ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    00:00

    ลำดับตอนที่ #6 : 00:06

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 66



    ใบสมัครสำหรับปีศาจ ;


     

    S U G A R - MAROON5


     


    Application

    ◣Profile



    บทบาท : [5] - ปีศาจแห่งความตะกละ

    “ความแตกต่างระหว่างการกินเนื้อมนุษย์กับเนื้อสัตว์เหรอ? ก็ไม่มีหรอก รสชาติพอกัน

    มันต่างกันก็แค่ศีลธรรมที่ถูกปลูกฝังกันโดยเราไม่ตั้งคำถามเลยว่า ทำไมเรากินสัตว์

    กินหมู กินไก่ กินปลา กินเนื้อ แต่ทำไมกินมนุษย์ไม่ได้?”


     

    ไซรัส  เฉิน || Cyrus  Chén

    ไซรัส | Cyrus - ไม่มีชื่อเล่น เรียกชื่อจริงได้เลย


    ความหมายของชื่อ : 

    Cyrus - ดวงอาทิตย์

    Chén - ตั้งวาง


    C y r u s  C h é n - "ก า ร ตั้ ง ว า ง ข อ ง ด ว ง อ า ทิ ต ย์"





    สัญชาติ : อเมริกัน     

    เชื้อชาติ : จีน-อเมริกัน   

    เพศ : ชาย  อายุ : 21 ปี   

    ส่วนสูง / น้ำหนัก : 169.7/46.8   

       




    โครงใบหน้าแสดงถึงเชื้อชาติเอเชีย
    ไซรัส เฉิน เขามีดวงตาเล็กเรียว สีอำพันดูเฉยเมยมากกว่าแสดงอารมณ์ใดออกมา
    เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงสั้น เป็นทรงธรรมดาๆที่ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลยแม้แต่น้อย
    นอกจากนี้ไซรัส เฉิน ยังมีเรือนร่างเล็กไม่สูงใหญ่กลับกันผอมกะหร่องจนเห็นกระดูก
    เข้ากับสีซีดของผิวพิกล


    สไตล์การแต่งตัวของไซรัส
    จัดได้ว่าไร้เซ้นส์ในด้านนี้สิ้นเชิง
    ไม่มีสไตล์เลยสักนิด
    เขามักสวมเสื้อยืดสวมทับด้วยฮู้ด
    พร้อมกางเกงขายาว
    และรองเท้าผ้าใบเก่าๆคู่นึงเท่านั้น
    ไม่มีการแต่งเติมอะไรขึ้นมานอกเหนือจากนี้


               ไซรัส เฉิน เป็นคนที่ธรรมดา และไม่มีอะไรแตกต่างจากคนอื่นๆเลยสักนิด เขามักจะมีท่าทีเรียบง่าย สบายๆ และแน่นอนเป็นคนไม่มีเสน่ห์ทั้งไลฟ์สไตล์และนิสัย ดูจากภายนอกเขาไม่ใช่คนโลดโผนดูผ่านโลกมาเยอะ  เขาไม่ใช่หนุ่มเข้าสังคม เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ท่ามกลางคนมากมาย สาวนนึงเพราะพูดในเรื่องที่ตัวเองไม่อินไม่เก่ง ไม่ตามกระแสสังคม จนดูเหมือนพวกสวนกระแสที่ไม่อินกับเหตุการณ์ตามกระแส


              กระนั้นไม่ใช่ว่าเป็นคนพูดน้อย กับเรื่องที่ไซรัสสนใจเขาก็เป็นคนพูดมากคนนึง และพูดได้โดยไม่ติดขัดอะไร และเรื่องที่สนใจสามารถพูดได้เป็นชั่วโมงหรือวันๆได้ แถมเมื่อพูดถึงสิ่งที่สนใจบางครั้งก็แทรกมุกตลกลงไปในเรื่องที่พูดด้วยใบหน้านิ่งๆ ตาดูเฉยเมยของตัวเองได้อย่างไม่สะทกสะท้าน จริงๆถึงแม้จะดูนิ่งเฉยแต่ก็เป็นคนที่ตลกคนนึง หมายถึงตลกร้ายน่ะ ก็มุกที่เล่นมันมักจะเป็นมุกที่จะจับกิน ซึ่ง...ก็หมายความแบบนั้นจริงๆ ใช่ เขาพูดเสมือนการกินมนุษย์เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถหัวเราะได้ แต่สำหรับไซรัสมันก็ธรรมดาจริงๆ


              ไม่นับถือศาสนา ไม่เชื่อมั่นในพระเจ้า และไม่มีความเชื่อในเรื่องดวง โชคลาภใดๆทั้งสิ้น จะว่าไม่นับถือศาสนาก็คงไม่เชิง เพราะศาสนาเดียวที่นับถือคือศาสนาเบค่อน แต่ถ้าพวกศาสนาที่เทิดทูนพระเจ้าเหรอ เหอะ ตลก


