ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLACKMA!L★วางแผนร้ายให้กลายเป็นรัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : ★BlackMail ฉบับที่ 4 : Plan Step Four T^T [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 54




    BlackMail

              Chapter  IV  :  Plan Step Four ^_____^

     

     

                    ปิงนิ่งไปเกือบสิบวินาที ก่อนที่มันหันมามองหน้าผมโดยที่ผมไม่ทราบความหมาย อย่าบอกนะว่ามึงรู้ว่ากูทำ!T^T ผมรีบหลบสายตามันในทันทีก่อนจะแกล้งนั่งยองๆกับพื้นดูสภาพล้อรถที่ผมเอามีดพับที่พกไว้ใต้เบาะรถของตัวเองเจาะเป็นรูเบ้อเริ่ม ส่วนสีสเปรย์ไม่ต้องถามถึงนะครับว่าเอามาจากไหน เพราะคณะผมมันก็ต้องใช้อยู่แล้วก็เลยจำเป็นต้องมีพกติดรถไว้เหมือนกัน ตอนนี้เหล่าไทยมุงก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถโดยไม่มีท่าทีว่าจะผละไปไหนกันเลย รีบๆไปกันซะทีเห๊อะ! >[]<

     

                    ผมหันไปมองปิงอีกครั้ง ปรากฏว่าเห็นมันเดินห่างออกไปและกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเครียดๆ มันเหมือนจะสบถอะไรบางอย่างใส่โทรศัพท์แล้วเดินกลับมายืนข้างผมที่กำลังเนียนก้มๆเงยๆดูล้อรถมัน

     

    ครั้งนี้เล่นกันแรงแฮะ

     

                     มันบ่นเบาๆก่อนจะยิ้มแหยๆอยู่หน้ากระโปรงรถของตัวเองที่ถูกพ่นซะเละ ใบหน้าแสดงความเซ็งอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่ได้โมโหตีโพยตีพายอะไรอย่างที่ผมแอบหวังจะได้เห็น เล่นเอาผมรู้สึกผิดหวังเล็กๆแฮะ -..-

     

    คิดว่าใครทำอ่ะ ผมเดินไปยืนข้างๆมันพลางถามเลียบเคียงดูเผื่อมันสงสัยผม ผมจะได้ชิ่งทัน -0-

     

    ไม่อริก็คงจะแฟนเก่า

     

                    มันเอามือลูบคางในท่าคุ่นคิดเหมือนนักสืบเด็กแว่นที่ไปที่ไหนก็มีแต่คนตายฉายทางช่องเก้าวันเสาร์-อาทิตย์ที่น้องอัยชอบลากผมให้นั่งดูเป็นเพื่อน -0- 

     

                    ผมพยักหน้าเบาๆกับคำตอบ ดีนะไม่สงสัยกู- -* แต่ไอ้ที่คิดว่าอริทำนี่ยังพอทน แต่ถ้าคิดว่าแฟนเก่าทำนี่ กูอยากรู้จริงๆว่าแฟนเก่ามึงเป็นคนแบบไหนกันวะ? ผู้หญิงที่ไหนเค้าจะแค้นถึงขั้นเอาสีมาพ่นรถผู้ชาย แฟนเก่ามึงเรียนวิจิตรศิลป์หรือไง- -* กูว่ามึงคิดมากไปและปิง ไอ้คนทำมันไม่ได้ไปไหนไกลเลย ยืนอยู่ข้างๆมึงนี่เอง -0-

     

    ปิงมีเรียนต่อเปล่า

     

    อื้ม เห็นท่าจะต้องเดินไปซะแล้ว

     

                    แล้วมันก็ดราม่าทำท่าจะเดินไปจริงๆ จนผมต้องเรียกไว้ มันหันมามองผมแล้วเลิกคิ้วทำหน้างงๆ ด้วยความรู้สึกผิด แต่ความจริงผมคิดว่าผมไม่ผิดนะ! มันแย่งที่จอดรถผมก่อนนี่ ผมก็ต้องเอาคืนบ้าง -0- แต่แค่เอาคืนแรงไปหน่อยเท่านั้นเอง ยังไง๊ยังไงผมก็ไม่ผิดอยู่ดี ก็ผมบอกแล้วไงครับว่า ใครจะผิดก็ช่างแต่คนอย่างเนติไม่มีทางผิด! >..<

     

