ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD] Feminine Club : คลับลับฉบับสาวๆ!

    ลำดับตอนที่ #5 : Profile No.3 & No.4 : ซูยอง & ซอฮยอน [Part 2]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 54


    Special guests
       
    Eeteuk Super Junior | Siwan ZE:A | Gahee After School

                    ปกติยงฮวาไม่เคยกลับบ้านช้าขนาดนี้เลย ไม่รู้หมอนั่นไปทำอะไรอยู่ ผมมีงานพิเศษที่จะต้องทำวันนี้ด้วย สุดท้ายผมก็เลยต้องเป็นคนทำกับข้าวให้ย่า แล้วก็จัดยาวางทิ้งไว้บนโต๊ะ ย่าก็ยังเหมือนเดิม ยังเอาแต่พูดเรื่อง ถึงจะพูดกับผมแต่ย่าก็แค่พูดผ่านๆเท่านั้น เพราะเห็นผมเป็นตัวแทน เป็นของต่างหน้าที่พ่อทิ้งไว้ให้ ย่าไม่ได้รักหลานอย่างผมมากนักหรอก...

                    พูดไปก็เท่านั้นแหละ ผมคว้าเบส สวมรองเท้า สวมหมวกกันน็อคแล้วขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์... ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อซื้อให้ก่อนจะจากโลกนี้ไป...

                    ผมเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ลมแรงๆที่พัดเข้ามาปะทะร่างช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งดีชะมัด แต่แล้วจู่ๆอะไรบางอย่างก็สะดุดสายตาผม

                    ร่างสูงๆของใครบางคน ผมยาวๆ กับชุดเครื่องแบบนักเรียนนั่น...

                    "จูฮยอน!" ผมเรียกเธอ ก่อนจะชะลอความเร็วลงแล้วจอดดักหน้าเธอไว้ "ทำไมวันนี้เดินกลับบ้านล่ะ รถที่บ้านไม่มารับเหรอ? ให้ฉันไปส่งมั้ย?"

                    ตาโตๆของเธอดูแดงช้ำ เธอมองหน้าผม ก่อนที่น้ำตาจะร่วงลงมา เพราะอะไรก็ไม่รู้แต่หัวใจผมเหมือนโดนบีบ

                    "จูฮยอน เป็นอะไร? ใครทำอะไรเธอตรงไหน บอกฉันมาซิ ฉันจะไปจัดการเอง"

                    "จองชิน... ฉัน... ฉันไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า... พี่ซูยองกับพี่ยงฮวา..." เธอพูดออกมาได้เท่านั้นแล้วก็ได้แต่ร้องไห้ ซอจูฮยอน เธอจะรู้ไหมนะว่าน้ำตาแต่ละหยดของเธอมันทำให้ผมเจ็บปวดมากขนาดไหน ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ... ทำไมต้องเป็นจองยงฮวา?

                    "อย่าร้องไห้เลยนะ" ผมดึงเธอเข้ามาซบไหล่ก่อนจะลูบหัวเธอเบาๆ "อย่าร้องไห้เพราะยงฮวาอีกเลย"

                    ไม่รู้เพราะอะไร แต่เธอกลับยิ่งร้องไห้หนักมากขึ้น... ผมเองก็เหมือนกัน ถึงน้ำตาจะไม่ไหลออกมา แต่หัวใจผมก็แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว...

                    นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้กว่าจูฮยอนจะหยุดร้องไห้ ดวงตาเธอยังแดงก่ำ คราบน้ำตาเปรอะเต็มสองแก้ม ผมบีบจมูกเธอเบาๆก่อนจะฝืนยิ้ม เธอมองผม มองรถมอเตอร์ไซค์และกระเป๋าเบส

                    "จองชิน ขอโทษนะ เธอมีธุระใช่ไหม? ขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลา"

                    แทนที่จะตอบเธอ ผมกลับพลิกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา

                    "ไม่หรอก ยังไม่ถึงเวลานัดเลย" ผมยิ้มให้เธอ ดีว่าเพราะผมไม่อยากอยู่บ้านกับย่าก็เลยรีบออกมาก่อนเวลาเริ่มงานพอสมควร นี่ก็ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกเกือบชั่วโมง แต่ถึงยังงั้นจูฮยอนก็ยังทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดอยู่ดี

                    "เอาแบบนี้แล้วกัน" ผมพูดขึ้นมา เพราะนึกอะไรดีๆออก "เพราะเธอทำฉันเสียเวลา งั้นคืนนี้ฉันก็จะทำให้เธอเสียเวลาบ้าง ถือว่าหายกันนะ"

                    "หมายความว่ายังไงน่ะจองชิน?"

                    "ก็คืนนี้ เธอต้องไปเที่ยวกับฉันไง" ผมยิ้มให้เธอ "อ้อ แล้วก็ต้องเลี้ยงไอติมด้วยนะ ^^"

                    "อื้อ" จูฮยอนพยักหน้า แล้วผมก็จูงมือเธอเดินไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ก่อนจะสวมหมวกกันน็อคให้

                    "เราจะไปไหนกันเหรอ?" เธอถามผม มือเล็กๆจับบ่าผมไว้แน่นขณะที่ผมเร่งความเร็วขึ้น

                    "เดี๋ยวก็รู้"

     

     

                    ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนเสิร์ตกลางแจ้งค่ะ ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาอะไรแบบนี้เลย แต่ว่ามันดูน่าสนุกมากๆเลยล่ะค่ะ

                    "เธอได้ที่นั่งวีไอพีนะ" จองชินหันมาพูดกับฉันก่อนจะเอาป้ายอะไรสักอย่างมาแขวนคอ ฉันพลิกขึ้นมาดูแล้วก็พบว่ามันเป็นป้ายสตาฟฟ์ค่ะ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไรเขาก็จูงมือฉันมายืนติดกับรั้วที่กั้นหน้าเวที

                    "ยืนดูอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะได้มองเห็นเธอตลอดเวลา" เขาหันมายิ้มแล้วขยี้ผมฉันเบาๆก่อนจะปีนข้ามรั้วเข้าไปรวมกลุ่มกับนักดนตรีที่ยืนอยู่ข้างเวที

                    สิบห้านาทีต่อมา การแสดงก็เริ่มขึ้น จองชินก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีอย่างมั่นใจพร้อมกับเบสของเขา จุดที่จองชินยืนอยู่ตรงหน้าฉันพอดีค่ะ หวา... เขาดูเท่มากๆเลย ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าจองชินจะเล่นเบสได้เก่งขนาดนี้ ดูเหมือนเขาจะสนุกกับมันมากๆ แล้วเขาก็หันมายิ้มให้กับฉัน เป็นรอยยิ้มอบอุ่นที่ไม่ต่างจากพี่ยงฮวาเลย...

                    "ว้าย...เธอ มือเบสคนนั้นหล่อมากเลย"

                    "เขายิ้มให้ฉันด้วยล่ะ!"

                    ผู้หญิงสองคนที่ยืนข้างๆฉันหันมากรี๊ดกร๊าดจองชินกันใหญ่ ฉันมองขึ้นไปบนเวที... รู้สึกภูมิใจจังเลยค่ะ >.<

                    หลังจากนั้นไม่นานการแสดงของวงจองชินก็จบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือยาวนาน ฉันเห็นจองชินกับเพื่อนๆในวงแท็คกันก่อนที่เขาจะวิ่งมาหาฉัน

                    "เป็นยังไงบ้าง? สนุกไหม?" เขาถามพร้อมรอยยิ้มกว้างแบบเด็กๆ แล้วผู้หญิงที่ยืนข้างๆฉันก็แอบส่งเสียงกรี๊ดออกมาเบาๆ

                    "อื้อ เธอเท่มากเลยล่ะ ^^"

                    "ฉันตื่นเต้นนะ นี่ครั้งแรกเลยที่ได้แสดงต่อหน้าเธอ" จองชินพูดก่อนจะปีนรั้วออกมาพร้อมกระเป๋าเบส วงต่อไปเดินขึ้นมาบนเวทีแล้ว "หลังจากนี้จะเป็นพวกเฮฟวี่เมทัล เราออกไปกันก่อนดีกว่า" เขาพูดแข่งกับเสียงกรี๊ดโหวกเหวกโวยวายก่อนจะจูงมือฉันออกมาจากที่จัดแสดงคอนเสิร์ต ฉันขึ้นไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของจองชินอีกรอบ ยังไม่ทันจะได้ถามเลยว่าไปไหน พอรู้ตัวอีกทีเราก็อยู่ตรงริมแม่น้ำฮันแล้วค่ะ

                    "ลงไปเดินเล่นกันเถอะ" จองชินหันมาชวนพร้อมรอยยิ้ม ฉันพยักหน้ารับก่อนจะถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้เขาแล้วออกเดินไปเรื่อยๆ

                    "ฉันยังไม่ได้เลี้ยงไอติมเธอเลย" ฉันหันไปพูดกับเขา จองชินได้แต่ยิ้มรับ

                    "ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าแล้วกัน"

                    แล้วหลังจากนั้นเราสองคนก็ออกเดินต่อไปเงียบๆ จองชินเป็นแบบนี้เสมอเลยล่ะค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรกัน แต่เขาก็ทำให้ฉันรู้สึกดีได้ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม จองชินจะเป็นคนแรกที่ยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมที่จะรับฟังและอยู่เป็นเพื่อน เขาเหมือนพี่ยงฮวาขนาดนี้แท้ๆ แต่ทำไมทั้งคู่กลับไม่ถูกกันได้นะ?

                    "จองชิน ฉันถามได้ไหมว่าทำไมเธอกับพี่ยงฮวาถึงได้เกลียดกัน" ฉันถามออกไปตรงๆ สีหน้าของจองชินดูเหมือนจะตกใจนิดหน่อย เขาถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงม้านั่งริมแม่น้ำแล้วทอดสายตาออกไปมองทิวทัศน์ของโซลยามค่ำคืน

                    "ฉันเป็นลูกคนเดียวไม่เคยมีพี่น้องมาก่อน จนกระทั่งวันนั้น... จู่ๆหมอนั่นก็ปรากฏตัวขึ้นมา..." เขาเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะเล่าต่อ "ยงฮวาดีไปหมดทุกอย่าง ทั้งเรียนเก่ง เล่นกีฬา แม้แต่เรื่องดนตรี ส่วนฉันนอกจากการเล่นเบสแล้วก็ไม่มีอะไรเลย มันกดดันนะที่จู่ๆก็มีพี่ชายแบบนี้ แรกๆที่หมอนั่นย้ายเข้ามา พ่อชมยงฮวาไม่ขาดปาก แม้แต่ย่าก็ยังเอ็นดูหมอนั่น...เขาพูดเก่ง ร่าเริง มีเพื่อนๆเยอะไปหมด แต่ฉันก็เป็นแบบนี้... ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะทำอะไร แล้วก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายอย่างหมอนั่น..."

