ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Hello Dolly [WonHyuk/KiHae]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    Chapter 4

     

                “หวังเม็ง ยินดีต้อนรับครับ!!” ฮยอกแจต้อนรับลูกค้าเสียงดัง

                วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่เขามาทำงานที่นี่ เพราะว่าเป็นวันหยุดจึงเริ่มงานตั้งแต่ตอนกลางวัน

                “ขอหวังเม็งสามที่ครับ”

                “ครับ!!....หวังเม็งสามที่โต๊ะสี่ครับ!!

                ฮยอกแจยังคงกระฉับกระเฉงในการทำงาน ต่างจากวันแรกที่เขานั้นทั้งเชื่องช้าจนต้องโดนฮันคยองต้องกล่าวตักเตือนเสียหลายต่อหลายครั้ง

                “หวังเม็ง ยินดีต้อนรับครับ!!” เขาหันไปกล่าวต้อนรับลูกค่าคนใหม่ “อ้าว ซีวอน” ฮยอกแจยิ้มให้ก่อนจะพาไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ลูกค้าเพิ่งลุกจากไปและเก็บจานชามอาหาร “มาคนเดียวเหรอ”

                “มากับพวกฮีชอล” ซีวอนยิ้มตอบ

                “หรอฮะ แล้วพวกเขาไปไหนกันแล้ว”

                “กำลังตามมา จงอุนบอกว่าอยากจะแวะซื้อของก่อนมาที่นี่”

                ฮยอกแจบอกเรื่องทำงานพิเศษนี้ให้กับซีวอนและทงเฮได้รับรู้ แต่เมื่อซีวอนรู้ว่าเป็นที่หวังเม็งเขาก็ออกปากว่าจะมาในวันที่ฮยอกแจทำงานพิเศษให้ได้ เพราะที่นี่เป็นร้านอาหารจีนที่มีรสชาติติดปากของผู้คนในแถบนี้ แล้วฮีชอลกับจงอุนก็ยังเป็นลูกค่าประจำอีกด้วย

                “อ๋อ...ครับ”

                “ใกล้เลิกงานแล้วใช่ไหม”

                “ครับ”

                “เดี๋ยวฉันรอนะ” เขาส่งยิ้มหวานมาให้คนตัวเล็ก

                “...ครับ” แม้จะแปลกใจแต่ก็ดีใจอยู่ไม่น้อย เขายิ้มหวานตอบซีวอน

                “ฮยอกแจ!! อย่าอู้!! ทำงาน!!” เสียงตะโกนดุดังมาจากเคาเตอร์ส่งอาหารทำให้คนตัวเล็กต้องสะดุ้ง

                “ครับ!! ขอโทษฮะ!!” เขาหันไปตอบเสียงดังฟังชัด

                “หึหึ...น้องชายอน่าเอ๋อครับ ลูกค้าจะสั่งอาหารนะ” ซีวอนอมยิ้มทำหน้ายั่วอารมณ์เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำแก้มป่องปากยื่น “ของฉันขอหวังเม็งแล้วกัน ของขึ้นชื่อของร้านนี้อยู่แล้วนี่นา แล้วก็ของสองคนนั้นก็เหมือนกันนะ”

                “ครับ....หวังเม็งสามที่ โต๊ะสองครับ!!

               

     

                “เหนื่อยจังเลย....” ฮยอกแจล้มลงนอนกับพื้นหน้าโซฟาทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง

                “เหนื่อยก็ไม่ต้องทำหรอก ไหวเหรอ ทั้งเรียนทั้งทำงานพิเศษ”

                “ไม่ได้หรอกฮะ ผมต้องตอบแทนซีวอนบ้าง ซีวอนให้ผมพักที่นี่ ผมก็จะทำอาหารให้คุณทานแทนก็แล้วกันนะฮะ” เขาลุกขึ้นนั่งส่งยิ้มให้คนตัวสูงที่หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มข้างๆเขา

                “จะเอาเวลาที่ไหนทำ กลับมาก็เหนื่อยแล้ว วันนี้ยังกลับเร็วกว่าทุกวันเพราะว่านายเริ่มงานเร็ว ขนาดกลับเร็วกว่าก็สองทุ่มแล้ว ไม่เหนื่อยเหรอ”

