คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : บทที่ 5 : ของขวัญวันเกิด
บทที่ 5 : ของขวัญวันเกิด
"ขอโทษที่ฉันกลับมาช้า"
เดรโกพูดมองหน้าแท็คอย่างเอาเรื่อง
มือขวาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่แท็คแววตาวาวโรจน์ราวกับเสือตัวใหญ่พร้อมจะย้ำเหยื่อได้ทุกเวลา
แท็คผงะเล็กน้อยรีบปล่อยร่างของเฮเลนให้เป็นอิสระในทันที
เขารีบชักไม้กายสิทธิ์ออกมาจากเสื้อคลุมของเขาในขณะที่ร่างบางกระเสือกกระสนคลานออกไปจากระหว่างเสือและงูใหญ่ที่กำลังจ้องหน้ากันเตรียมพร้อมขย้ำอีกฝ่ายได้ตลอดเวลาที่พลั้งเผลอ
"ไม่คิดเลยนะครับว่าจะกลับมาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้"
แท็คพูด ท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างรวดเร็ว "ผมคิดว่าอย่างน้อยจะต้องกลับสักวันพรุ่งนี้ -- คุณพาร์กินสันทำงานไม่ได้เรื่องเลยสินะ"
"การที่แกส่งแพนซี่ไปก่อกวนฉันไม่ทำให้ฉันเสียสมาธิได้หรอก
รู้ไว้!" เดรโกตอบท่าทางเหลืออด "ยัยนั่นเป็นเพื่อนฉัน
แล้วฉันก็ไม่มีวันผันให้เป็นอย่างอื่นไปได้ เข้าใจไหมไอ้ไก่อ่อน!"
"ไก่อ่อน" แท็คทวนคำดูไม่พอใจ "คิดว่าผมเป็นใครครับ คุณถึงได้กล้าพูดแบบนี้"
"แกมันก็แค่งูเจ้าเล่ห์"
เดรโกพูด "ไสหัวไปซะ ไปให้พ้นจากคนของฉัน!"
"ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ"
แท็คแสยะยิ้ม ลุกขึ้นยืนจ้องใบหน้ากราดเกรี้ยวของเดรโก
"แก!" เขาคำราม
เหมือนจะหมดความอดทนแล้ว ทั้งสองไม่รอช้าที่จะเสกคำสาปใส่กันไปมาในห้องแคบๆ เฮเลนกวาดตามองหาไม้กายสิทธิ์ของตัวเองในทันที ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ไม่ไกลจากตรงที่เธออยู่เท่าไรนัก
ท่ามกลางแสงสีเขียวและแดงที่สาดใส่กันไปมาอย่างดุเดือด
ร่างบางใช้แรงอันน้อยนิดคลานเข้าไปคว้ามันเอาไว้ได้ทันพลางปัดคำสาปของใครบางคนที่พุ่งเข้าใส่เธอออกไป
"บ้าที่สุด"
หญิงสาวพึมพำ มองเดรโกและแท็คที่ยังสาดคำสาปเข้าใส่กันอย่างดุเดือด
"จะทำยังไงดี"
ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก
เฮเลนพุ่งตัวไปทางเดรโกอย่างรวดเร็วในขณะที่ทางฝ่ายแท็คมีท่าทีตกใจและเปลี่ยนทิศชี้ไม้กายสิทธิ์ไปทางอื่น
เฮเลนได้โอกาสเสกคาถาเกราะวิเศษขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"โพรเทโก้!" เธอร้อง
"นายไม่มีวันชนะหรอก"
"เอ็กซ์เปลลิอาร์มัส!"
