คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ( sf ) The Second Lover - chapter 5 - [HUNHAN ft.KAI]
Title : THE SECOND LOVER
Chapter : 5
Story by : Vanilla1127
ความห่างเหินกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ระยะห่างระหว่างกันที่ลู่หานเป็นคนสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวกำลังทำร้ายจงอินให้เจ็บปวด จากที่เคยมีแต่ลู่หานฮยองกับจงอิน น้องรหัสที่คอยตามเอาใจรุ่นพี่หน้าหวานไม่ห่างกาย แต่วันนี้กลับไม่ใช่เหมือนอย่างเคย
“ฮยองครับ วันนี้ไม่มีเรียนแล้วใช่ไหม”
“อื้อ” ร่างบางครางตอบโดยที่ไม่มองหน้า มือเล็กเร่งเก็บของใส่กระเป๋าเป้ใบเก่ง
“งั้นไปกินข้าวกันไหมครับ ร้านข้างมหาลัยน่ะ เราไม่ได้ไปกันนานแล้วนะ”
ลู่หานชะงักเล็กน้อย หน้าหวานดูสลดลง ตอบออกมาเสียงอ่อย
“อ่า ขอโทษนะจงอิน วันนี้พี่ต้องรีบกลับบ้านน่ะ”
“งั้นให้ผมไปส่งนะ”
จงอินยื่นมือไปจับมือเล็ก บีบเบาๆเหมือนเป็นการอ้อนวอน ทั้งที่เมื่อก่อนมันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำที่สองคนจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ลู่หานไม่เคยปฏิเสธไม่ว่าจงอินจะเอ่ยปากบอกว่าจะไปรับไปส่ง มีลู่หานที่ไหนก็มักจะมีคิมจงอินที่นั่นเสมอ
ลู่หานไม่เคยปฏิเสธความหวังดีที่จงอินหยิบยื่นให้และจะมีรอยยิ้มหวานตอบแทนให้อยู่เสมอเช่นกัน รอยยิ้มที่คิมจงอินชอบนักหนา ลู่หานแสนดีและน่ารักกับเขาเสมอ ทั้งขี้อ้อนและช่างเอาใจ จนจงอินเผลอคิดไปว่าเขาเองคือคนสำคัญ
ใช่ ลู่หานเองก็คงจะไม่ปฏิเสธว่าคิมจงอินก็เป็นคนสำคัญที่สุดคนหนึ่ง สำคัญไม่ต่างไปจากแบคฮยอนหรือชานยอล
แต่โอเซฮุนที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาก็เป็นคนสำคัญของลู่หานเหมือนกัน แต่สำคัญในแบบที่ลู่หานไม่เคยรู้สึกกับใคร
ลู่หานยิ้มบางเบาให้คนตรงหน้า ท่าทางที่รีบร้อนก็เพราะวันนี้เขามีนัดไปกินข้าวดูหนังกับเซฮุน แต่แรงบีบที่มือกอปรกับแววตาคล้ายอ้อนวอนขอความเห็นใจมันทำให้ร่างบางปฏิเสธไม่ลงแม้จะใกล้ถึงเวลานัดแล้วก็ตาม ลู่หานคิดว่าเซฮุนคงเข้าใจ สุดท้ายก็ยอมตามใจให้จงอินไปส่งที่บ้าน
พอได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้ารับ รอยยิ้มกว้างราวกับเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจก็ปรากฏขึ้นทันที รอยยิ้มที่ทำให้ลู่หานอดยิ้มตามไม่ได้แต่ก็เศร้าใจไปในคราวเดียวกัน เขารู้ว่าตัวเองมีสำคัญกับเด็กหนุ่มคนนี้ขนาดไหน แต่เขาเองก็ไม่รู้ใจตัวเองเลยจริงๆ
ไม่รู้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเผลอรักโอเซฮุน จนลืมคิดไปว่าสถานะความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับจงอินไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะรักคนอื่นแม้เพียงแค่คิดก็ตาม แต่ลู่หานก็พลาดไปแล้ว
“พี่ขอโทษนะจงอิน”
ลู่หานพึมพำเบาๆขณะยืนอยู่หน้าบ้าน พอจงอินมาส่งคนตัวเล็กลงที่หน้าบ้านอยู่ร่ำลากันอีกสองสามประโยคก็ขับรถกลับไปเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทำธุระตามที่ลู่หานบอกไว้มากนัก ดีที่จงอินไม่ชอบทำอะไรเวิ่นเว้อยืดยาว ไม่อย่างนั้นลู่หานก็คงไม่รู้จะทำยังไงถ้าจงอินรู้ว่าธุระที่เขาบอกไว้ก็คือมีนัดกับเซฮุน
