงยากแล้ว”
“น่ากลัวจริงๆเลย แก็งค์นี้”
อ๋อ... แบบนี้นี่เอง...
อย่าให้ผมเจอตัวนะ! จะเรียกมาคุยเรียงตัวเลย หึ! =_= การ์เดี้ยนบ้าบออะไร ผมไม่ต้องก๊านนน!!!
5 วันผ่านไป...
ผมเริ่มจะทนไม่ไหวกับแฟนคลับที่ตั้งตัวเองเป็นการ์เดี้ยนแล้ว...
ครั้งแรก...
มีผู้หญิงคนหนึ่งเอาดอกไม้มาให้ผม...
ต่อมา... ผู้หญิงคนนั้นโดนถังน้ำครอบหัวและตัวเปียกโชก...
ครั้งที่ 2
รุ่นน้องคนหนึ่งมาขอเบอร์ผม...
ต่อมา... รุ่นน้องคนนั้นโดนหมุดในรองเท้าตำ...
ครั้งที่ 3
ผมไปช่วยรุ่นพี่จัดเอกสารงาน(แน่นอนว่ารุ่นพี่คนนั้นแอบปลื้มผม - -;)
ต่อมา... รุ่นพี่คนนั้นมาโรงเรียนไม่ได้... เพราะท้องเสียรุนแรง...
การ์เดี้ยนพวกนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่! T[]T
“เรียว... เรียว!”
“หะ... หา O_o”
“นี่นายได้ฟังฉันพูดหรือเปล่าน่ะ =_=^”
ไซจิเท้าคางแล้วมองผมด้วยสายตาเบื่อๆ ผมหัวเราะแหะๆแล้วยิ้มแหยๆ พอดีว่าฉันไม่ได้ฟังเลย ขอโทษที T^T;
“นี่ไซโตะคุง มีคนเอาจดหมายไว้ในล็อคเกอร์ฉันด้วย”
ผมหันไปมองนานามิที่ถือซองสีชมพูที่น่าจะเป็นจดหมายรักให้ไซโตะดู หมอนั่นทำหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจแล้วหยิบมันมาดู... ไม่สิ... ต้องเรียกว่าสำรวจต่างหากล่ะ เล่นดูซะละเอียดขนาดนั้น = = ทำอย่างกับมันบรรจุนิวเคลียส่งมาให้เราไปได้น้า...
“เดี๋ยวฉันเปิดเอง เผื่อมันมีสารอันตรายอยู่ในนี้ -_-++”
นะ... นะ... นี่หมอนั่นคิดแบบนี้จริงๆเหรอ! =[]=
ไซโตะแกะซองจดหมายแล้วหยิบมาอ่าน... อยากลองถามจริงๆ... ยางอายน่ะมีมั้ย = =^ หยิบจดหมายของคนอื่นมาอ่านได้หน้าตาเฉย~ เหอๆ
ฉึก!
“อ้ากกกกกก!!”
เฮือก! O_O
พวกเราสะดุ้งพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่ออยู่ไซโตะก็ร้องออกมาแล้วโยนจดหมายปลิวแบบไม่ใยดีแล้วร้องโวยวายลั่นห้อง ผมกับมาโอะถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดหูเพื่อป้องกันไม่ให้หูหนวกก่อนวัยอันควร = =; หมอนี่เป็นอะไรไปอีก อย่าบอกนะว่าโดนสารพิษในจดหมายทำร้ายจนบ้าไปแล้ว
“หืม?”
ไซจิลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหยิบซองจดหมายขึ้นมาจากนั้นก็หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาดูแล้วหันมาโชว์ให้พวกเรา
นะ... นั่นมัน!
“มีดโกนนี่” ผมพูด
ไซจิพยักหน้าหงึกหงักแล้วลองเปิดจดหมายอ่าน พวกเราเข้าไปมุงดูกันอย่างอยากรู้ ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นจดหมายรักนะ เล่นส่งมีดโกนมาด้วยแบบนี้น่าจะเป็นจดหมายสาปแช่งหรือจดหมายขู่มากกว่า ใครนะมาแกล้งกันแบบนี้ มันไม่แรงไม่หน่อยเหรอ
‘ถึง ชิบาตะ นานามิ
อย่านึกนะว่าได้อยู่ชมรมดนตรีแล้วจะเข้าใกล้ท่านเรียวได้! อย่าเหลิงไปหน่อยเลย พวกฉันกำลังดูหล่อนอยู่ทุกฝีก้าว ถ้าหล่อนอ่อยท่านเรียวเมื่อไหร่ รับรองหล่อนได้กลับบ้านเก่าแน่!! แล้วอย่าหาว่าพวกฉันเตือนล่ะ! หน้าอย่างเธออ่อยท่านเรียวไม่สำเร็จหรอก!
