คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Episode4: something is lost
Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า
Episode4:
แพขนตาหนากระพริบขึ้นลง ก่อนที่ดวงตาคู่สวยของผู้เป็นเจ้าของจะลืมตาขึ้นช้าๆ ภาพบรรยากาศที่ไม่คุ้นตาปรากฏสู่สายตาของซิน ร่างบางรู้สึกสึกเหมือนอยู่ท่ามกลางเขาวงกตที่เป็นทางเดินยาวๆและแคบ พื้นที่เขานอนอยู่มีน้ำเจิ่งนองเต็มหมด รอบตัวของร่างบางถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แสงไฟสลัวเล็กๆที่พอให้มองเห็นก็มีเพียงเทียนไขที่ลอยอยู่ชิดกำแพงเป็นแนวเท่านั้น
‘ที่นี่ที่ไหน...?’ เป็นความคิดแรกที่แว่บเข้ามาในหัว แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถจะตอบคำถามของตัวเองได้อยู่ดี ร่างบางจึงค่อยๆเรียกสติตัวเองที่เตลิดไปไกลกลับมา ก่อนจะคิดหาหาออกไปจากที่ตรงนี้
ดวงวิญญาณหน้าหวานลุกขึ้นช้าๆ ซินตั้งสติ ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้า ร่างบางเดินตามแสงเทียนไปเรื่อยๆจนมาถึงทางแยก ทางด้านขวามือนั้นมืดสนิท ส่วนทางด้านซ้ายยังมีเปลวเทียวลอยเป็นแนวให้เดินตามไปต่อ ซินคิดหนักว่าจะเลือกเดินต่อไปทางไหน แต่สุดท้ายเท้าทั้งสองก็เลือกเลี้ยวไปทางด้านที่มีแสงสว่าง ซินเดินไปตามแนวเทียวที่ลอยอยู่ติดผนังราวกับเป็นลูกศรบอกทาง ในใจหวังเพียงจะได้เจอทางออก
ตึก...ตึก...ตึก...ตึก
ร่างบางสะดุ้งโหยง พร้อมกับหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนเองทันทีที่ได้ยินเหมือนมีเสียงฝีเท้าที่เดินตามเขามา ...แต่ก็มองไม่เห็นใครนอกจากเงาเทียนสลัวๆที่สะท้อนกับน้ำที่เจิ่งนองตามพื้น ซินถอนหายใจน้อยๆ อย่างโล่งอก ก่อนจะเรียกสติตัวเองให้เดินไปข้างหน้าต่อ ปลอบใจตัวเองว่าบางทีเขาอาจจะหูฝาดไปเองก็ได้
ตึก...ตึก...ตึก...ตึก
‘เสียงนี้อีกแล้ว?’ คนหน้าหวานมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันเมื่อเริ่มก้าวไปข้างหน้าต่อ เสียงฝีเท้าด้านหลังก็ดังขึ้นทันทีเหมือนรอจังหวะจะเดินตามเขามายังไงอย่างนั้น ร่างบางหันขวับกลับไปมองทางเดินด้านหลังตัวเองอีกครั้ง...ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม
“ใครอยู่ตรงนั้น ...ผมถามว่าใคร?” มีก็เพียงแต่ความเงียบแทนคำตอบเท่านั้น ...แต่ซินยังไม่ละความพยายาม ...พยายามมองหาบางสิ่งที่อาจตามเขามาและหลบซ่อนอยู่ในความมืด แต่นอกจากเปลวเทียวเสียงสลัวแล้ว ร่างบางก็มองเห็นแต่เพียงความมืดเท่านั้น แต่เมื่อร่างบางหันหน้ากลับมาเตรียมจะเดินต่อไป ซินก็แทบช็อคเมื่อทางเดินตรงหน้าเขาไม่ได้ว่างเปล่าอีกแล้ว
“สวัสดี ซินเซียร์” ชายหนุ่มร่างโปร่งหน้าตาดีปรากฏสู่สายตา เขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกงแสล็คสีขาว และรองเท้าหนังฟอกสีขาวหม่น แม้จะแต่งตัวธรรมดาเพียงใด แต่คนหน้าหวานรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดา...ก็คนธรรมดาที่ไหนจะมาเดินเล่นในเขาวงกตประหลาดนี่กันล่ะ...!
