ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 เดรโก มัลฟอย (Re.03)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 64


    UP : 16/07/60

    Re-write : 16/08/60

    Re-write 2 : 12/07/61

    Re-write 3 : 09/06/64

    บทที่ 4 เดรโก มัลฟอย

     

    ดัมเบิลดอร์รีบกลับทันทีที่จบการไต่สวน พวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันนับจากวันนั้น แฮร์รี่ดูหัวเสียที่ไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้ เฮเลนปวดหัวอย่างหนัก ดูเหมือนความทรงจำของตัวละครในหนังสือเริ่มแทรกซึมเข้ามาในสมองของเธออย่างเสียไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไปมากท่าไร เธอยิ่งสัมผัสได้ถึงความเป็นตัวตนของเฮเลน พอตเตอร์ ได้มากเท่านั้นและไม่อาจปฏิเสธทฤษฎีที่ตัวเองคิดขึ้นมาได้เลยว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้กลับไปเปิดห้องสมุดอีกแล้วก็ได้

    ในวันที่พวกเขาต้องเดินทางไปสู่ฮอกวอตส์ เกิดเหตุจลาจลขึ้นในบ้านจากที่ได้ยินระหว่างการเตรียมตัวและแพ็คของบนชั้นสาม เฮเลนจับใจความได้ว่าเฟร็ดกับจอร์จก่อเรื่องจนทำให้จินนี่พลัดตกบันได คุณนายแบล็กที่เป็นรูปภาพถูกผ้าม่านที่เคยบดบังเอาไว้เปิดมันออกทำให้เธอกรีดร้องเสียงดังและก่นด่าทุกคนที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะซีเรียส และนางวีสลีย์ต่างก็กรีดร้องสุดเสียงทำเอาเธอหูแทบแตก

    “แม้ด-อายบ่นว่าเราจะออกไปไม่ได้จนกว่าสเดอร์จิส พอดมอร์จะมาที่นี่" เฮอร์ไมโอนี่พูด "ไม่งั้นผู้คุมจะขาดไปคนนึง”

    “ผู้คุม?” แฮร์รี่หันไปถามหลังจากที่ทุกคนเดินลงบันไดมาแล้ว เฮเลนมองใบหน้าเธออย่างเหม่อลอยเมื่อนึกขึ้นว่าจะต้องไปร่ายคาถาในโรงเรียนเสียแล้วทั้งๆ ที่เธอยังไม่พร้อมเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าในระหว่างนั้นแฮร์รี่จะช่วยให้เธอออกเสียงร่ายคาถา แต่มันก็ยังไม่สามารถทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นอยู่ดี “เราต้องไปสถานีคิงส์ครอสพร้อมกับผู้คุมเหรอ”

    “เธอสองคนต้องไปคิงส์ครอสพร้อมกับผู้คุ้มกัน” เฮอร์ไมโอนี่แก้ แฮร์รี่หันมามองหน้าเฮเลนพร้อมเลิกคิ้ว

    “ทำไม?” แฮร์รี่ถามก่อนจะหันกลับไปหาเฮอร์ไมโอนี่ “คิดว่าโวลเดอมอร์จะโผล่ออกมาฆ่าฉันทางถังขยะสถานีรึไง”

    “ไม่รู้ ฉันแค่พูดตามที่ได้ยินจากแม้ด-อาย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางมองดูนาฬิกา “แต่ถ้าเราไม่รีบออกไปล่ะก็...”

    ยังไม่ทันได้พูดคุยกันไปมากกว่านี้ เสียงตะโกนของนางวีสลีย์ก็ทำให้ทุกคนสะดุ้งรีบกุลีกุจอลงไปยังห้องโถงอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีในการเดินทางมาถึงสถานีคิงส์ครอส ไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าตื่นเต้นนอกจากซีเรียสในร่างของเท้าปุยวิ่งไล่แมวสองตัวให้สองแฝดดูเมื่อเข้ามาอยู่ในสถานี แต่เฮเลนกลับยิ่งหัวเราะไม่ออกเพราะมันพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความฝัน และนอกจากนั้นคนที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอนี่สิ...

