คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Eternal {0027} prologue
Eternal
ตามตำนานของเนเทอลา (Neterla) ได้กล่าวขานเอาไว้ว่า ในยามสนธยาที่ซึ่งแสงสุดท้ายแห่งดวงตะวันกำลังจะลับเส้นขอบฟ้า ภายใต้กิ่งก้านสาขาของมัน คู่รักคู่ใดที่ได้จุมพิตกันนั้น สายสัมพันธ์ชั่วนิรันดร์ของความรักจะคงอยู่...ตลอดไป
.
.
กระสมลมแผ่วพัดพาใบไม้แห้งปลิวร่วงจากกิ่งก้านสาขา ต้นหญ้าพากันโอนเอนลู่ตามลม กลิ่นหอมจางๆของดอกไม้ฟุ้งไปทั่ว กลีบสีน้ำเงินเข้มของดอกไม้จากต้นเนเทอลาร่วงหล่นลงมาอย่างอ้อยอิ่งตามแรงโน้มถ่วง ก่อนจะตกลงบนเรือนผมฟูฟ่องหากแต่นุ่มดุจแพรไหม
มือบางปัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่ตกลงมาออกจากผมของตนก่อนที่จะเอนตัวนอนหนุนตักลงบนของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย นัยน์ตาสีไม้โอ๊คซึ่งเป็นเฉดเดียวกันกับเส้นผมนุ่มเงางามเพ่งพินิจใบหน้าของอีกฝ่าย ใบหน้าคมเรียวได้รูป จมูกโด่งซึ่งรับกับริมฝากปากบางเฉียบ หากแต่สิ่งที่น่าหลงใหลที่สุดนั้นกลับเป็นนัยน์ตาสีทับทิมซึ่งเป็นสีเดียวกับผมที่สั้นระต้นคอ
“เป็นอะไรไปน่ะ เอ็นมะ ...เหมือนนายกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่เลย...” มือบางเอื้อมไปสัมผัสข้างแก้มของร่างสูงซึ่งก้มหน้าลงมาสบตากับตน ศีรษะซึ่งปกคลุมไปด้วยผมสีแดงเพลิงพลิ้วปลิวเมื่อเจ้าตัวส่ายหัวช้าๆ เอาฝ่ามืออีกข้างทาบทับมือเรียวเล็กของอีกฝ่าย
“...ไม่มีอะไร ...ขอรับองค์ชาย”
“นี่ เลิกเรียกฉันแบบนั้นซักที~” ทำแก้มอูมออกมาทันทีอย่างนึกขัดใจ “มันดูเหินห่างเกินไป ...”
“หากใครอื่นมาได้ยินเข้า เกรงว่ามันจะไม่ดีนะ...ขอรับ” แย้มยิ้มไปให้อีกฝ่ายที่นอนหนุนอยู่บนตักของตน ลำพังตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรอยู่แล้วหากใครจะมองยังไง
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตนอาจจะเป็นตัวถ่วงทำให้ผู้เป็นนายเสื่อมเสีย ...
สำหรับเขาแล้ว โคซาโตะ เอ็นมะ คนนี้เป็นเพียงองครักษ์ที่ซื่อสัตย์ของทายาทลำดับที่สิบของวองโกเล่ ราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ซึ่งทำหน้าที่ปกครองอาณาจักรมารุ่นต่อรุ่น
ซึ่งความจริงนั้น ...ทั้งคู่ต่างกำลังทำในสิ่งต้องห้าม นั่นคือการที่พวกเขาต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ...
นับเป็นเรื่องผิดมหันต์ร้ายแรง
“กำลังคิดเรื่องนั้นอยู่สินะ ...” พลัน ใบหน้าอิ่มเอมกลับหมองลงทันใดเมื่อนึกถึงสาเหตุของพฤติกรรมอันเฉยชาของคนตรงหน้า
“เอ็นมะ ...” ดวงตาคู่สวยสั่นระริกยามต้องกับทับทิมสุกปลั่ง “... แค่รู้ว่าฉันรักนาย ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ ?”
คำถามเน้นย้ำทำให้คนเป็นบ่าวตกอยู่ในห้วงความคิด ใบหน้าชวนเสน่หาอาลัยอาวรณ์ร้องขอ เพียงแค่ให้อีกฝ่ายกลับมาร่าเริงเช่นเดิม ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้วในตอนนี้
“ขอรับ ...” หลากหลายห้วงความคิดผุดขึ้นมาในหัว จริงอยู่ที่ว่าการฝืนทำสิ่งต้องห้ามล้วนมีอุปสรรค ถึงกระนั้นจิตใจที่มั่นคงจะทำให้สามารถฟันฝ่ามันไปได้โดยลุล่วง แต่บางครั้ง การทำในสิ่งที่เกินตัว อุปสรรคก็มากขึ้นเป็นเท่าตัว
“... เพียงพอ”
สำหรับองค์ชายแล้ว เปรียบได้กับผืนนภาที่โอบอุ้มทุกสิ่งอย่างเอาไว้ หล่อหลอมหัวใจที่เคยด้านชาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ...
ดั่งดวงจันทร์ลอยเด่นยามรัตติกาล แสงนวลที่แผ่ซ่านช่างอบอุ่นจับใจ ...
พื้นพสุธาแสนต่ำต้อย มิอาจใฝ่สูงยืนเคียงคู่สิ่งเลอค่า ข้อนี้เป็นสิ่งที่รู้ดี...
