ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Because I hate you เกลียดนาย...น้องชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 :: แพ้ใจ

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 52


                                                                                    

     

     

     

     

     

    ตอนที่ 5 แพ้ใจ

     

    เพราะคนเราไม่เหมือนกัน

     

     

     

     

     

    ทางด้านสองหนุ่มที่โดนเจ้าตัวยุ่งทิ้งเอาไว้ให้เหลือกันแค่สองต่อสอง

     

     

    พ่วงด้วยคนหนึ่งโดนยัดเหยียดตำแหน่งในพาชมแทนเจ้าบ้าน  กับอีกคนที่มีตำแหน่งจำใจต้องเดินชมบ้านกับคนที่ดูเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าตน

     

     

    ตามฉันมาสิ คิบอมเอ่ยทำลายความเงียบแล้วเดินนำร่างบางไปเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

     

     

    สงสัยเขาจะจำคนผิด

     

     

    คนที่เขารู้จักทั้งแสบทั้งร้ายกว่านี้เยอะ  แต่คนนี้นี่ดูท่าทางจะอ่อนต่อโลกซะเหลือเกินมีแค่หน้าตารูปร่างเท่านั้นแหละที่เหมือนกัน

     

     

    ร่างสูงพาเดินชมรอบบ้านไปเรื่อยโดยไม่มีการพูดคุย  จนมาถึงนอกบ้านที่มีสวนหย่อมอยู่ล้อมรอบ  ดงเฮมองรอบ ๆ อย่างสนใจ  ดอกไม้พุ่มไม้ที่จัดเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงามพ่วงด้วยต้นไม้นานาชนิดสูงใหญ่ยิ่งประกอบให้ดูร่มรื่น

     

     

    อะ!” เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อเผลอแป๊บเดียวคิบอมก็นำหน้าไปไกลแล้ว  ขาเรียวจึงพยายามก้าวยาว ๆ ไว ๆ เพื่อให้ตามร่างสูงทันจนสำเร็จ

     

     

    ซ้อนท้ายฉัน

     

     

    เอ๋..?”

     

     

    หรือนายอยากจะเดินชมรอบบ้านเอง  บ้านนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ ขนาดนั้นหรอกนะ คิบอมพูดเสียงเรียบในขณะที่ขึ้นขี่จักรยานแล้ว  ดงเฮจึงต้องรับเออออแล้วขึ้นซ้อนท้ายทันที  พอเข้าใจอยู่ว่าบ้านของฮยอกแจกว้างมาก  ขนาดระยะจากประตูรั้วถึงตัวบ้านฮยอกแจยังต้องขี่จักรยานไปรับเขาเลย  เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า...บ้านของเพื่อนเขามันก็คฤหาสน์หลังใหญ่ดี ๆ นี่เอง

     

     

    ดงเฮขึ้นซ้อนท้ายจักรยานแล้วจับชายเสื้อของคนข้างหน้าเอาไว้หลวม ๆ จับแน่นกลัวโดนด่า  ไม่จับก็กลัวตก

     

     

    แต่จะว่าไปขี่จักรยานไปชมวิวไปแบบนี้ก็ไม่เลวนะ ลมเย็นดี..

     

     

    ยิ่งซ้อนคนขับจักรยานคนนี้แหละยิ่งดีที่สุด

     

     

    ว้าว  สวยจัง ดงเฮพูดเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า  สระน้ำขนาดใหญ่ไว้เลี้ยงปลาที่มีต้นไม้เรียงรอบอย่างเป็นธรรมชาติ  ใกล้ริมฝั่งมีศาลาชมวิวเล็ก ๆ ตั้งอยู่  บนผืนน้ำใสมีใบไม้ที่ร่วงโรยลงมาจากต้นไม้แตะสู่ผิวน้ำ  เหล่าปลาสวยงามแหวกว่ายไปมาดูท่าทางมีความสุข

     

     

    ดงเฮรีบลงจากจักรยานเมื่อร่างสูงจอดสนิท  ก่อนจะวิ่งนำร่างสูงไปยังศาลาอย่างนึกสนุก  ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มเด่นอยู่บนใบหน้าชวนให้คิบอมต้องอดยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากไม่ได้

     

     

                ที่นี่เป็นเขตส่วนตัว..” เสียงทุ้มพูด ไม่ว่าใครก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้หากไม่ได้รับการอนุญาต  ยกเว้นพวกที่มีระดับสูงกว่าอย่างพวกเรา

     

     

                เห..?” ดงเฮขมวดคิ้วพลางเบือนความสนใจมาทางร่างสูง แต่ผมมันคนนอกนี่..”