ลงชื่อ การ์เดี้ยนท่านเรียว’
กะ....กะ...... การ์เดี้ยน!!! O{}o~~~
มันมา อีกแล้วววว T^T (เสียสติไปเลย)
“นี่โชคดีนะที่เจ้าไซโตะมันโดนมีดโกนบาดแทนนานามิ -_-” มาโอะพูดขึ้นทำเอาไซโตะเดือด
“หมายความว่าไงฟะ! =[]=+ แกมาโดนบาดกับฉันมั้ยมาโอะ!!! อูยย... ไปลับมีดที่ไหนมาฟะ คมชิบ T_T”
“แฟนคลับนายทำพวกเราซวยแล้วเรียว -___-;”
“เฮอะๆ T-T”
ผมขำประชดนะ ทำไมพอผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ผมมันต้องเป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า! ผมชักอยากย้ายโรงเรียนแล้วสิคราวนี้ T T อยากร้องไห้เป็นภาษาเขมรจริงๆ โปรดส่งใครมาฆ่าฉันที~~!!!
“แล้วทีนี้จะทำไงดีล่ะทุกคน O_O;”
นานามิถามขึ้น ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันนั่นแหละ
“งั้นให้ฉันช่วยไหมล่ะ ^O^”
ก็ดี...
เดี๋ยว!
เมื่อกี้ใครพูด -____-;;;
ไม่น่าใช่นานามินะ...
พวกผมก็ไม่ใช่ เพราะเป็นเสียงผู้หญิง...
หรือว่าผี -_-^
“นี่! ฉันอยู่ตรงนี้ต่างหาก!”
พวกเราหันตามเสียงไปที่ประตู... มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนพิงขอบประตูอยู่ท่าทางเอาเรื่องสุดๆ ผมสีชมพูเหมือนกับนานามิด้วย O_O! เป็นญาติกันหรือเปล่าน่ะนั่น
“เซโนกิ!”
ทั้งมาโอะแล้วก็ไซโตะพูดออกมาพร้อมกัน เฮ้ย! นี่รู้จักกันเหรอ O_O ไม่น่าเชื่อแฮะ ผู้หญิงที่ชื่อเซโนกิ(น่าจะใช่)ฉีกยิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามาหาไซโตะกับมาโอะแล้วพูดเสียงสดใส
“อ่าฮะ นึกว่าพวกนายลืมเพื่อนเก่าซะแล้ว กำลังจะกระโดดถีบอยู่เลยถ้าจำกันไม่ได้ -_-^”
“ช่างเถอะ แล้วเธอโผล่มานี่ได้ไง” มาโอะถาม
“ฉันมาเรียนที่นี่น่ะ เมื่อกี้วิ่งหนีอาจารย์พละจอมโหดแล้วบังเอิญผ่านมาเห็นพวกนายดูมีปัญญาหาเลยหยุดฟัง”
“อ๋อ เจือกนี่เอง -_-”
จบประโยคของไซโตะ เซโนกิก็หันไปส่งสายตาชั่วร้ายให้แล้วแสยะยิ้มชวนขนลุกซู่~ จากนั้นก็ค่อยหักมือดังกร๊อบบบ... กร๊อบบบ... แล้วพูกเสียงเหี้ยว
“นายอยากตายเรอะ! =O=+++”
“เปล่าจ้า T^T”
ผู้หญิงอะไร... โหดกว่าผู้ชายซะอีก =_=;;; ผมชักกลัวแล้ว
“เธอมีแผนจะจับการ์เดี้ยนของเรียวใช่มั้ย”
ไซจิที่ไม่มีบทพูดตั้งนาน(เพราะใครกันนะ - -)ถามขึ้น เซโนกิเลิกตอนไซโตะทางสายตาแล้วหันมาพยักหน้าให้พร้อมพูดเรื่องแผน
“ใช่ แล้วพวกการ์เดี้ยนนี่เป็นกลุ่มแฟนคลับที่บ้านายสุดๆเลยใช่ปะ” เธอหันมาถามผม
“อืม... ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ฉัน กลุ่มนี้จะจัดการหมดเลยล่ะ”
“โฮะๆ งั้นง่ายมาก ^-^”
เหอ? ง่ายเหรอ
“พวกเธอสองคนต้องอยู่ใกล้ๆกันเข้าไว้!”
