ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นฉบับบารามอส

    ลำดับตอนที่ #6 : เจ้าหญิงเงือกโดยเรนอนและคิล..ฉบับหวานซึ้ง

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 52


    ***หมายเหตุ***  ทีนี้เราย้ายถิ่นฐานลงไปในใต้ทะเลลึกกันเลยดีกว่า  นึกสภาพคิลลี่เป็นเจ้าชายหล่อๆ  กับเรนอนที่เป็นเงือกน่ารักๆ  ส่วยเออซูล่าจะเป็นใครรเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีเหอะ=-=" ที่อยากให้ติดตามคือความรักอมตะระหว่างเรนอนและคิลที่หวานซึ้งมากๆๆ  ระวังมดกัดละกัน

    การ์ตูนวอสดิสนี่เค้าว่ายังไงก็ไม่รู้ล่ะ  ไอ้เราก็ลืมๆไปแล้วซะล่วย...เอาเป็นว่าเหมือนไม่เหมือนอย่าว่ากันล่ะ   

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ บนบก ( ไม่รู้จะสรรหาคำให้มันสวยหรูยังไง)

    " โถ่ลูก  เห็นแกประเทศของเราเถอะนะ  ยังไงลูกก็ต้องแต่ง " คิงบนบก(หาคนมารับบทนี้ไม่ทัน)เดินตามลูกชายหัวแก้วหัวเเหวนต้อยๆเหมือนพระเอกนางเอกหนังเเขกวิ่งจีบกัน  ออกจากห้องนู่น...มาโผล่เจอกันที่ห้องนี้ เสียงพร่ำพรรรณาขอร้องไม่ขาดปากของผู้เป็นพ่อเพื่อให้ลูกชายไปแต่งงานกับเจ้าหญิงประเทศข้างเคียง

    " ไม่อ่ะพ่อ  ยังไงผมก็ไม่แต่ง...ผมไม่ได้รักเค้านี่" เจ้าชายคิลเถียงพ่ออย่างหัวเสียพลางเดินหนีพ่อจอมตื๊อ

    " ลูกก็ยังไม่ได้มีคนรัก...เเล้วเจ้าหญิงเค้าก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่  ออกจะน่ารักน่าชัง  ถ้าลูกมีคนรักอยู่แล้วพ่อจะไม่บังคับลูกเลย"

    " แน่ใจได้ไงฮะว่าไม่มีคนรัก " 

    " อ่าว....ลูกไม่เคยข้องเเวะกับใครที่ไหนนิ  ช่วยงานพ่ออยู่ทุกวัน  พ่อดูออก"

    " ไม่ใช่ผม  เจ้าหญิงเฟลิโอน่าที่พ่อจะให้ลูกแต่งงานด้วยต่างหาก...ผมกลัวเจ้าชายคาโลมาฟันหัวเราเอาเปล่าๆน่ะพ่อ "  คิลเล่นประโยคที่ทำเอาคนไม่เกี่ยวข้องทั้งสองสะดุ้งเฮือก

    ก็ผู้กำกับแจ้งมาว่าไม่มีบทเขาและคาโลในละครเรื่องนี้
    ไอ้นี่....มันเข้าข่ายเขียนบทเองโดยพละการนี่หว่า?
    ตายๆๆ  แล้วถ้ามันหาแฟนไม่ทันถวายพ่อมัน....
    เธอมิต้องแต่งงานกับมันหรือนี่?

    ว่าแล้วเฟรินก็เดินไปหาผู้กำกับให้ผู้กำกับสั่งคัทกล้อง  แต่ว่าผู้กำกับเสียดายฟิลม์ที่ต้องไปซื้อใหม่  สู้เอาเงินมาทบจ่ายค่าอาหารเพื่อนนักเเสดงข้างกองถ่ายดีกว่า  เฟรินและคาโลจึงต้องมายุ่งกะเรื่องนี้โดยช่วยไม่ได้

    " พ่อว่าไม่อ่ะนะ  เห็นว่าเค้าไม่ได้ประกาศหมั้นกัน...เอวิเดสเพื่อนพ่อเค้าก็จะยกลูกสาวให้ด้วย  พ่อก็ว่าไม่น่ามีปัญหา..."

    " โถ่พ่อ  เล่นเเบบนี้เดี๋ยวผมก็หนีไปทำอาชีพนักฆ่าซะนี่ " คิลขู่พ่อ

    " เอางี้ลูก  พ่อให้ลูกไปพักผ่อนสักเดือนดีกว่า   เอาเกาะส่วนตัวของพ่อนั่นล่ะ....แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที..." ผู้เป็นพ่อยื่นข้อเสนอ

    " ดีฮะๆ แต่มีข้อแม้นะฮะว่าถ้าผมเกิดมีเเฟนขึ้นมา...พ่อจะไม่ขัดขวางผม"

    " โถ่ๆๆ  ไอ้ลูกหมา...เรื่องแบบนี้ลูกชายพ่อไม่ใช่คนไวไฟขนาดนั้น  แต่ถ้าลูกพิสูจน์ได้ว่ารักแท้ของลูกมีจริงพ่อก็ไม่ห้าม"

    " จริงเหรอฮะ?  "

    " อือ  แต่ลูกต้องเอาเฟลิโอน่าไปด้วยนะลูก....แล้วอีก 1 เดือนมาเจอกัน "

    และหลังจากนั้น  เรือสำเภาลำใหญ่ก็บรรจุกว่ายี่สิบชีวิตแทนที่จะเป็นสองตามความคาดหมายของคิงบนบก....เพราะนอกจากเจ้าหญิงเฟลิโอน่าแล้ว  ยังมีเจ้าชายคาโล  โร เซวาเรสและเพื่อนๆในป้อมอัศวินทั้งหมดติดตามไปด้วย

    รับรอง  ทริปนี้เจ๊งชัวร์!!!

    ++**+**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ เมืองใต้น้ำ

    อันมีคิงบาโรเป็นคิง  และเจ้าหญิงเงืองเรนอนผู้สิริโฉม  ในเมืองใต้น้ำมีกฎว่าห้ามพลเมืองทุกคนขึ้นไปเหนือน้ำ  และห้ามให้มนุษย์รู้เด็ดขาดว่ามีอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งดำรงชีวิตอยู่ใต้น้ำ

    แต่เจ้าหญิงเรนอนก็ชอบแอบคิงบาโรไปนอนอาบแดดอยู่ที่เกาะส่วนตัวของคิงบนบกบ่อยๆเพราะคิงบนบกแทบจะไม่เคยมาเหยียที่นี่เลย

    และแล้ว   คณะทัวร์แห่งความหายนะก็มาถึงเกาะ....

    สมาชิกป้อมอัศวินวิ่งลงเรือเหมือนป่าช้าแตกก็ไม่ปาน  นำหน้ามาโดยเจ้าหญิงแห่งความมือและเจ้าชายเจ้าของเกาะ  ส่วนคนที่เต็มบาทที่สุดและเต็มบาทรองลงมาก็ช่วยกันขนสัมภาระ

    หลังจากได้สถานที่อยู่อันเป็นที่เรียบร้อย  สมาชิกส่วนหนึ่งก็นุ่งผ้าถุงมาเล่นตีโป่งอยู่ด้านหน้าเกาะ   เฟรินและคาโลกำลังบริหารความหวานอยู่ด้านหลังเกาะ...ส่วนเจ้าของ....กำลังสำรวจความเสียหายโดยทั่วไปของราชวังในเกาะแห่งนี้

    มาดูทางด้านฝั่งของพวกที่ตีโป่งกันอยู่หน้าเกาะ  เผอิญได้ประจันหน้ากับเจ้าหญิงเงือกน้อยของเราที่ไม่รู้ว่ามีคณะทัวร์มา....

