ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ yaoi) ICE2 ; เพราะเรา..ต่างกัน

    ลำดับตอนที่ #57 : - ICE[2] 49 - ยอมรับ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 54


     

     

    ‘ ICE[2] 49 ’

    ___________

     

                เสียงเปิดอ้าของกระเป๋าใบขนาดกลาง กองเสื้อผ้าที่ถูกเจ้าของๆมันคว้ามาวางมากองเอาไว้ข้างๆพร้อมกับร่างบางที่ทรุดตัวลงนั่งแล้วหยิบเสื้อออกจากตัวที่แขวนแล้วพับเสื้อผ้าของตัวเองยัดใส่กระเป๋าแบบที่ไม่ได้เรียบร้อยอะไรมากนัก เสื้อผ้าเพียงบางส่วนที่ถูกนำออกนั้นทำเอาตู้เสื้อผ้าโล่งไปไม่น้อยเลย

     

                ก๊อกๆ///

     

                “ อ๊ะ!!......ใครน่ะ ” เสียงหวานตะโกนขานรับเสียงประตู เสียงภายนอกเงียบไปซักพักนั้นทำให้ร่างบางต้องรีบปิดกระเป๋าเสื้อก่อนจะยกมันเก็บไปยังที่เดิม ร่างบางสาวเท้าไปยังหน้าประตูหน้าของตัวเองพร้อมกับเปิดมันออก

     

                ...โชคดีที่สุดที่เขาตัดสินใจถูก

     

                “ ยุนโฮ.. ”

     

                “ โทษทีน่ะ...พอดีไม่ค่อยมีเสียงขานตอบเท่าไหร่ ” ร่างบางดูจะอึ้งไปเล็กน้อยเพราะตั้งแต่ที่เขารู้จักชองยุนโฮมา ไม่เห็นมีครั้งไหนที่เขาจะเห็นร่างสูงนี้ป่วยเลยซักครั้งแต่คราวนี้ดูเหมือนเสียงเบสนั้นจะดูแหบลงไปจนแทบจะพูดไม่ได้ยินเลย

     

                “ แล้วเมื่อกี้...เสียงอะไรน่ะ ” ดวงตาคมที่พยายามมองเล็ดเข้ามาภายในห้องนั้นทำให้ร่างบางต้องรีบหาคำตอบขึ้นมาปกปิด “ อ๋อ..มะ..เมื่อกี้ฉันเปิดตู้ออกแล้วกระเป๋ามาเลื่อนออกมาน่ะ ไม่มีอะไร ” ซึ่งคำตอบที่ตัวเองคิดออกในณ.ตอนนนี้แล้วก็ดูว่าคงจะไม่เว่อร์จนเกินไปก็คงเป็นคำตอบนี้

     

                “ อ่า... ”

     

                “ ไม่สบายเหรอ ”

     

                “ นิดหน่อยน่ะ...อ้อ ฉันมาเรียกเธอไปกินข้าว ” ชองยุนโฮระบายยิ้มจางๆก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมนิ่มเบาๆแต่ถึงอย่างนั้นคนโดนแกล้งก็ยกมือขึ้นบัดมือหนานั้นออกมือบางถึงได้สัมผัสได้ว่าร่างสูงนั้นตัวร้อนมากแค่ไหน

     

                “ นี่... ”

     

                “ ไปกินข้าวได้แล้วเด็กดื้อ ถ้าไม่ลงฉันจะตีเธอ ” สภาพแบบนี้จับเขาให้อยู่ได้ก่อนเถอะ... ร่างบางโต้ในใจ ก็ลองพูดดูสิ...

     

                “ ไปสิ ” คนตัวเล็กเดินนำออกไปโดยไม่ลืมที่จะคว้าลูกบิดปิดประตูห้องของตัวเองให้สนิทด้วย แถมยังพาร่างสูงเดินลงมานั่งข้างล่างด้วย...ใบหน้าคมที่เคยระบายยิ้มแต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยคำถาม

     

                ...ร้อยวันพันปี...กระเป๋ามันก็ไม่เคยเลื่อนออกมา

                .

                .

                ..บางที.. ชองยุนโฮก็แค่ฉลาดเกินไป

     

    .

    .