“ไม่มีทาง! แบบนั้นนานามิก็โดนพวกการ์เดี้ยนรุมน่ะสิ! ฉันไม่เห็นด้วยอย่างแรง!” ไซโตะค้านหัวชนฝาทันที ผมเห็นด้วย! แบบนั้นยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่!
“เอาน่า เชื่อมือเถอะ ฉันไม่ปบ่อยให้ใครเป็นอะไรหรอก นะๆ”
“...อืม ก็ได้...”
“นะ...นานามิ!?” ไซโตะอ้าปากค้างกับคำที่ได้ยิน
“ฉันจะลองดูค่ะ มาพยายามด้วยกันเถอะเนอะ ^-^ เซโนกิจัง”
“จ้ะ ^O^”
[จบเรียวจิบรรยาย]
แผนที่ 1 ไปรับไปส่งถึงที่บ้าน
เอี๊ยดดดด...
รถคันหรูของเรียวจิจอดอยู่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนเช่นเคย แต่สิ่งที่นักเรียนทุกคนต่างพากันฮือฮาไม่ใช่เพราะลูกเจ้าของบริษัทหญ่ายยย~ ก้าวเข้ามาในโรงเรียน... แต่เป็นเพราะคนที่เดินเคียงข้างด้วยต่างหาก!
“เรียวคุง ทำไมทุกคนมองเราแบบนั้นล่ะ (‘ ‘ )( ‘ ‘)”
นานามิถามแล้วมองไปรอบๆ นักเรียนหญิงบางคนถึงกับร้องกรี๊ดออกมาเมื่อเห็นภาพเด็กสาวเรือนผมชมพูเดินเคียงคู่มากับหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน ส่วนพวกนักเรียนชายเองก็พร้อมแรงกายแรงใจกันส่งสายตาอำมหิตอาฆาตใส่อย่างไม่ปราณีปราสัย สร้างบรรยากาศมาคุเข้าไปอีก แต่ดูเหมือนคนข้างๆจะไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศดังกล่าวเอาซะเลย...
“นี่ๆ เรียวคุงอยู่ห้องอะไรหรอ”
“อะ... เอ่อ... ห้อง A น่ะ”
“ว้าว! แบบนี้แสดงว่าเรียวคุงก็เรียนเก่งน่ะสิ O_O งั้นถ้าว่างๆพวกเรามาติวหนังสือกันก็ดีนะ”
“อือ...”
นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยใช่มั้ยเนี่ย!!!
เรียวจิคิดแล้วหันไปแหล่กลุ่มคนด้านหลังนิดๆพร้อมปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเนียนของตน... ฉันจะรอดจนถึงวันจับการ์เดี้ยนมั้ยเนี่ย...
“อ๊าาา!”
เสียงร้องของเด็กสาวข้างๆดังขึ้นทำให้เรียวจิหันขวับแล้วรี่เข้าไปหาทันที ยิ่งทำให้โดนรังสีชั่วร้ายอีกเป็นเท่าตัว
“มีอะไรหรอ?”
“ในรองเท้า... มีหมุด...”
เรียวจิได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลงแล้วหยิบรองเท้าของนานามิมาดู ปรากฏว่ามีหมุดแหลมพร้อมโน้ตฉบับเล็กๆติดที่รองเท้าอย่างดี แค่เห็นก็รู้แล้วว่าฝีมือใคร เรียวจิหยิบโน้ตฉบับนั้นขึ้นมาอ่าน
‘ถึง ชิบาตะ นานามิ
หล่อนกล้ามากนะที่ลองดีกับการ์เดี้ยนอย่างพวกเรา ก็ด้ายยย~~ ถ้าเธอยังยืนหยัดอยู่ชมรมนั้นและเข้าใกล้ท่านเรียวขนาดนั้น เราเห็นดีกัน! ต่อจากนี้เธอจะได้รับบาดแผลอันแสนสาหัสจากเรา!
