ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fic แปล Heart of Ice (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5: Gotta Love Hogwarts!

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 52


    Chapter 5: Gotta Love Hogwarts!

     

                แฮร์รี่! รอน!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องตะโกน  และรีบวิ่งเข้าไปกระโดดกอดพวกเขาทั้งคู่ด้วยความดีใจ  หน้าของรอนเปลี่ยนเป็นสีแดงแบบพวกวีสลีย์อย่างเห็นได้ชัด


                “รอน! นายไม่เป็นไรใช่ไหม  นายดูหน้าแดงนิดๆนะ แฮร์รี่ล้อเลียนเขาและยิ้มกว้าง รอนจ้องไปที่แฮร์รี่เป็นเชิงขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเหตุให้แฮร์รี่ต้องปล่อยเสียงหัวเราะคิกคักออกมา   เฮอร์ไมโอนี่มองคนทั้งสองอย่างสำรวจ เธอหันไปมองรอนและหัวเราะกับอาการนั้น แม้ว่ารอนจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอแล้วก็จริงอยู่ แต่เขายังคงไม่อาจจะรับกอดจากผู้หญิงคนไหนได้ โดยที่ไม่หน้าแดงอย่างรุนแรง มันเป็นคำสาปของบ้านวีสลีย์โดยแท้ เธอคิดอย่างนั้น

    ดีใจที่ได้เจอพวกนายทั้งคู่!” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอยิ้มกว้างจนเกือบจะถึงหู  และแทบจะในทันที สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อเธอเหมือนจะจดจำบางอย่างที่น่าขุ่นเคืองได้...

    พวกเธอเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้เลยนะ แฮร์รี่ รอน !” เธอเริ่มพูดอย่างไม่แยแส และมุ่งหน้าไปยังชานชะลา

    เธอสองคนคงยุ่งมากสินะในโรมาเนีย จดหมายหนึ่งฉบับ!  ที่พวกเธอส่งมาให้ฉัน มันแทบจะไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากมายนัก... เธอพูดเกริ่นพร้อมกับชำเลืองมองบริเวณทั้งสองด้าน เพื่อแน่ใจว่าไม่มีมักเกิ้ลคนใดมองเธออยู่ จากนั้นจึงเดินผ่านกำแพงที่กั้นระหว่างชานชะลาที่เก้า และ สิบ  เมื่อเธอเข้าไปแล้ว แฮร์รี่และรอนจึงรีบตามเข้าไปโดยเร็ว

    เรายิ่งกว่ายุ่งเสียอีก ไมโอนี่!  มันเจ๋งสุดๆ รอนพูดพล่ามอย่างเต็มที่ด้วยความสนุกสนาน

    พวกมังกร คือ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น! เราทำหลายอย่าง มากกว่าการได้ขี่มันเสียอีก โอ้! และเราเห็นเจ้านอร์เบิร์กด้วย! น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ไปด้วย ไมโอนี่ ขณะที่รอนพูดแฮร์รี่ชำเลืองสายตาไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เขารับรู้ได้ถึงสีหน้า ที่แสดงถึงความโกรธของเฮอร์ไมโอนี่ 

    เจ้าพวกนั้นมันค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว แฮร์รี่หยักไหล่คล้ายกับไม่มีอะไร เขาต้องการให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็ว และต้องขอบคุณที่มันจบลงจริงๆเมื่อรอนเริ่มพล่ามเกี่ยวกับร้านใหม่ของ คู่แฝดวีสลีย์ ว่ามันดีมากแค่ไหน...

     

                รถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ รอนกำลังกินขนมรุ่นใหม่ล่าสุดของ เฟร็ดกับจอร์จที่มีชื่อว่า แฮร์รี่ เบอร์รี่ ในถุงอย่างตะกละตะกามและมีความสุขซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าเคราสีบานเย็นน่าเกลียดกำลังงอกขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งกำลังสนใจหนังสือเล่มใหม่ของเธออย่างจดจ่อ มันมีชื่อว่า “1,257 วิธีการใช้เกล็ดมังกร และ 1,043 วิธีการใช้ขนตามังกร  ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่โลกพ่อมดจะยอมเรียนรู้จากพวกมักเกิ้ล คงจะเป็นวิธีในการตั้งชื่อหนังสือนี่แหละ