“คุณเป็นใคร?” คำถามที่อยากรู้ที่สุดในตอนนี้ถูกโพล่งออกไป พลางมองอีกฝ่ายอย่างระแวง
“ใจร้ายจังนะ จะไม่ทักทายผมก่อนสักหน่อยเลยเหรอนางฟ้า” ชายแปลกหน้าไม่สนใจคำถามของซินแม้แต่น้อย แต่กลับเรียกเขาด้วยสรรพนามที่ชวนให้หงุดหงิดใจแทน
“ขอโทษนะครับ...แต่ผมเป็นผู้ชาย คงเป็นนางฟ้าให้คุณไม่ได้หรอก” ซินขมวดคิ้วก่อนจะตอบกลับอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์
“ผมรู้ดีว่าคุณเป็นผู้ชาย แต่อีกภพเค้าเรียกคุณแบบนี้กันทั้งนั้นเลยนะ ผมก็แค่อยากเรียกแบบนั้นดูบ้าง”
“อีกภพ?” ร่างบางทวนคำของอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่ อีกภพ ...แต่ถ้าคุณเดินต่อไปเรื่อยๆ อีกสักพักก็คงได้ไปถึงจริงๆ” ชายแปลกหน้าตอบ ชี้นิ้วตรงไปที่ทางเดินที่สว่างไปด้วยเปลวเทียนข้างหน้า
“ผมไม่เข้าใจ” ซินขมวดคิ้วตีหน้ายุ่งเป็นรอบที่ร้อยของวัน เขาไม่เข้าใจตั้งแต่ที่เขาไม่สามารถเข้าร่างตัวเองได้ แถมจู่ก็เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างมาฉุดดึง แถมมาโผล่ในสถานที่แปลกประหลาดชนิดที่ไม่อาจมีในโลก สุดท้ายก็มาเจอกับชายแปลกหลาดคนนี้อีก
“ผมรู้ว่าซินคงมีคำถามที่อยากถามผมเยอะเลยใช่ไหม?...ผมจะเล่าในส่วนที่ผมเล่าได้ให้คุณฟัง...แต่ก่อนอื่น ผมอยากถามคุณว่าคุณจะเชื่อในสิ่งที่ผมเล่าไหม เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ ผมก็เล่ามันไม่ได้”
คำตอบที่ได้มาชวนลำบากใจไม่น้อย กับการที่ต้องมาอยู่ในสถาณการณ์แบบซิน ร่างบางแทบต้องระวังตัวตลอดเวลา และการที่มาเจออีกฝ่ายในสถานไม่น่าไว้ใจเช่นนี้ ดูยังไม่ก็ไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย
“ตกลงครับ ผมเชื่อคุณ” แต่ลางสังหรบางอย่างบอกให้ซินเชื่อใจชายคนนี้ บางอย่างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
“ผมดีใจนะที่คุณเชื่อผม” ชายแปลกหน้าส่งยิ้มจางมาให้เขาเป็นครั้งแรกตั้งแต่เจอกัน ...แวบหนึ่งร่างบางรู้สึกว่ารอยยิ้มนั่นช่างคุ้นเคยอย่างประหลาด
“ผมจะเริ่มจากตรงไหนดี ... ” ชายแปลกหน้าเกริ่น ก่อนจะพูดต่อ “คุณเป็นวิญญาณ...คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าร่างกายที่ขาดวิญญาณจะสามารถอยู่ได้จนถึงปีที่เก้า ถ้าครบกำหนด คุณเข้าร่างไม่ทัน คุณก็จะตาย โดยดวงจิตคุณจะโดนดึงไปสู่อีกภพทันที”
ซินพยักหน้าแทนคำตอบ เรื่องนั้นเขาดีรู้อยู่แล้ว...
