ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #54 : บทที่ 6 : บุกกระทรวง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 64


    บทที่ 6 : บุกกระทรวง


    วันนี้เป็นวันที่ 1 สิงหาคม ทั้งคฤหาสน์เงียบสงัดแทบจะไร้ซึ่งผู้คน โวลเดอมอร์และผู้เสพความตายทั้งหลายออกไปที่กระทรวงเวทมนตร์ตั้งแต่เช้าตรู่รวมไปถึงนาร์ซิสซาด้วย เฮเลนตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันพร้อมกับความรู้สึกกังวลในใจ สิ่งที่เธอทำนายเอาไว้ให้โวลเดอมอร์ฟังในครั้งนั้นมันจะเป็นไปตามแผนของเธอหรือเปล่า เขาจะพาสคริมเจอร์กลับมาด้วยไหม มันยากเหลือเกินที่ลอร์ดโวลเดอมอร์จะไว้ชีวิตใครสักคนเพื่อข้อมูลอันแสนล้ำค่าของเขา

    เดรโกที่เพิ่งกลับมาจากไปอาบน้ำเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับไม่ลืมที่จะเสกคาถาเอาไว้ที่กลอนอย่างแน่นหนายิ่งขึ้น เขาบอกว่านับตั้งแต่นี้ไปห้องนี้จะไม่สามารถเปิดได้ยกเว้นเขาและเฮเลนเท่านั้น ถ้าหากว่ามีใครบางคนคิดจะเข้ามาโดยใช้การปลอมตัวเหมือนกับแท็คอีกจะโดนคำสาปม้วนลิ้นทำให้พูดไม่ได้ไประยะหนึ่ง นั่นทำให้เฮเลนอุ่นใจขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว

    "เป็นอะไรไป" เจ้าของงเรือนผมสีบลอนด์ซีดเอ่ยขึ้น "ทำหน้าเครียดเชียว"

    เฮเลนผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ร่างบางกระชับผ้าห่มที่คลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้เล็กน้อยก่อนจะมองไปยังเดรโกที่สวมชุดคลุมอาบน้ำสีเทาเข้มนั่งลงบนขอบเตียงพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมเปียกๆ ไปมา ร่างบางเลื่อนกายเข้าไปและฉวยผ้าผืนเล็กในมือของเขามาช่วยเช็ดแทนและเดรโกก็ยอมปล่อยให้เธอทำแต่โดยดี

    "ฉันกังวลนิดหน่อยน่ะ" เธอตอบพลางซับหยดน้ำออกจากผมของเขา "นายคิดว่าคริมเจอร์จะถูกฆ่าไหม"

    "ไม่รู้สิ" เดรโกบอก "แต่ถ้าโวลเดอมอร์อยากได้ข้อมูล เขาก็น่าจะไว้ชีวิตสคริมเจอร์เพื่อให้ได้ข้อมูลพวกนั้นมาเหมือนกับโอลิแวนเดอร์นั่นล่ะนะ"

    "แต่โวลเดอมอร์ไม่ได้ต้องการแค่ข้อมูลจากโอลิแวนเดอร์ไม่ใช่เหรอ" เฮเลนพูด "โอลิแวนเดอร์น่ะยังช่วยเรื่องเกี่ยวกับไม้กายสิทธิ์ได้อีกหลายอย่าง แต่กับสคริมเจอร์แล้วเขาไม่มีประโยชน์อะไรเลย"

    มือเล็กดึงผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาเมื่อผมของเขาเริ่มแห้งดีแล้ว เฮเลนจ้องมองผ้าในมืออย่างเหม่อลอย สมองคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าถ้าหากสคริมเจอร์ไม่รอดกลับมาเธอจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าแฮร์รี่อยู่ที่ไหนและปลอดภัยรึเปล่า

    "มันก็ถูกอย่างที่เธอบอก" เดรโกว่าพลางดึงผ้าขนหนูออกจากมือของเธอ "แต่ทุกคนเตรียมใจเรื่องนี้เอาไว้แล้ว พวกเขาพร้อมเสมอที่จะปกป้องเธอกับแฮร์รี่ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม"

    "แต่ว่าพวกเราไม่ได้มีค่าขนาดนั้น"

    "พวกเธอมีค่าขนาดนั้นเลยล่ะ" เจ้าของดวงตาสีฟ้าซีดพูด วางมือลงบนศีรษะของเธอ "พวกเธอสามารถทำลายเขาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกเธอ"

    ริมฝีปากบางทาบลงบนหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา  ช่วยทำให้ความรู้สึกกดดันผ่อนคลายลงไปได้เป็นเท่าตัว

    "ฉันไม่อยากให้มีใครต้องตายเลยเดรโก" หญิงสาวกระซิบ "พวกเขาเป็นคนสำคัญ"

    "เธอก็ต้องเชื่อในตัวพวกเขาสิ" ร่างสูงยิ้มบางๆ "เชื่อว่าพวกเขาจะต้องไม่ตาย"

    "ฉันเคยเชื่ออะไรแบบนั้นนะ" เฮเลนตอบ "แต่แม้ด-อายก็ทำลายความเชื่อพวกนั้นไปหมด"

    เดรโกหุบยิ้ม เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะรวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองคนในทันที นอกจากเสียงลมหายใจและเสียงตีปีกพั่บๆ ของลาเมียในรังของมันแล้วก็ไม่มีเสียงใดอื่นอีกเลย แต่เฮเลนก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือเรียวเย็นเฉียบลากยาวไปบนแผ่นหลัง!