    " เฮ้ยยยพวกเรา!!!  มีหญิงสาวสวยลอยคออยู่ทางโน้น  ไปช่วยกันเร็ว!!!"

    คนที่เห็นเรนอนก่อนใครก็คือไอ้คนที่มันมีตาอยู่ข้างเดียว  และเรนอนก็ว่ายหนีไม่ทันเพราะตะลึงกับความทุเรศของเหล่าทโมนทั้งหลายที่นุ่งผ้าถุงลงน้ำทะเล

    สมาชิกชายกว่าสิบคนกระชับผ้าถุงให้มั่นแล้วโดดตูมลงน้ำกะจะเป็นวีระบุรุษ  ทั้งประคบประหงมเรนอนอย่างดีทันทีที่ว่ายไปถึงตัวหมายจะพาขึ้นฝั่ง

    " ตายแล้ว  น้องสาวเป็นคนแถวนี้เหรอ?  ทำไมมาว่ายน้ำคนเดียวล่ะครับ"

    " ตรงนี้อันตรายน่า  ขึ้นบกไปกะพี่นะ..พี่อาบน้ำให้ "

    " อะ  เอ่อ..ไม่ดีกว่าค่ะ  คือเดี๋ยวพ่อว่า" เรนอนพยายามปฏิเสธ

    " อ่าว...พ่อดุหรอกเหรอ  งั้นมีอะไรเรียกพวกพี่ได้นะครับ  พวกพี่ขอตัวขึ้นวังก่อน " ครี๊ดพูดอย่างวางฟอร์มทั้งๆที่ก็ไม่ใช่วังตัวเองเล้ย

    แล้วสมาชิกทั้งหมดก็แห่ขึ้นจากน้ำ   ก่อนจะไปด้วยมารยาทอันดีก็เลยหันมาโบกมือให้สาวน้อยคนนั้นเสียหน่อย  แต่ว่า...

    " พวกเอ็งเห็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือเปล่า...." 

    " เอ็งก็เห็นเหรอ? "

    " งั้นนับพร้อมกันนะ   หนึ่ง สอง ซั้ม!!! " 

    " อ๊ากกกกกกกกกกกกกกซ์   คิลโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย....น้องเค้ามีหางเป็นปลาว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!! "

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    " พวกแกโมเมไม่เข้าเรื่อง  นี่มันปีไหนๆแล้ว...เบลอไม่เข้าเรื่อง " คิลปรามเพื่อนๆที่นังตัวสั่นงันงกทั้งๆที่ยังนุ่งผ้าถุง

    " จริงๆนะคิล  ถึงฉันจะจำหน้าน้องเค้าไม่ได้  แต่ชัวร์ว่าน้องเค้ามีหางเป็นปลา " เจคกล่าวพร้อมเเบคกราวด้านหลังที่ช่วยกันพยักหน้า

    " พวกนายจะบ้าเรอะ...ถ้ามันมีจริงๆไม่รอให้พวกเซ่อๆอย่างแกมาเจอหรอก  ป่านนี้ที่วัดแถวบ้านฉันคงมีออกโชว์บ้างหล่ะ " เฟรินที่ปากหมาไม่เลิกด่าเพื่อนๆต่ออย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาเชือดเฉือน

    " เอาล่ะๆ  ฉันจะยังไม่ปักใจเชื่อพวกนายจนกว่าฉันจะได้เห็นมันจริงๆ " คิลเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ

    ไม่เข้าใจรตัวเองเล้ยย....เอาไอ้พวกนี้มาทำซากอะไร
    แต่ก็ช่างเถอะ  ขาดใครสักคนไปชีวิตเขาก็คงเงียบเหงาน่าดู...

    คิลถอนหายใจอีกเฮือกด้วยความสมเพชก่อนไล่ให้แต่ละคนไปทำการเปลี่ยนผ้าถุงก่อนที่จะเป็นปอดบวมตาย=-="

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ ใต้ท้องทะเล

    เจ้าหญิงเงือกของเราได้ทำการปรึกษาเพื่อนสาวในวังอันได้แก่มาทิลด้าและเเองเจลิน่าว่าควรจะทำอย่างไรในการที่จะหนีออกนอกวังและทำให้พวกมนุษย์ยอมรับตัวเองได้

    " โถ่ๆๆๆเรนอน  เอาอย่างงี้ไหม...ฉันว่ามีคนๆหนึ่งน่าจะช่วยเธอได้ " แองจี้เสนอ

    " ใครเหรอจ๊ะ" เรนอนถามด้วยความดีใจ

    เธอเบื่อชีวิตใต้น้ำเต็มทีแล้ว...
    เธออยากไปใช้ชีวิตบนบก....อยากทำความรู้จักกับมนุษย์ให้มากกว่านี้


    " แม่หมอเออซูล่า...."

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++
     ณ ตำหนักแม่หมอเออซูล่า

    " อยากเป็นมนุษย์เหรอจ๊ะ  องค์หญิง" เสียงแหบพร่าของแม่หมอเอ่ยถามเรนอนอย่างที่เธอไม่กล้าสบตา เอาแต่พยักหน้าแล้วก้มหน้าอยู่อย่างงั้น

    " ฉันช่วยเธอได้นะ  แต่ยามันมีผลข้างเคียง...เธอยังต้องการมันอยู่อีกเหรอ?" เเม่หมอถามย้ำ  เรนอนก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาพยักหน้าเช่นเดิม

    " นี่พวกเธอเป็นอะไรกัน  ทำไมไม่ยอมมองหน้าฉัน? " แม่หมอเอ่ยด้วยความไม่พอใจพลางสะบัดหางปลาหมึกยักษ์อันเป็นร่างกายท่อนล่างของเธอไปมา

    " ถ้าพวกเธอสามคนไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา...อย่าหวังว่าฉันจะช่วย" แม่หมอยื่นคำขาด  ทำให้ทั้งสามคนรีบเงยหน้า...ก่อนที่จะพบกับความจริงยากทำใจ

    คนเเคระ?  กวาง?  คนเเคระเขากวาง?มันคือตัวอะไรกันแน่?
    หน้าตาละม้ายคล้ายปลาไหลไลด์แฟ็บ...ทาปากแดงๆเหมือนกินเลือดแมว
    มีร่างกายท่อนล่างเป็นปลาหมึก
    มันยากทำใจ....ที่จะกลั้นหัวเราะ!!!

