คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Charpter.4 ผู้เฝ้าสุสาน
Charpter.4
ผู้เฝ้าสุสาน
“ พิธีผนึก จะเริ่มพรุ่งนี้ แต่เจ้า
” เซย์เมย์พูดอย่างลังเลใจ แต่กุเรนกลับตอบด้วยความมั่นใจ และยืนยันเช่นเดิม
“ ข้าแน่ใจ เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก เซย์เมย์ ”
เมื่อวานนี้ ห้องเซย์เมย์
“ เจ้าแน่ใจแล้วรึ กุเรน? ” เซย์เมย์ถามขึ้น “ ข้าแน่ใจ ข้าอยากทำให้ตัวเอง มีการรับรู้ภพชาติต่างๆ เช่นเดียวกับมาซาฮิโระ ” เพียงแค่คำตอบนี้ก็ทำให้เซย์เมย์ร้องอ๋อเลยทีเดียว ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ากุเรนน่ะ ‘รัก’ มาซาฮิโระหลานเขาขนาดไหน คงต้องปล่อยให้เลยตามเลย
เพราะรู้ดีว่ากุเรนนิสัยอย่างไร ใครๆอาจมองว่าโชรัน( เซย์ริว ) หัวแข็งที่สุดในหมู่สิบสองเทพนักรบ แต่หากมองจริงๆแล้วล่ะก็คนที่หัวแข็งที่สุดน่ะ คือ กุเรนหรือโทดะผู้อยู่ข้างหน้าเขาต่างหาก แถมความดื้อเงียบให้ ยังไงก็ต้องยกให้กุเรนล่ะ
เมื่อตัดสินใจแล้วย่อมไม่คืนคำเด็ดขาด เรื่องนี้ก็คงขัดไม่ได้เช่นกัน เว้นแต่ว่า ถ้าเขาผนึกร่างกุเรน กุเรนก็จะกลายเป็นแค่รุปปั้นธรรมดา ใช้พลังเทวะไม่ได้และไม่สามารถรับรู้อะไรจากโลกภายนอกเลย คงต้องหาคนคอยเฝ้าสุสานไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
“ งั้นข้าก็คงขัดเจ้าไม่ได้สินะ ใช่มั้ย โทดะ? ” เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่เซย์เมย์เรียกยศของกุเรนเต็มๆ ชายคนนี้คงต้องการทดสอบความมั่นใจของเขา เช่นกัน กุเรนพยักหน้าอย่างหนักแน่น เป็นความมั่นใจดุจหินผา ที่ไม่มีวันสั่นคลอน
“ ดี! งั้นข้าจะจัดเตรียมพิธีให้ ถ้าเจ้าต้องการแบบนั้น ” แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทดสอบความรัก ที่กุเรนมีให้ต่อมาซาฮิโระหลานของเขา ว่ามันมีมากเพียงใด
ตอนนี้เซย์เมย์กำลังวุ่นวายกับพิธีผนึกร่างของกุเรน แต่คงไม่นานเท่าไรนัก พรุ่งนี้แล้วสินะที่เขาจะถูกผนึก ตามความต้องการของตัวเขาเอง เขาต้องการความเท่าเทียม ระหว่างเขากับมาซาฮิโระ
ตอนนี้เขาสบายใจขึ้นเยอะ หลังจากที่ได้รับคำตอบจากมาซาฮิโระ แม้จะเป็นแค่ในความฝันก็ตาม แต่มันเป็นความจริงสำหรับโทดะผู้นี้ กุเรนเดินออกมาจากห้องของเซย์เมย์หลังจากที่ถูกเรียกมาอีกครั้ง สัมผัสอ่อนละมุนจากริมฝีปากของมาซาฮิโระยังติดอยู่ที่ริมฝีปากของเขา แค่นึกถึคงเขาก็มีความสุขแล้ว แม้จะรู้ว่าอีกนานกว่าจะได้พบกัน แต่ความสุขใจนี้คงไม่หายไปแน่นอน
“ ข้าจะอยู่กับเจ้า และปกป้องเจ้าตลอดไป มาซาฮิโระ
