ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : + + Chapter 4 + + [Fixed : แก้คำผิด]
RRRRRRR
RRRRRRRRRR
เสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ข้างๆ ตัวทำให้ยูริต้องเอื้อมไปควานหาอย่างงัวเงีย ดวงตาของเธอยังคงปิดสนิท เมื่อหาพบ เธอจึงหยิบมันมาและกดดูทันที
1 ข้อความใหม่
จาก: XXX
10/09/22 06.30
[แสดง] [ออก]
ยูริค่อยๆ ลุกขึ้นมาพร้อมกับเอามือขยี้ตาของตัวเองอย่างงัวเงีย และกดดูข้อความในโทรศัพท์ของเธอ ซึ่งมันก็เหมือนเช่นกับงานในทุกๆ ครั้ง ซึ่งเธอจะต้องอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมสำหรับการออกไปรับรายละเอียดของงานนั่นเอง
ยูริค่อยๆ ลุกออกจากเตียงและตรงไปอาบน้ำอย่างเคย ต่างกันแค่วันนี้เธอไม่ต้องเปิดร้านก็เท่านั้น
ไม่นานนักเธอก็อาบน้ำเสร็จ ยูริที่เดินออกมาในชุดคลุมอาบน้ำหยุดอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของเธอ ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดมันออกและเลือกหยิบชุดสบายๆ ออกมาใส่ และเตรียมพร้อมสำหรับงานในวันนี้
รถสปอร์ตคันงามของยูริยังคงขับเรียบมาตามถนนสายหลักเรื่อยๆ และมาติดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก่อนที่เธอจะเลี้ยวซ้ายเมื่อไฟเขียวและตรงมาเรื่อยๆ การสัญจรที่เบาบางทำให้สามารถขับรถได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องรีบเร่งอะไร ก่อนที่เธอจะเลี้ยวเข้ามาในจุดจอดรถ บริเวณทางลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินสาย 4
เธอเปิดประตูลงจากรถมาและตรงไปยังบันไดเลื่อน ก่อนที่เธอจะเลี้ยวมาตามทางและหยุดอยู่ที่หน้าตู้ล๊อคเกอร์ของเธอและหยิบกุญแจขึ้นมาเปิดมันออก
ซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางเอาไว้ด้านในเหมือนกับทุกครั้ง ยูริล้วงเข้าไปหยิบมันออกมาและเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย ก่อนที่จะหันกลับมาปิดตู้เอาไว้อย่างเดิม
เธอเดินกลับขึ้นมายังด้านบน ก่อนที่จะกดปลดล๊อครถและกลับขึ้นมานั่งด้านใน ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องและขับกลับบ้านไป
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เธอจึงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนชั้นสองของเธอ และเปิดประตูเข้าไปยังด้านใน ปลายเท้าที่ใช้เกี่ยวกับขอบประตูเพื่อดันมันปิดไปเบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินมายังเตียงนอนด้านใน
เธอหยิบเอาซองเอกสารสีน้ำตาลออกมา ทันทีที่แกะออก ยูริก็ต้องรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ และเป็นงานที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เธอมองดูเอกสารแจกแจงรายละเอียดนั้นอีกครั้ง
เจคอร์ป สก็อต เคนเนดี้ ผู้ว่าการรัฐฟลอริด้า
อายุ : 49 เกิดเมื่อวันที่ 05/08/1961
กรุ๊ปเลือด : AB สถาณภาพ : แต่งงานแล้ว
สถานที่ทำงาน : ทำเนียบขาว วอชิงตัน ดี.ซี.
Tag : จะมีงานประชุมที่ XXX ในวันที่ 24 เวลา 10.00 น.
ยูริอ่านรายละเอียดของงานดังกล่าว ก่อนที่จะหยิบเอารูปของเป้าหมายในครั้งนี้ขึ้นมาดู และก็เหมือนกับทุกที เธอพลิกไปยังด้านหลังของรูปถ่าย ซึ่งจะมีรายละเอียดอ่างลับๆ เขียนเอาไว้
เจค เอส. เคนเนดี้
- คอรัปชั่น
- ค้ายาเสพติด
- ค้าทาส
- Etc.