    เอาเป็นว่าให้ท่านผู้อ่านนึกภาพโกโดมของเราในสภาพครึ่งปลาหมึกยักษ์...พยายามนึกให้ออกเพราะมันมีผลโดยตรงกับอรรถรสในการอ่าน

    " โอเค...สิ่งที่องค์หญิงต้องทำคือทายานี้ที่หางต่อหน้าพระจันทร์  แล้วองค์หญิงก็จะมีร่างกายเหมือนมนุษย์ทั่วไป" โกโดมยืดหางปลาหมึกออกไปหยิบยาข้างฝามาส่งให้เรนอน

    " สิ่งที่ต้องแลกกับยานี้ก็คือเสียงร้องเพลงอันไพเราะของเธอ..องค์หญิงจะไม่สามารถร้องเพลงได้อีก   ข้อสองคือ...องค์หญิงจะโดนน้ำไม่ได้  หากขาขององค์หญิงโดนน้ำเมื่อไหร่มันจะกลับสู่สภาพเดิมทันที" เรนอนพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ...ก่อนลาแม่หมอกลับไปทำความฝันให้เป็นจริง

    ++**++**++**++*++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ ชายหาดหน้าเกาะสาดส่องทั่วบริเวณด้วยเเสงจันทร์งามๆ

    เรนอนเดินเล่นเอาเท้าสัมผัสทรายนุ่มๆบนชายหาดด้วยความสุขใจเพิ่งรู้ว่าการมีประสาทสัมผัสที่เท้ามันรู้สึกดีแบบนี้

    มีความสุขจังเลย...
    มีหาดทราย  สายลม  สองเท้า....(แบบอัลบั้มเเรกของพี่เบิร์ด^_^)
    ฝันของเธอเป็นจริงแล้ว

    เรนอนสุขใจจนอยากระบายออกมาเป็นเสียงเพลงอยางที่เธอเคยทำ...แต่เมื่อจะเปล่งเสียงร้องแห่งความสุข

    เสียงของเธอก็หายไปกับเกลียวคลื่น....

    นี่คือข้อแลกเปลี่ยนกับขาของเธอที่แม่หมอเออซูล่าโกโดมพูดไว้....เรนอนรีบเดินขึ้นจากหาดจนถึงโขดหินที่เกลียวคลื่นสวยๆซัดไม่ถึงแล้วนั่งลง  นับจากคืนนี้ชีวิตของเธอคงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลแล้วสินะ....



     

    นั่นใครน่ะ เสียงถามขู่กรรโชกอย่างไม่เป็นมิตรทำเอาเรนอนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ  คนเค้ากำลังเหม่อลอยเคลิ้มๆ กขค ตลอดกาลแม้มันจะเปลี่ยนโลเกชั่นเป็นเจ้าชายแล้วก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม

     

    คิลขอตัวจากเพื่อนๆออกมาเดินเล่นหลังอาหารที่ชายหาดไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีผู้ก่อการร้ายใจโฉดติดตามมาถึงนี่  คิลกระชับดาบเข้ามือมั่นหมายว่าเจออะไรไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะก็....พ่อจะฟันให้คอขาดเชียว.....

     

    อะไรว้า....อุตส่าห์หนีมาเกาะแล้วนะเว้ย

    ยังจะตามมารังควานกันอีก...อย่างนี้มันน่าตื้บนัก

     

    แล้วความตั้งใจสูงสุดของคิลที่จะได้เจอผู้ก่อการร้ายใจโฉดก็เป็นอันพังครืน...เมื่อผู้ก่อการร้ายทีหวังจะพบให้ได้ฟันออกกำลังก่อนนอนกลายเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง  นัยน์ตาสีม่วงอ่อนๆที่มีแววหวาดระแวงสิ่งรอบตัว  รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม.....

     

    ถึงไม่ใช่คนความรู้สึกไวอย่างครี๊ด  หรือหื่นจัดอย่างเฟริน? หญิงสาวตรงหน้าก็ทำให้ความรู้สึกภายในใจตะโกนเป็นเสียงเดียวกันได้ว่า

     

    น่ารัก!!!

     

    คิลรีบเก็บดาบที่ทำให้หญิงสาวตรงหน้าตกใจลงอย่างรวดเร็ว  คิดเลยเถิดไปถึงขนาดว่า...บางทีนะบางที  เขาอาจจะหาแฟนไปถวายท่านพ่อได้ก่อนหนึ่งเดือนก็เป็นได้=w=

     

    ถึงกระนั้นสัญชาตญาณในตัวก็บอกไว้ว่าคนตรงหน้ายังคงไว้ใจไม่ได้  อาจเป็นนกต่อของพวกผู้ก่อการร้ายก็ได้...ดังนั้น  จนกว่าจะมั่นใจว่าคนตรงหน้าไม่มีพิษภัยอะไร  เขาจะไม่ยอมเชื้อเชิญเขาวัง....

     

    เธอเป็นใคร  มาจากไหน? คิลถามย้ำอย่างไม่ไว้ใจ

     

    อะ เอ่อ...ฉันชื่อเรนอนค่ะ  แบบว่า...เอ่อ..หลงทางมา เรนอนตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ  แม้ว่าสายตาคนตรงหน้าจะมีกระแสอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...แต่โลกบนผืนน้ำมันยังดูกว้างใหญ่สำหรับเธอนัก

     

    งั้นเหรอ?...แล้ว  ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอเลยเหรอ.... คิลถามพลางกวาดสายตามองไปรอบๆหาด

     

    ไม่มีแล้วค่ะ  ฉันหลงมาคนเดียว..ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ เรนอนตอบพลางก้มหน้างุด..กลัวคิลลี่ของเราจะจับโกหกได้

     

    ฉันคือเจ้าชายคิล..เป็นเจ้าของเกาะและวังแห่งนี้  ถ้าเธอไม่รังเกียจ...มาพักกับพวกเพื่อนๆฉันก่อนก็ได้... คิลแย้มรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรพลางเชื้อเชิญให้เข้าวังเมื่อเห็นคนหน้าตาน่ารักตรงหน้าไม่มีพิษภัยอะไร.....มันก็ไม่แปลกที่คิลลี่ของเราจะใจดีกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักอย่างเรนอน

     

    ค่ะ เรนอนรับคำอย่างว่าง่ายพร้อมลูบท่อนแขนไปมาเพราะอากาศเริ่มหนาวอาภรณ์ทีใส่ก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทั้งหมด  ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเกินร้อยคิลจึงถอดเสื้อนอกของตัวเองให้ซึ่งเรนอนก็รับมันไว้อย่างว่าง่าย

     

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++

     

      ด้านในวัง  บริเวณก๊งเหล้ารอบดึกของสมาชิกป้อมอัศวิน

     

    อะไรกันวะนั่น.....

    คนที่เพิ่งเดินเข้ามานั่นคิล....แล้วผู้หญิงนั่นใคร?

     

    คำถามที่ไม่มีใครกล้าถามคิลเมื่อเขาเดินนำหน้าเจ้าหญิงเงือกในคราบมนุษย์เข้ามา  โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหญิงเงือกคนที่ว่ามีหน้าตาดีและมีซัมธิงรองบางอย่างที่น่าสงสัย 

     

    ประการแรก  พอกินข้าวเสร็จไอ้คุณชายคิลก็รีบออกไปเดินเล่นนอกวังอย่างกับนัดใครไว้  กลับมาอีกทีพร้อมของแถมหน้าตาน่ารัก...น่าสงสัยว่าคิลมันไปบวงสรวงน้องเขาขึ้นมาจากทะเลหรืออย่างไร?

     

    ประการที่สอง  น้องคนสวยที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังคิลนั่นมาจากไหน...ถึงใครหลายๆคนที่เล่นตีโป่งเมื่อตอนกลางวันจะคุ้นหน้าคุ้นตาน้องเค้าอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าไปเจอน้องเค้ามาจากที่ไหน...

     

    ประการที่สาม  มีความเป็นไปได้ว่าไอ้คุณชายคิลมันไปลากน้องเค้าขึ้นมาจากทะเลหรือไม่ก็ต้องมีอะไรมากกว่านั้น...ก็เรนอนเล่นเปียกไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า  แถมเสื้อตัวใหญ่ที่เธอใช้คลุมตัวอยู่นั่นมันก็ของคิลชัดๆ   นี่ถ้าไม่มีอะไรติดตัวมาเลยข้างนอกก็ต้องอากาศหนาวมาก....คิลถึงต้องเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้

     

    มีความรู้สึกว่า....มันบังเอิญไปหน่อยมั้ง!!!