[RRRR]
“ฮัลโหลเซฮุน”
((เสี่ยวลู่อยู่ไหนแล้วครับ ผมกำลังจะถึงบ้านเสี่ยวลู่แล้วนะ))
“อยู่บ้านแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวพี่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแปปนึงนะ”
((บอกแล้วไงว่าผมไม่อยากให้เสี่ยวลู่เรียกตัวเองว่าพี่))
“อ่า ก็มันลืมนี่นา เดี๋ยวเราขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแปปนึง แบบนี้โอเคไหม”
((โอเคครับ แต่ยังไงก็ต้องโดนทำโทษ...รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ แล้วเจอกันครับผม))
ร่างบางยู่หน้าใส่โทรศัพท์อย่างน่ารักเมื่อปลายสายกดวางโดยที่ไม่ยอมให้เขาได้โต้ตอบอะไรสักคำก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนจากชุดนักศึกษามาเป็นชุดลำลองในเสื้อแขนยาวสีครีมกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆพอดีตัว แต่มันกลับดูน่ารักมากสำหรับเซฮุนเมื่อคนใส่คือลู่หาน
จุ๊บ
“ซะ...เซฮุนนา”
ลู่หานตาโตหันไปมองคนที่นั่งทำหน้าทะเล้นอยู่ที่เบาะฝั่งคนขับ พอเขาเปิดประตูรถขึ้นมานั่งยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนขโมยจูบไปเสียแล้ว น่าอายชะมัดเลย
“ลงโทษไงครับ”
ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แก้มใสขึ้นสีชมพูน่ามองจนร่างสูงอดใจไม่ไหวต้องกดจมูกสูดความหอมอ่อนๆด้วยความมันเขี้ยวจนพอใจถึงยอมละออกมาจากพวงแก้มนิ่มก่อนจะเริ่มเหยียบคันเร่งผ่านหน้ารถยนต์อีกคันที่กำลังจะเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางเดียวกับที่ทั้งคู่เพิ่งจะออกมาโดยไม่ทันได้สังเกต
มือแกร่งกำพวงมาลัยแน่น เขาเห็นเต็มสองตาว่าในรถคันที่เพิ่งขับผ่านหน้าเขาไปเป็นลู่หานกับโอเซฮุนไม่ผิดแน่
จงอินขับรถวนกลับมาอีกรอบเพราะหันไปเห็นหนังสือเรียนกับสมุดเล็คเชอร์ตกอยู่บนเบาะข้างคนขับ สงสัยว่าคนตัวเล็กคงจะลืมไว้บนรถ เพราะใกล้จะสอบปลายภาคแล้วก็เลยเป็นห่วงว่าอีกคนจะไม่ได้อ่านหนังสือถึงรีบเอากลับมาให้ แต่สิ่งที่ได้เห็นทำเอาก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายบีบตัวรุนแรงจนปวดปร่า
ทั้งที่เขาเฝ้าบอกตัวเองทุกวันว่าไม่มีอะไร
แต่ทุกอย่างมันเริ่มชัดเจนขึ้นทุกที
ขายาวเหยียบคันเร่งตามไปโดยไม่ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย ร่างสูงกัดริมฝีปากจนห้อเลือด ไม่หลงเหลือคราบของคิมจงอินที่เคยใจเย็นอีกต่อไป ร่างสูงเลือกจอดรถไม่ไกลไปจากที่เซฮุนจอดอยู่ก่อนหน้า
ทั้งคู่คงไม่ทันได้รู้สึกตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคน จึงเผลอหยอกล้อกันอย่างน่ารัก ภาพคนสองคนที่เดินจูงมือกันดูใกล้ชิดสนิทสนมชนิดที่คงตีค่าความสัมพันธ์เป็นอื่นไม่ได้นอกจากคนรัก เร่งให้ขายาวก้าวเร็วขึ้นจนเกือบจะวิ่ง มือแกร่งคว้าข้อมือน้อยไว้ไม่เบาแรงเลยจนตัวบางๆนั้นแทบจะเซถลามาชิดอกแกร่ง ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาอย่างยากลำบากจนแทบไม่ได้ยินเสียง
“จงอิน...”