“แต่ที่ผมคิดว่าคุณไม่รู้คือ ทางฝั่งของอีกภพวิญญาณทุกตัวรู้จักคุณ วิญญาณเหล่านั้นต่างเรียกคุณว่า นางฟ้า ถ้าให้ผมเดา...เป็นเพราะพลังวิญญาณของคุณบริสุทธิ์กว่าดวงวิญญาณดวงไหนๆ แล้วสิ่งนี้แหละที่เป็นปัญหา วิญญาณชั่วร้ายมากมายจะเข้ามาทำร้ายคุณและขัดขวางไม่ให้คุณเข้าร่างสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น...ที่คุณถูกดึงมาอยู่ตรงนี้”
“แล้วทำไมดวงวิญญาณพวกนั้นต้องจ้องจะทำร้ายผม” ซินถามอย่างไม่เข้าใจ
“วิญญาณที่ชั่วร้ายสามารถมีพลังมากขึ้นเมื่อได้กัดกินดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ ยิ่งบริสุทธิ์มาก...พลังที่ได้รับก็ยิ่งเพิ่มมาก…นี่คือเหตุผลที่ทำไมดวงวิญญาณชั่วร้ายถึงอยากได้ตัวนางฟ้า พลังบริสุทธิ์ของคุณจะทำให้พวกมันแข็งแกร่งและมีพลังมากขึ้นหลายร้อยเท่า”
“งั้นผมต้องรีบกลับไปที่โรงพยาบาล ผมต้องรีบเข้าร่าง” ร่างบางพูดด้วยความกลัวจับใจ หวังเพียงได้กลับไปเข้าร่างและเรื่องพิลึกนี่จะได้จบไปเสียที
“ผมก็อยากให้คุณรีบกลับเข้าร่าง...แต่คุณกลับเข้าไปตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมกัน?” ซินถามอีกฝ่ายด้วยถามกังวล นึกไปถึงตอนที่ตนเองพยายามเข้าร่างแต่เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างผลักออกมา
“ซินทำบางอย่างหายไป...บางอย่างที่ซินจะต้องหามันให้เจอ ซินถึงจะกลับเข้าร่างได้” ชายแปลกหน้ากล่าว
“บางอย่าง?” ร่างบางทวนคำพูดอีกฝ่ายอย่างนึกไม่ออก เขาไปทำอะไรหายตอนไหน?
“บางอย่างที่สำคัญกับชีวิตคุณ...ผมบอกได้แค่นี้ ที่เหลือมันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะตามหาสิ่งหายไปด้วยตนเอง พรหมลิขิตกำหนดมาให้เป็นอย่างนั้น” ชายแปลกหน้ามองคู่สนทนา ดวงตาสื่อแววอาทรขึ้นมาวูบหนึ่ง ...บางทีพรหมลิขิตก็ช่างเล่นตลกกับชีวิตคนนัก
“หมดเวลาพบกันแล้วซินเซียร์ ได้เวลาที่ผมต้องไป ส่วนคุณก็ต้องรีบไปเช่นกัน เพื่อนของคุณกำลังแย่นะรู้ไหม?” ชายร่างโปร่งพูดตัดบท ก่อนมือแกร่งจะปลดสร้อยคอที่ตนเองสวมอยู่มาสวมให้ร่างบาง ...สร้อยขนนกสีขาวได้ย้ายมาอยู่ที่คอระหงของร่างบาง ก่อนที่ผู้มอบให้จะกล่าวลา
“สร้อยเส้นนี้จะช่วยคุณจากวิญญาณชั่วร้าย ใส่ไว้ตลอดอย่าทำหายล่ะ แล้วพบกันใหม่ครับนางฟ้า” ชายแปลกหน้าค่อยๆจางหายไปตรงหน้า ก่อนที่ซินจะทันได้กล่าวลา พร้อมๆกับแสงสีขาวประหลาดที่เข้ามาโอบล้อมรอบตัวของคนหน้าหวาน ซินรู้สึกเหมือนตัวเบาและลอยขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าร่างบางก็กลับมาอยู่ในห้องป่วยหมายเลข420 ตามเดิม ซินมองเห็นร่างตนเองที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย มองเห็นป๊า มองเห็นม๊า แต่กลับมองไม่เห็นนัท... ร่างบางมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจ นัทหายไปไหน?
ก่อนคำพูดของชายแปลกหน้าจะแว่วมาเข้าหู ...เพื่อนของคุณกำลังแย่ …งั้นเหรอ?
เขาต้องรีบไปช่วยนัท!!
…………………………….
นัทเดินเข้ามาในห้องที่เห็นเหมือนดวงวิญญาณของซินจะทะลุเข้ามา ชายหนุ่มมัวแต่ห่วงอีกฝ่ายที่หายไปจนไม่ทันสังเกตุว่าวิญญาณของซินที่เขาเห็นเมื่อครู่ มีบางอย่างที่แปลกออกไปจากซินที่เขารู้จัก
แอ๊ดดดดดดดด ....ปัง!!!!!
