ลำดับตอนที่ #48
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #48 : lavender
ll and these are all of my love and honesty just for you. ll
____________________________________________________
APPLICATION
"ฉันเหนื่อยกับการวิ่งตามความรักที่ไม่เคยมองเห็นตัวฉันมาตลอดทั้งชีวิต
แต่เพราะแบบนั้น ฉันถึงไม่เคยเลิกไล่ตามมันได้เลย"
บท:: { 11 } Lil' Mermaid
ชื่อ:: โดโลเรส ทริสทาน่า l Dolores Tristana
ความหมายชื่อ:: โดโลเรส - สุภาพสตรีแห่งความเศร้า l ทริสทาน่า - ที่น่าสงสาร l โดโลเรส ทริสทาน่า - { สุภาพสตรีแห่งความเศร้าหมองผู้แสนน่าเวทนา}
ชื่อเล่น:: -
ชั้นปี:: 4
อายุ:: 19ปี
ฝั่ง:: ครีเอ (ผู้สร้าง)
ระดับพลังเวทย์:: ปานกลาง
ส่วนสูง/น้ำหนัก:: 166ซม. l 45กก.
รูปร่างลักษณะ::
ความงามที่ดูราวกับดอกลาเวนเดอร์อันอ่อนหวาน โดโลเรส ทริสทาน่า หญิงสาววัยสิบเก้าปีที่เติบโตขึ้นมาอย่างงดงามและเลอค่า ผิวพรรณนวลผุดผ่องนุ่มราวกับไม่เคยต้องสิ่งสกปรกฝุ่นควันใด ๆ ดวงหน้าหวานละมุนที่ดูราวกับไม่มีจุดบกพร่องใดเลย หากโดดเด่นที่สุดกลับเป็นอัญมณีสีครามอ่อนคู่สวย เคยมีคนเปรียบเปรยไว้ว่า ดวงตาของเธอได้บรรจุดวงดาวนับล้านเอาไว้ภายใน โดโลเรสมีดวงตาที่สวยมาก ทั้งในเรื่องของรูปทรง สีสัน และแววประกายภายในนั้น เมื่อกอปรกับรอยยิ้มหวานละไมจากริมฝีปากบางระเรื่อ ก็ดูสวยงามไม่ต่างจากเทพธิดา เรือนผมของเธอเป็นสีฟ้าหม่นยาวจรดบั้นเอว มันหนานุ่มและมีกลิ่นน้ำหอมที่ความรู้สึกเย็นและสงบดั่งป่าสนปะปนอยู่เสมอ เธอมีสรีระของสตรีเพศที่ชัดเจน อกอิ่มสะโพกผาย ส่วนรูปร่างก็ติดไปทางผอมเพรียวเป็นหลัก
โดโลเรสมีสไตล์การแต่งตัวที่ให้ความรู้สึกแบบลูกคุณหนูผสมความสุภาพนุ่มละมุน เสื้อผ้าส่วนมากของเธอเป็นโทนสีอ่อนจำพวก สีขาว สีเบจ สีม่วงอ่อน สีครีม เป็นหลัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเสื้อผ้าสีโทนแดงหรือสีทึบอย่างสีเทากับสีน้ำเงินอยู่เลย เน้นเสื้อไหมพรมทักแขนยาว หรือไม่ก็เสื้อที่มีเนื้อผ้านุ่มกับระบายในบางส่วน ชอบสวมใส่กระโปรงยาวครึ่งเเข้ง กับรองเท้าหุ้มส้นสีดำและถุงเท้าสั้นอยู่เสมอ มีพวกสร้อยหรือต่างหูบ้างเเล้วแต่พอเป็นพิธี แต่จะชอบเน้นไปที่เครื่องประดับแต่งผม อย่างหมวกเบเร่ต์ โบว์ เชือกรัดผม หรือกิ๊ฟน่ารัก ๆ ซะมากกว่า นอกจากนี้เธอยังสวมเเหวนเงินธรรมดา ๆ วงหนึ่งติดตัวไว้ตลอดเวลา โดโลเรสพกกระเป๋าใบเล็กติดตัวอยู่เสมอ ว่ากันว่ามันเป็นกระเป๋าวิเศษ (?) เพราะจุของได้เยอะมากจนน่าตกใจ แถมเจ้าตัวยังพกอะไรต่อมิอะไร ทั้งกระเป๋าเงิน เครื่องสำอางค์ ผ้าเช็ดหน้า ทิชชู่เปียก สเปรย์พริกไทย ชุดเย็บผ้าขนาดเล็ก สมาร์ทโฟน ปากกา ลามไปยันถึงลูกอมเม็ดเล็ก ๆ ไว้กินแก้ง่วงเลยทีเดียวน่ะสิ น่าสงสัยชะมัดว่ายัดเข้าไปได้ยังไงหมดนั่น..แถมเวลาหาก็คว้าหยิบได้ไวมากอีกต่างหาก
อุปนิสัย::
• hello, sweetie princess.
ใครสักคนที่ดูราวกับเจ้าหญิงตัวน้อย ใครสักคนที่สมควรได้รับความรัก และได้รับการเอาใจใส่ดูแล คน ๆ นั้นคือใครกันนะ? สำหรับ โดโลเรส ทริสทาน่า ดวงตาของเธอนั้นจ้องมองโลกนี้ด้วยความอ่อนหวานอยู่เสมอ เพราะแบบนั้นเองที่ทำให้หญิงสาวผู้อ่อนหวานคนนี้ปฏิบัติต่อผู้คนรอบตัวเธอราวกับคน ๆ นั้นคือเจ้าหญิงเจ้าชายจากเทพนิยายสักเรื่อง ทั้งใส่ใจและดูแล คอยถามไถ่เรื่องทุกข์ยากลำบากใจ คอยให้กำลังใจได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ตาม เธอเป็นคนที่มีจิตใจดีเช่นนั้นแหละ อีกทั้งยังมีบุคลิกที่ดูอ่อนโยนกับทุก ๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สัตว์น้อยใหญ่ หรือกระทั่งกับพืชพรรณก็ตาม โดโลเรสให้การใส่ใจแก่ทุกคน แม้กระทั่งกับคนที่เกลียดตนเอง กล่าวได้ว่าสำหรับเธอเเล้ว ผู้ที่สมควรได้รับความรักความเอาใจใส่ก็คือทุกคนบนโลกนี้นั่นเอง
โดโลเรสมีทัศนคติที่มักแตกต่างจากคนทั่วไป บางคนกล่าวว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดีมากเกินไป โดโลเรสก็มักจะถามกลับไปเสมอ ว่าแล้วทำไมเราถึงต้องพยายามองโลกในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา? ไม่ใช่ว่าเธอจะมองให้โลกนี้เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ มียูนิคอร์นวิ่งเล่นกับสายรุ้งพาดผ่านหรอก..โดโลเรสก็คิดเพียงแต่ว่าถ้าเราพยายามทำให้มันออกมาดี มันก็จะออกมาดีได้เอง หากอยากได้สถานที่ที่สงบสุขและมีความสุข ก็ควรเริ่มต้นจากความคิดของผู้คนเสียก่อน เพราะคนที่เอาแต่มองโลกในเเง่ร้ายมักทุกข์ใจอยู่เสมอยังไงล่ะ
แต่โดโลเรสก็เข้าใจดี ว่าทุกคนนั้นเติบโตมาเเตกต่างกัน มันไม่มีทางที่ทุกคนบนโลกจะโตขึ้นมาเป็นคนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม บางคนอาจจะเจอเรื่องแย่มามาก หรือเจ็บปวดจนไม่อยากจะเปิดใจ ดังนั้นเธอจึงคิดว่าหน้าที่สำหรับเธอนั้น ก็คือการเป็นคนที่ใจดีต่อคน ๆ นั้นต่อจากนี้เอง โดโลเรสขี้สงสาร มักรู้สึกเศร้าสร้อยยามได้ยินเรื่องราวแสนเศร้าของใครสักคน เธอมักใจอ่อน ยอมช่วยเหลือคนมากมายรอบตัวเธอทั้งที่บางทีมันก็เปล่าประโยชน์ หรือเป็นการที่เธอถูกหลอกใช้ เเต่โดโลเรสไม่ใคร่จะใส่ใจมันมากนัก เธอพยายามทำความเข้าใจทุกคน พยายามจะยอมรับและให้อภัยในสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาทำพลาดไป บางครั้งมันก็มากมายเกินไปจนเหมือนกับว่าเธอนั้นโง่เง่าเลยด้วยซ้ำ แต่โดโลเรสก็ทำได้แค่ยิ้มรับเท่านั้น เพราะถ้าให้เมินเฉยต่อคนที่กำลังเสียใจหรือต้องการใครสักคนอยู่ เธอก็คงทำไม่ได้หรอก..เพราะมันก็เหมือนกับการทอดทิ้งตัวเธอเองไปนั่นแหละ..
