ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    3 | THE GUARD ღ หัวใจเสี่ยงรัก ϟ

    ลำดับตอนที่ #5 : EP [4] ภัยที่คืบคลาน ✓

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 64



     
       




     

    คิวไอวี่
    .
    .
    .



    EP [4] ใครที่สำคัญกว่า
     

    ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดด!

    เสียงล้อรถเสียดสีดังทั่วท้องถนน รถคันหนึ่งเบรกตัดหน้าขบวนรถจึงต้องเบรกหยุดรถกันอย่างระมัดระวัง อีกทั้งเสียงปืนที่ดังขึ้นยังทำให้เหล่าบอดี้การ์ดตื่นตัวรู้ได้ในทันทีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป

    “คุณหนูหมอบลงไปครับ!!”

    ทิมที่รู้สึกตัวจากการกราดยิงล้วงลงไปใต้เบาะรถที่มีปืนพกเก็บซ่อนอยู่ พลางหันไปบอกคุณหนูของตนให้ก้มหัวให้ต่ำที่สุด ถึงแม้รถจะกันกระสุนแต่ก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่ไว้ใจได้

    “!! ไอวี่ที่ตกใจก้มลงตามคำบอกของทิม เมื่อตั้งสติได้ก็คว้าหยิบปืนใต้เบาะรถทันที เห็นเธอเป็นแบบนี้แต่เธอก็มีทักษะการยิงปืนมาบ้างเหมือนกันแน่นอนว่าคนที่สอนคือคิว “รู้ไหมว่าพวกไหน!

    “ยังไม่ทราบครับ” ทิมจัดการลดกระจกลงเล็กน้อยก่อนจะยิงตอบโต้ศัตรูก่อนจะยกเครื่องมือสื่อสารติดต่อกับบอดี้การ์ดคนอื่น

    ไอวี่ไม่รอเป็นภาระลูกน้องเธอขันไกปืนพลางสอดส่องด้านนอกหน้าต่างไปด้วยและเมื่อเห็นว่ามีศัตรูเข้ามาในระยะที่สามารถจัดการได้เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะยิง

    คิวเคยสอนเอาไว้ว่าหากศัตรูไม่ตายก็เป็นตนเองที่ต้องตาย..

    ปัง! ปัง!

    เสียงทิมคุยผ่านวิทยุสื่อสาร ไอวี่รู้สึกตื่นตระหนกที่ทุกอย่างชุลมุนจนฟังไม่รู้เรื่อง ทว่าครู่หนึ่งทุกเสียงก็เงียบลงจนได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นมา

    “เตรียมตัวเดี๋ยวฉันจะไปรับ”

    เสียงคิวดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงปืนที่ดังแว่วเข้ามา ไอวี่เก็บของก่อนจะรออีกฝ่ายมารับระหว่างนั้นเธอก็ช่วยยิงสกัดศัตรูด้วย

    อีกด้านหนึ่ง คิวที่อยู่บนรถยกปืนยิงตอบโต้ศัตรูที่กำลังล้อมเข้ามาก่อนจะขับรถแซงคันอื่นๆ ตามขึ้นไป ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะพวกมันมีไม่ต่ำกว่าสามสิบคน และเมื่อเห็นรถของคิวที่เคลื่อนที่อยู่คันเดียวพวกมันจึงกราดยิงมาอย่างต่อเนื่อง คิวเสียเปรียบเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่ยากเกินกว่าความสามารถเพราะลูกน้องที่มีน้อยกว่านั้นคอยช่วยกันยิงสกัดให้ทั้งด้านข้างและด้านหลังจึงทำให้คิวเห็นช่องทางขับรถไปต่อได้

    “เชี่ยเอ้ย!” คิวสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเขาจะเปิดประตูรถแต่ก็โดนดักยิงกันเอาไว้ เขาจัดการยิงตอบกลับไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อไปจอดตีคู่กับรถของทิม

    ทิมเห็นว่าเจ้านายของตนขับมาจอดเทียบข้างห่างเท่าที่ควรก็เปิดประตูรถออกมายิงสกัดคุ้มกันให้

    “คุณคิวมาแล้วครับ!” ทิมพูดพลางยิงสกัดศัตรูเอาไว้เพื่อให้คุณหนูได้เปลี่ยนรถ ทว่าเมื่อคุณหนูของทิมเปิดประตูศัตรูก็ยิงสกัดเสียก่อน

    ปัง! ปังๆ! กรี๊ดด!