ยูริอ่านข้อความดังกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างเหยียดๆ
หลังจากที่เธอได้เก็บเอกสารดังกล่าวแล้ว เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาจากที่พักอีกครั้งโดยที่กล้องถ่ายรูป และโน๊ตบุ๊คของเธอติดตัวมาด้วย ก่อนที่เธอจะสตาร์ทรถและมุ่งหน้าไปยังสถานที่ๆ เธอจะต้องทำงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตรวจเช็คสถานที่เตรียมความพร้อม เพราะเหลืออีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ที่เธอจะต้องลงมือแล้ว
เธอขับรถมาตามเส้นทางเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงยังอาคารที่จะใช้ในการประชุม ซึ่งมันเป็นอาคารสูง 2 ชั้น มีการจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานในวันจริง ซึ่งยูริก็พยายามเก็บรายละเอียดต่างๆ โดยการขับรถวนรอบๆ ตัวอาคารนั้น ก่อนที่จะวนมาหาที่จอดยังฝั่งตรงข้ามทางด้านหลังของอาคาร
ยูริเปิดประตูลงมาจากรถพร้อมกับถือกล้องออกมาด้วย เธอเดินทอดน่องไปตามฟุตบาท พลางใช้กล้องแสร้งทำเป็นถ่ายวิวเป็นระยะๆ ซึ่งก็เหมือนกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่มาถ่ายรูปกันบริเวณสวนทางด้านข้าง หลังจากที่ใช้เวลาไปประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงในการถ่ายภาพ เธอจึงเดินกลับมายังรถพร้อมกับหยิบโน๊ตบุ๊ตของตัวเองออกมาและเปิดมันออก ระหว่างที่รอการรันโปรแกรมต่างๆ เธอก็สังเกตไปยังสถานที่รอบๆ ตัวอีกครั้ง
เธอนึกย้อนไปถึงถนนเส้นหลักทางด้านหน้าของอาคาร ก่อนที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาและกดเลื่อนหารูปนั้น
ถนนสายหลักนั้นกว้างพอสมควรทีเดียว ซึ่งในวันจริงคงจะรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย และที่สำคัญ
คงจะมีตำรวจแห่กันมาเพียบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น CIA หรือแม้กระทั่ง FBI
ทันทีที่เปิดเครื่องได้แล้ว เธอก็ทำการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตทันที ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
เธอพิมพ์เข้าไปยัง Google และทำการพิมพ์ชื่ออาคารลงไป
รูปจำนวนมากที่แสดงขึ้นมา ทำให้ยูริต้องกลับไปพิมพ์แก้อีกครั้ง เพื่อทำการค้นหาแบบแปลน และแผนที่ภายในตัวอาคาร ก่อนที่จะกดเอ็นเทอร์
เธอเลื่อนเมาท์ลงมาเรื่อยๆ จนในที่สุด เธอก็พบมัน
ยูริไม่รอช้า เธอกดเข้าไปยังรูปดังกล่าวพร้อมกับขยายเป็นรูปใหญ่ทันที
โถงประชุมอยู่ที่ชั้น 1 ทางปีกขวาหรอกรึนี่
เธอคิดในใจพร้อมกับยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะนึกไปยังวิธีที่เธอจะลอบสังหารเป้าหมายในคราวนี้ให้ได้แนบเนียนที่สุด ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆ เลย
มันจะมีวิธีไหนบ้างไหมนะ...