    แฮร์รี่สังเกตเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปที่ประตูตลอดเวลาราวกับว่ากำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างหรือ บางคน  เขาแค่กำลังสงสัยว่ามันจะเป็นอะไรเมื่อประตูเปิดออก และเผยให้เห็นใครบางคน นั่นคือแครบกับกอยล์ที่ดูยุ่งเหยิงและสับสนเป็นอย่างมากพวกเขาทั้งคู่ปรากฎตัวโดยปราศจากมัลฟอย แฮร์รี่นึกออกมาได้ในที่สุด เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

    นายสองคนกำลังทำอะไร แล้วลูกพี่ของนาย มัลฟอยอยู่ไหนเสียล่ะตอนนี้ แฮร์รี่ถามด้วยความอยากรู้  เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองแครบและกอยล์เล็กน้อย แต่แฮร์รี่กลับสังเกตเห็นได้ว่าเธอสนใจเรื่องนี้

                แครบและกอยล์มองกันอย่างสับสน มันดูน่าแปลกใจ ที่ได้เห็นเด็กหนุ่มสองคนหวาดกลัวกับการอยู่ในห้องโดยสารนี้เพียงลำพังโดยปราศจากหัวโจกส์อย่างมัลฟอย  แม้ว่าแฮร์รี่ กับ รอนอยากจะสาป แครบและกอยล์ในตอนนี้ แต่พวกเขาเกรงว่าจะเป็นการล้างแค้นคืนโดยการใช้กำลังมากเกินไป  ถึงแม้ว่าแฮร์รี่ยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พวกเขาได้เจอเมื่อตอนต้นเทอมปีที่ 5ก็ตาม

    พวกนาย อ่ะ... แครบเริ่มพูด   กอยล์มองไปรอบห้องโดยสารราวกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการค้นหาทุกซอกทุกมุมที่เป็นความลับที่อยู่ในห้องนี้

    เดรโก ไม่อยู่ที่นี่เหรอ เขาไม่ได้อยู่บนรถไฟหรือไง แครบพูดเป็นเชิงถาม แฮร์รี่หันหัวไปหารอนซึ่งดูเหมือนเด็กคนหนึ่ง เด็กที่มีขนสีชมพูปกคลุมอยู่เต็มหน้าในเช้าวันคริสต์มาส

    จริงเหรอ?!! บางทีเจ้าโง่นั่นอาจจะ ย้ายโรงเรียน! หรือไม่ก็โดนไล่ออกไปแล้ว!” รอนร้องด้วยความกระตือรือร้นและแกล้งทำเป็นดีใจ วายร้ายทั้งสองคนถลึงตาใส่เขา

    โทษที รอนพูดและส่งเสียงอู้อี้

    ถ้างั้น...พวกนายมาที่นี่ทำไมกันล่ะ

    พวกนายรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน กอยล์ถามอย่างลนลาน แฮร์รี่ประหลาดใจกับความวิตกกังวลของแครบกับกอยล์ แฮร์รี่คิดมาตลอดเวลาว่าคนทั้งสองคอยตามหลังเป็นเงาตามตัวของเดรโกเพราะพ่อของเขาจ่ายเงินให้ทั้งสองเพื่อเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขา แต่เห็นได้ชัดว่าแฮร์รี่คิดผิด

    พวกนายสองคนหมายถึง พวกนายไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนอย่างนั้นเหรอ เฮอร์ไมโอนี่ถามแอบแปลกใจอยู่ลึกๆ แฮร์รี่เหลือบมองเธอ ซึ่งทำท่าเหมือนกับตอนที่เธอกำลังพยายามแก้โจทย์เลขจนเกือบจะเสร็จ กอยล์ที่ดูเหมือนจะฉลาดกว่าในบรรดาสองคนส่ายหัว

    เขาไม่ได้ส่งนกฮูกนัดเจอกับเราในตรอกไดแอกอนเหมือนปกติ เฮอร์ไมโอนี่รับฟังเงียบๆเธอมองพวกเขาอย่างใช้ความคิด