• the talkative girl with a little smile.
เธอที่เป็นมิตรและเข้ากับคนอื่นได้ง่ายไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม อาจเพราะรู้ว่าควรเข้าหาผู้คนยังไง หรืออาจเป็นเพราะบรรยากาศรอบตัวเธอเองที่ทำให้มันเป็นเช่นนั้น นอกจากโดโลเรสจะเป็นหญิงสาวแสนดีที่แทบเรียกได้ว่าเป็นแม่พระเเล้ว เธอยังเป็นสาวน้อยที่มีบรรยากาศน่าเข้าหาอย่างมาก ทั้งรอยยิ้มน้อย ๆ คอยช่วยเพิ่มความสดใสหรือกระทั่งความนุ่มนิ่มในตัวเธอ และความเป็นหญิงสาวช่างพูดด้วยก็ตาม ตามปกติก็ไม่ใช่คนที่ชวนคุยเก่งหรือขยันพูดอะไรนักหรอก แค่พอเริ่มตื่นเต้นหรือสนใจในเรื่องไหน ๆ ขึ้นมา ก็จะเผลอหลุดพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาซะหมด เหมือนกับพวกเด็กตัวน้อยที่เก็บอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่นั่นแหละ มองแล้วก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบ แต่โดโลเรสมักชอบคิดว่าตนน่ะพูดมากเกินไปน่ะสิ ก็เลยกลัวคนเขาจะรำคาญเอา..แล้วก็จบปัญหาด้วยการนั่งเงียบฟังเขาคุยกัน พยักหน้าหงึกหงัก ทำตาประกาย สื่อสารทางสีหน้าไปแทนเสียอย่างนั้น
เป็นคนที่มีอารมณ์ขันอยู่พอสมควร และยังเป็นคนเส้นตื้นที่มักคอยหัวเราะเบา ๆ ไปกับมุกตลกของคนรอบตัว โดโลเรสเองก็แอบเป็นคนช่างหยอกช่างแกล้งเหมือนกัน กับใครที่สนิทด้วยหน่อย ก็จะเห็นโดโลเรสหยอกเล่นกับคน ๆ นั้นได้บ่อย ๆ แต่กับคนไหนที่ไม่สนิทก็จะไม่ไปถึงเนื้อตัวอะไรด้วยหรือเล่นมากจนเกินไปนัก โดโลเรสค่อนข้างรู้ดีว่าเธอสามารถหยอกเล่นกับใครได้บ้าง แต่ด้วยความเป็นคนที่ชื่นชอบความผ่อนคลายมากกว่าสถานการณ์น่าอึดอัด จึงชอบพาตัวเองไปอยู่กับคนที่รู้จักมากกว่า หรือถ้าบังเอิญจับพลัดจับพลูไปอยู่คนไม่สนิท ก็จะรีบทำการแนะนำตัวให้รู้จักกันไว้ก่อน มันจะได้ไม่ลำบากใจมากนักเวลาต้องอยู่ด้วยกัน มีภูมิต้านทานต่อสภาวะ akward ค่อนข้างต่ำเอาเรื่องเลยด้วยล่ะเธอคนนี้น่ะ
เป็นนักเก็บรายละเอียด จดจำเรื่องสำคัญของเเต่ละคนได้เเม่นยำมาก โดโลเรสก็ไม่ใช่คนที่ความจำดีขนาดนั้นหรอก แต่มักพยายามไม่ลืมและจดบันทึกเรื่องของแต่ละคนอย่าง วันเกิด เบอร์โทร ของที่ชอบ อาหารโปรด อะไรพวกนี้ลงไปในโน๊ตบ่อย ๆ ไม่ให้ตัวเองลืม เพราะกลัวว่าถ้าลืมเเล้วอีกฝ่ายจะเสียใจเอาน่ะสิ เเล้วเวลาที่ต้องเลือกของให้ใครสักคน ก็จะคิดให้ดีก่อนเสมอ อย่างการเลือกเสื้อผ้า ก็คิดถึงสีที่ชอบ สถานที่ที่คนนั้นชอบไป หรือความเหมาะสมก่อนจะเลือกให้ โดโลเรสนั้นเป็นสาวที่ค่อนข้างใจป๋า (?) อยู่เล็กน้อย มักซื้อของเล้กน้อยให้กับคนรอบตัวเป็นของขวัญบ่อย ๆ ด้วยเหตุผลแค่ว่าอยากซื้อ แต่มันก็มักเป็นของที่คน ๆ นั้นบ่นว่าอยากได้หรือจำเป็นต้องใช้นี่น่ะสิ..ถ้าถามว่าเรื่องนั้นเธอรู้ได้ยังไง? อืม..คงเพราะเธอคอยรับฟังทุกคนอยู่เสมอล่ะมั้ง?
• you can call her Alice.
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ โดโลเรส ทริสทาน่า นั่นคือเป็นคนที่มีจินตนาการในตัวสูง เป็นสาวน้อยช่างเพ้อฝันกว่าที่ใครคิด มักคิดถึงสิ่งที่ดูไม่น่าเป็นไปได้ด้วยสายตาคาดหวังเเละเชื่อมั่น แต่ก็ไม่ใช่คนที่ดีเเต่เพ้อฝันไปวัน ๆ เป็นนักลงมือ อีกทั้งยังเข้าข่ายคนจำพวกนักปฏิวัติอีกด้วย โดโลเรสเชื่อในสิ่งไหน เธอก็จะพยายามทำให้ความเชื่อของเธอเป็นจริงให้ได้ ซึ่งความจริงแล้วโดโลเรสก็ไม่ใช่คนที่เก่งกาจอะไรหรอก ออกจะเป็นพวกฝีมือธรรมดา อีกทั้งยังพลังเวทต่ำอีกต่างหาก ที่ทำให้เธอแตกต่างจากคนทั่วไปน่ะ คือแรงใจเกินร้อยกับความพยายามเกินล้านนั่นต่างหากล่ะ
เธอเชื่อว่าความพยายามนั้นจะตอบแทนผลการกระทำให้กับเธอ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ทุกครั้งของความพยายามที่จะสมหวัง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าครั้งหน้ามันจะไม่สำเร็จ โลกไม่ได้ใจดีไปซะตลอด เรื่องนั้นเธอก็รู้ดีแก่ใจ ถึงอย่างนั้นการยอมแพ้โดยง่ายมันก็ไม่ใช่นิสัยของเธอเลย ตราบใดที่ยังมีความเป็นไปได้หลงเหลืออยู่ จะแค่เล็กน้อยจนแทบกลายเป็นศูนย์ โดโลเรสก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด 'เธอทำได้อยู่เเล้ว' นั่นคือคำที่โดโลเรสใช้ปลอบใจตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นต่อให้เจอเรื่องยากมาก ๆ หญิงสาวคนนี้ก็จะยังพยายามทำมันให้สำเร็จอยู่ดี แต่ถ้าเกิดถูกพูดตอกหน้าอย่างรุนเเรงเข้าขั้นหยาบคาย เธอก็คงมีหน้าชาเสียใจกันบ้างล่ะนะ
ถึงอย่างนั้นเเน่นอนว่ามันก็ต้องมีเหนื่อยกันบ้าง โดโลเรสเข้มแข็ง แต่เธอไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง ร่างกายและจิตใจนี้เกิดบาดแผลได้ง่ายดาย แค่เธอมักพยายามกล้ำกลืนความเศร้าเจ็บปวดลงไปให้ลึกที่สุด จนมันแทบไม่มีสิทธิ์แสดงออกให้ใครเห็นก็แค่นั้น ไม่ชอบให้ตัวเองเศร้านานนัก ก็เลยพยายามทำอะไรสักอย่างกับความเศร้าในใจ หากเห็นว่าวันไหนเธอกระตือรือร้นผิดปกติ อาสาทำโน่นนี่นั่นไปเรื่อย หรือพยายามลองทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยด้วยท่าทีที่บ้าบิ่นกว่าปกติ ก็ให้สันนิษฐานไปก่อนได้เลยว่าเธอกำลังเศร้า และโดโลเรสกำลังทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองหลงลืมความเศร้าพวกนั้น..แม้ว่าจะเป็นแค่ชั่วขณะก็ตามที หากบางทีมันก็ช่วยไม่ได้เลยที่เธอจะทนไม่ไหวจนต้องร้องไห้ออกมา จนถึงตอนนั้นนั่นคงเป็นที่สุดเเล้วจริง ๆ โดโลเรสจะขอแค่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ ไม่จำเป็นต้องปลอบโยนอะไรทั้งนั้น เพราะเดี๋ยวมันก็คงดีขึ้นเอง และเธอก็..ไม่ชอบสภาพตัวเองที่เอาแต่ร้องไห้สักเท่าไหร่เสียด้วยสิ..