เดรโกตะโกน
ไม้กายสิทธิ์ของแท็คลอยหวือเข้ามาหาเขาในทันที
เจ้าของเรือนผมสีจางดูภูมิใจที่ในที่สุดก็สามารถปลดอาวุธแท็คได้เสียที
ลูกชายคนเดียวของโวลเดอมอร์มองทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างเคืองๆ
เฮเลนไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกที่สายตาเขาส่งมาให้ว่าอย่างไรในวินาทีนี้
มันทั้งเต็มไปด้วยความโกรธ เกลียดและอาฆาต
ถึงแม้ในส่วนลึกจะแฝงเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด ทรมานและน่าสงสารก็ตาม
"ได้"
แท็คพูด "งั้นผมจะถอยให้คุณก่อนก็ได้
แต่อย่าหวังว่ามันจะจบแค่นี้นะครับ"
เขาพูดแล้วเดินกระแทกไหล่เดรโกออกไปจากห้องและปิดประตูเสียงดังลั่นโดยไม่หันมาทวงไม้กายสิทธิ์ด้วยซ้ำไป
เฮเลนทรุดตัวลงนั่งบนพื้นพรมหนาพลางใช้มือเรียวลูบลำคอที่เต็มไปด้วยรอยช้ำเขียวเป็นจ้ำเต็มไปหมดจนน่ากลัว
ความรู้สึกเจ็บปวดบนร่างกายไม่เท่าความรู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่ออยู่เพียงลำพัง
ร่างกายทั้งบอบบางและอ่อนแอเกินกว่าที่จะช่วยตัวเองจากสิ่งสกปรกโสมมเหล่านี้งั้นเหรอ
หรือความเป็นจริงแล้วเธอไม่เคยแข็งแกร่งเลยกันแน่
น้ำตาไม่ยอมไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียวเมื่อคิดว่าอะไรที่ทำให้เธออ่อนแอ
อะไรที่ไม่อาจทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นได้ในเวลานี้
ความกลัวหรือความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ารอบกายกันแน่
เธอกลัวทุกสรรพสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เธอหวั่นไหวกับทุกข่าวที่ได้ยิน
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธออ่อนแอลงทุกวันใช่รึเปล่า
มือเรียวยาวเลื่อนมาสัมผัสไหล่บางก่อนที่เจ้าของมันจะทรุดตัวลงนั่งทางด้านหลังของเฮเลนช้าๆ
สองแขนแข็งแรงเลื่อนเข้ามาโอบรอบร่างบางเอาไว้พร้อมกับสวมกอดเธออย่างแผ่วเบา
เดรโกไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อยนอกจากกอดเธอเอาไว้อย่างนั้น
เฮเลนรู้สึกได้ถึงร่างกายที่กำลังสั่นน้อยๆ
ไม่มั่นใจว่ามาจากความโกรธหรือสิ่งใดกันแน่
"ขอโทษ"
เขาพึมพำเสียงแผ่ว "ขอโทษที่กลับมาช้า"
เฮเลนไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป
ดวงตากลมเหม่อมองไม้กายสิทธิ์ในมือ สิ่งที่อยู่ในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด
นับจากนี้เธอคงจะต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมแล้วใช่ไหม
แล้วหลังจากนี้เธอจะสามารถไว้ใจใครได้อีก เดรโกยังปกป้องเธอได้อีกจริงหรือ?
"ไปทำอะไรมา"
เธอถาม หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง "วันนี้นายปล่อยให้ฉันรอตั้งนาน"
"ขอโทษ"
เดรโกบอก "ฉันขอโทษ"
"ขอโทษแล้วมันมีอะไรลบล้างได้ไหมเดรโก!"
เธอสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของเดรโกลุกหนีไปยืนอยู่ข้างเตียงนอน
ดวงตากลมโตมองไปยังใบหน้าของร่างที่นั่งอยู่บนพื้นพรมด้วยสายตาหวาดหวั่น
ความรู้สึกตีกันปั่นป่วนไปหมด ดีใจที่เขาเข้ามาช่วย
แต่ก็เสียใจที่เขาเกือบจะมาช้าเกินไปจนช่วยเธอเอาไว้ไม่ทัน
ในคฤหาสน์น่ากลัวแห่งนี้เต็มไปด้วยความมืดมิดและมันกำลังกัดกินความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในตัวพวกเขาให้เหือดหายไป
"เฮเลน"
เดรโกร้องเรียก "ใจเย็นก่อนนะ ฉันขอโทษ"
"มันแต่ไปทำอะไรอยู่ล่ะ"
เฮเลนว่า "นายก็คงอยู่กับยัยแพนซี่คนสวยของนายไม่ใช่รึไง!"