    คิวเห็นท่าไม่ดีเลยวิทยุสื่อสารให้เมืองสิงห์ที่ขับปิดท้าย ยิงสกัดพวกที่ล้อมหลังไม่ให้ยิงผ่านมาทางนี้ได้

    “ขึ้นมาเร็ว! คิวเปิดประตูรถของตนก่อนจะสั่งไอวี่เสียงเข้ม หน้าตาตึงเครียดทำให้ไอวี่ทำตามอย่างว่าง่าย เธอเปิดประตูรถก่อนจะขึ้นไปนั่งแล้วรีบปิดประตู “คาดเบลท์และถือปืนเอาไว้ให้ดี จำที่สอนได้รึเปล่า!

    “จำได้! ไอวี่พยักหน้าอย่างหนักแน่น ยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี

    เสียงสบทจากคิวทำไอวี่ตกใจ ไม่ใช่อะไรเพราะเธอไม่เคยเห็นเขาหงุดหงิดและกระวนกระวายขนาดนี้มาก่อน และสิ่งที่ทำให้คิวสบทออกมานั้นคืออีกฝ่ายไม่สามารถขับรถเลี่ยงไปจากสถานการณ์นี้ได้ เพราะมีรถของศัตรูปิดด้านหน้าและหลังเอาไว้!

    “สิงห์เปิดทางให้ฉัน” คิวกรอกเสียงลงในเครื่องมือสื่อสารให้เมืองสิงห์เปิดทางด้านหลังให้ และด้วยความที่เป็นมืออาชีพเมืองสิงห์ก็จัดการได้ในเวลาต่อมา คิวเอี้ยวตัวมองทางด้านหลังจัดการหมุนพวกมาลัยรถด้วยมือข้างเดียวก่อนจะใช้ทักษะถอยรถจนรถเคลื่อนตัวถอยหลังแล้วหมุนกลับลำได้ในที่สุด

    คิวรีบขับรถออกจากสถานการณ์นั้นในทันทีเพราะรู้ว่าด้านตนเองเสียงเปรียบมากแค่ไหน ถึงจะต้องเสียลูกน้องไปบางส่วนก็ต้องยอมเพราะคนที่สำคัญและจะต้องปลอดภัยคือหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ของเขา!

    “คิว! ไอวี่ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นว่ามีกลุ่มมอเตอร์ไซต์น่าสงสัยขับตามมา แน่นอนว่าต้องเป็นศัตรูเพราะพวกมันคว้าปืนขึ้นมาแล้ว!

    “หมอบลง! คิวสั่งเสียงเข้ม มือข้างหนึ่งขับรถอีกข้างใช้ยิงสวนขู่ ก่อนจะหักเลี้ยวไปอีกทางที่เป็นทางเปลี่ยว คิวเร่งความเร็วจนทิ้งห่างมาพอสมควร เมื่อเห็นว่ามีเวลาคิวก็เหยียบเบรกหมุนพวงมาลัยจนรถกลับตัว

    “เอาปืนมา” คิวบอกไอวี่เสียงเครียด

    “นี่ จะไม่เป็นไรใช่มั๊ย” ไอวี่ถามเสียงสั่นก่อนจะส่งยปืนให้กับคิว แรกเริ่มเพราะเธอตกใจจึงทำทุกอย่างได้โดยสัญชาตญาณทว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว

    “ก้มหน้าลงไป ถ้าฉันไม่บอกให้ลงมาก็อยู่ในรถจนกว่าจะจบเรื่อง เข้าใจรึเปล่า” คิวกำชับเสียงเข้ม หน้าตาบ่งบอกว่าจะต้องเชื่อฟังเท่านั้น!