• let's go play outside this high wall.
อยากรู้อยากเห็นมากกว่าที่ใครคิด มักมีความสงสัยใคร่รู้ว่าอะไรกันหนอคือเนื้อในของสิ่งเหล่านั้นที่เธอไม่เคยพบเจอ โดโลเรสนั้นเปรียบความกลัวหรือความไม่คุ้นเคยเอาไว้ให้เป็นเสมือนกับกำแพงสูงจรดฟ้า ส่วนตัวเองนั้นก็เป็นมดตัวจ้อยที่ทำได้แค่แหงนหน้ามองกำแพงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กล่าวง่าย ๆ ก็คือต่อให้จะอยากรู้แค่ไหนก็ยังมีความรู้สึกที่ค่อนข้างหวั่นเกรงในสิ่งที่ไม่รู้เหล่านั้นอยู่ เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ถ้าแบบ ได้ยินเสียงดังตอนกลางคืนขึ้นมา ก็จะชั่งใจอยู่นานว่าควรเดินออกไปดูดีไหม เว้นก็แต่ว่าจะมีใครสักคนไปเป็นเพื่อนนั่นแหละ ความมั่นใจถึงจะพุ่งพรวดขึ้นมาเเบบฉับพลันเลย
โดโลเรสมียาชูกำลังวิเศษนั่นก็คือเพื่อนของเธอ เวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อนสนิทนั้นมันจะทำให้เธอมีความกล้ากว่าเดิมเยอะ เพราะเป็นความคิดที่ว่าถึงแม้จะล้ม ก็ยังมีเพื่อนคอยช่วยกันประคับประคองลุกขึ้นมาอีกรอบ เหมือนกับที่เธอมักคอยช่วยเหลือเพื่อนของเธอในเรื่องที่ตนทำได้เช่นกัน เธอเป็นคนที่ไม่เคยคิดทำร้ายเพื่อนของเธอเลย ไม่เคยแม้แต่จะมีความคิดร้าย ๆ ต่อพวกเขาด้วยซ้ำไป..ดังนั้นมันคงเจ็บมากไม่น้อยเลยล่ะ หากกลายเป็นเพื่อนของเธอซะเองที่หันกลับมาทำร้ายเธอเข้า นอกจากนี้โดโลเรสยังเป็นคนติดเพื่อนอีกด้วย ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอน่ะขี้เหงาขนาดไหน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ที่สามารถช่วยความเหงาหงอยนั้นลง เวลาอยู่ตัวคนเดียวไปนาน ๆ ก็มักมีแววตาที่หมองลง แต่พอหันไปเจอหน้าเพื่อน ก็ตาประกายวิบวับขึ้นมา รีบกระโจนเข้าใส่เพื่อนแทบทันทีเลยล่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้โดโลเรสจะเป็นเพื่อนที่ดีได้มากขนาดไหน เธอก็สามารถเป็นเพื่อนที่น่าหนักใจสำหรับทุกคนได้มากเท่านั้นเช่นกัน ว่ากันว่า เเม่สาวนางนี้มีสัญชาติการเอาตัวรอดในตัวระดับต่ำเตี่ยเรี่ยดิน หรือถึงขั้นว่าอีกนิดจะมุดกลับลงแกนโลกไปได้อยู่ด้วย ด้วยความว่าหน้าตาใส ๆ ซื่อ ๆ รอยยิ้มหวานบวกกับดวงตาประกาย ที่เหมือนจะมีคนเอาป้ายมาเเขวนไว้ว่า 'ไร้พิษสง' กันตรง ๆ จึงไม่แปลกนักหากจะมีคนเกิดนึกคิดไม่ดีกับเธอขึ้นมาบ้าง ซึ่งโดโลเรสก็มักไม่รู้ตัวเลยสักนิด เธอมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความคิดแง่ลบที่ต่ำจนเกินไป จนน่ากลัวว่าอาจจะโดนเอาเปรียบได้อยู่บ่อย ๆ แต่ในเรื่องของการใช้ชีวิตนั้นก็ไม่ได้แย่อะไรเลย ยกเว้นเรื่องความเสี่ยงในการโดนหลอก โดโลเรสก็มีทักษะด้านอื่น ๆ ที่ครบถ้วนดีทั้งสิ้น เช่นสกิลแม่บ้านแม่เรือน การปฐมพยาบาลเป็นต้น อีกเรื่องคือโดโลเรสเป็นคนรักสัตว์ และอยากเรียนรู้เรื่องของพวกสัตว์บ่อย ๆ บางทีก็เลยแอบมีอ้อนขอให้เพื่อนสนิทพาไปดูพวกสัตว์แปลก ๆ อยู่บ่อย ๆ แล้วก็มักจบด้วยการที่โดโลเรสโดนล็อคคอสับเท้าเเตก วิ่งหนีการโดนสัตว์แปลกขบหัวกันเท้าไฟลุกตลอดเลยล่ะ..
• don't be shy, you are the most beautiful here.