ยูริลองหลับตาลงและนึกภาพไปถึงวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไรเฟิลยิงจากระยะไกล การบุกเข้าไปตรงๆ โดยการปลอมตัว หรือการรอให้เป้าหมายออกมาจาอาคาร
ถ้ามันมุดดินไปได้ก็ดีสิ
เธอคิดในใจอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะหวนนึกขึ้นได้
ใต้ดินงั้นเหรอ
“ถ้าใต้ดิน ก็ต้องวิธีนั้นสินะ
”
ทางด้านของกรมสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษสังกัด FBI
แมทธิวยังคงนั่งเอกเขนกอยู่ในห้องทำงานของตนพร้อมกับนึกย้อนกลับไปถึงคดีที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตรกรรมหมู่ที่แมนชั่นเขต 2 หรือแม้กระทั่ง คดีที่ทั้งเขาและเจสสิก้าต่างก็ยังสงสัยอยู่
แมทธิวค่อยๆ เปิดแฟ้มคดีสังหารเลขาบริษัทไทรเซลล์ออก และอ่านรายละเอียดของคดีนั้นอย่างพินิจน์พิเคราะห์ ถึงแม้จะสามารถระบุวิถีของกระสุนและรายละเอียดต่างๆ ได้แล้ว แต่กลับไม่มีหลักฐานที่จะใช้โยงไปยังผู้ลงมือก่อเหตุได้เลย
ทำงานได้แนบเนียนนักนะ
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บใจ แต่เขาเองก็ต้องยอมรับในฝีมือของคนๆ นั้น
“ขออนุญาตครับ !”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแฟ้มเอกสารอีกปึกหนึ่งก่อนที่จะนำมันมาวางลงบนโต๊ะของเขา
“เอกสารที่ขอได้แล้วนะครับ งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน”
พูดจบเขาเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ทำความเคารพก่อนที่จะออกจากห้องไป เขาจึงเลื่อนเจ้าแฟ้มเอกสารพวกนั้นมาดู พร้อมกับนึกไปถึงเจสสิก้า
ยัยนั่นก็พักยาวเลยสิ เฮ้อ ! ต้องมาดูเอกสารแทนนี่มันน่าเบื่อชะมัด
ในส่วนของเจสสิก้า หลังจากที่ใช้เวลาพักฟื้นมาแล้ว 2 วัน อาการเจ็บก็ดีขึ้นมากแล้ว เธอจึงพอจะสามารถเดินไปไหนต่อไหนได้ด้วยตัวเองบ้าง แต่อาจจะต้องใช้ไม้ค้ำตัวในการช่วยประคองก็ตาม
เธอเดินเข้ามาในร้านกาแฟสตาร์บัคดังกล่าว พร้อมกับเข้าไปสั่งกาแฟเช่นปกติทุกครั้ง ซึ่งเมื่อได้รับกาแฟมาแล้วเธอจึงเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวโปรดด้านใน พร้อมกับมองไปทั่วร้าน
น่าแปลกใจที่วันนี้กลับไม่ได้เจอยูริ เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาซื้อกาแฟทีไร ยูริจะต้องเข้ามาด้วยกันเสมอๆ ถึงแม้ตอนแรกๆ เธอเองจะยังไม่รู้จักยูริก็ตาม แต่เธอก็มักจะเห็นยูริตลอด
ทำไมกันนะ อยู่ๆ มันถึงได้รู้สึกผิดหวังขึ้นมาตงิดๆ
เจสสิก้านึกในใจอย่างงงๆ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะตลอดมาเธอก็อยู่ตามลำพังมาตลอดอยู่แล้ว การที่ขาดยูริไป มันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเดิมมากนัก
เพียงแค่รู้สึกเหงาขึ้นมาก็เท่านั้นเอง
เจสสิก้าเหลือบมองออกไปยังนอกร้าน ก่อนที่จะไปสะดุดกับร้านถ่ายรูปฝั่งตรงข้าม
Kwon Express
ควอน งั้นเหรอ
เธอนึกในใจ พร้อมกับย้อนกลับไปถึงช่วงที่ได้รู้จักกับยูริ
‘ยูริ ค่ะ... ควอนยูริ
’
