คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : บทที่ 7 : ครีเชอร์
เช้าวันถัดมาบรรยากาศในคฤหาสน์ดูมืดมนยิ่งกว่าเดิม เฮเลนคิดไม่ออกแล้วว่าตัวเองควรจะทำอะไรดีในตอนนี้ สคริมเจอร์ถูกโวลเดอมอร์ฆ่าตายไปแล้วแถมวันนี้เดรโกก็ไม่อยู่เพราะถูกส่งไปสังเกตการณ์ที่กริมโมลด์เพลซ หญิงสาวปวดหัวตุ้บๆ เหมือนมันกำลังจะระเบิดเมื่อลองคิดหาวิธีหนีไปโดยไม่ให้ผู้เสพความตายสักคนรู้หรือไม่ให้นาร์ซิสซาต้องตาย แต่มันยากเย็นเสียเหลือเกิน ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่ปราณีแก่ผู้ทรยศเขาแน่ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม
วันที่ 1 กันยายนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว เฮเลนคิดถึงช่วงที่ได้ไปขึ้นรถด่วนฮอกวอตส์เสียจริง ความหวังเล็กๆ ที่จะได้กลับไปนั่งทานขนมบนรถไฟและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานริบหรี่อยู่ในใจ ทุกคืนวันนอกจากการภาวนาให้แฮร์รี่ปลอดภัยแล้วเธอก็ไม่รู้ว่านอกจากนั้นควรจะทำอะไรต่อไป
ดวงตากลมมองไปยังไม่กายสิทธิ์ของแท็คพลางนึกถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์ไม่เคยรู้เลยหรือว่าเขานั้นคือใคร หรือว่าความจริงแล้วแท็คไม่ใช่ลูกชายที่แท้จริงของโวลเดอมอร์กันแน่ ปริศนามากมายที่ไขไม่ได้วนเวียนอยู่มากมายเหลือเกิน เธออยากคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ให้กระจ่างเรื่องที่ทำไมแท็คถึงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฮอร์ไมโอนี่ไปได้ หรือความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรก
ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงนอนหลังจากนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้นมาร่วมครึ่งวัน ในวันนี้ก็ไม่มีอะไรที่สามารถช่วยให้เฮเลนดึงความคิดของตัวเองออกมาจากอุโมงค์มืดๆ ได้เลย แสงสว่างเล็กๆ ตรงปลายสุดทางนั่นจะเป็นทางออกให้กับเธอได้จริงๆ งั้นเหรอ หรือว่าที่จริงแล้วมันไม่เคยมีคำตอบอยู่ตรงนั้นเลยกันแน่ ไม่เคยมีแสงสว่างและไม่เคยมีทางออกจากอุโมงค์แห่งความมืดนี้เลย
สองสามวันผ่านไปเหมือนผู้เสพความตายเข้าใกล้แฮร์รี่มากขึ้น พวกเขามีข่าวคราวว่าพบแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่แถวๆ ละแวกกริมโมลด์เพซ เฮเลนก็ยังคงถูกเรียกไปที่ห้องพยากรณ์ตลอดวันละหนึ่งชั่วโมงก่อนการวางแผนออกล่าครั้งต่อไปของโวลเดอมอร์ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายที่เธอไม่ใช่ผู้รักษาความลับทำให้เธอไม่อาจพูดออกไปได้ว่าบ้านกริมโมลด์เพลซอยู่ที่ไหนแต่โวลเดอมอร์ก็ยังคงต้องการข้อมูลอยู่ดี ถ้าหากไม่ติดว่าเธอยังสามารถทำประโยชน์ให้เขาได้ ตอนนี้เธออาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว
ลอร์ดโวลเดอมอร์กำลังตามหาอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องเล่าซึ่งคาดว่าไม่น่ามีอยู่จริง เดรโกรกลับมาที่คฤหานส์ในวันรุ่งขึ้นและเล่าเรื่องของนิทานบีเดิลยอดกวีให้เฮเลนได้ฟัง มันเกี่ยวกับเรื่องของผ้าคลุมล่องหน หินชุบวิญญาณและไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ เขาบอกเธอว่าโวลเดอมอร์กำลังตามหาไม้กายสิทธิ์นั่นเพื่อพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดและความโลภที่ต้องการจะอยู่เหนือผู้อื่น