     

     

                ฉันบอกว่าเข้ามาไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

     

     

                เอ๋..” ดงเฮลากเสียงเพียงครู่เพื่อรอฟังคำตอบจากคนข้างหน้า  แต่กลับเงียบกริบซึ่งก็หมายความว่าคน ๆ นี้พอจะยอมรับเขาได้ลาง ๆ แล้ว

     

     

                ดีใจจัง  คุณไม่ได้เกลียดผมแล้วใช่มั้ย น้ำเสียงหวานร้องลั่นอย่างดีใจ  สายตาคมจึงเบนมาทางร่างบางเล็กน้อยพลางกระตุกยิ้มแล้วเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ

     

     

                ใครบอก..”

     

     

                เอ๋..?”

     

     

                ใครบอกว่าฉันไม่เกลียดนาย

     

     

                สิ้นคำ มือหนาจึงหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อของตนพร้อมจ่อไปยังกลางหน้าผากมนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วทันที  ดวงตาหวานเบิกกว้างระคนความไม่เข้าใจ

     

     

                ท่ะทำไม

     

     

                เผยแท้ธาตุของนายออกมาซะ ลี ดงเฮ

     

     

                คุณพูดเรื่องอะไ..”

     

     

                ฉันรู้ว่านายกำลังเล่นละครตบตาฉัน  เผยธาตุแท้ของมาซะไม่งั้นหัวนายกระจุยแน่ ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็นพร้อมเหนี่ยวไกปืนเตรียมจะยิง  ร่างบางจึงหน้าซีดทันที  คนตรงหน้าเขาไม่ได้พูดเล่นแน่!

     

     

    ว่าไง…”

     

     

    “…”

     

     

    ฉันจะนับหนึ่งถึงห้า  ถ้านายไม่ยอมบอกความจริง นายตายแน่ เสียงทุ้มกล่าวพร้อมดันปืนให้เข้าไปใกล้หัวของอีกฝ่ายขึ้นไปอีก  แต่ใบหน้าหวานกลับก้มหน้านิ่งไม่พูดจา

     

     

    หนึ่ง

     

     

    “..”

     

     

    สอง..”

     

     

    “…ยิงเลยสิ…”

     

     

    “…”

     

     

    ยิงเลยสิ!  คุณจะรออะไรอยู่ล่ะ!!” ร่างบางตะโกนลั่นแล้วเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา

     

     

    เกลียดผมนักไม่ใช่หรอ!  อยากฆ่าผมไม่ใช่หรอ!  ถ้างั้นก็ยิงเลยสิ!!  แต่ผมไม่ใช่ธาตุแท้อะไรนั้นหรอกนะ!!!”

     

     

    สาม

     

     

    ฆ่าผมสิ!  ทำไม่ยิงผมสักทีล่ะ!! สาม สี่ ห้า!! ผมนับให้แล้วนี่ไง!  ยิงผมสักที!” ดงเฮตะโกนร้อง  น้ำตาใสไหลอาบแก้มนวลเป็นสาย  หากแต่มือบางกลับดันมือหนาให้ปืนมาเข้าใกล้ศีรษะของตนยิ่งขึ้นไปอีกโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย

     

     

    จะเกรงกลัวทำไม

     

     

    ก็ในเมื่อไม่มีอะไรให้สูญเสีย

     

     

    ในเมื่อหัวใจดวงในเคยถูกเหยียบย่ำมาตลอดไม่เคยมีใครแคร์

     

     

    ไม่มีคนสนใจ จะทำหัวดีแค่ไหนแม่ก็ไม่เคยเห็นเขาว่าดี  ทั้งโดนตี  โดนดุด่าสารพัด  สิ่งที่เขาทำได้ก็คือได้แต่เก็บความอึดอัดนี้ไว้ในใจ...และเป็นแค่เครื่องระบายกามอารมณ์ของพ่อเลี้ยง

     

     

    เกลียดโลกนี้..

     

     

    โลกที่แสนชิงชัง

     

     

    เกลียดตัวเอง..