    “หมาน่ารักดีนี่แฮร์รี่” ลี จอร์ดันเอ่ยทักทันทีที่พวกเขาทุกคนไปถึงชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ แฮร์รี่หันไปยิ้มให้เขานิดหน่อยก่อนที่ลูปินจะเดินตามมาจะยื่นอะไรบางอย่างให้กับเขา มันคงเป็นรูปรวมของเหล่าผู้ก่อนตั้งภาคีนกฟินิกซ์ ลูปินแอบกระซิบบอกแบบนั้นส่วนซีเรียส...

    “พระเจ้าทำอะไรให้เหมือนหมาหน่อยได้ไหม” นางวีสลีย์แยกเขี้ยวใส่เท้าปุย

    สองเท้าหน้าของสุนัขตัวใหญ่วางพาดลงบนไหล่ของเฮเลน เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็หัวเราะคิกคัก ความรู้สึกมีความสุขแล่นขึ้นมาราวกับว่าเธอและซีเรียสได้อยู่ด้วยกันมาก่อนแล้วทั้งที่เธอเองก็เพิ่งจะได้เจอเขาเมื่อไม่กี่วันนี้เท่านั้น เธอจุ้บจมูกของซีเรียสเบาๆ อย่างมีความสุข ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คนรอบข้างทำให้เธอ มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และมีความสุขเสียเหลือเกิน

    นางวีสลีย์ไล่เด็กๆ ขึ้นรถด่วนฮอกวอตส์เนื่องจากใกล้จะถึงเวลารถไฟออกตัวแล้ว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่แยกตัวไปอยู่ที่ตู้พรีเฟ็ต ส่วนเฟร็ดและจอร์จแยกตัวไปหาลี จอร์ดันและแท็คเองหลังจากขึ้นรถไฟมาเขาก็หายตัวไปเลยอย่างไร้ร่องรอย เฮเลนคิดว่าเขาคงจะไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนบ้านสลิธีรินของเขาที่ตู้ประจำของบ้านสลิธีรินที่เขานั่งอยู่เป็นประจำ

    ไปหาที่นั่งกันเถอะ” จินนี่พูดแล้วดึงแขนแฮร์รี่ให้เดินตามไป เฮเลนเดินตามหลังแฮร์รี่ไปติดๆ ทั้งสามเดินไปตามทางระเบียงรถด่วนอย่างยากลำบาก มองลอดช่องกระจกและสบตากับพวกที่มองมาที่พวกเขาอยู่ก่อนแล้ว มันดูตลกดีที่เฮเลนเจอกับพฤติกรรมแบบนี้มาร่วมห้าตู้แล้ว เธอไม่ชินเสียเท่าไหร่กับเหตุการณ์นี้ เพราะอย่างน้อยในโลกใบเก่านั้นเธอก็ไม่ได้เป็นจุดสนใจของผู้คนมากมายขนาดนี้และนอกจากนั้นเธอยังเป็นเพียงธาตุอากาศเสียอีก...

    “ทายซิว่าใครได้เป็นพรีเฟ็ตบ้านสลิธีริน!” เกือบเที่ยงที่รอนและเฮอร์ไมโอนี่เดินมาหาพวกเขาที่ตู้ เด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงเพลิงทิ้งตัวลงนั่งพร้อมบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยเปื่อย เฮเลนมองเขาพลางหยิบขนที่จินนี่ยื่นให้เข้าปาก

    “มัลฟอย” แฮร์รี่ตอบหน้าเนือยๆ เขานั่งร่วมตู้อยู่กับลูน่า เลิฟกู๊ดและเนวิลล์ ลองบัตท่อมที่ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ทำให้บทสนทนาออกจะน่าเบื่อถ้าหากขาดจินนี่ไป ลูน่ายื่นนิตยสารเดะควิบเบลอร์เล่มล่าสุดให้เฮเลน มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริงที่ได้สัมผัสนิตยสารเล่มนี้

    “กับยัยหน้าหงิกแพนซี่ด้วย” เฮอร์ไมโอนี่ย่นจมูก “ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ยัยสมองทึบนั่นได้เป็นพรีเฟ็ต”

    “ใจเย็นน่าเฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ว่าพลางยื่นขนมส่งให้เธอ เด็กสาวผมฟูรับไว้ก่อนที่พวกเขาจะนั่งคุยกันเรื่องสัพพะเหระต่างๆ ไปเรื่อยๆ อย่างสนุกสนาน พักเดียวเท่านั้นที่พวกเขากำลังสนุกอยู่ ใครบางคนก็เปิดประตูตู้ออก ทุกคนหันไปมอง จริงๆ เฮเลนเกือบลืมไปเสียด้วยซ้ำว่าเขาต้องปรากฏตัวขึ้นในฉากนี้

