คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 :: แพ้ใจ
ตอนที่ 5 แพ้ใจ
เพราะคนเราไม่เหมือนกัน
ทางด้านสองหนุ่มที่โดนเจ้าตัวยุ่งทิ้งเอาไว้ให้เหลือกันแค่สองต่อสอง
พ่วงด้วยคนหนึ่งโดนยัดเหยียดตำแหน่งในพาชมแทนเจ้าบ้าน กับอีกคนที่มีตำแหน่งจำใจต้องเดินชมบ้านกับคนที่ดูเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าตน
“ตามฉันมาสิ” คิบอมเอ่ยทำลายความเงียบแล้วเดินนำร่างบางไปเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
สงสัยเขาจะจำคนผิด
คนที่เขารู้จักทั้งแสบทั้งร้ายกว่านี้เยอะ แต่คนนี้นี่ดูท่าทางจะอ่อนต่อโลกซะเหลือเกิน
มีแค่หน้าตารูปร่างเท่านั้นแหละที่เหมือนกัน
ร่างสูงพาเดินชมรอบบ้านไปเรื่อยโดยไม่มีการพูดคุย จนมาถึงนอกบ้านที่มีสวนหย่อมอยู่ล้อมรอบ ดงเฮมองรอบ ๆ อย่างสนใจ ดอกไม้พุ่มไม้ที่จัดเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงามพ่วงด้วยต้นไม้นานาชนิดสูงใหญ่ยิ่งประกอบให้ดูร่มรื่น
“อะ!” เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อเผลอแป๊บเดียวคิบอมก็นำหน้าไปไกลแล้ว ขาเรียวจึงพยายามก้าวยาว ๆ ไว ๆ เพื่อให้ตามร่างสูงทันจนสำเร็จ
“ซ้อนท้ายฉัน”
“เอ๋..?”
“หรือนายอยากจะเดินชมรอบบ้านเอง บ้านนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ ขนาดนั้นหรอกนะ” คิบอมพูดเสียงเรียบในขณะที่ขึ้นขี่จักรยานแล้ว ดงเฮจึงต้องรับเออออแล้วขึ้นซ้อนท้ายทันที พอเข้าใจอยู่ว่าบ้านของฮยอกแจกว้างมาก ขนาดระยะจากประตูรั้วถึงตัวบ้านฮยอกแจยังต้องขี่จักรยานไปรับเขาเลย เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า...บ้านของเพื่อนเขามันก็คฤหาสน์หลังใหญ่ดี ๆ นี่เอง
ดงเฮขึ้นซ้อนท้ายจักรยานแล้วจับชายเสื้อของคนข้างหน้าเอาไว้หลวม ๆ
จับแน่นกลัวโดนด่า ไม่จับก็กลัวตก
แต่จะว่าไปขี่จักรยานไปชมวิวไปแบบนี้ก็ไม่เลวนะ ลมเย็นดี..
ยิ่งซ้อนคนขับจักรยานคนนี้แหละยิ่งดีที่สุด
“ว้าว สวยจัง” ดงเฮพูดเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า สระน้ำขนาดใหญ่ไว้เลี้ยงปลาที่มีต้นไม้เรียงรอบอย่างเป็นธรรมชาติ ใกล้ริมฝั่งมีศาลาชมวิวเล็ก ๆ ตั้งอยู่ บนผืนน้ำใสมีใบไม้ที่ร่วงโรยลงมาจากต้นไม้แตะสู่ผิวน้ำ เหล่าปลาสวยงามแหวกว่ายไปมาดูท่าทางมีความสุข
ดงเฮรีบลงจากจักรยานเมื่อร่างสูงจอดสนิท ก่อนจะวิ่งนำร่างสูงไปยังศาลาอย่างนึกสนุก ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มเด่นอยู่บนใบหน้าชวนให้คิบอมต้องอดยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากไม่ได้
“ที่นี่เป็นเขตส่วนตัว..” เสียงทุ้มพูด “ไม่ว่าใครก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้หากไม่ได้รับการอนุญาต ยกเว้นพวกที่มีระดับสูงกว่าอย่างพวกเรา”
“เห..?” ดงเฮขมวดคิ้วพลางเบือนความสนใจมาทางร่างสูง “แต่ผมมันคนนอกนี่..”