เจสสิก้ายิ้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจ เพราะว่าบ้านอยู่ตรงข้ามนี่เองสินะ เวลาที่ชั้นเข้ามา เธอถึงได้บังเอิญมาเจอกันทุกครั้ง
แต่ถ้าบ้านเธออยู่แค่ตรงนี้ ยังไงเราก็ยังพบกันได้อีกงั้นสินะ
เจสสิก้านึกในใจพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะนั่งจิบกาแฟของเธอต่อไปอย่างสบายอารมณ์
ทางด้านของยูริ เธอยังคงนั่งเซิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอย่างไม่หยุดพักเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางเดินสายของรถไฟใต้ดิน อีกทั้งยังรู้อีกด้วยว่า เธอสามารถใช้เส้นทางที่เชื่อมต่อกับชั้นใต้ดินของอาคารนั้น โดยต่อกับเส้นทางเดินสายไฟที่ต่อกับทางใต้ดินพอดิบพอดี
ซึ่งก็หมายความว่า การจะลอบเข้าไปทำงานในครั้งนี้นั้น มันไม่ได้ยากเกินความสามารถของเธอเลย
เวลาที่เหลือ เธอเลือกที่จะทำการสำรวจหาพื้นที่สำหรับการหลบหนี และการเตรียมของ เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะกดโทรไปหาคนๆ หนึ่ง ซึ่งไม่นานนักเขาก็รับสาย
/ฮัลโหล ?/
ชายแก่คนหนึ่งทักขึ้น ทำให้ยูริยิ้มออกมา ก่อนที่เธอจะตอบกลับไป
“ชั้นมีของอยากได้อยู่อย่างนึง
ไม่ทราบว่าพอจะหามาได้รึเปล่า ?”
/แบล๊คเพิร์ลสินะ คราวนี้อยากจะได้อะไรล่ะ ?/
Black pearl หรือไข่มุกสีดำ เป็นชื่อแฝงที่ยูริใช้ในการทำงาน ซึ่งนักฆ่าแต่ละคนก็จะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป ฉายาที่เรียกแทนชื่อ ก็เพื่อปกปิดข้อมูลของตัวเอง ไม่ให้ใครรู้นั่นเอง
“ชั้นอยากได้
”
/เอาสิ เดี๋ยวเย็นนี้รอรับได้เลย จะให้ส่งไปที่ไหนกันล่ะ ?/
“Genesse River
ตรวจเช็คสภาพของมันให้ดีด้วย ชั้นไม่อยากพลาด แล้วเอาไปส่งตรงจุดที่เป็นทางระบายน้ำใต้ดินก็แล้วกัน ชั้นจะไปรอที่นั่น”
พูดจบเธอก็กดวางสายไปทันที พร้อมกับขับรถต่อไปยังจุดต่างๆ ตามแผนที่เธอคิดเอาไว้ ก่อนที่จะมาจบลงที่จุดนัดหมายตอน 18.00 น.
ยูริเดินเรียบถนนมาเรื่อยๆ ขวามือของเธอนั้นเป็นแม่น้ำ Genesse ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควร ซึ่งถ้าออกมาจากทางระบายน้ำแล้ว จะสามารถใช้เส้นทางที่ว่านี้หนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยทันที
ระยะห่างจากอาคารดังกล่าว และตรงออกมายังทางแม่น้ำ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ซึ่งภายในเวลา 20 นาทีนี้ เธอจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้พ้นจากตำรวจให้ได้
เธอเดินมาได้สักพัก ก่อนที่รถตู้สีดำคันหนึ่งจะแล่นมาจอดเทียบข้างๆ พร้อมกับเปิดประตูลงจากรถมา
“ว่าไง ของที่สั่งได้ไหม ?”
ยูริหันกลับไปถาม ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะให้อีก 2 คนช่วยในการขนของที่ว่านั้นออกมา
“ทุกอย่างเรียบร้อยไหม ?”
“ไม่มีพลาด... ชาร์ตแบตมาเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานเรียบร้อย ความเร็ว 8 ก.ม./ช.ม. ใช้ได้ราวๆ 1.30 ชั่วโมง หนัก 9 กิโลกรัม แต่หวังว่ามันคงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ...”