    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือเรียวยาวผิวขาวซีดทันที ใบหน้าเรียวคมภายใต้เรือนผมสีบลอนด์จางที่ถูกจัดทรงอย่างดี คิ้วที่โก่งพอได้รูปกับดวงตาเย่อหยิ่งสีฟ้าซีดเกือบเทา จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าและริมฝีปากบางสีชมพูอมส้มสวยจนน่าอิจฉา...

    เดี๋ยว ช้าก่อน! ชายในรูปมโนในครั้งที่เธออ่านหนังสือเขาไม่ได้หล่อขนาดนี้นี่หว่า!!

    “มีอะไร” แฮร์รี่เอ่ยถามขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนที่มัลฟอยจะมีโอกาสได้เปิดปาก

    “มารยาท พอตเตอร์” เขาพูดเสียงเหยียด “นายรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นพรีเฟ็ต ฉันมีอำนาจมากพอที่จะ...”

    ดวงตาสีฟ้าจางนั้นเหลือบมองมาทางเฮเลน เด็กสาวสะดุ้งหันหน้าหนี มัลฟอยยิ้มกริ่มที่มุมปากก่อนจะพูดต่อ

    “ฉันไม่เหมือนนาย ฉันมีอำนาจพอจะสั่งลงโทษนายได้”

    “คงงั้น” เขายักไหล่ “แต่นายก็ไม่เหมือนฉันเพราะนายมันยอดยี้งี่เง่า เพราะงั้นออกไปซะ”

    รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่และเนวิลล์หัวเราะร่า ส่วนเฮเลนได้แต่มองเสี้ยวหน้าของเขาโดยที่ยังไม่แน่ใจนักว่าความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาในใจนี้มันคืออะไร เดรโก มัลฟอย เป็นอะไรกับเฮเลน พอตเตอร์ ความทรงจำที่พวกเขายิ้มให้กันที่ผุดขึ้นมานี่คืออะไร เสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะมันช่างน่าประหลาด ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนอย่างนั้นแหละ

    “รู้สึกยังไงที่ต้องเป็นรองจากวีสลีย์” มัลฟอยยกยิ้มมุมปากเป็นเชิงเยาะเย้ย “ฉันพูดถูกไหมล่ะฉันจะคอยติดตามนายทุกฝีก้าวเลยพอตเตอร์”

    "ไปให้พ้น มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ออกปากไล่เขาและปิดประตูใส่หน้ามัลฟอยอย่างแรง 

    เขาจากไปโดยมีแครบและกอยล์อุ้ยอ้ายตามหลังไปด้วย

    ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงฮอกวอตส์ รอนและเฮอร์ไมโอนี่หายตัวไปอีกครั้งตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แฮร์รี่และเฮเลนยืนรอรอนกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่ตรงถนนมืดๆ นอกสถานีฮอกส์มี้ด ตรงนั้นมีรถม้าที่ไม่มีม้าลากร้อยกว่าคันจอดอยู่ รถม้าเหล่านี้จะเป็นพาหนะของนักเรียนที่อยู่สูงกว่าปีหนึ่งไปที่ปราสาท แฮร์รี่มองจ้องที่รถม้านั้นอยู่นานจนเฮเลนก็แอบสงสัยแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอรู้ว่าแฮร์รี่นั้นมองเห็นเธสตรอลแต่เธอนั้นไม่อาจมองเห็นมันได้ดั่งที่เขาเห็นเพราะเฮเลน พอตเตอร์ไม่ได้เห็นความตายของเซตริก...