ลงชื่อ การ์เดี้ยนท่านเรียว’
เริ่มแล้วสินะ...
เรียวจิซุกโน๊ตไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วหยอบเอาหมุดเจ้าปัญญาออกให้เสร็จสรรพทำให้เจ้าของรองเท้ายืนมองอย่างงงๆ เขาหันหลังกลับไปพูดกับเจ้าของรองเท้าด้วยน้ำเสียงฟังดูอ่อนโยนและห่วงใยว่า
“ไม่เป็นไรนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาบอกฉันได้เลย...”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
“เมื่อกี้! เมื่อกี้เห็นมั้ย!!!”
“ถึงจะไม่ได้พูดกับฉันแต่มัน... อ๊ายยย!! ไม่ไหวแล้วววว!!!”
“อ้ากกกกกกกก!!! ออกไปห่างๆนางฟ้าเลยนะเฟ้ยยย!!”
“คุณนานามี๊~~~!!!”
พวกแกเงียบกันซักนาทีไม่ได้เลยใช่ม๊ายยย!!
นี่คือความคิดที่หลุดสุภาพของเรียวจิ...
แผนที่ 2 ทานอาหารกลางวันด้วยกัน
ห้องส่วนตัวสภานักเรียน (ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้า!)
ก๊อก~ ก๊อก~
แอ๊ดดด...
“มาหาใคร?”
นายแว่นหนาเตอะถามอย่างหัวเสียเพราะมันขัดเวลาที่เขาจะอ่านหนังสืออย่างมาก เจ้าของเรือนผมสีชมพูกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เธอได้ข่าวมาว่าคนที่จะเข้าไปในห้องของสภานักเรียนได้ต้องทนเจ้าแว่นหนาเตอะจอมกัดที่มาเปิดประตูให้ได้ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถผ่านเจ้าแว่นนี่ไปได้ แต่ส่วนใหญ่จะยอมถอยทัพไปแต่โดยดีเพราะทนเจ้าแว่นกัดไม่ไหว
“เอ่อ... ฉันเอาข้าวมาให้เรียวคุงค่ะ”
“เป็นแค่นักเรียนธรรมดาแต่เสนอหน้าจะมาหาประธานเนี่ยนะ! ดูแล้วไอคิวก็คงไม่เท่าไหร่หรอก”
คนเปิดประตูพูดแล้วเลื่อนกรอบแว่นหนาเตอะอย่างสอดรู้และส่งสายตาเหยียดหยามใส่จนผู้มาเยือนตัวสั่นเป็นลูกนก
“ถ้าไม่มีอะไรก็ไสหัวไปซะ! อย่ามาเสนอหน้าที่นี่อีก! ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่มีระดับเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้!! อย่างเธอน่ะแค่คำถาม 1+2 ยังตอบไม่ได้ด้วยซ้ำมะ... อ๊ะ!”
หมับ!
มือหนาของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของเจ้าแว่นจอมกัดจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยงเพราะรู้สึกได้ถึงรังสีดำมืดที่แผ่ซ่านผ่านทางฝ่ามือ หากแต่เสียงอันนุ่มนวลพูดขึ้นอย่างใจเย็น
“ขอโทษนะ แต่คนนี้ผมนัดไว้แต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้น...”
เจ้าของเสียงเงียบลงแล้วจ้องนายแว่นพร้อมแสยะยิ้มชวนขนแขนสะแตนอัพอย่างแรงจนเจ้าแว่นเกิดอาการแทบจะทรุดลงไปนอนกับพื้น
“หลบ...”
ชั่วพริบตา เจ้าแว่นหนารีบขอโทษขอโพยผู้มาเยือนแล้ววิ่งหายลับเข้าไปในกองเอกสารทันที เรียวจิถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันมาโปรยยิ้มอ่อนหวานให้นานามิและผายมือเข้ามาทางห้อง
“ขอโทษนะ เจ้าหมอนั่นมันชอบกัดแบบนี้แหละ อย่าไปถือสาเลย เข้ามาเถอะ”
“อะ อืม...”