ชายหนุ่มคนนั้นพูดพร้อมกับยิ้มขึ้นที่มุมปาก
ยูริตรวจเช็คสภาพของเจ้าสกู๊ตเตอร์ดำน้ำเครื่องนั้นเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะขนมันลงไปยังริมแม่น้ำตรงทางออกของทางระบายน้ำด้านล่าง และจัดการปล่อยเจ้าเครื่องดังกล่าวนี้ลงน้ำไป และรอเพียงการใช้งานในวันจริงเท่านั้น
ขากลับ ยูริแวะที่ห้างสรรพสินค้าระหว่างทาง ก่อนที่จะวนรถเข้าไปจอด เพื่อซื้อของที่จำเป็นจะต้องใช้
เธอเดินเข้ามายังโซนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม และเลือกซื้อสเปรย์ย้อมสีผมมาหนึ่งกระป๋อง เธอลังเลระหว่างสีบลอนด์กับสีดำ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกเอาสีบลอนด์มา เพราะมันสามารถจำกัดวงในการตามตัวของตำรวจได้
ถ้าเธอเลือกสีดำมา เมื่อนำมาคิดดูแล้ว สามารถเบนไปทางสีน้ำตาลหรือสีที่เป็นโทนมืดได้ เพราะเมื่อแสงเยอะ อาจจะออกมาเป็นสีน้ำตาล แต่ถ้าไม่มีแสงเลย มันก็จะออกมาเป็นสีดำ... เพราะฉะนั้น การเลือกเอาสีบลอนด์มาก็เพื่อการนี้นั่นเอง
และสาเหตุที่เธอเลือกซื้อของจากในห้างสรรพสินค้านั้น ก็เพราะเธอสามารถเลือกซื้อของอื่นๆ มาปนได้ และอีกอย่าง การที่จะตามสืบ มันก็ไม่ได้ทำได้อย่างง่ายๆ เพราะในวันๆ หนึ่ง คนที่เข้าออกและซื้อของจากในห้างสรรพสินค้านั้นไม่ใช่น้อยๆ เลย
หลังจากที่ได้ของตามที่ต้องการแล้ว จึงเหลืออีกเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือคอนแทคเลนส์สีฟ้า
เธอขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้า และแวะเข้าไปยังร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับสายตาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแว่นหรือคอนแทคเลนส์ ยูริเดินเลือกดูคอนแทคเลนส์อยู่สักพัก ก่อนที่จะได้สีฟ้าแบบที่เธอต้องการ ซึ่งคนที่เข้ามาซื้อของในร้านนี้ โดยเฉพาะคอนแทคเลนส์นั้น ก็มีมากพอสมควร
ยูริยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะจ่ายเงินและรับของออกมา
อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ชั้นคนเดียวที่ซื้อ... หึหึ
หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน เธอก็ตรงกลับขึ้นมายังห้องนอนพร้อมกับล๊อคประตูเอาไว้ทันที ก่อนที่จะเดินมาเลื่อนผ้าม่านปิดให้สนิท เพื่อป้องกันสายตาของคนอื่นๆ
ยูริเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าของตนออก ก่อนที่จะกดรหัสปลดล็อค
แกร๊กก !!
เสียงกลไกเล็กๆ ที่ทำงาน ทำให้เธอสามารถเปิดประตูอีกชั้นหนึ่งออกมาได้
เธอมองดูปืนที่อยู่ในตู้นั้นสักพัก พร้อมกับคิดในใจ
เหลืออีกแค่วันเดียวแล้วสินะ...
รุ่งเช้าของวันที่ 23...
ยูริตื่นขึ้นมาแต่เข้า โปรแกรมสำหรับเธอในวันนี้คือการสำรวจทางใต้ดินนั่นเอง
หลังจากที่ได้ดูรายละเอียดของสถานที่แบบคร่าวๆ แล้ว เธอจึงเดินออกมาจากบ้าน พลันสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนพิงกำแพงอยู่ข้างๆ
ผมสีทองยาวสลวยที่ปลิวไปตามแรงลม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ชวนฝัน ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยูริทันที
เธอหันไปหาหญิงสาวข้างตัว พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“เจสสิก้า...”
เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มตอบกลับบางๆ เท่านั้น
“เธอรู้ได้ไงว่าชั้นอยู่นี่... ?”
ยูริถามอย่างเขินๆ เพราะถ้าเจสสิก้ารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ นั่นก็เท่ากับว่า เจสสิก้าต้องรู้แล้วว่าการที่พบกับยูริทุกวันนั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“ควอน เอ็กเพรส... มันเดาได้ไม่ยากหรอกนะ ^^”
มันก็จริงอย่างที่เธอว่า การเอาชื่อสกุลมาตั้งชื่อร้านแบบนี้ มันสามารถคาดเดาได้ไม่ยากเลย ก่อนที่ยูริจะเหลือบไปเห็นไม้ค้ำตัว และผ้าพันแผลบริเวณเท้าข้างขวา
“เธอไปโดนอะไรมาเจสสิก้า ! เธอเจ็บมากไหมเนี่ย !!”
ยูริถามขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่ด้วยท่าทางที่ดูจริงจังของเธอนั้น ทำให้เจสสิก้าหลุดยิ้มออกมาได้อย่างง่ายๆ เลย
“พอดีตอนที่ทำงาน แล้วโดนกระจกที่มันแตกทิ่มเอาน่ะ... แต่ก็ไม่เจ็บอะไรมากหรอก ^^”
ยูริก้มลงไปพร้อมกับสัมผัสกับแผลของเธออย่างเบามือที่สุด เพื่อแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยที่มีต่อเธอ
“แล้วนี่เธอจะออกไปไหนเหรอ ?”
เจสสิก้าถามขึ้น ก่อนที่ยูริจะตอบกลับไป
“ว่าจะไปหาอะไรกินก่อนอะ... ไปด้วยกันสิ มีร้านอร่อยๆ จะแนะนำ ^^”
ยูริเอ่ยชวน ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ให้อุ้มไหม ?”
“บ้า !!”
เจสสิก้าพูดอย่างอายๆ พร้อมกับตีที่แขนของยูริเบาๆ หน้าของเธอแดงขึ้นจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเขน
เวลาที่เธออาย... เธอน่ารักมากเลยรู้ไหม เจสสิก้า
ทั้งคู่เดินคุยมาด้วยกันเรื่อยๆ จังหวะการเดินแบบสบายๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร
ไม่นานนัก ยูริก็เดินนำเธอมายังร้านอาหารแห่งหนึ่ง เจสสิก้าเงยหน้าขึ้นไปมองป้ายชื่อร้าน ก่อนที่จะก้มลงและหันมามองยูริที่ยืนอยู่ข้างๆ ของเธอ
“อาหารเกาหลีเหรอ
?”
“อื้อ ^^ !!”
ยูริตอบกลับไป ก่อนที่เธอจะยิ้มให้พร้อมกับเดินจูงมือของเจสสิก้าเข้ามายังด้านใน
บรรยากาศภายในร้านนั้นถูกตกแต่งเป็นโทนสีขาว มีลายเส้นสีแดงถูกเขียนแต่งเอาไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ดูสวยงามทีเดียว กลิ่นหอมฉุยของอาหารที่โชยมาจางๆ ทำให้เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
“จะรับอะไรดีคะ ?”
พนักงานสาวเสิร์ฟเดินเข้ามาถามพร้อมกับรอยยิ้ม และส่งเมณูให้กับเธอและเจสสิก้า
“เอาเป็น
ชาจังมยอนแล้วกันค่ะ แล้วก็เป็นเกี๊ยวซ่าแล้วกัน”
ยูริสั่งไปพร้อมกับส่งเมณูกลับไปให้กับพนักงานคนนั้นพร้อมกับจ้องไปยังเจสสิก้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“มันมีอะไรอร่อยมั่งอะยูริ ?”
เจสสิก้าปิดเมณูพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาถามหญิงสาวตรงหน้า
“เธอชอบกินแบบไหนล่ะ ?”