คอนเซปต์ของหญิงสาวที่ว่า 'ทุกคนล้วนแต่มีความสวยงามเป็นของตัวเองทั้งสิ้น' ตามแต่ที่พอรู้กันดี นั่นคือโดโลเรสเป็นคนสวยโดยสมบูรณ์ หลายคนหลงรักในภาพลักษณ์ของเธอ และมีหลายคนที่อิจฉา นึกอยากจะได้ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนี้เช่นกัน แต่สำหรับโดโลเรสนั้น เธอไม่ได้คิดว่าใบหน้าของเธอวิเศษวิโสกว่าใครเลย และเธอก็ไม่เคยชอบใจ ที่จะมีใครสักคนปฏิบัติต่อเธอต่างจากคนอื่นเพียงเพราะความสวยงามนี้ โดโลเรสคิดว่าคุณค่าของคนไม่ได้กำหนดไว้ที่ความสวย ดังนั้นไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกจำกัดกรอบไว้ด้วยคำว่า 'สวย' ที่ไร้คำจำกัดความชัดเจนนี้ทั้งสิ้น
โดโลเรสคิดว่าคนเราไม่ว่าจะ ขาว ดำ ผอม หรืออ้วน ก็ล้วนแต่สร้างความสวยงามในตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างใครเขา ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใครหรือพยายามลดน้ำหนักแทบตายเพื่อให้เป็นในแบบที่ค่านิยมชื่นชอบ ผู้หญิงสวยได้จากหลากหลายวิธี แต่สำคัญที่สุดนั่นคือต้องภูมิใจและรักในตัวเองให้มาก ๆ เข้าไว้ซะก่อน มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรู้สึกอายหากคุณเป็นคนมีช่วงล่างที่ใหญ่เกินไป มันมีการแต่งตัวหลายแบบที่เข้ากับรูปร่างของแต่ละคนอยู่ หรือถ้าคุณไม่อยากสนใจเรื่องพวกนั้นมันก็ไม่เป็นอะไรเลย ถ้าอยากกินก็กินเถอะ ไม่เห็นต้องกลัวอ้วนเลยถ้ามันทำให้มีความสุข โดโลเรสเองก็เป็นคนที่ชอบกินขนมหวานมาก ๆ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ยั้งมือไว้ไม่ให้เธอหยิบเค้กเข้าปากตลอดเวลา นั่นก็คือเรื่องของสุขภาพนั่นเอง
สำหรับเธอเเล้ว มันไม่จำเป็นต้องรักษาสุขภาพจ๋าตลอดเวลาขนาดออกกำลังกายทุกวัน กินแต่อาหารคลีนและสลัดผักหรอก แค่ว่าไม่ทานอาหารขยะมากจนเกินไป หรือกินของแปลก ๆ จนป่วยนั่นก็พอแล้วล่ะ พวกขนมกรุบกรอบอะไรนั่นก็กินได้นะ แต่ว่าอย่ากินเยอะเกินไปล่ะ มันจะไม่ดีต่อสุขภาพของตัวเองเอานะ เข้าใจไหม? และส่วนใครที่ไม่มั่นใจในตัวเอง อยากจะเเต่งให้ดูสะสวยขึ้นอย่างน้อยก็ในสายตาของตัวเอง ก็มาปรึกษากับโดโลเรสได้เหมือนกันนะ เธอเป็นคนแต่งตัวเก่ง ชอบดูแลผิวพรรณ อีกทั้งยังเป็นเซียนด้านการทำผมด้วย ถึงเธอเองจะเเต่งเเต่เสื้อผ้าสไตล์ที่ชอบ แต่ก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสไตล์อื่น ๆ ได้เหมือนกันนะ
• don't you think the violence is so bad?
ไม่ชื่นชอบความรุนแรงเข้าขั้นเกลียด ผู้ที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาในสายตาเธอนั้นช่างชวนให้รู้สึกปวดหัว และน่าจับมานั่งฟังเธอบ่นสักสองสามชั่วโมง ว่ามันไม่น่ารักขนาดไหน ที่ทำพฤติกรรมแย่ ๆ อย่างการหาเรื่องคนอื่นเขาไปเรื่อย ๆ หรือการตอบสนองต่อความรุนแรงด้วยความรุนแรงแบบนั้น ก็เข้าใจอยู่หรอกว่ากับคนบางจำพวกมันใช้สันติวิธีไม่ได้จริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นโดโลเรสก็ยังไม่ชอบอยู่ดีนี่นา..อีกอย่างเธอไม่อยากให้มีใครเจ็บตัวเลย..เห็นบาดแผลช้ำพราวทั่วตัวคนที่ไรก็รู้สึกใจไม่ดีทุกทีเลยน่ะสิ
โดยปกติแล้วโดโลเรสจะยุติเรื่องวุ่นวายด้วยคำพูดแบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบซะมากกว่า แต่เธอก็ไม่ได้ใจกล้ามากขนาดนั้นหรอก เวลาที่มีคนทะเลาะกันเเรงจนบ้านแทบแตก หญิงสาวเองก็เลยออกอาการกลัวได้เหมือนกัน มันจะออกแนวว่าแบบ มองซ้ายขวาเลิ่กลั่ก ตาสั่นระริกแบบสิบริกเตอร์ สมองได้แต่ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่า 'ทำยังไงดี ๆๆๆ' วนไปเรื่อย ๆ โดโลเรสไม่มีทางกระโจนเข้าใส่วงสุนัขคลั่ง (?) แน่ ๆ การแก้ปัญหาของเธอจะออกแนวไปตามตัวศาสตราจารย์หรือใครสักคนมาช่วยยุติความวุ่นวาย ไม่ก็ถ้ามีใครสักคนโดนรุมรังแก เธอก็จะใช้การหลอกล่อความสนใจ แล้วรีบวิ่งไปลากตัวคน ๆ นั้นออกมาซะมากกว่าล่ะนะ
แล้วถ้าถามว่าเธอคนนี้โกรธใครเป็นไหม? โอ้ แน่นอนอยู่เเล้วว่าโกรธเป็น, แค่ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่านั้นเอง ส่วนมากแล้วก็จะเป็นแค่อาการเคืองนิด ๆ หน่อย ๆ ซะมากกว่าจะโกรธจัดปั้นหน้าบึ้งอะไร และ ใช่..เวลาโดโรเลสโกรธน่ะ คนละเรื่องกับตอนปกติเลยล่ะ เธอจะชอบปั้นหน้าบึ้งตึง ทำตาแข็งสื่อให้รู้ว่า โกรธอยู่นะ อะไรแบบนั้น หนักไปกว่านั้นนั่นคือเธอจะไม่สนใจอีกฝ่ายเลย เมินแบบเมินไปเลยทั้งที่ยังทำหน้าโกรธอยู่ แต่ก็ไม่ใช่คนที่พาลใส่คนรอบตัวนะ โกรธใครก็ตึงแค่กับคนนั้นนั่นแหละ ส่วนวิธีการทำให้โกรธนั้น..อืม ก็คงเป็นการที่ใครสักคนมาดูถูกความพยายามของเธอเข้าล่ะมั้ง?
• then she falls for you again and again.
'ความรักของเธอคือความโชคร้าย' ครั้งหนึ่งโดโลเรสเคยบอกกับตัวเองเช่นนั้น นั่นเพราะสิ่งนี้มักทำให้เธอเจ็บปวดตลอด ใครจะรู้ล่ะว่าจริง ๆ แล้วคนที่มอบความรักให้ผู้อื่นได้อย่างมากมายอย่างเธอนั้น กลับเคยรู้สึกขาดแคลนและโหยหาในความรักได้มากมายแค่ไหน โดโลเรสมีความทรงจำที่ทั้งดีและไม่ดีกับสิ่งนี้ แต่ที่แน่นอนที่สุด นั่นคือคนที่เธอรักมากมายนั้นไม่เคยตอบรับความรักของเธอเลย มันทำให้เธอได้แต่ตัดพ้อว่าต้องทำอย่างไรเธอถึงจะเป็นคนที่ถูกรักได้ เธอต้องดีแค่ไหน ต้องมีมากเท่าไหร่ พวกเขาถึงจะรักเธอได้บ้าง แต่นั่นก็เป็นแค่ความรู้สึกช่วงแรก ๆ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป แม้ความเศร้าจะไม่เคยจางหาย เธอก็เริ่มหาเหตุผลให้เหล่าคนที่เธอเคยบอกว่าพวกเขาช่างแสนใจร้ายต่อเธออยู่ดี
ข้อเสียที่ร้ายกาจที่สุดของโดโลเรส คือเวลาที่เธอจะให้ใจใครสักคน เธอมักให้เขาไปจนหมด ไม่เคยเผื่อเอาไว้ว่าอาจเจ็บปวด และไม่เคยรู้เลยว่าทำอย่างไรถึงจะนำความรักนั้นกลับคืนมาได้ เธอเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว อีกทั้งยังเชื่อมั่นในรักแท้เสียยิ่งกว่าอะไร..การตัดใจเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากที่สุดสำหรับเธอ ต่อให้เหนื่อย เสียใจ หรือทรมานกับความรักแค่ไหน เธอก็ยังคงวิ่งตามมันอยู่ดี ตกหลุมรักเพียงแค่กับคนเดิม ๆ ร้องขอความรักแค่จากคนเดิม ๆ ยังคงพยายามช่วยเขา คอยมองดูเขาอยู่ห่าง ๆ อย่างกับว่าไม่สามารถขาดไปได้เลย..ถึงขนาดที่ว่าในตอนนี้ เธอก็คงทำได้เพียงยิ้มรับเศร้า ๆ หากเขาจะไม่รักเธอตอบ และทำได้เพียงคอยรักเขาต่อไปเหมือนเช่นเคยก็เท่านั้นเอง
โดโลเรสเป็นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ มีหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเธอ ทั้งคนที่ดีและคนที่ไม่ดี แต่เธอก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามาในหัวใจของเธอเลย โดโลเรสไม่เคยรู้สึกใจเต้นกับพวกหนุ่มหล่อที่ไหน หากใครมาทำดีด้วย ก็เพียงยิ้มรับขอบคุณเท่านั้น แต่ถ้าเขาบอกหรือแสดงออกว่าชอบเธอ โดโลเรสก็จะขอโทษออกไปทันที และบอกไปว่าเธอคงตอบรับความรู้สึกนั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ หรือวันข้างหน้าก็ตาม ต่อให้พวกเขาจะโรแมนติกหรือแสนดีแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะคนเดียวที่จะทำให้เธอใจเต้นเเรง หน้าร้อนฉ่าจนแทบระเบิด และไม่สามารถปิดบังมันได้เลย ก็มีแค่คน ๆ นั้นเท่านั้นนั่นเเหละ..