เจ้าของเรือนผมสีชมพูยิ้มแหยๆแล้วก้าวเข้ามาในห้องและกวาดสายตามองไปรอบๆพบว่าห้องนี้ถูกทาด้วยสีครีมดูสบายตา มีกองเอกสารมากมายวางกันจนเต็มโต๊ะทำงาน ชั้นหนังสือใหญ่เรียงต่อกันเป็นระเบียบพร้อมคนในสภาวิ่งเข้าออกเดินเอกสารให้ว่อน
“ดูท่าเรียวคุงงานเยอะเนอะ”
นานามิเอ่ยขึ้นแล้วช้อนตามองคนด้านหลัง เล่นเอาเขาหน้าแดงแปร๊ดแล้วรีบหันไปมองทางอื่นพร้อมหัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อน
“ฮะๆๆ ก็คงจะอย่างนั้น ฉันว่าเราทานข้าวดีกว่านะ”
“แปปนึงนะ... เอ... อยู่ไหนๆ... อ๊ะ เจอแล้ว นี่ๆ ฉันทำข้าวกล่องมาเผื่อเรียวคุงด้วย ^^”
นานามิหยิบข้าวกล่องยื่นให้คนตัวสูงแล้วเปิดให้ ด้านในมีข้าวปั้นเป็นรูปหมีแพนด้ากุ๊กกิ๊กน่ารักถือแครอทรูปดอกไม้ ข้างๆก็มีไส้กรอกที่ทำคล้ายๆรูปปลาหมึก ไข่ม้วนกัยหมูทอดชิ้นพอดีคำ ฝักหั่นเป็นลูกเต๋าและ... ลูกเชอร์รี่สีแดงสดน่ากิน...
“นะ... น่ารักจัง O_O//”
“จริงเหรอ! ขอบคุณนะเรียวคุง ^w^”
น่ารักเหมือนคนทำด้วย =///=
“ทานแล้วนะคร้าบบบ~”
เรียวจิคีบไข่ม้วนชิ้นจ๋อยเข้าปากอันดับแรก นานามิมองอย่างใจจดใจจ่อรอคำตอบจากคนกินด้วยอาการลุ้นระทึกทำให้คนกินหันไปมองแล้วหัวเราะในลำคอเงียบๆพร้อมตอบคำถามที่เต็มใบหน้าของนานามิ
“อร่อยมาก ทำอาหารเก่งเหมือนกันนะ”
“อ๋า จริงเหรอ! นึกว่าไม่อร่อยซะอีก ใจหายหมดเลย (. .;;)”
“ฮ่าๆๆ”
“อย่าขำสิ!! T^T”
คนทำพูดแล้วดึงแขนซื่อเรียวจิเบาๆยิ่งทำให้เขาขำเข้าไปอีก
“อ่ะๆ ไม่ขำก็ได้ เออ! แล้วเธอไม่ทานข้าวกลางวันหรอ O_O”
“อ๋อ เดี๋ยวกินขนมปังน่ะ วันนี้ไม่ค่อยหิว”
นานามิพูดแล้วหยิบครัวซองออกมาจากกระเป๋าโชว์ให้ดู เรียวจิมองมันอย่างรู้สึกแคลงใจแปลกๆ พอเจ้าของทำท่าจะงับก็รีบฉุดมือเอาไว้แล้วหยิบมาดูดื้อๆพร้อมฉีกออกเป็นสองซีกทันทีโดยที่เจ้าของได้แต่ทำหน้าเหวอๆ
“เฮ้ย!!! เศษกระจก!!”
คนในห้องร้องเป็นเสียงเดียวกันเมื่อพบว่าภายในเนื้อครัวซองมีเศษกระจกมากมายฝังอยู่พร้อมโน้ต เรียวจิมองมันด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับในใจที่ตอนนี้เดือดดาลจนแทบจะตะโกนให้ลั่นโรงเรียนว่า ‘การ์เดี้ยนอีกแล้ววว!!!’
‘ถึง ชิบาตะ นานามิ
ฮิๆ ตอนนี้ปากของหล่อนคงเยินจนรักษาไม่ได้แล้วสินะ แต่นี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น! ถ้ายังไม่รีบออกไปให้ห่างท่านเรียวสุดที่รักของพวกเรา แกได้อายชาวบ้านให้ว่อนแน่!