    ไม่นานนักรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็มาพร้อมกับเสียงเด็กปีสองร้องโวยวายอยู่ไม่ไกล เดรโก มัลฟอยกับผู้ติดตามกำลังใช้อำนาจในการรังแกเด็กปีสองท่าทางขี้กลัวคนหนึ่งอยู่ก่อนที่เขาจะหันมายกยิ้มมุมปากอย่างเย่อหยิ่งใส่เธอ เฮเลนขมวดคิ้วยุ่ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมมัลฟอยถึงได้ดูน่าหมั่นไส้นัก

    “เธอไม่ได้เป็นบ้าหรอก” ลูน่าพูดขึ้นเมื่อทุกคนก้าวขึ้นรถ แฮร์รี่พยักหน้าให้เธอนิดหน่อยก่อนที่รถม้าจะเคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทาง

    หลังจากที่พวกเขาเข้ามานั่งในห้องโถงและฟังดัมเบิลดอร์กล่าวปราศรัยเป็นที่เรียร้อย พวกเขาลงมือทานมื้อค่ำกันอย่างหิวโหย เฮเลนแทบไม่อยากละมือออกจากน่องไก่พูนๆ ตรงหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว มันอร่อยจนแทบลืมไปเลยว่าวิชาเรียนพรุ่งนี้เธอจะต้องทำอย่างไรต่อไป เธอได้แต่หวังว่าความทรงจำที่ค่อยๆ ไหลเข้ามาในสมองตอนนี้จะช่วยให้เธอรอดพ้นจากเหตุหารณ์ข้างหน้าไปได้

    “เอาล่ะ ในขณะที่เรากำลังย่อยอาหาร ฉันขอให้พวกเธอฟังฉันสักสองสามนาทีนะ” เสียงดัมเบิลดอร์ดังขึ้น สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังใบหน้าของเขา “นักเรียนปีหนึ่ง ขอให้รู้เอาไว้ว่าป่านั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับทุกคน และนักเรียนโตๆ ของเราบางคนก็น่าจะรู้ได้แล้วเช่นกัน... (แฮร์รี่กับรอนแอบหัวเราะกันเบาๆ) คุณฟิลช์ ภารโรงของเราบอกฉันเป็นครั้งที่สี่ร้อยหกสิบสองให้ฉันเตือนพวกเธอว่าห้ามใช้เวทมนตร์ทุกประเภทในระเบียงทางเดินระหว่างเปลี่ยนคาบเรียนและมีข้อห้ามอีกจำนวนหนึ่งที่พวกเธอจะตรวจสอบได้ที่หน้าห้องทำงานคุณฟิลช์”

    เฮเลนหยุดทานอาหารและมองไปรอบห้องโถงโดยพยายามไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมายังร่างของเธอ ใช่ร่างของเธอไม่ใช่แฮร์รี่ รอนเคยหลุดปากออกมาว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากเด็กนักเรียนชายหลายคนในโรงเรียน เฮเลนแอบคิดว่ามันไม่ค่อยตลกเท่าไหร่ตอนที่เขาหัวเราะขณะพูด โชคร้ายที่เรื่องนี้ถูกยืนยันได้ทันทีที่เธอเข้ามาในห้องอาหาร สายตาของพวกเขามองเธอต่างจากแฮร์รี่มากพอสมควรเลยทีเดียว

    “เรามีการเปลี่ยนแปลงกันนิดหน่อย ขอต้อนรับอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ ศาสตราจารย์โดโรเรส อัมบริดจ์” หญิงสาวร่างเตี้ยสวมชุดสีชมพูแสบตายืนขึ้นและกระแอมไอเสียงดัง ทุกคนคาดว่าเธอตั้งใจจะกล่าวปราศรัยและมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

    “เขาอยู่ในวันพิจารณาคดีด้วย” แฮร์รี่กระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่และรอนพลางเหล่ตามาทางเฮเลน

    “ใช่” เธอตอบรับ “ยอมรับเลยว่าอยากเอาผิดเราให้สาแก่ใจ – ให้ตายเถอะ – มาทำอะไรที่นี่กันนะ”

    เฮเลนเม้มปากอย่างเป็นกังวล เธอรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าโดโรเรส อัมบริดจ์จะต้องมาสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่นี่ แต่เธอคงไม่สามารถแทรกแซงให้หล่อนไม่มาสอนได้ แต่สิ่งที่เฮเลนจะทำได้ตอนนี้คงจะเป็นหาทางไม่ให้เฟร็ดกับจอร์จไปจากโรงเรียนนี้... แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ แล้วยิ่งอนาคตนั่นยิ่งแล้วใหญ่เลย...