    "เดรโก!" ร่างบางร้อง "นี่มันจะมื้อเที่ยงแล้วนะ นายก็เพิ่งไปอาบน้ำมาไม่ใช่เหรอ"

    "รู้อะไรไหม เฮเลน" เจ้าของดวงตาสีฟ้าซีดกระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูของเธอ "กลิ่นเธอมันหอมมาก"

    มือเล็กผลักหน้าอกของเดรโกเบาๆ เพื่อดันตัวให้ออกห่างจากเขาแต่มันก็ยังไม่พ้นรัศมีมือปลาหมึกของชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ดี มือเรียวรั้งเอวบางเอาไว้ให้แนบกายชิดกับร่างของเขาโดยไม่ยอมละใบหน้าออกไปจากซอกคอขาวเลยแม้แต่น้อย เฮเลนจิกเล็บลงบนเสื้อคลุมตรงหน้าอกของเขาจนเสื้อยับยู่ ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดต้นคอจนรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว มือขวาเกลี่ยไปมาที่แก้มใสราวกับกำลังจะจุดไฟอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง

    "นี่ฉันยังช้ำไม่พออีกเหรอ" เฮเลนแบะปาก "นายทำรอยเอาไว้เกือบทั่วตัวฉันแล้วนะ"

    "ไม่พอหรอก" เขาว่า "รอยที่ไอ้งูพิษนั่นทำยังไม่หายไปเลย"

    "มันจะหายไปได้เร็วขนาดนั้นเลยหรือไงล่ะ" ร่างบางพูดในขณะที่เดรโกเริ่มจะโถมแรงลงมาเพื่อดันให้เธอนอนลงบนเตียง "รอยช้ำนะไม่ใช่รอยแผลสดที่ใช้แค่ดิตทานีทาแล้วหาย"

    "ก็ฉันไม่ปลื้มนี่" เขาว่าแล้วกดริมฝีปากลงบนแก้มใส เฮเลนพยายามปัดป้องเขาออกไป

    "รู้แล้วค่ะว่าไม่พอใจ" เธอว่า "แต่เมื่อคืนนี้ก็น่าจะพอแล้วนะเดรโกกก"

    "ไม่พอหรอก ตราบใดที่กลิ่นของเธอยังหอมหวานน่ากินอยู่แบบนี้ล่ะก็"

    เดี๋ยวก็ร้องไห้ใส่ซะเลยนี่!!

    "นี่เรากับลังอยู่ในสถานการณ์ซีเรียสนะเดรโก" หญิงสาวแบะปากเมื่อในที่สุดชายหนุ่มก็ทำให้เธอลงมานอนราบลงบนเตียงจนได้ "เราต้องคิดหาวิธีหนีออกไปจากคฤหาสน์ด้วยนะ"

    "เอาไว้ที่หลังก็ได้" ร่างสูงว่าแล้วดึงผ้าห่มออกจากมือเล็กที่พยายามจับเอาไว้แน่นไม่ให้มันหลุดไป "ตอนนี้ฉันอยากกินเธอก่อน"

    ในขณะที่อ้าปากกำลังจะเถียงริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของเขาเสียก่อน มือทั้งสองข้างของเขาดึงผ้าห่มผืนหนาออกไปจากร่างบางและไม่รอช้าที่จะใช้ร่างกายลิ้มรสความหวานจากเรือนร่างงดงามของหญิงสาวผู้ถูกเลือกเพื่อเติมเต็มความปรารถนาในหัวใจ

    "พอแล้วเดรโก!" เฮเลนแยกเขี้ยวเมื่อเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดที่นอนทาบทับอยู่บนร่างของเธอยังมีท่าทีอยากจะต่ออีกรอบหลังจากรีดพิษออกไปจากร่างของเธอเป็นรอบที่สามแล้ว "นี่มันเลยมื้อเที่ยงมาเกือบสามชั่วโมงแล้วนะ"

    ดวงตากลมโตมองไปยังนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังและพบว่าเวลาล่วงเลยมาจนเกือบสามโมงเย็นแล้ว เฮเลนจำได้ว่าตอนตื่นมาครั้งแรกยังอยู่ในช่วงสายๆ อยู่เลย หญิงสาวตีเบาๆ ที่ไหล่กว้างเพื่อให้เขาถอนร่างกายออกไปจากเธอเสียทีจะได้ออกไปอาบน้ำและหาอะไรทานสักหน่อยก่อนมือค่ำ เนื่องจากรอยที่คอ เนินอก ไหล่และหลังลำคอทำให้เฮเลนไม่คิดอยากจะลงไปร่วมทานอาหารเย็นไปอีกยาวเลย

    "ฉันยังไม่พอเลยนี่" เดรโกเบ้หน้า "ผิวเธอมันหวานขนาดนี้"