    หลังจากแครบและกอยส์เดินคล้อยหลังจากไปแล้วกลุ่มสามสหายจึงเริ่มต้นคุยกันอีกครั้ง

    อืม... บางทีพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนกันจริงๆก็ได้ ฉันหมายถึงว่าใครกันที่จะทนต่อความโง่เขลาของพวกเขาได้นอกจาก มัลฟอยแฮร์รี่พูดเสียงราบเรียบ

    ยังกับว่า มัลฟอย ฉลาดอยู่คนเดียว รอนรีบพูด  และเขาจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ด นอกเสียจากว่าพวกนี้เคยชินที่จะทำซะแล้ว และสองคนนี้ก็ดูไม่คุ้นเคยกับอิสรภาพแบบนี้ นั้นแหละคือทั้งหมดที่พวกเขาเป็น ฉันดีใจกับพวกเขาด้วยจริงๆที่จะมีอิสรภาพซักที รอนพูดถกถางแต่แฮรืรี่ก็เห็นด้วยกับที่รอนพูดออกมา

    รอนพูดถูก   ที่บอกว่าพวกเขาจะดีขึ้นกว่าเดิม

    จริงอยู่   แต่บางทีพวกเขาทั้งสองคนอาจจะ.... เฮอร์ไมโอนี่หยุดพูด เธอดูเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรก็ตามที่เธอกำลังคิดอยู่

    อะไร? รอนและแฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่หยักไหล่

    บางทีพวกเขาอาจจะชอบเดรโกจริงๆ รอนและแฮร์รี่ครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนที่จะเลิ่กคิ้วเป็นนัยๆ และยิ้มกว้าง

    จริงด้วย ฉันสงสัยมาตลอดว่าพวกเขาคิดเกินเลยกับเดรโกบางทีพวกเขาอาจจะเป็นรักร่วมเพศ ทั้งสามมองหน้ากันไปมาและต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมาในที่สุด และ เปลี่ยนไปสู่ความคิดที่รื่นเริงมากกว่านั้น

                และในที่สุดพวกเขามาถึง ฮอกวอตส์ ทันเวลาเหมือนกับที่แฮร์รี่คิดไว้ ช่วงที่แฮร์รี่อยู่กับชาลี ในโรมาเนีย แฮร์รี่คุ้นเคยกับการกินตามปกติ และเขากำลังหิวมากๆในตอนนี้ ฤดูร้อนสอนเขามากมาย ผมของเขาดูยุ่งเหยิง แต่เขาไม่ผอมไปกว่านี้ เขาสูงขึ้นถึงหกฟุต เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีมัน ราวกับว่ามันเกิดขึ้นมาชั่วข้ามคืน แม้แต่ใบหน้าที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและหล่อขึ้นด้วยอีกต่างหาก

    ส่วนรอนนั้นโตขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อนเช่นกัน แต่เขามีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เขาสูงอยู่แล้วแม้ว่าจะไม่ใช่หกฟุตสามนิ้วเหมือนในตอนนี้ก็ตาม  กล้ามเนื้อของเขาเริ่มเผยออกมาให้เห็นเมื่อตอนท้ายของปีที่หก   แฮร์รี่ยิ้มกับตัวเอง พวกเขาทั้งคู่ดูแล้วไม่ค่อยจะมีปัญหากับเพศตรงข้ามเท่าไหร่นัก

    เมื่อแฮร์รี่ และรอนเดินผ่านบริเวณที่เด็กสาวปีสามยืนอยู่  เกิดเสียงหัวเราะคิกคักขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่ข้างๆส่งเสียงอย่างรำคาญ และส่ายหัวเล็กน้อย  ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าไปสู่ห้องโถงใหญ่  
      

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจกับตัวเอง เธอกำลังคิดถึงพวกเด็กนักเรียนปีสามพวกนั้นซึ่งย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นที่ชื่นชอบและมีเสน่ห์มากกว่าเธอแค่ไหน

    แต่เธอก็นึกได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเองนั่นเป็นคนที่สนใจต่อสิ่งรอบข้างโดยที่ไม่ชอบให้ใครๆมาชื่นชอบหรือสนใจตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว แทนที่จะไม่สนใจใครหรือสิ่งรอบข้างแต่เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นๆ พลันเธอคิดไปถึงเด็กชายตัวสูงผมบลอนส์ในตาสีเทาที่เยือกเย็นคนนั้น เดรโก มัลฟอย เขานั่นแหละที่ไม่คยแม้แต่จะสนใจใครหรือสิ่งใดๆที่อยู่รอบข้างแต่กลับเป็นที่สนใจและเป็นที่ชื่นชมต่อคนอื่นๆโดยเฉพาะสาวๆ