” กุเรนพึมพำกับตัวเองเบาๆอย่างสุขใจ ในภพหน้าเขาต้องได้เจอกับมาซาฮิโระ เขาเชื่อมั่นและมั่นใจเช่นนั้น แต่มีเรื่องให้ต้องคิดถึง เมื่อเขาถูกผนึกแล้วนั่นแหละ แต่เทพหนุ่มกลับลืมไปหมดสิ้นเสียแล้ว
วันต่อมา
ที่สุสานของมาซาฮิโระ
พิธีการผนึกร่างกุเรนเริ่มขึ้นในเวลาพลบค่ำของอีกวัน กุเรนคิดว่าไม่มีอะไรต้องห่วงอีกและเขากำลังจะถูกผนึกในไม่ช้า
เซย์เมย์เริ่มร่ายคาถาผนึกทันทีหลังจากได้เวลาที่กำหนดไว้ กุเรนยืนนิ่งอยู่ข้างสุสานของมาซาฮิโระ ร่างกายของเทพหนุ่มค่อยๆกลายเป็นรูปปั้นช้าๆ จนเป็นทั้งร่าง การทำพิธีของเซย์เมย์เสร็จสมบูรณ์อย่างเงียบๆ ไม่มีใครว่าหรือพูดอะไร มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบของพิธี
“ แล้วเจอกันใหม่นะ กุเรน
” เซย์เมย์พูดพร้อมกับเดินจากไปหลังจากทำพิธีเสร็จ เรื่องที่กุเรนยังไม่รู้ คือ หลังจากนี้จะมีผู้เฝ้าสุสาน ซึ่งเซย์เมย์จะคัดเลือกจากสิบสองเทพนักรบที่เหลือต่อจากนี้
ห้องเซย์เมย์
“ ทุกคน ข้ามีเรื่องจะถามและต่อจากนี้จะเป็นงานที่มอบหมายให้ จนกว่าหลานข้าจะเกิดใหม่ ” เซย์เมย์เอ่ยขึ้น การที่เซย์เมย์เรียกเทพนักรบทุกคนมาพร้อมกันนี้ แสดงว่าย่อมต้องมีเรื่องอะไรเป็นแน่ แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เซย์เมย์จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงเรื่องธรรมดาสามัญสุดขีดเกินกว่าที่ทุกคนคาดไว้
เทพนักรบทุกตนต่างปรากฏกายออกมาทั้งที่กำบังตนอยู่เงียบๆข้างๆเซย์เมย์ ทั้งที่อยู่ต่างมิติก็ด้วย ความเงียบคือคำตอบ มีเพียงการรอฟังเรื่องที่เซย์เมย์จะบอกเล่าต่อไปนี้เท่านั้น ไม่นานชายชราก็เริ่มต้นพูดขึ้น
“ พวกเจ้าทุกคนคงรู้ดีว่า เมื่อกุเรนถูกผนึกแล้วจะใช้พลังเทวะไม่ได้ ข้าจึงมีความเห็นว่า จะสร้างบ้านใกล้ๆกับสุสานของมาซาฮิโระ และอีกอย่างคือ ข้าต้องผู้เฝ้าสุสาน เพราะแม้หลานข้าจะจากไปแล้ว แต่พลังวิญญาณยังคงหลงเหลืออยู่ อาจส่งผลให้พวกอมนุษย์ไม่ประสงค์ดีมากัดกินร่างวิญญาณได้ สิ่งที่ข้าต้องการถามคือ ใครสมัครใจจะเป็นผู้เฝ้าสุสานและปกป้องร่างวิญญาณของหลานข้าบ้าง? ” คำถามของเซย์เมย์ทำให้ทุกคนอึ้งเล็กน้อยดังคาด และไม่นานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ ข้าขอเป็นผู้เฝ้าสุสานเอง เซย์เมย์! ” ไทอินนั่นเอง แต่เกมบุกลับห้ามไว้ “ ไม่ได้ ไทอิน ”
“ ทำไมล่ะ? ” เด็กสาวถามอย่างสงสัย “ ก็เพราะถ้าจะให้เจ้าเฝ้า เดี๋ยวสุสานของเจ้าหลานจะหายไป เพราะลมของเจ้าน่ะสิ ถามได้ ” คำตอบที่แสนจะกวนโอ๊ยของเกมบุทำให้ไทอินถึงกับปล่อยไอเย็นออกมาทันที แม้ปกติเกมบุจะค่อนข้างกวนตัวกวนใจไทอินบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้มาก่อน ปกติจะเงียบๆและดูเป็นผู้ใหญ่แท้ๆ หากแต่คนที่ห้ามไทอินกับเกมบุไม่ให้แง่งๆใส่กันก็ คือ เทนอิทสึ