"ฟังฉันก่อนสิ"
เขาพยายามอธิบาย "ฉันไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นทั้งนั้น
แพนซี่แค่ลงไปทำภารกิจร่วมกับฉัน เหมือนว่าจะได้รับคำสั่งโดยตรงจากแท็ค"
"แล้วมันยังไง"
เฮเลนตวาดเสียงดัง ยกไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่เดรโกทันทีที่เขาขยับตัวลุกขึ้นยืนและพยายามเดินเข้ามาหา
"ถ้าไม่ได้ทำอะไร แท็คจะรู้เหรอว่าคืนนี้นายจะไม่กลับ! แถมนายยังกลับมาช้าอีก
ฉันไม่... อย่าเข้ามานะ!"
"ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!" เดรโกว่าแล้วพยายามเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น เขาเก็บไม้กายสิทธิ์แล้วยกมือชูขึ้นทั้งสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ เฮเลนขยับถอยหลังหนีเขา
"ฟังฉันหน่อยสิเฮเลน! เธอเป็นอะไรไป"
"ไม่!" เธอพูดและส่ายหน้าไปมาอย่างบ้าคลั่ง เหมือนสติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สิ่งที่อยู่ในหัวตีกันจนฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะเชื่ออะไร ไม่รู้จะทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าสมควรฟังสิ่งที่คนตรงหน้าพูดต่อไปหรือไม่
คิดไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
ในที่สุดเดรโกก็ปลดไม้กายสิทธิ์ของเธอออกไปได้
เขาโยนไม้กายสิทธิ์ทั้งสามไปกองรวมกันที่หน้ากระจกบานใหญ่และวิ่งเข้าไปรวบร่างเล็กๆ
เอาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว เฮเลนดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนนั้น
"ปล่อยนะ!" เธอกัดฟันพูด "นายจะทำอะไรฉัน เดรโก"
"ฉันแค่อยากให้เธอฟัง
เฮเลน!" เดรโกพูดแล้วจับไหล่บางให้เฮเลนหันหน้าไปประจันหน้ากับเขา
ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตจ้องมองใบหน้าของเดรโกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เฮเลนจ้องเข้าไปในดวงตาคมสีฟ้าซีดที่เคยหลงใหลมากมายและบัดนี้มันก็ยังคงมีเสน่ห์และน่าหลงใหลดังเช่นก่อน
ถึงแม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยความอ่อนล้ามากเท่าใดก็ตามแต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกสงบลงได้มากกว่าตอนแรก
"ก็ได้"
เฮเลนพึมพำเสียงเบา "ฉันจะฟัง"
"ขอบคุณนะ"
เขาเลื่อนมือมาโอบรอบเอวบางเอาไว้ก่อนจะก้มลงจุมพิตลงบนหน้าผากของเฮเลนอย่างแผ่วเบา
บังเกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
"ฉันถูกส่งไปที่ก็อดดริกส์โฮลโล่"
เดรโกพูด
"เพื่อสำรวจว่าแฮร์รี่ได้กลับไปที่นั่นรึเปล่าหลังจากที่เขาได้ข่าวของดัมเบิลดอร์
แต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นในตอนนี้
ฉันเองก็บอกเขาไม่ได้ว่าแฮร์รี่จะไปที่นั่นเมื่อไหร่"
"ข่าวของริต้า
สกีตเตอร์ในเดลี่พรอเฟ็ตใช่ไหม" เฮเลนถามเสียงสั่นเครือ ในหัวเริ่มนึกถึงเรื่องที่แฮร์รี่กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างอยู่ในความฝันของเธอ