                    "ไม่จริงหรอก" ฉันขัดขึ้นมา "เธอมีเพื่อนตั้งมากมาย ทั้งฉัน จินอุน นานะ คีย์ ในสายตาฉัน ถึงแม้ว่าจองชินจะไม่ได้สดใสร่าเริงหรือว่าพูดเก่งเท่าพี่ยงฮวา แต่ทุกๆครั้งที่พวกเรามีปัญหา เธอก็จะปรากฏตัวขึ้นมาเป็นคนแรก แม้ว่าบางทีมันจะทำให้เธอเดือดร้อน แม้ว่ามันจะทำให้เธอต้องเสียเวลา แต่เธอก็ไม่เคยบ่นเลย เพราะแบบนั้นพวกเราทุกคนถึงได้รักเธอ"

                    จองชินนิ่งไปนิดหนึ่งกับคำพูดของฉัน สีหน้าของเขานิ่งซะจนฉันอ่านไม่ออก

                    "...ฉันเองก็ไม่ได้ถึงขนาดเกลียดยงฮวา" เขาพูดขึ้นมาในที่สุด "แต่ฉันยอมรับไม่ได้กับการมีพี่ชาย แล้วก็ไม่ได้อยากมีพี่ด้วย"

                    "เข้าใจแล้ว... เธอกลัวการโดนเปรียบเทียบสินะ" จองชินหันมามองหน้าฉันแบบอึ้งๆนิดหน่อย "ขอโทษจ้ะ ฉันคงพูดตรงไปหน่อย แต่ว่า... ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ" ฉันเหม่อมองออกไปที่อีกฟากของแม่น้ำฮัน

                    "ฉันเองเป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน แล้วจู่ๆเมื่อไม่นานมานี้ฉันก็ได้เป็น 'น้องเล็ก' เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูด แล้วบางทีก็พูดตรงมากเกินไป ครั้งแรกที่ได้เจอพี่ๆฉันกลัวมากเลยล่ะ กลัวว่าจะเข้ากันไม่ได้ กลัวว่าจะทะเลาะกัน กลัวว่าจะโดนเปรียบเทียบ เพราะพี่ๆของฉันแต่ละคนเก่งๆกันทั้งนั้น คนนึงก็ร้องเพลงเพราะ คนนึงเต้นเก่ง คนนึงก็สวยมากๆ ทุกคนต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง ในขณะที่ฉันไม่มีอะไรเลยที่เป็นจุดเด่น มีแต่การเป็นน้องเล็กเท่านั้น"

                    "แต่พี่ๆทุกคนคอยดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างดี พี่ๆพูดเสมอว่า 'ซอฮยอนอา เธอโตขึ้นมาแล้วต้องสวยกว่าพี่แน่ๆเลย เธอต้องร้องเพลงได้ดีกว่าพี่แน่ๆ เธอเต้นเก่งกว่าพี่อีกนะ' พี่ๆคอยบอกให้ฉันมั่นใจตัวเองเข้าไว้ คอยเป็นกำลังใจ เป็นที่ปรึกษา เป็นคนคอยแนะนำอะไรหลายๆอย่าง จนฉันรู้สึกว่า... ฉันโชคดีจริงๆที่มีพี่สาวน่ารักๆแบบนี้ แล้วฉันก็รู้สึกดีจริงๆกับการได้เป็นน้องเล็ก" ฉันหวนนึกไปถึงตอนเข้าเอฟคลับแรกๆเมื่อปีที่แล้ว แล้วก็ยิ้มออกมา เหมือนมันเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้เอง...

                    "เธอโชคดีมากเลยนะที่ได้เจอพี่สาวดีๆแบบนี้" จองชินพูดกับฉัน

                    "ไม่ใช่แค่ฉันหรอก... เธอเองก็โชคดีเหมือนกันที่ได้มีพี่ชายอย่างพี่ยงฮวา"

     

     

                    "ซูยองอา... เธอไม่เป็นไรแน่นะ?"  ทิฟฟานี่มองหน้าโทรมๆของซูยองอย่างนึกเป็นห่วง ปกติซูยองที่ร่าเริงกว่าใครเพื่อนกลายมานั่งซึม ตาก็แดงช้ำ แถมจากที่เคยพูดน้ำไหลไฟดับ เดี๋ยวนี้กลายเป็นถามคำตอบคำจนพวกเราทุกคนจนปัญญาที่จะช่วย

                    "ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ฉันจะเรียกพวกไปอัดมันเอง" ยูริเริ่มจะตบะแตกแล้วค่ะ

                    "พี่นี่ป่าเถื่อนจัง เอะอะอะไรก็ใช้กำลัง" น้องรองยุนอาหันไปแขวะ

                    "เหรอ... แล้วใครก็ไม่รู้เนอะ คราวที่แล้วจู่ๆก็ไปตบหน้าเค้าจนเป็นเรื่องน่ะ" นั่นไงโดนยูริสวนกลับไปหนึ่งดอก เล่นเอาหน้าเสียไปเลย

                    "เจสสิก้า ฉันเหนื่อย... ขอกลับก่อนได้ไหม" ซูยองหันมาพูดกับฉัน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วคว้ากระเป๋าเหมือนคนซังกะตาย

                    "ให้ฉันเรียกคนขับรถไปส่งรึเปล่า" ซันนี่ถามขึ้นมา

                    "ไม่เป็นไร... ฉันกลับเองได้"

                    แล้วซูยองก็เดินออกไปจากห้องคลับสวนกับแทยอนและมักเน่ซออยอนที่เพิ่งเดินเข้ามา

                    "อีกแล้วเหรอ?" แทงกูเหลียวหลังหันกลับไปมองซูยองอย่างเป็นห่วง ส่วนน้องเล็กดูนิ่งๆผิดปกติ เป็นแบบนี้มาซักพักแล้วแฮะ = =

                    "ซอฮยอน เธอสนิทกับเพื่อนของซูยองรึเปล่า? ครั้งก่อนเธอบอกไม่ใช่เหรอว่าอยู่สภานักเรียนด้วยกัน เพื่อนของซูยองยังไม่เลิกกับผู้ชายคนนั้นอีกเหรอ?" ฉันหันไปถามความคืบหน้าจากน้องเล็ก

                    "รุ่นพี่ซึงอาลาออกไปแล้วล่ะค่ะ" ซอฮยอนตอบเรียบๆ "ถ้าวันนี้ไม่มีอะไรฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ" ว่าแล้วน้องเล็กก็ชิ่งตามซูยองไปอีกคน เล่นเอาพวกเราได้แต่ยืนมองหน้ากัน

                    "นี่มันชักจะแปลกๆแล้วนะ ทั้งซูยอง ซอฮยอน" แทงกูเกาหัวแกรกๆ

                    "เธอก็รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม? เดี๋ยวนี้พอเราพูดหรือถามอะไรเรื่องซูยองทีไร น้องเล็กเป็นต้องเงียบหรือไม่ก็ชิ่งหายไปทุกทีเลย ถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะอาสาไปสืบให้แล้ว" ทิฟฟานี่เท้าคางทำสีหน้าครุ่นคิด

                    "หวังแต่ว่าสองคนนั้นคงจะไม่ทะเลาะกันเองหรอกนะ" ฮโยยอนเปรยขึ้นมา

                    "ทะเลาะกันไปเลยก็ดีน่ะสิ" ยุนอาถอนหายใจ "อะไรๆมันจะได้จบ แต่นี่ทั้งพี่ซูยอง ทั้งซอฮยอนเป็นพวกปากหนักทั้งคู่เลย แบบนี้เมื่อไหร่จะได้เคลียร์กันก็ไม่รู้"

                    ฉันกับยุนอาสบตากันแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอีกรอบ...

                    หวังว่าอะไรๆมันคงจะไม่แย่ไปกว่านี้แล้วกัน

     

     

                    "ซูยอง ยัยโย่งเอ๊ย!" ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง เพราะเห็นยัยนั่นเศร้าจะเป็นจะตายเรื่องซึงอามาแท้ๆผมถึงได้ตัดสินใจทำแบบนี้ ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมตามติดทั้งอีจุนทั้งฮอกายูนจนไม่มีเวลาทำอะไรเลย ให้ตายเถอะ! ผมจะให้ซูยองเลี้ยงข้าวทุกวันจนครบหนึ่งปีเลยคอยดู!

                    ข้างหน้าผม อีจุนแฟนของซึงอากำลังเดินเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่แถวๆทงแดมุน ตั้งแต่เลิกเรียนผมก็สะกดรอยตามเขาออกมา นี่ผมถึงงกับโทรไปขอลางานกับพี่อีทึกเลยนะครับ! เห็นไหมว่าผมทุ่มเทขนาดไหน ถ้าหากว่าวันนี้อีจุนไม่ได้นัดพบกับฮอกายูนล่ะก็... ผมคงกัดลิ้นตัวเองตายไปเลย T T

                    ผมยังคงสะกดรอยตามอีจุนต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ จนกระทั่งในที่สุด เขาก็เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดร้านหนึ่ง ทำท่าเหมือนกำลังรอใครสักคนอยู่ ไม่นานนักฮอกายูนก็โผล่เข้ามา เธอตรงเข้ามาจูบอีจุนเลยครับ! ของเค้าแรงจริงๆ = =

                    ผมหยิบกล้องที่เตรียมไว้ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆถ่ายรูปสองคนนั้นโดยไม่ให้รู้ตัว ทั้งภาพที่ควงแขน คุยเล่นกัน ภาพที่พวกเขาจูบกัน ก่อนจะค่อยๆเฟดตัวออกมา

                    คราวนี้ล่ะ... ซึงอาจะได้รู้ตัวซักทีว่าเพื่อนดีๆมีค่ามากกว่าผู้ชายแย่ๆอย่างอีจุน

     

     

                   ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องสภานักเรียน... เหมือนอย่างที่คิด มันว่างเปล่าจริงๆ...

                    พี่ยงฮวาที่เคยนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่นี่ทุกเย็น เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าพี่เค้าหายออกไปทุกวัน บางครั้งก็จะกลับมาพร้อมกับพี่ซูยอง แล้วก็นั่งคุยกันเงียบๆแค่สองคน แทบไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา...

                    กีตาร์ที่เคยเล่นด้วยกันถูกวางทิ้งอยู่ในห้อง ฉันเดินเข้าไปดีดสายมันเบาๆ ฉันก็ยังมารอเค้าอยู่ทุกวัน... รอที่จะเล่นคอร์ดเดิมๆ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ต่อให้ฉันฝึกจนเจ็บนิ้วซักแค่ไหนพี่ยงฮวาก็ไม่หันกลับมามองฉันอยู่ดี ต่างกับพี่ซูยองที่ถึงแม้จะไม่ต้องพยายามอะไรเลยก็ยังคงอยู่ในสายตาของพี่ยงฮวาเสมอ...

                    "ซอฮยอน?"

                    ฉันหันกลับไปมองแล้วก็พบคนที่ฉันรออยู่ สีหน้าเขาดูเหนื่อย และดูแปลกใจที่พบฉัน

                    "สวัสดีค่ะ" ฉันโค้งทักทายเขาเหมือนทุกครั้ง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก

                    "เธอจะมาเล่นกีตาร์ใช่ไหม? เป็นยังไงบ้าง พักนี้พี่ยุ่งๆนิดหน่อย แต่เธอคงฝึกไปเยอะแล้วสินะ" เขาเดินไปหยิบกีตาร์ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งแล้วยิ้มให้ฉัน

                    "ขอโทษค่ะ ฉันจะมาบอกพี่ว่าฉันคงจะไม่เล่นกีตาร์อีกต่อไปแล้ว" ฉันพูดออกมาก่อนจะหันหน้าไปมองทางอื่น ไม่กล้าสบสายตาเขา

                    "ทำไมล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?"

                    "ฉัน... ฉันต้องเล่นเปียโนค่ะ ถ้ามัวแต่หัดเล่นกีตาร์อยู่แบบนี้นิ้วก็จะเจ็บจนเล่นเปียโนไม่ได้น่ะสิคะ" ฉันพูดออกไป

                    ความเงียบที่เกิดขึ้นคั่นกลางระหว่างเราเหมือนกำแพงอันใหญ่ ฉันรู้ว่าเขากำลังมองฉันอยู่ แต่ถ้าฉันสบตาเขาตอนนี้ฉันจะต้องร้องไห้แน่ๆ

                    "...เปียโนสำคัญกว่ากีตาร์สินะ... พี่เข้าใจแล้วล่ะ" พี่ยงฮวาพูดออกมาในที่สุด

                    "ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะรุ่นพี่" ฉันหันหลังให้เขา... ดีแล้วล่ะ เป็นแบบนี้ดีแล้ว... พี่ซูยองต้องการพี่ยงฮวามากกว่าฉัน พี่ยงฮวาเองก็ต้องการดูแลพี่ซูยองมากกว่าฉันด้วย ฉันทำถูกแล้ว...