     

     

    ที่แม้แต่ภายใต้ร่มผ้าก็มีแค่รอยประทับสีกุหลาบของผู้ชายคนนั้น

     

     

    ใช่เขาโกหกฮยอกแจ  เขาโกหกว่าไอนรกนั้นมันทำแค่ลวนลามเขา  ทั้ง ๆ ที่มันทำมากกว่านั้น

     

     

    เพราะไม่ใช่แค่มันที่ข่มขื่นเขา

     

     

    แต่มันกลับชวนเพื่อนของมันมาที่บ้านและทำให้ดงเฮเหมือนตายทั้งเป็น

     

     

    ได้โปรดฆ่าผมสักที  ฮึก..” ใบหน้าหวานก้มลงต่ำพร้อมร่างกายที่เริ่มทรุดนั่งเพราะความอ่อนแอ  มือบางทั้งสองยังคงจับมือหนาที่ถือปืนเอาไว้อยู่เหมือนเดิมราวกับเป็นที่พักพิงเดียวในตอนนี้

     

     

    “…สี่

     

     

    ทุกคนเกลียดผม  ขนาดแม่แท้ ๆ ยังเกลียดผม  ฮึกคุณก็เกลียดผม  แล้วผมจะอยู่ต่อทำไมให้เมื่อทุกคนไม่อยากจะให้ผมอยู่ น้ำเสียงหวานสะอื้นไห้จนแทบฟังเป็นศัพท์ ได้โปรดฆ่าผมสักที! ผมอยากตาย  ฮึก..ผมไม่อยากอยู่บนโลกบ้า ๆ นี่อีกแล้ว..!”

     

     

    ร่างสูงยืนนิ่งพลางมองร่างบางที่กำลังร้องไห้จนตัวโยนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ก่อนจะขยับริมฝีปากเพื่อเอื้อนเอ่ยคำต่อไปดั่งประกาศิต  ใบหน้าหวานจึงหลับตาแน่นทันทีเพื่อรอรับความตาย

     

     

    ห้า

     

     

    ฮึก..!”

     

     

    ปัง

     

     

    “……”

     

     

    ฉันไม่อยากฆ่านายแล้ว  ขี้เกียจทำลายหลักฐาน คิบอมพูดเสียงเรียบแล้วหันหลังเพื่อจะเดินออกไปจากศาลาอย่างไม่แยแสคนที่นั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น

     

     

    นายเป็นอะไรไปคิม คิบอม

     

     

    ความเลือดเย็นของนายมันหายไปไหนหมดแค่เห็นรอยคิสมาร์กตรงซอกคอของเขา  นายก็หยุดแล้วงั้นหรอ

     

     

    ใจอ่อนสินะ

     

     

    ทั้ง ๆ ที่มาผ่านมานายไม่เคยไม่เคยเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ

     

     

    แล้วกับดงเฮทำไมนายถึง...

     

     

    คิบอมนิ่งเงียบอย่างกรุ่นคิดหาคำออก  แต่หากคิดไปได้ไม่นานก็เป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบของโลหะบริเวณต้นคอจากทางด้านหลัง

     

     

    คิก... เสียงหวานใสราวกับระฆังแก้วหัวเราะชอบใจ

     

     

    เจอกันอีกแล้วนะ...คิม  คิบอม

     

     

    ...

     

     

    ไหนบอกจะฆ่าดงเฮไม่ใช่หรอ...แล้วทำไมไม่ฆ่าล่ะหืม?” ร่างบางพูดยียวนกวนโทสะพลางเดินกรีดกรายจากทางด้านหลังมายังด้านหน้าของคิบอมแทน  หากแต่มือบางก็ยังคงไม่ลืมที่จะถือมีดเล่มเล็กจ่อไว้ที่คอหอยของร่างสูง

     

     

    หรือว่านายจะใจอ่อน?  เอ๋...ไม่สิ  ฉันว่านายฆ่าดงเฮไม่ลงมากกว่า

     

     

    ..

     

     

    ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ...รู้มั้ยฉันไม่ชอบเล่นกับไอพวกไร้ความรู้สึก ร่างบางกล่าวพร้อมกดมีดให้ลึกขึ้นไปอีก  เลือดสีแดงจึงค่อย ๆ ไหลปริบออกมาตามบาดแผล  แต่ถึงกระนั้นคิบอมก็ยังคงไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักทีทำเอาเจ้าของมีดจิ๊ปากอย่างขัดใจ

     

     

    ฉันจะทำยังไงกับนายดี  เล่นบทโหดดีมั้ย?  เอาเชือกขึงนายไว้แล้วเอาแส้ฟาด  ตามด้วยสาดน้ำเกลือใส่  หรือว่ายั่วนายให้ไอนั้นมันแข็งตัวขึ้นมาดีนายถึงจะยอมพูดกับฉัน ไม่พูดเปล่าพร้อมใช้มืออีกข้างลูบไล้ส่วนแข็งขึงภายใต้ผ้ากางเกงเนื้อดีเบา ๆ อย่างยั่วยวน

     

     

    นายรู้ตัวว่านายสู้ฉันไม่ได้ 

     

     

    คิบอมปริปาก  ร่างบางจึงเลิกคิ้วน้อย ๆ

     

     

    ว้าว  นายยอมพูดแล้ว  เอ๋...หรือว่ากลัวฉันจะทำแบบนั้นจริง ๆ..”