                    หลายคนอาจจะสงสัย ไอ้เนติที่พูดไปเมื่อกี๊มันเป็นใครแล้วมาเกี่ยวอะไรกับผม? คือผมจะบอกว่านั่นมันชื่อจริงของผมครับ -..-  นายเนติ ส่วนพี่ชายอีกสองคนของผมชื่อ นิติ กับรัฐศาสตร์ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเราสามคนไม่มีใครเรียนตามชื่อที่ป๋ากับแม่อุตส่าห์ตั้งมาให้เลยสักคน =..=

     

                    แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นอีกเช่นกันครับ ด้วยความรู้สึกผิดนิดๆของผม ทำให้ผมยื้อไอ้ปิงที่กำลังเล่นบทดราม่าทำท่าจะเดินไปเรียนไว้ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะเอาประโยคนี้มาพูดกับผู้ชาย!

     

    เออเดี๋ยวไปส่ง!

    .

    .

    .

     

                    ผมเดินนำไอ้ปิงที่เดินตามผมต้อยๆด้วยสภาพเหมือนลูกหมาหงอยที่ถูกทิ้งมายังรถของตัวเอง ซึ่งจอดห่างจากรถของมันไปไม่มากนัก แต่ผมที่เดินมาถึงรถก่อนก็ถึงกับต้องตกใจในสภาพรถของตัวเองไม่แพ้กับตอนที่ไอ้ปิงตกใจกับสภาพรถของมันตะกี๊เลย รถของผมที่จอดไว้ตรงที่ห้ามจอดขาวแดงเมื่อเช้า มีสภาพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ต่างจากสภาพรถของปิงตอนนี้ เมื่อรถของผมมันถูก….

    .

    .

    .
    .
    .

    .

    .

    .

    .

    ………..ถูกล็อคล้อทั้งสี่ล้อเลย!  T_______________________________T

     


    Now   Loading………70%   ^[]^



                     ผมที่แทบเต้นเป็นเจ้าเข้ากับสภาพรถสุดที่รักของตัวเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่ายืนมองก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัวแบบมึนๆ จะล็อคทำไมตั้งสี่ล้อวะครับ! แค่ล้อเดียวมันก็ไปไหนไม่ได้แล้ว แล้วจะล็อคทำบ้าอะไรตั้งสี่ล้อครับเนี่ยย ย ย T..T 

     

    อิท 

     

                    ผมได้ยินเสียงไอ้ปิงเรียกชื่อของผมเบาๆ T..T ปิ๊ง ง งง ง ง  ปิงเว้ย ย ย ย ปลอบกูที กูจะร้องไห้แล้ว ใครหน้าไหนวะบังอาจมาล็อคล้อรถสุดที่รักของกู แง๊  T____________T                                               

     

     

                    ผมเองก็นิ่งไปเลยเหมือนกันกับสภาพรถ รู้สึกตัวอีกทีก็มีฝ่ามือขาวๆของใครบางคนมาโบกผ่านหน้าไปมาพร้อมด้วยเสียงเรียกชื่อผมถี่ๆหลายครั้ง ไม่ช้าไม่นานใบหน้าหล่อๆกับเหล็กดัดฟันยางสีน้ำเงินก็อยู่ห่างจากใบหน้าผมไปไม่เท่าไร>///< ผมจำได้ว่าตัวเองร้องว่า เฮ้ย! ด้วยความตกใจก่อนจะถอยหลังไปติดรถ

     

    แม่ง~ จะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ทำไมเนี่ย >//< รีบเอาหน้าหล่อๆของมึงไปไกลๆก่อนที่กูจะพาลอยากต่อยมันขึ้นมา

     

    โทษทีๆ ตกใจหรอ ก็เห็นอิทนิ่งไป เป็นไรรึเปล่าอิท

     

    เปล่าๆ T..T

     

                    ไอ้หล่อนั่นมันพูดยิ้มๆเหมือนปรกติธรรมดาที่มันเคยเป็น ก่อนมันจะก้มดูนาฬิกาข้อมือที่ผมพึ่งเห็นว่ามันเป็นลายเป็ดยางสีเหลืองน่ารักซึ่งไม่เหมาะกับมันยิ่งนัก =..= อารมณ์ของมันตอนนี้ช่างแตกต่างกับผมซึ่งมองดูล้อรถตัวเองอย่างอาลัยอาวรณ์ T_______T  น้องแจ๊สลูกพ่อ~

     