ลักษณะการพูด::
โดโลเรส ทริสทาน่า มีน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับสายน้ำ ระดับเสียงที่ไม่ใคร่เบาใคร่ดัง เรียกได้ว่าพอเหมาะ และมีจังหวะในการกล่าวเอ่ยที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจที่จะสนทนาด้วย เธอมักจะกลั้วหัวเราะร่วมด้วยไปในประโยคอยู่บ่อยครั้ง และเปลี่ยนโทนเสียงไปมาตามอารมณ์และหัวข้อสนทนา ซึ่งสามารถแสดงออกถึงการใส่ใจในบทสนทนานั้น ๆ ได้อย่างดี คำกล่าวหยาบคายเป็นสิ่งที่หาไม่ได้เลยจากเธอคนนี้ แต่ก็ใช่ว่าหญิงสาวนั้นจะพูดจาสุภาพเสียจนให้ความรู้สึกเหมือนเด็กสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ไปซะทีเดียว โดโลเรสเลือกที่จะพูดจาเชิงสามัญปะปนอยู่ด้วยกับเพื่อนและรุ่นน้องของเธอ ในขณะที่เลือกใช้คำที่เป็นทางการหรือสุภาพขึ้นมาเมื่อต้องสนทนากับคนที่อายุมากกว่า รวมถึงเรื่องของสรรพนามและน้ำเสียงด้วยเช่นกัน
โดโลเรสนิยมแทนตัวว่า ฉัน สำหรับคนอายุน้อยกว่าหรือเท่ากัน แทนตัวว่า หนู สำหรับคนอายุมากกว่า และเรียกผู้อื่นว่า เธอ/นาย ในทั้งกรณีของชายและหญิงที่อายุเท่ากัน หากอายุน้อยกว่าก็จะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อหรือสกุลเป็นหลัก สนิทกันมากก็จะเรียกชื่อเล่น และถ้าหากอายุมากกว่ารวมถึงมีความอาวุโสในวุฒิอื่น ๆ ก็จะเรียกด้วยยศฐาอย่าง คุณผู้หญิง หรือ คุณผู้ชาย ซึ่งแน่นอนว่าเธอจะลงหางเสียง คะ/ค่ะ ให้เพื่อความสุภาพด้วย
{ ตัวอย่างประโยคสนทนา }
• first situation
หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีฟ้าหม่นหนานุ่มก้าวเท้าเดินไปตามทางยามช่วงเช้าภายในโรงเรียน แปง เด ปีส ดวงตากวาดมองหาเพื่อนสนิทคนเก่งที่บอกว่าวันนี้จะตื่นเช้ามาโรงเรียนให้ได้สักวัน พลันรอยยิ้มกว้างแย้มละไมทันที เมื่อเธอพบกับแผ่นหลังคุ้นเคยนั้นในระยะสายตา
"เซ.." เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนเงียบลงในชั่วอึดใจ โดโลเรสทำท่าเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ในเวลาต่อมา ดวงตาเป็นประกายระยับทันที
โดโลเรสพยายามเก็บเสียงเงียบและย่องเท้าเข้าไปด้านหลัง จนกระทั่งฝ่าเท้าของเธอก้าวเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวตัวสูงเจ้าของเส้นผมสีดำขลับยาวสยาย เธอก็กระโจนเข้าใส่อีกฝ่าย ใช้ท่อนแขนโอบกอดรัดจากด้านหลังแล้วโถมน้ำหนักตัวลงไป ได้ยินเพื่อนสนิทสุดที่รักร้องอุทานออกมาเสียงหลง เป็นเหตุให้เสียงหัวเราะดังร่าทันทีเมื่อพบว่าตนประสบความสำเร็จในการเเกล้งหยอกอีกคนเข้าเเล้ว
"ทำอะไรเนี่ย.." เซเนร่าเอ่ยถามพลางมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นี้ถ้าไม่ติดว่าได้กลิ่นหอมประจำตัวของโดโลเรสเข้าล่ะก็ เธอคงเหวี่ยงเจ้าหล่อนลงพื้นไปแล้วแน่ ๆ
แต่แม่สาวช่างหยอกตัวดีก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด ว่าเกือบพลาดหลังเดาะเข้าให้แล้ว มีแต่จะหัวเราะคิกคักกับตัวเอง ยกยิ้มกว้างจนนัยน์ตาหยีเป็นจันทร์เสี้ยว พลางวางใบหน้าลงบนไหล่ลาด แล้วกล่าวเสียงหวานว่า
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ"
และก็เพราะรอยยิ้มนั่นแหละนะ ที่ทำให้บ่นไม่ลงจนได้แต่ถอนหายใจเฮือกออกมาแทน..
• second situation
การสอบไฟนอลสุดนรกกำลังเข้ามาใกล้เข้าไปทุกที สภาพของเหล่านักเรียนภายในคลาสเรียนทั้งหลายจึงมีสภาพไม่ต่างอะไรจากซากปลาเกยตื้น เพื่อนนักเรียนกลุ่มหนึ่งพากันมารวมตัวที่หอสมุดโต้รุ่ง เพื่อช่วยกันทบทวนบทเรียนต่าง ๆ และตอนนี้พวกเขาก็แทบจะสิ้นพลังงานเรียบร้อยแล้ว
"ประวัติศาสตร์สากลบ้าบอ! อ่านมาตั้งชาติไม่เห็นจะจำได้เลยโว้ยย!!"
เสียงตะโกนแหกปากร้องลั่นมาจากชายหนุ่มคนหนึ่ง เขากวาดหนังสือทิ้งไปอีกทาง ก่อนจะโดนสายตาคมกริบของเพื่อน ๆ คนอื่นถลึงมองเชิงด่า นั่นจึงทำให้เขาต้องรีบยกมือปิดปาก คอตกด้วยอาการหมาหงอยระคนเหนื่อยล้าทันที
"เมอร์ดิสัน"
แต่แล้วก็มีเสียงหวาน ๆ ของใครสักคนเอ่ยเรียกเขาจากข้างกาย เขาหันไปมองก่อนจะพบกับรอยยิ้มหวานของนางฟ้าประจำคลาสอย่าง โดโลเรส ทริสทิน่า ที่มานั่งข้าง ๆ กันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ถุงแฮนด์เมคสีฟ้าลายดาวทำเป็นบรรจุภัณฑ์บางอย่างถูกวางลงบนมือของเขา ท่ามกลางความแปลกใจของเจ้าของชื่อเมอร์ดิสันเอง
"คุกกี้น่ะ" โดโลเรสตอบข้อสงสัยทางสายตาอีกฝ่าย "ฉันเห็นนายไม่กินอะไรเลย เอาแต่นั่งอ่านมาตั้งแต่เมื่อวานเเล้ว ทานสักหน่อยนะจะได้มีแรง"
"..แต่ว่าเขาไม่ให้กินขนมให้ห้องสมุด"
โดโลเรสพยักหน้ารับเห็นด้วย พลันหญิงสาวปิดหน้าหนังสือตรงหน้าลงแล้วลุกขึ้น เอื้อมมือมารั้งให้เพื่อนร่วมคลาสของเธอลุกขึ้นจากโต๊ะ
"ออกไปกินข้างนอกเเล้วกันเนอะ จะได้เดินสูดอากาศด้วย มาสิ เช้า ๆ น่ะอากาศดีนะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเอง"
• third situation
"โดโลเรส ฉันถามอะไรหน่อยสิ" อยู่ดี ๆ เซเนร่า, เพื่อนสนิทของเธอก็เอ่ยขึ้นมาในตอนที่เรานั่งแช่เท้าเล่นในลำธารกันอยู่ โดโลเรสผงกศีรษะรับอย่างไม่คิดขัดอะไรกับการเอ่ยถามต่อตน แต่เมื่อได้ยินริมฝีปากนั้นขยับพูด หญิงสาวก็ถึงกับสะดุ้งโหยงทันที "ทำไมถึงได้ชอบหมอนั่นขนาดนั้นล่ะ?"