แต่เมื่อทั้งร่างกายและหัวใจได้จมดิ่งในห้วงเสน่หา เป็นการยากที่จะปีนป่ายออกมาจากหลุมลึกที่ตกลงไป
มือบางเย็นยะเยียบสัมผัสที่ข้างแก้มไล้ลงมาถึงลำคอของอีกฝ่ายที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตคอปกสีขาวสะอาดตาก่อนจะทาบลงบนไหล่ที่มีเสื้อกั๊กสีดำพาดอยู่ รอยยิ้มอันสดใสทำให้ผู้ถูกเรียกอดจะยิ้มตามไม่ได้
“ฉันรักนาย” ตากลมโตหรี่เล็กลงช้าๆ น้ำตาที่เอ่อคลอหน่วยค่อยๆกลิ้งลงจากแพขนตางอน มือหยาบกร้านของเอ็นมะปาดเบาๆที่ข้างแก้มเนียนสีระเรื่อ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อร่างบางมีความสุขที่เปี่ยมล้น น้ำตาแห่งความสุขมักจะไหลรินอาบแก้มเสมอๆ
“องค์ชาย ร้องไห้อีกแล้วนะขอรับ” หัวเราะร่วนกับการกระทำของอีกฝ่ายที่ราวกับเด็กก็ไม่ปาน
“เพราะฉันมีความสุขมาก ที่มีนายอยู่เคียงข้าง” พูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้าที่เนกไทของอีกฝ่ายเอาไว้ ออกแรงดึงเบาๆเพื่อให้อีกฝ่ายโน้มตัวลงมาใกล้ เสี้ยวหน้าหวานเงยขึ้นช้าๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาจนจมูกของทั้งคู่แนบชิดติดกัน
“จูบฉันสิ” คำสั่งที่ราวกับเป็นคำเชื้อเชิญถูกเอื้อนเอ่ยออกมา
“ขอรับ”
ทันทีที่ตกปากรับคำ ที่มุมปากปรากฏรอยยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะโน้มริมฝีปากเขาแนบชิด ประกบกับเรียวปากอิ่มของอีกฝ่ายที่อยู่ใต้ล่าง ดื่มด่ำกับความหอมหวานที่อีกฝ่ายมอบให้
จุมพิต ...ราวกับแทนคำสัญญา
กระแสลมพัดผ่านมาอีกครั้ง ใบไม้ปลิวว่อนลอยล่องไปทั่วบริเวณ แสงสุดท้ายของดวงตะวันริบหรี่ลงก่อนจะค่อยๆลับขอบฟ้า ผืนฟ้าทอประกายเป็นสีส้มอ่อนๆก่อนจะค่อยๆดำมืด ปล่อยให้ดวงจันทร์และหมู่ดาวทำหน้าที่ของมันต่อไป ...
+TALK
วะฮิ้ววววววววววว กลับมาอีกแล้ววว !!!~ (ได้ข่าวว่าเพิ่งลงเมื่อวานซืน)
เอาเถอะ ตอนนี้เป็นช่วงพีคของหัวสมองเรานั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะมีคนคอมเมนท์ให้กำลังใจเนี่ยแหล่ะ !
แบบ นึกว่าคนจะไม่อ่านแล้ว ไม่ค่อยชอบคู่นี้ สรุปว่ามีค่ะ ! โอค ทางเราจึงเดินหน้า ฮ่าาาๆ
มีบางท่านกำลังเข้าใจผิด จากที่ส่งควิกแมสเสจไปเชิญถึงที่
คราวก่อนเราดันไปใช้คำว่า
สวัสดีจ้าาาา !!!
หลังจากที่เปิดบทความไว้แล้วหายต๋อมไปเป็นเดือน
วันนี้เราอัพฟิคสั้น Excursion 2/2 ตอนจบแล้วนะจ้ะ
ติดตามกันได้ ขอบคุณมากค่ะ ♥
เป็นเหตุให้เกิดความคลาดเคลื่อนกันไปเล็กน้อยว่าเราจะปิดบทความหนี
เย้ยยย ไม่ใช่นะจ้ะ เราแค่จะสื่อว่า ตอนจบของฟิคสั้นเรื่องทัศนศึกษามาแล้วนะ
หาได้ถึงกาลปวสานของบทความไม่ 555555555 (รีบ ?)
ถึงเราจะแรงขับเคลื่อนหัวสมองน้อย ไหนจะเป็นโรคขี้เกียจอัพ แต่การกดปิดบทความมันเป็นการปิดโอกาสให้ตัวเองเกินไป
ไว้ถ้าพล็อตมันมา ปัญญามันเกิด เรามาแต่งแน่ล่ะ ฮ่า ฮ่า
โอเค เข้าเรื่องฟิคใหม่เรื่องนี้บ้าง
คือว่า มันเป็นแนวพีเรียดเรื่องแรกในชีวิตล่ะสารภาพ = =
ดังนั้น ภาษามันอาจจะห่วยบ้าง ไม่ลื่นบ้าง อะไรบ้าง TT ก็อย่าได้สนใจกับมันนัก ขอร้อง 5555
เราก็อยากลองอะไรใหม่ๆดูเท่านั้น บวกกับพล็อตมันแล่นมาเฉ๊ย
เราเป็นพวกถนัดคิดพล็อตเรื่องยาวมากกว่า เลยจะไม่ค่อยเห็นเราแต่งแบบตอนเดียวจบหรอก =3=
แต่นี่ก็ไม่อยากทำให้มันเป็นฟิคยาว เกรงจะเป็นการเพิ่มภาระให้ตัวเอง และทรมานรีดเดอร์้เปล่าๆ
จะพยายามให้มันสั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ คาดว่าเรื่องนี้จะมีประมาณ 4 ตอน (คาดว่า - -)
หะหะ รู้สึกว่าวันนี้เวิ่นยาวเมาท์ฝอยอะไรเยอะมาก
แต่หมดเรื่องเวิ่นแล้วล่ะจ้า ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้
© Tenpoints !
ความคิดเห็น