ลงชื่อ การ์เดี้ยนท่านเรียว’
แผนที่ 3 ปกป้อง
ซ่าาา...
“นี่เธอ ดูสิ สงสัยฝีมือการ์เดี้ยนแน่ๆเลย”
“น่าสงสารจัง ไม่น่าเลยเนอะ”
“ฉันจะโดนแบบนี้ถ้าเข้าใกล้ท่านเรียวหรือเปล่าเนี่ย”
เสียงกระซิบของเหล่านักเรียนหญิงดังรอบด้าน เหตุผลเพราะได้เห็นสภาพชุดนักเรียนของนานามิที่ตอนนี้อยู่ในอ่างล้างหน้าที่มีน้ำเต็มอ่าง เจ้าของชุดมองอย่างอึ้งๆแล้วปิดน้ำก๊อกพร้อมหยิบเสื้อขึ้นมาดู ปรากฏว่าไม่ใช่แค่เปียกโชกอย่างเดียว แต่กลับมีรอยฉีดตัดมากมายบนเสื้อและรอยปากกาเมจิกเขียนตัวโตหนาว่า
‘เลิกยุ่งกับท่านเรียวซะ!’
“หว่า แบบนี้จะเอาอะไรใส่กลับล่ะเนี่ย”
กลุ่มเพื่อนส่วนหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง นานามิส่งยิ้มแหยๆให้แล้วตอบไปว่า
“คง...ต้องกลับชุดนี้แหละมั้ง (._.);;;”
“แต่กางเกงพละมันสั้นนะ O_O; ถ้าเกิดเจอพวกโรคจิตจะทำยังไง”
“นี่เธอ! พูดแบบนั้นเดี๋ยวเค้าก็กลัวหรอก”
“ไม่เป็นไรจ้ะๆ”
นานามิบอกปัดแล้วเดินออกไปห้องเรียน ระหว่างทางรู้สึกเหมือนมีใครจับตามองอยู่ตลอดเวลาจนต้องเหลียวหลังตลอดทาง ยิ่งเดินเร็วเท่าไหร่ก็เหมือนมันยิ่งเดินใกล้เข้ามาเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงห้องเรียนก็พบว่าบนโต๊ะมีโน้ตเล็กๆแปะอยู่
‘ถึง นานามิ
นี่เรียวนะ คือฉันอยากพบเธอบนดาดฟ้า ช่วยมาหาตอนนี้เลยนะ ฉันรออยู่ อย่าไปสายล่ะ
ลงชื่อ เรียว’
“เอ๋
”
แอ๊ด...
ประตูดาดฟ้าเปิดออกพร้อมเด็กสาวผมชมพูก้าวเข้ามา หันซ้ายขวาก็ยังไม่พบคนที่เป็นคนนัดตัวเอง
“เรียวคุง อยู่หรือเปล่า (‘ ‘ )( ‘ ‘)”
ไม่มีเสียงขานรับ แต่กลับมีบุคคลทั้งห้ายืนล้อมไม่ให้หนีไปไหน ทุกคนมีผ้าคาดหัวเขียนว่า ‘การ์เดี้ยน’ บ่งบอกว่า พวกนี้แหละการ์เดี้ยนของเรียว!! ผู้หญิงที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก้าวเข้ามาหาคนกลางวงแล้วพูดขึ้น
“ยินดีต้อนรับสู่การลงโทษของพวกเรา กลุ่มการ์เดี้ยน!”
“การ์... เดี้ยน? (‘ ‘?)”
“เท่าที่จำได้ พวกเราได้ทำการส่งหมายเตือนเธอไปหลายต่อหลายรอบแล้ว แต่เธอก็ยังใจกล้าหน้าด้านไม่สนคำเตือนและยังกระทำการอ่อยท่านเรียวต่อไป นั่นทำให้สมาชิกของเราตกลงปรงใจกันแล้วว่าเธอสมควรได้รับการลงโทษจากพวกเรา!”
“O_O”
“ทุกคน! จับมันไว้!”