    "พอแล้ว" เฮเลนลากเสียง "ฉันหิวไส้จะขาดแล้วเดรโก"

    "กินฉันไม่อิ่มหรือไง" ร่างสูงทำเสียงยียวน เฮเลนฟาดมือลงบนแขนของเขาแรงๆ ทีหนึ่ง

    "ไม่เล่นแล้ว ฉันจะไปหาอะไรกิน" เฮเลนเบ้หน้า ดันร่างใหญ่ให้ออกไปจากร่างของเธอครั้งนี้เขายอมถอยออกไปโดยดี ร่างบางเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำมาสวมทับร่องรอยต่างๆ บนร่างกายเอาไว้และรีบแจ้นออกจากห้องไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เดรโกเกิดเปลี่ยนใจดึงเธอกลับไปนอนบนเตียงอีกรอบ โชคดีเอามากๆ ที่เฮเลนไม่ได้เจอแท็คระหว่างทางไปกลับห้องอาบน้ำไม่อย่างนั้นคงจะได้สาดคำสาปใส่กันแน่ๆ

    เฮเลนกลับมาไล่เดรโกกลับไปอาบน้ำอีกรอบ ร่างสูงงึมงำงอแงไม่ยอมไปอาบน้ำแถมยังอยากให้เธอไปช่วยอาบน้ำให้อีก เธออยากจะกระโดดกัดคอเขาให้ขาดเสียจริง คนอะไรชอบใช้คำพูดแทะโลมจนคนฟังเหมือนถูกกินไปทั้งตัว... จริงๆ ก็ถูกกินไปแล้วอีกต่างหาก!

    "ให้ตายสิ ผ้าพันคอกับผ้าคลุมไหล่แทบจะปิดไม่มิด" เฮเลนบ่นหลังจากเดรโกออกไปจากห้องแล้ว "กะจะให้รู้กันทั่วโลกเลยรึไงกันนะ"

    ริมฝีปากบางพึมพำอย่างหงุดหงิด มือเล็กลูบไปตามรอยช้ำตามลำคอเลื่อนไปเรื่อยๆ จนสัมผัสเข้ากับจี้เส้นเล็กที่มีประกายต้องแสงไฟในห้อง อัญมณีที่ค่าที่สุดในตระกูลมัลฟอยกำลังส่องแสงสีเขียวสดใสสวยงามช่างเข้ากันได้ดีกับดวงตาของเธอเหลือเกิน แหวนเงินวงเล็กบนนิ้วนางข้างซ้ายที่เขาสวมให้ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน เฮเลนหวังว่านับจากนี้มันจะอยู่กับเธอจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ยังมีลมหายใจ

    หลังจากแต่งตัวและพยายามใช้คาถาหลากหลายซ่อนรอยช้ำให้ได้มากที่สุดเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เฮเลนกำลังจะลุกขึ้นไปเก็บเตียงและผ้าปูที่นอนที่ไม่เป็นระเบียบให้เป็นที่เป็นทางนั้นเอง อยู่ๆ แผลเป็นบนหน้าผากก็รู้สึกร้อนวูบขึ้นมา เสียงของใครบางคนดังกึกก้องอยู่ในหัว มือเล็กเลื่อนมาสัมผัสความร้อนที่บังเกิดขึ้นเบาๆ ความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาในหัวของเธออย่างรวดเร็วจนไม่อาจปิดกั้นใจตัวเองได้ทัน

    เสียงของโวลเดอมอร์และความรู้สึกโกรธเกรี้ยวของเขา


    "มันอยู่ไหน!" เสียงปรกาศิตดังกึกก้องไปทั่วโถงกว้าง รอบกายของเขาเต็มไปด้วยเหล่าคนที่สวมชุดคลุมสีดำสนิทและหน้ากากสีเงินรูปร่างประหลาดยืนเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด

    "รูฟัส สคริมเจอร์!" เขาพูดและยกไม้กานสิทธิ์เรียกให้ผู้เสพความตายคนหนึ่งลากเจ้าหน้าที่ในกระทรวงเวทมนตร์คนหนึ่งออกมา "มันอยู่ที่ไหน บอกฉันมา!"

    "หะ ห้องทำงาน" ร่างนั้นตอบเสียงสั่นเครือ "ห้องทำงานส่วนตัวคะ ครับ"

    "แกโกหก!" เขาพูด "ฉันไม่เจอมันที่นั่น มันอยู่ไหน บอกมา!"

    "เขาอยู่ในห้องทำงานจริงๆ ครับ" ผู้โชคร้ายยังคงพูดต่อเสียงสั่นเครือ "เขาพยายามให้การช่วยเหลือ..."

    "ช่วยเหลืออะไร!"

    "ชะ ช่วยเหลือ" เขากลืนน้ำลาย "ช่วยเหลือแฮร์รี่ พอตเตอร์"

    "แฮร์รี่ พอตเตอร์!"