     

     

    การต่อสู้ทางระยะไกลนายอาจจะสู้ฉันได้

     

     

    ตึง!!

     

     

    เสียงทุ้มพูดพร้อมใช้มือจับแขนบางทั้งสองแล้วบิดล็อกให้แขนหันไปไขว้กันทางด้านหลัง พลางเคลื่อนตัวไปทางด้านหลังร่างบางเพื่อให้ตรึงแขนบางไว้ได้สะดวก  ความเจ็บจากการถูกบิดทำให้ใบหน้าหวานต้องนิ่วหน้าแล้วปล่อยมีดหลุดออกจากมือ

     

     

    แต่ระยะประชิดตัวฉันกินขาด  เพราะงั้นนายเลยจำเป็นต้องพกปืนกับมีดสั้นเอาไว้ปาเพื่อปิดจุดอ่อน

     

     

    ปล่อยฉัน!!”

     

     

    นายไม่ได้หลอกฉันเรื่องถูกพ่อเลี้ยงข่มขื่นใช่มั้ย...ลี  ดงเฮ

     

     

    ..

     

     

    นายคือบอดี้การ์ดที่ท่านชินดงส่งมาให้เพื่อคุ้มครองฮยอกแจ  ยอมรับว่าฉันนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านายจะมาในคราบของลี ดงเฮผู้อ่อนแอน่าสงสาร  ทั้ง ๆ ที่ตัวจริงของนายมันต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวร่างสูงพูดเสียงเรียบ  สายตาคมมองสำรวจอัปกิริยาของคนตรงหน้าก่อนจะพูดต่อ

     

     

    ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านายคือคนที่มาพบกับคุณฮันคยองในวันนั้นจริง ๆ  ยิ่งเห็นนายอยู่ใกล้ฮยอกแจผิดปกติแบบนั้นก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก  ถึงนายจะเจ้าเล่ห์จอมหลวกลวง  แต่การที่นายร้องไห้ขอความตายต่อหน้าฉันเมื่อกี้...มันบอกชัดว่านายไม่ได้โกหก  ไม่ได้เล่นละครหรือต้องการความเห็นใจ  เพราะแววตาของนายมันบอกฉันแบบนั้น…”

     

     

    แววตาของคนสิ้นหวังต่อโลกนี้

     

     

    ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะมีแต่ดงเฮกลับมีมัน

     

     

    สายตาคมสีรัตติกาลมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสงสารอยู่ลึก ๆความสงสารที่มาเฟียอย่างเขาไม่ควรจะมี  เพราะหากมีสุดท้ายก็อาจจะเป็นเขาเองต่างหากที่ถูกฆ่า

     

     

    ดงเฮก้มหน้านิ่งก่อนจะยิ้มเหยียดพลางแค่นหัวเราะอย่างสมเพช

     

     

    สมเพชในความอ่อนแอของตัวเอง

     

     

    นายต้องเข้มแข็งไว้สิดงเฮ

     

     

    เพราะคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

     

     

    ใช่  แววตาของฉันมันอาจจะบอกแบบนั้นใบหน้าหวานที่ก้มหน้าอยู่ทำให้ไม่เห็นสีหน้าพูดเสียงเบาบาง

     

     

    “..”

     

     

    แต่ลี ดงเฮจอมอ่อนแอคนนั้นน่ะมันตายไปตั้งนานไปแล้ว!  ตั้งแต่ตอนที่ฉันฆ่าไอนรกนั้นเองกับมือ!!

     

     

    ดงเฮพูดพร้อมสะบัดแขนออกเมื่อรู้สึกได้ว่าพันธนาการมันเริ่มจะหลวม  แล้วหันหน้ามาประชันกับร่างสูงด้วยแววตาแข็งกร้าว

     

     

    ฉันแสดงละครเก่งมั้ยล่ะ  นายโง่เองนะที่เชื่อฉัน  แค่เล่าเรื่องอดีตนิด ๆ หน่อย ๆ นายก็เชื่อฉันจนปล่อยฉันแล้ว  จริงอยู่...ที่มันเคยข่มขื่นฉัน  แต่ทุกอย่างมันกลับตาลบัตรเมื่อวันหนึ่งฉันกลับไปฆ่ามันเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ...