                     ถึงตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้ปิงมันเป็นตัวอะไรกันแน่ รถผมแค่ถูกล็อคล้อผมก็แทบเข่าอ่อนลงไปนั่งกอดยางรถอยู่แล้ว แต่ไอ้บ้านี่มันโดนหนักกว่าผมไม่รู้กี่เท่า ทั้งเจาะยางสี่ล้อ ทั้งโดนพ่นสีสเปรย์ มันก็ยังทำหน้าแค่มึนๆ เซ็งๆไปตามเรื่อง มึงมันจะใจเย็นใจไปมั้ยวะ??? =..=

     

     อิทเรียนอะไรต่อ ไปกันเถอะ เดี๋ยวเราเดินไปส่ง

     

                    ไอ้หล่อมันก้มลงเอาเศษไม้เคาะโซ่เหล็กที่ล้อรถผมเล่นก่อนจะหันมาทำหน้าปรกติพร้อมจะตั้งใจเรียน ช่างต่างกับผมที่ตอนนี้แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว T..T

     

    ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!  ไม่ไปไหนทั้งนั้นอ่ะ!! จะนั่งเฝ้าจนกว่าเค้าจะมาถอดโซ่นี่ออก

     

                    แล้วผมก็ทำเหมือนอย่างที่ตัวเองพูด นั่นคือนั่งตุบลงไปกับพื้นที่มันมีทั้งหินทั้งดินตรงนั้นเลย อย่าเข้ามานะเว้ย กูจะดราม่า จะดราม่าจนกว่ารถกูจะเป็นอิสระ =0=

     

                    ผมเห็นมันอ้าปากค้าง ตอนแรกคงคิดหล่ะสิว่ากูคงไม่กล้านั่งลงไปจริงๆ ผิดแล้วเว้ย กูกล้าทั้งนั้นแหละ มันมองล่อกแลกไปรอบตัวก่อนจะหันมายิ้มแหยๆให้ผม

     

    อ่าโอเคๆ อิทลุกขึ้นก่อนดีมั้ย^^”

     

                    มันยิ้มๆก่อนจะยื่นมือมาให้ผมฉุดตัวลุกขึ้น หลายคนมองมาที่เราอย่างสงสัย คงคิดกันประมาณว่า เฮ้ย..แกๆดูนั่น ไอ้บ้านั่นมันนั่งลงไปทำไมอ่ะ?’ แต่จะบอกว่าผมหาแคร์ไม่  ชีวิตนี้มันจะมีอะไรน่าอายเท่าโดนตบกลางโรงอาหารคณะมนุษย์ฯอีกวะ!! T..T

     

                    หลังจากไอ้ปิงมันบังคับให้ผมลุกขึ้นมายืน(บังคับตอนไหนวะ?) มันก็ควักโทรศัพท์ออกมาแล้วเดินไปโทรที่ห่างออกไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับมาหาผมด้วยรอยยิ้มยิ้มทำไม หน้ากูเหมือนโหน่งชะชะช่าหรอ? =..=

     

    เอาอย่างนี้มั้ยอิท เดี๋ยวเราจะรอเค้ามาเปลี่ยนยางรถพอดี เดี๋ยวเราเฝ้าให้ อิทไปเรียนเถอะ^^

     

                    มันเดินเข้ามาบอกผมแค่นั้นแล้วเดินๆไปที่รถของตัวเอง เหล่าไทยมุงเมื่อครู่เริ่มซาลงแล้ว หรือก็แต่เพียงผู้มาใหม่ที่หลายคนดูจะสนุกกับการถ่ายรูปกับฝากระโปรงรถของปิง สวยใช่ไหมหล่ะ ผลงานชิ้นเอกผมบรรจงพ่นเลยเชียวนะ! =..=

     

                    ไม่ใช่เวลามาภูมิใจกับเรื่องเลวๆที่ตัวเองทำสินะ ยิ่งไอ้ปิงมันมาทำดีกับผม ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำขึ้นมาอีกนิดหน่อยต่อจากที่รู้สึกผิดไปก่อนหน้านี้=..= ก็แค่อีกนิดหน่อย ผมบอกแล้วไง ใครจะผิดก็ช่าง แต่คนอย่างไอ้อิทไม่เคยผิด!

    .

    .

    .