    แต่ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ แฮร์รี่กลับพูดแทรกความคิดที่ยุ่งวุ่นวายของเธอขึ้นมาเสียก่อน

     

    **

     

    เฮ้ รอน นายคิดว่าใครจะ... เขาหยุด แฮร์รี่เพ่งสายตาให้กับพื้นที่ว่างเปล่าทางขวาของเขาซึ่งรอนควรจะอยู่ตรงนั้นแต่เขากลับไม่อยู่ และเฮอร์ไมโอนี่ก็สังเกตเห็นว่ารอนหายไปแล้วเช่นกัน เธอหมุนไปรอบๆเพื่อมองหาเขา และเธอก็เห็นรอนกำลังยืนตัวแข็งเป็นรูปปั้น คล้ายตัวประหลาดกลโกงตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ รอนอ้าปากค้างด้วยสีหน้าตกใจ เธอมองตามสายตาของรอน และหวังว่าเธอจะไม่เห็นในสิ่งที่เธอเห็น

     

                สิ่งที่กำลังยืนอยู่ห่างออกไปประมาณ ยี่สิบฟุต กำลังคุยอยู่กับดัมเบิลดอร์ คือ เดรโก มัลฟอย เดรโก ที่สูงกว่าเดิมมาก มากกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่จำได้จากปีที่แล้ว เสื้อคลุมของเขาไร้ที่ติ และปราศจากรอยยับอย่างเคย รองเท้าขัดมันเป็นวาว เขากำลังยืนพิงโต๊ะประจำบ้านสลิธีรินด้วยความเบื่อหน่าย แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะสังเกตเห็น แสงแวววาวที่อยู่เบื้องหลังดวงตาสีเทาเงินของเขาซึ่งสื่อความหมายอย่างอื่น ที่เขาสนใจแต่ไม่ใช่การพูดคุยับพ่อมดชราคนนี้

    อะไรก็ตามที่ ดัมเบิลดอร์ กำลังพูด  เดรโกกำลังฟังแต่เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า ผมของเขาลื่นเป็นเงาในแบบแวมไพร์จนกระทั่งปีก่อนที่เขาปล่อยออกมาอย่างหลวมๆ  เขากวาดสายตาอย่างเลื่อนลอยไปสองสามครั้ง และคอยพยักหน้าเล็กน้อยให้แก่อาจารย์ใหญ่ก่อนที่จะเดินอาดๆออกไปยังกับว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่

     

    เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็น ดัมเบิลดอร์ มองตามเดรโกไปด้วยสายตาฉายแววความเบิกบานใจก่อนที่จะส่ายหัวเล็กน้อย และเดินขึ้นไปยังโต๊ะอาจารย์ใหญ่  

     

    เมอร์ลิน! นั่นเป็นคนๆเดียวกับที่ฉันพบในคืนนั้นเหรอเนี่ย ดูเหมือนว่าเขาจะหายเป็นปกติแล้วจริงๆ แต่ฉันเอ่อ... ฉัน ไม่แน่ใจเลยว่าความเลวร้ายของเขาจะหายไปด้วยหรือเปล่า ให้ตายเถอะ ฉันเกลียดเขา!’  เธอคิดอยู่ในใจ

     

     เฮอร์ไมโอนี่ละสายตาที่จับจ้องอยู่นาน  เธอหันไปหารอนกับแฮร์รี่และ ยักไหล่

    เขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากกว่าเธอทั้งสองหรอก เธอพูดอย่างวางท่า แฮร์รี่และรอนแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็พยายามกลั้นเสียงหัวเราะคิกคักอย่างไม่เป็นผล
    ;

    อะไร ฉันทำอะไรอีกล่ะ เธอถามกลับอย่างรำคาญใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงด้วยความเขินอายและสับสน เฮอร์ไมโอนี่เกลียดการถูกหัวเราะไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม รอนยกมือขึ้นแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการเวลาชั่วครู่ เพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองแล้วจึงพูดต่อไปว่า