                “เหนื่อยฮะ แต่ผมต้องทำให้ ผมคิดไว้แล้วว่าจะทำ และผมก็บอกซีวอนแล้วด้วย” เขาลุกขึ้นไปนั่งข้างๆคนตัวสูง

                “ก็ได้ ทำก็ทำ...แต่ว่านายควรไปอาบน้ำได้แล้ว..” เขาทำจมูกฟุดฟิดไปทั่วตัวของฮยอกแจ “ตัวนายกลิ่นเม็งคลุ้งไปทั่ว”

                ฮยอกจนยกแขนตัวเองขึ้นมาดมบ้าง “แหะๆ จริงด้วยฮะ” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็รีบวิ่งไปอาบน้ำทันที

     

               

                ร่างสูงในชุดนอนเดินเข้ามาภายในห้องนอนที่มีคนตัวเล็กหลับอยู่ก่อนแล้ว เขาเริ่มจะปรับตัวได้กับการใช้ชีวิตที่ต้องนอนร่วมเตียงกันแบบนี้ หลังจากที่โดนฮยอกแจลากให้มานอนบนเตียงด้วยกันให้จงได้ แต่เขาก็ยังคงใจสั่นทุกครั้งที่ลมหายใจอุ่นๆยังคงรินรดซอกคอทุกคืน

                ร่างสูงแทรกกายลงไปในผ้าห่มอุ่นนุ่ม แรงเคลื่อนของเตียงทำให้ฮยอกแจขยับตื่น

                “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอฮะ” เขางัวเงียถาม พลิกกายกอดร่างสูงแล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งราวกลับเห็นเป็นหมองข้างใบใหญ่

                ซีวอนตัวแข็งทื่อ ตกใจกับการกระทำที่ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทันของคนตัวเล็ก แม้จะคิดว่าซีวอนเป็นหมอนข้าง แต่เขาก็อดใจไม่ไหวที่จะคิดเกินเลยไปไกลกว่าหมอนใบใหญ่ที่กำลังถูกกอดก่าย

                ร่างสูงพยายามยกแขนเล็กนั้นออก มันเล็กจนเขากลัวว่าถ้าจับแรงไปกว่านี้มันจะแหลกคามือ ไม่เคยสังเกตว่ามือนี้มันเล็กได้ถึงขนาดนี้ ต่อให้ฮยอกแจจะผอมบางแต่ก็ยังเป็นผู้ชาย มันเล็กเกินกว่าเด็กผู้ชายบางคนเสียด้วยซ้ำ

                “อื้มมม...” ร่างเล็กขยับตัวตื่นอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองคนที่จ้องเขาอยู่ ก่อนจะรีบหลับตาทันที แม้จะหลับตาแล้วฮยอกแจก็ยังรับรู้ได้ถึงการจ้องมองคนซีวอนจนต้องลืมตาขึ้นอีกครั้ง “คือ...ถ้าซีวอนจ้องผมแบบนี้...ผมคงนอนต่อไม่ได้แล้วหละฮะ...แล้วก็...” คนตัวเล็กหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ “...ช...ช่วย...ปล่อยมือผมด้วยฮะ”

                “อ่ะ...ขอโทษ” ซีวอนรีบปล่อยมือเล็ก เขาเบี่ยงใบหน้าที่แดงไม่ต่างกับฮยอกแจไปทางอื่นก่อนจะค่อยๆล้มตัวนอนอีกครั้ง

                .....บ้าจริงๆเลย ฮยอกแจจะหาว่าผมเป็นไอ้โรคจิต หื่นกามที่กำลังจะลักหลับเขาหรือเปล่านะ.....

                “..คือว่า....”

                ซีวอนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ มองตามเจ้าของเสียงที่นอนหันหลังให้

                “คือ...เมื่อคราวก่อนที่ผมพูดแบบนั้น...จริงๆแล้ว....คือว่า...ไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ แต่เพราะว่าเป็นซีวอน....”