“ เกมบุ ไทอิน ห้ามทะเลาะกันนะ! เซย์เมย์ข้าขอเป็นเองก็แล้วกัน ” แต่กระนั้นก็ยังมิวายถูกคัดค้านจากสุซากุ
“ ไม่ได้!เทนคิต้องอยู่กับข้า กับเซย์เมย์ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าไปลำบากแบบนั้นหรอกนะ เทนคิ! ” เทพหนุ่มพูด พลางทำหน้ากระเหี้ยนกระหือรือเต็มที่ ทำให้เทนอิทสึทำหน้ายอมแพ้ ไม่อยากขัดใจคนรัก เซย์เมย์จึงหันไปหาคนอื่นๆ
ริคุโก เซย์ริว ไทโจ เทนคู เทนโก เกมบุ โคจิน สุซากุ ต่างก็ส่ายหน้า เว้นแต่เพียงผู้ที่เสนอตัวมาแล้วเท่านั้น ส่วนเบียกโกะนั้น ไม่ได้ออกความคิดเห็นใดๆ เพราะเป็นคนยังไงก็ได้ จึงทำให้เซย์เมย์ตัดสินใจเลือกได้ทันที
“ เอาเป็นว่า เบียกโกะ เจ้าเป็นผู้เฝ้าสุสานของหลานข้าก็แล้วกัน ” ชายชราพูด เบียกโกะเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นและกำบังกายกลับเช่นเดิม
การก่อสร้างบ้านที่ข้างสุสานของมาซาฮิโระเป็นไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นบ้านเล็กๆให้คนอาศัยอยู่ได้ ประมาณ 4 5คน แต่ก็มีครบทุกอย่างเหมือนบ้านคนทั่วไป ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง
หลังจากสร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย ก็ทำให้เซย์เมย์หายห่วง และไม่กี่ปีหลังจากนั้นวาระสุดท้ายของเซย์เมย์ก็มาถึง เป็นช่วงเวลาที่สั้นนักสำหรับเหล่าเทพนักรบทั้งหลาย แม้จะเสียใจกับการจากไปของเซย์เมย์ซักเพียงใด แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าอีกไม่นานคงได้พบกันอีก จึงตกลงกันว่า จะแยกย้ายกันไปอยู่ต่างมิติ และจะกลับมา เมื่อเซย์เมย์มาเกิดใหม่อีกครั้งและเรียกพวกเขา
ก่อนจะถึงวาระสุดท้ายนั้น เซย์เมย์ได้ดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตไว้หมดแล้ว ทั้งการผนึกวิญญาณของตนให้กลับมาเกิดใหม่ ในตระกูลอาเบะ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีก็ให้เบียกโกะเฝ้าดูแลแทนแล้ว ทั้งการระลึกชาติได้หลังจากเกิด เขาก็ดำเนินการไว้เสร็จสิ้น พอคนเราหมดห่วงร่างกายก็เริ่มผ่อนคลาย เซย์เมย์จากไปด้วยการหลับใหลอย่างสงบแบะเป็นสุขจนแทบพูดได้ว่าชายชราผู้นี้เพียงแค่หลับไปเป็นเวลายาวนานเท่านั้น
แต่เรื่องบางอย่างที่เกิดก่อนการจากไปของเซย์เมย์ มันก็คลี่คลายไปแล้วด้วยดีล่ะนะ
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ความคิดเห็น