คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ใบสมัครตัวละครเรื่อง DEVIL BUSTER
Application
“โฮะโฮะโฮ้~ นางฟ้าตัวน้อยของปู่น่ารักที่สุดอยู่แล้ว”
“นี้เอกสารส่วนของวันนี้ครับท่าน”
“ชายามบ่ายครับคุณผู้หญิง”
“ เจ้าหนูแถวนี้มันอันตราย มากับข้าสิ ข้าจะพาไปส่งในที่ปลอดภัยให้เอง”
ชื่อ-นามสกุล : อาคีล่า อาฟส์ / Aquila Aves
ชื่อเล่น : คี,คุณปู่/Qui,Grandpa
ฉายา : กรงเล็บสีเงิน/Silver Claw
อายุ : 57 ปี
เพศ : ชาย
ส่วนสูง : 177 cm.
น้ำหนัก : 72 kg.
หน่วย : พยัคฆ์สีชาด ( Red Tiger )
ตำแหน่ง : สมาชิก
ลักษณะคำพูด : แทนตัวเองว่าข้า แทนตัวเองว่ากระผมกับคนที่ยศสูงกว่า แทนตัวเองว่าปู่กับหลานสาว แทนคนที่ยศสูงกว่าว่าท่าน แทนคนสนิทที่เป็นผู้ชายว่าเจ้า แทนคนสนิทที่เป็นผู้หญิงว่าคุณ(ตามด้วยชื่อ) แทนตัวผู้ชายว่าคุณ(ตามด้วยนามสกุล) แทนตัวผู้หญิงว่าคุณผู้หญิง แทนตัวเด็กผู้ชายว่าเจ้าหนู แทนตัวเด็กผู้หญิงว่าคุณหนู แทนตัวหลานสาวว่านางฟ้าตัวน้อยของปู่ น้ำเสียงที่ใช้พูดจะอ่อนโยนนุ่มลึกน่าฟัง และเป็นคนที่ใช้คำพูดสุภาพมาก
ลักษณะรูปร่าง : ชายแก่ผมขาวที่ดูมีภูมิฐาน รูปร่างสูง มีร่างกายที่ดี มีกล้ามเนื้อเล็กน้อย หน้าตาดูอ่อนโยนให้ความรู้สึกเหมือนคุณปู่ผู้ใจดี มีดวงตาสีครามดั่งน้ำทะเลยามค่ำคืนมองดูสุขุมเเยือกเย็นและแฝงไปด้วยความอบอุ่น แต่ในบางครั้งดวงตาสีครามคู่นั้นก็เปรียบดั่งสายตาของนักล่าที่ผู้ถูกล่าจะต้องหวาดกลัว โดยรวมแล้วอาคีล่าก็เป็นคุณปู่ที่ดูมีสุขภาพดีเกินวัยไปไกล
ประวัติ : อาคีล่าเกิดในครอบครัวสามัญชนที่มีชื่อว่าอาฟส์ ชีวิตของอาคีล่าเรียบง่ายมาก พ่อแม่ที่มีฐานะปานกลางทำให้มีกินมีใช้ แม้จะไม่ได้ถึงขั้นที่มีของไข้เหลือเฟือแต่ชีวิตก็มีความสุขดี จากความรักความอบอุ่นของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่ความสุขมักไม่ยั่งยืน อาคีล่าในวัย5ขวบได้พบกับการสูญเสียครั้งแรกในชีวิต ในวันนั้นเขตที่อยู่อาศัยที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ถูกมารจำนวนมากรุกราน ครอบครัวของเขาสามารถหนีออกมาได้ ถว่าก็ไม่อาจหลุดรอดไปจากน้ำมือของพวกมันได้ พ่อของเขาได้สละชีวิตตัวเองเพื่อให้เขาและแม่หนีไปได้ หลายวันผ่านไปเขาและแม่ได้เดินทางมาถึงเมืองหลวง แต่ว่ายังไม่ทันได้ก้าวผ่านประตูเข้าสู่เมืองหลวง แม่ของเขาก็ได้ล้มลงตรงหน้าของเขา
เขาเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆกับร่างของผู้เป็นแม่ มือน้อยๆที่สั่นเทาของเขาค่อยๆยื่นไปเขย่าร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้า ปากของเขาเอื้อนเอ่ยคำๆนึงออกมา “แม่…แม่ครับ ตื่นสิ” ปากของเขาสั่นขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ค่อยๆไหลออกจากดวงตาสีครามคู่นั้น “ไม่นะ... ไม่เอาแบบนี้ ทำไม…ถึงกลายเป็นแบบนี้” เสียงสะอื้นของเด็กชายเรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ภาพที่พวกเขาเห็นเป็นภาพที่ชวนให้หดหู่ แม้จะเห็นภาพเหล่านี้มาไม่รู้กี่ครั้งแต่ก็ไม่เคยชินกับมันสักที ถึงจะสงสารและเห็นใจเด็กชายแต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะยื่นมือเข้าช่วย
จนกระทั้ง “หลีกทางหน่อยมันเกะกะ” ได้มีชายร่างโตคนหนึ่งเดินแหวกฝูงชนเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ข้างๆอาคีล่าที่กำลังกอดร่างของแม่อยู่ “เจ้าหนูให้ข้าดูอาการแม่ของแกหน่อย”
อาคีล่าที่ได้ยินก็มองไปที่ชายร่างโต เขามองเข้าไปในดวงตาสีแดงเพลิงของอีกฝ่าย ความรู้สึกบางอย่างบอกให้เขาเชื่อใจชายตรงหน้า อาคีล่าผละออกจากแม่ของตนมายืนเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ ชายร่างโตที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าดูมาอาการแม่ของอาคีลาทันที หลังจากตรวจดูอาการสักพักเขาก็โพล่งออกมาว่า “รีบมาพาตัวผู้หญิงคนนี้ไปเธอยังมีชีวิตอยู่” หลังจากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งพร้อมอุปกรณ์ต่างๆเข้ามา แล้วพาตัวแม่ของอาคีลาไป
ทางด้านอาคีล่าที่ได้ยินว่าแม่ของตนยังมีชีวิตอยู่ก็ได้หันไปถามชายร่างโตเพื่อยืนยันคำตอบ “แม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆเหรอ?”
“อะไรเจ้าไม่ดีใจหรือไง” นั่นคือคำตอบของชายร่างโต
เมื่อได้ยินดังนั้นน้ำตาของเขาก็ได้ไหลออกมาอีกครั้ง แต่ต่างจากครั้งแรก ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดี ชายร่างโตมองมาที่อาคีล่าก่อนจะพูดอีกประโยคว่า “ข้าก็ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะเจ้าหนู แต่ก็เผื่อใจไว้ในกรณีเลวร้ายด้วยละ”
อาคีล่าที่ได้ยินถึงกับสะอึกแต่ก็พยักหน้าตอบว่าเข้าใจ สักพักเข้าก็หันกลับมาหาชายร่างโตแล้วกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านมากครับที่ช่วยชีวิตแม่ข้าไว้ ตัวข้าเองก็อยากตอบแทนท่าน แต่ว่าข้าในตอนนี้…” อาคีล่ากล่าวพร้อมก้มมองสภาพของตนที่เงินสักแดงเดียวก็ไม่มี
ชายร่างโตที่สังเกตเขามาตั้งแต่แรกอยู่แล้วเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะหันหลังจากไปและทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ให้เขา “ถ้าอยากตอบแทนข้า ก็ไปเป็นมือปราบมารให้ได้และเข้าหน่วยของข้าซะ ส่วนเรื่องแม่ของแก จนกว่าแกจะพร้อมข้าจะเป็นคนดูแลให้เอง”
อาคีล่าเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไปพักนึงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีสิ่งที่ต้องถามจากชายตรงหน้า “ด เดี๋ยวก่อนครับ! ช่วยบอกชื่อของท่านให้ข้าทราบด้วยเถอะครับ!?”