     

    แต่ด้วยเหตุที่ว่าที่นี่คือนิวาสถานโดยชอบธรรมของคิลมันและทุกคนก็ยังคงอยากมีที่ซุกหัวนอน  สมาชิกทั้งหมดจึงได้แต่มอง....และหวังว่าคิลมันจะบอกอะไรๆให้กระจ่างเอง

     

    พวกนายมองอะไรกันนักหนา...คืนนี้อยากนอนตากน้ำค้างเหรอ? คิลยั่วให้เพื่อนๆได้เสียวสันหลังเล่น  

     

    แหม...นานๆทีจะได้เล่นบทเจ้าชาย

    ได้ออกคำสั่งให้มันครึ้มอกครึ้มใจหน่อย....

    งานนี้มันส์พ่ะย่ะค่ะ!!!

     

    ปละ ๆ เปล่าคิล....พวกเราแค่น้อยใจนิดหน่อยที่นายลืมพวกเรา เจค...จอมใจกล้าแห่งป้อมโยนเหรียญถามทางคนแรก

     

    น้อยใจ? ลืม?.....ฉันลืมอะไรกับพวกนายมิทราบ  คิลทวนคำถามหน้าตายทั้งๆที่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรไม่ได้นอกจากสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังเขานี่

     

    ลืมแนะนำน้องด้านหลังนายให้พวกเรารู้จัก... โคลว์ ....หน่วยกล้าตายคนที่สองเอ่ยถามอย่างน่าให้โล่เกียรติยศ

     

    อ้อ....ยัยนี่ชื่อเรนอน   เห็นว่าหลงทางมาก็เลยพามาพักด้วย คิลตอบเนิบๆเร่งต่อมความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก

     

    โห่....... เพื่อนๆทั้งหลายถอนหายใจด้วยความเสียดายและอยากสอนบทเรียนดีๆให้เพื่อนคนนี้ไว้ใช้กับผู้หญิงบ้าง

     

    พวกนายจะโห่หาอะไร...คืนนี้น้ำค้างน่าจะแรงด้วยนะ คิลเปรยๆอย่างเป็นต่อ...จนเพื่อนๆต้องส่ายหน้ากันหวืดๆพลางก๊งกันต่ออย่างไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้วุ่นวาย

     

    คนอย่างคิลไม่ได้รวดเร็วถึงขนาดชิงลงมือตั้งแต่วันแรกหรอกน่า...

    ถ้าน้องเรนอนมาพักกับเราหลายวันก็ยังมีโอกาสทำความรู้จักอีกนาน...

    เมื่อคิดได้ดังนั้น...สมาชิกก๊กกินนอนจึงไม่ได้ถามไถ่สิ่งใดต่อ

     

    แต่ความสงบสุขย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเฟรินติดตามมาบนเกาะนี้ด้วย...ถึงแม้ว่าคาโลจะพยายามดึงแม่ตัวยุ่งไว้ด้วยวิธีการต่างๆจนเพื่อนๆต้องอิจฉาตาร้อน

     

    วันๆมันเล่นไม่มาหาเพื่อนหาฝูง...

    ขลุกอยู่กับคาโลทั้งวัน...มิน่า  คิลมันถึงไม่ยอมแต่งงานด้วย

    ไม่ได้รังเกียจ

    แต่ขืนแต่ไปมีหวังไม่ได้ตายดีแหงมๆ=w=

     

    เพื่อนๆโว้ยยยยยยยยยยยยย เฟรินปรากฎตัวพร้อมเสียงอันชวนปวดหัวว่าอีกไม่นานเพื่อนๆจะได้มีปัญหาประลองปัญญากัน  แม้แต่คาโลยังต้องกุมขมับจนครี๊ดต้องรินน้ำย้อมใจให้แก้วใหญ่

     

      ฉันเริ่มจะเบื่อแล้วว่ะคิล....บนเกาะนี้มันน่าจะจัดกิจกรรมอะไรบ้างนะ เฟรินบ่นกระปอดกระแปด

     

    ฉันไม่เห็นจะเบื่อเลยเฟริน  กิจกรรมบนเกาะนี้พวกฉันหามาเล่นเรื่อยๆไม่เห็นเบื่อ...ถ้าจำไม่ผิดฉันกะแกก็มาถึงเกาะนี้พร้อมๆกันไม่ใช่เหรอว้า.... โร เซวาเรสที่ดื่มน้ำย้อมใจไปพอกรึ่มๆกำลังดีเอ่ยดักคอเฟริน

     

    หรือว่าลีลาของคาโลมันจำเจเหรอวะ...แกถึงได้เบื่อเอาง่ายๆ ซอว์โรว์...หน่วยกล้าตายลำดับที่สามเอ่ยอย่างไม่กลัวอากาศหนาวและผ่าปฐพี  เพราะตอนนี้คาโลโดนครี๊ดมอมเหล้าจนสลบไปแล้ว......

     

    จะบ้าเหรอพวกแก...วันๆคิดแต่เรื่องอกุศล เฟรินเริ่มเลือดขึ้นหน้า (ด้วยความอาย)

     

    พวกฉันแค่คิดเว้ย...แต่แกน่ะทำ ทิวดอร์เริ่มผสมโรงรายการเมื่อนานๆทีจะได้มีโอกาสแซวโดยไม่ถูกเฉาะหัว

     

    ในขณะที่เฟรินกำลังจะได้โชว์ผ่าศพเดี่ยวโดยไม่มีห้องแช่แข็งส่วนตัว   ซีบิลผู้ประสานร้อยร้าวก็เอ่ยขัดขึ้นอย่างหวังว่าจะพอช่วยจรรโลงเหตุการณ์ให้ดีขึ้น

     

    เดี๋ยวก่อนครับทุกคน...คือว่าผมได้เดินสำรวจวังอย่างคร่าวๆมา  ทราบว่าที่นี่มีห้องคาราโอเกะด้วย ...ผมเพิ่งลองเครื่องแล้วก็ลงเพลงใหม่ๆไว้ให้แล้ว   พรุ่งนี้เราจะได้ไปใช้งานกัน ซีบิลแย้มรอยยิ้มเมื่อเห็นทุกคนให้ความสนใจกับประเด็นนี้มาก...อย่างน้อยแม่บ้านที่นี่ก็ไม่เสียเวลาเก็บกวาดสถานที่หลังการออกกำลังกายของเฟริน

     

    ฮ้า....ที่นี่มีห้องคาราโอเกะด้วยเรอะ  ทำไมแกไม่บอกฉันวะคิล...อ้าว   เฮ้ย!!! “ เฟรินหันไปคาดโทษกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมแต่ก็ต้องขชะงักพร้อมอุทานอย่างไม่สมกุลสตรีที่สุด  นั่นใครวะ...น่ารักชิบ!!”

     

    เพื่อนๆแต่ละคนต้องซดน้ำย้อมใจกันอีกคนละแก้วใหญ่กับนิสัยที่แก้ไม่ได้สักทีไอ้เรื่องปากไปก่อนสมองของเฟริน  คำพูดที่คิลต้องอมยิ้มแล้วเฉลยคำตอบก่อนที่เฟรินจะได้เริ่มบทเรียนจีบสาว

     

    น่ารักดีใช่มะ...ดีแล้วเฟริน  เพราะเรนอนคนนี้...จะเป็นรูมเมทแก...