“ฉันบอกว่าเข้ามาไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต”
“เอ๋..” ดงเฮลากเสียงเพียงครู่เพื่อรอฟังคำตอบจากคนข้างหน้า แต่กลับเงียบกริบซึ่งก็หมายความว่าคน ๆ นี้พอจะยอมรับเขาได้ลาง ๆ แล้ว
“ดีใจจัง คุณไม่ได้เกลียดผมแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงหวานร้องลั่นอย่างดีใจ สายตาคมจึงเบนมาทางร่างบางเล็กน้อยพลางกระตุกยิ้มแล้วเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
“ใครบอก..”
“เอ๋..?”
“ใครบอกว่าฉันไม่เกลียดนาย”
สิ้นคำ มือหนาจึงหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อของตนพร้อมจ่อไปยังกลางหน้าผากมนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วทันที ดวงตาหวานเบิกกว้างระคนความไม่เข้าใจ
“ท่ะ
ทำไม”
“เผยแท้ธาตุของนาย
“คุณพูดเรื่องอะไ..”
“ฉันรู้ว่านายกำลังเล่นละครตบตาฉัน เผยธาตุแท้ของมาซะไม่งั้นหัวนายกระจุยแน่” ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็นพร้อมเหนี่ยวไกปืนเตรียมจะยิง ร่างบางจึงหน้าซีดทันที คนตรงหน้าเขาไม่ได้พูดเล่นแน่!
“ว่าไง
”
“
”
“ฉันจะนับหนึ่งถึงห้า ถ้านายไม่ยอมบอกความจริง นายตายแน่” เสียงทุ้มกล่าวพร้อมดันปืนให้เข้าไปใกล้หัวของอีกฝ่ายขึ้นไปอีก แต่ใบหน้าหวานกลับก้มหน้านิ่งไม่พูดจา
“หนึ่ง”
“..”
“สอง..”
“
ยิงเลยสิ
”
“
”
“ยิงเลยสิ! คุณจะรออะไรอยู่ล่ะ!!” ร่างบางตะโกนลั่นแล้วเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา
“เกลียดผมนักไม่ใช่หรอ! อยากฆ่าผมไม่ใช่หรอ! ถ้างั้นก็ยิงเลยสิ!! แต่ผมไม่ใช่ธาตุแท้อะไรนั้นหรอกนะ!!!”
“สาม”
“ฆ่าผมสิ! ทำไม่ยิงผมสักทีล่ะ!! สาม สี่ ห้า!! ผมนับให้แล้วนี่ไง! ยิงผมสักที!” ดงเฮตะโกนร้อง น้ำตาใสไหลอาบแก้มนวลเป็นสาย หากแต่มือบางกลับดันมือหนาให้ปืนมาเข้าใกล้ศีรษะของตนยิ่งขึ้นไปอีกโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
จะเกรงกลัวทำไม
ก็ในเมื่อไม่มีอะไรให้สูญเสีย
ในเมื่อหัวใจดวงในเคยถูกเหยียบย่ำมาตลอด
ไม่เคยมีใครแคร์
ไม่มีคนสนใจ จะทำหัวดีแค่ไหน
แม่ก็ไม่เคยเห็นเขาว่าดี ทั้งโดนตี โดนดุด่าสารพัด สิ่งที่เขาทำได้
ก็คือได้แต่เก็บความอึดอัดนี้ไว้ในใจ...และเป็นแค่เครื่องระบายกามอารมณ์ของพ่อเลี้ยง
เกลียดโลกนี้..
โลกที่แสนชิงชัง
เกลียดตัวเอง..