“เดน… เดน เลโอนิส แห่งพยัคฆ์สีชาด”
…นับจากวันนั้นวันที่อาคีล่าได้พบกับชายที่เขานับถือมากที่สุด ก็ผ่านมา10ปีแล้ว ในที่สุดเขาก็จะได้ตอบแทนชายคนนั้นสักที ในปีนี้เขาจะได้บรรจุเข้าหน่วยพยัคฆ์สีชาดที่ซึ่งเป็นความฝันของเขา
หลังจากวันที่เขาได้เป็นมือปราบมารเต็มตัวเพียง3ปี จากผลงานต่างๆมากมายที่เขาได้ร่วมทำกับเดนหัวหน้าแห่งหน่วยพยัคฆ์สีชาดในตอนนั้น ทำให้เขาถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยในวัย18ปี
“โอ้~ ยินดีกับเจ้าด้วยละเจ้าหนุ่ม” เสียงของเดนที่กล่าวกับคนที่กำลังยุ่งกับกองเอกสารบนโต๊ะในขณะที่เจ้าตัวนั่งจิบไวน์ชิลๆ
“ไม่ใช่ว่าที่ท่านเลื่อนตำแหน่งให้กระผมเพราะท่านขี้เกียจทำงานเอกสารพวกนี้ไม่ใช่หรือครับ” เสียงของอาคีล่าที่กำลังยุ่งอยู่กับกองเอกสารกล่าวขึ้นขัดเจ้าคนที่ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับชาวบ้านเขาเลย
เดนที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวปัดๆไป “น่าๆยังไงเราก็วินๆกันทั้งคู่ อีกอย่างยัยเซียร์ก็ทำงานเอกสารห่วยแตกจะตาย หลายปีมานี้แถบจะช่วยงานข้าไม่ได้เลยสักอย่าง” ฟังมาถึงตรงนี้อาคีล่าที่สังเกตเห็นบุคคลที่3 ก็ได้แต่นั่งนิ่งเงียบๆอยู่หลังกองเอกสาร
เดนที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง ก็กำลังจะเอ่ยถาม แต่กับมีเสียงปริศนาเอ่ยขัดเสียก่อน “ข้ามันไร้ประโยชน์สินะคะ” เดนที่ได้ยินจึงหันกลับไปมองด้านหลังด้วยใบหน้าซีดเซียว
“อะ... เอ่อ” ภาพที่เขาเห็นคือหญิงสาววัยยี่สิบกลางๆที่หางตาของเธอกำลังคลอไปด้วยน้ำตา
ขณะที่เดนกำลังคิดหาทางออก หญิงสาวตรงหน้าก็ได้กล่าวออกมาอีกครั้ง “ฮีก… ขอโทษที่ข้ามันไร้ประโยชน์ค่าา!” พร้อมทั้งวิ่งหนีออกจากห้องไป
“...” "..." ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนที่เดนจะหันมาหาอาคีล่าด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ
“เฮ้อ… ครั้งนี้กระผมไม่ช่วยท่านหรอกนะครับ” อาคีล่ากล่าวปฏิเสธออกไปด้วยใบหน้าที่เหนื่อยใจ
เดนเมื่อได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดกว่าเดิม ก่อนจะตัดสินใจวิ่งตามไปง้อหญิงสาวนามว่าเซียร์ที่พึ่งวิ่งหนีออกจากห้องไป อาคีล่ามองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่อนโยน และรำพึงกับตัวเองเบาๆว่า “ข้าละรักหน่วยนี้จริงๆ ให้ตายสิ” กล่าวเสร็จเขาก็กลับไปตั้งใจทำงานในส่วนของเขากับส่วนที่หัวหน้าของเขาโยนมาให้ “สงสัยคงต้องไปประท้วงขอขึ้นเงินเดือนสักหน่อย” คำบ่นของเขาดังออกมาตลอดทั้งคืน ทำให้สมาชิกในหน่วยที่เดินผ่านถึงกับขนลุกและนำไปบอกต่อๆกัน จนกลายเป็นตำนานชวนขนหัวลุกประจำหน่วยไป
3เดือนหลังจากนั้นอาคีล่าได้พบรักกับหญิงสาวร้านขนมปังแห่งหนึ่ง เธอมีชื่อว่าคานน่า ทั้งคู่ตกลงปลงใจคบหาดูใจกัน
ในวัย20ปี สุดท้ายอาดีล่าก็ได้ขอคานน่าแต่งงาน ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วหน่วยของเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับพวกเขาทั้งคู่
“ทำไมแกถึงได้แต่งงานก่อนข้ากันห๊ะ” เสียงของเดนดังขึ้นข้างหลังเรียกความสนใจให้เขาหันกลับไปมอง
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือ ใบหน้าของผู้เป็นหัวหน้าของตนที่ประดับด้วยรอยแดงรูปมือตรงแก้มซ้าย “ฮะฮะ… ท่านดูจะหงุดหงิดนะครับ ทะเลาะกับคุณเซียร์อีกแล้วหรือครับ?”