เมื่อหัวหน้าสั่ง ลูกน้องก็ทำการรี่เข้ามาจับเด็กสาวล็อคไม่ให้ดิ้นหนีไปได้ หัวหน้ากลุ่มการ์เดี้ยนยิ้มกริ่มอย่างพออกพอใจแล้วเงื้อฝ่ามือเรียวขึ้นหมายจะตบให้หายขัดใจ แต่คนโดนจับกลับไม่มีทีท่าเกรงกลัวแต่อย่างใด ถึงกับหัวเราะหึๆออกมาแล้วจ้องหน้าทำให้หัวหน้าการ์เดี้ยนถึงกับเบิกตาโพลง!
“กะ... แกไม่ใช่นังชิบาตะนี่!!! =O=”
“โฮะๆๆ แน่นอน ^-^ ฉันน่ะ... ฟุริตะ เซโนกิต่างหาก!!!”
ว่าแล้วเซโนกิก็สะบัดจนที่ล็อคเองจนกระเด็นไปคนละทาง เมื่อการ์เดี้ยนคนหนึ่งตั้งท่าจะเข้ามาตบ เจ้าตัวก็รีบกระโดดถีบสองขากลางอากาศโชว์ให้ดูเป็นขวัญตาทำให้การ์เดี้ยนคนนั้นล้มลงไปคลุกฝุ่นและตัวเองลงมาท่าสวย กรรมการชูป้ายสิบแต้มพร้อมเสียงผู้ชมฮือฮาลั่นสนาม ต่อมาไม่กี่อึดใจ สมาชิกการ์เดี้ยนทั้งหมดก็โดนจับมัดรวมกันเป็นก้อน...(คิดเอง = =) ส่วนคนที่น่าจะโดนมัดก็ยืนยิ้มแป้นล้อเลียนเริงร่าสบายใจเฉิบ
“นี่สินะ กลุ่มการ์เดี้ยน”
เสียงเรียบทุ้มดังมาจากด้านหลัง ร่างสูงค่อยๆก้าวออกมาจากความมืด(มุมมืดมากกว่า -_-) เมื่อแสงแดดยามเย็นทอแสงเข้ามากระทบกับใบหน้าเนียนทำให้กลุ่มการ์เดี้ยนเห็นหน้าเขาชัดๆ
“ท่านเรียววว!!! O[]O”
“
ใช่ ฉันเอง”
ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนตอนนี้กลับไม่หลงเหลืออยู่เลย สายตามองมายังกลุ่มการ์เดี้ยนอย่างเย็นชา เขาค่อยๆสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วนั่งยองๆถาม
“ทำไมต้องตามแกล้งคนที่เข้ามาใกล้ฉันด้วย?”
“กะ... ก็พวกเราทนไม่ได้ที่เห็นท่านเรียวอยู่กับคนอื่นๆนี่คะ!”
“แล้วทำแบบนี้ได้ประโยชน์อะไร?”
“อะ... เออ... ก็... ก็...”
“รู้หรือเปล่า เอาหมุดใส่รองเท้า เอาเศษกระจกใส่ในขนมปัง ทำให้คนอื่นลื่นล้ม มันอันตรายขนาดไหน พวกเธอไม่ติดคุกก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“
”
“ยุบกลุ่มซะ”
“อะ... อะ.... อะไรนะคะท่านเรียว!!! O_O”
“ฉันบอกให้ยุบกลุ่มการ์เดี้ยนซะ ถ้าพวกเธอยังทำแบบนี้ต่อไป สักวันก็อาจทำให้ใครถึงตายได้”
“ท่าน... ท่านเรียว... เป็นห่วงพวกฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอเจ้าคะ TOT ฮึก!”
โครม!
ทั้งเรียวจิทั้งเซโนกิลื่นหงายหลังไปพร้อมๆกันเมื่อจบคำของหัวหน้าการ์เดี้ยน เรียวจิลุกขึ้นมานั่งท่าเดิมแล้วตบหน้าผากตัวเองแรงๆ
ตูกำลังสั่งสอนต่างหาก! = =
“เย้!!! ซาโนกิจังสุดยอด ^O^”
นานามิพูดแล้วกระโดดกอดคอซาโนกิอย่างดีอกดีใจ ตอนนี้ในมือทุกคนมีขนมนมเนยมากมายหิ้วกันไปห้องชมรมเพื่อฉลองเนื่องในโอกาสวันปลอดการ์เดี้ยนแบบถาวรไม่มีหวนคืน ส่วนตัวเก็งของงานคือเซโนกิที่เป็นคนคิดแผนเด็ดๆให้
“ทุกคนเงียบๆก่อน...”