“นี่เหรอครับ ธุระของฮยอง!”
เสียงเข้มตะคอกถามแบบที่ไม่เคยทำจนลู่หานน้ำตาคลอ จงอินปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนอย่างเอาเรื่อง เซฮุนเองก็มองตอบด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างไม่ยอมแพ้
“กลับไปกับผม เดี๋ยวนี้!”
จงอินออกแรงกระชากให้คนตัวเล็กมาอยู่ข้างกาย แต่โอเซฮุนก็ยังไม่ปล่อยข้อมืออีกข้าง ลู่หานเองก็เหมือนจะขัดขืนเขาอยู่เล็กน้อย ทำให้จงอินโมโหกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“เขามากับฉัน” เซฮุนพูดเสียงเรียบ
“หึ แต่เขาเป็นคนของฉัน แกไม่มีสิทธิ์มารั้งเขาไว้”
เซฮุนนิ่งไปแต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากมือเล็กที่ยังคงจับมือเขาแน่นเช่นกัน แต่ข้อมือขาวอีกข้างที่ขึ้นริ้วแดงเพราะถูกกระชากกับตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตาก็ทำให้เขาเผลอปล่อยมือด้วยกลัวว่าจะทำให้ลู่หานจะต้องเจ็บไปมากกว่านี้ แต่ถ้าหากเขาปล่อยมือนี้ไป เขาอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสมันอีกเลย
“จงอิน พี่เจ็บ” เสียงสั่นทำให้จงอินได้สติขึ้นมาเล็กน้อย มือหนาคลายแรงบีบแต่ก็ยังไม่ปล่อยให้ลู่หานเป็นอิสระ
“กลับไปกับผม!”
“ปละ...ปล่อยพี่ก่อนนะจงอิน”
“ปล่อยให้ฮยองไปกับมันน่ะเหรอ ผมเป็นแฟนฮยองนะครับ!”
ความเงียบเข้าครอบงำ คนที่อึดอัดที่สุดในตอนนี้ก็คงไม่พ้นร่างบางที่ยืนกั้นกลางระหว่างคนสองคนอยู่ ดวงหน้าหวานแดงก่ำสุดท้ายน้ำตาหยดใสก็ไหลอาบแก้มเนียนอย่างกลั้นไม่อยู่ ใจหนึ่งก็อยากจะไปกับเซฮุน แต่ลู่หานก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาทิ้งจงอินไปไม่ได้ มันโหดร้ายกับจงอินเกินไป
“เราไม่ได้ไปไหนกันสองคนมานานแล้วนะ ฮยองลืมแล้วเหรอครับว่าผมชอบนั่งมองเวลาฮยองหลับ ชอบเวลาเราไปกินข้าวด้วยกัน ชอบเวลาที่ได้อยู่กับฮยองแค่สองคน ชอบเวลาที่ผมได้ดูแลฮยอง...ผมคิดถึงฮยองนะครับ คิดถึงมาก คิดถึงที่สุด”
เสียงเข้มลดระดับลงจนกลายเป็นแผ่วเบา มือแกร่งปลดปล่อยแขนขาวให้เป็นอิสระหากแต่เปลี่ยนเป็นเข้าไปสวมกอดร่างเล็กไว้เพียงหลวมๆ แม้ว่ามือเล็กยังไม่ยอมปล่อยจากมือของเซฮุนเลยแม้แต่นาทีเดียว
มือเล็กที่ชื้นเหงื่อและสั่นเทาเพราะความสับสนและลังเลมันทำให้เซฮุนนึกกลัว ในใจราวกับมีคนมาตะโกนบอกให้เขารู้สึกตัวว่าเขากำลังจะแพ้อย่างราบคาบ
“ฮยองครับ ได้โปรด...อย่าทิ้งผมไป”
ประโยคขอร้องของจงอินนั้นเหมือนเสียงระฆังตัดสินผลแพ้ชนะ เซฮุนรับรู้ได้จากมือที่เคยกุมมือเขาไว้อย่างหนักแน่นค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ เขาคิดไว้แล้วว่าจะไม่ยอมปล่อยมือนี้ไปจนกว่าลู่หานจะปล่อยมือเขาก่อน และมันคงถึงเวลาที่เขาคงต้องปล่อยมือนี้คืนเจ้าของไป
“เซฮุนนา พี่ขอโทษ”
ได้แต่ยืนมองร่างบางที่แสนรักเดินไปกับอีกคนโดยที่เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรั้งเอาไว้ ถึงแม้ใบหน้าหวานจะหันกลับมามองเขาด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ แต่เซฮุนทำได้เพียงแค่นิ่งเฉยเหมือนคนไร้ความรู้สึก มือขาวกำหมัดแน่นจนมือสั่น
“โธ่เว้ย!!”