"ที่บอกว่าจะทำชีวประวัติของดัมเบิลดอร์"
"ใช่"
เดรโกพยักหน้า "เหมือนว่าริต้าจะไปสัมภาษณ์บาธิลด้า
แบ็กช็อตที่ก็อดดริกส์โฮลโล่ เพื่อทำหนังสือชีวประวัตินั่นขึ้นมา"
เฮเลนเงียบเสียงลงไป
มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากโวลเดอมอร์เจอตัวแฮร์รี่ที่นั่น
เขาจะสามารถหนีรอดไปได้อีกรึเปล่า ทำไมเธอถึงไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนแบบนั้นบ้างนะ
ทำไมถึงมองไม่ได้ว่าใครจะยังมีชีวิตหรือใครสักคนจะต้องตาย ทำไมกัน
"ครั้งนี้แท็คสั่งให้แพนซี่ไปกับฉันด้วยเพราะครอบครัวพาร์กินสันต้องการให้ฉันได้แต่งงานกับลูกสาวของพวกเขา"
เดรโกผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างอ่อนล้า "พวกเขาก็เลยสนับสนุนเต็มที่ แต่อย่างที่บอก
ฉันคิดกับยัยนั่นเกินเพื่อนไม่ได้จริงๆ"
"แล้วยังยอมไปทำภารกิจด้วยกันอีกงั้นเหรอ"
เฮเลนกระเง้ากระงอด "ปฏิเสธไม่เป็นรึไง ไม่มีปากเหรอ"
"นี่ฉันไม่ไปได้ด้วยเหรอ!" เดรโกขมวดคิ้ว มองร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
"ถ้าฉันปฏิเสธแล้วถูกฆ่าขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ยัยบื้อ"
"ไม่รู้ล่ะ" เธอเบ้หน้า
"ไปกับผู้หญิงแถมกลับมาช้าด้วย จะไม่ให้..."
ยังไม่ทันจะพูดจบ
ริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากนุ่มของเดรโก รสหวานเย็นๆ เหมือนน้ำตาลไอซ์ซิ่งที่โรยอยู่บนโดนัทไส้แยมของหวานประจำฮอกวอตส์ละลายอยู่ในปาก
ปลายลิ้นละเมียดละไมริมฝีปากอิ่มของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
ความรู้สึกร้อนวูบวาบเริ่มประทุขึ้นมาภายในทรวงอก
เขาดันร่างบางลงไปนอนบนฟูกเตียงหนานุ่มโดยไม่ละริมฝีปากออกจากปากบางแม้แต่วินาทีเดียว
"เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัดเลยแฮะ"
ร่างสูงพึมพำเสียงขุ่นเมื่อถอนจูบออก
ดวงตาคมกริบหรี่มองรอยช้ำเป็นจ้ำแดงช้ำที่ซอกคอขาว
โชคร้ายที่ไม่มีน้ำยาหรือเวทมนตร์ที่สามารถลบรอยเขี้ยวช้ำพวกนี้ออกไปได้
"ไอ้งูพิษนั่นต้องจงใจแน่"
นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามผิวเนียนขาว
ถึงจะรู้สึกสะดุดและขัดใจเพราะร่องรอยที่แท็คทำเอาไว้ก็ตาม ร่างบางสั่นน้อยๆ เมื่อปลายนิ้วเย็นเฉียบสัมผัสไล่ไปตามซอกคอขาว
เฮเลนรู้สึกเหมือนว่าถูกรอยสัมผัสนั้นห้ามไม่ให้เปล่งเสียงร้องออกมา
ทุกสัมผัสที่ปลายนิ้วนั้นลากผ่าน ทั้งที่มือของเขาเย็นเฉียบแต่มันกลับทำให้ร่างกายของเธอร้อนรุ่มขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"เดรโก"
เฮเลนกระซิบ "นายจะทำอะไร"
"ถอนพิษ"
เขาตอบและก้มลงจูบเฮเลนอีกครั้งพลางใช้แขนทั้งสองข้างรั้งให้ร่างบางขยับขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างโดยสมบูรณ์
"ฉันจะถอนพิษของไอ้งูสกปรกนั่นให้เธอ"
"เดี๋ยว
นี่หมายความว่า..."