              เป็นคนที่ดูเย็นๆ ไม่ใจร้อนเหมือนไฟ อารมณ์ของไซรัสถึงแม้จะไม่ใจร้อนแบบไฟ แต่แม้จะดูเย็นแต่ไม่ได้เย็นเหมือนสายน้ำ เขาเย็นเหมือนลมที่พัดมามากกว่า มันเป็นลมเย็นเอื่อยๆ ก็คือเป็นคนที่บางทีโกรธแต่ก็ยั้งไว้ได้ บางทีก็ยั้งไม่ได้ ไซรัสมีอารมณ์ที่แปรปรวน และ ไม่ได้อารมณ์ดีทุกวัน ไม่ได้อารมณ์เสียทุกวัน เป็นคนที่อารมณ์ข้างในเป็นยังไงไม่รู้ เพราะสีหน้าไม่แสดงอะไรเลยสักนิด ดังนั้นจึงควรสังเกตและระมัดระวังเมื่อเข้ามายุ่งกับคนแบบเขา วิธีสังเกตก็ง่ายๆให้ไว้เป็นเกร็ดความรู้เพราะบางทีที่หงุดหงิดคือกำลังหิวอยู่ ในมือไม่มีของกิน แต่ถ้าไม่หงุดหงิดคุยได้คือในมือมีของกิน


              ไม่ใช่คนฉลาด กลับกันไม่ได้โง่ ไซรัสไม่ถนัดในการเรียนอะไรที่อยู่แต่ในตำรา และก็ไม่ชอบวิชาภาคปฏิบัติ ผลการเรียนอยู่ในระดับกลางๆพอผ่าน ไม่ได้ฉลาดลิ่วและไม่ได้โง่เง่า ไม่ชอบการจดจำอะไรและการอ่านหนังสือ ไซรัสไม่ใช่คนเจ้าแผนการ แต่เขาก็เป็นพลิกแพลงเก่ง พลิกวิกฤตของตัวเองกลายเป็นโอกาสได้ และมีความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น คิดอะไรนอกตรรกะทฤษฎี เป็นคนเอาตัวรอดจากเหตุการณ์อันตรายได้เสมอด้วยความคิดของตัวเอง จนดูเหมือนคนที่ดูฉลาดเงียบที่ไม่แสดงความฉลาดออกมา แต่จะแสดงมันออกมาต่อเมื่อมันส่งผลกับชีวิตของตัวเองเท่านั้น


              เห็นนิ่งๆงี้แต่เป็นพวกขี้รำคาญไม่น้อย ไม่ชอบอะไรที่ดูวุ่นวายมีพิธีการ และไม่ชอคนจู้จี้จุกจิกที่คอยมาบ่นนู้นนี้ให้ฟัง  ทำให้บางครั้งเขาก็พูดจาจิกกัดออกไปด้วยใบหน้าเฉยๆเป็นเชิงแสดงออกว่ารำคาญ มีการพูดจาประชดประชันเช่น "แหม น่าสนใจตายแหละ คุณ" เช่นเรื่องนึงที่ทำให้ไซรัสต้องรู้สึกเบะปากทุกครั้งคือการมีคนมาวุ่นวายว่าเขามันเตี้ยเกินไปให้ดื่มนม บอกเขาผอมกะหร่องจนเห็นแก่กระดูก เขาก็เลยพูดจาประชดประชันเป็นทีเล่นทีจริงว่า "พูดมากจังครับ เดี๋ยวก็จับกลืนลงท้องไปให้หมดซะเลย"


              ไซรัสเห็นแบบนี้เป็นคนขยันทำงานหาเงิน ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพราะที่บ้านของเขามีฐานะยากจนเลยจำเป็นต้องขยันหาเงิน เพื่อหาซื้ออะไรกินไม่ให้ท้องว่าง แน่นอนว่าไซรัสเห็นแก่ตัว เพราะเงินที่ได้มาทั้งหมดไม่ได้ส่งให้ใคร เก็บไว้เองทั้งหมดใครจะบ้าให้พ่อแม่ เขาไม่ใช่ลูกกตัญญูหรอกนะ ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ของร้านเบอร์เกอร์แห่งหนึ่ง


              ร่างกายของไซรัสมีสิ่งที่วิเศษกว่าคนอื่นคือระบบการเผาผลาญในร่างกายดีกว่าคนอื่นเกินไป ทำให้ไม่ว่าจะกินเท่าไรก็ไม่มีความรู้สึกอิ่มเลยสักที เขาจึงพกพาขนมและของกินเอาไว้ด้วยเสมอเอาไว้ให้กินแก้ความอยากของตัวเอง ยังไงซะอาหารหลักจานโปรดของเขาก็คือเนื้ออยู่ดี โดยเฉพาะเนื้อมนุษย์ที่แสนหอมและหวานนุ่ม และเพราะระบบเผาผลาญเฮงซวยก็ทำให้ไซรัสกินอะไรก็ไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันอ้วน กลับกันเขาดูผอมและตัวเล็กกว่าเพื่อนในวัยเดียวกันจนเหมือนขาดสารอาหาร