     

     

    ยังจำได้ติดตา

     

     

    กลิ่นคาวคละคลุ้ง

     

     

    เลือดบนฝ่ามือ

     

     

    มือคู่นี้...ที่ถือมีดเอาไว้

     

     

    อิสรภาพ

     

     

    ฉันไม่ได้เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป  กลับโล่งใจซะอีก  พอรู้ว่ามันตายแล้วฉันก็รีบหนีออกมาจากบ้านก่อนที่แม่ฉันจะจับฉันแล้วแจ้งตำรวจ  แต่ฉันก็ไม่มีที่ไปทำให้ฉันเดินเตร่อยู่ข้างถนนจนเจอคุณชินดง

     

     

    หนึ่งเดียวที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตได้จนทุกวันนี้

     

     

    น้ำเสียงอบอุ่น  และมือคู่นั้น

     

     

    มาอยู่กับฉันสิ

     

     

    คุณชินดงรับฉันมาอุปการะไว้  ชุบเลี้ยงฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าหลังจากนั้นฉันเลยตามกวาดล้างเพื่อนชาติชั่วของไอนรกนั้นจนหมด  จนกระทั่งวันนี้  ที่ฉันได้เป็นบอดี้การ์ด  เพราะฉะนั้น…”

     

     

    แก๊ก

     

     

    ฉันจะยอมตายไม่ได้เพราะต้องปกป้องลี  ฮยอกแจ มือบางคว้าปืนออกมาจากกางเกงแล้วจ่อไปยังหน้าอกด้านซ้ายของร่างสูงในชั่งพริบตา  ดวงตากลมโตสงบนิ่งไม่ลังเลต่อการสังหาร  เพียงนัดเดียว  แค่นัดนี้เท่านั้นที่จะส่งร่างสูงไปยังยมโลก

     

     

    ความสงสารต่อศัตรูเป็นสิ่งที่มาเฟียอย่างเราไม่ควรจะมีคิบอม  นายผิดเองที่ไม่ยอมฆ่าฉัน

     

     

    ร่างบางพูดเสียงเรียบ  หากแต่คิบอมกลับยืนนิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้  ดวงตาคมจ้องประสานกับอีกฝ่าย

     

     

    เพราะฉันรู้ว่านายเองก็จะไม่ฆ่าฉัน

     

     

    “…”

     

     

    ใช่  ความสงสารต่อศัตรูเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมี  แต่นายเป็นไม่ใช่ศัตรู  รู้ไหมว่าทำไมท่านชินดงส่งนายมาเป็นบอดรี้การ์ดแทนที่จะเป็นนักฆ่าทั้ง ๆ ที่นายมีจุดอ่อนขนาดนี้เพราะยิ่งมีจุดอ่อนมากเท่าไหร่  ฮยอกแจก็จะยิ่งเสี่ยงอันตรายมากเท่านั้น

     

     

    เสียงทุ้มกล่าวพลางกดมือบางให้ลดปืนลง  ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมลดปืนลงแต่โดยดี

     

     

    ดูเหมือนว่าร่างบางจะเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่

     

     

    ร่างสูงต่างหากที่เป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมดไว้  ดงเฮรู้ตั้งแต่แรกแต่ก็ยังเสี่ยง

     

     

    คิบอมถนัดการต่อสู้แทบทุกรูปแบบโดยเฉพาะระยะประชิดตัว  ชัยชนะของร่างบางจึงเป็นศูนย์  แต่เหตุผลสำคัญที่แพ้ไม่ใช่เหตุนั้น..

     

     

    แต่เพราะสายตาคมคู่นั้นต่างหาก

     

     

    แววตาที่ราวกับอ่านจิตใจของเขาออก  แต่เขากลับอ่านใจของอีกฝ่ายไม่ออก

     

     

    ท่านชินดงส่งนายมา  เพราะนายยังมีจิตใจที่อ่อนโยนรักความยุติธรรม  และปรารถนาดีที่จะไม่อยากให้ใครหลาย ๆ คนมารับชะตากรรมเหมือนนาย  ตั้งแต่ตอนที่นายก้าวออกไปจากห้องของคุณฮันคยองฉันก็ไปสืบประวัติของนายทันที  เป้าหมายของฆ่าของนายส่วนใหญ่คือพวกที่ชอบค้ามนุษย์โดยเฉพาะค้าไปเป็นเครื่องบำเรอ คิบอมอธิบายเสียงเรียบ

     

     

    นายอ่อนโยนเกินไปกว่าจะเป็นนักฆ่าไร้หัวใจดงเฮ  นักฆ่าไร้หัวใจส่วนใหญ่เป็นพวกที่รักสนุกในการฆ่าและลิ้มรสเลือด  ไม่ก็พวกที่ตายด้านต่อโลกนี้และทุกสิ่งทุกอย่างจริง ๆ  แต่นายไม่ใช่

     

     

