คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Byakuya || Rare Alpha 2 (α x α)
Rare Alpha 2 .
แรร์อัลฟ่า 2 .
R || Short Fic (2-4ตอน)
Kuchiki Byakuyax Hitsugaya Toshiro
___________________________________________
ผิดคาด แทนที่เรื่องการบริหารตระกูลจะถูกเพ่งเล็งมาที่ส่วนของซึนะยาชิโระเช่นเคย รอบนี้ตระกูลคุจิกิดูจะมีตัวเลขที่ไม่เป็นแพทเทิร์นน่าห่วงมากกว่า
ผมละโล่งใจพลางแอบคิดเข้าข้างว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะคิวรายงานคนสุดท้ายรอบนี้ดันตกไปเป็นของตระกูลคุจิกิ
"รายงานไตรมาสนี้ถือว่าไม่เลวคุจิกิ แต่เพราะการเปลี่ยนผ่านผู้นำทำให้มีผู้สนับสนุนที่ไม่เห็นด้วยถอนหุ้นออกไปเยอะและหุ้นอื่นเล็กน้อยที่เริ่มลงทุนเข้ามาก็มีที่มาไม่ชัดเจน คุณคิดว่าจะทำอย่างไร" ท่านเก็นริวเอ่ยถามทันทีที่จบการรายงานของคุจิกิ เบียคุยะ
"ทางเรากำลังดำเนินการหาประวัติการลงทุนของรายใหม่ ส่วนผู้ที่ถอนหุ้นกว่าครึ่งนั้นเป็นเพราะมีปัญหากับเรื่องข้อตกลงของวัฒนธรรม"
"หื้ม น่าสนใจทีเดียวนะที่หลายคนหาข้ออ้างดึงหุ้นออกเพียงเพราะผู้นำตระกูลยังไม่ผ่านพิธีสมรสเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัว" ท่านชิโฮอินออกความเห็น
"ตระกูลคุจิกิเคร่งเกินพอดีเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร"
"หรือบางทีพวกเขาอาจจะอยากดึงหุ้นไว้แล้วส่งจดหมายให้ผู้นำตระกูลสมรสกับลูกสาวอัลฟ่าของเขาสักคนเป็นการแลกเปลี่ยน" ท่านชิโฮอินยิ้มแยกเขี้ยวพาเอาคนทั้งห้องขนลุกกับความคิดเจ้าเล่ห์
"เพื่อลดทอนผลกระทบนี้ ผมจะส่งที่ปรึกษาไปเจรจากับผู้ที่ถือหุ้นมากกว่า10เปอร์เซนต์" เบียคุยะตอบเสียงเรียบ ผู้นำทั้งสองก็ลอบส่ายหน้ากับคำตอบแข็งๆสมเป็นคนตระกูลคุจิกิ
"เธอคิดยังไงกับเรื่องนี้หนุ่มน้อย" ท่านชิโฮอินหันมาถามจนผมที่ยังไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งเฮือก
"แค่ไม่ได้เจรจาออกจากปากท่านก็มีโอกาสสูงที่จะเข้าใจผิดได้แล้ว เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงมากๆ" สุดท้ายก็เลยพูดไปแบบไม่ได้คิดซ้ำสอง ผู้ใหญ่ทั้งสองเห็นด้วยแต่ผู้นำตระกูลคุจิกิขมวดคิ้วแน่นกับคำที่ตรงไปตรงมาจนเกินไป
"พูดตรงเป็นที่สุด! ให้พูดตรงกว่านี้ก็คือหาคู่สมรสเถอะผู้นำตระกูลคนใหม่" ท่านชิโฮอินขยายความต่อทำให้บรรยากาศรอบตัวประมุขคุจิกิทมึนเข้าไปอีก
"คู่สมรส" เขาทวนคำและกวาดตามองมาหยุดที่ผม แม้จะเป็นอัลฟ่าด้วยกันแต่รังสีทะมึนตึงก็ทำเอาเสียวสันหลังวาบ
"เอาเถอะ อย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยระยะยาว" ท่านประมุขเก็นริวตัดบทเพื่อคลายบรรยากาศที่บัดนี้ทำเอาบอดี้การ์ดรอบห้องหนาวสั่น
"แยกย้าย ส่วนผู้นำคุจิกิเราจะนัดกันอีกครั้งเพื่อจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะในเร็ววัน"
เสียงตบโต๊ะเป็นสัญญาณให้ทุกคนโค้งคำนับแก่กันเป็นการแยกย้าย ผู้อวุโสสุดอย่างท่านประมุขเก็นริวเดินออกไปคนแรก ตามด้วยท่านชิโฮอิน และผู้นำคนใหม่ตระกูลคุจิกิที่ยังนั่งนิ่งอยู่นั้น..