"นายคิดว่ามันจะมีจริงเหรอ" เฮเลนถามหลังจากที่เดรโกโยนเนกไทไปแขวนลงบนไม้แขวนพอดี "มันเป็นแค่นิทานของพ่อมดที่แต่งขึ้นไม่ใช่รึไงกัน"
"แต่บางทีตำนานหรือนิทานก็เอามาจากเรื่องจริงนี่" เดรโกตอบพลางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างกันกับเฮเลน "ขนาดผ้าคลุมล่องหนยังมีอยู่จริงเลย"
"เท่าที่ฉันรู้มันไม่ได้มาจากยมทูต" เธอเถียง "มันทำมาจากหนังสัตว์วิเศษอย่างตัวเดมิไกส์ ยิ่งเป็นของชั้นเยี่ยมมนตรามันก็เลยไม่เสื่อมเหมือนของราคาถูกในกระทรวงเวทมนตร์"
"บางครั้งความฉลาดของเธอมันก็เป็นอุปสรรคขวางทางออกนะเฮเลน" เขาว่า "บางสิ่งบางอย่างไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยทฤษฏีหรือความรู้ในสมองหรอกนะ"
เฮเลนเงียบเสียงไปพลางใช้ความคิด ถ้าหากทั้งสามสิ่งนั้นมีอยู่จริงมันก็คงจะหายสาบสูญไปนานแล้วไม่ใช่หรือ ผ้าคลุมล่องหนของพ่อที่เเฮร์รี่และเธอใช้อยู่ก็มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นหนึ่งในสามสิ่งนั้น ส่วนไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์หรือหินชุบวิญญาณ มันคงไม่สามารถไปอยู่ที่ใครอื่นได้นอกจากผู้วิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ผู้วิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกงั้นเหรอ
"ดัมเบิลดอร์!" เฮเลนโพลงขึ้นมา "ถ้าเกิดว่าของพวกนั้นมีอยู่จริงดัมเบิลดอร์ก็ต้องรู้ เราอาจจะถามเขาได้ถ้าเกิดว่า --"
"แต่เขาตายแล้ว" เดรโกพูดเสียงเรียบ หลุบตาลงมองหน้าตักด้วยแววตาเจ็บปวด "ฉันเป็นคนทำให้เขาตาย"
"ไม่ ไม่" เฮเลนพึมพำ "ดัมเบิลดอร์ยังมีชีวิตอยู่ในภาพเหมือนของเขาที่ห้องของอาจารย์ใหญฮอกวอตส์!"
"แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าอาจารย์ใหญ่ที่นั่น" เขาพูด "เราไม่มีทางจะได้ไปพบดัมเบิลดอร์แน่"
ไฟความหวังสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่เหมือถูกน้ำสาดดับไปในพริบตา ทั้งสองเงียบเสียงลงไปและปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำ ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นอาจารย์ใหญ่อยู่ที่ฮอกวอตส์ก็คงไม่สามารถที่จะเข้าไปที่นั่นได้เลย ไม่มีทางอื่นใดนอกจากนี้อีกแล้วเหรอที่จะช่วยให้ทั้งสองคนหาทางออกเพื่อรอดไปจากที่แห่งนี้ได้
"ฉันชักจะหิวซะแล้วสิ" เดรโกพูดแหวกขึ้นมา "เธออยากกินอะไรไหม ฉันจะได้เรียกให้เอล์ฟเอาอาหารมาเสิร์ฟที่นี่"
"เอล์ฟ" เฮเลนทวนคำ ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในสมองอย่างฉับพลัน "ใช่ เอล์ฟไง!"
เดรโกมีสีหน้างุนงงเมื่อเฮเลนกระเด้งตัวขึ้นจากฟูกนุ่ม ดวงตากลมกวาดมองหาไม้กายสิทธิ์ของตัวเองที่วางทิ้งเอาไว้ที่ไหนสักแห่งในห้องก่อนจะเดินไปหยิบมันมากระชับเอาไว้ในมือแน่น เฮเลนมองเดรโกด้วยรอยยิ้มที่เปรียบราวกับแสงสว่างแห่งความหวังที่เขาไม่เข้าใจว่าตอนนี้มีความหวังอะไรกันแน่
"มีอะไรงั้นเหรอ" เขาถาม "เอล์ฟประจำบ้านทำอะไรเหรอเฮเลน"
"นายจำด๊อบบี้ได้ไหม" เฮเลนพูด
"จำได้" เขาตอบพลางขมวดคิ้วยุ่ง "เอล์ฟที่เธอกับแฮร์รี่ช่วยกันปล่อยไปจากบ้านฉันใช่ไหม"
"ใช่" เฮเลนบอก "เอล์ฟประจำบ้านจะมีเวทมนตร์ที่แตกต่างจากพวกเรา พวกเขาสามารถหายตัวเข้าออกฮอกวอตส์ได้ทั้งที่พวกเราทำไม่ได้"
"เธอกำลังจะบอกฉันว่าเธอจะให้ด๊อบบี้มาพาเราออกไปงั้นเหรอ"
"ไม่ใช่หรอก" เฮเลนส่ายหน้าเล็กน้อย "ฉันจะเรียกครีเชอร์มา"
เปรี้ยง!