                ซีวอนนิ่งเงียบ ดวงตาคมยังคงมองไปยังแผ่นหลังบางที่ถูกปกคลุมด้วยผ้านวมผืนหนา

                “ผม...ผมดีใจมากที่วันนั้น...วันที่คุณเปิดกล่องของผม....พอรู้ว่าเป็นคุณ เพื่อนร่วมห้องที่ผมไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้เข้าใกล้ แต่ว่าเพราะว่าผมชอบคุณ....ผมจึง...เอ่อ...คือ...นี่ผมพูดอะไรดูงงนะฮะ.. แต่ถ้าซีวอนไม่พอใจ ผมออกไปจากที่นี่ก็ได้ฮะ” คนตัวเล็กทำท่าจะลุกจากเตียงนอนนุ่มเมื่อเขาเห็นใบหน้าอันนิ่งเฉยไม่รับรู้อะไร แต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ก่อน

                ซีวอนลุกขึ้นนั่ง เขาส่งยิ้มมาให้เช่นเคย “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้ไม่พอใจอะไร...นายพูดแบบนี้หมายถึง...นายยอมให้ฉันมีอะไรกับนายได้....”

                “......”

                “...แม้ว่าฉันจะไม่รู้สึกอะไรกับนายก็ยอมอย่างนั้นเหรอ”

                ดวงตาเรียวหลุบต่ำ เขาไม่สามารถตอบอะไรได้ ต่อให้ซีวอนไม่รู้สึกอะไรเขาก็คงจะเจ็บปวด แต่ไม่คิดว่าจะมาพูดให้เขาต้องได้ยินแบบนี้ ในวันนี้ และตอนนี้ “....คือ...ผม ก็คงยอม...” น้ำตาเอ๋ย อย่าได้ไหลลงมาเลย เพราะนี่คือสิ่งที่เขาคิดมาโดยตลอด เพื่อที่จะได้อยู่กับซีวอน ได้ใกล้ชิด ลึกซึ้ง ดั่งที่ใจเคยปรารถนา ถ้าคนตรงหน้าไม่รังเกียจเขา เขาก็พร้อมมอบกายนี้ให้

                มือหนาสัมผัสแก้มเนียนใส ดวงตาคมจับจ้องเนื้อนวลเนียนละเอียดตรงหน้า ริมฝีปากอุ่นนุ่มบรรจงจูบเบาๆลากไล้ไปตามซอกคอขาวก่อนจะหยุดที่ใบหูของฮยอกแจ

                “ฉันก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ทุกครั้งที่ฉันอยู่ใกล้นาย ฉันก็รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นายทำให้ฉัน...อยากจะมีรูมเมทสักคน....และคนๆนั้นก็คงเป็นนาย” เขากระซิบเสียงแหบพร่า “นายมักจะยั่วฉันโดยที่นายไม่รู้ตัวเสมอ และมันทำให้ฉันอยากกอดนาย...ดังนั้น นายต้องรับผิดชอบ”

                “เอ๊ะ?...” เขาหันไปมองใบหน้าคมเจ้าของคำพูดที่ทำให้เขาสับสน แต่กลับโดนจู่โจมด้วยรสจูบอันวาบหวาม “อื้มมม...”

                เขาพยายามคิดประติดประต่อคำพูดของร่างสูง ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปก็คงจะเข้าใจว่าซีวอนก็คงสนใจในตัวเขาเช่นกัน แต่ทว่ากระกระทำของร่างสูงทำให้สมองของเขาขาวโพลน

                มือหนาจับบริเวณท้ายทอยของคนตัวเล็กเพื่อไม่ให้ขยับหนีไปไหน

                ลิ้นร้อนกวาดชิมรสจูบไปทั่วปากบาง ฮยอกแจเผยอริมฝีปากต้อนรับอย่างไร้เดียงสา แม้จะไม่ใช่จูบแรกของฮยอกแจกับซีวอน แต่มันเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองตั้งใจและเต็มใจ

                มืออีกข้างของเขาสอดไปใต้เสื้อตัวบางลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง คนตัวเล็กรับรู้ได้ถึงความร้อนไปทั่วเรือนร่างทั้งของตนเองและอีกฝ่าย

                มือเล็กค่อยๆโอบรอบคอของอีกฝ่าย “อื้มมมม...” เขาครางเสียงหวานอีกครั้ง พอใจในรสจูบที่ได้รับ

                ซีวอนถอนจูบออกมาก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนต้นคอ พลางปลดกระดุมชุดนอนออก

                “อ๊ะ...”