ทำไมถึงไม่ยอมออกซักที!
"นายน่ะ"
"ครับท่านคุจิกิ"
"ไปจัดการตนเองและมาหาเราที่ห้องพักรับรองตระกูลคุจิกิ" ผมสูดหายใจลึกพร้อมต่อรอง แต่ไม่ทันได้เรียบเรียงคำพูด คุจิกิ เบียคุยะก็เดินลิ่วออกไปนอกห้องประชุมเสียแล้ว
ยังไงก็ไม่มีทางเลือก คำว่า 'ไปจัดการตนเอง' นี่แน่นอนว่าไม่ใช่ไปเข้าห้องน้ำผ่อนคลายก่อนมาคุยใหม่ แต่เป็นคำที่หมายความว่า ไม่ว่ามีตารางงานแน่นเอี๊ยดแค่ไหนในฐานะตัวแทนก็ต้องจัดการเลื่อนมันแล้วมาคุยกับเขาให้ได้ซะเพราะผู้นำตระกูลย่อมมีสิทธิ์เหนือกว่า
ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนที่จะไล่ลูกน้องคนสนิทไปปฎิบัติงานแทน
"ช่วยส่งไฟล์นี่ให้ท่านประมุขซึนะยาชิโระด้วย แล้วล่วงหน้าไปที่บริษัทย่อยตามตารางก่อนเลย บอกผู้บริหารว่าผมจะไปฟังปัญหาของเขานอกรอบไม่ต้องห่วง"
"รับทราบครับคุณชาย" คนสนิทของผมรู้ที่รู้ทางดี ผมไว้ใจเขามากพอที่ไม่แม้แต่จะต้องเรียกประมุขซึนะยาชิโระว่าท่านพ่อเพื่อตบแต่งแสดงละครเรื่องที่เกี่ยวกับความแน่นแฟ้นของตระกูล
"ห้องรับรองหัวหน้าตระกูลคุจิกิอยู่ไหน พอดีผมมีธุระกับเขา" ผมถามบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่มีตราตระกูลคุจิกิอยู่บนปกเสื้อ เขาดูงงงวยเล็กน้อยกับการมาคนเดียวที่ไม่เป็นทางการของผม
"ทางนี้ครับท่าน"
"ขอบคุณ"
ผมเดินไปตามทางตัวคนเดียวโดยมีบอดี้การ์ดของตระกูลคุจิกิแสดงสีหน้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆระหว่างทาง แม้จะไม่ได้เหลือบมองแต่ก็รู้สึกได้มากจนอยากจะหันไปตะโกนว่า ไปถามเจ้านายแกเองสิว่าเรียกผมมาทำไม!
ประตูสองบานเปิดรับผมทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้า
"คงเป็นคุณฮิตสึกายะ โทชิโร่ ผมเป็นที่ปรึกษาของตระกูลคุจิกิมาเป็นตัวแทนต้อนรับ เข้ามาก่อนสิครับ" ชายมีอายุผู้หนึ่งเปิดประตูเชิญเข้าไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและเรียกชื่อเต็มโดยไม่มีความลังเล
"คุณรู้ชื่อเต็มของผม?"
"ไปสืบมาแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ต้องแปลกใจ" เป็นคุจิกิ เบียคุยะที่ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตขาวลำลอง ถอดคราบสูทเนี้ยบนั่งหันหลังพูดขัดคอเสียงนิ่ง
ท่าทางแบบนั้นผมดูไม่ออกว่าเขาพูดจริงหรือเล่นๆก็เลยได้แต่อึกอักเบี่ยงเข้าประเด็น "แล้ว...เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"
"มี"
"เธอบรรลุนิติภาวะหรือยัง" เป็นคำถามที่เหนือความคาดหมายมาก
"ยังครับท่าน" มีแววสับสนผ่านดวงตาของเขาเพียงเล็กน้อยให้เห็นก่อนผมจะถูกสัมภาษณ์ด้วยคำถามต่อไป
"งั้นรู้จักฉีดยาระงับกลิ่นเป็นประจำเสียด้วย อย่าทำตัวไม่มีฐานะ"
"ผมเป็นแรร์อัลฟ่า" ปฎิกิริยาทนไม่ได้กับการโดนหมิ่นประมาทไปเร็วกว่าความคิดเสมอ ผมพูดถึงเพศสภาพตนเองออกไปแบบไม่ทันยั้งคิด
"ถึงว่าสิ ตระกูลซึนะยาชิโระถึงรับเธอเข้ามา" ท่าทางเรียบนิ่งไม่สนใจอะไรแต่คำพูดบ่งบอกได้อย่างดีว่าไปสืบเสาะข้อมูลของผมมาไว้เรียบร้อย ยิ่งพอเอามาพูดโต้งๆเชิงดูถูกแบบนี้ผมก็ได้แต่กัดฟันกรอดไม่พูดอะไร
"ว่าแต่พ่อบุญธรรมปลอมๆของเธอเนี่ย จะยอมให้ตำแหน่งทายาทกับเธอหรือ"
"นั่นแล้วแต่การพิจารณาของท่านพ่อ ไม่เกี่ยวกับคุณ"
"เรียกท่านพ่อไม่กระดากปากหรือไง เมื่อกี้ฉันยังได้ยินเธอเรียกเขาว่าประมุขซึนะยาชิโระอยู่เลย" ผมเริมรู้สึกถึงขีดจำกัดของตนเองเมื่อเขาชี้มาที่ผมพลางยกหูฟังข้างหนึ่งขึ้น ไม่เคยมีใครเคยมาพูดแบบที่เฉลยโต้งๆว่าติดเครื่องดักฟังไว้กับตัวผมอย่างนี้
"คุจิกิ เบียคุยะ ผมถามว่าคุณเรียกผมมาทำไม"
"เธอได้หัวขาดแน่ถ้าหากคนในตระกูลได้ยินเธอเรียกฉันแบบนี้" โชคดีที่เขาไล่ทุกคนออกไปจากห้องเหลือเพียงสองคน
"ช่วยตรงประเด็นกับผมด้วย"
"ได้" เขาพูดเว้นคำย่างสามขุมเข้ามาทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย จนแล้วจนรอดก็ยังคงทำหน้านิ่งไม่พูดต่อจนทนความอึดอัดกัดดันนั่นไม่ไหว
"งั้นอะไร--"
"จดทะเบียนสมรสกับฉัน" ล้อเล่น? แต่คนแบบคุจิกิ เบียคุยะ ไม่เหมือนคนที่จะล้อเล่นแบบนั้นเลยสักนิด
"คุณพูดอย่างนี้กับผมทำไม ต้องการอะไร"
"แล้วฉันจะทำให้เธอได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล" นัยน์ตาดำสนิทนั้นจ้องลึกตรงเข้ามาราวกับอ่านใจ ผมเริ่มรู้สึกอยู่ไม่ได้กับบทสนทนาราวกับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความคิดและตระกูลของผม
"เป็นเรื่องของผมที่จะต้องจัดการด้วยตนเอง" แม้ผมจะปลื้มเห็นเขาเป็นต้นแบบที่ดีแค่ไหน การถูกคุกคามแบบนี้ในเวลาอันสั้นก็ทำให้ผมไม่คิดจะตอบตกลง ยิ่งขอให้ผมเป็นคู่สมรสด้วยเนี่ยนะ...บ้าน่า!