     

                    แล้วผมก็เหลือบไปเห็นสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ที่ล้อรถด้านหลังขวา อ่านได้ใจความประมาณว่า ถูกล็อคล้อติดต่อที่ ผมไม่รอช้ารีบล้วงโทรศัพท์ออกมากดเบอร์ที่อยู่ในกระดาษทันที รอสายไม่นานปลายสายก็รับ เป็นเสียงน่ารักๆของพนักงานรับโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่าเสียงกับตัวจริงจะขัดแย้งกันหรือเปล่า - -*

     

    เอ่อ สวัสดีครับ คือรถผมถูกล็อคล้ออยู่ลานจอดรถคณะมนุษย์ฯตึกHBอ่าครับ ไม่ทราบผมต้องทำยังไงบ้าง

     

    ค่ะ ตึกHBนะคะ เดี๋ยวจะโอนสายให้คุยกับผู้รับผิดชอบโดยตรงนะคะ กรุณาถือสายรอค่ะ

     

                    ผมที่ได้แต่ตอบคำว่าครับอย่างใจเย็นแล้วรอปลายสายอีกด้านอย่างใจจดใจจ่อ 

     

    อาโหล

     

                    แล้วไม่นานปลายสายก็รับ เสียงที่ฟังก็รู้ว่าเป็นชาวไทยภูเขาแน่ๆ เพียงแต่เป็นแม้ว ม้ง หรืออาข่าเท่านั้นเอง =..=

     

    ครับ คือ ลุงรึเปล่าครับที่ล็อคล้อรถคันสีขาวที่จอดอยู่ตรงตึกHB

     

                    ผมถามเสียงนุ่มโดยเตือนตัวเองว่าไม่ให้เผลอใส่อารมณ์กับคนที่ล็อคล้อรถผมทั้งสี่ล้อ! ล็อคทำบ้าอะไรมากมายเนี่ย!

     

    ฮาเองหล่ะ มีปัญหาก่อ? ”

     

                    น้ำเสียงแสดงถึงความเป็นต่อของปลายสายถามผมกลับมาอย่างหาเรื่อง อ้าวถามดีๆนะครับ *หมายเหตุ  ฮาเองหล่ะ มีปัญหาก่อ? แปลได้ประมานว่า ลุงเองแหละ มีปัญหามั้ย? ” =..=

     

    ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพียงแต่ผมอยากจะถามลุงว่า จะถอดที่ล็อคล้อตอนไหนครับ ตอนนี้เลยได้ไหม พอดีผมรีบไปเรียน

                    ผมที่ปรกติไม่ยอมคน จำใจต้องพูดอย่างอ่อนน้อมที่สุดเพื่อรถสุดที่รักของตัวเองT..T น้องแจ๊สลูกพ่อ รอพ่อแปปนะ พ่อจะช่วยลูกเดี๋ยวนี้แหละ T__________T

     

    โอ้ย ม่ายล่ายหร่อก กฎขาวมีไหวว่าต้องถอดวันพู่เน้ ไว้มาเอาโระวันพู่เน้ละกานน่อ

     

                    แล้วพี่แกก็กดวางสายไปทันที ลุงที่คาดว่าน่าจะเป็นยาม คงไม่มีใครมาให้แกล็อคล้อนานแล้ว ไหนๆก็จะได้ล็อคทั้งที ลุงแกเลยล็อครถผมครบทุกล้อเลย ดีนะไม่ล็อคยางสำรองด้วย! -0- ผมก็ได้แต่อึ้งสิครับงานนี้ พรุ่งนี้เลยหรอวะ? จะล็อคลูกสาวกูไปถึงพรุ่งนี้เลยหรอ T_______T ทำใจไม่ได้โว้ย….

     

    *หมายเหตุ ประโยคบนแปลว่า โอ้ยไม่ได้หรอก กฎเค้ามีไว้ว่าต้องถอดวันพรุ่งนี้  ไว้มาเอารถพรุ่งนี้ละกัน =..=

     

                    ผมหันไปมองหาปิง ปรากฏว่าเห็นเจ้าตัวกำลังคุยโทรศัพท์สีหน้าเครียดอยู่ข้างๆรถของมันเอง หน้ามันตอนนี้โคตรจะบอกบุญไม่รับ ใครเข้าไปตอนนี้คงจะโดนเหวี่ยงใส่แน่นอน ผมมองดูมันโทรศัพท์จนเสร็จ เห็นมันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินไปก้มๆเงยๆอยู่ที่กระโปรงรถของตัวเอง หาลายนิ้วมือหรือเปล่าวะ! O.o