     

                “ อ่ะ...นี้น้ำมะนาวน่ะ เผื่อมันจะช่วยได้บ้าง ” แก้วน้ำกระเบื้องขนาดกลางที่มีน้ำรสเปรี้ยวของมะนาวอยู่เกือบครึ่งถูกวางลงบนโต๊ะอาหารตรงหน้าร่างสูงพอดี ยุนโฮเงยหน้ามองร่างบางที่ยื่นแก้วน้ำนี้มาให้ทั้งสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม

     

                “ เขาว่ากันว่า..ถ้าเจ็บคอต้องกินน้ำพวกนี้ ”

     

                “ นี้เธอทำเหรอ? ”

     

                “ ฉัน? เปล่า ป้าทำน่ะ ” มือบางคว้ามือหนาขึ้นมาพร้อมกับยัดแก้วน้ำลงไป “ มันเปรี้ยวนะค่อยจิบแล้วกัน ” พูดเสร็จเจ้าตัวก็เดินหาขึ้นไปบนห้องทิ้งให้เขานั่งมองคนที่เพิ่งจากไปด้วยความแปลกใจ

     

                ...เกิดอะไรขึ้นกันนะ...                       

     

                “ อ้าวคุณยุนโฮ...ไม่สบายเหรอค่ะ ” แม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเขาพร้อมทั้งรอยยิ้มซึ่งคนป่วยก็ส่งรอยยิ้มกลับไปด้วยเช่นกัน

     

                “ แล้วนี้...น้ำมะนาวเป็นยังไงบ้างคะ ป้ายังไม่ได้ชิมเลย ” หล่อนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยุนโฮยกแก้วน้ำมะนาวนั้นขึ้นจิบ ใบหน้าคมที่ดูจะเฝื่อนไปเล็กน้อยจากรสชาติที่แสนเปรี้ยวของมัน แต่แน่นอนว่ามันทำให้คอเขารู้สึกดีขึ้น

     

                “ ก็ดีครับ...รู้สึกดีขึ้น ”

     

                “ ดีแล้วละคะ... ”

     

    ____________

     

                หลังจากอาหารเที่ยงคนสองคนก็พากันไปยังห้องดูหนังที่อยู่มุมหนึ่งของบ้านที่สร้างเอาไว้ตรงมุมก็กันไม่ให้เสียงของหนังนั้นดังเล็ดลอดไปสร้างความรำคาญให้แก่ห้องอื่นๆ หนึ่งเอ็กชั่นที่ทั้งคู่เพิ่งออกไปซื้อมาแล้วก็เลือกมาเปิดดู แน่นอนว่าที่เขายอมเสียงตังค่าน้ำมันออกไปซื้อเขาต้องไม่ได้ซื้อมาแค่เรื่องเดียวแน่ๆ

     

                “ วันนี้กะจะดูหนังให้ตาแฉะเลยรึเปล่าเนี่ย ” คนตัวเล็กที่เพิ่งเดินไปเอาแผ่นซีดีเข้าเครื่องเดินกลับมานั่งยังโซฟาหนังสีขาวตัวใหญ่ ขนมต่างๆที่ทั้งคู่ซื้อมาค่อยๆถูกร่างสูงแกะออกแล้วนำขนมเข้าปาก “ เอามากินบ้างสิ ” เสียงเล็กร้องทักท้วงเมื่อเห็นว่าร่างสูงเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินแล้วคิมจุนซูก็ได้พบว่าตนนั้นโดนแกล้งเพราะต่อให้ทวงขนมในมือหรือจะแย่งยังไงปาร์คยูชอนก็ยิ่งเอาถุงขนมออกห่าง

     

                “ หนังฉายแล้วเห็นไหม ” หนังจากหมดโฆษณาแล้วร่างสูงก็ชี้ให้ร่างเล็กหันไปสนใจหนังแทนทว่าในมือกลับพยายามเอาถุงขนมหนี จนสุดท้ายคนตัวเล็กก็เลยกลับมานั่งกอดอกเฉยๆไม่ยอมแย่งเหมือนเด็กๆอย่างเมื่อกี้ ดวงตากลมเล็กไม่ยอมสนใจร่างสูงเลยเอาแต่มองไปยังทีสีจอใหญ่ตรงหน้า จนสุดท้ายร่างสูงก็ยอมยื่นถุงขนมให้ผลคือ...คิมจุนซูไม่ยอมรับมัน

     