    “ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ใหญ่” อัมบริดจ์ยิ้ม “ดีเหลือเกินที่ได้กลับมาฮอกวอตส์อีกครั้ง ฉันจะตั้งหน้าคอยที่จะได้รู้จักพวกเธอทุกคนและฉันแน่ใจว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

    เสียงปราศรัยของอัมบริดจ์ยังดังขึ้นเรื่อยๆ แต่เฮเลนไม่สนใจมันอีก เธอไม่ต้องการฟังเสียงแหลมๆ น่าหนวกหูของผู้หญิงคนนั้นในตอนนี้ และไม่นานนักดัมเบิลดอร์ก็ขึ้นมากล่าวอีกครั้งและเห็นได้ชัดว่าเขากำลังปล่อยให้นักเรียนแต่ละคนออกไป เพราะทุกคนต่างยืนขึ้นพร้อมจะเดินออกไปจาห้องโถง เฮอร์ไมโอนี่เด้งตัวพรวดและลากรอนออกไปเพื่อไล่ต้อนพวกปีหนึ่งให้ไปตามทางเดินขึ้นหอ

    แฮร์รี่ลุกขึ้นและเดินออกไปก่อนเพื่อย้ายตัวเองไปยังห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์ เฮเลนบอกให้เขาเข้าไปก่อนเนื่องจากว่าต้องการคิดอะไรคนเดียวสักพัก ลานน้ำพุมีนักเรียนไม่มากและเงียบสมกับเวลาหลังอาหารค่ำ ความจริงไม่ควรมีนักเรียนคนไหนมาเดินเรื่อยเปื่อยอยู่แถวนี้เพราะฟิลช์อาจจะหาเรื่องลงโทษเอาก็ได้ แต่เฮเลนไม่กังวลเรื่องนั้น เธอเดินไปนั่งริมน้ำพุพร้อมเงยหน้าขึ้นมองดวงดาวที่ทอแสงอยู่บนท้องฟ้าสีกำมะหยี่ด้วยสายตาเหม่อเลย

    “เฮ้อ” การถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบของวัน เฮเลนพยายามเรียบเรียงความทรงจำที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง เธอเดาว่ามันคงจะเป็นความทรงจำของเฮเลน พอตเตอร์อย่างแน่นอน อย่างน้อยตัวละครตัวนี้ก็ใช้ชีวิตมาพร้อมกับแฮร์รี่ ถึงแม้มันจะขาดช่วงตอน แต่มันก็ทำให้เฮเลนรู้ว่า เดรโก มัลฟอย ไม่ใช่แค่ศัตรูตัวฉกาจของแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่เป็นใครอีกคนของเธอ ใครอีกคนที่ดูจะพิเศษกว่าคนอื่นๆ

    อีกอย่างความทรงจำเหล่านั้นระหว่างเธอกับมัลฟอยก็ดูไม่ได้จะเลวร้ายอย่างที่คาดเอาไว้ ทั้งคู่ดูจะญาติดีกันเสียด้วยซ้ำโดยเฉพาะความทรงจำน่าอายที่เด่นชัดอยู่ในสมองของเธอตอนนี้...

    “ชอบนั่งอยู่ตรงนี้จริงๆ เลยนะ” เสียงทุ้มให้ความรู้สึกประหลาดดังขึ้น เฮเลนหันไปมองร่างที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ไม่ไกลนักด้วยความตกใจ เดรโก มัลฟอยยืนอยู่ตรงนั้น หนำประโยคที่เขาพูดมันเหมือนกับว่าเขารู้ดีว่าเธอมักจะมาอยู่ตรงนี้อยู่เสมอเขามีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ กับเธอจริงๆ สินะ...

    เขาสาวเท้าเข้ามานั่งข้างๆ เธออย่างใจเย็น น่าแปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกว่าควรขยับถอยห่างออกไปเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกรังเกียจและไม่ได้รู้สึกอยากจะหนีไปให้ไกลแต่อย่างใด แต่มันกลับเหมือนมีแรงดึงดูดอย่างน่าประหลาด ดึงให้เธอรู้สึกอยากเข้าใกล้เขามากขึ้นเสียด้วยซ้ำไป

    แถมเสียงเรียกของหัวใจของเธอตอนนี้ทำให้เธออยากจะเข้าไปนั่งใกล้เขามากกว่านี้... มากกว่านี้อีกสักหน่อย...