     

                    ปิงเดินเข้าไปเปิดรถก่อนจะลื้อค้นอะไรสักอย่างที่อยู่ในนั้น ไม่นานเท่าใดนักมันก็ผละออกมาพร้อมกล่องสีเทาเล็กๆที่ตอนแรกผมก็มองไม่ออกว่าเป็นอะไร รู้ว่าคืออะไรก็ตอนที่ไอ้หล่อนั่นมันนั่งลงตรงฟุตบาทหน้ากระโปรงรถของมัน แล้วจุดไอ้แท่งยาวๆสีขาวที่มีก้นกรองสีเดียวกับตัวแท่งขึ้นจรดริมฝีปาก มันพ่นควันสีขาวขุ่นขึ้นไปบนอากาศอย่างอ้อยอิ่งพลางถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง 

     

                    ผมเดินลงไปนั่งแหมะข้างๆมัน ชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าเรื่องอะไรทำให้ไอ้บ้ายิ้มง่ายคนนี้หน้าเครียดขนาดนั้น? มันหันมามองผมก่อนจะอมยิ้มนิดๆ  ยิ้มเพื่อ? - -* มันยื่นซิปโป้กับกล่องสีขาวๆที่มันเอาวางไว้ข้างตัวเมื่อครู่มาให้ผม

    .

    .

    .

    .

     

                     แต่ที่ผมเอื้อมมือไปรับกลับเป็นบุหรี่ที่ริมฝีปากบางราวกับผู้หญิงของไอ้ปิงคาบอยู่ ผมคีบไว้ในมือสักครู่ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปากของตัวเอง อัดควันสีขาวลึกเข้าไปในปอด อืมบุหรี่กลิ่นเมนทอล หอมดีแฮะ เจ้าของบุหรี่มองผมด้วยสายตาที่ผมเองก็อ่านไม่ออก สิ่งเดียวที่บอกผมว่ามันกำลังอารมณ์ดีขึ้นแล้วก็คือ รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากบางๆนั่น อารมณ์ดีแล้วใช่มั้ยหล่ะมึงอ่ะ…. - -*

    .

    .

    .              

     

                    แล้วผมก็ทิ้งบุหรี่ที่หมดไปไม่ถึงหนึ่งส่วนสี่ตัวนั้นลงกับพื้นก่อนจะใช้รองเท้าผ้าใบFila ที่ตัวเองสวมอยู่ขยี้จนไม่เหลือซาก ผมได้ยินเสียงไอ้ปิงร้องว่าเฮ้ย! ดังมากก่อนที่มันจะหันมาบ่นอุบอิบอย่างเสียดายของกับผม

     

    Davidoff menthol แพงนะอิท T..T

     

                    เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าเหยเกของมัน มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนบ่นอะไรอุบอิบอยู่สักพักเท่าที่จับใจความได้ก็มีแต่คำว่า เสียดายอ่ะ เท่านั้น

     

                    ผมขำน้อยๆกับไอ้คนข้างๆที่ใช้เศษไม้แถวนั้นเขี่ยบุหรี่ไฮโซราคาแพงของมันที่พึ่งแบนติดเท้าผมไปเมื่อกี๊ อดที่จะคิดไม่ได้ว่า มึงมันเป็นคนยังไงกันแน่วะปิง? บุหรี่ตัวเดียวมึงเสียดายแทบเป็นแทบตาย แต่รถถูกกระทำชำเราทั้งคันมึงกับมีแค่อาการเซ็งๆให้เห็นเท่านั้น

     

    อิทซื้อคืนเราเลย

     

                    มันยังคนบ่นง๊องแง๊งเป็นแมวหิวอยู่ข้างๆผม แล้วมันก็รีบเก็บบุหรี่กับซิปโป้ที่วางไว้กับพื้นเมื่อตะกี๊เข้ากระเป๋ากางเกง มันคงจะกลัวผมเผาบุหรี่มันเล่นแหงๆ =..=

     

    เงินปิงนิ่ ไม่ใช่เงินเรา เราจะเสียดายทำไม

     

    ใช่ครับ เงินมันนี่มันใช่เงินผม ผมจะเสียดายทำไม…. แล้วผมกับปิงก็นั่งหัวเราะกันอยู่แถวนั้นอย่างไม่มีที่ไป! =O=

     



    beyo ng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×