     

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

     

    ณ ห้องนอนของสองสาว

     

    เฟรินกำลังเดินพล่านเป็นหนูติดจั่นอย่างคิดมาก  ไม่ได้รังเกียจอะไรเรนอนแม้แต่นิดเดียว...แต่กลับรู้สึกประหลาดใจเมื่อไล่เรนอนไปอาบน้ำ

     

    เรนอนเข้าไปในห้องน้ำแต่โดยดี....กลับออกมาเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน

    แต่เธอสงสัย  ทำไมผ้าเช็ดตัวไม่เปียกน้ำ...

    ผมเผ้าเรนอนก็แห้งสนิทดีไม่มีเปียก...น่าสงสัยว่าเธอเข้าไปทำอะไรกันแน่

     

    แต่ความสงสัยก็ยังคงเป็นความสงสัยอยู่ดี  ไม่กล้าถามออกไปเหมือนมันมีชนักติดหลังบางอย่างที่ทำให้ไม่อย่างถามเท่าไหร่

     

    ....ราตรีแรกผ่านไปอย่างสงบสุข  แต่ไม่รู้จะเป็นแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่...

     

    บริเวณหลังเกาะตอนกลางดึกในคืนนั้น....

     

    ผืนน้ำเรียบลื่นสะท้อนแสงจันทร์นวลสวย.....

    ทันใดก็เกินละลอกคลื่นเบาบาง....แสงจันทร์สวนสะท้อนให้เห็นหนวดปลาหมึกยักษ์สะบัดขึ้นเหนือน้ำแล้วจมหายไป.....

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ ห้องคาราโอเกะในวันต่อมา...

    " มากันเเล้วเหรอวะ...พวกแกนี้ช้าจริงๆ  เดี๋ยวเสียฤกษ์ศิลปินเอกโชว์เดี่ยวหมด" คำพูดน่าเตะออกมาจากปากคนที่ตื่นสายที่สุดในวันนี้  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร....มันก็คือคนผมสีน้ำตาลหน้าตาน่ารัก  กำลังยืนจับไมค์เย้วๆด้วยท่าทีที่ห่างไกลคำว่าผู้หญิงออกไปในขณะนี้

    " เฮ้ยเฟรินจะโชว์เดี่ยวเว้ยเฮ้ย!!! ครึ้มอกครึ้มใจอะไรวะแก...."

    " เออน่า...พวกแกรอดูเพลงแรกก่อนละกัน  มิวสิค!!!"



    ..เธอทำให้ฉันต้องเมื่อยคอ...เธอมาทำให้ฉันต้องเฝ้ารอ
    ก็ได้แต่มองขึ้นไปที่เธอถึงบนฟ้า..
    คนมันเเอบชอบเธอมานาน..เธอก็ยังไม่เห็นมองลงมา  คงต้องออกแรงเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้....

    ถึงเเม้เธอจะสูงเท่าฟ้า  ฉันก็จะดึงลงมาให้สุดมือ...
    เหมือนๆมันจะเอื้อมไม่ถึง..ถึงยังไง  ก็ต้องลอง

    อกหักไม่ว่า  ถ้าไม่ได้รักคงบ้า ก็คนอย่างเธอมันน่า  น่าได้เป็นเจ้าของ...
    อกหักยังได้...ยังดีกว่าไม่ได้ชอบ  จะเป็นจะตายก็ขอเอื้อมให้ถึงหัวใจเธอ...


    " ฮิ้ววววววว...เฟริน  นายเลือกเพลงเปิดได้สะใจมากเว้ย!!" เสียงเพื่อนๆโห่รับกับเพลงของเฟรินและร้องตามกันเป็นทิวเเถว

    มันแน่นอนอยู่แล้วที่จะร้องเพลงเเนวๆนี้ได้...
    เอาเพลงนี้ไปจีบสาวปราสาทขุนนาง..
    โอกาศติดมีถึงร้อยเปอร์เซ็นเต็ม!!

    " ฮิ้ววววววว....เยื่ยมเฟริน!! เอาไมค์มา...ฉันร้องต่อ  มิวสิค!!"  แล้วพ่อเจ้าประคุณทูนหัวโจรสลัดตาเดียวก็คว้าไมค์จากหัวขโมยไป



    รู้ว่าเสี่ยงแต่คนต้องขอลอง...แม้ต้องเสี่ยงแต่อยากได้ของที่อยู่สูง
    ยังไงก็ขอลองดูสักที....
    แม้ว่าเราแตกต่างกันเท่าไหร่...แม้ว่าเธออยู่ไกลอยู่สูงขนาดไหน...
    ยังไงก็ขอลองดูสักที...

    ก็คำว่ารักมันสั่งให้ฉันทำตามหัวใจ....

    ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที...ไม่ว่ายังไงก็ลองดี  สัก...วัน...  อยากรักก็ต้องเสี่ยง  ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน......
    ลำบากลำบนไม่สนใจ...ตะเกียกตะกายสักเพียงไรก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจาก...ช้านนนน...  ตกหลุมรักจริงๆ  รักเธอจริงๆ...เธอคงไม่ว่ากัน


    " เฮ้!!!   สุดยอดเว้ยสุดยอด....เพลงโดนโคตรๆเว้ยครี๊ด " เสียงชมจากเพื่อนๆที่กำลังเฮฮากันเต็มที่

    " เจ้าภาพล่ะเว้ยเจ้าภาพ....คิลโว้ย   มาๆๆๆ..ขอโดนๆสักเพลง.."  เเล้วเสียงเชื้อเชิญจากเพื่อนๆชาวป้อมอัศวินที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเสมอก็ลากเจ้าภาพที่นั่งอยู่ข้างๆเรนอนออกมาโชว์ลูกคอจนได้



    หากขาดกันไปวันใดหัวใจมันคงละเมอ~  ก็เพราะว่าเรานั้นเป็นคู่กัน...


    แค่ใช้มองตาก็เข้าใจ...ไม่ต้องพูดอะไรก็ยังพอรู้   ไม่ต้องเเสดงท่าทางให้ดู...ก็รับรู้อะไรข้างในใจ...

    คนหนึ่งเหงา...อีกคนก็เหงา  อย่างกับเรา..คือคนๆเดียวกัน~

    ก็เกิดความรัก  รัก  รัก  ความผูกพัน..ในใจ   ไม่มีใคร..คนใดทนแทนได้เหมือนเธอ หากขาดกันไปวันใดหัวใจมันคงละเมอ..ก็เพราะว่าเรานั้นเป็นคู่กัน

    ทั้งๆที่ใจก็ต่างใจ...ทั้งนิสัยใจคอเราก็ต่างกัน  ทั้งที่มีใคร...เข้ามาผูกพัน  ก็ไม่สำคัญไปมากกว่าเธอ....

    คนหนึ่งเหงา...อีกคนก็เหงา  อย่างกับเรา..คือคนๆเดียวกัน~

    ก็เกิดความรัก  รัก  รัก  ความผูกพัน..ในใจ   ไม่มีใคร..คนใดทนแทนได้เหมือนเธอ หากขาดกันไปวันใดหัวใจมันคงละเมอ..ก็เพราะว่าเรานั้นเป็นคู่กัน


    " โห..คิล   เพลงซึ้งมาก...แต่ถามหน่อย  อีกคนที่เค้าจะมานั่งเป็นคนๆเดียวกันกะแกมันอยู่ไหนวะ " เฟรินถามอย่างเห็นใจเพื่อน

    ก็ยอมรับอ่ะนะว่าเพลงซึ้ง...เพราะซะไม่มี
    แต่นี่เรามาที่เกาะนี้จะสองอาทิตย์อยู่แล้ว....
    คิลยังหาเเฟนไปถวายพ่อมันไม่ได้เลย...ถ้ามันยังไม่เริ่มต้น
    ครบกำหนดเมื่อไหร่...เธอก็ต้องเเต่งงานกับมัน

    " ..."  มีแต่ความเงียบที่เป็นคำตอบให้เพื่อนๆ  บอกให้รู้ว่าตัวเขาเองก็คิดมากเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องนี้

    เล่นส่งกันมาอยู่กลางเกาะเเบบนี้...แล้วเราจะหาผู้หญิงจากที่ไหน?