    “ไหนเธอบอกว่าปิดเทอมจะเขียนมาหาฉันไง” มัลฟอยเริ่ม “ไม่เห็นมีสักฉบับ”

    เฮเลนหันไปจ้องหน้าเขาตอบทันที ความทรงจำนั้นแจ่มชัดมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เขาบอกว่าเธอจะเขียนไปหาเขา ใช่! เฮเลน พอตเตอร์คนนั้นบอกว่าจะเขียนไปหาเขาจริงๆ แต่ไม่ได้บอกว่าวันไหนบ้าง สรุปแล้วจนกระทั่งเกิดเรื่อง เธอคงไม่ได้เขียนไปหาเขาเลยสักฉบับเป็นแน่

    “อะไร” มัลฟอยเลิกคิ้ว “ลืมไปแล้วเหรอว่าเธอบอกฉันว่าจะเขียนมาหา – ยัยบื้อ”

    “ฉัน -- มันก็แค่ -- " เฮเลนอึกอัก ความรู้สึกช่างสวนทางกับความเป็นจริงเสียเหลือเกิน! "มันมีปัญหาขึ้นนิดหน่อยน่ะ เฮนรี่ก็เลยออกไปไหนไม่ได้ชั่วคราวน่ะ"

    "น่าสงสารจังนะ นกฮูกน้อยของเธอน่ะ" มัลฟอยพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เฮเลนจนเด็กสาวสะดุ้งเฮือก "มันคงไม่รู้เลยว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน-- อย่างนั้นสินะ"

    "เอ่อ -- " เฮเลนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเสียเหลือเกินที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แล้วยิ่งประโยคที่เขาพูดต่อมาจากนั้นด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งทำให้เสียงหัวใจเต้นดังจนเธอยังได้ยิน "ฉันก็ --"

    "ก็ -- ก็อะไรงั้นเหรอ พอตเตอร์" เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ "ให้ฉันรื้อฟื้นความจำให้เอาไหม -- เผื่อว่าเธอจะนึกถึงคืนวันงานเต้นรำขึ้นมาได้บ้าง”

    “เอ่อ – ไม่ – ไม่เป็นไร ขอบใจ” เฮเลนอึกอัก แต่ว่าเหือนมันจะเป็นประโยคปฏิเสธที่ช้าไปเสียหน่อย

    เอวบางถูกรวบเข้าไปและถูกดึงเข้าไปใกล้ๆ กับร่างสูง ดวงตาสีฟ้าซีดต้องแสงจันทร์ดูมีเสน่ห์จนไม่อาจละสายตาออกไปได้ ไม่รู้เมื่อไรที่ร่างของเธอถูกสาปให้แข็งเป็นหินด้วยดวงตาคู่นั้น ใบหน้าของเขาเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดจมูก มือเล็กๆ ออกแรงดันที่หน้าอกของเขาเบาๆ อย่างน้อยก็อาจจะช่วยให้เขาถอยออกไปได้ แต่โชคร้ายที่มันไม่ได้ผลนัก

    แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะแตะกัน เสียงกระแอมของใครบางคนก็ดังขึ้นมา แท็คยืนอยู่ที่ทางเดินไม่ไกลนัก เขาหนีบหนังสือเอาไว้ที่แขนขวาและมองมายังทั้งคู่ด้วยสายตาเรียบเฉย

    “ผมว่ามาทำเรื่องแบบนี้มันไม่ค่อยดีนะครับ” แท็คพูดเสียงเรียบ “ยังไงนี่มันก็โรงเรียน ผเองก็ยังไม่อยากได้คะแนนบ้านตกอันดับโหล่ตั้งแต่ต้นเทอมหรอกนะ”

    มัลฟอยยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง เขาถอยออกห่างจากร่างบางพร้อมกับหันไปมองแท็คด้วยสายตาไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน มัลฟอยหันมามองเฮเลนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้น ร่างสูงก้าวขาตรงไปยังห้องนั่งเล่นบ้านสลิธีรินในทันทีในขณะที่แท็คเองก็ทำท่าทางน่าสงสัยพร้อมกับเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ

    เฮเลนใช้สองมือตบหน้าตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติสตังให้กลับคืนมาและมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยก่อนจะวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเกือบปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยริมฝีปากให้ตกไปเป็นของเดรโก มัลฟอย ผู้แสนร้ายกาจคนนั้นเสียแล้ว!

     

    ติดตามตอนต่อไป...

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×