    ไอวี่พยักหน้า ทว่าเมื่อเห็นว่าคิวจัดการเหน็บปืนของเธอไว้ด้านหลังกำลังจะออกไปเธอจึงคว้ามือแกร่งเอาไว้

    “นายจะไปไหน”

    “...” คิวไม่ตอบแต่ใช้สายตาดุเธอก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ดวงตาของไอวี่สั่นคลอนเพราะกลัวว่าคิวจะเป็นอะไรไป “ฉันจะไม่ตาย”

    คำพูดของคิวทำให้เธอยอมปล่อยมือ และเมื่อไอวี่ปล่อยมือคิวก็เปิดประตูรถลงไป ไอวี่ได้ยินเสียงล็อครถ แน่นอนว่าต้องเป็นคิวที่ทำแบบนั้น เธอรีบหันไปมองคิวด้วยความเป็นห่วง

    คิวลงจากรถมาก็รีบวิ่งไปด้านหลังเพื่อให้ตัวรถกำบังตัวเองเอาไว้เมื่อรถมอเตอร์ไซต์ของศัตรูเข้ามาในระยะจึงยกปืนเล็งที่ลำคอ ความจริงต้องเล็งที่หัวแต่พวกมันใส่หมวกกันน็อคเอาไว้ทุกคน หากจะยิงที่ลำตัวก็กลัวจะมีเสื้อกันกระสุน เล็งที่คอหรือช่วงแขนน่าจะเป็นการดีที่สุด เมื่อล็อคเป้าหมายได้คิวก็กดเหนี่ยวไกลทันที

    ปัง! ปัง! ปังๆ! เอี๊ยดด! โครมม!

    คิวยิงศัตรูล่วงไปสามคันเหลืออีกไม่กี่คันด้านหลังที่รู้ทันหลบหลีกไปได้ คิวยิงสวนไปอีกครั้ง คราวนี้เก็บศัตรูได้สองคนทว่าจังหวะที่เขาเอี้ยวตัวหลบแขนของเขาก็ถูกยิงโดยศัตรูคนหนึ่งเสียแล้ว คิวสบทเสียงดังพร้อมกับความเจ็บตรงแขน ทว่าแผลแค่นี้ไม่ได้ทำอะไรคิวได้เลยแม้แต่น้อย

    ร่างสูงสะบัดความเจ็บปวดก่อนจะทิ้งกระบอกปืนที่หมดกระสุนแล้วเอื้อมหยิบปืนอีกกระบอกที่พกเอาไว้ด้านหลังขึ้นมายิงโต้ตอบอีกครั้งเพราะศัตรูยังเหลืออยู่อีกสองคัน

    ศัตรูจอดรถก่อนจะใช้ตัวรถเป็นที่กำบัง พวกมันสองคนยิงสวนมาคล้ายจะจัดการคิวให้ได้ คิวเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มคำนวณระยะยิงด้วยสายตาก่อนจะลั่นไกปืนไปตรงถังน้ำมันรถของพวกมัน

    ปังๆ! ปังๆ! พรึ่บ! ตู้มม!

    หลังจากที่คิวยิงตัวรถก็ระเบิดในทันที ทำให้ศัตรูถูกระเบิดและไฟครอกตาย คิวเห็นว่าเหตุการณ์กลับมาสงบลงแล้วจึงเดินเข้าไปที่ร่างไร้วิญญาณของศัตรูที่นอนเกลื่อนกราด ก่อนจะค้นตัวพวกมันและพบบางอย่างเข้า คิวหยิบสองสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่เกือบจะโชกไปด้วยเลือดแล้วเดินกลับมาที่รถของตนเอง

    “นี่ นายไม่เป็นไรใช่มั๊ย” ไอวี่ถามเสียงสั่น

    “อืม” คิวตอบรับก่อนจะหาบางสิ่งบนรถตัวเอง

    “คิว! นายโดนยิงเหรอ! ไอวี่เห็นเลือดซึมออกมาจากเสื้อที่มีรอยกระสุนยิงทะลุก็เลยรู้สึกกลัวขึ้นมา

    “ไม่ได้สำคัญ” คิวปัดก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

    “ไม่สำคัญอะไรล่ะนายโดนยิงนะ เจ็บมากรึเปล่ามีอาการแปลกๆ อะไรมั๊ย?! นาย..นายต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!