เพียงแค่เอ่ยชื่อ เสียงลั่นราวกับฟ้าผ่าก็ดังขึ้นมา เอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผูกผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววทำท่าเตรียมพร้อมสำหรับการทำมื้อค่ำ ที่คอสวมล็อกเก็ตที่เฮเลน แฮร์รี่ เดรโกและดัมเบิลดอร์ไปนำมันมาพร้อมกันวันนั้น
"เรียกกระผมเหรอครับนายหญิง" ครีเชอร์โค้งคำนับ แววตาเกลียดชังหายไปจากดวงตากลมโปนของมันแล้ว "เจ้านายกำลังรอกระผมเตรียมอาหารค่ำให้อยู่ ครีเชอร์ต้องรีบกลับไป"
"เจ้านาย?" เดรโกเลิกคิ้ว "เจ้านายงั้นเหรอ"
"ใช่แล้วขอรับคุณชายมัลฟอย" ครีเชอร์ตอบรับ "นายท่านพอตเตอร์กำลังรอครีเชอร์อยู่"
"แฮร์รี่เหรอครีเชอร์" เฮเลนพูด พุ่งตัวถลาเข้าไปหาครีเชอร์อย่างรวดเร็ว "แฮร์รี่ยังปลอดภัยใช่ไหม ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แล้วกำลังจะ --"
หญิงสาวชะงักคำไปมองครีเชอร์ที่ปิดปากเงียบสนิทกับทุกคำถามที่เธอเอ่ยถามถึง
"ไม่ต้องบอก" เฮเลนพูด "อย่าบอกฉันว่าแฮร์รี่อยู่ไหน"
"แต่เดี๋ยวสิเฮเลน" เดรโกแย้งขึ้น "ถ้าครีเชอร์บอก เราก็จะรู้ว่าแฮร์รี่อยู่ที่ไหนนะ"
"ไม่ได้" เฮเลนส่ายหน้าเบาๆ "เรารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเขาอยู่ที่ไหน นายอย่าลืมว่าโวลเดอมอร์มีความสามารถในการพินิจใจ ถ้าเรารู้ สักวันเขาจะต้องรู้และตามไปเจอแฮร์รี่แน่"
ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างขัดใจ เฮเลนพยายามคิดหาทางถามคำถามที่ยังสามารถถามได้จากครีเชอร์ คำตอบที่เธอสามารถล่วงรู้ได้โดยไม่ต้องกลัวโวลเดอมอร์ตามไปเจอเขา แต่จะต้องถามอะไรล่ะ อะไรนอกจากสวัสดิภาพของแฮร์รี่
"ทั้งสามคนยังปลอดภัยใช่ไหม" เดรโกพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ "พวกนั้นปลอดภัยดีใช่ไหมครีเชอร์"
"ขอรับ" เอล์ฟตอบพลางเงยหน้าขึ้นมองทั้งสอง "ทั้งสามคนปลอดภัย ทั้งนายท่านวีสลีย์ นายท่านพอตเตอร์และนายหญิงหญิงเกรนเจอร์ด้วยขอรับ"
"ดี" เดรโกผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ "ตอนนี้พวกนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่"
"ครีเชอร์ไม่ได้รับอนุญาตให้ตอบคำถามนี้ขอรับ"
"งั้นตอบฉัน" เฮเลนบอก "ฉันก็เป็นนายของเธอครีเชอร์ บอกฉันหน่อยว่าตอนนี้พวกเขาไปพบอะไรบ้างแล้ว"
เอล์ฟทำท่าชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบ
"นายท่านพอตเตอร์ให้สร้อยของนายท่านเรกูลัสกับครีเชอร์" มันว่า "เขาดีใจมากๆ ที่ได้รับมันมา นายท่านพอตเตอร์สั่งให้เขาไปตามหาตัวมันดังกัส เฟล็ตเชอร์ ครีเชอร์พบหัวขโมยหัวเหม็นที่ตรอกน็อกเทิร์นและพามันไปหานายท่านพอตเตอร์"
"มันดังกัส?" ทั้งสองทวนชื่อ
"ใช่ขอรับ" เอล์ฟตอบ "เหมือนกับทั้งสามคนกำลังตามหาสร้อยอีกเส้นหนึ่งที่เหมือนกับสร้อยเส้นนี้"