ที่แม้แต่ภายใต้ร่มผ้าก็มีแค่รอยประทับสีกุหลาบของผู้ชายคนนั้น
ใช่
เขาโกหกฮยอกแจ เขาโกหกว่าไอนรกนั้นมันทำแค่ลวนลามเขา ทั้ง ๆ ที่มันทำมากกว่านั้น
เพราะไม่ใช่แค่มันที่ข่มขื่นเขา
แต่มันกลับชวนเพื่อนของมันมาที่บ้าน
และทำให้ดงเฮเหมือนตายทั้งเป็น
“ได้โปรด
ฆ่าผมสักที ฮึก..” ใบหน้าหวานก้มลงต่ำพร้อมร่างกายที่เริ่มทรุดนั่งเพราะความอ่อนแอ มือบางทั้งสองยังคงจับมือหนาที่ถือปืนเอาไว้อยู่เหมือนเดิมราวกับเป็นที่พักพิงเดียวในตอนนี้
“
สี่”
“ทุกคนเกลียดผม ขนาดแม่แท้ ๆ ยังเกลียดผม ฮึก
คุณก็เกลียดผม แล้วผมจะอยู่ต่อทำไมให้เมื่อทุกคนไม่อยากจะให้ผมอยู่” น้ำเสียงหวานสะอื้นไห้จนแทบฟังเป็นศัพท์ “ได้โปรด
ฆ่าผมสักที! ผมอยากตาย ฮึก..ผมไม่อยากอยู่บนโลกบ้า ๆ นี่อีกแล้ว..!”
ร่างสูงยืนนิ่งพลางมองร่างบางที่กำลังร้องไห้จนตัวโยนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ก่อนจะขยับริมฝีปากเพื่อเอื้อนเอ่ยคำต่อไปดั่งประกาศิต ใบหน้าหวานจึงหลับตาแน่นทันทีเพื่อรอรับความตาย
“ห้า”
“ฮึก..!”
“ปัง”
“
”
“ฉันไม่อยากฆ่านายแล้ว ขี้เกียจทำลายหลักฐาน” คิบอมพูดเสียงเรียบแล้วหันหลังเพื่อจะเดินออกไปจากศาลาอย่างไม่แยแสคนที่นั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น
นาย
ความเลือดเย็นของนายมันหายไปไหนหมด
แค่เห็นรอยคิสมาร์กตรงซอกคอของเขา นายก็หยุดแล้วงั้นหรอ
ใจอ่อน
สินะ
ทั้ง ๆ ที่มาผ่านมานายไม่เคยไม่เคยเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ
แล้วกับดงเฮทำไมนายถึง...
คิบอมนิ่งเงียบอย่างกรุ่นคิดหาคำออก แต่หากคิดไปได้ไม่นานก็เป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบของโลหะบริเวณต้นคอจากทางด้านหลัง
“คิก...” เสียงหวานใสราวกับระฆังแก้วหัวเราะชอบใจ
“เจอกันอีกแล้วนะ...คิม คิบอม”
“...”
“ไหนบอกจะฆ่าดงเฮไม่ใช่หรอ...แล้วทำไมไม่ฆ่าล่ะหืม?” ร่างบางพูดยียวนกวนโทสะพลางเดินกรีดกรายจากทางด้านหลังมายังด้านหน้าของคิบอมแทน หากแต่มือบางก็ยังคงไม่ลืมที่จะถือมีดเล่มเล็กจ่อไว้ที่คอหอยของร่างสูง
“หรือว่านายจะใจอ่อน? เอ๋...ไม่สิ ฉันว่านายฆ่าดงเฮไม่ลงมากกว่า”
“..”
“ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ...รู้มั้ยฉันไม่ชอบเล่นกับไอพวกไร้ความรู้สึก” ร่างบางกล่าวพร้อมกดมีดให้ลึกขึ้นไปอีก เลือดสีแดงจึงค่อย ๆ ไหลปริบออกมาตามบาดแผล แต่ถึงกระนั้นคิบอมก็ยังคงไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักทีทำเอาเจ้าของมีดจิ๊ปากอย่างขัดใจ
“ฉันจะทำยังไงกับนายดี เล่นบทโหดดีมั้ย? เอาเชือกขึงนายไว้แล้วเอาแส้ฟาด ตามด้วยสาดน้ำเกลือใส่ หรือว่ายั่วนายให้ไอนั้นมันแข็งตัวขึ้นมาดี
นายถึงจะยอมพูดกับฉัน” ไม่พูดเปล่าพร้อมใช้มืออีกข้างลูบไล้ส่วนแข็งขึงภายใต้ผ้ากางเกงเนื้อดีเบา ๆ อย่างยั่วยวน
“นายรู้ตัวว่านายสู้ฉันไม่ได้”
คิบอมปริปาก ร่างบางจึงเลิกคิ้วน้อย ๆ
“ว้าว นายยอมพูดแล้ว เอ๋...หรือว่ากลัวฉันจะทำแบบนั้นจริง ๆ..”