    “ฉันอยู่ในซอยเปลี่ยว” จบคำคิวก็เหวี่ยงโทรศัพท์เอาไว้แถวๆ คันเร่งเกียร์ ก่อนจะโยกตัวเหวี่ยงเสื้อตัวนอกไว้ด้านหลังรถทว่ามือของเขาถูกมือบางคว้าเอาไปจับไว้ “อะไรของเธอ”

    “นายต้องไปหาหมอ!”

    ไอวี่ตะหวาดขึ้นมาเพราะดูเหมือนคนถูกยิงจะไม่สนใจคำสั่งของเธอแถมยังนั่งวิเคราะห์สิ่งของที่หยิบติดมือมานั่นอย่างสบายอารมณ์ไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งถูกยิงมาเลยแม้แต่น้อย!

    คิวถอนหายใจด้วยความหน่าย แผลที่แขนไม่ได้เจ็บเลยแม้แต่น้อย ทว่าที่เขาแสดงท่าทางแบบนี้ก็เพราะสีหน้าที่น่ารำคาญของหญิงสาวต่างหาก

    “เดี๋ยวทิมจะมารับเธอไปส่งที่เรือนแก้วเตรียมตัวซะ”

    “ไม่! ฉันสั่งให้นายไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ไม่ได้ยินเหรอไง!

    “ไปส่งเธอก่อนค่อยแวะไปก็แล้วกัน”

    คิวถอนหายใจออกมาอีกรอบ เอ่ยรับปากไปเพื่อจะได้จบเรื่องโดยเร็ว สักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คิวรับสายลูกน้องทันที

    “อย่างนั้นก็พาทิมกับทุกคนกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเอง”

    คิววางสายก่อนจะสตาร์ทรถของตนเองที่มีร่องรอยถูกยิงบ้างปะปลายกลับเรือนแก้วในทันที ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถึงที่หมาย คิวก็ลงรถมาด้วยสีหน้าที่ใครก็คาดเดาไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน

    เป็นเมืองสิงห์ที่เดินเข้ามาเป็นคนแรก “ผมให้พาคนเจ็บไปที่โรงหมอแล้วครับ”

    คิวพยักหน้ารับ โรงหมอที่ลูกน้องคนสนิทว่าก็คือโรงพยาบาลขนาดเล็กที่อยู่ในความดูแลของตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุล

    “เอานี่ไปตรวจ แยกเบอร์ที่โทรเข้าออกข้อความและสื่อโซเชียลทั้งหมด และเอานี่ไปเช็คให้ด้วย” คิวยื่นสิ่งที่ตนแอบหยิบมาจากพวกมือสังหาร เป็นบางอย่างที่มีความเป็นเอกลักษณ์น่าจะหาข้อมูลมาได้ง่ายๆ

    “รับทราบครับ” เมืองสิงห์

    คิวสั่งงานเพิ่มอีกเล็กน้อย เพราะช่วงที่ทิมบาดเจ็บเมืองสิงห์จะต้องทำงานแทนในหลายๆ เรื่อง อีกทั้งยังสั่งเปลี่ยนคนติดตามคุณหนูเรือนแก้วจากชุด A เป็นชุด B ออกมาทำหน้าที่แทน หลังจากสั่งงานเสร็จเมืองสิงห์ก็แยกย้ายไป คิวหันกลับมาก็พบว่าคุณหนูเจ้าของเรือนแก้วยังยืนอยู่ที่เดิม

    “ทำไมยังไม่เข้าไปข้างใน”

    “นายโดนยิง..นายต้องไปหาหมอได้แล้ว” สีหน้าไอวี่ใครเห็นก็รู้ว่าเป็นห่วงแค่ไหน ยิ่งคิวไม่คิดจะไปหาหมออย่างที่เธอหวังเธอจึงเอาแต่ยืนกดดันเขาไม่ยอมขยับไปไหน “ถ้านายไม่ไปฉันจะโทรเรียกหมอกิตติมา”

    “แค่โดนถากๆ ทายาเดี๋ยวก็หาย” คิวพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน เพราะแผลที่ได้มานั้นแค่ถากๆ ไม่ได้มีกระสุนฝังลึก ทว่าคุณหนูเจ้าของเรือนแก้วเหมือนจะไม่เชื่อคิวจึงเสื้อให้ดูแผลชัดๆ