                ปลายนิ้วแฉลบผ่านสิ่งที่ยื่นนูนออกมาจากหน้าอก ทำให้มีเสียงครางดังลอดมาจากปากบาง ลิ้นร้อนหยอกเย้ายอดอกของคนตัวเล็กที่กำลังแอ่นรับโดยไม่ตั้งใจ เขาค่อยๆดันให้นอนราบกับเตียงนุ่ม มืออีกข้างไล้ต่ำลงไปกอบกุมส่วนไวสัมผัส

                “อะ...อยะ...”

                ร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัว กลัวกับสิ่งที่ซีวอนกำลังกระทำกับเขา...

                “กลัวเหรอ” ซีวอนถามเมื่อรู้สึกถึงความสั่นเทา ฮยอกแจพยักหน้าเบาๆแทนการตอบ ริมฝีปากสวยยกยิ้ม ก่อนจะจูบเบาๆบริเวณไรผมที่เริ่มมีเม็ดเหงื่อประปราย มือปัดปอยผมออกให้พ้นหน้าผากมนก่อนจะลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อให้คนตัวเล็ก

                ดวงตาเรียวมองตามการกระทำของซีวอน รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่ได้รับ

                “...ฉันขอโทษ...นอนเถอะ” พูดเพียงแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

                ไม่ต้องถามก็พอจะรู้ว่าซีวอนกำลังทำอะไร เมื่อเสียงเกมที่ซีวอนเล่นประจำนั้นแว่วเข้ามาภายในห้องนอน....


    ++++++++++++++

     

                ซีวอนและฮยอกแจวิ่งเข้าห้องมาจนเกือบไม่ทันออดเข้าเรียน มันคงเป็นเรื่องปกติของซีวอน แต่มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับอดีตหัวหน้าห้องอย่างฮยอกแจ

                “ทำไมมาสาย” ทงเฮที่กลายเป็นหัวหน้าห้องแทนในปีนี้กระซิบถามเพื่อน

                “...ก็ ซีวอนไม่ยอมตื่น” เขาหันไปบอกยิ้มๆ

                ทงเฮพยักหน้ารับรู้ ฮยอกแจบอกเรื่องของซีวอนให้คนตัวเล็กรู้แม้ทงเฮจะแย้งและโกรธเพื่อนคนนี้ที่ไม่ยอมนึกถึงเขา ทั้งๆที่ไปอยู่กับทงเฮพ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว แม้จะสนิทและไปที่บ้านบ่อยแค่ไหนฮยอกแจก็ยังเกรงใจพ่อแม่ของทงเฮอยู่ดี

                “เฮ้ย ทำไมวันนี้ฮยอกแจมาพร้อมแกได้วะ” คิบอมถามเพื่อนที่ยังเหนื่อยหอบ

                “....เอ่อ..เจอกันหน้าโรงเรียน” เขาตอบโดยที่ยังไม่ทันไปมอง

                คิบอมมองเพื่อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ เขากำลังจะเปิดปากถามเพื่อนที่ทำตัวมีพิรุธแต่ดูเหมือนอาจารย์ประจำชั้นจะมาขัดจังหวะเสียก่อนจะ

                “อ้าว...แล้วคยูฮยอนไม่มาเรียนเหรอ” เขากระซิบถามให้เบาที่สุดไม่ให้อาจารย์ได้ยิน

                “ไม่รู้..วันนี้มันคงไม่มาแล้ว ปกติถ้ามาสายขนาดนายมันก็โดดเลยทุกที”

               

                .

                .