“ยัยนั่นเป็นอะไรก็ไม่รู้ อารมณ์เสียใส่ข้าทั้งวัน สงสัยจะเป็นวันนั้น” เดนกล่าวอย่างหงุดหงิด แต่สุดท้ายก็กล่าวความยินดีให้กับเขาอยู่ดี
อีก6เดือนต่อมางานแต่งของอาคีล่าและคานน่าก็ถูกจัดขึ้น ในพิธีมีเพียงครอบครัวของฝ่ายหญิงและหน่วยพยัคฆ์สีชาดที่เข้าร่วม ในพิธีอาคีล่าได้ขอให้เดนมาเป็นผู้ปกครองฝ่ายชาย แม้ตอนแรกอีกฝ่ายจะไม่ยอมแต่ก็ทนแรงกดดันจากคนในหน่วยไม่ไหว จึงจำใจต้องทำ
ใน2ปีต่อมาครอบครัวตระกูลอาฟส์ก็ได้มีทายาทคนแรก เป็นเด็กชาย เขาได้ตั้งชื่อให้ลูกของเขาว่าโอตัส ในปีเดียวกันนี้เองเขาก็ได้รับข่าวดีอีกอย่าง แม่ของเขาที่หลับไปตลอด17ปี ก็ได้ฟื้นคืนสติหลังจากหลับมานาน เขาได้พาภรรยาและลูกชายในวัย5เดือนไปเยี่ยมแม่ของเขา ภาพของลูกชายที่ได้พบกับผู้เป็นมารดาอีกครั้ง ช่างเป็นภาพที่งดงามและเปี่ยมไปด้วยความสุข เหล่าแพทย์และพยายามรวมถึงคนไข้บางคนที่รู้จักกับอาคีล่าต่างก็ยินดีให้กับเขา สำหรับพวกเขาแล้วอาคีล่าไม่ไช่คนแปลกหน้า ออกจะสนิทสนมกันด้วยซ้ำ ภาพของเด็กชายวัย5ขวบที่มาเฝ้าผู้เป็นแม่ทุกวันตลอด17ปีที่ผ่านมา กลายเป็นภาพที่คุ้นเคยสำหรับพวกเข้าไปซะแล้ว
ถว่า เหมือนโชคชะตาไม่ต้องการให้เขาพบกับความสุข อาคีล่าในวัย27ปีได้พบกับความสูญเสียอีกครั้ง คานน่าหญิงสาวผู้ครอบครองหัวใจของเขา ได้จากเขาไปชั่วนิรันดร์ด้วยโรคร้ายที่มิอาจรักษาได้ อาคีล่าจำต้องเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพื่อดูแลลูกชายที่เป็นดั่งสมบัติชิ้นสุดท้ายของภรรยาผู้ล่วงลับ
8ปีต่อมา ดูเหมือนโชคชะตาจะยังไม่พอใจ และได้พรากเอาบุคคล2คนที่เขาเคารพรักไป หัวหน้าหน่วยเดนและอดีตรองหัวหน้าหน่วยเซียร์ได้เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา จากเหตุการณ์นี้ทำให้อาคีล่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย หลังจากการสู้ในชั้นศาลเป็นเวลา3เดือน ถึงแม้เขาจะไม่ถูกจำคุกหรือได้รับโทษประหาร แต่มันก็ทำให้เขาพ้นสภาพจากการเป็นมือปราบมาร แม้จะทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำ เขาได้เดินทางไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อไปรับเด็กคนหนึ่ง เซน เลโอนิส ลูกชายของเดนและเซียร์ ที่พึ่งจะมีอายุได้เพียง10ปี ซึ่งโอตัสนั้นมีอายุมากกว่าเซน3ปี อาคีล่าจึงให้โอตัสดูแลเซนเหมือนน้องชาย