    และแล้วความเงียบก็เข้าครอบงำทุกอณูบริเวณห้องคาราโอเกะ  ทำให้ห้องเกิดบรรยากาศตึงเครียดเหมือนอยู่ในสงครามอิหร่านก็ไม่ปาน  ทำให้คนที่ถึงแม้ได้มาอยู่ที่นี่ไม่นานอย่างเรนอนก็รู้สึกเครียดไปด้วยได้

    ด้วยความที่เป็นสุภาพสตรีเพียงหนึ่งเดียว ( ขอละเฟรินไว้ในฐานที่เราเข้าใจกัน)และเมื่อตอนเป็นเจ้าหญิงเงือกก็ติดนิสัยชอบช่วยเหลือประชาชนอยู่เป็นนิจ...ด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง  เรนอนจึงเอ่ยถามโดยไม่ทันคิดออกไปว่า...

    " มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ?..ให้ฉันช่วยอะไรก็บอกได้นะคะ..."

    นั่นเองจึงจุดประกายความคิดอันประเสริฐโคตรๆให้แก่ชาวป้อมอัศวิน  เหมือนตอนที่เซอร์ไอเเซคค้นพบเเรงโน้มถ่วงได้ไม่มีผิด.... ทุกคนหันไปมองเรนอนกันเป็นตาเดียวพลางพิจารณาด้วยหัวสมอง...

    เรนอน  เรนอน  เรนอน
    สวย...
    น่ารัก...
    บุคลิกดี...
    อย่างนี้เเหละ...ใช่เลย

    และเเล้วทุกคนก็แทบจะตรัสรู้ด้วยตนเองได้เลยว่าความคิดของเพื่อนๆด้วยกันมันเป็นอย่างไรบ้าง..เฟรินพยักหน้าให้ครี๊ด   ครี๊ดหันไปพยักหน้ากับซอร์โรว์  ซอร์โรว์หันไปพยักหน้าต่อกับเจค  เจคหันไปส่งสายตาให้ซีบิล   แล้วทุกคนก็ทราบถึงความในใจของกันเเละกันรวมไปถึงคาโลที่เอากะเขาด้วย

    ก็คงจะมีแต่เรนอนที่ยังงงเป็นไก่ตาแตก  และคิลที่ได้รับข้อความนี้เเล้วรีบสายหน้าหวืดๆอย่างไม่ร่วมด้วย  แต่สองเสี่ยงต่อยี่สิบเสียงย่อมไม่มีความหมาย....

    เฟรินกระโดดข้ามโซฟามายืนจังก้าตรงหน้าคิลอย่างเอาเรื่อง  ก่อนเอ่ยคำถามเปรี้ยงเดียว.....

    " นายรังเกียจเรนอนหรือเปล่า?..คิล "

    ราวระเบิดปรามาณูลูกโตที่ทิ้งลงมาทำเอาคิลเลิ่กลั่กตอบไม่ถูก  ก็รู้อยู่ว่าไม่ได้รังเกียจ...แต่ถ้าตอบไปตอนนี้ก็เท่ากับร่วมลงเรือลำเดียวกับไอ้พวกนี้น่ะสิ

    " โอเค..ไม่ตอบถือว่าตกลง  พวกเราย้ายไปฝั่งเจ้าสาว!"  แล้วเฟรินก็กระโดดรวดเดียวข้ามโต๊ะกับแกล้มไปหาเรนอน

    " เรนอน...รังเกียจคิลหรือเปล่า? " 

    ระเบิดลูกที่สองตามมาติดๆเหมือนดั่งเรนอนเป็นแผ่นดินญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง...ทำเอาเรนอนพูดไม่ออกอีกเช่นกัน

    " เอาล่ะ...ในเมื่อทั้งสองตกลงปลงใจกันเรียบร้อยเเล้ว  ฉะนั้น...คืนนี้พวกเราต้องฉลองเว้ย!!! " 

    แล้วเหล่าสมาชิกป้อมอัศวินผู้สะกดคำว่า "ปรึกษา" ไม่เป็นก็เฮโลกันร้องคาราโอเกะต่อ....

    ~เลี้ยงส่งให้เธอกับเขาความเศร้าทำเอาเจ็บ  เลี้ยงส่งให้เธอกับเขาได้รักกันนานๆ~

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    น่าเเปลกมากๆกับการกระทำที่ไม่ได้ปรึกษาคู่บ่าวสาว  แต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ยิงระเบิดคำถามในห้องคาราโอเกะก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆ

    จนในที่สุด...ทั้งสองก็ตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานกัน

    กำหนดพิธีแต่งงานจะเริ่มในอีกสามวันข้างหน้า...สมาชิกป้อมอัศวินต่างยินดีปรีดากับการเป็นฝั่งเป็นฝาของเพื่อนซะที

    แต่ถ้าหากว่าการแต่งงานครั้งนี้ดำเนินได้ด้วยความราบรื่น  ผู้ขียนคาดว่าจะโดนคอมเม้นด่าเอา....ด้วยประการฉะนี้  เราจึงต้องมีอุปสรรคขึ้นมาพิสูจน์รักของพระ-นาง

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ทางด้านคิงบนบก

    ตอนนี้กำลังปลาบปลื้มยินดีที่จะได้เห็นหน้าลูกสะใภ้สักทีหลังจากรอมานาน  เหล่าไพร่ฟ้าประชาชนก็จัดงานเฉลิมฉลองเตรียมรับพระราชพิธีอภิเษกในอีกสามวันข้างหน้า  ทางพระราชวังก็วุ่นวายกันใหญ่กับการเตรียมการรับงานนี้...

    แต่ทางด้านหนึ่งของเกาะคิงบนบก

    " เรนอน! เรนอน! เฮ้ยพวกเรา...เรนอนหายตัวไปว่ะ" คิลที่วิ่งหน้าตาตื่นตระหนกเข้ามาหาเพื่อนๆ

    อย่าเป็นอะไรไปเลยนะเรนอน...
    งานเเต่งงานของเราจะเริ่มขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า...ยกเลิกไม่ได้
    ..และฉันก็ไม่ยอมแต่งงานกับใครนอกจากเธอเด็ดขาด

    " พวกฉันไม่เห็นนะ..อยู่กับเฟรินหรือเปล่า?"

    " บ้าชิบ! " คิลสบถสั้นๆแล้วรีบวิ่งขึ้นไปยังห้องของสองสาวทันที

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ ห้องของเฟรินและเรนอน

    ภายในห้องยังดูมีสภาพปกติทุกอย่าง...ยกเว้นเฟริน

    " เรนอนอยู่ไหนเฟริน?...ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่นนะ  ถ้าเราไม่ออกเดินทางภายในวันนี้เราจะไปไม่ทันพิธีการ..." คิลเดินเข้ามาเขย่าตัวเฟรินอย่างรีบร้อน  ซึ่งเฟรินเองกำลังอยู่ให้เหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อคอย่างรุนแรง

    " คิล...เรนอนไปแล้ว..."