                    ฉันรวบรวมความกล้าเดินออกมาจากห้องสภานักเรียนแล้วปิดประตูตามหลัง แต่ออกเดินไปได้ไม่กี่ก้าวขาก็หมดแรงเอาดื้อๆ รวมถึงความพยายามที่จะกลั้นน้ำตามันก็หมดลงตรงนั้น... ทำไมนะ พี่เขาไม่เห็นตามฉันออกมาเลย ทำไมกัน?

                    "...ถ้าเล่นกีตาร์แล้วมันเจ็บนิ้วขนาดนั้นก็กลับมาเล่นเปียโนเถอะนะ" เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง... เป็นจองชินอีกแล้ว ฉันไม่กล้าหันกลับไปมอง ได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้น ร้องไห้เงียบๆ...

                    "จูฮยอน...ให้ฉันเป็นเปียโนของเธอได้ไหม?"

     

     

                    "จูฮยอน... ให้ฉันเป็นเปียโนของเธอได้ไหม?"

                    คำพูดของจองชินที่ทิ่มแทงลงไปในหัวใจผม ซอฮยอนยังคงนั่งเงียบอยู่ตรงนั้น ผมไม่รู้เลยว่าเธอคิดอะไร... สงสัยกีตาร์อย่างผมคงจะไม่ดีพอสำหรับเธอจริงๆ

                    ผมหันหลังเดินกลับออกมาพร้อมหัวใจที่หนักอึ้ง ไม่ได้สิ! จองยงฮวา นายจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ ลืมไปแล้วเหรอว่าเรื่องของซูยองกับซึงอาก็ยังคาราคาซังอยู่ นายต้องรีบไปจัดการให้มันจบซะ

                    คิดแล้วผมก็มุ่งหน้าไปทางชมรมเชียร์ลีดเดอร์ของซึงอาและซูยอง นั่นไง... ตัวการอยู่ด้วยพอดีเลย อีจุน... หมอนั่นนั่งหน้าใสดูซึงอาซ้อมเต้นอยู่บนอัฒจรรย์ ให้ตายเถอะ หน้าหมอนี่ทำด้วยอะไรกันนะ!

                    "โอซึงอา ออกมานี่!" ผมตะโกนขัดขึ้นระหว่างการซ้อม ทุกคนหันมามองหน้าผม โดยเฉพาะซูยองที่ดูเหมือนจะประหลาดใจเป็นพิเศษ

                    "มีอะไรเหรอยงฮวา?" ซึงอาถามผม พร้อมกับที่อีจุนเดินเข้ามา

                    "มีแน่ๆ เธอควรจะได้รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง" ผมพูดพร้อมกับส่งรูปถ่ายที่ไปอัดมาให้ซึงอา เธอมองหน้าผมอย่างงงๆก่อนจะก้มลงมองรูปในมือ แล้วสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไป

                    "...พี่จุน..." น้ำตาค่อยๆร่วงลงมา ซูยองเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาดึงรูปในมือซึงอาออกแล้วหันมาหาผม

                    "ทำบ้าอะไรของนายเนี่ยจองยงฮวา!"

                    "เธอจะหาว่าฉันบ้าก็ได้ซูยอง" ผมตอบเรียบๆ "แต่ตามความเห็นฉัน ซึงอาควรจะรู้ได้แล้วว่าตัวเองทำร้ายจิตใจเพื่อนดีๆคนหนึ่งเพราะผู้ชายเลวๆอย่างอีจุนไปมากแค่ไหน"

                    ซูยองได้แต่นิงเงียบในขณะที่อีจุนเดิเข้ามา

                    "มันไม่ใช่แบบนั้นนะซึงอา... อย่าไปเชื่อพวกมันนะ รูปนี่ตัดต่อขึ้นมาทั้งนั้น... พี่ไม่ได้--"

                    เพี๊ยะ!

                    "ออกไปให้พ้นจากชีวิตฉันซะ" ซึงอาพูดออกมาทั้งน้ำตาท่ามกลางความตกใจของทุกคน อีจุนเหมือนจะช็อกไปเลย แต่พอตั้งสติได้เขาก็โกรธจนหน้าแดงก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังออกไปจากห้องชมรม หลังจากนั้นทุกคนก็ได้แต่เงียบกันไปพักใหญ่ๆ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนกระทั่งซึงอาเดินเข้าไปเผชิ ญหน้ากับซูยอง

                    "ซูยอง... ฉันขอโทษนะ"

                    "ยัยบ้าเอ๊ย ฉันเคยโกรธเธอที่ไหนกัน" ซูยองดึงตัวซึงอาเข้ามากอดก่อนที่ทั้งคู่จะพากันร้องไห้ จนเพื่อนๆในชมรมทุกคนต้องเดือดร้อนเข้าไปปลอบกันยกใหญ่ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนมองภาพนั้นอยู่เงียบๆ

                    ผมควรจะโล่งอกที่ยัยโย่งจะไม่โทรมาร้องไห้ให้ผมฟังทุกคืนอีกต่อไปแล้ว

                    ...แต่คนที่อยากร้องไห้กลับเป็นผมซะเอง...

     

     

                    "ฮึ่ย! จองยงฮวา เพราะหมอนั่นแท้ๆ!" ผมกระแทกแก้วเบียร์ลงกับโต๊ะ

                    "ทำไมแกต้องโมโหขนาดนั้นด้วย เสียดายโอซึงอารึไง?" อิมชีวานเพื่อนต่างโรงเรียนของผมถามขึ้นมา

                    "ไม่ได้เสียดาย แต่มันเสียหน้า ยัยนั่นตบหน้าฉันต่อหน้าคนทั้งชมรม ตอนนี้คนทั้งโรงเรียนเกลียดฉันกันหมด เพราะไอ้จองยงฮวาคนเดียว!"

                    "แล้วแกจะทำยังไงต่อไปล่ะ?" ชีวานถามต่อ

                    "ก็จะทำยังไงล่ะ? ยังไงฉันก็กะจะเลิกกับซึงอาอยู่แล้วส่วนกายูนก็แค่คบเล่นๆ เรื่องมันแดงขึ้นมาแบบนี้ก็ต้องทนคบยัยนั่นไปก่อนซักพักแล้วค่อยเขี่ยทิ้ง" ผมตอบเซ็งๆ

                    "แกนี่มันเลวจริงๆ ให้ตายเถอะ" ชีวานหัวเราะก่อนจะเทเบียร์เพิ่มให้ ทำเป็นพูดดี... มันก็เลวไม่น้อยไปกว่าผมหรอกครับ ได้ข่าวว่าไปทำผู้หญิงท้องเอาไว้ตั้งหลายคน เทียบกับวีรกรรมของมันแล้วผมดูเป็นผู้เป็นคนไปเลย

                    "นั่นไง แฟนใหม่แกเดินมาโน่นแล้ว" ผมมองไปตามสายตาของชีวานแล้วก็เห็นฮอกายูนเดินตรงเข้ามา เฮ้อ~ ผมชักจะเบื่อหน้ายัยนี่แล้วเหมือนกัน แต่อย่างน้อยเวลาอยู่ต่อหน้ากายูนผมก็ไม่ต้องแกล้งทำตัวเป้นสุภาพบุรุษตลอดเวลาเหมือนตอนอยู่กับซึงอา

                    "หวัดดีค่ะพี่ชีวาน ^^" กายูนนั่งลงข้างๆผมไม่ลืมที่จะสอดมือเข้ามาควงแขนแสดงความเป็นเจ้าของ

                    "สวัสดีครับ" ชีวานเพื่อนผมก้มหัวน้อยๆอย่างไว้ท่าก่อนจะหันมาสบตาผมอย่างรู้ทัน ผมดึงมือของกายูนออกก่อนจะหันไปมองการแสดงบนเวทีแก้เซ็ง

                    "อ้าว นั่นมันอีจองชินนี่นา" กายูนพูดขึ้นพร้อมกับมองไปทางมือเบสของวงที่เพิ่งขึ้นมาเล่นตะกี้ ผมไม่ได้สนใจดูเท่าไหร่ แต่ก็หน้าคุ้นๆอยู่แฮะ

                    "ใครเหรอ?" ผมถาม

                    "อีจองชินเพื่อนของคิบอมไงคะ คนที่สูงๆ ที่เป็นหัวหน้าแก็งค์ฝั่งม.ต้นของโรงเรียนเราน่ะ" กายูนตอบ

                    "หมอนั่นฉันรู้จักนะ" ชีวานพูดขึ้นมา =_= ไอ้เพื่อนบ้านี่มาสู่รู้เรื่องเพื่อนในโรงเรียนผมตั้งแต่เมื่อไหร่นะ "หมอนั่นเคยอัดเด็กในกลุ่มฉันซะยับเลย ไปสั่งสอนรุ่นน้องนายซะบ้างนะว่าให้มีมารยาทกับเพื่อนของรุ่นพี่หน่อย" วงการนักเลงนี่มันน่ากลัวจริงๆนะครับ รู้จักกันไปหมด

                    "แหม...คงจะยากล่ะค่ะพี่ชีวาน" กายูนหัวเราะขึ้นมา "ขนาดพี่ชายแท้ๆตัวเองเป็นประธานนักเรียนเค้ายังไม่ฟังเลย นับประสาอะไรกับคนที่แทบไม่รู้จักกันอย่างพี่อีจุน"

                    หืม?...พี่ชายเป็นประธานนักเรียน

                    "เดี๋ยวนะ เธอหมายความว่าหมอนี่เป็นน้องชายจองยงฮวาเหรอ?"

                    "พี่จุนนี่ก็  แฟนเก่าตัวเองเป็นคณะกรรมการนักเรียนแท้ๆ กลับไม่รู้เรื่องซะได้... ถ้าไม่ใช่เพราะมีจองยงฮวาคอยคุ้มหัวอยู่อีจองชินโดนไล่ออกไปนานแล้วล่ะค่ะ ใครๆก็รู้ว่ายงฮวารักน้องชายจะตาย ก่อเรื่องขึ้นมาทีไรก็เห็นพวกสภานักเรียนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ตลอด แต่น่าสงสารยงฮวา อุตส่าห์ทำเพื่อน้องขนาดนั้นแต่จองชินดูท่าจะเกลียดยงฮวาเข้าไส้ เรียนโรงเรียนเดียวกันแท้ๆแต่หน้ายังไม่อยากจะมองเลย" ให้ตายเถอะ! ฮอกายุนนี่มันสารานุกรมเรื่องชาวบ้านแท้ๆ แม่นี่จะรู้ทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผมเลยหรือไงนะ!

                    แต่จะว่าไปแล้ว... อีจองชินเป็นน้องชายสุดรักของจองยงฮวางั้นเหรอ...

                    "ชีวาน... ฉันมีความคิดดีๆแล้วล่ะ..."

     

     

                    "ยงฮวา ฉันโคตรรักนายเลย >_<" เอาอีกแล้วครับ... นับตั้งแต่วันนั้นที่ผมไปแฉเรื่องของอีจุน ยัยโย่งก็มาไม้นี้ทุกวัน เฮอะ! ตัวเองกลับไปซี้ปึ้กกับซึงอาแล้วนี่

                    "พอซักทีเถอะน่า =_=" ผมตอบก่อนจะเอาสมุดโน๊ตตีหัวยัยนั่นไปทีหนึ่ง

                    "ฉันขอตัวก่อนนะคะ" ซอฮยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะหอบแฟ้มงานที่กองอยู่ตรงหน้าออกไปด้วย เล่นเอาบรรยากาศเงียบลงไปถนัด เดี๋ยวนี้ผมไม่กล้าจะพูดกับเธอ ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำ นับตั้งแต่วันนั้นเธอดูเหมือนจะออกไปกับจองชินบ่อยขึ้น... ใช่สินะ เธอต้องเลือกเปียโนอยู่แล้ว...