     

    เธอมัวแต่มองเดรโกจนไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเราตกใจอยู่ เฮอร์ไมโอนี่หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มแล้วในตอนนี้ และเธอบ่นออกมาด้วยความโกรธ

     

    ฉันไม่ได้มัวแต่มองเดรโก มัลฟอย อย่างแน่นอน!” เธอกระซิบผ่านไรฟันที่ขบกันไว้จนแน่น เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยิน พวกเขาเดินไปที่โต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ แฮร์รี่และรอนยังคงหัวเราะคิกคัก แต่เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในความสงบแล้ว

     

    ก็ได้ เฟอเรท โง่นั่นดูดีขึ้นในปีนี้ และมันช่วยไม่ได้ที่ฉันจะสังเกตเห็น ให้ตายเถอะ ฉันมันก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง และอย่าคิดนะว่าฉันไม่ทันสังเกตเห็นว่านายกับรอนจ้องมองไปที่ เบลส ซาบินี่ที่น่ากลัวนั่นเมื่อปีที่แล้ว แฮร์รี่ยักไหล่

     

    เรารู้ว่าเธอเกลียดเขา เหมือนที่เราเกลียดซาบินี่ รอนพูด

    ถ้างั้นอย่าคิดมากไปเลย เฮอร์ไมโอนี่ มันก็แค่เธอไม่ได้เคยทำผิดเหมือนเดรโก มัลฟอย แบบนั้น แฮร์รี่หัวเราะและรู้สึกสับสนในสิ่งที่เขาพูดรวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่ด้วย

    เธอจะทำไงต่อไป เฮอร์ไมโอนี่ รอนหัวเราะก่อนที่จะเริ่มจริงจัง

    หมายความว่ายังไงทำไงต่อไป เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    ฉันหมายถึง อะไรที่จะกวนใจเธอเกี่ยวกับ เอ่อ... แฮร์รี่ กับ รอน มองจ้องกันอย่างกระสับกระส่าย

    มันคืออะไร เราต้องทำอะไร!” เธอถามอย่างหัวเสีย อย่างคนรู้สึกไม่ปลอดภัย และรำคาญเพราะการลังเลที่จะพูดของพวกเขา เธอรู้ดีว่าน้ำเสียงที่ดูจริงจังของเธอจะเรียกความสนใจของพวกเขาได้โดยตรง ไม่มีใครอยากจะเห็นด้านเลวร้ายของ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์   ไม่แม้กระทั่งเพื่อนรักของเธอเอง

    เขามี อ-เอ่อ-ตรา..มาร. รอนเริ่มพูดเสียงเบาราวกับว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเสียสติเพราะข่าวนี้

    และเฮอร์ไมโอนี่ รู้ไหม   มัลฟอยได้เป็นหัวหน้านักเรียน เธอต้องติดแหง็กอยู่กับเขาตลอดทั้งปี แฮร์รี่พูดจนจบ เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด และถอนหายใจ สองมือกุมขมับอย่างกลัดกลุ้ม

    ทำไมต้องเป็นฉันล่ะที่จะต้องอยู่กับเขา

    ถ้าเขาพยายามจะทำอะไรเธอ เราจะหยุดมันเพื่อเธอ อย่ากังวลไปเลยเฮอร์ไมโอนี่ รอนพูดอย่างปกป้อง และท่าทางเอาจริง

    ฉันดูแลตัวเองได้ แต่ก็ต้องขอบคุณที่เธอใส่ใจฉัน เธอพูดพยายามที่จะไม่ทำให้รอนเจ็บช้ำน้ำใจ

    ฉันแค่กลุ้มใจกับความตึงเครียด ที่ต้องอยู่กับผู้ชายฮ่วยแตกนั่นตลอดทั้งปีมากกว่า เราต้องวางแผนด้วยกัน และ เอ่อ... เพื่อนทั้งสองของเธอตบหลังเธอเบาๆอย่างเห็นใจและรอคอยที่จะจัดการกับอาหารตรงหน้า

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากเชื่อจริงๆ แน่นอนเธอดีใจที่เขาไม่ตาย และ ใช่ สำหรับเหตุผลที่อธิบายไม่ได้บางอย่าง เธออยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาแต่เธอก็ไม่อยากติดอยู่กับเขาทั้งปี! 