     

                แสงแดดที่สาดส่องมาบนเตียงทำให้ชายหนุ่มต้องปิดตาลงอีกครั้งทันที มือเรียวเอื้อมหยิบนาฬิกาปลุกเรือนจิ๋วบนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะรีบก้าวลงจากเตียงแล้วคว้าชุดนักเรียนมาใส่อย่างรีบเร่ง

                “เมื่อคืนฉันอุตส่าห์มานอนกับนายนะ แล้วจะไปไหน” เสียงเล็กดังขึ้นมาจากเตียงนอนอีกฝั่งเมื่อเห็นคนตัวสูงใส่กำลังใส่ชุดนักเรียน

                “ไปเรียนไง ผมมีเรียนวันนี้”

                “ไม่เอานะคยูฮยอน วันนี้ไปเที่ยวกันเถอะนะ...นะครับ นี่ก็สายแล้ว คงเริ่มคาบแรกแล้วด้วย” คนตัวเล็กบนเตียงลุกขึ้นมาทำเสียงออดอ้อน เขาหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวที่เปลือยเปล่า

                คยูฮยอนถอนหายใจ เขาหันไปมองคนเอาแต่ใจ “ก็ได้ แต่วันนี้ซองมินห้ามงอแงนะครับ”

                “ครับ” คนตัวเล็กกว่ากางแขนโอบเอวคนรักของตน

                “เอ่อ..ซองมิน แล้ว เด็กที่โรงเรียนผมที่ซองมินเคยพูดถึง...น้องชายของซองมิน...ฮยอกแจนั่น...”

                “ครับ ฮยอกแจทำไมเหรอ” คนตัวเล็กส่งยิ้มหวานให้

                “ผมแค่สงสัย..ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”

                “เป็นยังไงบ้าง??” เขาทวนคำถามของคยูฮยอน

                “ก็...เห็นว่าหนีออกจากบ้าน”

                “ก็เขาคงเครียดมาเกินไป พ่อของฉันกับแม่เขาตั้งความหวังเอาไว้สูง เขาคงไม่กลับมาอีกสักพักใหญ่ๆ หรืออาจจะไม่กลับมาแล้ว” ซองมินทำหน้าตาเห็นใจน้องชายของตัวเอง

                “ไม่กลับ...แล้วเหรอ” เขาขมวดคิ้วสงสัย ก็เมื่อวาน ฮยอกแจยังบอกกับอาจารย์อยู่เลยว่ากลับถึงบ้านแล้ว มันยังไงกันแน่ “ซองมิน วันนี้ผมคงไปด้วยไม่ได้แล้ว เอาไว้เย็นนี้เราเจอกันใหม่นะ”

                “เดี๋ยว คยูฮยอน จะไปไหน...”

                มีเพียงเสียงปิดประตูเท่านั้นที่ตอบแทนคยูฮยอนว่าเขานั้นได้ออกจากห้องไปก่อนแล้ว ซองมินแสดงสีหน้าไม่พอใจทันที

                .....ฮยอกแจ ทำไมต้องฮยอกแจ พูดถึงเด็กคนนั้นทำไม.....

                ดวงตาที่กำลังฉายแววริษยาในตัวคนที่เขากำลังนึกถึง น้องชายที่เขาถูกพ่อยัดเยียดมาให้ตั้งแต่อายุเจ็ดปี น้องชายต่างแม่ที่เขารู้ว่ามีเด็กคนนี้อยู่ในโลกในวันที่แม่ของเขาเสีย

                ความสูญเสียที่ไม่อาจรับได้ มาพร้อมกับการมีอยู่ของบุคคลที่ไม่เคยอยากยอมรับ เขาไม่เคยต้องการน้องชายคนนี้เลย....แม้แต่วันเดียว

     

     

    ................................................TBC..........................



    ในที่สุด!!!!!!! ก็เอามาลงได้สักทีค่ะ
    ขอโทษด้วยที่ดองเอาไว้นานมวากกกกกกกกก (ปีนึงพอดีเด๊ะ!!!)

    เนื่องจากวัยทำงานแล้ว พอได้หยุดก็เลยอืดไม่ยอมทำอะไร
    แล้วก็คิดว่า ไม่ได้ๆ ต้องลงๆ ต่อให้มีผู้อ่าน(และผู้เม้นท์) น้อยก็เถอะ

    พอเห็นแค่คอมเม้นท์จาก "ว่าด้วยเรื่องฟิค(อันล่าช้า)" แค่สองคอมเม้นท์
    ก้คิดว่า ไม่ได้ มีคนเดียวที่จะอ่านเราก็ต้องลง ฮ่าๆๆๆๆๆ


    ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ

    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ ไม่ดองนานขนาดนี้แล้วหล่ะ แฮ่ๆ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×