                    "ฉันกลุ้มใจจัง..." ผมหันไปมองหน้ายัยโย่ง นึกอยากหาอะไรเขวี้ยงหัวยัยนี่อีกซักรอบ -*- คนที่พูดประโยคนั้นมันควรจะเป็นฉันนะ ไม่ใช่เธอ

                    "เกิดอะไรอีกล่ะ คราวนี้จะไปทำคู่รักคู่ไหนบอกเลิกกันอีก" ผมแขวะซูยองแล้วยัยนั่นก็หันมาทำตาเขียวปั๊ดก่อนจะถอนหายใจ

                    "ซอฮยอนน่ะสิ นายไม่สังเกตเหรอว่าพักนี้ซอฮยอนดูเงียบกว่าเดิม... เหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่าง ฉันถามคำก็ตอบคำ รู้สึกแย่ชะมัด"

                    ผมได้แต่นิ่งไป... เธออาจจะเกลียดผมจนพาลเกลียดซูยองไปด้วยรึเปล่านะ? แต่เธอดูไม่น่าจะใช่คนอย่างนั้นเลยนี่นา

                    "จะยังไงก็ช่างเถอะ ซอฮยอนก็มีจองชินอยู่แล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก จองชินทำให้ซอฮยอนยิ้มได้แน่ๆ" ผมพูดออกไป แต่คำนั้นกลับทิ่มแทงหัวใจตัวเองอย่างประหลาด ซูยองหันมามองหน้าผมเหมือนติดใจสงสัยอะไรบางอย่างแล้วจู่ๆยัยนั่นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเฉยเลยครับ =_= ให้มันได้ยังงี้สิ

                    ในเมื่อซูยองทิ้งผมไปแล้วผมก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับบ้าน ผมกลับคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้วมันเลยไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลังจากเคลียร์กองแฟ้มงานต่างๆที่ตั้งไว้บนโต๊ะกลับเข้าชั้นเสร็จเรียบร้อยผมก็หยิบกีตาร์กับกระเป๋านักเรียนแล้วเดินออกมาจากห้องประชุม โอ๊ะ! ต้องไม่ลืมล็อกห้องด้วย ผมหยิบกุญแจออกมาล็อกแล้วก็หันหลังกลับมาเจอกับใครคนหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเจอ

                    "สวัสดี ท่านประธาน" อีจุนแฟนเก่าของซึงอายืนพิงกำแพงเอามือล้วงกระเป๋าทำหน้าระรื่นรอผมอยู่...

                    "รุ่นพี่อีจุน สวัสดีครับ" ผมก้มหัวน้อยๆทักทาย ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นรุ่นพี่ของผม ถึงแม้ว่าความน่านับถือของหมอนี่จะหมดไปแล้วก็ตาม

                    "ไม่ต้องมาทำเป็นท่ามากนักหรอก" อีจุนมองผมหัวจรดเท้า ก่อนจะยิ้มขึ้นมา

                    "รุ่นพี่มีธุระอะไรกับผมกันแน่ครับ?" ผมถามเข้าประเด็น

                    "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่มาบอกไว้เฉยๆล่วงหน้า"

                    "บอกล่วงหน้า?" ผมชักสังหรณ์ใจไม่ดีซะแล้วครับ

                    "ใช่ บอกล่วงหน้า... เรื่องที่ฉันจะเอาคืนนาย"

                    "หมายความว่ารุ่นพี่จะใช้กำลังกับผม?"

                    "ถ้าเป็นเรื่องต่อยตี...นี่จะอัดคนที่สู้ไม่เป็นอย่างนายมันก็ไม่สนุกหรอกว่าไหม? จะเล่นทั้งทีมันก็น่าจะเป็นคนที่สมน้ำสมเนื้อหน่อย" ผมได้แต่ยืนนิ่งระหว่างที่อีจุนหัวเราะแล้วเดินจากไป

                    คนที่สมน้ำสมเนื้อ...? หรือว่า...

                    จองชิน!

     

     

                    "มันแปลกจริงๆด้วยแฮะ" เจสสิก้าพยักหน้าหงึกหงักกับคำพูดฉันในขณะที่ทิฟฟานี่เอามือลูบคางหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดที่ซูยองเล่า

                    "เธอก็คิดแบบนั้นใช่มั้ย ฮโยยอน... ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยว่าฉันกับยงฮวาไปทำอะไรให้ซอฮยอนโกรธ" ซูยองเอามือเท้าคางแบบเซ็งสุดขีด

                    "จองยงฮวาเพื่อนเธอที่ฉันเจอครั้งก่อนก็หน้าตาดีนะ ดูเป็นคนดีด้วย" ซันนี่พูดขึ้นมา

                    "โหย หมอนั่นเป็นเพอร์เฟคต์แมนสุดๆอ่ะ สาวๆครึ่งโรงเรียนกรี๊ดกันจะเป็นจะตาย"

                    "เดี๋ยวก่อนนะ" ทิฟฟานี่ดีดนิ้ว "เป็นไปได้ไหมว่าซอฮยอนจะชอบยงฮวาเพื่อนเธอ"

                    "เห!" ซันนี่ สิก้า ซูยอง รวมทั้งฉัน ต่างก็ทำตาโต

                    ซอฮยอนน้องเล็กของเราแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยกรี๊ดผู้ชายที่ไหนมาก่อน ไอดอลชายสักคนเธอยังไม่สนใจเลย ที่เห็นซอฮยอนชอบนอกจากจอห์นนี่ เดปป์แล้วก็มีแค่เคโรโระ จะเป็นไปได้ยังไงที่ซอฮยอนจะชอบจองยงฮวา!

                    "จริงๆนะ" ทิฟฟาไปนี่ยังคงพูดต่อ "ลองคิดดูสิ ปฏิกิริยาของซอฮยอนกับเรื่องที่เธอเล่าน่ะ ถ้าซอฮยอนชอบยงฮวาจริงๆเรื่องทุกอย่างมันก็ลงล็อกพอดี ซอฮยอนสมัครมาเป็นสภานักเรียนก็เพราะยงฮวา พอได้สนิทสนมใกล้ชิดก็ชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วน้องเล็กก็อาจจะเข้าใจผิดไปว่าเธอกับยงฮวาคบกันอยู่ เพราะช่วงหลังๆที่เธอทะเลาะกับซึงอานี่เธอก็ไปปรึกษากับยงฮวาตลอดไม่ใช่เหรอ?"

                    "งั้นที่น้องเล็กตีตัวออกห่างก็เป็นเพราะหึงฉัน?" ซูยองชี้หน้าตัวเอง

                    "ไม่หรอก คนอย่างซอฮยอนคงไม่หึงหรอก แต่อาจจะเป็นเพราะน้องเล็กพยายามตัดใจ พูดง่ายๆคือซอฮยอนยอมยกยงฮวาให้เธอน่ะ" ฟานี่ชี้แจง... ทำไมทิฟฟานี่ถึงได้เชี่ยวชาญเรื่องรักๆใคร่ๆแบบนี้นะ = =

                    "ให้ตาย! ฉันไม่ทันสังเกตเลย หลงนึกว่าซอฮยอนคบกับอีจองชินอยู่ตั้งนาน!" ซูยองยกมือตบหน้าผากก่อนจะลุกพรวดขึ้นมา "ฉันต้องไปเคลียร์กับซอฮยอนให้ได้ ไปกันเถอะสาวๆ" ว่าแล้วพวกเราห้าคนก็ออกจากร้านคอฟฟี่ชอปเตรียมตัวจะไปฐานทัพลับของเอฟคลับ แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้ไปไหน ใครบางคนก็วิ่งชนฉันเข้าอย่างจังจนฉันเซไปชนกับทิฟฟานี่

                    "ขอโทษครับ" เขาพูดออกมาอย่างรีบร้อนโดยไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ... หมอนี่หน้าคุ้นๆแฮะ

                    "ยงฮวา!" ซูยองร้องขึ้นมา แหม...พูดถึงไก่ ไก่ก็มาเลยแฮะ

                    "ซูยอง... ฉันกำลังรีบน่ะ" ยงฮวาทำท่าเหมือนจะวิ่งออกไปอีกแต่ซูยองคว้าข้อมือเขาไว้

                    "เกิดอะไรขึ้น? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงจริงจังของซูยองเหมือนจะทำให้ยงฮวาตั้งสติได้นิดหน่อย แต่ใบหน้าของเขาก็ยังฉายแววร้อนใจมากก่อนจะพูดขึ้นมา

                    "จองชิน... อีจุนจะส่งคนไปรุมทำร้ายจองชิน!"

     

     

                    แฮ่ก...แฮ่ก...

                    นี่มันบ้าอะไรกันนะ -*-

                    ผมจำหน้าเจ้าพวกนี้ได้สองสามคนว่าเคยอยู่ในกลุ่มคนที่มาลวนลามใส่นานะเมื่อครั้งก่อนที่เราไปคาราโอเกะด้วยกัน แต่เรื่องมันก็นานมาแล้วทำไมพวกนั้นถึงได้ตามมาเอาคืนผมตอนนี้นะ

                    ยังไงก็เถอะ ถึงฝ่ายนั้นจะคนเยอะกว่าแต่ผมก็ไม่ใช่กระจอกนะ ผมอัดเจ้าพวกนั้นร่วงไปหลายคนแล้วฝ่าวงล้อมวิ่งออกมาได้ อา... ผมควรจะหาที่หลบก่อนซักพัก รอจนแน่ใจว่าพวกนั้นคลาดกับผมไปแล้วแล้วค่อยกลับบ้าน หรือว่าจะโทรหาคีย์ให้เรียกรวมพลแล้วซัดกับมันให้รู้ดำรู้แดงไปเลยดีนะ?

                    "เฮ้ย! นั่นไง มันอยู่นั่น!"

                    แย่ล่ะสิ!

                    ผมออกวิ่งอีกครั้ง เริ่มรู้สึกเจ็บชายโครงแล้วแฮะ... เพราะเมื่อกี้โดนพวกมันรุมเอาหนักอยู่เหมือนกัน แถมยังเป็นตอนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวด้วย ให้ตายเถอะ พวกนี้นี่มันเดนคนจริงๆ

                    "ไม่ต้องหนีหรอก อีจองชิน"

                    ผมวิ่งมาประจันหน้ากับกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มนึงที่ดักรออยู่แล้ว ประเมินจากสายตาผม พวกที่รออยู่น่าจะมีราวๆสามสิบคน ในขณะที่กลุ่มที่ไล่ตามผมมามีเกือบสิบคนได้ ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคืออิมชีวาน... หมอนี่เป็นหัวหน้าแก็งค์จากโรงเรียนมยองซันและเป็นคู่อริกับกลุ่มของผมมาได้พักใหญ่ๆแล้ว

                    "แกมาตัวต่อตัวกับฉันดีกว่า" ผมท้าชีวาน หมอนั่นเพียงแต่ยิ้มก่อนจะก้าวออกมาข้างหน้า ไม้เบสบอลพาดอยู่ที่บ่า

                    "ฉันจะสู้กับแกให้เหนื่อยไปทำไม? ฉันไม่ได้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้นแล้วก็ไม่ได้ถือเรื่องศักดิ์ศรีด้วย สำหรับฉันที่มาก่อนคือความ สนุก และความ สะใจ"

                    ให้ตาย ไอ้หมอนี่มันจะเลวไปถึงไหนนะ -*- ผมมองไปรอบๆ พวกนั้นเริ่มล้อมวงเข้ามา หลายคนมีอาวุธในมือด้วย ส่วนมากเก้นท่อนไม้หรือไม้เบสบอล ผมไม่อยากลองหรอกนะว่ามันจะเจ็บซักแค่ไหน แต่ผมก็หาทางหนีออกไปไม่ได้เหมือนกัน

                    "อ๊ากกกกกก!!!"