“การต่อสู้ทางระยะไกลนายอาจจะสู้ฉันได้”
ตึง!!
เสียงทุ้มพูดพร้อมใช้มือจับแขนบางทั้งสองแล้วบิดล็อกให้แขนหันไปไขว้กันทางด้านหลัง พลางเคลื่อนตัวไปทางด้านหลังร่างบางเพื่อให้ตรึงแขนบางไว้ได้สะดวก ความเจ็บจากการถูกบิดทำให้ใบหน้าหวานต้องนิ่วหน้าแล้วปล่อยมีดหลุดออกจากมือ
“แต่ระยะประชิดตัวฉันกินขาด เพราะงั้นนายเลยจำเป็นต้องพกปืนกับมีดสั้นเอาไว้ปาเพื่อปิดจุดอ่อน”
“ปล่อยฉัน!!”
“นายไม่ได้หลอกฉันเรื่องถูกพ่อเลี้ยงข่มขื่นใช่มั้ย...ลี ดงเฮ”
“..”
“นายคือบอดี้การ์ดที่ท่านชินดงส่งมาให้เพื่อคุ้มครองฮยอกแจ ยอมรับว่าฉันนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านายจะมาในคราบของลี ดงเฮผู้อ่อนแอน่าสงสาร ทั้ง ๆ ที่ตัวจริงของนายมันต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว” ร่างสูงพูดเสียงเรียบ สายตาคมมองสำรวจอัปกิริยาของคนตรงหน้าก่อนจะพูดต่อ
“ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านายคือคนที่มาพบกับคุณฮันคยองในวันนั้นจริง ๆ ยิ่งเห็นนายอยู่ใกล้ฮยอกแจผิดปกติแบบนั้นก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก ถึงนายจะเจ้าเล่ห์จอมหลวกลวง แต่การที่นายร้องไห้ขอความตายต่อหน้าฉันเมื่อกี้...มันบอกชัดว่านายไม่ได้โกหก ไม่ได้เล่นละครหรือต้องการความเห็นใจ เพราะแววตาของนายมันบอกฉันแบบนั้น
”
แววตาของคนสิ้นหวังต่อโลกนี้
ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะมี
แต่ดงเฮกลับมีมัน
สายตาคมสีรัตติกาลมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสงสารอยู่ลึก ๆ
ความสงสารที่มาเฟียอย่างเขาไม่ควรจะมี เพราะหากมี
สุดท้ายก็อาจจะเป็นเขาเองต่างหากที่ถูกฆ่า
ดงเฮก้มหน้านิ่งก่อนจะยิ้มเหยียดพลางแค่นหัวเราะอย่างสมเพช
สมเพชในความอ่อนแอของตัวเอง
นายต้องเข้มแข็งไว้สิ
ดงเฮ
เพราะคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด
“ใช่ แววตาของฉันมันอาจจะบอกแบบนั้น” ใบหน้าหวานที่ก้มหน้าอยู่ทำให้ไม่เห็นสีหน้าพูดเสียงเบาบาง
“..”
“แต่ลี ดงเฮจอมอ่อนแอคนนั้นน่ะมันตายไปตั้งนานไปแล้ว! ตั้งแต่ตอนที่ฉันฆ่าไอนรกนั้นเองกับมือ!!”
ดงเฮพูดพร้อมสะบัดแขนออกเมื่อรู้สึกได้ว่าพันธนาการมันเริ่มจะหลวม แล้วหันหน้ามาประชันกับร่างสูงด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ฉันแสดงละครเก่งมั้ยล่ะ นายโง่เองนะที่เชื่อฉัน แค่เล่าเรื่องอดีตนิด ๆ หน่อย ๆ นายก็เชื่อฉันจนปล่อยฉันแล้ว จริงอยู่...ที่มันเคยข่มขื่นฉัน แต่ทุกอย่างมันกลับตาลบัตรเมื่อวันหนึ่งฉันกลับไปฆ่ามันเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ...”