              ลิ้นของเขานับว่าเป็นลิ้นที่ไวต่อรสสัมผัส แยกแยะรสชาติได้แม้จะปิดตาอยู่ก็ตาม สามารถรู้ว่าตัวเองกำลังกินอะไรและเป็นของเจ้าไหน อย่างว่าก็เป็นคนชอบกินและรักการกินเป็นชีวิตจิตใจถ้าแยกไม่ออกก็ยอมตายดีกว่า เห็นแก่กิน และรู้ว่าอะไรอร่อยไม่อร่อย ไม่ใช่ประเภทกินอะไรก็อร่อยไปหมด เขาชอบที่จะกินเมนูใหม่ๆมากกว่าการจะกินอะไรเดิมๆจำเจ


              ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดี และแง่ร้าย แต่เป็นคนที่มองโลกโดยมองสิ่งที่ผิดปกติเป็นเรื่องปกติ เช่นเรื่องการกินมนุษย์ด้วยกัน ก็มนุษย์ยังกินสัตว์เลย แล้วทำไมมนุษย์จะกินมนุษย์ด้วยกันเองไม่ได้จริงไหม? 


              เขาเป็นคนไม่ใส่ใจใคร ไม่สนใจใคร ไม่มีความละเอียดอ่อนทางด้านจิตใจสิ่งเดียวที่ทำให้เขาละเอียดอ่อนได้คือเรื่องของการกิน ไซรัส เฉินไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษอ่อนหวานและโรแมนติก เขาไม่ใช่คนที่มีโมเม้นน่ารักๆ กลับกันเป็นผู้ชายที่ความรู้สึกทั้งหมดของเขาอยู่กับกระเพาะของตัวเอง เขาไม่ฟังเสียงของสมองและหัวใจ เขาฟังแค่เสียงของกระเพาะว่าเขาอิ่มหรือไม่อิ่ม เขาจึงไม่สนใจในจิตใจของคนอื่น เป็นคนไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกยังไงหรอกนะ เขาสนแค่ตัวเองจริงๆ


              ด้วยเพราะเหตุผลนี้ไซรัส เฉินคิดถามตัวเองว่าถ้าเกิดไปหลงรักใครขึ้นมาจะเผลอกินเขาเข้าไปรึเปล่า จึงไม่มีความรู้สึกอยากรักใคร เพราะความรักทำให้รู้สึกอิ่มท้องไม่ได้ กระนั้นก็เคยมีบ้างที่เสียงหัวใจดังกว่าเสียงของกระเพาะ อย่างน้อยเขาก็มีความรู้สึกเหมือนกัน แต่ก็คงน้อยครั้ง มันคงไม่มีหรอก คนที่เขาจะยอมเสียสละขนมหรืออาหารของตัวเองให้อีกคนได้กิน แต่ถ้ามีคุณคนนั้นคงเป็นคนที่พิเศษที่สุดในโลกของไซรัสแล้วแหละ :)



              ชีวิตเฮงซวย


              ไซรัส เฉินพูดกับตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้ว่าตัวเองเกิดมาในครอบครัวที่แสนยากจนครอบครัวนี้ที่ข้าวสักมื้อยังแทบจะไม่มีให้กิน และเขาก็รู้ว่ากระเพาะของเขามันก็ร้องบอกเสมอว่าหิวโหยจนแทบบ้า มันทำให้ไซรัสเกลียดชีวิต เกลียดพ่อที่เอาแต่กินเหล้าเมามาย และเกลียดแม่ที่ตั้งท้องลูกสามคน ทำให้อาหารต้องคอยแบ่งออกมาตั้งห้าส่วน


              เขาเป็นลูกคนกลางของบ้าน มีพี่ชาย และน้องสาวพ่วงอีกหนึ่งคน เขาเกลียดพี่ชายที่สุดเพราะมันแย่งเขากินข้าว ส่วนยัยน้องสาวโชคดีที่มันเป็นคนป่วยขี้โรคที่เลือกกิน แต่มันก็ทำให้เงินของบ้านยิ่งน้อยลงเพราะค่ารักษาพยาบาลของมัน


              เขาหิวจนจะบ้าตาย และ อยากจะคลั่ง


              ความหิวทำให้ไซรัสในอายุห้าขวบ ใช่ เขามีอายุเพียงห้าขวบก็ต้องดิ้นรนกับการหาอาหาร บ้านแห่งนี้ไม่เคยมีอาหารให้กิน เขาจำได้ว่าตัวเองเคยขโมยขนมปังจากร้านขนมปังที่ส่งกลิ่นหอมหวนยั่วกระเพาะในซอยได้ แต่ก็ถูกจับได้ ถูกคนในซอยรุมประณามและถูกผู้เป็นพ่อใช้ขวดเหล้าฟาด ถูกผู้เป็นแม่ด่าทอ และถูกพี่ชายซ้ำเติมอีก 


              ชีวิตบัดซบ


              แล้วไง เขาหิวจนจะบ้าคลั่งแล้ว อีกนิดเขาคงจะกลืนกินโลกนี้ได้ทั้งใบ ไซรัสจับวินาทีที่ตัวเองต้องคุ้ยเศษขยะเพื่อหาของเน่าเสียเหล่านั้นกินประทังชีวิตตัวเอง เป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกขยะแขยงตัวเองมาก เขาแบกร่างของตัวเองกลับบ้านอยากจะกัดกินทุกอย่างให้เป็นจุลไปเลยด้วยซ้ำ


              นี่ พระเจ้า คุณช่วยเห็นใจผมหน่อยได้ไหม?