    โวลเดอมอร์ร้อง ความรู้สึกพึงพอใจแล่นเข้ามาในหัว มือเรียวยาวสีขาวซีดกุมไม้กายสิทธิ์สำดำโค้งเล็กน้อยเอาไว้แน่น

    "มันรู้จริงๆ ด้วยว่าเด็กพอตเตอร์นั่นอยู่ที่ไหน"

    "จะให้เราทำอย่างไรดีคะจอมมาร" เบลาทริกซ์พูด "ตามหามันใช่ไหม"

    "ไม่ต้อง" เจ้าของมือเรียวออกปาก "ฉันจะไปหามันเอง ส่วนพวกแก จัดการเก็บกวาดพวกมันซะ"

    เขาก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างเชื่องช้าไปตามโถงกว้าง แสงสีเขียวที่สะท้อนกำแพงที่เธอเห็นนั้นกำลังบอกว่าพ่อมดหนุ่มผู้โชคร้ายคนนั้นคงถูกเก็บกวาดไปแล้วเรียบร้อย เสียงหัวเราะของเบลาทริกซ์ดังลั่นตามหลังมา มันเต็มไปด้วยความสะใจและปรารถนาแรงกล้าที่จะทำลายทุกสิ่งอย่างเพื่อความพอใจของเขา สองขาของเธอก้าวเดินอย่างเชื่องช้าผ่านประตูสีดำหลายต่อหลายบาน ดวงตาปรายมองไปยังประตูแต่ละบานอย่างชั่งใจ

    จนในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูสีดำบานใหญ่ ริมฝีปากแสยะยิ้มออกมา ไม้กายสิทธิ์ในมือชี้ไปยังประตูบานนั้นพร้อมกับระเบิดมันออกโดยไม่เอ่ยเสียงทักทายหรือถามเจ้าของห้องก่อนแม้เพียงนิดเดียว เสียงกุกกักราวกับกำลังวิ่งดังขึ้นมา ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ก็รักตัวกลัวตายเช่นกัน

    เธอก้าวเข้าไปในห้องนั้นพร้อมรอยยิ้มเยือกเย็นบนใบหน้า ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงอยู่มากมายทั้งที่ก่อนหน้านี้ส่งเฟนเรียมาดูกลับไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ความรู้สึกที่ถูกส่งมาในหัวนั้นเปลี่ยนจากความพึงพอใจกลายเป็นเกรี้ยวกราดเมื่อเฟนเรียทำงานไม่ได้ดั่งใจ

    เจ้าหน้าที่หลายต่อหลายคนวิ่งแตกฮือออกไปคนละทิศละทางตรงไปยังเตาผิงที่อยู่ไม่ไกล บางคนก็หายตัวไปในส่วนลึกของห้องโดยไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร รูฟัส สคริมเจอร์ยืนจังก้าอยู่สุดห้อง ดวงตาจ้องมองมายังเจ้าของมือขาวซีดอย่างไร้ซึ่งความกลัวดั่งเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ข้างๆ เขานั่นคือคิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ ทั้งสองตั้งท่าเตรียมต่อสู้ในทันทีเมื่อเห็นว่าเธอเดินเข้าไปในห้องนั้นเพียงลำพัง

    ดวงตาสีเหลืองของสคริมเจอร์นั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวแต่มันก็ไม่เท่ากับโทสะที่เริ่มพอกพูนขึ้นมาในหัวของเธอเท่าไรนัก ดวงตากวาดมองไปรอบห้องแลเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งหลายเริ่มหนีไปยิ่งทำให้โทสะในร่างกายเพิ่มมากขึ้นไปอีก ลำแสงสีเขียวแล่นออกจากไม้กายสิทธิ์ในมือไปกระแทกร่างของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่กำลังจะวิ่งแทรกตัวเข้าไปในปล่องไฟ ร่างของเขาทรุดลงบนพื้นและนิ่งไปในทันทีทำให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แตกตื่นมากขึ้นไปอีก

    ไม่นานเกินรอเหล่าผู้เสพความตายก็ปรากฏตัวขึ้นมาเบื้องหลังของเธอ เสียงหวีดอย่างบ้าคลั่งของเบลาทริกซ์ดังขึ้นพร้อมกับร่างของหล่อนที่วิ่งนำหน้าคนอื่นเข้าไปรวบตัวเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเอาไว้ในขณะที่เธอนั้นก้าวออกไปหารูฟัส สคริมเจอร์และคิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์อย่างเชื่องช้าโดยไม่ละสายตาออกจากใบหน้าของทั้งคู่เลยแม้แต่วินาทีเดียว

    คนที่เริ่มมาก่อนนั้นคือคิงสลีย์ เขาส่งคำสาปสีแดงออกมาใส่ร่างของเจ้าของมือสีซีดแต่เธอนั้นปัดออกไปได้ ไม่ว่าจะส่งมากี่ครั้งจนในที่สุดเหมือนว่าสคริมเจอร์จะหมดหนทาง เขาส่งสายตาให้กับคิงสลีย์ราวกับกำลังบอกให้คิงสลีย์ไปช่วยเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้ปลอดภัยเสียก่อน ดังนั้นคิงสลีย์จึงล่าถอยออกไปโดยปล่อยให้เธอและสคริมเจอร์ต่อสู้กันเพียงลำพัง