เขาไม่ปล่อยให้เธอได้พูดความยาวสาวความยืด
ริมฝีปากหยักสวยสีหวานถูกครอบครองอีกครั้งและอีกครั้ง
รสหวานสตรอเบอรี่ราวกับแยมในไส้โดนัทแผ่ซ่านไปทั่วปาก
ริมฝีปากบางเม้มกลีบปากบางอวบอิ่มซ้ำๆ ในขณะที่สองมือค่อยๆ
ลูบไล้เรือนร่างงามภายใต้ชุดเดรสแขนกุดสีดำสนิทขนาดพอดีตัวเหมือนทุกวัน
"ไม่ต้องกลัวนะที่รัก"
เดรโกเลื่อนใบหน้ามากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู
เฮเลนขนลุกซู่สั่นสะท้านไปทั้งกาย
ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตหรี่มองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่อยู่เหนือร่างของเธอด้วยสายตาอ้อนวอน
อยากจะพูดก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาพูดขัดเขาในตอนนี้
ถอนพิษออกจากร่างของเธองั้นเหรอ? เป็นประโยคที่ยากจะต่อกรจริงๆ
ริมฝีปากบางพรมจูบไล่ไปถึงพวงแก้มใสที่มีเลือดฝาดจางๆ
ราวกับลูกเชอร์รี่หวานๆ น่ารับประทาน เดรโกก้มลงเม้มริมฝีปากเบาๆ ที่ซอกคอขาวผ่องเนียนละเอียดกลิ่นหอมราวกับดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ติดจมูกจนไม่อยากละใบหน้าออกไปเลย
ร่องรอยช้ำที่ถูกแท็คฝากเอาไว้นั้นทำให้เดรโกรู้สึกหัวเสีย
ไอ้งูพิษนั่นบังอาจแตะต้องดอกไม้งามเพียงดอกเดียวของเขาได้อย่างไรกัน
"กลิ่นหอมของเธอมันทำให้ฉันอดใจไม่ไหว"
ร่างสูงพูดเสียงพร่า "พอแล้วกับความอดทนตลอดเกือบสองเดือน"
"เดี๋ยวสิ"
เฮเลนว่าพลางใช้มือเล็กผลักหน้าอกแข็งเบาๆ "สองเดือนนายยังทนได้
จะทนไปนานกว่านี้ก็คง..."
"ก็คงบ้าตายแน่ๆ"
เดรโกดึงมือเล็กออกจากอกและพามันกลับไปวางราบบนเตียงเช่นเดิม
"บ้าตายเพราะสักวันหนึ่งไอ้งูพิษนั่นอาจจะมาฉกเธอไปจากฉัน พอกันที"
"นายหึง?"
"เออ"
เขาส่งเสียงในลำคอและแทรกกายเข้ามาอยู่ระหว่างขาเรียวทั้งสองข้างของหญิงสาว
"ฉันหึง"
* ติดต่อเพื่ออ่านฉากนี้ในข้อความลับได้ค่ะ *
มือเล็กเลื่อนขึ้นมาลูบลงบนเรือนผมสสีบลอนด์นุ่มสลวยอย่างเบามือ
สัมผัสอ่อนโยนเหมือนจะทำให้เดรโกรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
เฮเลนไม่อยากคิดเลยว่าอะไรที่ทำให้เดรโกคิดทำอะไรแบบนี้ขึ้นมาทั้งที่ปกติกลับมาแล้วก็จะล้มตัวลงนอนและหลับไปทันที
ความเหนื่อยล้าทำให้ไม่มีอารมณ์มาทำอะไรแบบนี้ หรือว่าบางทีความจริงที่เขาเลือกนอนหลับไปอาจจะหมายถึงเดรโกกำลังอดทนกับเรื่องนี้อยู่ก็เป็นได้
"สุขสันต์วันเกิด"
เดรโกพูดเสียงแผ่วปรือตาขึ้นมองเจ้าของมือ "อายุสิบเก้าแล้วสินะ"
"ใช่"
เธอตอบรับ "ฉันอายุน้อยกว่านายสองเดือนนี่"
"จำได้ด้วยเหรอว่าฉันเกิดวันไหน"
"แน่นอน"
เฮเลนยิ้มออกมาบางๆ "นายเป็นคนสำคัญของฉันนี่"
"นานๆ