อาคีล่าในวัย38ปี ได้กลับมาเป็นมือปราบมารอีกครั้ง ในช่วง3ปีที่ผ่านมาเขาได้ตามสืบเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดของเหตุการณ์เมื่อ3ปีก่อน และได้แก้ไขปัญหาจนสำเร็จ ทำให้ทราบความเป็นมาว่าพวกเบื้องบนต้องการให้สมาชิกใหม่คนหนึ่งในหน่วยขึ้นเป็นหัวหน้า แต่เดนขัดค้านเพราะต้องการส่งมอบตำแหน่งให้แก่เขา การกลับมาครั้งนี้ของอาคีล่าทำให้เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยแห่งพยัคฆ์สีชาด แต่ก็เพราะตำแหน่งนี้เองที่ทำให้เขาเพบกับการสูญเสียอีกครั้ง เมื่อพวกอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ของเดน ไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ใช้ครอบครัวของเขาเป็นตัวประกัน แม้จะช่วยลูกชายทั้งสองได้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยผู้เป็นแม่ได้ ทำให้นี้กลายเป็นตราบาปอีกหนึ่งในชีวิตของเขา จากเหตุการณ์นี้ทำให้มุมมองของเขาหลายๆอย่างที่เคยมีเปลี่ยนไป พ่อของเขาถูกพวกมารสังหาร นั่นจึงเป็นต้นเหตุให้เขาเกรียดพวกมาร แต่ตอนนี้มันก็ได้เบาบางลง ในขณะที่แม่และคนที่เขาเคารพกับถูกมนุษย์ด้วยกันเองเข่นฆ่า แม้เขาจะไม่เกรียดมนุษย์ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเชื้อใจมนุษย์ได้ทุกคน
5ปีต่อมา เซนในวัย18ปีได้ขออาคีล่าออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แม้อาคีล่าจะไม่อยากให้เซนไป แต่เขาก็ไม่อยากปฏิเสธความตั้งใจของเซน จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
4ปีต่อมา ในที่สุดตระกูลอาฟส์ก็ได้มีลูกสะใภ้ เธอมีชื่อว่าลิลลี่
อาคีล่าในวัย50ปี ในปีนี้เป็นปีที่เขามีความสุขมาก เนื่องจากในที่สุดเขาก็จะได้อุ้มหลานตัวน้อยของเขา และในปีนี้เองเขาก็ได้วางมือจากการเป็นมือปราบมาร แล้วหันมาช่วยลูกกับลูกสะใภ้เลี้ยงหลาน
แต่แล้วโศกนาฏกรรมก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง 5ปีหลังจากที่หลานสาวของเขาเกิดมา ในวันหยุดสุดสัปดาห์ธรรมดาๆวันหนึ่ง ลูกและลูกสะใภ้ของเขาได้พาหลานสาวไปเที่ยวสวนสนุก ด้วยความที่เขาอยากให้ทั้งสามได้มีเวลาร่วมกันบ้างเขาจึงไม่ได้ไปด้วย และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อเขาได้ทราบข่าวว่าสวนสนุกที่พวกลูกของเขาไปโดนพวกมารที่แอบหลักรอบเข้ามาบุกโจมตี ทันทีที่ทราบข่าวเขาก็รีบไปยังที่เกิดเหตุทันทีด้วยความหวังที่ว่าพวกเขาทั้งสามจะยังมีชีวิตอยู่
“โอตัส! ลิลลี่! สิสต่า! ได้ยินปู่ไหม!?” เสียงของอาคีล่าดังขึ้นท้ามกลามเศษซากปรักหักพังโดยรอบ
“เห้เจ้านะโปรดอยู่ในความสงบ… เห้ยระวัง!” เสียงของชายคนหนึ่งที่กำลังจะกล่าวเรียกสติให้แก่อาคีล่า กับต้องกล่าวเตือนแทน เมื่อเขาสังเกตเห็นว่ามีมารตัวหนึ่งหลุดรอดไปยังชายแก่ตรงหน้า