    “แค่ถลอกจริงๆ นะ” ไอวี่เห็นว่าเป็นแผลที่โดนกระสุนเฉียดๆ ก็โล่งใจแล้วหันไปสั่งริต้าไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาให้ที่ห้องนั่งเล่น

    “ตามฉันมา” ไอวี่สั่งและแน่นอนว่าคิวทำตามอย่างว่าง่าย

    “ไม่ต้องเดี๋ยวทำเอง”

    คิวพูดขึ้นเมื่อไอวี่หยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์เพื่อจะมาเช็ดตรงช่วงแขนบริเวณรอบแผลให้ ก่อนจะแย่งอุปกรณ์ทั้งหมดไปทำด้วยตนเองโดยไม่สนใจสายตาเป็นห่วงเป็นใยหรืออยากจะทำให้ และนั่นทำให้หญิงสาวมองด้วยความไม่พอใจ

    “นายรู้หรือเปล่าว่าเป็นฝีมือของใคร”

    “ไม่ต้องไปสนใจ”

    “ไม่ให้สนได้ไงมันเรื่องของฉันเหมือนกัน” ไอวี่เกือบจะบอกว่าเป็นเพราะพวกมันทำคิวเจ็บเธอจึงยอมไม่ได้ ทว่าเธอกลับพูดคำอื่นไปแทน

    “ให้คนไปสืบอยู่” คิวพูดเสียงเรียบก่อนจะจัดการแผลตนเองต่อ

    “ไม่เป็นอะไรมากใช่มั๊ย อีกนานรึเปล่ากว่าแผลจะหาย”

    “คงอีกสามสี่วัน” คิวตอบ

    ไอวี่ไม่วางใจยังคงมองสำรวจแผลของคิวอยู่อย่างนั้น ทว่าระหว่างนั้นอีกฝ่ายดันพูดทำลายความเงียบ และสิ่งที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมาทำเอาไอวี่โมโห “อาทิตย์หน้าเธอมีนัดทานข้าวกับลูกชายนายกรัฐมนตรี”

    “ฉันไม่ไป! ปู่จะให้ฉันไปดูตัวอีกแล้วล่ะสิ!” ไอวี่ตอบเสียงแข็ง

    ทำไมปู่ต้องให้เธอไปดูตัวซ้ำๆ ซากๆ ทั้งๆ ที่เธอก็บอกไปตั้งหลายครั้งว่าเธอไม่ชอบ ไอวี่เกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับปู่ของเธอ เกลียดที่ปู่ชอบบังคับ เกลียดจนไม่อยากจะได้ยินหรือรับรู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับคนๆ นี้ ทว่าเธอไม่เคยหนีพ้น ปู่ยังสั่งนู่นสั่งนี่ผ่านคิวมาตลอดเพราะรู้ว่าคิวสามารถควบคุมเธอได้

    ไอวี่น้ำตาซึมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใบหน้านิ่งเฉยนั้นมองมาด้วยสายตาที่นิ่งเรียบเสียกว่าทุกครั้ง มันเหมือนกับเขาจะบอกผ่านสายตาว่าอย่าทำตัวมีปัญหามากนัก

    “นายมันก็ใจร้ายพอๆ กับปู่ของฉันนั่นล่ะ! รู้ว่าฉันไม่ชอบแต่ก็ยังจะพาฉันไปดูตัว ถามจริงนายดูไม่ออกหรือไงว่าฉันเกลียดการบังคับเกลียดการจับคุมถุงชน! และที่ฉันเกลียดมากกว่านั้นคือการที่นายเป็นคนพาฉันไปดูตัวทุกครั้ง!

    ไอวี่ยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเสียใจที่จุกแน่นอยู่ในอก “ใช่สินายจะไปรู้สึกอะไรนายไม่เคยสนใจความรู้สึกของฉันอยู่แล้วนี่”

    ใช่..เธอไม่ชอบที่คิวทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งๆ ที่เขาอาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอชอบเขา เธอไม่อยากจะเป็นคนน่าสมเพสที่ต้องสวมหน้ากากเข้าหาผู้ชายที่ผู้ใหญ่เลือกให้ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบหรอกนะ!