ทีพูดอะไรดีๆ ก็เป็นเหมือนกันนี่นา" เดรโกหัวเราะก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจุมพิตที่กลางหน้าผากของหญิงสาว "ฉันมีของขวัญจะให้ด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะชอบหรือเปล่า"
ว่าแล้วเขาก็ถอนแก่นกายออกจากร่างบางและเดินไปยังเสื้อสูทตัวนอกที่โยนไปไกลเกือบถึงประตูห้อง
เดรโกยืดตัวยืนเต็มความสูงหลังจากที่ก้มเก็บเสื้อสูทและผ้าห่มผืนหน้าขึ้นมาถือเอาไว้พลางค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อสูทอย่างตั้งอกตั้งใจ
เรือนผมสีบลอนด์ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงกับบ่ากว้างและผิวขาวซีดดึงดูดสายตาให้จ้องไปยังร่างของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รอยแผลเป็นจากคาถาเซ็กตัมเซมปร้ายังมีปรากฏให้เห็นอยู่บ้างประปรายบนเอวที่คอดเสียจนน่าอิจฉา
เฮเลนรีบหันหน้าหนีทันทีที่เดรโกหันกลับมาหาเธอพร้อมกับกล่องกำมะหยี่เล็กๆ
ในมือ เขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับนำผ้าห่มมาคลุมร่างของเธอเอาไว้ก่อนจะนั่งลงบนฟูกเตียง
เฮเลนยันตัวลุกขึ้นมานั่งบนฟูกพร้อมกับขยับผ้าห่มผืนหน้าให้เข้าที่เข้าทาง
ดวงตามองไปยังกล่องกำมะหยี่ที่อยู่ในมือของเดรโกเล็กน้อย
เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ ก่อนจะดึงมือซ้ายของเธอขึ้นมา
"ครั้งที่แล้วฉันให้แหวนเธอไปเป็นของขวัญวันคริสมาสต์"
เดรโกบอก "แต่ครั้งนี้มันจะไม่ใช่แค่แหวน"
จี้เส้นเล็กๆ
ถูกนำออกมาจากในกล่องนั้น เดรโกบรรจงสวมมันเอาไว้ที่คอบอบบางอย่างระมัดระวัง
ประกายสีเขียวเข้มของอัญมณีเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ช่างเข้ากันกับดวงตาสีเขียวของเธอเหลือเกิน
"มันคืออัญมณีประจำตระกูลมัลฟอย"
เขาบอก "เป็นมรกตสีเขียวที่มีค่ามากจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ -- เหมือนกับเธอ
ที่ฉันไม่อาจหาอะไรมาแทนได้"
"พูดได้ดีนี่"
เฮเลนยิ้ม "แต่อย่าลืมนะว่าสักวันหนึ่งฉันจะต้องตาย"
"ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอตาย"
แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เดรโกดึงร่างบางเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว
ผิวกายเย็นเฉียบนั้นกำลังบอกเธอว่าเขากลัวมากมายเพียงใด
เฮเลนยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดตอบเขาอย่างเบามือ
เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในอนาคตนั้นไม่เธอก็แฮร์รี่จะกลายมาเป็นคนที่ทำลายโวลเดอมอร์และหนึ่งในทั้งสองคนจะต้องตาย
สิ่งที่เธอมั่นใจมากที่สุดคือเธอจะต้องเป็นผู้เสียสละในสงครามครั้งนี้
เธอจำเป็นจะต้องเตรียมใจให้พร้อมสำหรับทุกสิ่ง
พร้อมละทิ้งความสุข
พร้อมที่จะบอกลาทุกอย่างไป
พร้อมที่จะตาย
ติดตามตอนต่อไป...
แปะประชดคนอ่าน 55555
เจอกันตอนต่อไปค่าาา
ความคิดเห็น