                    เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง พร้อมกับที่เจ้าตัววิ่งเข้ามากระแทกกลุ่มที่ล้อมผมอยู่จนแตกฮือ นั่นเหมือนเป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้ ผมหวดหมัดเข้าใส่คนที่อยู่ใกล้ที่สุดไม่ยั้ง ก่อนจะมองหาช่องทางหนี

                    แต่สิ่งที่ผมได้เห็นกลับเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลย...

                    คนเมื่อกี้คือจองยงฮวา แล้วตอนนี้หมอนั่นก็ไม่ต่างอะไรจากกระสอบทราย เขาเหวี่ยงหมัดเปะปะไปทั่วแต่ตัวเองกลับโดนซัดเข้าตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ทำไมถึงได้ทำอะไรโง่ๆแบบนี้นะ!

                    ผมซัดพวกบ้านั่นล้มลงไปกองสี่ห้าคนก่อนจะเดินเข้าไปชกหน้าหนึ่งในพวกที่กำลังรุมยงฮวาอยู่

                    "จองชินอา... หนีไป... พี่ไม่เป็นไร"

                    "ดูสารรูปตัวเองซะก่อนที่จะพูดแบบนั้นเถอะน่า!" ผมตวาดกลับก่อนจะเหวี่ยงหมัดใส่หน้าผู้ชายอีกคน แล้วไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ก็ซัดผมเข้าที่ท้องจนจุกไปพักหนึ่ง ผมล้มลงกองกับพื้น ไอ้พวกนั้นวิ่งกรูเข้ามาแต่ผมคว้าไม้เบสบอลได้แล้วหวดใครคนหนึ่งไปเต็มแรง พวกนั้นแตกฮือออกไปเป็นวง ผมเหวี่ยงไม้ออกไปอีกรอบก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปพยุงยงฮวาให้ลุกขึ้น อิมชีวานยิ้มเยาะพวกเรา... เฮอะ ฉันจะเอาเลือดหัวแกออกมาแน่วันนี้

                    "นาย...หนีไป..." ยองฮวายังคงพูดคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ตอนนี้จะกลายเป็นเสียงกระซิบแล้วก็ตาม ให้ตายเถอะ!

                    "รู้เอาไว้ซะเลยนะว่าตอนนี้นายเป็นภาระให้ฉัน" ผมบอกยงฮวาก่อนจะยกแขนเขามาพาดคอ อีกมือหนึ่งก็กระชับไม้เบสบอลในมือแน่น

                    "พี่น้องแสดงความรักกันพอแล้วสินะ... งั้นพวกเรา ส่งมันลงนรกไปพร้อมกันเลยเป็นไง?" ชีวานหัวเราะแล้วพวกนั้นก็เริ่มก้าวเข้ามาอีกครั้ง...

                    "จองชิน!" เสียงของคนที่ผมไม่อยากให้อยู่ตรงนี้มากที่สุดดังขึ้นมา... จูฮยอน! แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร คนกลุ่มใหญ่ก็ปรากฏขึ้นข้างหลัง... คีย์ นานะ จินอุน พี่ซูยองเพื่อนของยงฮวา แล้วก็... ให้ตายเถอะ! เป็นไปไม่ได้! จีดรากอน แทยัง กับไข่มุกดำควอนยูริ!

                    "ชีวาน แกนี่มันยังโลว์คลาสเหมือนเดิมนะ" จีดรากอนถอดเสื้อนอกออกแล้วโยนไปให้เพื่อนคนหนึ่งรับไว้

                    "เฮอะ แล้วแกเป็นนักเลงผู้ดีมีคลาสมากนักรึไงถึงได้มายุ่งกับธุระของฉันน่ะ?" ชีวานโต้กลับ

                    "พวกเราก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ ถ้าธุระของนายมันไม่ใช่การมารุมอัดเพื่อนของเพื่อนฉัน" ควอนยูริหักข้อนิ้วข่มขวัญแล้วก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว คนของทั้งสองฝ่ายก็วิ่งเข้าปะทะกันเกิดเป็นสงครามย่อมๆ!

                    ณ วินาทีนี้ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือจูฮยอนอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย กลุ่มของอิมชีวานอาจจะมีจำนวนคนน้อยกว่าก็จริง แต่พวกนี้ชอบใช้อาวุธหรือไม่ก็เล่นงานด้วยวิธีสกปรก เพราะงั้นสถานการณ์นี้ถือว่าเลวร้ายที่สุด ยังไงมันต้องต้องมีคนเจ็บหนักจนได้

                    "...ผมมัวแต่มองหาซอฮยอนจนไม่ได้สนใจการต่อสู้รอบๆตัวเลย จนกระทั่งมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

                    "จองชินระวัง!!"

                    ฉึก!

                    "พี่ยงฮวา!" เสียงร้องของจูฮยอนกรีดเข้ามาในโสตประสาทของผมกับภาพของจองยงฮวาที่เข้ามาขวางมีดเอาไว้ เสื้อนักเรียนสีขาวค่อยๆมีรอยเลือดซึมออกมา เหมือนทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัด ผมค่อยๆมองใบหน้าขาวซีดของเขาก่อนที่ร่างตรงหน้าจะค่อยๆทรุดลงไป

                    "พี่ยงฮวา!"

                วินาทีนั้น เหมือนหัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น...

                    จองชินยื่นมือออกมาประคองร่างที่แทบจะไร้สติของพี่ยงฮวาเอาไว้ในขณะที่ฉันวิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ ใบหน้าของพี่ยงฮวาขาวซีดเหมือนกระดาษ มือของเขาเย็นเฉียบ

                    "จูฮยอนฉันฝากด้วยนะ" จองชินพูด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขาโกรธมากแค่ไหน แล้วก่อนที่ฉันจะทันได้เอ่ยอะไรเขาก็กระโจนเข้าไปหาผู้ชายคนที่แทงพี่ยงฮวาเมื่อกี้แล้ว

                    ฉันพยุงพี่ยงฮวาเอาไว้ พยายามพาเขาออกจากวงล้อมของการต่อสู้ แต่แค่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็ล้มลง ฉันได้แต่ประคองเขาไว้ในอ้อมกอด พยายามไม่ให้พี่ยงฮวาได้รับการกระทบกระเทือนจากการต่อสู้ที่อยู่รอบๆ

                    "จองชิน...จองชินอา..." พี่ยงฮวาพึมพำออกมา ฉันใช้มือตัวเองกดห้ามเลือดให้เขาแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล นี่ฉันควรจะทำยังไงดี?

                    "พี่คะ ได้โปรด... อย่าเป็นอะไรไปนะคะ" น้ำตาฉันเริ่มไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่... ไม่ได้นะซอจูฮยอน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาร้องไห้ เธอต้องตั้งสติสิ! โทรเรียกรถพยาบาล... ใช่ ฉันต้องเรียกรถพยาบาล แต่ว่าฉันไม่มีโทรศัพท์ติดตัว เพราะว่ารีบออกมาตามหาจองชินฉันถึงได้ลืมโทรศัพท์ไว้ที่คลับ ฉันพยายามร้องเรียกจองชิน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ส่วนคนอื่นๆ ทั้งพี่จียง พี่แทยัง พี่ยูริ พี่ซูยอง คีย์ นานะ แม้กระทั่งจินอุนก็กำลังอยู่ท่ามกลางการต่อสู้... ฉันควรจะทำยังไงดี?

                    "...ซอฮยอนอา...อย่าร้องไห้สิ" พี่ยงฮวาพูดขึ้นมา ริมฝีปากของเขาซีดขาว เสียงเบาเหมือนเสียงกระซิบ เลือดออกมากขึ้นทุกที

                    "พี่คะ... พี่ต้องอดทนไว้นะคะ"

                    "...พี่...ฝากจองชินไว้กับเธอได้ไหม?"

                    "ไม่ค่ะ! เขาเป็นน้องชายของพี่นะ อย่าพูดแบบนี้สิคะ"

                    พี่ยงฮวาเหมือนพยายามจะพูดอะไรอีกสองสามคำ แต่สุดท้ายแล้วเปลือกตาของเขาก็ปิดลง

                    "ไม่นะ! จองชิน! จองชิน!! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ใครก็ได้ ช่วยพี่ยงฮวาที!" ฉันตะโกนแทบเป็นกรีดร้อง แต่กลับไม่มีใครได้ยินเลยสักคน ได้โปรด...ใครก็ได้ช่วยพี่ยงฮวาด้วยเถอะ

                    "ซอฮยอน!" เสียงเรียกชื่อฉันดังขึ้นมา แล้วพี่ๆเอฟคลับที่เหลือก็วิ่งตรงเข้ามาโดยมีพี่ยุนอากับพี่ฮโยยอนเป็นคนเคลียร์ทางให้ พี่แทยอนกับพี่ซันนี่ตรงเข้ามาดูอาการพี่ยงฮวาทันทีส่วนพี่สิก้าและพี่ทิฟฟานี่เข้ามาบีบไหล่ฉัน

                    "รถฉันจอดรออยู่ไม่ไกล รีบพาเขาไปโรงพยาบาลเถอะ" พี่ซันนี่พูดขึ้นมาแล้วพี่ยุนอาก็เข้ามาช่วยฉันพยุงร่างที่หมดสติของพี่ยงฮวาไปทางรถของพี่ซันนี่

                    "พี่คะ... จองชิน ช่วยตามจองชินให้ที"

                    "ไม่ต้องห่วง พี่จัดการเอง" พี่แทยอนรับปากฉันก่อนจะหันไปสบตากับพี่เจสสิก้า แล้วสองคนนั้นก็วิ่งตรงเข้าไปทางจองชิน

                    "ไปเร็วเข้า" พี่ฮโยยอนเร่ง แล้วพวกเราสี่คนก็กึ่งลากกึ่งพยุงพี่ยงฮวามาที่รถได้สำเร็จ ลุงคนขับรถของพี่ซันนี่สตาร์ทรถรอไว้อยู่แล้ว ทันทีที่ประตูรถปิดลงเขาก็เหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลทันที

                    "เข้มแข็งไว้นะซอฮยอน" พี่ยุนอาบีบมือฉันเบาๆ ในขณะที่พี่ซันนี่ส่งผ้าเช็ดหน้าของพี่เค้ามาให้ฉัน

                    "เอานี่กดห้ามเลือดไว้ แล้วก็คอยประคองอย่าให้เขากระเทือนมากนะ"

                    อา... ฉันคงทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีพี่ๆ ฉันคงช่วยพี่ยงฮวาไม่ได้เลยจริงๆ...

                    "ลุงคะ ทำไมรถติดแบบนี้ล่ะคะ?" พี่ยุนอาเหลือบมองสภาพการจราจรบนท้องถนนอย่างร้อนใจ ตอนนี้รถติดจนแทบไม่ขยับเลยล่ะค่ะ ทำไมจะต้องมาเป็นเอาตอนนี้ด้วยนะ

                    "ใจเย็นๆน่า อีกนิดเดียวก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว" พี่ซันนี่พูดขึ้นมา แต่ตัวเองก็ชะเง้อคอมองออกไปข้างนอกอย่างร้อนใจไม่ต่างจากพี่ยุนอา

                    "พี่ซันนี่ ถ้าเราแบกเค้าวิ่งไปโรงพยาบาลจะเร็วกว่าไหม?"