              ผมคิดว่าผมจะตายแล้ว จะตายจริงๆ


              ผมไม่ไหวแล้ว


              ในทุกเวลาเที่ยงคืน ไซรัสจะเดินออกจากบ้านคุ้ยหาเศษขยะกินด้วยความหิวโหย หากแต่มันไม่เคยช่วยประทังท้องและกระเพาะได้เลยสักนิด เขาเกลียด เกลียดที่เป็นแบบนี้ และวันนี้ก็เหมือนเดิมไม่มีใครผ่านมา เขาก็คุ้ยหาเศษหาเลยแบบนี้ เป็นแบบนี้เป็นประจำ


              แต่วันนี้พิเศษหน่อย


              เพราะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญพิเศษโผล่ออกมา


              เมี้ยว


              เสียงร้องของสัตว์สี่ขา ขนสีเทาเดินเข้ามาใกล้มาคลอเคลียที่ขาของไซรัส เขาค่อยๆย่อตัวลงไปและแย้มรอยยิ้มออกมาช้าๆ ลูบหัวให้เจ้าแมวจรจัดตัวนี้คลอเคลีย และไม่นานเสียงของกระเพาะก็ดังขึ้นมาบ่งบอกและสั่งการร่างกายแทนสมองไปแล้ว


              เด็กชายห้าขวบไม่รู้ว่าตัวเองเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน แต่พอรู้อีกทีเจ้าแมวก็ถูกเขาบีบคอจนตายแม้ตอนแรกมันจะขัดขืนเอาเล็บของมันข่วนลงฝ่ามือของเขาไม่หยุดก็เถอะ แต่ไซรัสกลับไม่รู้สึกเจ็บและสะทกสะท้านอะไรเขาบีบมันและปล่อยมันตายคามือของตัวเอง


              นี่รึเปล่า สิ่งที่พระเจ้ามอบให้ อาหารมื้อพิเศษ?


              วินาทีแรกตอนถลกหนังแมวด้วยมือเปล่า เขาเองก็แปลกใจที่เอาแรงพวกนี้มาจากไหนแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดมันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก มันคือความคิดที่ขึ้นมาในหัวว่าเนื้อแมวทำให้เขาอิ่ม ใช่ รู้สึกอิ่มและรู้สึกดีเมื่อกลิ่นเลือดคาวของมันติดค้างที่มือและริมฝีปาก


              รู้สึกดี พิเศษ


              คืนนั้นเขากลับบ้านด้วยความรู้สึกหายกระหายได้บ้าง และพี่ชายของเขาก็เป็นพวกปากมาก พูดกับพ่อและแม่ว่า เขาหายออกจากบ้านไปตอนเที่ยงคืนไปคุ้ยขยะอีกแล้ว แน่นอนเขาโดนคนเป็นพ่อทำร้ายแล้วพูดใส่ว่า "อาหารอะไรของแก กินไม่พอสักที เป็นบ้าอะไร ไอ้ขยะโสโครก!"


              ชีวิตเฮงซวย เฮงซวยจริงๆ


              แล้วไงต่อให้ไอ้พี่ชายอย่างซีโน่จะฟ้องมันจะทำอะไรได้งั้นเหรอ แน่นอนว่าไม่มีทางกระเพาะของไซรัสสำคัญที่สุด เขายังคงออกไปยังที่เดิมแล้วรอเหยื่อที่แสนพิเศษแบบคืนเมื่อวานเสมอ ไม่นานเกินรอเท่าใดนักเป้าหมายก็เดินมา เด็กชายห้าขวบบีบคอให้แมวตายคามืออีกครั้ง เขาถลกหนังของมันอย่างง่ายดาย


              เสียงฝีเท้าดัง...ใกล้เข้ามา เข้ามาอีก


              พร้อมเสียงของเด็กผู้หญิง


              "อลิส~~ อยู่ไหน เลิกซ่อนได้แล้วกลับบ้านกันนะ"


              เสียงของเธอหยุดชะงักลง พร้อมกับการหันหน้าไปของไซรัสและเนื้อแมวที่เขากำลังฉีกกระชาก สวาปาม คาอยู่ที่ปากของตัวเอง เธอกรีดร้องเสียงดังออกมา ขาของเธอสั่นก้าวไม่ออก เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เธอ กลิ่นคาวคลุ้ง