ทันทีที่นัทก้าวเข้ามาสู่กลางห้อง ประตูห้องที่ทำจากไม้สภาพเก่าก็กระแทกปิดเสียงดังจนร่างสูงอดที่จะสะดุ้งไม่ได้ บางบ่นพึมพำกับตนเองเบาๆว่า...ลมจะมาพัดเอาอะไรตอนนี้
“ซิน ออกมาได้แล้ว ...ซินออกมาหานัทก่อน” นัทพยายามตะโกนเรียกร่างบาง หวังใจว่าเมื่อเจออีกคนแล้วจะได้ออกไปจากที่นี่สักที
ตุบบ!!!
“เฮ้ย! เชี่ย”
เสียงอะไรบางอย่างตกคล้ายกับลูกแตงโมตกถึงพื้นทำเอาร่างสูงขวัญอ่อนตกใจจนต้องจะโกนออกมา นัทหันไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะพบว่าตัวเองเจอดีเข้าแล้ว
“แกจะช่วยนางฟ้าให้กลับร่างสำเร็จ...ถ้าไม่มีแก...นางฟ้าก็กลับร่างไม่ได้ หึหึ” ผู้หญิงที่กองอยู่บนพื้นหันหน้ามาพูดกับเขา ที่ต้องใช้คำว่ากองอยู่บนพื้นก็เพราะว่าสภาพไอ้ตัวที่มันพูดอยู่กับเขามันนอนขดในสภาพบิดเบี้ยวเลือดเต็มตัวคล้ายคนตกลงมาจากตึกสูง ...สภาพอย่างนี้อมพระมาพูดกูก็ไม่เชื่อว่าเป็นคน!
หมับ !!
ในขณะที่ร่างสูงยืนเหงื่อแตกพลั่กเตรียมจะวิ่งอยู่นั้น สิ่งลี้ลับที่กองกับพื้นก็ยื่นมือมาจับข้อเท้าเข้าไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนใบหน้าเละๆจะหันมาแสยะยิ้มให้กับเขา
“ตาย-ซะ-เถอะ ”
ผลั่ก ตุ้บ!!!
นัทสะบัดข้อเท้าอย่างแรง ก่อนจะวิ่งหนีไปที่ประตู ร่างสูงแทบขนาดว่าจะประคองสติตัวเองให้วิ่งให้ตรงทางยังอยากเต็มแก่ ก่อนที่จะพบว่าประตูเจ้ากรรมเปิดไม่ออก
“หนีไม่พ้นหรอก...” ร่างที่กองอยู่กับพื้นลอยมาประชิดตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นัทกลัวจนร้องไม่ออก ชายหนุ่มหลับตาปี๋อย่างเตรียมรับชะตากรรม …
แต่ผ่านไปหลายนาทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาสักที ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมามองอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่จะพบว่าวิญญาณร้ายที่เข้ามาประชิดตัวเมื่อครู่หายไป กลายเป็นวิญญาณหนุ่มหน้าหวานที่เขารู้จักดีเข้ามาแทนที่
“ซิน? ซินจริงใช่มั้ย?” นัทดีใจจนพูดอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณเขาก็คงกระโดดกอดไปเรียบร้อยแล้ว
“อื้ม เราเอง รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะคุณ” ร่างบางชักชวน ซึ่งนัทก็เห็นด้วยเป็นที่สุด หนึ่งคนหนึ่งวิญญาณพากันออกมาจากอาคารร้าง ในระหว่างที่เดินออกมาจากเขตหวงห้ามนั้นซินกับนัทไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ อาจจะเป็นเพราะนัทยังอยู่ในอาการช็อค ส่วนซินก็กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ สุดท้ายร่างบางก็ในฝ่ายเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
“ขอโทษที่ดึงนัทเข้ามาลำบากด้วยนะ ...ซินว่าเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า เราจะกลับไปตามทางของเรา หาทางกลับคืนร่างด้วยตัวเอง ...ส่วนนัท ก็กลับไปใช้ชีวิตปกติของนัทเถอะ”
TBC.
talk : มาต่อแล้วนะคะ แอบเห็นบางเม้นถามว่าพี่ซินหลับไปตั้ง8แปดนานไปไหม เราก็มานั่งคิด... เออเนาะ นานไปจริงๆ
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟิคค่ะ ยิ่งฟิคเรายิ่งต้องอ่านแล้วทำจิตให้ว่าง เพราะมันไม่มีอะไรที่ดูเป็นหลักความจริงเลย 55555(ไรท์เตอร์มันเพ้อ)
ขอบคุณสำหรับทุกคำติชม คำแนะนำ ในทุกเม้นค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจเช่นกัน เจอกันตอนหน้าค่ะ^_____^
ความคิดเห็น