“ก็
ไม่เอาที่มันเผ็ดจนเกินไปอะ แล้วที่สำคัญ
ขอแบบไม่มีแตงกวานะ”
เจสสิก้าย้ำเสียงหนัก จนทำให้ยูริรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
“เธอไม่ชอบแตงกวาเหรอ ?”
“อือ
”
เธอตอบกลับเสียงค่อย
ก่อนที่ยูริจะตัดสินใจสั่งเป็นชาจังมยอนแบบเธอไปอีกหนึ่งที่ เพราะยูรินั้นโปรดปรานชาจังมยอนเป็นอย่างมาก และเธอเองก็อยากจะแนะนำให้เจสสิก้าได้รู้จักมันเช่นกัน
ทันทีที่อาหารถูกยกออกมาเสิร์ฟ เจสสิก้าก็มองเจ้าบะหมี่ที่ราดซอสสีดำมาจนชุ่ม มีลักษณะคล้ายๆ กับสปาเกตตี้ที่เธอรู้จัก ซึ่งทำมาจากหมึกของปลาหมึกนั่นเอง
เธอเงยหน้าขึ้นมองยูริที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเส้นขึ้นมาและเป่า เจสสิก้าจึงเริ่มทำบ้าง
ควันที่ลอยขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมอันแสนยั่วน้ำลาย ไม่แปลกใจเลยที่ยูริจะแนะนำเจ้าอาหารจานนี้มาให้กับเธอ เจสสิก้าค่อยๆ ช้อนส้อมตามที่เธอถนัด ในลักษณะเหมือนกับกำลังนั่งกินสปาเกตตี้ ซึ่งต่างจากยูริโดยสิ้นเชิง
ยูริเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับมองดูเจสสิก้ากินอย่างเรียบร้อย มีการใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปากตลอด ซึ่งเธอเห็นแล้วก็อดที่จะหมั่นไส้เสียมิได้ เธอจึงนึกสนุกเอาตะเกียบไปจิ้มเข้าที่แก้มขาวของเจสสิก้า พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮะๆๆ ”
“ย้า !!”
เจสสิก้าเอากระดาษทิชชู่เช็ดคราบออกจากแก้มของเธอทันที พร้อมกับมองดูยูริที่กำลังหัวเราะร่า
“นี่แน่ะ !”
เธอคว้าตะเกียบที่ว่านั้นจิ้มไปที่แก้มของยูริบ้าง พร้อมกับหัวเราะชอบใจ
ยูริใช้มือของเธอปาดเอาคราบนั้นออกจากแก้ม พร้อมกับหัวเราะร่วมไปกับเจสสิก้าที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กัน มันก็ยิ่งทำให้ยูริรู้สึกหลงรักหญิงสาวคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ได้แต่เก็บเอาความรู้สึกที่ว่านี้เอาไว้ในใจอย่างเงียบๆ เท่านั้น
“อาหารอร่อยดีนะ ^^”
เจสสิก้าพูดกับยูริขณะที่เดินเลียบกลับมาตามถนน
“แค่เธอชอบชั้นก็ดีใจแล้วล่ะ
ตอนแรกนึกว่าเธอจะกินไม่ได้ซะอีก ^^” ยูริพูดอย่างยิ้มๆ
“เห็นอย่างนี้ก็เถอะ แต่ชั้นก็เป็นคนเกาลีเหมือนกันนะ !”
เจสสิก้าพูดและยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่เธอจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าพร้อมกับหยิบเอาโทรศัพท์ของเธอออกมาดู
“สายขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
” เธอพูดกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าดังเดิม
“วันนี้ขอบคุณนะยูริ ชั้นต้องไปแล้วล่ะ ^^”
“เหรอ
”
เธอตอบกลับไปอย่างนึกเสียดาย
“อือ
เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ ^^”
“อื้อ !”
เธอตอบกลับไปพร้อมกับโบกมือลา
ยูริยืนมองเจสสิก้าที่ค่อยๆ เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนเลี้ยวหายไปจากสายตา เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะนึกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำ
เราเองก็ได้เวลาแล้วเหมือนกันสินะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น