              "นี่"เขาเอ่ย "สัญญาสิ ว่าจะไม่บอกใคร"


              เด็กหญิงร้องไห้ แต่ไซรัสไม่สะทกสะท้าน เขาพูดกลับไปด้วยเสียงยานคาง


              "ถ้าเธอเอาไปบอกใคร เธอเป็นเหมือนแมวแน่ เตือนแล้วนะ"


              เพียงแค่นั้นเด็กหญิงก็วิ่งหนีหายไป และไซรัสที่หมดอารมณ์ในการกินก็กลับบ้าน และสุดท้ายเขาพบพี่ชายซีโน่ที่ตัวสั่นมองเขาพลางชี้มาที่เขาเหมือนหวาดกลัวอะไรสักอย่างเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน พร้อมกับโซเนียน้องสาวที่ตัวสั่นหลบอยู่หลังแม่ และพ่อที่ลากเขาเข้ามาในบ้านพร้อมขังเขาเอาไว้และลงกลอน อ้อ ล่ามขาของเขาไว้ด้วย


              ไซรัสเขย่าประตู ทุบๆพยายามพังออกมาแต่ทำไม่ได้ ไม่ได้เลย


              เขาได้ยินว่าซีโน่บอกกับพ่อแม่ว่าตามเขาไปและก็เห็นเขาถลกหนังแมวกินอย่างโรคจิต


              เขาถูกขังให้อด


              ชีวิตเวร


              เขาหิว หิวมาก เขาอยากจะกินมันไปให้ซะหมดเลย ไอ้ซีโน่ปากพล่อย แกนะ แก จำเอาไว้เลย มันจะเป็นรายแรกที่เขาจะจับกิน จำเอาไว้เลย จำเอาไว้ และใช่เขาถูกขังอยู่แบบนั้นมานานในห้อง จนไม่ได้เข้าโรงเรียนแบบเด็กคนอื่น จนอายุเจ็ดปี วันนั้นเป็นวันที่โซเนียเอาข้าวมาวางไว้ให้แบบทุกวัน เธอหลบตาไม่กล้ามองหน้าเขา ตัวของเธอสั่นเหมือนเด็กหญิงคนนั้น วินาทีที่เธอกำลังจะเดินออกไป ไซรัสก็เรียกเธอเอาไว้


              "เดี๋ยว"

              

              "พี่...พี่ไซรัส พี่อย่าทำอะไรหนูเลยนะ พี่"โซเนียเธอขอร้องออกมาเสียงเบาอย่างหวาดกลัว ไวรัสค่อยๆเบาเสียงของเขาลงและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงยานคางเหมือนตอนใช้มันคุยกีบเด็กหญิงที่เจอในตรอกวันนั้น


              "ไม่หรอก...พี่ไม่ทำเธอหรอก โซเนีย พี่แค่ต้องการให้เธอช่วย..."


              "ลากไอ้ซีโน่เข้ามาในห้องนี้ตอนมันหลับ"


              "พี่...พี่จะทำอะไร"


              "พี่จะทำมันเหมือนแมว..."เขาบอกเธอ โซเนียตาเบิกกว้างมองพี่ชายของตนที่พูดด้วยดวงตาว่างเปล่าไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่พูดเลยแม้แต่น้อย เด็กหญิงหกขวบส่ายหน้า


              "หนู...หนูทำไม่ได้ พี่ไซรัส อย่าเลย อย่า"


              "โซเนีย"เขาเรียกชื่อเธอแล้วค่อยๆยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ดูวิปริตสิ้นดี "ทำเพื่อพี่ไม่ได้เหรอ? หรือเธออยากจะเป็นคนที่ถูกถลกหนัง?"


              "ถ้าเธอไม่ช่วยพี่ พี่จะจับเธอถลกหนังคนแรก ถ้าพี่ออกไปจากการถูกขังเมื่อไร"


              "จำไว้นะ โซเนีย:)"


              มนุษย์มักมีความหวาดกลัวและคืนต่อมา โซเนียก็วางยานอนหลับพี่ชายของตัวเองมาให้เขาจริงๆ และเขาก็หัวเราะในลำคอ เด็กหญิงวางมีดไว้ให้คนเป็นพี่ชายก่อนจะรีบหนีออกไปจากห้อง ไซรัสพินิจพิจารณามองเวลา อีกไม่นานเขาจะอายุแปดขวบแล้ว รอให้เข็มของนาฬิกาไปบรรจบที่เที่ยงคืนและไซรัสจะกินพี่ชายของตัวเองเป็นการเฉลิมฉลอง


              เวลาเที่ยงคืนแล้ว ตอนนี้เขาเป็นเด็กชายอายุแปดปีที่กำลังจะกินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรก


              เขาค่อยๆแทงมีดลงไปช้าๆที่หัวใจด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เลือดของคนเป็นพี่กระเด็นเปรอะหน้าของตนเอง ไซรัสเลียรสเลือด เขาหัวเราะในลำคอ รู้สึกหอมหวานและสะใจเหลือเกิน แล้วเขาก็ค่อยๆพูดกับร่างไร้วิญญาณ "พี่ จำได้ไหมที่พี่เคยพูดว่าถ้าบ้านเราตัดภาระไปสักคน การเงินคงเบาขึ้นเนอะ?"