รถของจงอินเคลื่อนผ่านหน้าจนลับสายตาไปในที่สุด ร่างสูงปล่อยหมัดลงบนหลังคารถอย่างแรงโดยไม่แคร์ถึงราคาที่แพงลิบของมัน เขาควรจะทำยังไงต่อไป
เดินต่อ?
หรือว่าถอยกลับ?
.
.
.
ตลอดทางมีเพียงเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นในความเงียบ ถึงแม้ลู่หานจะพยายามเก็บกลืนมันลงไปแค่ไหนแต่ก็ดูจะทำได้ยากเหลือเกิน ร่างสูงพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ใจเย็นลง เพราะยิ่งคนรักเขาร้องไห้เสียใจมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าลู่หานมีใจให้กับเซฮุนมากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่คิมจงอินยังไม่พร้อมจะยอมรับมันในตอนนี้
และไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่จงอินขับรถพาร่างบางมาถึงที่หน้าบ้าน แต่ก็ยังคงไร้ความเคลื่อนไหวหรือเสียงใดๆจากคนทั้งคู่
มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ลู่หานตัดสินใจแล้ว มันถึงเวลาที่ควรจะทำอะไรๆให้มันกระจ่างเสียที ถึงแม้จะทำให้จงอินต้องเสียใจ แต่หากยื้อความสัมพันธ์นี้ต่อไป ก็รังแต่จะทำร้ายจงอินไปมากกว่าเดิม
“จงอิน พี่ว่าเรา...”
“ฮยองลงไปเถอะครับ มันดึกแล้ว” เสียงเข้มพูดขัดขึ้นมาราวกับรู้สึกถึงสิ่งที่ตัวเองจะต้องเผชิญ
“แต่ว่า...”