"เหรอ" สายตาของผู้นำตระกูลคุจิกิบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อ
"ครับ"
"งั้นเรื่องที่เธอใส่ผ้าพันคอตามฉันเนี่ย ฉันจะต้องจัดการด้วยไหม" ผมรีบตะครุบผ้าพันคอของตัวเองเป็นปฎิกิริยาอัตโนมัติแต่ท่านผู้นำคุจิกิเหนือชั้นกว่า เขาจับผ้าพันคอผมดึงหลุดไปอยู่ที่มือเขาอย่างรวดเร็ว
"แล้วฉันจะส่งจดหมายไปเป็นความลับระหว่างเรา อย่าให้พ่อปลอมๆของเธอเห็นเข้าล่ะ" คุจิกิ เบียคุยะเดินทะลุทางออกหลังห้องโถงไปพร้อมกับผ้าพันคอของผมที่ยังไม่ได้ให้คืน
ผมได้แต่ยืนอยู่กับที่กัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด เขามีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงขนาดเรียกท่านประมุขตระกูลซึนะยาชิโระว่าพ่อปลอมๆ(ถึงแม้ว่าผมจะแอบเห็นด้วยก็เถอะ) มีสิทธิ์อะไรที่จะเอาผ้าพันคอของผมไปแล้วกล่าวหาว่าผมทำตามเขาโดยไม่ถามอย่างนี้(ถึงแม้จะจริงก็เถอะ) แล้วก็พูดเรื่องทั้งหมดด้วยสีหน้านิ่งๆแบบนั้นเนี่ยนะ!
"เข้าขั้นตายด้านไม่สนใครแล้วล่ะมั้ง สิ้นสุดความปลาบปลื้มที่เคยมี" ผมบ่นด้วยความหงุดหงิดพลางพยายามสงบสติควบคุมสีหน้าให้เรียบนิ่งเดินออกกลับไปทางเดิม
"เดี๋ยวก่อนครับคุณฮิสึกายะ ท่านหัวหน้าคุจิกิบอกให้ผมเอาสิ่งนี้มาคืน" ชายสูงวัยคนเดิมเดินเข้ามาขวางทางพร้อมผ้าพันคอเหมือนกันเปี๊ยบ
"ขอบ--เดี๋ยว นี่มันไม่ใช่ของผม" ไม่ทันจะพันผ้าพันคอทบแรก กลิ่นดอกไม้ก็ฟุ้งกระจายจนผมรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ฟีโรโมนของผม
"ผืนนี้แหละครับถูกแล้ว"
"นี่ท่านที่ปรึกษา หัวหน้าตระกูลของคุณรู้ใช่ไหมว่าผมเป็นอัลฟ่าและไม่ใช่อัลฟ่าหญิง ไม่สามารถผูกพันธะหรือให้กำเนิดทายาทได้" ถามตรงๆแบบนี้กับคุจิกิ เบียคุยะคงจะเป็นเรื่องใหญ่ ผมเลือกที่จะถามคนสนิทของเขาแทน
ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะขึ้นพลางตอบ
"ผมไม่รู้หรอกว่าท่านประมุขต้องการอะไร" เขาพูดต่อและยัดผ้าพันคอใส่มือผมในขณะที่กำลังอึ้งก่อนที่จะรีบเดินหายตัวไป
"แต่ท่านบอกผมว่าแรร์อัลฟ่ามีความสามารถพิเศษซึ่งคุณควรจะรู้ดีนะครับ"
"คุณคงไม่ได้หมายความว่า--"
"ท่านประมุขพูดไว้ว่า กัดฉันสิจะไปยากอะไร"
________________________________________________________
ต่อค่ะ!!! ความกาวยังไม่สุดนี่เพิ่งครึ่งทาง-แค่กๆๆๆ
ขอกำลังใจกันหน่อยแล้วเดี๋ยวจะมาต่อให้เลยเร็วๆนี้ล่ะค่าาา
ความคิดเห็น