                    "บ้าไปแล้วยุนอา -*- เธอจะแบกเค้าขึ้นหลังไหวรึไง? แล้วถ้าจะหิ้วปีกไปแบบนี้ก็คงจะกระเทือนแผลตายก่อนถึงโรงพยาบาลกันพอดี" พี่ฮโยยอนหันไปตีแขนพี่ยุนอาที่ทำหน้าบูด ฉันยกมือขึ้นแตะหน้าผากคนเจ็บ เหมือนตัวเขาจะเย็นลงทุกทีๆ

                    "ลุงคะ มีทางอื่นที่เร็วกว่านี้ไหม?" พี่ซันนี่หันไปถามลุงคนขับ

                    "ทางนี้เป็นทางที่ใกล้และเร็วที่สุดแล้วครับคุณหนู โรงพยาบาลอยู่ถัดไปแค่เลี้ยวหัวมุมถนนตรงนั้นเอง"

                    "แต่รถมันไม่ขยับเลยนะคะ" ฉันพูดออกมา

                    "ซอฮยอนอา... เรามาสวดภาวนากันเถอะ" พี่ซันนี่เอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ ฉันรู้สึกได้ว่าน้ำตาอุ่นๆไหลลงมาไม่หยุด

                    ได้โปรด... พระผู้เป็นเจ้า ช่วยคุ้มครองพี่ยงฮวาด้วยเถอะค่ะ

     

     

                ผมรีบวิ่งสุดฝีเท้า ไม่สนใจรุ่นพี่ของซอฮยอนสองคนที่วิ่งตามมาข้างหลัง

                    ไม่ได้นะ... เขาจะมาตายเพราะผมไม่ได้!

                    ให้ตายเถอะ!

                    หวังว่าจูฮยอนจะพาเขาไปถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่ทันทีที่ผมวิ่งออกมาถึงถนนใหญ่ก็รู้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ รถติดแทบไม่ขยับแบบนี้พวกนั้นไปได้ไม่ถึงไหนแน่ รุ่นพี่ผู้หญิงสองคนที่วิ่งตามผมมาหยุดหอบหายใจก่อนจะมองสภาพถนนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ

                    "แทงกู ดูนั่นสิ! รถของซันนี่!"

                    รุ่นพี่คนหนึ่งชี้มือไปทางรถตู้สีดำที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่มาก เขาคงอยู่ในรถคันนั้นสินะ แล้วผมก็ออกวิ่งไปทางนั้นโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย

                    "เปิด! เปิดประตู!" ผมทุบกระจกรถอย่างแรง จูฮยอนกับเพื่อนๆของเธอดูตกใจก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถให้ผม

                    "จองชิน!?"

                    "ฉันจะแบกเขาไปโรงพยาบาลเอง" ผมรีบพูด แล้วเพื่อนของจูฮยอนก็ช่วยพยุงยงฮวาขึ้นมาบนหลังผม ผมมองตึกสูงเสียดฟ้าที่ตั้งเรียงราย จากตรงนี้ไปอีกเกือบครึ่งกิโลกว่าจะถึงโรงพยาบาล แต่ผมต้องทำให้ได้!

                    "ระวังด้วยนะ" จูฮยอนพูดกับผม เธอยังคงร้องไห้อยู่ ทั้งใบหน้าและเสื้อนักเรียนของเธอเปรอะเลือดเต็มไปหมด ผมพยักหน้ารู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆที่เริ่มไหลซึมเข้ามาสัมผัสแผ่นหลัง ไม่มีเวลาแล้ว ผมจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้! คิดแล้วผมก็ออกวิ่งทันที...

                    อดทนไว้นะ ผมจะไม่ปล่อยให้พี่เป็นอะไรไปแน่... พี่ยงฮวา

     

     

                ความรู้สึกแรกของผมคือ... เจ็บ...

                    อา... ผมอยู่ที่ไหนกันนะ? ทำไมเปลือกตาถึงได้หนักอย่างนี้ ร่ายกายของผมชาไปหมดเลย เกิดอะไรขึ้นกับผมเนี่ย?

                    แล้วความทรงจำก็ค่อยๆ ไหลกลับเข้ามาสู่สมอง...

                    จองชิน!

                    ผมลืมตาขึ้นก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่แค่เกร็งกล้ามเนื้อเพื่อจะยันตัวเองขึ้นมา ทุกส่วนในร่างกายผมก็เจ็บเหมือนโดนกรีดจนผมต้องร้องออกมา

                    "ไอ้เตี้ยเอ๊ย นายนี่มันโง่จริงๆ จะลุกขึ้นมาทำไม" เสียงคุ้นหูของใครคนหนึ่งดังขึ้น ผมกระพริบตาถี่ๆ... ให้ตายสิ มันเจ็บจนตาพร่าเลยนะครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็หันไปมองคนพูด... ยัยโย่งซูยอง

                    "ซูยอง... หน้าเธอ?" หน้าของซูยองมีทั้งรอยช้ำรอยข่วน เสื้อผ้าก็ยับเยินเหมือนไปฟัดกับใครที่ไหนมายังงั้นแหละ... ไม่ใช่แค่ซูยอง ที่โซฟาตรงนั้นจินอุน นานะและคีย์นั่งหลับกันอยู่ เสื้อผ้าหน้าตายับเยินไม่น้อยไปกว่าซูยอง แล้วก็มีใครอีกสองคนข้างๆเตียงผม ซอฮยอนหนุนแขนตัวเองต่างหมอน มือข้างหนึ่งของเธอกุมมือผมไว้ ส่วนอีกฝั่งของเตียง เป็นคนที่ผมไม่อยากจะเชื่อสายตามากที่สุด... จองชิน

                    "อือ..." จองชินส่งเสียงครางออกมาเบาๆแต่เขายังไม่ตื่น ผมได้แต่มองเขา มองสภาพยับเยินของน้องชาย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าที่ฟกช้ำ เสื้อเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะปลอดภัยดี ไม่ได้บาดเจ็บอะไร

                    "ทำตัวเป็นพระเอกจริงๆนะ นายน่ะ" ซูยองยิ้มให้ผม

                    "เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?" ผมถามเสียงเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบเพราะไม่อยากปลุกน้องๆให้ตื่นขึ้นมา ซูยองลากเก้าอี้มานั่งลงตรงปลายเตียง

                    "นายโชคดีมากนะที่วิ่งมาชนเพื่อนฉัน... หลังจากที่นายบอกฉันเรื่องอีจุนส่งคนมาทำร้ายจองชิน ฉันก็รีบโทรบอกพวกจินอุนให้มาช่วย คีย์กับนานะก็เลยไประดมพลคนในแก็งค์มาตามหานายสองคน ส่วนฉันก็ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนฉัน ไข่มุกดำควอนยูริ แล้วก็พี่จีดรากอนให้มาช่วยเป็นกองหนุนอีกที... รู้มั้ยว่าอิมชีวานพาพวกมาเกือบสามสิบคนเพื่อจัดการจองชินคนเดียว ถ้าไม่ได้ยูริกับพี่จียง นายกับน้องชายของนายเละเป็นโจ๊กแน่"

                    "แล้วเธอไปรู้จักควอนยูริกับจีดรากอนตั้งแต่เมื่อไหร่? =__="

                    "เออ... ไม่ต้องรู้หรอก เรื่องนั้น" ซูยองรีบปิดประเด็นทันที "แล้วก็... ฉันคงต้องบอกนายว่า นายเป็นหนี้บุญคุณจองชินอย่างใหญ่หลวงเลยล่ะ"

                    "เห?"

                    ซูยองยิ้มออกมาก่อนจะมองไปทางจองชินที่ยังหลับสนิท "ถึงนายจะเอาตัวเองเข้าไปปกป้องจองชินไว้ แต่จองชินเป็นคนแบกนายวิ่งมาถึงโรงพยาบาล แล้วก็ตอนมาถึงนี่นายเสียเลือดมากจนเกือบจะตายอยู่แล้ว... เป็นจองชินอีกนั่นแหละที่บังคับให้หมอยอมให้เขาบริจาคเลือดให้นาย ทีแรกไม่มีใครยอมเพราะว่าจองชินเองก็บาดเจ็บเหมือนกัน แต่น้องนายอาละวาดจนโรงพยาบาลแทบแตก เกือบจะเอามีดกรีดข้อมือตัวเองรองเลือดมาให้นายอยู่แล้วเชียว" ซูยองหัวเราะออกมา "รู้มั้ยว่าเขาตะโกนลั่นโรงพยาบาลเลย 'นั่นพี่ชายผม ผมไม่ปล่อยให้เขาตายหรอกนะ ถ้าหมอไม่ทำผมจะทำเอง' "

                    "จองชินเรียกฉันว่าพี่ชายเหรอ?" หัวใจผมพองโตเมื่อได้ยินคำนั้น

                    "ไว้รอถามจากเขาตอนตื่นขึ้นมาก็แล้วกัน ^^" ซูยองตอบ "แล้วฉันก็มีอีกเรื่องที่อยากจะถามนาย..."

                    "ว่ามาสิ"

                    "นาย... เอาจริงๆเลยนะ... นายคิดอะไรกับฉันรึเปล่า = ="

                    ผมแทบสำลักอากาศ ก่อนจะมองหน้าซูยองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ยัยนี่โดนใครฟาดหัวมารึเปล่า? หรือว่าโดนใครต่อยหนักมากเกิน ทำไมจู่ๆถึงได้ถามอะไรแบบนี้

                    "ตอบมาเซ่ เร็วๆ ฉันอึดอัดนะโว้ย!"

                    "ก็... เอ่อ ...แบบว่ายังไงดีล่ะ... เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ถึงเราจะไม่ได้เรียนห้องเดียวกันแต่ฉันก็สนิทกับเธอที่สุดนะ"

                    "นายคิดกับฉัน แค่เพื่อน ใช่ไหม?"

                    "เอ่อ... ก็ใช่... อย่าบอกนะว่าเธอชอบฉันน่ะ"

                    "เฮ้อ~ โล่งอกไปที ฉันรู้ตัวนะว่าฉันทั้งสวยน่ารักมีสเน่ห์ แต่ก็กะไว้แล้วล่ะว่านายคงตาไม่ถึงหรอก" ดูคุณเธอพูดเข้า น่าหมั่นไส้ชะมัดเลยครับ

                    "เออ ขอโทษนะครับที่ผมตาไม่ถึง" ผมประชดในขณะที่ซูยองยิ้มกว้าง

                    "พูดกันตรงๆเลยนะ ฉันแค่อยากจะถามให้แน่ใจเท่านั้นแหละ ฉันรู้ว่าระหว่างฉันกับนาย เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด เข้าใจกันมากที่สุด และมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง... ขอบคุณที่นายดูแลเอาใจใส่และเคียงข้างและให้ความสำคัญกับฉันตลอดมานะ ^^" ซูยองยิ้มก่อนจะมองไปทางซอฮยอนที่ยังคงหลับสนิท

                    "แต่ตอนนี้... นายต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับ 'ใครบางคน' ที่อยู่ในใจนายด้วย บอกไว้ก่อนว่าน้องฉันน่ะเนื้อหอมนะ ถ้าพลาดไปแล้วมาเสียใจที่หลัง แม่จะหัวเราะเยาะให้"

                    ผมหัวเราะไปกับคำพูดของซูยองก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ แต่ผมรู้ว่าถ้าหากผมต้องอกหักจริงๆ เพื่อนผมคนนี้จะเป็นคนแรกที่เข้ามายืนเคียงข้าง เหมือนอย่างที่ผมจะทำในเวลาที่เธอต้องการใครสักคน

                    ขอบใจนะ...ซูยอง

     

     

                ฉันก้าวเข้ามาในโรงเรียน...ก่อนจะถอนหายใจ

                    ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ จากเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่พวกเรามีเรื่องกัน... อืม... พี่ยงฮวายังคงอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ ไม่รู้ว่าพี่ยงฮวารู้รึเปล่าว่าตลอดคืนนั้นฉันนั่งเฝ้าพี่เค้าอยู่ข้างเตียงโดยจับมือเค้าไว้ตลอด แต่ว่าตอนฉันตื่นมา พี่เค้าหลับอยู่คงไม่รู้หรอกมั้ง?