ยังจำได้ติดตา
กลิ่นคาวคละคลุ้ง
เลือดบนฝ่ามือ
มือคู่นี้...ที่ถือมีดเอาไว้
อิสรภาพ
“ฉันไม่ได้เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป กลับโล่งใจซะอีก พอรู้ว่ามันตายแล้วฉันก็รีบหนีออกมาจากบ้านก่อนที่แม่ฉันจะจับฉันแล้วแจ้งตำรวจ แต่ฉันก็ไม่มีที่ไปทำให้ฉันเดินเตร่อยู่ข้างถนน
จนเจอคุณชินดง”
หนึ่งเดียวที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตได้จนทุกวันนี้
น้ำเสียงอบอุ่น และมือคู่นั้น
‘มาอยู่กับฉันสิ’
“คุณชินดงรับฉันมาอุปการะไว้ ชุบเลี้ยงฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า
หลังจากนั้นฉันเลยตามกวาดล้างเพื่อนชาติชั่วของไอนรกนั้นจนหมด จนกระทั่งวันนี้ ที่ฉันได้เป็นบอดี้การ์ด เพราะฉะนั้น
”
แก๊ก
“ฉันจะยอมตายไม่ได้เพราะต้องปกป้องลี ฮยอกแจ” มือบางคว้าปืนออกมาจากกางเกงแล้วจ่อไปยังหน้าอกด้านซ้ายของร่างสูงในชั่งพริบตา ดวงตากลมโตสงบนิ่ง
ไม่ลังเลต่อการสังหาร เพียงนัดเดียว แค่นัดนี้เท่านั้นที่จะส่งร่างสูงไปยังยมโลก
“ความสงสารต่อศัตรูเป็นสิ่งที่มาเฟียอย่างเราไม่ควรจะมี
คิบอม นายผิดเองที่ไม่ยอมฆ่าฉัน”
ร่างบางพูดเสียงเรียบ หากแต่คิบอมกลับยืนนิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ดวงตาคมจ้องประสานกับอีกฝ่าย
“เพราะฉันรู้ว่านายเองก็จะไม่ฆ่าฉัน”
“
”
“ใช่ ความสงสารต่อศัตรูเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมี แต่นายเป็นไม่ใช่ศัตรู รู้ไหมว่าทำไมท่านชินดงส่งนายมาเป็นบอดรี้การ์ดแทนที่จะเป็นนักฆ่าทั้ง ๆ ที่นายมีจุดอ่อนขนาดนี้
เพราะยิ่งมีจุดอ่อนมากเท่าไหร่ ฮยอกแจก็จะยิ่งเสี่ยงอันตรายมากเท่านั้น”
เสียงทุ้มกล่าวพลางกดมือบางให้ลดปืนลง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมลดปืนลงแต่โดยดี
ดูเหมือนว่าร่างบางจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ
แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่
ร่างสูงต่างหากที่เป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมดไว้ ดงเฮรู้ตั้งแต่แรกแต่ก็ยังเสี่ยง
คิบอมถนัดการต่อสู้แทบทุกรูปแบบโดยเฉพาะระยะประชิดตัว ชัยชนะของร่างบางจึงเป็นศูนย์ แต่เหตุผลสำคัญที่แพ้ไม่ใช่เหตุนั้น..
แต่เพราะสายตาคมคู่นั้นต่างหาก
แววตาที่ราวกับอ่านจิตใจของเขาออก แต่เขากลับอ่านใจของอีกฝ่ายไม่ออก
“ท่านชินดงส่งนายมา เพราะนายยังมีจิตใจที่อ่อนโยน
รักความยุติธรรม และปรารถนาดีที่จะไม่อยากให้ใครหลาย ๆ คนมารับชะตากรรมเหมือนนาย ตั้งแต่ตอนที่นายก้าวออกไปจากห้องของคุณฮันคยองฉันก็ไปสืบประวัติของนายทันที เป้าหมายของฆ่าของนายส่วนใหญ่
คือพวกที่ชอบค้ามนุษย์โดยเฉพาะค้าไปเป็นเครื่องบำเรอ” คิบอมอธิบายเสียงเรียบ
“นายอ่อนโยนเกินไปกว่าจะเป็นนักฆ่าไร้หัวใจ
ดงเฮ นักฆ่าไร้หัวใจส่วนใหญ่เป็นพวกที่รักสนุกในการฆ่าและลิ้มรสเลือด ไม่ก็พวกที่ตายด้านต่อโลกนี้และทุกสิ่งทุกอย่างจริง ๆ
แต่นายไม่ใช่”
ดงเฮยืนนิ่ง
สิ่งที่ร่างสูงพูดออกมาถูกทุกอย่าง
เขาแพ้แล้ว
เพราะเขาต่างหากที่อ่อนแอตั้งแต่ต้น แต่แกล้งทำเป็นเข้มแข็ง...ทั้ง ๆ ที่เขาขี้แยยิ่งกว่าใคร
ขี้เหงา...และขี้กลัวมากกว่าใคร
ราวกับอ่านใจออก มือหนาสัมผัสใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบาพลางเชยขึ้นให้ดวงตากลมโตได้เห็นรอยยิ้มเบาบางของร่างสูง รอยยิ้มที่อยากปลอบใจ..