    " ไปไหน?"

    " เรนอนรักนายมาก...แต่เธอไม่สามารถรักนายได้..."

    " เฟริน! นายพูดอะไรออกมา  เรนอนไปไหน! "

    " เรนอนไม่ใช่คนคิล...เธอใช้ยาตัวหนึ่งทำให้เป็นคน  แต่ยามันคงจะหมดฤทธิ์เร็วกว่าที่เธอคิด..." เฟรินตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง  บอกให้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกัน

    " เรนอนเป็นอะไร? "

    " เธอเป็นเงือก...."

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ณ ใต้น้ำ

    เจ้าหญิงเงือกเรนอนที่กลับมาสู่สภาพเดิมเหมือนตอนที่เธอถือกำเนิดมา  การไปอยู่บนบกในครั้งนี้ทำให้เธอได้บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่

    และได้รับความรักจากใครคนหนึ่งที่เธอไม่มีวันลืม....

    แม่หมอเออซูล่าไม่ได้บอกสักคำว่ายาที่ว่ามันมีเวลาหมดอายุ  นึกถึงหน้าเฟรินที่ตกใจอุทานออกมาไม่เป็นผู้เป็นคนเมื่อตื่นมาเเล้วพบว่าขาของเธอหายไป

    ป่านนี้คิลจะเป็นอย่างไรบ้าง?
    เขาจะทำยังไงในเมื่องานเเต่งงานของเราจะเริ่มขึ้นในอีกสามวันนี้เเล้ว...

    ด้วยความทุกข์ระทมจนเเองจี้เเละมาทิลด้าสังเกตเห็น...ผู้ที่จะแก้ปัญหานี้ให้เธอคงจะเป็นแม่หมอเออซูล่าเจ้าเก่า..

    ณ ตำหนักแม่หมอ

    ท่านเเม่หมอยังคงสวยไม่สร่าง  แต่สว่างแล้วไม่สวย...หลังจากเรนอนเล่าเหตการณ์ทั้งหมดให้แม่หมอฟัง

    " เฮ้อออออ...ฉันก็เสียดายเเทนองค์หญิงอ่ะนะ  แต่คงจะต้องทำใจในเมื่อเธอกับเขามันคนละเผ่าพันธุ์กัน " โกโดมเออซูล่าสะบัดหนวดปลาหมึกอย่างนึกเสียดายแทน

    " เอางี้ฉันยังพอมีวิธีช่วยองค์หญิง...ช่วยให้เจ้าชายได้แต่งงาน" โกโดมเออซูล่าเอ่ยด้วยประกายตาระยิบระยับ

    " ยังไงคะเเม่หมอ? "

    " ฉันจะแต่งงานกับเจ้าชายแทนเธอเอง!! "

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    ตอนเย็นวันนั้น...เรือสำเภาขององค์ชายคิลก็ออกจากเกาะไปอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้หวนกลับมาอีกครั้ง....

    ณ บนเรือ

    ทุกคนอยู่บนเรือครบที้งคู่บ่าวสาวเเละเพื่อนพ้อง  น่าแปลกที่เรนอนหายตัวไปแล้วกลับมา  แปลกๆก็แต่อุปมาเหมือนเห็นเขากวางบนหัวเรนอนเป็นพักๆ  การพูดการจาก็แปลกๆไปโดยเฉพาะเมื่อเรนอนคนใหม่เอาใจเฟรินเป็นพิเศษเหมือนเป็นทาสกันมาเมื่อชาติปางก่อน....

    ส่วนทางด้านเฟริน..หลังจากเห็นเรนอนก็เกิดอาการจับไข้  ยิ่งเมื่อเรนอนเรียกเธอว่า "องค์หญิงผู้เลอโฉม" ด้วยแล้ว...อาการยิ่งทรุดหนัก

    ยาขนานใหม่ของโกโดมเออซูล่าที่ขณะนี้ปลอมเป็นเรนอนมาอยู่บนเรือน่าจะดำเนินไปด้วยดีหากว่าไม่เกิดเรื่อง...

    " น่าดีใจจังเลยเนอะ...คิลมันจะได้แต่งงานกัยเขาซะที " อาชูร่าเปรยอย่างยินดีปรีดาไปกับเขาพร้อมเปิดขวดน้ำสีอำพันที่นายครี๊ดขนมาตั้งแต่วันแรกยันวันกลับก็ยังไม่หมดสักที
     
    " นั่นน่ะสิค้า...เรนอนก็เห็นด๊วยยยย  เห็นด้วย..." โกโดมเออซูล่าในคราบบเรนอนจำแลงรีบส่งเสียงกระดี๊กระด้าจนทุกคนผิดสังเกตุ  แต่ด้วยเหตุไอ้น้ำเปลี่ยนนิสัยทำให้ไม่มีใครถาม  รวมถึงบางคนก็คิดว่าไอ้น้ำสีทองๆที่ครี๊ดหมั่นรินให้ที่ทำให้เรนอนเปลี่ยน

    มีแต่คิลเท่านั้นที่วันนี้ดูไม่แฮปปี้เท่าที่ควร  รวมไปถึงคาโลที่สีหน้าไม่แฮปปี้อยู่แล้วและโดยเฉพาะเมื่อเฟรินดันล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอีกต่างหาก

    แปลกชะมัด..
    ปกติเรนอนไม่กินเหล้าแม้ว่าเขาจะเคยขยั้นขะยอให้กินมาแล้ว
    แถมช่วงนี้พูดจาก็แปลกๆ
    ไม่เหมือนเรนอนคนเดิม....

    ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ..คลื่นลูกโตก็ซัดตูม  ส่งผลให้เรือสำเภาลำงามโคลงไปนิดนึงแต่ก็ไม่มีใครได้รับความเสียหายนอกจาก...

    " กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด "

    น่านล่ะ...เสียงร้องโหยหวนปานจะขาดใจตายของเรนอนจำเเลงดังขึ้นเรียกทุกสายตาให้หันไปมอง

    โอ้..ม่ายยยยย
    นายโคลว์เล่นล้มถังน้ำแข็งใส่แม่เจ้าประคุณตอนเรืองโคลง
    งานนี้...ตายเเหงมๆ

    ในขณะที่เรนอนจำแลงกำลังทัวร์ดินแดนน้ำแข็งแบบไม่ต้องพึ่งคาโล  ขายาวเรียวสวยก็กลายเป็นหนวดปลาหมึกยักษ์  ร่างสูงระหงก็หดเหลือไม่เกินสองฟุต แถมออกมาได้อุบาทว์จิตเกินที่ทุกคนจะรับได้....

    งั้นไอ้ที่เฟรินมันเพ้อก็จริงนะสิ...เรนอนไม่ใช่คน
    แต่ก็ไม่นึกว่าจะออกมาได้น่าเกลียดขนาดนี้....
    ตัวบ้าอะไรวะ...คนเเคระก็ไม่ใช่  กวางก็ไม่เชิง
    เพศอะไรยังดูยากดูเย็น...ปวดกบาล

    " อ้ายยยย...อย่ามองเรนอนอย่างนั้นนะคะ  ถึงเรนอนไม่ใช่คน  แต่เรนอนก็รักคิลสุดหัวใจ...." เรนอนหยอดถ้อยคำหวานเลี่ยนพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้ม  แต่คิลไม่ได้อยู่รับเนื่องจากวิ่งไปเอากระโถน...