    “ก็มันเป็นหน้าที่ฉัน”

    “หน้าที่ หน้าที่สินะ หึ ถ้านายชอบที่จะทำตามคำสั่งของคนบ้านนั้นนักก็เชิญ เชิญไปรับใช้ปู่ฉันโน่นไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก!!”

    ไอวี่มองหน้าคิวอย่างตัดพ้อแล้ววิ่งขึ้นมาบนห้องขังตัวเองเอาไว้กับความรู้สึกน้อยใจและเสียใจปนเปกันไปหมด ไอวี่พยายามเข็มแข็งแล้วแต่ต่อหน้าคิวเธอไม่เคยทำมันสำเร็จเลยสักครั้ง ยิ่งสายตาเขาตอกย้ำว่าในนั้นไม่มีเธอก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าดิม

    เธอรู้สึกพ่ายแพ้อีกครั้ง และทุกๆ ครั้งคนที่ชนะก็ยังเป็นเขาเสมอ

    ไอวี่หยิบซองสีน้ำตาลที่สั่งริต้าไปสืบขึ้นมาดู เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในก็ยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดขึ้นไปอีก

    ภาพและข้อมูลของผู้หญิงที่คิริณ เกียรติเกรียงไกรหรือ แคลร์ผู้หญิงที่ทำให้คิวเสียอาการ ในนี้มีประวัติคร่าวๆ และมีรูปถ่ายหลายใบ ไอวี่อ่านและดูข้อมูลจนหมดทุกแผ่นก็ยิ้มขมขื่นขึ้นมา

    ผู้หญิงที่ชื่อแคลร์เป็นแฟนของพี่คินทร์ที่เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับคิว ข้อมูลทุกอย่างเหมือนกับที่สาลี่เพื่อนของเธอบอกทว่ามีบางสิ่งที่เธอเพิ่งจะรู้

    คิวสนิทกับผู้หญิงคนนี้มาก มากเสียจนภาพที่ริต้าหามาแปดในสิบใบจะมีภาพคู่ของทั้งสองคน อีกทั้งแต่ละภาพย้ำเตือนให้เธอได้รู้ว่าคิวมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองมากแค่ไหน ดูได้จากรอยยิ้มในภาพเธอก็รู้

    ว่าเธอไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านี้จากคนอย่างคิวกรณ์เลย..

    ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตอนไหน พอตื่นขึ้นมารอบด้านก็มืดไปเสียหมด มองนาฬิกาก็พบว่านี่เพิ่งจะสามทุ่มกว่าๆ ไอวี่ออกมาจากห้องนอกไม่ลืมหยิบซองสีน้ำตาลติดออกมาด้วย เมื่อเดินออกมาด้านนอกก็เห็นว่าคนที่เฝ้าหน้าห้องเธออยู่ตอนนี้เป็นริต้าคนสนิทของเธอเอง

    “ทำไมพี่ไม่ไปนอน”

    “ตอนนี้เป็นเวรของฉันค่ะ”  

    “ในเรือนแก้วมีใครอยู่บ้าง” เหมือนจะถามเป็นนัยๆ แต่คนสนิทของเธอก็รู้ดีว่าหมายความว่ายังไง

    “มีแค่คุณทิมและลูกน้องบางคนค่ะ”

    “แล้วเขาไปไหน”

    “คุณคิวกับคุณเมืองสิงห์ออกไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วค่ะ คืนนี้น่าจะไม่กลับ” ไอวี่เงียบไปพักหนึ่ง

    “ไปเตรียมรถ ฉันจะออกไปข้างนอก”

    “คุณหนูจะไปไหนคะ” พี่ริต้าถามแต่ฉันก็ไม่ได้บอกอะไรไป ขืนบอกแน่นอนว่าการที่แอบออกไปข้างนอกจะต้องรู้ถึงหูใครสักคนแน่ๆ

    เมื่อคนเป็นนายไม่ตอบริต้าเองก็รู้หน้าที่ สั่งให้คนไปเตรียมรถและไม่วายแจ้งทิมที่เป็นคนสนิทกับเจ้านายอีกคนได้ทราบเอาไว้ก่อน

    “คุณหนูจะไปไหนครับ” เมื่อไอวี่แต่งตัวและลงมาด้านล่างก็พบกับทิมที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วเธอหันไปมองริต้าก่อนจะถอนหายใจ

    “ผมเห็นคนเตรียมรถพอดีเลยเข้ามาดูครับ” ทิมกล่าวขึ้นทันที

    “จะออกไปข้างนอก ไม่ต้องตาม”

    “ไม่ได้ครับ คุณคิวสั่งไว้ว่าให้ตามอารักขาคุณหนู..”