“การฆ่าคนไม่ใช่สิ่งที่จะพิสูจน์ว่านายแข็งแกร่งหรอกนะดงเฮ การมีหัวใจที่งดงามต่างหากที่น่าอิจฉากว่าเป็นไหน ๆ ฉันว่านายเข้มแข็งออกที่พยายามมาถึงจุดนี้ได้
ยังไงก็พยายามต่อไปก็แล้วกัน”
น้ำเสียงทุ้มพูดอ่อนโยน
เพียงครู่นั้น
ที่ร่างบางรู้สึกราวกับหัวใจถูกเติมเต็มและสั่นไหว ก่อนจะบัดมือของอีกฝ่ายออก พลางทำตาเขียวใส่อีกฝ่ายอย่างเคือง ๆ
“เสือกไม่เข้าเรื่อง!!”
ร่างบางตะโกนร้องพลางหันหลังแล้วเดินหนีทันที คิบอมจึงหัวเราะน้อย ๆ อย่างขำขัน
ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าแดงเลยต้องทำเป็นปากเก่งตะโกนด่าแล้วเดินไปหนีเสียอย่างนั้น
“จะขึ้นไม่ขึ้น ถ้าไม่ขึ้นฉันจะออกรถแล้วนะ!” ร่างบางที่ขึ้นขี่จักรยานแล้วร้องลั่น คิบอมจึงเลิกคิ้วน้อย ๆ พร้อมรีบเดินไปยังจักรยานทันที
“เร็ว ๆ เซ่!” เจ้าตัวเล็กเร่ง
“คร้าบ ๆ คุณแม่ดงเฮ”
“มีลูกตัวเท่าควายอย่างนายให้ฉันตายดีกว่า งั้นฉันจะออกรถแล้วนะ!” เสียงหวานพูดเมื่อร่างสูงซ้อนท้ายเสร็จ
“เดี๋ยวสิดงเฮ นายจะขับไหวหรอ ฉันตัวหนักนะให้ฉันขับดีกว่าแล้วนายซ้อน”
“นี่ดูถูกฉันรึไง!? นั่งเงียบ ๆ ไปเลยไป๊!!”
“เดี๋ยว เฮ้ยๆๆ!! ต้นไม้ข้างหน้า! จะชนแล้ว!”
“ขับผ่านแล้ว อย่าพูดมากสิ! ฉันจะขับเสียหลักก็เพราะปากนายเนี่ยแหละ”
“นายก็มองข้างหน้าสิ! หันมาทำไม!! จะชนแล้ว! อ๊ากกกก!!”
“ชนอะไร เฮ้ย! ว๊ากกกกกกกกก!!”
โครม!
ขอให้ทั้งสองคนจงกลับบ้านปลอดภัยด้วยเถิด
เอเมน
แต่สุดท้ายแล้ว ดงเฮก็ลองเก็บเรื่องที่ร่างสูงพูดมาคิดดูแล้วนะ
คิดไปคิดมา อืม
มันอาจจะเป็นอย่างที่ไอแก้มแตกมันพูดก็ได้
การมีหัวใจที่งดงามต่างหากที่น่าอิจฉาที่สุด
ปัญหาที่เขาเคยเจอ
มันเจ็บปวดสำหรับเขามากก็จริง แต่อาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยด้วยซ้ำสำหรับใครบางคน
คนทุกคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน
อาจจะเหมือนกันบ้าง
แต่ก็ย่อมไม่เหมือนกันซะหมดเพราะต่างชีวิตกัน
ต่างคน ต่างความคิด ต่างมุมมอง ต่างการกระทำ
วันนี้เขาอาจจะเจอเรื่องนี้ ร้องไห้ในวันนี้ แต่ถ้ายอมแพ้ในวันนี้
แล้ววันข้างหน้าล่ะ เขาจะเป็นอย่างไรหากยังสู้ต่อสิ่งพวกนี้ไม่ได้ แล้วอุปสรรคต่อไปล่ะ..