    ดงเฮยืนนิ่งสิ่งที่ร่างสูงพูดออกมาถูกทุกอย่าง

     

     

    เขาแพ้แล้ว

     

     

    เพราะเขาต่างหากที่อ่อนแอตั้งแต่ต้น  แต่แกล้งทำเป็นเข้มแข็ง...ทั้ง ๆ ที่เขาขี้แยยิ่งกว่าใคร

     

     

    ขี้เหงา...และขี้กลัวมากกว่าใคร

     

     

                ราวกับอ่านใจออก  มือหนาสัมผัสใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบาพลางเชยขึ้นให้ดวงตากลมโตได้เห็นรอยยิ้มเบาบางของร่างสูง   รอยยิ้มที่อยากปลอบใจ..

     

     

                การฆ่าคนไม่ใช่สิ่งที่จะพิสูจน์ว่านายแข็งแกร่งหรอกนะดงเฮ  การมีหัวใจที่งดงามต่างหากที่น่าอิจฉากว่าเป็นไหน ๆ ฉันว่านายเข้มแข็งออกที่พยายามมาถึงจุดนี้ได้ยังไงก็พยายามต่อไปก็แล้วกัน

     

     

                น้ำเสียงทุ้มพูดอ่อนโยน

     

     

                เพียงครู่นั้นที่ร่างบางรู้สึกราวกับหัวใจถูกเติมเต็มและสั่นไหว  ก่อนจะบัดมือของอีกฝ่ายออก  พลางทำตาเขียวใส่อีกฝ่ายอย่างเคือง ๆ

     

     

                เสือกไม่เข้าเรื่อง!!”

     

     

                ร่างบางตะโกนร้องพลางหันหลังแล้วเดินหนีทันที  คิบอมจึงหัวเราะน้อย ๆ อย่างขำขันทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าแดงเลยต้องทำเป็นปากเก่งตะโกนด่าแล้วเดินไปหนีเสียอย่างนั้น

     

     

                จะขึ้นไม่ขึ้น  ถ้าไม่ขึ้นฉันจะออกรถแล้วนะ!” ร่างบางที่ขึ้นขี่จักรยานแล้วร้องลั่น  คิบอมจึงเลิกคิ้วน้อย ๆ พร้อมรีบเดินไปยังจักรยานทันที

     

     

                เร็ว ๆ เซ่!” เจ้าตัวเล็กเร่ง

     

     

                คร้าบ ๆ คุณแม่ดงเฮ

     

     

                มีลูกตัวเท่าควายอย่างนายให้ฉันตายดีกว่า  งั้นฉันจะออกรถแล้วนะ!” เสียงหวานพูดเมื่อร่างสูงซ้อนท้ายเสร็จ

     

     

                เดี๋ยวสิดงเฮ  นายจะขับไหวหรอ ฉันตัวหนักนะให้ฉันขับดีกว่าแล้วนายซ้อน

     

     

                นี่ดูถูกฉันรึไง!?  นั่งเงียบ ๆ ไปเลยไป๊!!”

     

     

                เดี๋ยว  เฮ้ยๆๆ!!  ต้นไม้ข้างหน้า! จะชนแล้ว!”

     

     

                ขับผ่านแล้ว  อย่าพูดมากสิ!  ฉันจะขับเสียหลักก็เพราะปากนายเนี่ยแหละ

     

     

                นายก็มองข้างหน้าสิ! หันมาทำไม!!  จะชนแล้ว!  อ๊ากกกก!!”

     

     

                ชนอะไร  เฮ้ย!  ว๊ากกกกกกกกก!!”

     

     

                โครม!

     

     

                ขอให้ทั้งสองคนจงกลับบ้านปลอดภัยด้วยเถิดเอเมน

     

     

                แต่สุดท้ายแล้ว  ดงเฮก็ลองเก็บเรื่องที่ร่างสูงพูดมาคิดดูแล้วนะ

     

     

                คิดไปคิดมา  อืมมันอาจจะเป็นอย่างที่ไอแก้มแตกมันพูดก็ได้

     

     

                การมีหัวใจที่งดงามต่างหากที่น่าอิจฉาที่สุด

     

     

                ปัญหาที่เขาเคยเจอมันเจ็บปวดสำหรับเขามากก็จริง แต่อาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยด้วยซ้ำสำหรับใครบางคน

     

     

                คนทุกคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน

     

     

                อาจจะเหมือนกันบ้างแต่ก็ย่อมไม่เหมือนกันซะหมดเพราะต่างชีวิตกัน

     

     

                ต่างคน  ต่างความคิด  ต่างมุมมอง  ต่างการกระทำ

     

     

                วันนี้เขาอาจจะเจอเรื่องนี้  ร้องไห้ในวันนี้  แต่ถ้ายอมแพ้ในวันนี้แล้ววันข้างหน้าล่ะ  เขาจะเป็นอย่างไรหากยังสู้ต่อสิ่งพวกนี้ไม่ได้  แล้วอุปสรรคต่อไปล่ะ..