โดโลเรสสัมผัสได้ว่าหัวใจในอกซ้ายเต้นเเรงมากขึ้นแทบทะลุออกมาจากอก ริมฝีปากสั่น และใบหน้าร้อนเห่ออย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวทำท่าเหมือนอยากปฏิเสธ แต่ก็ดูไม่ช่วยอะไรเลยเพราะสายตารู้ทันแบบนั้นของเพื่อนสนิท สุดท้ายจึงหลุบสายตาหนีไปอีกทาง เอ่ยเสียงเบาหวิวราวกระซิบออกไปเสียแทน
"เป็นรักแรกน่ะ..ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว"
"ยังรักอยู่จนป่านนี้เลยน่ะเหรอ" เซเนร่าถามอีกครั้ง คิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันคล้ายไม่เข้าใจ "ทั้งที่หมอนั่นใจร้ายกับเธอตั้งขนาดนี้เนี่ยนะ"
โดโลเรสเงียบไปเมื่อถูกพูดเช่นนั้นใส่ และเธอรู้ดีว่ามันจริงทุกอย่างอย่างที่เซเนร่าว่า..ต่อให้เธอพยายามมามากแค่ไหนในตลอดสี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขากลับไม่เคยมีทีท่าจะดีขึ้น และดูราวกับจะหล่นลงเหวมากขึ้นเข้าไปทุกที หากแต่..
"ฉันเชื่อนะ..ว่าสักวันเขาจะมองเห็นฉันได้บ้างสักนิด" ริมฝีปากขยับพึมพำแผ่วเบาราวกระซิบ ชั่วขณะนั้น ดวงตาของเธอหม่นแสงลงจนดูหมองเศร้าทั้งที่รอยยิ้มยังแย้มประดับอยู่บนใบหน้า "แต่ถึงจะมองไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก"
"...."
"ก็มันรักไปแล้วนี่นา"
และเพราะมันเป็นความรัก..เรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้เอาเสียเลย
• fourth situation
โดโลเรสคิดว่าตัวเองกำลังประสบปัญหา..ไม่มากก็น้อยนั่นแหละ..
หญิงสาวนั่งอยู่บนอัฒจรรย์ภายในคลาสรูมแห่งหนึ่ง ดวงตาที่กวาดมองไปรอบ ๆ นั้นก็จดจำเข้าใจเองโดยอัตโนมัติ ว่ามันยังเหลือที่นั่งอยู่อีกมาก แต่ถึงอย่างนั้นใครสักคนกลับมานั่งเบียดจนแทบจะสลายร่างรวมกับเธอได้อยู่เเล้ว..ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนั่นแหละว่าเขาจะมานั่งเบียดเธอทำไม..
"เฮ้ออกัส นายไม่คิดว่านายกำลังทำตัวขวางโลกไปหน่อยเหรอ?" จนกระทั่งเซเนร่าทนไม่ไหว เพื่อนสาวของเธอชะโงกหน้ามาจิกตามองอีกฝ่าย ในขณะที่ฝั่งมวยสีน้ำเงินก็หัวเราะเหอะไม่ใส่ใจ โต้กลับมาอีกว่า
"ฉันทำอะไรตรงไหนผิดรึไงกัน"
"ก็ดูสิ นายเบียดเราจนแทบจะกลายเป็นแซนวิชอยู่เเล้วนะ! ที่อื่นไม่มีให้นั่งรึยังไงกัน"
"แล้วถ้าฉันจะนั่งตรงนี้แล้วมันจะทำไม? มีปัญหา?"
อ่า..นั่นแหละ..ทะเลาะกันอีกแล้ว ถึงเธอจะเห็นด้วยกับเซเนร่าก็เถอะว่าออกัสไม่ควรจะมานั่งเบียดพวกเราอย่างนี้เลยนะ เขาไม่อึดอัดบ้างเลยรึไงล่ะนั่น..หญิงสาวได้แต่บ่นอุบอยู่ในใจ คอหดลงเหมือนกับลูกเต่าที่เริ่มหวาดกลัวสถานการณ์รอบด้าน ในขณะที่เพื่อนสาวกำลังโต้เถียงให้เธออย่างเผ็ดร้อน โดโลเรสก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด เว้นแต่จะนั่งใบ้กินน้ำตาตกในอยู่คนเดียว รอให้ศาสตราจารย์ประจำวิชาเข้ามายุติความวุ่นวายนี้เท่านั้นเอง..
• fifth situation
บรรยากาศรอบด้านเงียบสนิท ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรเลย ทั้งคู่นั่งนิ่งห่างกันไปเพียงแค่ไม่กี่คืบ และถึงแม้มันจะไม่มีสุ่มเสียงใด ๆ เกิดขึ้นเลยในตอนนี้ ดวงหน้าของหญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีฟ้าหม่นกลับเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา จมูกแดงรั้น และดวงตาบวมเป่ง สีหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
เธอนั่งอยู่แบบนี้มาเกือบชั่วโมงแล้ว ปล่อยให้น้ำตาลไหลออกมา โดยมีคนใจดีที่บังเอิญผ่านมาเห็นเธอเข้าคอยนั่งอยู่ข้าง ๆ หากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย หรือแม้กระทั่งจะกล่าวปลอบกันก็ตาม อาจเป็นสายตาของเธอที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการคำปลอบกล่าวก็ได้ อีกฝ่ายถึงปล่อยให้เธอได้ใช้เวลากับตัวเองโดยการร้องไห้เงียบ ๆ ในค่ำคืนนี้จนกระทั่งรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นเสียที
"..ขอบคุณมากนะ" โดโลเรสเอ่ยเสียงอู้อี้ออกมา มันฟังดูไม่ค่อยดีนัก เมื่อเธอรู้สึกขัดจมูกจากการร้องไห้ หญิงสาวสูดน้ำมูกเหมือนกับเด็กน้อยจอมงอแง ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มให้กับอีกฝ่าย "แต่ว่าตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ"
ดวงตาคู่นั้นเหลือบมามองเธอครู่ขณะคล้ายกำลังพินิจารณาว่าเธอโอเคเเน่เเล้วเหรอ จากนั้นจึงนิ่งไป แล้วค่อยลุกขึ้นเดินห่างออกไปในท้ายสุดโดยไม่ลืมบอกให้เธอรีบเข้าไปพักซะ โดโลเรสมองตามแผ่นหลังนั้นไปเงียบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาครั้นเห็นเงาสะท้อนใบหน้าตนบนบ่อน้ำข้าง ๆ ระเบียงเข้า
"ดูไม่ได้เลย.."
เธอเอ่ยบ่นตัวเอง ยกปลายนิ้วแตะขอบตาที่บวมเป่ง อีกใจก็นึกขอบคุณคนที่อุตส่าห์ช่วยนั่งเป็นเพื่อนเธอ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอะไรไม่ดีขึ้นตอนกลางคืนในขณะที่โดโลเรสกำลังฟูมฟายได้ที่ พลันใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำเพราะความอับอายขึ้นมา หญิงสาวคอตก ยกมือปิดช่วงตาที่ดูไม่ได้ รีบสาวเท้าเดินกลับไปยังที่พักของตน และหวังเพียงว่าจะไม่ต้องเจอหน้าอีกฝ่ายในเร็ว ๆ นี้ให้นึกถึงสถานการณ์น่าอับอายนี้เข้าหรอกนะ..