จดจำบทเรียนในอดีต แล้วหากลองย้อนกลับมามองมันเมื่อตอนโต
อาจจะเห็นมันเป็นแค่เรื่องขี้ประติ๋วเลยด้วยซ้ำเมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาที่กำลังเจอ เพราะในแต่ละวัน
ปัญหาที่เราพบอาจจะมีมากมายเกินต้านทานราวกับลมพายุ
พร้อมจะพัดวัชพืชผู้อ่อนแอให้ล้มลงได้ตลอดเวลา
หากไม่ได้เป็นดอกฟ้า ก็ขอเป็นแค่ดอกหญ้า
ที่ถึงแม้จะล้มแต่ก็ยังคงลุกขึ้นมาใหม่ได้ด้วยตัวเอง
คือว่าแฟร์ได้เน็ตแล้วค่ะ ก็เลยมาอัพได้ =w=;;
ตอนนี้อยู่แม่สอดล่ะ
ถึงคราวเล่าเรื่องของแฟร์กับเลข 38
(3 คือเลขประจำตัวของฮันคยอง 8 คือเลขประจำตัวของฮยอกแจ 38 จึงคือฮันฮยอก)
มีใครสังเกตมั้ยคะ เลขซองมาม่าโปรตีนไข่
มันเขียนว่า ‘38 ปี คู่สังคมไทย’
วิ่งมาราธอนของโรงเรียน..แฟร์ได้เลข 038
นั่งรถมาแม่สอด แฟร์ได้นั่งรถ 638 1
ลง SF ตอนล่าสุดในบทความอีกบทความ
แฟร์ลงตอนที่ 38
กรี๊ดดดดดดดดดดดสิคะ!!
ฮันฮยอกเขาเรียลค่ะ!
ฮันฮยอก Forever อิอิ
(ไร้สาระเล็กน้อย แค่อยากเล่าเฉย ๆ กร๊ากกก)
>_________________________<!!!
Love U reader!!
ปล. สีตัวอักษรอ่านกันได้มั้ย? มันอ่อนไปรึเปล่า
น่าจะจูบไปเลย...เสียด้ายจัง นั่นสิ ทำไม๊ทำไม!? แง๊งงงง>O<~!! ดะ..ด๊องจะเมะซะงั้นอ่ะลูก!! O_O!! เสียวเศร้านะเนี่ย อ่า ไม่บอกดีกว่าความคิดเห็นที่ 27 (จากตอนที่ 5) อ่า
คยูมินน่ารักสุดๆ
คยูจะมีแม่เพิ่มแล้ววววววว นั้นสิ แต่แฟร์เสียดายนะ อยากให้คยูมีแฟนมากกว่า ;_; ออิName : kyu [ IP : 125.25.26.54 ] ความคิดเห็นที่ 26 (จากตอนที่ 5) เกือบเคลิ้มเลย โอ้~~
แหมๆจาจูบก้อไม่จูบสักที
ด๊องจายูริก่าฮยอกจิงๆหรอเนี้ย นั่นสิ แล้วอยากให้ด๊องยูริไหม? ฮ่าๆๆ
5555. Name : naezii-oaezii< My.iD > [ IP : 117.47.249.210 ] ความคิดเห็นที่ 25 (จากตอนที่ 5) เจอฮันฮยอกแบบที่ชอบแล้วววววววววววว ดีใจด้วย แปะๆๆ
ท่าทางเรื่องจะเศร้าได้อีก. กลัวนะเนี่ย มันเศร้าแน่ค่ะ..
แต่อยากอ่านต่อมากเลยค่า จริงหรอ >//<!Name : moji [ IP : 58.9.67.182 ] ความคิดเห็นที่ 24
มินปลุกได้ถึงใจมากลูก อิอิ คราวหน้าเอาหนักกว่านี้ดีมั้ย? ฮ่าๆๆ
ด๊องอย่าลังแกฮยอกน๊า... รังแกอะไร๊ O_O!?