                    ~ตี๊ด ตี่ ดิ๊ด ตี่ ตี~

                    สายที่โทรเข้ามาเป็นจองชิน

                    "ฮัลโหล จูฮยอนอา" เสียงเขาดูเพลียๆยังไงไม่รู้ค่ะ

                    "จองชิน เธอเป็นยังไงบ้าง?" ตั้งแต่วันนั้นคนที่เจ็บหนักที่สุดรองจากพี่ยงฮวาที่โดนแทงก็เป็นจองชินนี่แหละค่ะ แต่เขายังอุตส่าห์ยอมถ่ายเลือดไปให้พี่ยงฮวาจนถึงขีดจำกัดที่ร่างกายจะรับได้

                    "ฉันโทรมาขอบคุณเธอ..."

                    "ขอบคุณเรื่องอะไรกัน?"

                    "ขอบคุณที่วันนั้นเธอกับเพื่อนๆของเธอ รุ่นพี่ควอนยูริ กับรุ่นพี่จีดรากอนตามมาช่วยฉัน" จองชินเงียบไปพักหนึ่ง "แล้วก็ขอบคุณ... เรื่องที่เราเคยคุยกันวันนั้น"

                    "เรื่องอะไรเหรอ?" ฉันถามออกไป

                    "เรื่องของพี่ชาย... ที่ผ่านมา ฉันเหมือนเป็นเด็กขี้ขลาดเอาแต่ใจ ฉันคิดแต่ว่าไม่อยากโดนเปรียบเทียบเพราะมีพี่ชาย ฉันกลัวว่าเขาจะมาแย่งความรักของพ่อไปจากฉัน ฉันกลัวว่าทุกคนจะหาว่าฉันอ่อนแอถ้าฉันยอมรับการช่วยเหลือจากเขา แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นจริงอย่างที่เธอพูด... การเป็น 'น้องเล็ก' ที่มีพี่คอยดูแลเนี่ยมันดีจริงๆ และฉันโชคดีจริงๆที่มีพี่ชายอย่างพี่ยงฮวา ^^"

                    ฉันยิ้มกับคำพูดของเขา

                    "แล้ว... พี่ยงฮวาเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?"

                    "เมื่อเช้ารู้สึกตัวแล้วล่ะ บ่นว่าเจ็บแผลนิดหน่อย เขาไม่ได้โดนแทงตรงจุดสำคัญถึงจะเสียเลือดไปเยอะแต่ว่าหลังจากนี้ก็แค่พักผ่อนมากๆ รอให้แผลหายสนิทก็กลับไปเรียนได้เหมือนเดิมแล้ว"

                    "โล่งอกไปทีนะ" ฉันพูดออกมา ดีแล้วล่ะที่พี่ยงฮวาไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้...

                    "...นี่จูฮยอน"

                    "หืม?"

                    "...เธอยังเจ็บนิ้วอยู่รึเปล่า?" จองชินถามขณะที่ฉันยกมือตัวเองขึ้นมา ปลายนิ้วด้านไปหมดแล้วเพราะโดนสายกีตาร์บาด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี...

                    "ไม่เจ็บแล้วล่ะ ทำไมเหรอ?"

                    "ฉันคิดว่า... เธอน่าจะกลับไปหัดเล่นกีตาร์ดูนะ แล้วถ้าเกิดเบื่อกีตาร์เมื่อไหร่ค่อยกลับมาเล่นเปียโนก็ได้" ฉันยิ้มออกมากับคำพูดของเขา... เข้าใจดีว่าเขาหมายถึงอะไร จองชินเป็นแบบนี้เสมอ แล้วฉันก็มักจะทำให้เขาเจ็บปวดโดยไม่รู้ตัวทั้งๆที่เขาดีกับฉันขนาดนี้

                    "ขอบใจนะ ฉันต้องไปเรียนแล้วล่ะจ้ะ"

                    "อื้อ ฝากบอกพวกจินอุนด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไว้เจอกัน ^^"

                    "ไว้ฉันจะไปเยี่ยมนะ" ฉันบอกลาจองชินก่อนจะกดวางสายไป ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปในอาคารเรียนเสียงประกาศเรียกพบคณะกรรมการก็ดังขึ้นซะก่อน... เป็นเพราะเรื่องเมื่อวันศุกร์สินะ... งานนี้แย่แน่ๆเลย

                    ฉันถอนหายใจก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องอาจารย์ฝ่ายปกครอง... นั่นไง อยู่กันพร้อมหน้าเลย ทั้งคีย์ นานะ จินอุน พี่ซูยอง และพี่ซึงอา จะขาดก็แต่พี่ยงฮวากับจองชินเท่านั้นเอง...

                    "สวัสดีค่ะ" ฉันเดินเข้าไปโค้งให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง และอาจารย์ปาร์คกาฮีที่นั่งรออยู่

                    "มากันครบแล้วสินะ?... เอาล่ะ ครูว่าพวกเธอคงรู้สาเหตุที่โดนเรียกตัวมาที่นี่แล้วใช่ไหม?"

                    "ค่ะ" พี่ซูยองตอบโดยไม่กล้าสบตาอาจารย์ ใครๆก็รู้ว่าอาจารย์ปาร์คกาฮีแห่งฝ่ายปกครองขึ้นชื่อเรื่องความโหด เธอทั้งสวย ทั้งฉลาด แต่ก็เฮี้ยบชนิดที่แม้แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยังไม่กล้าขัดเลยค่ะ

                    "ครูจะย้ำอีกทีแล้วกัน... เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทางโรงเรียนได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนในโรงเรียนเราเข้าไปพัวพันกับการทะเลาะวิวาท จองยงฮวา ชเวซูยอง จองจินอุน คิมคิบอม อิมจินอา และ...แม้แต่เธอก็ด้วย ซอจูฮยอน"

                    "อาจารย์คะ แต่ซอฮยอนไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ! เธอไม่ได้แตะต้องใครเลยแม้แต่ปลายของปลายเล็บก็ไม่ได้ทำค่ะ!"

                    "เงียบไปเลย อิมจินอา" เจอสายตาของอาจารย์กาฮีเข้าไป นานะถึงกับตัวลีบเลยค่ะ "แค่พวกเธอไปปรากฏตัวท่ามกลางการทะเลาะวิวาทในเครื่องแบบนักเรียน แค่นี้มันก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้โดนไล่ออกได้แล้ว"

                    "แต่ผมกับนานะไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบนะครับ" คีย์เถียง

                    "แต่เธอก็ไปมีเรื่องชกต่อยกับเค้าใช่ไหมล่ะ?" นั่นไง โดนสายตาพิฆาตเข้าไปอีกคน

                    "อาจารย์คะ" พี่ซูยองพูดขึ้น "เรื่องนี้เป็นความผิดของหนูเองค่ะ ทั้งคีย์ นานะ ซอฮยอน แล้วก็จินอุนทำไปเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น แล้วเรื่องนี้พวกเราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มด้วยค่ะ"

                    "แต่ถึงยังไงสิ่งที่พวกเธอทำก็ถือว่าผิดกฏโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการสภานักเรียนตั้งสี่คนเป็นคนทำความผิดซะเอง ให้ตายเถอะ! ครูที่เป็นที่ปรึกษาสภานักเรียนแทบจะโดนรองผู้อำนวยการถอนหงอกอยู่แล้วรู้ไหม? -*-" ครูกาฮีเริ่มบ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมา

                    "แต่ครูก็ยังไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอคะ? ^^" นานะยิ้มอ้อน

                    "ถ้าฉันจะเป็นอะไร ฉันตีเธอคนแรกแน่อิมจินอา" ครูหรี่ตาลง แต่พวกเราก็โล่งอกมากขึ้นที่ครูพูดกับเราแบบสนิทสนม... อาจารยก์กาฮีถึงจะเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองแต่ก็เอ็นดูนานะกับคีย์ค่ะ ถึงแม้สองคนนี้กับจองชินจะมีเรื่องให้ต้องเข้าห้องปกครองบ่อยๆก็ตาม แต่อาจารย์ก็มักจะช่วยไม่ให้ต้องโดนทัณฑ์บนหรือโทษหนัก บางทีก็รวมหัวกับพี่ยงฮวาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ได้รับรายงาน เพราะแบบนี้แหละค่ะจองชินถึงได้ยังอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป

                    "ยังไงก็แล้วแต่ เรื่องคราวนี้พวกเธอต้องโดนทำโทษ"

                    "โหย แต่ครูครับ ครูก็รู้ว่าเราไม่ผิด" จินอุนเริ่มประท้วงบ้าง

                    "เงียบไปเลยฉันยังพูดไม่จบ" จินอุนตัวลีบลงเหลือสองนิ้วทันทีเลยค่ะ "โชคดีของพวกเธอที่มีคนแจ้งมาเหมือนกันว่าต้นเหตุการทะเลาะวิวาทครั้งนี้เป็นเพราะมีคนตั้งใจรุมทำร้ายนักเรียนของเรา คืออีจองชิน เพราะฉะนั้นในกรณีของจองชินถือว่าครั้งนี้รอดตัวไป..." พวกเราถอนหายใจออกมา

                    "...แต่พวกเธอ... รวมทั้งจองยงฮวา ต้องรับผิดชอบ"

                    "ครูคะ ยงฮวาเป็นฝ่ายโดนทำร้ายนี่คะ? แล้วเรื่องนี้ทุกฝ่ายก็เห็นได้ชัดเจนด้วย" รุ่นพี่ซึงอาท้วงขึ้นมา

                    "อืม แต่เมื่อเช้าเขาโทรเข้ามาหาครูแล้วก็ขอร่วมรับผิดชอบเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทครั้งนี้ เพราะเขายืนกรานอย่างนั้นครูเลยต้องลงโทษเขาด้วย ดังนั้นครูจะให้ยงฮวาพักการเรียนสองสัปดาห์พร้อมกับปลดเขาลงจากตำแหน่งประธานนักเรียนชั่วคราวจนกว่าเขาจะกลับมาเรียนได้อีกครั้ง"

                    "= = ครูครับ นั่นเรียกลงโทษแล้วเหรอ?" จริงสิ เพราะยังไงพี่ยงฮวาก็ต้องขอลาป่วยเพื่อรักษาตัวสองอาทิตย์อยู่แล้ว แล้วก็คงจะไม่ได้มาทำหน้าที่ประธานนักเรียนจนกว่าจะกลับมานั่นแหละ แต่ครูกาฮีก็ยิ้มแบบมีเลศนัย

                    "หรือไม่ดี?" พวกเราทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับบทลงโทษทันทีเลยค่ะ

                    "ส่วนเธอ ชเวซูยอง จองจินอุน ซอจูฮยอน พวกเธอจะถูกปลดจากตำแหน่งชั่วคราวเหมือนกันจนกว่ายงฮวาจะกลับมา แล้วก็ต้องโดนกักบริเวณสองอาทิตย์ด้วย" พี่ซูยองทำหน้าบูดแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร "เธอสองคน" คราวนี้เป็นคิวของคีย์และนานะ "พักการเรียนสามวัน แล้วกักบริเวณสองสัปดาห์เหมือนกัน"

                    คีย์กับนานะมีท่าทางโล่งอกขึ้นมาทันที คำสั่งพักการเรียนของอาจารย์ก็ไม่ต่างจากให้ไปนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านนั่นแหละค่ะ

                    "แล้วก็ระหว่างที่ซูยองและยงฮวาถูกปลดจากตำแหน่ง ฉันจะให้โอซึงอาเป็นรักษาการณ์ชั่วคราวนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" ครูกาฮียิ้มหวานส่งให้พี่ซึงอาที่มีท่าทางแปลกใจนิดหน่อย

                    "ตั้งแต่วันนี้เลยเหรอคะ?"