                “ งอนเหรอ...โอ๋ อะนี้ไง ให้แล้ว ” แม้ว่าจะพยายามง้อขนาดไหนร่างเล็กก็ไม่ยอมหันมาสนใจจนกระทั้งขนมนั้นถูกนำมาจ่อตรงหน้า ใบหน้าหวานที่ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างก่อนจะอ้าปากรับมันเข้าปากไป

     

    “ หางอนก็ได้..อ๊ะ!!! ” เนื่องจากเป็นหนังเอ็กชั่น เริ่มหนังมาไม่เท่าก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาทำเอาคนที่ไม่ได้สนใจตกใจไม่น้อย ไม่ใช่แค่ยูชอนที่สะดุ้งแต่คนที่ดูจะเป็นเอามากดูเหมือนจะเป็นคนตัวเล็กที่รีบคว้าแขนแกร่งมาบีบแน่น เสียงหนังที่เงียบหายไปจนเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวจากความตื่นตกใจ

     

                “ ตกใจง่ายจริงนะ ” แล้วเขาก็ไม่วายเอ่ยปากแซวทั้งๆที่ตัวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน มือขาวฟาดเข้าที่ท่อนแขนแกร่งก่อนจะคว้าถุงขนมมาไว้กับตัวเองแล้วหันกลับไปสนใจกับหนังตรงหน้าต่อ ไม่ช้าแขนแกร่งก็ค่อยๆอ้าออกแล้วนำมาพาดเอาไว้ราวกับปาร์คยูชอนนั้นกำลังโอบกอดร่างเล็กอยู่ก็ไม่ปาน

     

                ...ใจเต้นแรง

     

                คิมจุนซูมั่นใจว่าเขานั่นหายจากอาการตกใจเมื่อกี้แล้ว...ทว่าทำไมการเต้นของหัวใจมันกลับเต้นแรงขึ้น เขาคงไม่บ้าเพราะเรื่องแค่นี้แต่มันเพราะอะไร...  หัวใจของเขาอ่อนไหวเกินไป

     

                ...หรือเพราะมันเข้มแข็งไม่ได้อีกแล้วกันแน่

     

                ดวงตากลมเล็กลอบมองไปยังใบหน้าคมที่อยู่ไม่ห่างมากนัก ใบหน้าคมที่ควรจะจรดจ้องไปยังหนังตรงหน้าที่ดูจะกำลังสนุกไม่น้อย แต่มันกลับ...มองเขาอยู่เช่นกัน

     

                ...เขาไม่ได้หลงตัวเองใช่ไหมว่า ปาร์คยูชอนมองเขามาตั้งนานแล้ว

     

                จากที่ลอบมองกลายเป็นสบตาตรงๆ ไม่มีการหลบซ้อน มีแต่ดวงตาของทั้งคู่ที่สะท้อนเป็นภาพของอีกฝ่าย ราวกับมันต้องการที่จะสื่อว่า

     

                ...ต้องการที่จะมองคนๆนี้ไปตลอด...

               

     

                ก๊อกๆ///

     

                “ คุณยูชอนคะ...น้องชายคุณมาหาค่ะ ” ทั้งคู่เป็นอันต้องผละออกจากกันเพราะเสียงเรียกจากภายนอก ยูชอนขานรับก่อนจะลุกเดินออกไปด้านนอกห้องปล่อยให้อีกคนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมทั้งใบหน้าที่แดงก่ำ

     

                ..เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

    .

    .

                “ อ้าว..หวัดดียูฮวาน ” หลังจากที่ตัวเองนั้นดูหนังตรงหน้าอยู่ไม่นานนัก แขกรับเชิญก็ได้เข้ามานั่งข้างๆพลางส่งยิ้มหวานมาให้เขา ในคราแรกเขาแอบนึกว่าเป็นปาร์คยูชอนเสียด้วยซ้ำ...เป็นพี่น้องที่หน้าเหมือนกันจริงๆเลยให้ตายเถอะ

     

                “ หวัดดีฮะพี่จุนซู..เออ...พี่ยูชอนเขาขึ้นไปเอาของให้ผมน่ะฮะ เดี๋ยวลงมา ” น้องชายเอ่ยขึ้นมาก่อนเพราะว่าอย่างไรเสียคิมจุนซูก็ต้องเอ่ยปากถามอยู่ดี ร่างเล็กข้างๆหยักหน้ารับรู้ก่อนจะยื่นถุงขนมให้คนข้างๆที่เป็นเสมือนน้องชายของตัวเองอีกคน