ปัง!! ยังไม่ทันที่มารตัวนั้นจะถึงตัวเขา สมองของมันก็ถูกเป่ากระจายเสียแล้ว “ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับพวกเจ้าหรอกนะ”
ขณะที่เขากำลังกระในกระวายใจอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดรอดออกมาจากสถานที่แห่งหนึ่ง “ ฮึกฮือคุณพ่อคะ คุณแม่คะ…”
ทันทีที่ได้ยินเสียงเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือเสียงของใคร เขารีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเสียงด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เมื่อมาถึงเขาก็ต้องหยุดชะงักเพราะภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นคือหลานสาวของเขาที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างร่างของผู้เป็นลูกและลูกสะใภ้ของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด เขาค่อยๆนั่งลงและดึงตัวหลานสาวเข้ามากอด เขาไม่ต้องการให้หลานสาวเห็นภาพตรงหน้าไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“ฮือ คุณปู่คะ คุณพ่อกับคุณแม่เขา…” เสียงของหลานสาวที่เปล่งออกมาเสมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลง มันทำให้สภาพจิตใจของคนแก่อย่างเขาเศร้าหมองไปด้วย
แต่เพราะไม่ต้องการให้หลานสาวรู้สึกเศร้าไปมากกว่านี้เขาจึงทำได้เพียงแค่ปลอบโยน “โอโอ~ นางฟ้าตัวน้อยของปู่ ปู่อยู่นี้แล้ว จะไม่มีใครมาทำอันตรายหลานได้อีกแล้ว ปู่สัญญา” หลังจากที่พยายามปลอบขวัญหลานสาวอยู่นานในที่สุดเธอก็ผลอยหลับไป
ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำต้องกลับไปทำในสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุดอีกครั้ง มือปราบมาร
นิสัย : เป็นคนใจดี อบอุ่นและอ่อนโยน เป็นคนที่สุภาพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ เป็นคนที่ชั่งสังเกตและใส่ใจคนรอบตัว เวลาทำงานเขาอาจจะจริงจังก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้กดดันอะไรกับมันเลย เพราะแบบนี้เวลาปฏิบัติภารกิจลูกทีมของเขาจึงไม่รู้สึกกดดันเลย เพราะเขาจะคอยคลายความรู้สึกกังวลหรือสถานการณ์ทิ่น่าอึดอัดต่างๆให้ เป็นคนที่มีความรอบคอบสูง มักจะเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา
ปราณ : ไม้
ใช้คงสภาพร่างกายให้ยังคงแข็งแรงเหมือนตอนหนุ่ม ไม่ค่อยใช้ร่วมในการต่อสู้สักเท่าไหร่ ยกเว้นจะจวนตัวจริงๆ
อาวุธ : ปืนพกรุ่น Desert Eagle ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีอานุภาพการยิงที่แรงขึ้นแลกกับแรงถีบที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหากับอาคีล่าที่สามารถใช้มันได้ด้วยมือข้างเดียวแม้จะอยู่ในวัย 57 ปีแล้วก็ตาม โดยชื่อใหม่ของปืนพกรุ่นนี้คือ Silver Eagle อาคีล่าจะพกปืนชนิดนี้ติดตัวสองกระบอก