     

     

                จดจำบทเรียนในอดีต  แล้วหากลองย้อนกลับมามองมันเมื่อตอนโตอาจจะเห็นมันเป็นแค่เรื่องขี้ประติ๋วเลยด้วยซ้ำเมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาที่กำลังเจอ  เพราะในแต่ละวันปัญหาที่เราพบอาจจะมีมากมายเกินต้านทานราวกับลมพายุ

     

     

                พร้อมจะพัดวัชพืชผู้อ่อนแอให้ล้มลงได้ตลอดเวลา

     

     

                หากไม่ได้เป็นดอกฟ้า  ก็ขอเป็นแค่ดอกหญ้า

     

     

                ที่ถึงแม้จะล้มแต่ก็ยังคงลุกขึ้นมาใหม่ได้ด้วยตัวเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

    คือว่าแฟร์ได้เน็ตแล้วค่ะ  ก็เลยมาอัพได้ =w=;;

    ตอนนี้อยู่แม่สอดล่ะ

     

    ถึงคราวเล่าเรื่องของแฟร์กับเลข 38

    (3 คือเลขประจำตัวของฮันคยอง  8 คือเลขประจำตัวของฮยอกแจ  38 จึงคือฮันฮยอก)

    มีใครสังเกตมั้ยคะ  เลขซองมาม่าโปรตีนไข่มันเขียนว่า ‘38 ปี  คู่สังคมไทย

    วิ่งมาราธอนของโรงเรียน..แฟร์ได้เลข 038

    นั่งรถมาแม่สอด  แฟร์ได้นั่งรถ 638 – 1

    ลง SF ตอนล่าสุดในบทความอีกบทความแฟร์ลงตอนที่ 38

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดสิคะ!!

     

    ฮันฮยอกเขาเรียลค่ะ!

    ฮันฮยอก Forever  อิอิ

     

    (ไร้สาระเล็กน้อย  แค่อยากเล่าเฉย ๆ กร๊ากกก)

     

    >_________________________<!!!

     

    Love U  reader!!

     

     

    ปล. สีตัวอักษรอ่านกันได้มั้ย?  มันอ่อนไปรึเปล่า

     

     

     

     

    ความคิดเห็นที่ 27 (จากตอนที่ 5)
    อ่า

    คยูมินน่ารักสุดๆ

    คยูจะมีแม่เพิ่มแล้ววววววว  นั้นสิ  แต่แฟร์เสียดายนะ  อยากให้คยูมีแฟนมากกว่า ;_;  ออิ

    Name : kyu [ IP : 125.25.26.54 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 14 เมษายน 2552 / 13:04

    ความคิดเห็นที่ 26 (จากตอนที่ 5)
    เกือบเคลิ้มเลย  โอ้~~

    แหมๆจาจูบก้อไม่จูบสักที

    ด๊องจายูริก่าฮยอกจิงๆหรอเนี้ย  นั่นสิ   แล้วอยากให้ด๊องยูริไหม? ฮ่าๆๆ

    5555.
    Name : naezii-oaezii< My.iD > [ IP : 117.47.249.210 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 12 เมษายน 2552 / 14:51

    ความคิดเห็นที่ 25 (จากตอนที่ 5)
    เจอฮันฮยอกแบบที่ชอบแล้วววววววววววว  ดีใจด้วย  แปะๆๆ



    ท่าทางเรื่องจะเศร้าได้อีก. กลัวนะเนี่ย  มันเศร้าแน่ค่ะ..
    แต่อยากอ่านต่อมากเลยค่า  
    จริงหรอ >//<!
    Name : moji [ IP : 58.9.67.182 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 12 เมษายน 2552 / 10:17

    ความคิดเห็นที่ 24

    น่าจะจูบไปเลย...เสียด้ายจัง  นั่นสิ  ทำไม๊ทำไม!?

    มินปลุกได้ถึงใจมากลูก  อิอิ  คราวหน้าเอาหนักกว่านี้ดีมั้ย?  ฮ่าๆๆ

    ด๊องอย่าลังแกฮยอกน๊า...   รังแกอะไร๊ O_O!?