     

                “ นี่..ขนม ถ้าวันนี้ไม่มีธุระอะไรก็อยู่ดูหนังกับพี่ๆก็ได้นะ เรื่องนี้น่ะสนุกมากเลยนะ พี่ซื้อมาตั้งหลายเรื่องแหนะ กะจะดูกันให้ตาแฉะเลย ” ยูฮวานหัวเราะ พลางหยิบขนมเข้าปากไปพลางดูหนังที่ฉายไปพลาง บทสนทนาระหว่างกันดูเหมือนจะเป็นเรื่องหนังตรงหน้าเสียมากกว่า

     

                “ ว่าแต่พี่ยูชอนไปนานจัง.. ” ผลสุดท้ายคนมาเอาก็ต้องเอ่ยขึ้นเหมือนเขาไม่ยักกะเห็นว่าพี่ชายตัวดีที่ขึ้นเอาของให้เขานั้นจะลงมาเสียที “ สงสัยยังหาอยู่ละมัง ห้องยูชอนน่ะชอบเก็บอะไรเอาไว้ไม่เป็นที จะเรียบร้อยทีก็ตอนหาของไม่เจอนั้นแหละ ถึงจะได้ฤกษ์เก็บของใหม่ ”

     

                “ พี่นี่แย่ชะมัด ” แล้วปาร์คคนน้องก็เอ่ยปากว่าพร้อมทั้งรอยยิ้มของทั้งคู่

     

                “ ว่าแต่...เรามาเอาอะไรล่ะ? ” เพราะดูท่าแล้วมันก็คงเป็นของที่สำคัญไม่น้อย

     

                “ เอกสารรับรองน่ะฮะ ของพี่ยูชอนนั้นแหละ...บอกว่าจะเอามาให้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วแต่ยังไม่เห็นเอามาให้ วันนี้ผมเก็บของเสร็จแล้วก็เลยเข้ามาหาแล้วเอาเอกสารไปเลย ผมจะได้เอาไปยื่นให้ทางสถานทูตทัน ”

     

                “ อ๋อ...ที่ยูฮวานจะไปเรียนที่อเมริกาใช่ไหม อื้อ..พี่ดีใจด้วยนะ แต่ว่า ทำไมต้องใช้เอกสารของยูชอนเขาล่ะ ” และดูเหมือนที่ได้จะทำเอายูฮวานอึ้งไปเล็กน้อย...

     

                “ อ้าว...จุนซูไม่รู้เหรอฮะ? ”

     

                “ รู้อะไรเหรอ? ”

     

                “ ก็...พี่ยูชอนจะไปอเมริกากับผมด้วย ”

     

    _______________

     

                “ ก่อนว่าคนอื่นดื้อ..ดูตัวเองก่อนไหม ” เตียงกว้างที่ยุบลงด้วยน้ำหนักตัวของร่างสูงโปร่งที่ถูกหามมานอนราบอยู่บนเตียงทั้งชุดทำงาน ร่างสูงชองชองยุนโฮถูกถอดเสื้อสูทออกพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกปลดกระดุมออกสองสามเม็ดบน เหงื่อใคร่ไหลปกคลุมไปทั่วใบหน้าไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ดีกว่าร่างสูงนั้นไข้ขึ้นเสียแล้ว

     

                “ ฉันแค่ไม่อยากให้เสียงาน ” คนที่ยื่นกอดอกว่าไปเมื่อกี้เลิกคิ้วขึ้งสูง

     

                “ สภาพแบบนี้คิดว่ายังทำงานได้อีกหรือไง...เก่งไปแล้วมั้ง ” ร่างสูงมองร่างบางของคิมแจจุงที่เพิ่งเดินหามเขาเข้ามาส่งเมื่อกี้ พลางยกยิ้มบางๆ “ ขอบคุณนะที่อุตส่าห์แบกมาส่ง ”

     

                “ ฉัน...ช่างเถอะ ไม่อยากให้ป้าแก่ๆมาแบก เดี๋ยวจะเป็นลมไปทั้งคนแบกและคนหาม ” ก็เพราะว่าชองยุนโฮไม่ได้เบาเหมือนนุ่นที่จะแบกลากไปไหนมาไหนได้ ตัวหนักชะมัดเลย เขาก็ไม่ได้ถือว่าเป็นผู้ชายตัวเล็กอะไร อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยซ้ำๆไป หมอนี้ตะหากที่มันโตเกินเกณฑ์ปกติ