    “ใครเป็นเจ้านายของนายกันแน่” ไอวี่ถามอย่างไม่พอใจ

    ทิมเองก็เงียบไปเพราะเจ้านายจริงๆ ของตนคือคุณหนูไอวี่ และรองลงมาคือคุณคิว แต่แน่นอนว่าทุกๆ คนรู้ดีว่าถึงอย่างนั้นคำสั่งคุณคิวสำคัญกว่าเพราะความปลอดภัยของคุณหนูต้องมาก่อน

    “คุณหนูครับ..” ทิมทำท่าจะแย้งแต่ไอวี่ไม่เปิดโอกาสให้

    “งั้นก็ตามนั้นไม่ต้องตามเพราะฉันจะไปกับริต้า” ไอวี่สั่ง

    ริต้ารู้หน้าที่จึงเดินไปเปิดประตูรถให้คุณหนูส่วนเธอจะเป็นคนขับรถเอง เมื่อพร้อมริต้าก็ออกรถทันที

    ทิมมองตามรถที่เพิ่งแล่นออกไปก่อนจะกดโทรศัพท์รายงานเจ้านาย จากนั้นก็ให้คนเตรียมรถเพื่อที่จะได้ตามรถของคุณหนูไอวี่ไป

    “จะไปไหนคะคุณหนู” ริต้าถามทันทีที่ขับรถออกมาได้สักพักหนึ่ง

    “พี่บอกทิมเหรอว่าฉันจะออกไปข้างนอก”

    “เปล่าค่ะคุณทิมเธอทราบเอง” ริต้าโกหกเพราะเธอไม่อยากให้คุณหนูมองเธอเป็นคนนอก “ตกลงคุณหนูจะให้ฉันขับไปส่งที่ไหนคะ”

    “พี่ขับไปตามที่ฉันบอกนั่นล่ะขืนบอกก่อนมีหวังคงไปไม่ถึง..”   

    ยังไม่ทันที่ไอวี่จะพูดจบโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เมื่อยกขึ้นมาดูก็ต้องทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย

    ไอ้บ้ากฎระเบียบ

    “ให้ตายข่าวเร็วชะมัด” ไอวี่กดปิดเครื่องทันทีแล้วหันไปมองวิวยามค่ำคืนรอบด้านแทน ทว่าไอวี่คงลืมไปว่าถึงเธอจะปิดเครื่องแต่โทรศัพท์ของบอดี้การ์ดที่ขับรถให้เธออยู่นั้นยังคงเปิดปรกติ

    “คุณคิวโทรมาค่ะ” ริต้ารายงานคุณหนูทันทีที่สายเรียกเข้าดัง

    “ไม่ต้องรับ” ไอวี่สั่ง เธอยังไม่อยากเจอเขาในตอนนี้แต่ก็คงเลี่ยงได้ไม่นานเพราะเธอรู้ว่าคิวจะต้องตามตัวเธอเจอแน่

    ริต้ายอมฟังคำสั่งเก็บโทรศัพท์ก่อนจะขับรถไปยังสถานที่ที่คุณหนูสั่ง เธอรู้ดีว่าถึงคุณหนูไอวี่หรือเธอไม่บอกว่าอยู่ที่ไหนแต่คุณคิวก็รู้อยู่ดี

    เพราะเครื่องมือสื่อสารและเครื่องประดับบางชนิดถูกติดตั้งระบบตามตัวเอาไว้..ซึ่งแน่นอนว่าข้อนี้คุณหนูเธอไม่ทราบ

    ริต้าขับพาเจ้านายของตนมาถึงที่ตึกสูงแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเธอคุ้นตาดีเพราะเป็นคนไปหาข้อมูลให้คุณหนูเองกับมือ 





    ※ โหวต เม้นท์ เฟบ ให้กำลังใจ 






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×