ประวัติความเป็นมา::
ชอบ::
• เครื่องประดับผม [ ทั้งกิ๊ป โบว์ ที่คาดผม หมวกเบเร่ต์ หรือจะเป็นผ้าคลุมศีรษะ เธอล้วนชอบมันทั้งหมด เรียกว่ามีสะสมของพวกนี้เป็นคอเลคชั่นเลยล่ะ ]
• กลิ่นหอม [ เพราะเป็นอะไรที่ทำให้ผ่อนคลาย เธอจึงชอบอบเสื้อผ้าของตนหอมกรุ่น เหมือนกับร่างกายและเส้นผมของเธอที่หอมกลิ่นป่าสนอยู่เสมอ ]
• ของหวาน [ เป็นสตรีคนหนึ่งที่หลงรักในรสชาติที่หวานละมุน แต่จะชื่นชอบรสหวานในผลไม้เป็นพิเศษ ]
• นิทานเด็ก [ เธอชอบเรื่องราวที่อยู่เหนือจินตนาการ แม้คนอื่นจะบอกว่ามันไร้สาระ แต่โดโลเรสกลับคิดว่ามันช่วยผ่อนคลายเธอได้ดีนะ ]
• สายน้ำเย็น ๆ [ ร่างกายของเธอมักมีอุณหภูมิที่เอนเอียงไปทางอุ่นร้อน การได้รับสายน้ำเย็น ๆ มาชะโลมทั่วร่างเลยทำให้รู้สึกดีเป็นพิเศษ ]
• เสียงเปียโน [ ความจริงแล้วโดโลเรสชอบเสียงของเครื่องดนตรีทุกชนิดนั่นแหละ แต่ว่าเธอแค่ชอบเปียโนเป็นพิเศษ และสามารถนั่งฟังมันได้ทั้งวันแค่นั้นเอง นอกจากนี้เธอยังพอเล่นเปียโนได้อยู่บ้างอีกด้วย ]
• สัตว์ทุกประเภท ทุกชนิด [ มักมีอาการตื่นเต้นอยากเข้าไปมองใกล้ ๆ เพื่อศึกษาดูด้วยสายตาประกายระยับตลอดเลยล่ะ ]
ไม่ชอบ::
• ยาสมุนไพร [ เคยถูกแม่บังคับให้ทานยาสมุนไพรโบราณรสขมจัดแก้หวัดสมัยเด็ก แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ชอบมันไปเลยโดยปริยาย.. ]
• ฝุ่น / ความสกปรก [ สัญชาตญาณในตัวกรีดร้องลั่นตลอดว่าไม่ถูกหลักอนามัย เมื่อเจอสถานที่รกจัดจะเกิดอาการอยู่ไม่สุข จนสุดท้ายก็ต้องขอยกมืออาสา กระโดดลงไปปัดกวาดเช็ดถูให้เอี่ยมอ่อง เพื่อกำจัดความระคายเคืองทางสายตานั้นออกไปให้พ้นอยู่ตลอดศกเลยล่ะ ]
• เล่นกีฬา [ ฝีมือห่วยแตกแบบติดลบ แถมพอวิ่งได้ไม่เท่าไหร่ก็หอบแฮ่กแล้ว บอกตรง ๆ เธอรู้สึกเหมือนจะตาย.. ]
• การที่ตัวเองร้องไห้ [ การร้องไห้สำหรับโดโลเรสนั้นเป็นอะไรที่กินพลังงานมาก และมันทำให้เธอรู้สึกทรมาน อีกทั้งโดโลเรสยังรู้สึกว่ามันทำให้คนรอบตัวเธออาจพาลรู้สึกไม่ดีไปด้วย เธอก็เลยเลือกจะไม่ร้องไห้ อดทนเก็บไว้ร้องเงียบ ๆ คนเดียวซะมากกว่า ]
• ความเหงา [ มันทำให้รู้สึกอึดอัดน่ะ..แล้วก็เหมือนสูบพลังงานออกไปตลอดเวลาเลยด้วย ]
เกลียด::
• การโดนกล่าวหาว่าเธอประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม หรือใช้หน้าตาเป็นใบเบิกทาง [ โดโลเรสเชื่อเสมอว่าตนเป็นคนที่พยายามมากที่สุดคนหนึ่งบนโลก และพยายามมาโดยตลอด การโดนสบประมาทเช่นนั้น จึงไม่แปลกเลยที่เธอจะโกรธเสียจนตัวสั่นขนาดนั้น ]
• ความรุนแรง [ คิดว่ามันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร อีกทั้งยังทำให้เป็นปัญหากว่าเดิมอีกต่างหาก โดโลเรสน่ะเเสนจะไม่ปลื้มเลยล่ะ ]
• ทะเล [ เพราะมันเป็นสถานที่ที่แม่ของเธอหายไป..และไม่เคยได้กลับมาอีกเลย.. ]
กลัว::
• ตัวตลก [ เคยถูกเพื่อนเเกล้งด้วยการเอาตัวตลกยัดลงกล่องของขวัญเอามาให้ในงานวันเกิดตอนอายุเก้าขวบ โดโลเรสที่ขวัญกระเจิงก็ร้องไห้จ้าฝังใจยันปัจจุบัน ทุกครั้งที่เห็นเจ้าตัวแต้มสีจมูกโตสีแดง สวมใส่ชุดฉูดฉาด ก็จะรู้สึกหน้าซีดมือสั่นตลอด แล้วถ้าเจอแบบไม่ทันตั้งตัว ก็จะกรี๊ดลั่นออกมาเลยล่ะ ]
• สถานที่ที่มองไม่เห็นก้นพื้น [ เช่นเหวที่ลึกมากจนไม่เห็นก้นเหว หรือน้ำที่ลึกเสียจนเหมือนจะจมลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดโลเรสมักจิตนาการไปเองว่ามันจะมีอะไรสักอย่างโผล่มาจากข้างใต้นั่น และเพียงแค่นึกถึง เธอก็ตัวแข็งทื่อ วิงเวียนเหมือนอยากจะอ้วกขึ้นมาแล้ว ]
• การสูญเสียคนที่รัก [ ต่อให้คนที่เธอรักนั้นจะไม่รักเธอตอบ พวกเขาก็ยังสำคัญสำหรับเธอยิ่งกว่าอะไรดีอยู่ดี บางทีอาจจะมากกว่าตัวเธอเองด้วยซ้ำ..โดโลเรสไม่ต้องการสูญเสียพวกเขาไป และเชื่อเถอะว่าโดโลเรสทำได้ทุกอย่างจริง ๆ เพื่อช่วยเหลือพวกเขา ซึ่งความจริงแล้วมันก็คงเป็นความเห็นแก่ตัวของเธออย่างหนึ่ง ที่จะเลือกหายไปเสียดีกว่าต้องอยู่บนโลกที่ไม่เหลือพวกเขาเหล่านั้นอยู่อีก.. ]
แพ้:: -
งานอดิเรก::
• ปลูกต้นไม้ [ ชอบเห็นพัฒนาการการเจริญเติบโตของต้นไม้ ก็เลยปลูกอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงพวกดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ด้วย ]
• นั่งแช่เท้าในลำธารสะอาด [ มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี และเธอก็ชอบความเย็นของสายน้ำเหล่านั้นด้วย ]
• เลี้ยงปลา [ ในห้องมีปลาทองที่ซื้อมาเลี้ยงอยู่ด้วย ตั้งชื่อมันว่าฟิลี ]
• อ่านหนังสือ [ ส่วนมากเป็นเกี่ยวกับหลักวิชาการ สมัยเด็กอ่านเพราะอยากได้รับคำชม แต่ปัจจุบันเหมือนจะติดเป็นนิสัยไปแล้ว ]
• แอบคอยตามดู _(7)_ อยู่ห่าง ๆ (แบบห่างมาก ๆ--) [ ถึงจะโดนหลบหน้าก็เถอะ..แต่คนมันรักเสียขนาดนั้น จะให้ตัดใจไปเลยมันจะทำได้ยังไงกันล่ะ แต่เพราะไม่อยากให้เขาลำบากใจ ก็เลยคอยตามดูอยู่ข้างหลังเเทน มีบ้างที่แอบเอาขนมไปวางไว้ให้ หรือช่วยเหลือในส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตนอาจจะพอมีประโยชน์อย่างพวกเรื่องชีทสรุปหรืออะไรเถือกนั้น แน่นอนล่ะว่าไม่ได้แสดงตัวออกไป แต่คนแบบโดโลเรสน่ะ แอบเก่งซะที่ไหนล่ะ.. ]
ชมรมที่สังกัด:: สภานักเรียน (ตำแหน่งเลขาสภา)
ความสามารถพิเศษ::
• ปลูกต้นไม้/ดอกไม้ [ เป็นคนมือเย็น ปลูกอะไรก็งอกเงยสวยงามไปซะหมด ]