    เรนอนจำแลงเริ่มเดินเข้าไปหาคิลช้าๆด้วยความเสน่หา  ทั้งๆที่หนวดยักษ์มันทั้งน่าเกลียดน่ากลัวแต่เรนอนจำแลงก็ไม่หวั่น....

    ส่วนทางด้านคิลที่เริ่มปัญญาอ่อนขึ้นมาถนัดใจ  คิดไว้แต่ว่าถ้าร่างที่แท้จริงของเรนอนเป็นแบบนี้...เขาก็จะต้องรับมันให้ได้  ก็ในเมื่อเขารักเรนอน

    ก่อนที่เราจะได้เห็นภาพสยดสยองว่าด้วยการทำอนาจารคิลโดยว่าที่เมียตัวเอง  เฟรินผู้รับรู้เหตุการณ์จึงรีบวิ่งออกมา(โดยมีคาโลประคองไม่ห่าง)

    " อย่ายอมมันนะเว้ยคิล  นั่นมันไม่ใช่เรนอนแต่เเรกเเล้ว!! "  เฟรินตะโกนเบรกฉากอันตรายของเยาวชนไว้ได้ทันท่วงที

    " โถ่ไอ้โง่!!!  แกคิดว่าเรนอนพอเป็นเงือกแล้วอุบาทว์จิตอย่างนี้เรอะ....อันนี้ไม่ใช่  นี่ไม่ใช่เรนอน " เฟรินที่นานๆที่จะได้บทด่าโกโดมหลังจากที่หมันไส้มานานเพิ่งได้โอกาศด่า...งานนี้ใส่ไม่ยั้ง

    " ดูสารรูปนังนี่กะเรนอน  แกทำใจเข้าไปได้ยังไงวะคิล....ถ้าเป็นฉันนะเว้ย  ถึงนังนี่เป็นเรนอนตัวจริง...ฉันจับโยนลงทะเลให้ฉลามกินดีกว่า "

    " เฟริน...แล้วเรนอนของฉันอยู่ไหน? "

    " โน่นแก...ฉันว่าเค้าว่ายน้ำตามเรือเรามาว่ะ " ทิวดอร์บุ้ยใบ้ไปทางท้ายเรือ

    ทันทีทันใด...คิลพลักโกโดมเออซูล่าทิ้งอย่างไม่ใยดี  ก่อนจะชะโงกลงเรือไปดูตามที่ทิวดอร์บอก

    อ่า...ถึงมันจะไม่น่าเชื่อ
    แต่ที่ว่าน้ำตามมามันคือเรนอน...เรนอนจริงๆ
    ถึงแม้ว่า...เธอจะมีขาเป็นอื่นก็ตาม

    โดยสัญชาตญาณส่วนตัวคิลโดดน้ำตูมไปหาเรนอน  ท่ามกลางเสียงโวยวายของโกโดมที่ทนไม่ได้  จนเฟรินต้องจับมัดไว้กะเสากระโดงเรือ

    ในที่สุด...คิลก็อุ้มเรนอนขึ้นมาบนเรือจนได้ ปัญหาต่อมาคือ...จะบอกท่านพ่อยังไงว่าเจ้าสาวเราเป็นนางเงือก?

    " เฮ้ยพวกเราไม่ต้องคิดมาก...ตราบใดที่เรายังมีหอสมุดเคลื่อนที่และไอ้กวางปลาหมึกนี่อยู่ " เฟรินเรียกขวัญกำลังใจเพื่อนๆ

    " แกจะทำยังไงวะ? "

    " เอาล่ะโกโดม...แกจะบอกสูตรยาฉันมาดีๆหรือว่าจะบอกทั้งน้ำตา " เฟรินขู่เสียงเข้มอย่างเป็นต่อ

    และถึงแม้ว่าโกโดมจะได้รับบทร้ายในเรื่องนี้
    แต่ก็ยังคงมีความจงรักภักดีกะองค์หญิงมิเสื่อมคลาย...

    " กระหม่อมบอกไม่ได้..องค์หญิง " โกโดมเออซูล่าสิ้นลายตอบเสียงแผ่ว

    " เอ...นี่พวกแกว่าไอ้พวกครึ่งโคมุสครึ่งปลาหมึกยักษ์จะทนไฟมั๊ยวะ " เฟรินเอ่ยเปรยให้โกโดมเสียวสันหลังเล่น  " บ๊ะ...วันนี้ได้ข่าวว่าซีบิลจะทำบาร์บีคิวด้วย "

    โอ้..องค์หญิงทรงโหดร้าย
    งวดก่อนก็จับกดน้ำ...พอรู้ว่าหายใจในน้ำได้ก็จะจับกดไฟ
    งานนี้โกโดมขอลาดีกว่า

    " ง่ายมากองค์หญิง  เอาหนวดเต่าบดรวมกับเขากระต่าย  ผสมโดยใช้น้ำลายมังกรไฟเป็นตัวทำละลาย  อาบแสงแดดสี่วัน..อาบแสงจันทร์สี่คืน  เท่านี้ก็เรียบร้อย  "

    " นี่แกจะบ้าเหรอ?...งานน่ะอีกสองวันเองนะเว้ย  ถ้าแกหาทางแก้ให้เรนอนเป็นคนไม่ได้ภายในสองชั่วโมงนี้...เย็นนี้ฉันจะย่างแกเป็นอาหารเย็น " เฟรินแยกเขี้ยว

    ทางด้านเพื่อนๆก็เริ่มพะอืดพะอมเมื่อรู้ว่าถ้าโกโดมไม่ยอมแก้ปัญหา  คืนนี้พวกเขาจะได้เปิบพิศดารกัน  ต่างเอาใจช่วยโกโดมเต็มที่....

    " ทะ..ที่จริง  มันก็มีอีกวิธีนึง..."  โกโดมตอบเงียบๆจนทุกคนต้องยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆเพื่อฟังให้ชัด

    " จูบจากรักแท้...ต่อหน้าพยานสี่คนขึ้นไป  จะทำให้เรนอนไม่กลับมาเป็นเงือกอีก.."

    พรึ่บ!!!

    ทุกสายตาหันไปมองคิลที่อุ้มเรนอนไว้บนตักเป็นตาเดียว  หวังว่าพยานสี่คนนั้นจะเป็นตัวเองอย่างที่สุด...

    และในที่สุด...
    ทุกคนบนเรือก็ได้เป็นพยานรักให้คิลและเรนอนโดยสมบูรณ์.....

    ++**++**++**++**++**++**++**++**++**++

    " เจ้าชายคิลทรงพระเจริญ!!!  เจ้าหญิงเรนอนทรงพระเจริญ!!! " เสียงสรรเสริญของเหล่าประชาชนของคิงบนบกดังเซ็งแซ่ให้กับคู่รักคู่ใหม่ของอาณาจักร

    คิลกับเรนอนแต่งงานกัน   คิลได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คนต่อมาของอาณาจักร...มีลูกกะเรนอน 1 คน  ซึ่งกำลังเป็นที่กังวลของคิล  เพราะเด็กคนนี้หายใจในน้ำได้แม้ไม่มีหาง...

    ส่วนทางด้านคาโลและเฟรินก็ได้แต่งงานกัน...คู่นี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก  ละกันไว้ในฐานที่เข้าใจ

    ส่วนทางด้านโกโดมเออซูล่า...ตอนนี้เปิดสำนักดูดวงเป็นแม่หมอโด่งดัง  จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าร่างทีสูงไม่เกินสองฟุตนั่น..อีกครึ่งเป็นปลาหมึก


    สันติสุขเกิดขึ้นก็ด้วยประการฉะนี้....ดังนั้น


                             The  End


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×