    เสียงกรีดร้องของเหล้าเจ้าหน้าที่ยังคงดังขึ้นไม่ขาดสาย รูฟัส สคริมเจอร์ดูกล้าหาญและแข็งแกร่ง สมกับที่เคยเป็นหัวหน้ามือปราบมารเสียจริงๆ เขาปัดคำแช่งไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว ดวงตาของทั้งสองประสานกันถ้าเปรียบกันโวลเดอมอร์ก็คงจะเป็นดั่งงูพิษตัวใหญ่ร้ายกาจ ส่วนสคริมเจอร์ก็คงจะเป็นสิงโตจ่าฝูงที่กำลังส่งเสียงคำรามเตือนงูใหญ่นั้น แต่เกรงว่างูพิษนั้นจะแข็งแกร่งเกินกว่าจะรู้จักคำว่ากลัว

    "แก" โวลเดมอร์เอ่ย "แกรู้ใช่ไหมว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์มันกบดานอยู่ที่ไหน"

    "ไม่" เขาตอบทันที "ต่อให้รู้ฉันก็ไม่มีวันบอกแก"

    ทั้งสองสาดคำสาปใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลำแสงสีเขียวที่พุ่งสะท้อนกำแพงไปโดนใครต่อใครแล้วบ้าง การปะทะกันนั้นค่อนข้างนานจนในที่สุดสคริมเจอร์ก็พลาดพลั้งถูกคำสาปที่สะท้อนกำแพงมาเข้าที่หัวเข่า เขาทรุดลงบนพื้นสีดำสนิท ดวงตาฉายแววรังเกียจเดียดฉันท์ออกมาอย่างไม่ปิดบัง เธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างนั้นและชี้ไม้กายสิทธิ์ลงไปที่ร่างนั้นและพึมพำคำสาปออกมาอย่างตั้งใจ

    คำสาปกรีดแทงทำลายความน่าเกรงขามของสคริมเจอร์ไปจนหมดสิ้น ร่างใหญ่นอนดิ้นบิดไปมาแสดงถึงความเจ็บปวดร้าวลึกลงไปในกระดูก ความรู้สึกพึงพอใจกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่นของเบลาทริกซ์และเสียงพึมพำของเหล่าผู้เสพความตายที่ดูท่าจะจัดการเจ้าหน้าที่ไปได้หลายคนแล้ว

    "มันอยู่ที่ไหน! บอกฉัน บอกลอร์ดโวลเดอมอร์มาเดี๋ยวนี้"

    "ไม่!" เขาคำรามมือเกร็งหงิกงออย่างน่าสมเพช "ฉันไม่มีวันบอกแกหรอก"

    อานุภาพของคำสาปกรีดแทงรุนแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ไม่ว่าใครก็คงไม่คิดว่าเขาจะทนต่อไปไหวแน่นอน มือสีขาวซีดกดไม้กายสิทธิ์ลงต่ำและแสยะยิ้มกว้างราวกับว่ามั่นใจแน่นอนว่าจะได้ข้อมูลที่อยู่ของแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างแน่นอน

    "งั้นแกจงทรมาน จนกว่าจะตาย!"

    เสียงกรีดร้องของสคริมเจอร์ดังไปทั่วบริเวณแข่งกับเสียงหัวเราะเล็กแหลมของเบลาทริกซ์ ลำคอของเขาเกร็งจนขึ้นเอ็น ดูท่าเจ้าของมือขาวซีดจะไม่ยอมละความพยายามที่จะล้วงคอเขาออกมาให้ได้แต่สคริมเจอร์ยังคงปิดปากแน่นไม่พูดอะไรออกมาสักคำ จนในที่สุดเธอก็รู้สึกได้ว่าเจ้าของมือเรียวหมดความอดทน ลำแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ปะทะเข้ากับร่างของสคริมเจอร์อย่างแรง รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์นอนแน่นิ่งไร้ซึ่งวิญญาณในกายอีกต่อไป

    เฮเลนรู้สึกอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แผนการณ์ที่เธอวางเอาไว้เหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ความคิดที่จะไล่ล่าหาแฮร์รี่ พอตเตอร์มาให้ได้แล่นเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับดวงตากวาดมองไปรอบห้องและไม่พบกับคิงสลีย์ ร้องนายกรัฐมนตรีที่หายไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบ

    "โดโลฮอฟ โรลว์ มานี่" เธอสะบัดมือเรียกผู้เสพความตายสองคนให้เข้ามา "ตามหาไอ้รองนายกรัฐมนตรีนั่นให้เจอ ส่วนคนอื่น แยกกันออกไปตามหามันให้ครบสิบสี่ที่ที่อาจจะเป็นที่ซ่อนตัวของพวกมัน หาให้เจอแล้วพาตัวมันมาให้ฉัน!"