              แต่อีกฝ่ายไม่มีเสียงตอบแล้วแหละ


              เขาใช้มีดเฉือนเนื้อตรงแขนออกก่อน สูดดมกลิ่นของเลือดและกลิ่นเนื้อของพี่ชายตนเอง 


              และตอนนั้นไซรัสในวัยแปดขวบก็ลิ้มรสเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรก


              ในระหว่างที่ลิ้มรสเขารู้สึกเหมือนตัวเองมีพลังมากขึ้นอย่างไรไม่รู้ มือของไซรัสมีประกายไฟออกมา เขาจึงใช้มืออีกข้างเฉือนเนื้อมาส่วนนึงแล้วใช้ประกายไฟพวกนั้นทำให้มันอุ่นจนสุก กลิ่นของมันหอมหวน


              อิ่มท้องด้วยมือเราเอง ไม่ต้องคุ้ยขยะหาเศษหาเลยอีกต่อไป 


              เขาเกลียดโลกที่ทำให้เขาเกิดมา เกลียดพระเจ้าที่ให้เขาเลือกระหว่างศีลธรรมกับปากท้องของตนเอง เกลียดที่ทุกอย่างสร้างให้เขามาเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา และทำให้เขาต้องเป็นปีศาจร้ายมาตลอดเท่าที่จำความได้


              ใช่ เขาถูกโลกและพระเจ้าผลักไสเพราะอะไรมาตลอดแปดปี ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเพราะอะไร เพราะอะไรเขาสามารถตอบคำถามของตัวเองได้แล้ว


              เพราะเขามันก็แค่ปีศาจตัวนึงที่พระเจ้าไม่มีวันเห็นใจ และโลกก็ไม่ต้องการไงเล่า


              เขาใช้ไฟลนที่เหล็กให้เท้าของเขาถูกคลายออกจากโซ่ที่ล่ามเอาไว้ ไหนๆเขาก็เป็นปีศาจที่กลับชาติมาเกิดแล้ว เป็นสิ่งที่ผิดมนุษย์มนาแล้วและโลกก็ไม่ต้องการมาตลอด สุดท้ายโซ่ที่ล่มเอาไว้ก็หลุดออกแล้ว 


              ไซรัสมองศพของพี่ชายที่ยังเหลืออยู่ เขากัดกินมันอีกครั้งนึง กัดกินจนหมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่กระดูก


              ก่อนจะลุกแล้วลากตัวเองออกมาจากห้องที่ถูกขังมาตลอดสามปี


              โซเนียอยู่ข้างนอก เธอมองมาข้างในมือของเธอปิดปากของตัวเองหวาดกลัวพี่ชายอย่างไซรัสที่กัดกินร่างของซีโน่ไปจนหมดสิ้น "พี่...พี่"


              "ออกไปรอนอกบ้านซะ โซเนีย"


              "พี่..."


              "อยากตายเหรอ?"


              ไซรัสเอียงคอถามน้องสาวด้วยเสียงยานๆ เธอรีบวิ่งหนีออกไป ไซรัสเดินไปที่ห้องนอนของผู้เป็นพ่อแม่ เขาถือมีดเอาไว้ ขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วตะโกนออกไปว่า "พวกมนุษย์เฮงซวย!" เสียงนั้นทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ตื่น คนพวกนี้ดูหวาดกลัว


              เขาระบายความอัดอั้นในใจตลอดแปดปี


              ให้เขาเกิดมาทำไม และเพื่ออะไร เพื่ออะไรเหรอ


              ความจนมันไม่เคยทำให้สักช่วงชีวิตนึงของไซรัสมีความสุขเลยด้วยซ้ำ เกิดมาด้วยความรู้สึกว่าต้องเลือกระหว่างสองสิ่ง และโลกก็บีบบังคับให้เขาเลือกช้อยปากท้องของตัวเองเสมอ ไซรัสสู้กับคนเป็นพ่อและแม่ แน่นอนปีศาจในตัวไซรัสมันไม่แพ้พวกมนุษย์ง่ายๆหรอกนะ


              และมันก็คงไม่มีใครเห็นว่าตอนกินเนื้อมนุษย์พ่อแม่ของตนเอง ไซรัสร้องไห้


              ทุกอย่างจบลงที่บ้านทั้งหลังกลายเป็นกองเพลิงทำลายหลักฐาน ไม่มีหลักฐานใดเอาผิดไม่เหลือแม้แต่ร่างของพ่อแม่และซีโน่ โซเนียยืนตัวสั่นมองบ้านที่เป็นเพลิงมอดไหม้ เขาข่มขู่น้องสาวของตัวเองออกไป