                    "ตั้งแต่วินาทีนี้เลยล่ะ"

                    "ถ้างั้น... ก็มีอำนาจเทียบเท่ากับประธานนักเรียน"

                    "ใช่แล้ว"

                    พี่ซูยองกับพี่ซึงอามองหน้ากระพริบตาปริบๆ ก่อนที่พี่ซึงอาจะยิ้มออกมา

                    "งั้นในฐานะรักษาการณ์หนูมีเรื่องที่ต้องทำเป็นอย่างแรกแล้วล่ะค่ะ"

     

     

                "หา! ร้อยรอบเลยเหรอ?" รุ่นพี่อีจุนทำท่าเหมือนจะเป็นลมให้ได้ซะตรงนั้นหลังจากได้ฟังคำสั่งของพี่ซึงอา

                    "ใช่ นายต้องกระโดดกบรอบสนามร้อยรอบ และนายต้องทำ เดี๋ยวนี้" สายตาของพี่ซึงอาข่มขวัญสุดๆ บ่งบอกว่าที่พูดนี่เอาจริง

                    "ไม่เอาน่าซึงอา มีเหตุผลอะไร--"

                    "สิบรอบสำหรับการที่นายนอกใจฉัน สิบรอบสำหรับน้ำตาที่ฉันเสียไป สิบรอบสำหรับการที่นายกล้าดีมาทำให้ฉันกับซูยองทะเลาะกัน สิบรอบสำหรับการที่นายส่งเพื่อนของนายไปรุมทำร้ายจองชิน สิบรอบสำหรับการเป็นคนหน้าด้านไม่ยอมรับความผิด และอีก ห้าสิบรอบสำหรับความสะใจของฉันและเพื่อนๆ เริ่มเดี๋ยวนี้ อีจุน!"

                    รุ่นพี่อีจุนถึงกับผงะ แต่เพราะเป็นคำสั่งลงโทษของ รักษาการณ์ประธานนักเรียนพี่เค้าถึงขัดไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องนั่งลงแล้วเริ่มกระโดดกบไปรอบๆสนามโดยมีพี่ซึงอาคอยคุมอยู่ไม่ห่าง

                    ฉัน คีย์ นานะ และจินอุนได้แต่ยืนมองตาปริบๆ

                    "ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ซึงอาจะโหดขนาดนี้ = =" นานะพูดออกมา

                    "ขอให้ไปสู่สุคตินะครับรุ่นพี่อีจุน" คีย์ว่า ก่อนจะหันไปหัวเราะกับนานะและจินอุน ฉันเองก็อดขำไปด้วยไม่ได้ พวกเราทั้งสี่คนหันหลังกลับเดินเข้ามาในอาคารเรียน นักเรียนคนอื่นๆกำลังดูการลงโทษพี่อีจุนอย่างสนอกสนใจ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสงสารพี่เค้าซักคน แม้แต่รุ่นพี่ฮอกายูนก็ดูเหมือนจะอายมากกว่าจะเป็นห่วงแฟนของตัวเองด้วยซ้ำ

                    ฉันมุ่งหน้าตรงไปทางห้องเรียนกับเพื่อนๆ แต่พี่ซูยองกลับยืนรออยู่หน้าห้องของพวกเราแล้ว พี่เค้ายิ้มให้ฉันก่อนจะหันไปพูดกับคีย์นานะและจินอุน

                    "พี่ขอยืมตัวซอฮยอนซักแปบนะ"

                    "อย่านานนะครับพี่ เดี๋ยวจะหมดพักกลางวันแล้ว" จินอุนกำชับแต่ก็ลากนานะและคีย์เข้าไปนั่งรอในห้องเรียนแต่โดยดี

                    พี่ซูยองทำเสียงจิ๊จ๊ะให้เขานิดหนึ่งก่อนจะลากข้อมือฉันออกเดิน

                    "พี่จะพาฉันไปไหนคะ?"

                    "พี่ต้องการที่เงียบๆคุยกับเธอ" พี่ซูยองตอบ อา...พี่เค้ากำลังพาฉันไปห้องสภานักเรียนนี่เอง

                    "เอาล่ะ" พี่ซูยองปิดประตูตามหลังแล้วลากเก้าอี้มาให้ฉันนั่ง... อืม ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องวันนั้นฉันเองก็ยังไม่ได้คุยกับพี่ซูยองตรงๆเลยเหมือนกัน

                    "ซอฮยอนอา..." พี่ซูยองถอนหายใจก่อนจะสบตากับฉันตรงๆ "ที่พี่เรียกเธอมานี่ เพราะว่าพี่อยากจะขอโทษ..."

                    "ขอโทษ? พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อยนี่คะ?"

                    "ทำสิ... พี่ทำให้เธอเสียใจ... เรื่องยงฮวา" หัวใจของฉันเจ็บแปลบขึ้นมา ที่แท้พี่เค้าก็อยากจะคุยกับฉันเรื่องนี้นี่เอง

                    "ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงก็...ยินดีด้วยนะคะที่คบกับรุ่นพี่ยงฮวา" ฉันพูดออกไป แล้วแทบจะในทันที พี่ซูยองก็ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเอง

                    "ให้ตายสิ เป็นอย่างที่ฟานี่พูดเป๊ะเลย!" พี่ฟานี่? พี่ฟานี่พูดอะไรไว้กันนะ = =

                    "ซอฮยอน ฟังพี่นะ..." พี่ซูยองเปลี่ยนโหมดมาเป็นจริงจังสุดๆ "พี่กับยงฮวาไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้ชอบกัน เข้าใจไหม? พี่ไม่ได้ชอบไอ้เตี้ยนั่นแล้วเขาก็ไม่ได้ชอบพี่ด้วย เราสองคนเป็นแค่เพื่อน อาจจะสนิทกันมากไปหน่อยแต่ก็นะ..." พี่ซูยองถอนหายใจอีกรอบแล้วยิ้มให้ฉัน

                    "พี่น่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้เรื่องที่เธอชอบยงฮวา... แต่มันเป็นความผิดของพี่เอง พี่มัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองจนกระทั่งไม่รู้เลยว่าเธอคิดยังไงกับเขา แถมยังทำให้ยงฮวาต้องมาเดือดร้อนเพราะมาช่วยพี่อีก... พี่เป็นพี่สาวที่แย่จริงๆ เทียบกับยงฮวาไม่ได้เลย..."

                    "ไม่จริงนะคะ!" ฉันรีบพูดขัดขึ้นมา "เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถ้าหากว่าพี่ไม่ได้ไปช่วยพี่ยงฮวากับจองชิน...ถ้าหากว่ามีแต่ฉันที่อยู่ตรงนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ฉันเองแค่คนเดียวก็คงจะทำอะไรไม่ได้ แต่เพราะฉันมีพี่สาวที่น่ารักตั้งแปดคนคอยช่วยเหลือฉันในทุกๆเรื่อง ฉันถึงได้มีวันนี้ ขอบคุณนะคะ พี่ซูยอง"

                    แทนคำพูดทั้งหมด พี่ซูยองก็เข้ามากอดฉัน... อ้อมกอดที่อบอุ่นของพี่สาวที่มีให้กับน้องสาวอย่างฉัน เหมือนว่าพี่ซูยองจะร้องไห้นิดหน่อย แต่พี่ค้าก็ขยี้ผมฉันอย่างเอ็นดู

                    "เธอจะเป็นน้องสาวคนเล็กของพวกเราตลอดไปนะ ซอฮยอน"

                    "ค่ะ" ฉันยิ้มกว้างส่งให้พี่สาว... รู้สึกเหมือนช่องว่างที่เคยมีถูกเติมเต็มด้วยคำพูดเมื่อครู่

                    "แล้วตอนนี้พี่ก็มีของขวัญให้น้องสาวของพี่ด้วย" พี่ซูยองพูดขึ้นพร้อมๆกับที่ประตูเปิดออก... พี่ยงฮวานั่งอยู่บนรถเข็นที่จองชินเป็นคนเข็นเข้ามา

                    "พี่ยงฮวา! ไม่เป็นไรแล้วเหรอคะ?"

                    "พี่ซูยองครับ เราไปกันเถอะ อย่าอยู่เป็น กขค.เลย จูฮยอน ฉันฝาก พี่ชายด้วยนะ ^^" จองชินพูดกับฉันแล้วเขากับพี่ซูยองก็กอดคอกันเดินออกไปทิ้งให้ฉันอยู่กับพี่ยงฮวาแค่สองคน

                    "พี่เตี๊ยมกับสองคนนั้นไว้แล้วใช่ไหมคะ?"

                    "อ่า... สองคนนั้นเตี๊ยมกันเองมากกว่า พี่ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน... แต่ไหนๆแล้วก็เล่นไปตามบทดีกว่านะ" รอยยิ้มอบอุ่นของเค้าทำให้หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นมาอีกแล้วค่ะ พี่ยงฮวาเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้

                    "ซอจูฮยอน... พี่มองแค่เธอมาตลอด และจะมองแค่เธอคนเดียวจากนี้ตลอดไป... พี่ชอบเธอ"

     

     

                "แล้ว...?" เจสสิก้าเลิกคิ้วถามเป็นเชิงรอฟัง ตอนนี้พวกเราแปดคนกำลังสุมหัวอยู่ในคลับโดยปราศจากน้องเล็กซอฮยอนค่ะ

                    "หมอนั่นก็สารภาพรักไง" ฉันตอบ

                    "แล้วน้องเล็กว่ายังไงบ้าง?" ยูริถามต่อ แหม... เรื่องชีวิตรักของน้องเล็กนี่สนอกสนใจกันเหลือเกินนะ

                    "...หึๆ..."

                    "เล่ามาสิยะ! คนกำลังอยากรู้ -*-" ซันนี่เริ่มจะวีนแล้วค่ะ

                    "ซอฮยอนปฏิเสธไปน่ะสิ"

                    "อะไรนะ!"

                    ทุกคนประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน นั่นไงล่ะ... กะแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้ ตอนฉันฟังยงฮวาเล่าก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ

     

                    "ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้สึกดีๆของพี่ ฉันเองก็ชอบแล้วก็ชื่นชมพี่มากเหมือนกัน... แต่ว่าในสองสามอาทิตย์หลังๆนี้ฉันได้ลองไปคิดทบทวนกับตัวเองดูแล้วก็รู้สึกว่าฉันเองยังเป็นนักเรียนอยู่ ควรจะทุ่มเทให้กับการเรียนก่อนความรัก เพราะยังงั้น...ขอโทษด้วยนะคะ"

     

                "ซอฮยอนเค้าพูดแบบนั้นล่ะ"

                    "ให้ตายสิ สมกับเป็นน้องเล็กจริงๆ" ฟานี่หัวเราะขึ้นมาในขณะที่ทุกคนทำหน้าซังกะตายแบบผิดหวังสุดๆ

                    "สวัสดีค่ะ ^^ คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ?" พูดถึงน้องเล็กน้องเล็กก็มาค่ะ แหม... หน้าตางี้สดใสมาเชียว น่าหมั่นไส้สุดๆ

                    "ทำไมมาซะเย็นเลยล่ะ ไปทำอะไรมาเหรอ?" แทงกูถาม น้องเล็กชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะหน้าแดงขึ้นมานิดๆ

                    "เอ่อ... ฉันไปเรียนกีตาร์มาน่ะค่ะ"

                    พวกเราทุกคนเงียบแล้วก็สบตากันเป็นนัยๆก่อนที่ซันนี่จะพูดขึ้นมา

                    "อ้อ... การเรียนที่ว่านี่คือเรียนวิธีเล่นกีตาร์นี่เองสินะ" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนสอนมันเป็นใคร โธ่! ซอฮยอนเอ๊ย

                    "พี่คะ!" ซอฮยอนตอนนี้หน้าแดงไปถึงหูก่อนจะวิ่งไล่ตีฉันกับซันนี่ท่ามกลางเสียงหัวเราะของสาวๆเอฟคลับคนอื่นๆ

                    มันต่างกับมีแฟนตรงไหนกันนะซอฮยอน!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×