ฮยอกน่ารักเกิ๊นนนนนนน ของมันแน่
อัพๆๆๆๆๆ........ชอบ..ชอบ
สู้ๆๆๆๆๆน่าคร๊าพี่.... จ้า ขอบใจจ้ะName : Hyuk_ki< My.iD > [ IP : 125.27.150.148 ] ความคิดเห็นที่ 23 (จากตอนที่ 5) ซองมินปลุกกี้ได้สะใจมากก
55+
มีหวงด้วยวุ้ย ไม่ต้องห่วงหรอกมินนี่
ไรท์เตอร์ไม่มีทางให้เกิด มินคยูได้ รับรอง (ใช่มั้ยค่ะ แฟร์ - -*) กำ..รู้ทันอีก มีสิทธิ์นะเพราะคยูออกแววเคะเยอะ ;_; /me โดนคนอ่านเตะ
ด๊องต้องเจอคิมคิปราบซะแว้วว งานนี้มีคิเฮ 55+ แน่นอน กร๊ากๆๆ สมหวังไม่สมหวังก็อีกเรื่อง..
เสียดาย ฮันฮยอกน่าจะจูบกัน อุตส่าห์ลุ้น ไม่ด้ายยย~!! จูบแรกของฮยอกต้องเป็นของแฟร์ (!?)
ชอบป๋าหื่นๆอ่า เพราะเวลาฮยอกเขิลน่ารักที่สุด >///<
แต่ก็ดีแล้ว...มั้งนะ -*-
แต่ถ้าเป็นงี้..เอ็นซีฮันฮยอกก็ริบหรี่อ่าสิ... TT^TT (ไอ่หื่นเอ๊ย...) อ่า ไม่ริบหรี่หรอก เร็วๆนี้แหละ ฮา
ปล่อยมันบ้าไป สู้ๆ นะค่ะแฟร์ จ้า งั้นแฟร์บ้าด้วยคน ฮ่าฮ่าฮ่าName : yaoisang [ IP : 125.27.22.120 ] ความคิดเห็นที่ 22 (จากตอนที่ 5)
ตากี้!!! จะหึงอะไรขนาดนั้นไม่ทราบคะ!? เดี๋ยวจะเรียกริคกี้มาเคลียร์=_=++ อุ้ย เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่มินริคนะจ้ะ ฮ่าๆๆ
อ๊ากกก..
เริ่มบ้าไปกับฮันฮยอก=.,= บ้าตั้งนานแล้วนี่ - -
ป๊าคะ...อยากจูบก๊ะจูบเลยจิ =..= คริคริ
แต่อ่า...ตกลงเป้นพี่น้องรึไม่แท้ง่ะ??
ไม่แท้จ้ะ ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดเลย แค่พ่อกับแม่แต่งงานกันเฉยๆ
แอบงง
อ๊ากกก
อัพต่อไวๆน้อ =w=~! จ้า
PS. !..Alone_Wolf..! + นู๋อาริกะจัง >+< {[ RiKa ]} = ริกะ or วูลฟ์ = ME!! คนเดียวกันน้อ =.,= Name : !..Alone_Wolf..!< My.iD > [ IP : 124.121.148.76 ] ความคิดเห็นที่ 21 (จากตอนที่ 5)
อย่าเลยยย หุ่นกะหน้าไม่ให้ 555+ ฮ่าฮ่า แต่เฮคิแฟร์ก็แต่งมาแล้วนะ...
ป๋านะป๋าพลาดโอกาสงามๆอย่างงี้ไปได้ยังไงงงงง นั่นสิ! ใช้ไม่ได้เลยยย
เรื่องนี้จะเศร้ามั้ยเนี่ย อย่าเศร้าเลยน้าแฟร์ (กระพริบตาปริบๆ) อ่านเองสิจ้ะ ฮ่าฮ่า
จะรอนะจ้ะ^^ ขอบใจจ้ะ >//<
PS. Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.21.165 ] ความคิดเห็นที่ 20 (จากตอนที่ 5)
ไรเตอร์ มาอัพอีกไวไวเนาะ อัพแล้วๆ ^^Name : mapegun< My.iD > [ IP : 125.27.90.87 ]
ความคิดเห็น