              "ถ้าปากพล่อยออกไปไม่ตายดีแน่"


              พวกเราทั้งคู่ได้รับเงินเยียวยาก้อนนึง ไซรัสตัดสินใจส่งน้องสาวไปบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชแล้วไม่เคยไปเยี่ยมเธออีกเลย ส่วนเขาก็เข้าเรียนเกรดนึงช้าไปปีนึงเพราะเข้าเรียนตอนอายุเก้าขวบ ไซรัสทำตัวเหมือนเด็กปกติแทบจะทุกประการ ไม่มีอะไรแตกต่างเลยสักนิด


              มีบ้างที่ถ้าโกรธเพื่อนคนไหน เกลียดใคร มันจะหายตัวไปอย่างลึกลับเพราะหลังกินเสร็จไซรัสก็เผาซากที่เหลือทิ้งไม่มีสิ้นดี


              โตขึ้นก็ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินเหมือนกันเมื่อเรียนในระดับมหาลัย


    คุณจะเลือกทางเดินแบบไหนเล่า?

    ถ้าเป็นคุณ

    แต่ว่านะ ลองมาถูกโลกใบนี้บีบบังคับสิ

    แล้วคุณจะรู้ว่าคุณพยายามที่สุดแล้ว

    แต่โลกและพระเจ้าก็ผลักไสคุณ ให้คุณเป็นแบบนี้ทุกที  ;)


    tbc.



    ลักษณะคำพูด :


              เสียงของไซรัสนั้นเป็นโทนเสียงเนิบนาบ ยานคาง เรียบๆ และออกไปในทางโมนโนโทนไม่ได้มีน้ำเสียงทุ้มดูน่าเกรงขามแต่มันออกไปในทางยะเยือกเสียมากกว่าโดยเฉพาะการทำสีหน้านิ่งๆดูเฉยชาพวกนั้นยิ่งทำให้ไซรัสดูไม่น่าเหมาะกับการพูดคุยในวงสนทนาเท่าไร โดยปกติเป็นคนที่มักจะไม่ค่อยพูดอะไรเสียเท่าไร ยกเว้นแต่เรื่องที่ตนเองสนใจเขาจะพูดมากขึ้นมา แต่ก็เสียงทุกอย่างเหมือนเดิม จะเรียกว่าเป็นคนพูดจาไม่ค่อยน่าฟังก็ถูก 

              ไซรัสมักจะแทนตัวเองว่า "ฉัน" หรือ "ผม" เขาเป็นคนที่สุภาพกับคนที่อายุมากกว่าพอสมควรจึงไม่แปลกที่สรรพนามแทนตัวจะแบ่งแยกกัน เช่นเดียวกับการแทนคนอื่น ไซรัสเขามักจะแทนว่า "เธอ" "นาย" "คุณ"แยกกันตามระเบียบวาระที่คิดว่าควรใช้กับใครคนไหน และเขามักไม่ชอบการลงหางเสียง แต่อาจลงบ้างในบางที


              เหตุการณ์ที่ 1 ; In school

              เขาเข้าเรียนในเกรด 1 ตอนอายุ 9 ขวบและไซรัสเองก็ไม่แปลกใจที่ทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้และจะมีคนหมั่นไส้อะไร เช่น กลุ่มนักเรียนชายหลังห้องพวกลูกเศรษฐีที่ทำท่าทำทางหมั่นไส้ เขานั่งลงกับโต๊ะและหยิบขนมกินตลอดเวลาที่คนเป็นครูสอนถึงแม้มันจะเป็นการแอบก็เถอะ

              "เห ไอ้เด็กซ้ำชั้น นายควรจะแบ่งขนมนั้นให้พวกเรานะ"หนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมา ไซรัสเหลือบมองด้วยหางตาแล้วก็หยิบขนมกินต่อไม่สนใจอะไร หากแต่หนึ่งในนั้นมาจับไหล่ของเขาแล้วบีบเอาไว้ เขาตัดสินใจหันไปมองหน้าพวกมันตรงๆ

              "รู้ตัวรึเปล่าว่าที่ทำมันน่ารำคาญ"

              เสียงของเขายานและเนิบนาบชวนขนลุก

              "หาา ก็คือแกจะไม่ให้พวกเรากินว่างั้น"

              "ถ้าสมองไม่กลวงก็น่าจะรู้นะครับ ถ้ายังมายุ่งยากอยู่แบบนี้ เดี๋ยวก็จับกินเป็นเบค่อนให้หมดซะหรอก"


              เหตุการณ์ที่ 2 ; In Burger shop

              ไซรัสในวัยมหาลัยกำลังทำงานพาร์ทไทม์ เขาอมลูกอมไว้พร้อมกับฟังรายการที่ลูกค้าสั่ง

              "ชีสเบอร์เกอร์สาม โคล่าสอง เฟรนช์ฟรายสองใหญ่"ลูกค้าหนุ่มออฟฟิศสั่งเมนูออกมา มือเรียวของไซรัสกดเมนูตามที่อีกคนสั่งแล้วค่อยๆพูดทวนรายการ