ขวานไวกิ้ง ที่เขาจะสพายไว้กลางหลัง2อัน จะใช้เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัว
มีดขว้างรุ่น scorpion อีก4เล่มที่ซ้อนไว้ เอาไว้ขวางใส่ศัตรูในยามที่ไม่สามารถใช้ปืนได้
มีดรุ่น Hibben Legacy Ulu 2เล่ม เป็นอาวุธที่อาคีล่าถนัดที่สุด
มีดโกนขนาดเล็กที่แอบเอาไว้ใต้ลิ้น
ใบมีดอีก2เล่มที่ซ่อนอยู่ในรองเท้า
เข็มขัดแบบพิเศษ ที่ถ้าได้รับพลังงานจำนวนหนึ่งจะแข็งตัวแล้วใช้แทนกระบองได้
แหวนแต่งงานที่มีมีดอาบยาพิษซ่อนอยู่
กระดุมบนชุดสูทที่ถูกปรับแต่งมาให้กลายเป็นระเบิดควันได้
จุดอ่อน : เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เจ้าตัวเป็นคนที่คออ่อนมาก ไม่ถนัดสู้กับศัตรูที่มีเกาะแข็ง ถ้าพลังปราณหมด ร่างกายจะอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว
ความสามารถพิเศษ : งานบ้านระดับปรมาจารณ์,การจัดการงานเอกสาร,การวางกลยุทธ์,การอ่านความรู้สึก
สิ่งที่ชอบ : หลานสาว,วันหยุด,ทำขนมปัง,จัดสวน,เดินเล่น,หมากรุก,ชาดาร์จีลิ่ง
สิ่งที่ไม่ชอบ : พวกมาร,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์,มนุษย์ที่หลงในอำนาจ,พวกแมลงที่ตามเกาะหลานสาว
สิ่งที่เกลียด : ตัวเขาที่ไม่สามารถปกป้องสิ่งสำคัญเอาไว้ได้
สเปค : ผู้หญิงเรียบร้อยมีความเป็นกุลสตี เข้มแข็งและอบอุ่น(ก็คานน่านะแหละ)
เพิ่มเติม : พ่อของอาคีล่าชื่อ Corvus Aves/คอร์วัส อาฟส์ เสียชีวิต
แม่ของอาคีล่าชื่อ Irish Aqua(Aves)/ไอริช อควา(อาฟส์) เสียชีวิต
ภรรยาของอาคีล่าชื่อ Canna Aster(Aves )/คานน่า แอสเตอร์(อาฟส์) เสียชีวิต
ลูกชายชื่อ Otus Aves/(โอตัส อาฟส์) เสียชีวิต
ลูกสะใภ้ชื่อ lilly Cerasus(Aves)/ลิลลี่ เซราสัส(อาฟส์) เสียชีวิต
หลานสาว Psistacoidea Aves/สิสต่าคอเดีย อาฟส์ อายุ7ปี
หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์สีชาดรุ่นก่อนอาคีล่า Den Leonis/เดน เลโอนิส เสียชีวิต
รองหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์สีชาดรุ่นก่อนอาคีล่า siar garia/เซียร์ การ์เรีย เสียชีวิต
ลูกชายของเดนและเซียร์ Sen Leonis/เซน เลโอนิส อายุ32ปี กลายเป็นหัวหน้าสมาชิกกลุ่มต่อต้านชนชั้นสูงที่มีสมาชิกเพียง77คน
Aves หมายถึงชั้นของ นก/สัตว์ปีก
Corvus หมายถึงสกุลของ อีกา
Aquila หมายถึงสกุลของ นกอินทรี
Otus หมายถึงสกุลของ นกฮูก
Psistacoidea หมายถึงสกุลของ นกแก้ว
Aster แปลว่า ดาว
ความคิดเห็น