    "เฮเลน!" แรงสัมผัสบนร่างกายดึงเธอให้กลับมาจากหัวของโวลเดอมอร์ เดรโกจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยแววตาเป็นห่วง ร่างในชุดคลุมอาบน้ำมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่บนแผงอกกว้าง "เป็นอะไรไป ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้"

    "เดรโก" เธอพึมพำ ความเจ็บปวดที่แผลเป็นและความเดือดดาลที่ไม่ใช่ของตนยังคงตรึงอยู่ในหัว "นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่"

    "เพิ่งเข้ามา" เขาบอก "เธอเป็นอะไรไป ตอนเปิดเข้ามาดูเหมือนเธอกำลังหัวเราะแล้วก็ยิ้มเหมือนกำลังสะใจกับอะไรสักอย่าง พอฉันแตะตัวเธอ เธอก็ฟื้นขึ้นมา"

    "ฉันเห็นน่ะ" เฮเลนตอบ ใช้ศอกยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งตามแรงดึงของเดรโก "สคริมเจอร์ตายแล้ว โวลเดอมอร์ฆ่าเขา"

    "ตายแล้วเหรอ" เดรโกพึมพำ "ฉันคิดว่าเขาจะเก็บสคริมเจอร์เอาไว้ซะอีก"

    "ไม่" เธอส่ายหน้า "พอกระทรวงเวทมนตร์ล่มสลายนั่นหมายถึงเวทมนตร์คุ้มกันที่เอาไว้ป้องกันบ้านที่แฮร์รี่จะเข้าไปซ่อนตัวนั้นได้หายไปแล้ว และนั่นหมายความได้ว่าถึงสคริมเจอร์จะตายไปเขาก็สามารถตามตัวแฮร์รี่ได้อย่างแน่นอน"

    "แต่พวกเธอหมดร่องรอยแล้ว" เดรโกว่า "ยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางตามตัวเจอหรอกถ้าแฮร์รี่หนีไป"

    "เขาตามเจอแน่" เฮเลนพูด "ฉันรู้ว่าเขาต้องเจอแน่เดรโก เขาสามารถเข้ามาในหัวฉันได้ เขาก็จะเข้าไปในหัวของแฮร์รี่ได้เหมือนกัน ยังไงเขาก็ต้องรู้ว่าแฮร์รี่อยู่ที่ไหน มันแย่มากเพราะถ้าสคริมเจอร์ตายเราก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยว่าแฮร์รี่เคยอยู่ที่ไหนและกำลังจะไปไหนตอนนี้"

    เดรโกเม้มริมฝีปาก พยุงร่างบางไปนั่งลงบนเตียงนุ่มก่อนที่เขาจะผละออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เฮเลนอยากจะเข้าไปในจิตใจของแฮร์รี่ให้ได้เสียเหลือเกิน ความจริงแล้วเธอกับแฮร์รี่ควรจะติดต่อกันได้มากกว่าที่เธอจะเห็นภาพจากลอร์ดโวลเดอมอร์สิ เพราะยังไงเธอกับเขาก็เป็นแฝดกันแถมยังเป็นผู้ถูกเลือกเหมือนกันอีก ทำไมเธอถึงไม่สามารถที่จะเข้าไปในหัวของแฮร์รี่ได้!

    เดรโกสั่งห้ามไม่ให้เธอลงไปข้างล่าง เขาจัดการไปเตรียมอาหารมื้อเช้า (ในตอนเย็น)  ขึ้นมาให้ก่อนจะเดินกลับลงไปอีกครั้ง เสียงประตูบานใหญ่เลื่อนเปิดบ่งบอกว่าพวกเขาได้กลับมาแล้ว เสียงหัวเราะเลวร้ายเสียดแทงรูหูของเบลาทริกซ์ลอยแทรกขึ้นมาถึงชั้นบน เฮเลนพยายามยัดอาหารลงท้องไปอย่างฝืนๆ เพื่อให้อย่างน้อยเธอยังดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ตายไปเสียก่อนที่จะทันได้หนีไป

    เหมือนว่าครั้งนี้โวลเดอมอร์จะไม่ได้กลับมาด้วย เสียงอึกทึกทางด้านล่างบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเบลาทริกซ์ยังอาละวาดไม่สาแก่ใจทำให้กลับมาอาละวาดที่คฤหาสน์ต่อโดยมีนาร์ซิสซาคอยเก็บกวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้หล่อนเหมือนอย่างเคย ในที่สุดช่วงเวลาที่เสียงครึกโครมข้างล่างก็ได้หมดไป ท่าทางเดรโกคงกำลังวุ่นวายอยู่กับการเกลี้ยกล่อมป้าของตัวเองไม่ให้โวยวายไปมากกว่านี้

    ผ่านไปราวสองสามชั่วโมง เสียงประตูใหญ่เปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงพูดคุยดังระงม แผลเป็นบนหน้าผากเริ่มปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เฮเลนรับรู้ได้ว่าโวลเดอมอร์กำลังมา เขากำลังกลับมาที่นี่เพราะใครบางคนเรียกให้เขากลับมา อารมณ์เดือดดาลแทรกเข้ามาในหัวของเธออีกครั้งราวกับแล่นเทปกลับไปกลับมา

    หญิงสาวเดินออกไปเปิดประตูห้องและเดินออกไปที่ระเบียงทางเดินกว้างๆ เพื่อคอยแอบมองว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องโถงทางด้านล่าง เสียงโวยวายของเบลาทริกซ์ดูไม่พอใจดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงปรามเบาๆ ของแท็คที่พยายามจะทำให้สถานการณ์ทางด้านล่างสงบก่อนที่โวลเดอมอร์จะมาถึง

    เฮเลนนั่งลงเอนตัวพิงกำแพงที่อยู่ใกล้กับบันไดทางลงอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าผู้เสพความตายที่กลับมายังคฤหาสน์จะมีเพียงเบลาทริกซ์ นาร์ซิสซาและผู้เสพความตายอีกสองคนที่เฮเลนเดาได้ว่าคงเป็นโดโลฮอฟกับโรลว์แน่นอน สองคนนั้นคงมาที่นี่เพื่อรายงานเรื่องของแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่พวกเขาออกไปตามหา

    "แกหมายความว่าไง!" เบลาทริกซ์ถามเสียงแหลม "แกปล่อยให้มันหนีไปงั้นเหรอ!"