ไซจิพูดแล้วทำมือเป็นสัญญาณ ทุกคนทำหน้างงๆแต่ก็ยอมเงียบตามคำสั่ง
ยกเว้นแต่...
“โหยยย นี่นายกำลังฟังเสียงวิญญาณกำลังสื่อสารมาเหรอเจ้าไซจิ -0-”
“มาโอะ -_-^^^”
“ไม่ต้องบอกก็รู้ - -*”
ป้าบ!
ทั้งสองร่วมแรงรวมใจกันตบกบาลไอ้ตัวสกัดดาวรุ่งชาวบ้านจนหัวทิ่มพื้นแล้วกลับมาโหมดเงียบเหมือนเดิม เสียงดนตรีบางอย่างค่อยๆชัดขึ้นทีละน้อยๆและกลายเป็นเสียงของไวโอลินที่ดังมาจากห้องของชมรม ติดอยู่ที่ว่า...
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นั่นน่ะสิ!!!
“เอ่อ... ฉันขอนับก่อนนะ... 1 2...6 ครบ... แล้ว...”
“ฮึก... คะ... ใครเล่นอะ TOT” เซโนกิทำลายความเงียบแล้วกอดนานามิโดยอัตโนมัติโดยที่คนโดนกอดไม่ได้ว่าอะไรแล้วกอดตามเหมือนกัน
“ผีหรือเปล่า T_T”
“นานามิ!!! =O=/T^T”
ทุกคนพูดพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ยกเว้นไซจิที่ขมวดคิ้วแน่นเหมือนกำลังใช่ความคิดเพราะรู้สึกคุ้นหูมาก เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“เพลง Cadenza หรอ”
ไซจิพึมพำเบาๆ แต่แล้วภาพบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว ภาพเด็กเนื้อตัวมอมแมมที่กำลังชี้นิ้วมาทางเค้าเหมือนท้าทาย... เด็กที่เคยเล่นหัวกันบ้าง... แล้วก็เพลงนี้... ต้องเป็นเจ้านั่นแน่!
“อ้าวไซจิ! OoO นายจะไปไหนน่ะ!!”
เมื่อเห็นไซจิพรวดพราดขึ้นไปห้องชมรมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทุกคนเลยรีบตามไปตาลีตาเหลือก เมื่อขึ้นไปถึงห้องชมรม ทุกคนก็พบว่า... มีร่างเด็กสาวผมยาวสีดำสนิทกำลังบรรเลงเพลง Cadenza ได้อย่างไพเราะ แต่กลับทำเอาคนเห็นขนลุกซู่กันท่วนหน้า มาโอะเองยังถึงกับหน้าถอดสีซีดเป็นเป็ดต้ม
ไซจิกระชากประตูให้เปิดออกจนบานประตูกระทบกับผนัง ทำให้เด็กสาวผมสีดำสนิทหยุดเล่นไวโอลินแล้วหันหน้ามามองตามเสียงแล้วฉีกยิ้มกว้างดูเป็นมิตรให้ผู้มาเยือน
“สวัสดีจ้ะทุกคน ^O^/”
“O[]O!!!” (หน้าทุกคน)
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันคนแท้ มิใช่ผีปลอมมา -0-*”
“=O=”
“ยัยทามิ!!! -____-^^^”
ไซจิโวยลั่นใส่คนข้างหน้าที่ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรเพราะยืนเท้าเอวแถมยังควงไม้สีไวโอลินสบายใจเฉิบพร้อมอมยิ้มในอีกมือหนึ่ง ส่วนพวกที่อยู่ด้านหลังมองเหตุการณ์อย่างเหวอๆ ในสมองประมวลผลเป็นอย่างเดียวกันว่า...
นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยย!!!
♫rike... talk♫
วู้ววว~~ ไม่ได้เจอกันซะนานแล้วนาน
คิดถึงกันมั้งป่าวเอ่ย =w= (ใครบอกไม่เจอถีบ - -+)
ขอแถมด้วยภาพข้าวกล่องสุดโมเอะของเราจ้ะ ^O^
เม้นด้วยนะคับ~!!
ความคิดเห็น