    ฮยอกน่ารักเกิ๊นนนนนนน  ของมันแน่

    อัพๆๆๆๆๆ........ชอบ..ชอบ

    สู้ๆๆๆๆๆน่าคร๊าพี่....  จ้า  ขอบใจจ้ะ

    Name : Hyuk_ki< My.iD > [ IP : 125.27.150.148 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 11 เมษายน 2552 / 16:24

    ความคิดเห็นที่ 23 (จากตอนที่ 5)
    ซองมินปลุกกี้ได้สะใจมากก

    55+

    มีหวงด้วยวุ้ย ไม่ต้องห่วงหรอกมินนี่

    ไรท์เตอร์ไม่มีทางให้เกิด มินคยูได้ รับรอง (ใช่มั้ยค่ะ แฟร์ - -*)  กำ..รู้ทันอีก  มีสิทธิ์นะเพราะคยูออกแววเคะเยอะ ;_;    /me โดนคนอ่านเตะ

    ด๊องต้องเจอคิมคิปราบซะแว้วว งานนี้มีคิเฮ 55+  แน่นอน  กร๊ากๆๆ  สมหวังไม่สมหวังก็อีกเรื่อง..

    เสียดาย ฮันฮยอกน่าจะจูบกัน อุตส่าห์ลุ้น  ไม่ด้ายยย~!!  จูบแรกของฮยอกต้องเป็นของแฟร์ (!?)

    ชอบป๋าหื่นๆอ่า เพราะเวลาฮยอกเขิลน่ารักที่สุด >///<

    แต่ก็ดีแล้ว...มั้งนะ -*-

    แต่ถ้าเป็นงี้..เอ็นซีฮันฮยอกก็ริบหรี่อ่าสิ... TT^TT (ไอ่หื่นเอ๊ย...)  อ่า  ไม่ริบหรี่หรอก  เร็วๆนี้แหละ  ฮา

    ปล่อยมันบ้าไป สู้ๆ นะค่ะแฟร์  จ้า  งั้นแฟร์บ้าด้วยคน  ฮ่าฮ่าฮ่า
    Name : yaoisang [ IP : 125.27.22.120 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 11 เมษายน 2552 / 09:13

    ความคิดเห็นที่ 22 (จากตอนที่ 5)

    แง๊งงงง>O<~!!
    ตากี้!!! จะหึงอะไรขนาดนั้นไม่ทราบคะ!? เดี๋ยวจะเรียกริคกี้มาเคลียร์=_=++    อุ้ย  เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่มินริคนะจ้ะ  ฮ่าๆๆ
    อ๊ากกก..
    เริ่มบ้าไปกับฮันฮยอก=.,=   บ้าตั้งนานแล้วนี่ - -
    ป๊าคะ...อยากจูบก๊ะจูบเลยจิ =..= คริคริ
    แต่อ่า...ตกลงเป้นพี่น้องรึไม่แท้ง่ะ??  
    ไม่แท้จ้ะ  ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดเลย  แค่พ่อกับแม่แต่งงานกันเฉยๆ
    แอบงง

    อ๊ากกก
    อัพต่อไวๆน้อ =w=~!  จ้า


    PS.  !..Alone_Wolf..! + นู๋อาริกะจัง >+< {[ RiKa ]} = ริกะ or วูลฟ์ = ME!! คนเดียวกันน้อ =.,=
    Name : !..Alone_Wolf..!< My.iD > [ IP : 124.121.148.76 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 10 เมษายน 2552 / 20:44

    ความคิดเห็นที่ 21 (จากตอนที่ 5)

    ดะ..ด๊องจะเมะซะงั้นอ่ะลูก!!   O_O!!

    อย่าเลยยย หุ่นกะหน้าไม่ให้ 555+  ฮ่าฮ่า  แต่เฮคิแฟร์ก็แต่งมาแล้วนะ...

    ป๋านะป๋าพลาดโอกาสงามๆอย่างงี้ไปได้ยังไงงงงง   นั่นสิ!  ใช้ไม่ได้เลยยย

    เรื่องนี้จะเศร้ามั้ยเนี่ย อย่าเศร้าเลยน้าแฟร์ (กระพริบตาปริบๆ)  อ่านเองสิจ้ะ  ฮ่าฮ่า

    จะรอนะจ้ะ^^  ขอบใจจ้ะ >//<


    PS.  Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry
    Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.21.165 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 10 เมษายน 2552 / 19:06

    ความคิดเห็นที่ 20 (จากตอนที่ 5)

     เสียวเศร้านะเนี่ย  อ่า  ไม่บอกดีกว่า

    ไรเตอร์  มาอัพอีกไวไวเนาะ  อัพแล้วๆ  ^^

    Name : mapegun< My.iD > [ IP : 125.27.90.87 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 10 เมษายน 2552 / 16:00

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×