    "ไม่ใช่" เสียงที่ดูท่าว่าจะเป็นเสียงของโดโลฮอฟเอ่ยตอบ "มันหนีไปได้เพราะมันปลอมตัวเป็นคนอื่นต่างหาก เรื่องนี้เราต้องรายงานให้ท่านรู้"

    "เพื่ออะไรโรลว์! เพื่อให้ท่านโมโหมากขึ้นงั้นรึไง" เบลาทริกซ์หวีด "นี่แกกำลังขัดขวางสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ รู้ตัวไหม!"

    "แต่เราจำเป็นต้องรายงาน" โดโลฮอฟว่า "ท่านสั่งเรามาให้รายงานท่านทุกอย่าง"

    หลังจากจบประโยคนั้นเสียงประตูเปิดก็ดังขึ้นอีก แผลเป็นเจ็บปวดราวกับถูกทุบด้วยค้อนเหล็ก ท่าทางโวลเดอมอร์จะมาถึงที่นี่แล้ว และดูเหมือนว่าถ้าเกิดโดโลฮอฟไม่ได้ให้คำตอบที่ดีที่สุดแก่เขาไปล่ะก็อาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างแน่นอน

    มันเป็นจริงอย่างที่เฮเลนคาดเสียงกรีดร้องของโรลว์ดังขึ้นในทันทีที่เธอได้ยินรายงาน ทั้งสองบอกกับโวลเดอมอร์ว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์หนีไปจากงานแต่งงานของครอบครัววีสลีย์ได้ เพื่อนของเขาคนหนึ่งกลายเป็นโรคจุดกระจายพูดไม่ได้แถมยังน่ารังเกียจจนไม่อยากเข้าใกล้ ส่วนอีกคนที่เป็นลูกมักเกิ้ลได้หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างงาน และยังพูดอีกว่าพวกเขาไม่สามารถตามตัวคิงสลีย์พบและสืบทราบมาได้ว่าคิงสลีย์เป็นคนส่งผู้พิทักษ์ไปบอกคนในงานแต่งงานให้หนีไปก่อนที่พวกเขาจะไปถึง

    โวลเดอมอร์ถือว่านั่นเป็นการทำภารกิจผิดพลาด เฮเลนรู้สึกโชคดีมากที่เดเรโกได้รับแค่ภารกิจให้ไปเฝ้าดูตามที่ต่างๆ ว่าแฮร์รี่ไปอยู่ที่นั่นหรือไม่และเธอคาดว่าหลังจากนี้พวกผู้เสพความตายคงจะถูกส่งไปอยู่ที่หน้าบ้านเลขที่สิบสองกริมโมลด์เพลซก็เป็นได้ เพราะมันคงเป็นเพียงสถานที่เดียวที่พวกเขาจะสามารถเข้าไปหลบซ่อนได้โดยไม่มีใครตามไปเจอ

    "เอาอีกไหมโรลว์! หรือเราควรยุติความทรมานของแกแล้วทำให้แกเป็นอาหารค่ำของนากินีดี"

    โวลเดอมอร์พูดเสียงเย็นเยียบไร้ซึ่งความเมตตาปราณีใดๆ เสียงโอดครวญของโอโลฮอฟและโรลว์ยังคงดังขึ้นมาเป็นระยะพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของแท็คและเบลาทริกซ์ เฮเลนไม่ได้อยากรับรู้เรื่องนี้เสียเท่าไหร่นัก อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ได้รู้แล้วว่าแฮร์รี่นั้นปลอดภัยดีและหนีไปได้ ส่วนคนที่เป็นโรคจุดกระจายนั้นคงจะเป็นรอน เธอคิดว่าเรื่องจริงคงไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาอาจจะแค่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลบหนีจากผู้เสพความตายก็เป็นได้

    "ฉันไม่แน่ใจว่าครั้งนี้จะให้อภัยแกได้ แกเรียกฉันกลับมาเพื่อบอกว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์หนีไปได้งั้นเนี่ยนะ!"