              "ชีสเบอร์เกอร์สาม โคล่าสอง เฟรนช์ฟรายไซส์ใหญ่สองนะครับ"

              ก่อนจะปรายตาขึ้นไปมอง "รับอะไรเพิ่มอีกรึเปล่าครับ?"เสียงเนิบถามและมองอีกครั้ง เห้นอีกคนส่ายหัวปฏิเสธ "รายการตามนี้นะครับ"


    พลังพิเศษ : การควบคุมไฟได้ดั่งใจนึก  

    พลังนี้เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ในอดีต

    มันไม่ใช่ของขวัญจากใครทั้งนั้น 

     ถึงแม้ส่วนใหญ่เขาจะใช้มันเพื่ออุ่นอาหารอย่างมนุษย์มากกว่านำไปใช้ประโยชน์อื่นๆก็เถอะ  





    ความสามารถพิเศษ : 

    - การกิน ; กินอะไรก็ได้หมดแค่อื่ม

    - การทำอาหาร ; เพราะรู้อะไรอร่อยไม่อร่อยเลยทำให้ทำอาหารเก่งไปเลย

    - พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ; มีไหวพริบในการแก้ไขในสิ่งผิดพลาดของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

    - พูดเรื่องน่ากลัวให้เป็นเรื่องตลก และปกติได้ ; ปกติเรื่องน่ากลัวก็คือน่ากลัว แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือการที่ไซรัสทำให้มันดูเป็นเรื่องปกติได้


    ชอบ :

    - อาหาร /ขนม ; เวลากินแล้วจะรู้สึกอิ่มทำให้มีความสุขและมักจะพกพาขนมหรืออาหารติดตัว

    -เนื้อแมว ; ถึงจะเคยลองไปไม่กี่ครั้งแต่รสชาติก็ยังติดใจเขาอยู่เลย

    - การทำอาหาร ; กินเอง ทำเอง หาวัตถุดิบเองสบายใจ


    ไม่ชอบ :

    - ของไม่อร่อย ; ลิ้นแยกแยะได้นะว่าอะไรอร่อยไม่อร่อย อย่ามาจกตา!

    - การทำอะไรตามกระแส ; เพราะเขาเป็นคนออกไปทางสวนกระแส


    เกลียด :

    - พี่ชาย พ่อ แม่ และน้องสาวเรียงตามลำดับ ; เขาเกลียดทุกคนในครอบครัวของตัวเองที่ทำให้เขาต้องเป็นคนแบบนี้ แต่เขาไม่ได้ฆ่าน้องสาวเพราะไม่อยากถูกสงสัย แต่ก็ทำให้เธอต้องเข้าโรงบาลจิตเวชไปตลอดชีวิต และไม่เคยไปเยี่ยมเยียน

    - คนที่ชอบมาพูดว่าเขาเตี้ยเกินไปและผอมเกินไป ; มันให้ความรู้สึกอยากจับมาเคี้ยวให้แหลก

    - การต้องอดอาหาร ; ทรมานสุดๆ


    กลัว :

    - วันนึงโลกจะใจดีกับตัวเอง ; มันเป็นสิ่งที่แปลกเพราะเขาไม่เคยรู้สึกว่าโลกต้องการเขา ดังนั้นถ้าเป็นแบบนี้ขึ้นมา ไซรัสที่คิดว่าโลกใจร้ายและโหดร้าย จะต้องไม่เป็นตัวของตัวเองและรู้สึกอึดอัดกับโลกใบนี้เป็นแน่แท้


    เพิ่มเติม : -ตอนนี้กำลังศึกษาเรียนเกี่ยวกับเรื่องอาหารเพื่อการเป็นเชฟบังหน้าในความเป็นปีศาจของตัวเองโดยทำงานพาร์ทไทม์ในร้านเบอร์เกอร์ไปด้วย






    Talk with parents

    แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย

    : แมวน้ำคนเดิมเพิ่มเติมคือฝึกนอนมะดึกอยู่ค่า55555

    ∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;

    : //ชี้เหตุผลในใบแรก

    ∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)

    : //ชี้อีกครั้งพร้อมชูมินิฮาร์ทให้คูมโน

    ∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;

    : ได้ค่า มะมีปัญหาเลยยย

    ∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ

    : ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่เสมอ คูมโนว่าไง แมวว่างั้นค่า

    ∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=

    : อยากเห็นฉากซิทคอมนำเสนอเรื่อง ไซรัสกับเนื้อมนุษย์ อยากเห็นเขาเอาเนื้อมนุษย์มาย่างเนยแทนที่จะกินแบบดิบๆเหมือนสมัยก่อน เพราะการกินแบบดิบๆมันเอาท์ไปแล้ว นี่2400 เนื้อมนุษย์ต้องทำอาหารอะไรได้มากกว่าการกินดิบ--- หยอกนะคะ







    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×