                ในทันใด เกิดเสียงโห่ร้องดังมาจากอีกฝั่งของห้องโถงซึ่งเป็นโต๊ะฝั่งสลิธลีน ทุกๆคนหันไปและได้เห็นแพนซี่ พาร์กินสันจากเดิมที่ผอมบางแต่ในตอนนี้เธออ้วนขึ้นมาก ไม่ใส่อะไรเลยเว้นแต่เสื้อชั้นใน และกางเกงในแบบคุณยายสมัยก่อนและกำลังวิ่งออกไปจาก เดรโก มัลฟอยที่ดูภาพนั้นอย่างสบายใจ    ทันใดนั้น ดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็งประสานกับดวงตาอบอุ่นของเฮอร์ไมโอนี่ และสีหน้าที่ไม่อาจจะอ่านออกปรากฏบนใบหน้าของเขาก่อนที่เขาจะหันออกไป หยิบไม้กายสิทธิ์ใส่กระเป๋ากางเกงอย่างเกียจคร้าน เฮอร์ไมโอนี่ย่นคิ้ว    เธอสงสัยว่าสีหน้านั้นหมายความถึงอะไร  ฉันเกลียดเวลาที่ฉันอ่านสีหน้าของนายไม่ออก!

                มักกอนนากัล จัดการตะโกนใส่เขา แต่แครบกับกอยล์ยืนกรานว่าพวกเขาต่างหากที่ต้องถูกตำหนิ และเธอจำเป็นต้องปล่อยมัลฟอยไป พวกเขายอมรับความผิดเพื่อเดรโก!   แต่มันก็ไม่มีผลใดๆจากสิ่งที่พวกเขาทำ!  แพนซี่ผู้น่าสงสาร  ฉันหวังว่ามาดามพอมฟรีย์ จะสามารถช่วยแก้ไขให้เธอได้...   เฮอร์ไมโอนี่มองดูเดรโกอีกครั้ง เธอเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขานะ ทำไมเธอต้องวุ่นวายใจไปกับเขาด้วยนะ

                คนในห้องส่วนใหญ่หันกลับไปสนใจอาหารของตัวเองแล้ว  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงมอง มัลฟอย  ในทันทีที่มักกอนนากัล เริ่มเดินอาดๆกลับไปที่โต๊ะอาจารย์ใหญ่   เดรโกหันกลับมามองเธอเขม็งด้วยความไม่พอใจ เขากระซิบบางอย่างภายใต้ลมหายใจนั้น  แล้วเธอก็สะดุดเสื้อคลุมยาวของเธอเอง หน้าของเธอคว่ำล้มคะมำลงไป  มีเสียงหัวเราะดังลั่นมาจากโต๊ะสลิธีริน รวมทั้งหัวโจกท์อย่างเดรโก มัลฟอยด้วย เหล่าบรรดาอาจารย์แม้แต่ สเนป ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ประหลาดใจอย่างมาก  ก็กระโดดลงมาช่วยเธอ

                เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตามองไปที่มัลฟอย และคิดอย่างแค้นใจไปที่เขา

     

    นายสมควรแล้วมัลฟอยที่จะโดนเหมือนอย่างในคืนนั้น นายมันไอ้ตัวทุเรศ

     

    ตัวอย่างตอนต่อไป

    Chapter 6: The plot Thickens

    “หางหนอน!  เราจะต้องฆ่าเดรโก มัลฟอย...  ไม่ว่าจะมี ดัมเบิลเดอร์อยู่หรือไม่ และเขาก็เร่งรีบออกไปจากห้อง เสื้อคลุมสะบัดไล่หลังของเขา...

                นาร์ซิสซา มัลฟอยสะดุ้งตื่น น้ำตาไหลรินลงสู่ใบหน้าของเธอ ความพยายามลุกขึ้นนั่งถูกกีดขวางด้วยเชือกเส้นหนาที่มัดเธอไว้กับเตียงนอนที่มีผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดเรียบร้อย  สมองของเธอกำลังหมุน และเหมือนอย่างเคยเธอไม่อาจจะปะติปะต่อความคิดได้  โวลเดอมอร์จะฆ่าเดรโก

    +++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×