ครีเชอร์เลื่อนล็อกเก็ตที่คอให้เฮเลนได้ดู ถ้าเธอเดาไม่ผิดมันคงจะเป็นล็อกเก็ตของสลิธีรินแน่นอน ถ้าหากครีเชอร์บอกว่าแฮร์รี่กำลังตามหาสร้อยอีกเส้นนั้นก็หมายถึงสร้อยเส้นนี้เป็นของปลอม หลังจากนั้นครีเชอร์ก็พูดถึงเรื่องที่แฮร์รี่นั้นมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับมันและเปิดใจกับมันมากขึ้นมันจึงยอมเคารพเขาอย่างเต็มใจไม่เหมือนดังก่อน เฮเลนชื่นชมครีเชอร์ที่ไม่นึกโกรธเรื่องที่เคยผ่านมาและนอกจากนั้นเฮเลนเองก็ยังไม่ลืมสัญญาที่จะให้ครีเชอร์เป็นเอล์ฟประจำตัวเดรโกหนึ่งวัน ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน
"นอกจากนั้นวันก่อนยังมีมนุษย์หมาป่ามาที่บ้านของพวกเราด้วย" ครีเชอร์พูด "มันเอาข่าวไม่ดีมาให้พวกนายท่านได้รับรู้ก่อนจะกลับไป ครีเชอร์ไม่ดีใจเลย เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย"
"ศาสตราจารย์ลูปินงั้นเหรอ!" เฮเลนพูด "เขายังมีชีวิตใช่ไหม"
"ขอรับ" เอล์ฟตอบ "มันเอาหนังสือพิมพ์มาให้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาทะเลาะกันอย่างรุนแรงและมันก็หนีไปจากบ้าน"
"ข่าวอะไรเหรอครีเชอร์" เธอถาม ช่วงนี้เดรโกไม่ได้ติดหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตมาให้เธอนานพอสมควรเนื่องจากโวลเดอมอร์ใช้งานเขาหนักมากในทุกๆ วัน "เกี่ยวกับกระทรวงหรือเปล่า"
"ขอรับ เกี่ยวกับพวกท่านทั้งสองขอรับ" เอล์ฟว่าพลางดีดนิ้ว หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา "ครีเชอร์ไม่อาจให้ขอมูลอะไรนายหญิงได้อีกแล้วขอรับ เขาจะต้องรีบไปทำมื้อค่ำให้นายท่านพอตเตอร์"
เฮเลนเอื้อมมือไปฉวยหนังสือพิมพ์ตรงหน้าขึ้นมาก่อนจะโยนไปให้เดรโกที่นั่งอยู่บนเตียง
"ฝากบอกแฮร์รี่ด้วยว่าฉันสบายดี" เฮเลนพูด "แต่ตอนนี้ฉันยังออกไปไม่ได้ ไม่ต้องห่วงฉัน"
"ขอรับนายหญิง" ครีเชอร์โค้งต่ำอีกครั้งก่อนที่เสียง เปรี้ยง จะดังขึ้นและร่างของมันหายไป
เฮเลนลุกขึ้นจากพื้นเดินเข้าไปนั่งลงบนฟูกข้างๆ เดรโกที่คลี่หนังสือพิมพ์ออกพลางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ บนนั้นมีใบหน้าของแฮร์รี่ถูกขยายแปะเอาไว้เต็มหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมกับพาดหัวข่าวมโหฬาร
"บ้าที่สุด" เฮเลนร้อง "ข่าวก่อนหน้านี้ก็เอาแต่บอกว่าแฮร์รี่เป็นคนฆ่าดัมเบิลดอร์"
ตอนที่ดัมเบิลดอร์ตาย นอกจากพวกที่อยู่บนหอคอยแล้วก็ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าใครเป็นคนฆ่าเขา และเหมือนที่ริต้า สกีตเตอร์ได้บอกโลกผู้วิเศษไปในข่าวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาว่ามีคนเห็นแฮร์รี่ พอตเตอร์วิ่งลงมาจากที่นั่นโดยไม่เอ่ยถึงเลยว่ามีผู้เสพความตายนับสิบที่วิ่งกรูขึ้นไปบนหอคอยนั้นก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะตกลงมา
"ผู้เสพความตายยึดพรอเฟ็ตเอาไว้ได้" เดรโกบอก "พวกเรายึดอำนาจได้อย่างสงบ ถึงที่เธอบอกว่ามันจะดูเหมือนสงครามเล็กๆ ในกระทรวงเวทมนตร์ แต่เรื่องการฆาตกรรมสคริมเจอร์ก็กลายเป็นมีแถลงการว่าเขาลาออกจากตำแหน่ง แล้วก็ให้ไพอัส ทิกเนสขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ป้าฉันบอกมาแบบนี้"
"เขาก็โดนคำสาปสะกดใจไปแล้วสินะ" เฮเลนกัดฟัน เดรโกพยักหน้าเล็กน้อย
"โวลเดอมอร์ไม่จำเป็นต้องขึ้นแท่นรัฐมนตรีด้วยตัวเอง ฉันรู้ว่าชุมชนผู้วิเศษทุกคนรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น" เดรโกพูดต่อ ดวงตากวาดมองเนื้อหาด้านในหนังสือพิมพ์ "กระทรวงเปลี่ยนโยบายกะทันหัน ตอนนี้ฉันคิดว่าคนในกระทรวงไม่มีใครเชื่อใจใครได้อีกแล้วเพราะมีผู้เสพความตายส่วนหนึ่งเข้าไปแทรกแทรง ยิ่งพวกนั้นสงสัยมากเท่าไหร่ ครอบครัวพวกเขาก็จะตกเป็นเป้าได้มากเท่านั้น"
"นโยบายที่เปลี่ยนแปลงนี่" เฮเลนพูด "มันคงจะรวมถึงการให้ผู้วิเศษรวมตัวกันต่อต้านแฮร์รี่แทนโวลเดอมอร์ด้วยสินะ เพราะตอนนี้ดัมเบิลดอร์ก็ตายไปแล้ว แฮร์รี่ที่เป็นหนึ่งใน 'ผู้รอดชีวิต' ก็ต้องกลายเป็นเป้าเพราะเขาอาจจะชักชวนให้ใครต่อใครต่อต้านโวลเดอมอร์ แต่พอริต้า สกีตเตอร์เขียนข่าวว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในการตายของดัมเบิลดอร์ โวลเดอมอร์ก็เลยตั้งค่าหัวให้เขาเพื่อให้ผู้วิเศษที่จะปกป้องเขาหวาดกลัว"
เฮเลนขบริมฝีปากอย่างโกรธจัด มันเป็นแผนที่แยบยลมากหากเทียบกับสิ่งที่อยู่ในสมองของเธอตอนนี้ เฮเลนสามารถบอกได้เลยว่าเพียงก้าวเดียวที่เธอออกไปจากคฤหาสน์นี้เธอคงต้องถูกเขาฆ่าตายอย่างรวดเร็วแน่ๆ เธอควรจะทำยังไงให้โวลเดอมอร์ตายใจและหลงเชื่อว่าเธอจะไม่ไปจากที่นี่ จะหายไปพร้อมครีเชอร์แต่เธอก็ไม่อาจปล่อยให้นาร์ซิสซาเผชิญกับความโกรธของโวลเดอมอร์เพียงลำพังได้
หญิงม่ายที่ต้องสูญเสียงสามีไปเพราะเธอ เดรโกที่ต้องเสียพ่อไปเพราะเธอ ครอบครัวที่แตกออกเพราะเธอทำให้ลูเซียสตายมันทำให้เฮเลนไม่อาจหนีไปโดยปล่อยให้พวกเขารับภาระตรงนี้ได้ เฮเลนเชื่อว่าพวกเขาไม่อาจรอดพ้นความตายถ้าหากเธอหายตัวไปจากคฤหาสน์ เธอควรจะทำยังไงให้พวกเขาปลอดภัย ปลอดภัยโดยที่โวลเดอมอร์ไม่ทำร้ายพวกเขาเลย
"กระทรวงเคลื่อนไหวต่อต้านพวกที่เกิดจากมักเกิ้ล" เดรโกเอ่ย "การทำการวิจัยว่าทำไมพวกลูกมักเกิ้ลถึงได้อำนาจวิเศษมาครอบครอง เวทมนตร์นั้นสืบทอดทางสายเลือด หากลูกมักเกิ้ลคนใดไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีญาติหรือบรรพบุรุษเป็นผู้วิเศษก็มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาขโมยอำนาจนั้นมา"