     

                “ ฮ่าๆ งั้นเธอก็กินข้าวเยอะๆจะได้มีแรง เกิดฉันเป็นอะไรไปเธอจะได้มาแบกไง ” ใบหน้าหวานจ้องเขม็งก่อนจะสะบัดส่ายอย่างไร้ซึ่งเยื่อใย

     

                “ ครั้งต่อไป ฉันจะปล่อยให้นายนอนอยู่ที่พื้นตะหาก ” ว่าไปแต่มือกลับคว้าผ้าห่มที่พับอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมาห่มให้ “ ใจร้ายจังนะ ” เสียงเบสดังขึ้น หากแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากร่างบางอยู่ดีนั้นแหละ

     

                “ นอนพักไปเถอะ...ฉันจะไปพักบ้าง นอนไปไม่ต้องลุกขึ้นมาป่วนฉันนะ ” คิมแจจุงก็แค่พูดไปอย่างนั้น เพราะว่ายังไงตอนนี้ยุนโฮก็คงไม่มีทางลุกขึ้นมาอยู่แล้ว อาการน่าเป็นห่วงเสียขนาดนี้

     

                “ อื้อ...ดีแล้ว ถ้าไม่จำเป็นตอนนี้ก็อย่าเพิ่งเข้ามาแล้วกัน ”

     

                “ ...อื้ม ”

     

                “ ฉันกลัวเธอติดไข้จากฉันน่ะ ” ร่างบางพยักหน้าน้อยๆก่อนจะค่อยๆหันหลังเดินกลับออกไปโดยไม่ลืมที่จะทิ้งคำอวยพรที่ชองยุนโฮเองก็ไม่คิดว่าจะได้ฟังมันซักครั้งในชีวิต

     

                “ หายไวๆแล้วกัน ตาแก่ขี้บ่น ”

     

    _____________

     

                “ ผมไม่รู้ว่าพี่ยังไม่ได้บอก... ”

     

                “ พี่ไม่กล้าวะ แต่แกบอกไปแล้วก็คงโอเค ”

     

                “ ไม่หรอก...ผมว่าพี่จุนซูไม่โอเคด้วยแน่ๆ ไม่แน่ๆ...พี่ลองคิดดูสิ ”

     

                “ นายเหม่ออะไรน่ะยูชอน... ” แล้วสติของปาร์คยูชอนก็กลับมาอีกครั้ง ใบหน้าคมอยู่จะเหวอไปน้อยๆ ร่างเล็กที่ชะโงกหน้ามามองหน้าเขาอย่างสงสัยค่อยๆกลับไปนั่งดูหนังเหมือนเดิมแถมหยิบกล่องใส่ซีดีขึ้นมาดู

     

                “ ถ้าเรื่องนี้ไม่สนุกก็เปลี่ยนเรื่องใหม่แล้วกันนะ ” จุนซูทำท่าจะเดินไปเปลี่ยนแผ่นหากแต่ยูชอนกลับรั้งเอาไว้ก่อน “ เปล่าๆ ”

     

                “ อ้าว..นึกว่าไม่สนุกเสียอีก เห็นเรื่องนี้คนขายบอกว่าดังมากก็เลยซื้อมา นึกว่าคนขายโกหกเสียอีก ”

     

                “ โทษทีน่ะ...เหม่อไปหน่อย แต่หนังพวกนี้มันก็นะ ฮ่าๆ ไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนโง่ๆอย่างฉันเท่าไหร่ ปัญหามันซับซ้อน ” แล้วเขาก็หาเรื่องแก้ตัวเองไปเรื่อย จุนซูหัวเราะก่อนจะกลับมานั่งดูหนังตรงหน้าต่อ...แม้ว่าร่างเล็กจะไม่พูดอะไร แต่ปาร์คยูชอนรู้ว่าคิมจุนซูกำลังคิดเหมือนกัน

     

                ....ทำไมทั้งๆที่รู้ว่าฉันปกปิด ถึงไม่พูดอะไรเลย

               

                “ นี่แหละ สเน่ห์ของหนังฝรั่ง ”

     