“ลงไปเถอะครับ ผมขอร้อง”
มือหนากำพวงมาลัยแน่น เสียงนั้นสั่นแม้เจ้าตัวจะพยายามบังคับมันให้มั่นคงที่สุด จงอินรู้ว่าลู่หานต้องการจะพูดอะไร
“ก็ได้ งั้นพี่เข้าบ้านแล้วนะ”
ไม่มีคำบอกลาเหมือนทุกครั้ง จงอินไม่แม้แต่จะมองหน้าลู่หานด้วยซ้ำตอนที่ร่างเล็กลงจากรถไป
เพราะเขากลัวเหลือเกิน กลัวที่จะถูกบอกลา
ลู่หานถอยหายใจยาว มือเล็กคลำดวงตาที่บวมขึ้นเล็กน้อย ไอร้อนและความชื้นจากพวงแก้มยังไม่จางหายไป จงอินคงนึกรู้ว่าเขาจะพูดอะไรถึงได้กล่าวตัดบทแบบนั้น
คนตัวเล็กนั่งอ้อยอิ่งรับลมที่ม้านั่งในสวนหน้าบ้าน อากาศสดชื่นบวกกับกลิ่นเกสรดอกไม้ทำให้สดชื่นขึ้นเล็กน้อย แล้วก็พาลคิดถึงเซฮุนอีกจนได้ น้ำตาทำท่าจะไหลลงมาอีกระลอกแต่เจ้าตัวก็กะพริบตาเบาๆ ไล่มันออกไป
“ร้องไห้เหรอครับ”
“เซฮุน”
สัมผัสอุ่นๆที่แก้มกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ไม่ต้องมีใครบอกลู่หานก็จำได้ว่าเป็นเซฮุน
“เข้าบ้านดีกว่านะ อากาศเย็นแล้ว”
ร่างสูงฉุดให้ลู่หานลุกขึ้นก่อนจะพาเดินไปที่ประตูบ้าน ควานหากุญแจในกระเป๋าสะพายใบเล็กก่อนจะไขและดันคนตัวเล็กให้เข้าไปในบ้าน
เขาเพียงแค่แวะมาดูเพราะยังทำทใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ลู่หานจากไป เซฮุนจอดรถเยื้องหน้าบ้านฝั่งตรงข้าม แอบมองร่างบางอยู่ตั้งแต่คิมจงอินขับรถออกไปจนถึงเดี๋ยวนี้ เห็นร่างบางนั่งตากลมไม่ยอมเข้าบ้านเสียทีก็ได้แต่นึกเป็นห่วงจนต้องลงมาดู
“โชคดีนะครับ”
เซฮุนวางมือบนกลุ่มผมนุ่ม สัมผัสแผ่วเบาด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงยิ้มให้อย่างอบอุ่น ในที่สุดก็ตัดสินใจหันหลังจะเดินออกจากบ้านมา แต่แรงสวมกอดอย่างแรงที่เอวทำให้ขายาวต้องหยุดชะงัก
“ไม่ให้ไปนะ”
“พี่เลือกจงอินแล้วนี่ครับ”
“แล้ว...แล้วจะให้พี่ทำยังไง”
ไม่มีใครพูดอะไรต่อ เซฮุนตัดสินใจดึงมือที่สวมกอดเขาจากทางด้านหลังออกช้าๆ หลับตาลงอย่างเจ็บปวดเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากคนกอดเขาอยู่ สุดท้ายลู่หานก็ดึงร่างสูงให้หันกลับมาหา แขนเล็กทั้งสองโน้มใบหน้าอีกคนลงมาประทับจูบอย่างแผ่วเบา เซฮุนเลื่อนมือมาจะจับที่เอวบางแต่สุดท้ายก็ยั้งใจไว้
“พี่กำลังจะบอกจงอินแล้ว แต่จงอินไม่ฟัง ซะ...เซฮุนอย่าไปเลยนะ”
เสียงหวานละล่ำละลักบอกเพราะก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ที่อก คำพูดของลู่หานบวกกับหน่วยตากลมที่ถูกกลบไปด้วยน้ำตาทำให้เซฮุนใจอ่อน ร่างสูงรั้งร่างเล็กเข้ามากอด
“ถ้าไม่อยากให้กลับผมก็จะไม่กลับ”
เซฮุนเชยคางคนหน้าหวานให้มองสบตากัน แววตาอ่อนโยนและแสดงออกถึงความรักอย่างเปี่ยมล้นทำให้ลู่หานต้องโถมตัวไปกอด ซุกหน้าไว้กับอกแกร่งอย่างรักใคร่ สุดท้ายก็ถูกรั้งท้ายทอยให้เงยหน้ามารับจูบแสนอ่อนโยนอยู่ดี
“ผมจะอยู่กับเสี่ยวลู่ทั้งคืนเลย”
To be continue.
คาดว่าพาร์ทหน้าน่าจะจบแล้วค่ะ ถ้าเราไม่ไปเพิ่มเติมเสริมแต่งอะไรอีกอ่ะนะ
เราไม่ขออะไรมาก แค่คอมเมนท์ก็พอ
สงสัยอะไรถามได้ค่ะ ชอบไม่ชอบก็ติชมได้ค่ะ
แล้วจะรีบมาลงนะจ้าา จุ๊บ :3
ความคิดเห็น