"จะบ้าหรือไง!" เฮเลนร้อง "ถ้าอำนาจวิเศษขโมยกันได้ พวกมักเกิ้ลคงฉลาดกว่านี้ ลูกมักเกิ้ลส่วนใหญ่เกิดมาเพราะมีบรรพบุรุษเป็นสวิบ พวกเขาก็รู้ไม่ใช่เหรอ"
"กระทรวงกำลังจะออกบัตรเชิญพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลมาสอบสวนเพื่อลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล" เดรโกอ่านพรอเป็นพร้อมขมวดคิ้วมากขึ้นอีก "มียัยเกรนเจอร์ด้วย"
เฮเลนยกมือขึ้นกุมหัว มันปวดไปหมดราวกับมีใครใช้คีมมาบีบมันแรงๆ
"ตอนนี้พวกเด็กๆ ต้องไปเรียนฮอกวอตส์ ฉันได้ยินเเท็คพูดกับแม่" เดรโกบอก "จริงๆ พวกเขาจะส่งไปเรียนต่างประเทศได้ถ้าต้องการ แต่ตอนนี้กลับถูกบังคับให้เข้าไปเรียนที่ฮอกวอตส์เพื่อคัดกรองพวกลูกมักเกิ้ล ฉันคิดว่าโวลเดอมอร์กำลังควบคุมประชากรผู้วิเศษทั้งหมดตั้งแต่อายุน้อยๆ"
เฮเลนรู้สึกสะอิดสะเอียน นาทีนี้เด็กอายุสิบสามปีที่เคยตื่นเต้นอยากจะเข้าไปเรียนในฮอกวอตส์ทั้งหลายคงกำลังง่วนอยู่กับการดูตำราเล่มใหม่โดยไม่รู้ตัวเลยว่าอาจจะไม่มีวันได้เห็นฮอกวอตส์หรือไม่ก็อาจจะไม่ได้เห็นหน้าครอบครัวตัวเองอีกต่อไปแล้ว
เดรโกพับหนังสือพิมพ์โยนไปอีกทาง ทั้งสองเอนตัวลงนอนบนฟูกหนา เสียงจอแจที่ชั้นล่างขอคฤหาสน์บอกทั้งสองว่าพวกผู้เสพความตายบางคนเข้ามาที่คฤหาสน์เพื่อพักผ่อนก่อนออกไปทำภารกิจถัดไป เฮเลนคิดไม่ตกว่าควรจะหาทางหนีต่อไปหรือรอคอยโชคชะตานำพาให้เธอกับแฮร์รี่มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง เธอไม่คิดว่าข้อหลังจะเป็นไปได้ อนาคตที่ไม่แน่นอนนั้นทำให้เฮเลนพูดได้ไม่เต็มปากว่าตัวเองจะตายไปเมื่อไหร่ อาจจะพรุ่งนี้หรือวันมะรืนก็ไม่อาจบอกได้
"ฉันอยากไปให้พ้นจากที่นี่" เฮเลนพูดเสียงแหบแห้ง "ฉันอยากทำลายโวลเดอมอร์"
"แล้วจะทำได้ยังไง" เดรโกตอบ "ภารกิจตามหาฮอร์ครักซ์ยกให้แฮร์รี่จัดการไปแล้ว ตอนนี้พวกเราแค่คอยเฝ้านากินีเอาไว้"
"แต่โวลเดอมอร์ก็ไม่เคยปล่อยนากินีไว้เลยนี่" เธอพูด "ยกเว้นก็แค่ตอนที่ไม่มีใครอยู่ในคฤหาสน์นอกจากฉันเท่านั้น"
ทั้งสองเงียบเสียงไป หลังจากวันที่นากินีคุยกับเธอวันนั้น โวลเดอมอร์ก็ไม่เคยปล่อยให้เธออยู่กับมันเพียงลำพังอีกเลย เขาจะให้แท็ค นาร์ซิสซาหรือเบลาทริกซ์คอยจับตาดูอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่เคยให้เดรโกพักงานเลยสักวันยกเว้นจะเป็นวันที่เขาพานากินีออกไปด้วยเท่านั้น มันจะมีทางไหนที่จะสามารถเข้าถึงงูตัวนั้นได้โดยที่โวลเดอมอร์ไม่รู้กันนะ
หรือบางทีมันไม่มีทางหนีไปพ้นเงื้อมือเขาแล้วกันแน่ บางทีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นั้นมันคงไม่มีจริง
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น