    เสียงของเขาดังกึกก้องจนเฮเลนขนลุกซู่ด้วยความกลัว ร่างบางยกแขนขึ้นมากอดตัวเองโดยอัตโนมัติ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เสพความตายถึงยังจงรักภัคดีต่อเขาทั้งที่โวลเดอมอร์นั้นร้ายกาจและเขาพร้อมฆ่าได้ทุกเวลาถ้าหากไม่พอใจ เสียงร้องโหยหวนของโดโลฮอฟกับโรลว์ยังดังขึ้นไม่ขาดสาย มันเงียบลงเป็นพักๆ เมื่อโวลเดอมอร์ต้องการคำตอบจากปากของพวกเขา

    "ขอโทษครับท่าน" โดโลฮฟว่า "ผมรู้สึกว่าผมตามไปเจอมันที่ไหนสักแห่ง แต่ว่าเราก็ลืมมันไป"

    "แกหมายความว่าไงที่ลืม โดโลฮอฟ!"

    เสียงกรีดร้องของเขาดังขึ้นอีกครั้ง ส่วนโรลว์ดูเหมือนว่าจะเงียบลงไปราวกับว่าตายไปแล้วยังไงอย่างนั้น

    "เราไม่ทราบจริงๆ ครับท่าน" โรลว์บอกดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ตาย "เราตื่นขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่มันเต็มไปด้วยพวกมักเกิ้ล เราไม่รู้ว่าตอนนั้นไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง"

    "หุบปาก! จัดการให้มันรับรู้ถึงความไม่พอใจของพวกเราซะเดรโก จงทำ! ไม่งั้นแกจะได้รับรู้ถึงความโกรธของฉันแน่!!"

    "ครับ นายท่าน"

    เสียงของเดรโกตอบรับเขาอย่างไม่เต็มใจ เสียงกรีดร้องของโรลว์ดังขึ้นอีกครั้ง เฮเลนทนฟังต่อไปไม่ไหวเธอคลานกลับเข้าไปในห้องโดยมีเสียงหัวเราะของแท็คดังไล่ตามหลังมา เธอปิดประตูลงและคลานขึ้นไปนั่งบนเตียง ดวงตากลมโตมองไปยังไม้กายสิทธิ์ของแท็คที่วางเอาไว้หน้ากระจก เดรโกไม่ได้นำลงไปคืนเขาและสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือแท็คไม่แม้แต่จะมาทวงถามหามันจากพวกเธอเสียด้วยซ้ำไป

    อีกคืนที่ผ่านไปอย่างรวดร้าว เดรโกกลับมาที่ห้องในสภาพแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ดวงตาสีซีดเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เฮเลนไม่ได้พูดอะไรมากมายนักหลังจากที่เขาแทรกตัวเข้ามานอนร่วมอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันกับเธอ ร่างบางได้แต่โอบกอดเขาเข้ามาเท่านั้น ไม่อาจหาคำพูดใดๆ มาปลอบใจ ดูเหมือนโวลเดอมอร์ข่มขู่เขาเรื่องของเธออีกแล้วกระมัง

    "ต่อไปฉันจะถูกส่งไปที่กริมโมลด์เพลซ" เดรโกบอก "บ้านประจำตระกูลแบล็ก"

    "ฉันว่าแล้วเชียว" เฮเลนบอกพลางลูบเส้นผมของคนที่นอนซุกอกเธออยู่เบาๆ "โวลเดอมอร์จะต้องสงสัยที่นั่นแน่"

    "ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องทรมานโรลว์กับโดโลฮอฟขนาดนั้นในเมื่อแค่ปล่อยให้..."

    "สำหรับโวลเดอมอร์แล้ว" เธอพูด "การปล่อยให้แฮร์รี่หนีไปได้นั่นแหละคือความผิดอันใหญ่หลวงเลยเชียวล่ะ"

    "แต่ตอนนี้ที่นี่ก็มีเธออยู่นะเฮเลน" เดรโกพูดงึมงำ "ยังไงเขาก็ต้องมั่นใจอยู่แล้วว่าแฮร์รี่จะต้องมาช่วยเธอแน่"

    "เพราะที่นี่มีนายอยู่เดรโก แฮร์รี่ถึงไม่มาตามฉัน"

    ร่างบางก้มหน้าลงมองเจ้าของดวงตาสีฟ้าซีดอ่อนล้าพร้อมรอยยิ้ม

    "ฉันคิดว่าแฮร์รี่เชื่อใจนายเหมือนกับที่ฉันเชื่อใจ" เฮเลนบอก "เพราะเขาเชื่อใจว่านายจะต้องปกป้องฉันได้ เขาถึงยอมปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่จนกว่าเขาจะได้โอกาสยังไงล่ะ"

    "เธอมันใจอย่างนั้นรึไง" เดรโกถาม ซุกใบหน้าลงบนซอกคอขาวที่มีกลิ่นหอม "อย่างหมอนั่นน่ะเหรอเชื่อใจฉัน"

    "แน่นอนสิ" เฮเลนยิ้มบางๆ "ถ้าแฮร์รี่ไม่เชื่อใจนาย เขาคงไม่ปล่อยให้นายคบกับฉันหรอก จรงิไหมเดรโก"

    ร่างในอ้อมกอดไม่พูดอะไร เขาซุกใบหน้าจมลงไปที่ซอกคอจนในที่สุดทั้งสองก็หลับไปโดยที่เฮเลนพยายามไม่คิดถึงเรื่องของแฮร์รี่เลยในระหว่างนั้น...


    ติดตามตอนต่อไป...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×