                “ นั้นสิ สเน่ห์อีกอย่างก็คงจะเป็น...จบแบบงงๆมั้ง ” ปาร์คยูชอนหัวเราะ สุดท้ายแล้วเขาทั้งคู่ก็นั่งดูหนังตรงหน้าไป โดยมีคุยบ้างเป็นครั้งคราวจนกระทั้งมันจบ

     

                “ จะดูต่อเลยไหม? หรือว่าจะพักก่อน---

     

                “ ยูฮวาน...บอกนายเรื่องที่ฉันจะไปอเมริกาแล้วใช่ไหม ” จะว่าๆเมื่อกี้ที่ดูหนัง เวลาเกือบครึ่งหนึ่งเขาหมดไปกับการคิดว่าจะพูดให้ปัญหาทั้งหมดมันเคลียร์ดีหรือว่าจะปล่อยให้มันค้างคา.. แต่เท่าประสบการณ์ที่ปาร์คยูชอนมีเขาครวจะบอกมันออกไป

     

                ...เขารู้ว่าคิมจุนซูไม่ชอบอะไรที่ค้างคาและไม่ชัดเจน

     

                “ อ๋อ อื้ม! บอกแล้วแหละ...แล้วเตรียมเอกสารพร้อมหรือยัง ให้ฉันช่วยไหม? ”

     

                “ จุนซู...ฉันขอโทษ ”

     

                “ นายขอโทษฉันเรื่องอะไรเนี่ย? ” บอกตรงๆว่าการรับมือจุนซูที่โวยวายนั้นดีกว่าแบบนี้หลายเท่า เพราะตัวเขาไม่รู้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไร มันอาจจะไม่มีแต่เขามั่นใจว่าไม่ใช่

     

                “ ขอโทษที่ไม่ได้บอกนาย..ฉัน--

     

    “ ไม่เป็นไรหรอก มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกแล้วกัน...มาดูหนังกันต่อดีกว่า ” เขาไม่รู้ว่าที่คิมจุนซูทำไปนั้นเป็นการกลบเกลื้อนอะไรหรือเปล่า เพียงแต่ว่าเขารู้สึกไม่ชอบใจเลยอาจจะหาว่าเขานั้นบ้าที่ว่าจะทางไหนก็ไม่เอา  แต่ถ้าจะให้เขาเลือก

     

                ...เขายอมให้คิมจุนซูระบายออกมาดีกว่าเก็บเงียบแบบนี้ 

     

     

    ดวงตากลมเล็กที่จรดจ้องแต่จอทีวีตรงหน้า...หนังเรื่องที่สามแล้วที่เขาเปิดดูในวันนี้ กิจกรรมยามว่างที่พวกเขาตกลงกันที่จะทำนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะหนังตรงหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตนเองสนใจได้อีกแล้ว ถ้าจะถามถึงหนังที่ดูไปก็คงจะตอบอะไรไม่ได้ เพราะคิมจุนซูไม่ได้ดูมันตั้งแต่ต้น

     

    “ ก็...ยูชอนจะไปอเมริกากับผมด้วย ”

     

    “ จริงเหรอ...พี่ยังไม่เห็นรู้อะไรเลย ”

     

    “ พี่เขาอาจจะยังไม่ได้บอกก็ได้ฮะ...คือ ผมกับพี่เขาก็เพิ่งตกลงกันไม่นานเอง ”

     

    “ อื้อ...ยังไงก็ขอให้เราโชคดีนะยูฮวาน ”

     

    ...ยอมรับว่าเสียใจมาก ยอมรับว่าผิดหวัง ยอมรับว่าอยากถามให้รู้เรื่อง และ..

     

                ...ยอมรับว่าต้องทำใจ

     

    _______________

     

     โอ๊ยย .. ขอโทษที่มาต่อช้านะคะ พอดีกว่าติดทำโครงงาน ความผิดอันร้ายแรงคือ ตัวเองดันเลือกงานยาก แล้วมันก็เลยหาข้อมูลยาก = = ต้องขออภัยณ.จุดนี้จริงๆจ๊ะ T^T 

           PS. ICE3 อาจจะพักเอาไว้ก่อนและอาจจะการรีใหม่ เพราะไรเตอร์ว่าเรื่องมันแปลกๆ รวมไปถึงภาษาด้วย ยังไงก็ต้องขออภัยไว้ณ.จุดนี้ด้วยนะคะ (โค้ง)


    คิดถึงรีดเดอร์มากๆเลยนะ TT

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×