• ร้องเพลง [ เสียงของเธอไพเราะมาก แต่ไม่ใคร่จะชอบร้องสักเท่าไหร่ มักจะได้ยินเสียงนี้กล่าวขับขานขึ้นเฉพาะในช่วงที่เธอรู้สึกเครียดและต้องการผ่อนคลายเท่านั้น หรือง่าย ๆ ก็คือ โดโลเรสมักร้องเพลงออกมาเพื่อระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจที่พูดไม่ได้ออกมานั่นแหละ ]
• ความรอบรู้เรื่องต่าง ๆ ในเบื้องต้น [ เพราะอ่านหนังสือเยอะแยะมากมายไปหมด เลยทำให้รู้เรื่องหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น เรื่องเกี่ยวกับโรคภัย การปฐมพยาบาล เรื่องของพรรณไม้พฤกษา พันธุ์สัตว์น้ำ และพันธุ์สัตว์บก รู้เรื่องของประวัติศาสตร์แต่ไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งมากนัก ]
• ทำผม [ เนื่องจากว่าต้องจัดการกับเส้นผมของตนเองในทุกเช้า ก็เลยมีสกิลในการจัดแต่งทรงผมที่เลิศเลอและรวดเร็วมาก และแน่นอนด้วยว่า ทรงผมในแต่ละวันของโดโลเรส เธอทำมันด้วยตนเองทั้งนั้น ]
อาวุธ::
• มีด [ เป็นมีดเล่มเล็กที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก นอกจากเป็นสีเงินล้วนและคมมาก พกไว้ป้องกันตัวเป็นหลัก มีทักษะเรื่องการใช้มีดอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก ]
เพิ่มเติม::
- สิ่งที่ทำให้หลายคนประหลาดใจนั่นคือการเจาะหูของโดโลเรส เธอเจาะหูเยอะมาก หลายครั้งที่ผู้คนถามว่าเธอไม่เจ็บหรือไง โดโลเรสก็ได้แต่ทำหน้างง สำหรับเธอการเจาะหูมันก็เจ็บแค่ช่วงแรก ๆ ถ้าดูแลดี ๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว อีกอย่าง เธอว่ามันก็ดูเป็นศิลปะดีด้วยนะ (Ref ตำแหน่งที่น้องเจาะค่ะ, x)
- เพราะมีเส้นผมที่ยาวและหนาขนาดนั้น ก็เลยมักตกแต่งผมเป็นทรงต่าง ๆ ได้ไม่ซ้ำวันอยู่ตลอด
- ไม่เคยบอกใครเรื่องความรู้สึกที่มีต่อบทที่7 แต่ท่าทีที่แสดงออกมา ทั้งการเผลอไผลไล่สายตามองตาม ดวงหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อยามถูกถามไถ่ถึงเขาคนนั้น หรือจะเป็นแววตากังวลหมองเศร้ายามครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขากำลังมีปัญหาอยู่ ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่สามารถปิดบังความรู้สึกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
- ตบแต่งใบหน้าของตนบ้างเเล้วแต่โอกาส แต่ส่วนมากแล้วจะใส่ใจกับเรื่องเครื่องประดับผมซะมากกว่า
- เหตุผลที่สวมแหวนเอาไว้ตลอดเวลา เธอบอกว่าต้องการใช้มันเพื่อเป็นกันการเหล่าบุรุษที่เข้ามาหมายหยอกจีบให้ถอยห่าง (เพราะการสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายแบบนั้น ก็พอเป็นการบอกทางอ้อมถึงเรื่องของการมีคนรักหรือคนที่ชอบแล้วได้อยู่บ้าง แม้จะเป็นนัยยะที่ค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ทุกคนก็ล้วนแต่ทราบดีทั้งสิ้น)
- ไอเดียในการสร้างคาแรคเตอร์ของโดโลเรสมาจากความหมายของดอกลาเวนเดอร์ค่ะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะหลุดตีมเมอร์เมดไปรึเปล่า ;-; แต่ทั้งนี้เพราะภาพลักษณ์ของเมอร์เมดในใจเราคือประมาณสาวช่างฝัน งดงาม เย็นสบายเหมือนสายน้ำ แล้วก็มีความซุกซนอยากรู้นิด ๆ ซึ่งมันก็เป็นคาร์แรคเตอร์ส่วนหนึ่งที่เราเอาไปประยุกต์กับตัวของตัวโดโลเรสเหมือนกัน แต่ยังไงถ้าไม่โอเค ก็สามารถบอกให้แก้ไขได้เลยนะคะ แหะ ๆ
• lavender: การรอคอยอย่างมีความหวัง, ความจงรักภัคดี
{ สีม่วง - ตัวแทนของราชวงศ์, สีชมพู - ตัวแทนแห่งความเยาว์, สัญลักษณ์โดยรวม - ความบริสุทธิ์ สง่างาม ไร้เดียงสาและสงบสุข , การมอบดอกลาเวนเดอร์ให้กับใครสักคน - ได้มอบความรักและความซื่อสัตย์ให้แก่คุณไปทั้งหมด }
- Grace Family'
•Farther: Azazel Rewis (Alive/39 yrs.) - นักร้องชื่อดังในวงการบันเทิง
•Mother: Mallory Tristanna (Deceased) - นักประพันธ์บทเพลง
______________________________________________
O T H E R P R O F I L E
______________________________________________
Mallory Tristanna (39 yrs.)
Status: Deceased
{ มารดาที่มอบให้เธอได้ทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้า อาหาร เงินทอง และที่พักพิง
หากแต่กลับขาดไปเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น..สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดเธอจะไม่มีวันได้รับมันมา.. }
Senera Swen [ 19 yrs.]
Status: Alive
{ เพื่อนสนิทของโดโลเรส ที่ทำหน้าที่เหมือนกับองค์รักษ์คนหนึ่ง
มีนิสัยขี้หงุดหงิดนิดหน่อย สายตาคมกริบที่ทำให้คนกลัว แต่เธอก็รักเพื่อนสนิทของเธอมากเลยนะ }
______________________________________________________________________________
R O L E P L A Y
ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่ได้เข้ามาในรั้วโรงเรียน แปง เด ปีส คะ?
:: "ดีใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ" หลังสิ้นคำถาม เสียงหวานละมุนก็เอ่ยกล่าวตอบกลับมาทันที พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ยกขึ้นจนนัยน์ตากลมสวยสองข้างหยีเป็นจันทร์เสี้ยว หากสังเกตเเล้ว ก็จะเห็นประกายระยับวิบวับอยู่ในดวงตาของเธอเพื่อยืนยันคำกล่าวที่ว่าไว้ "ตอนนั้นที่ตัดสินใจไปสมัคร ก็แอบกังวลมากเลยว่าจะผ่านรึเปล่า ทำเอานอนไม่หลับไปหลายวันแหนะ" หญิงสาวว่าพลางหัวเราะออกมา คล้ายกับว่ากำลังขบขันในท่าทางที่โอเวอร์จนเกินไป ก่อนจะชะงักไป เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าตนพูดมากเกินไปจนเกินความจำเป็นซะเเล้ว โดโลเรสยิ้มแหย่ เอียงคอเล็กน้อยพลางพึมพำเสียงค่อยว่า "เหมือนจะพูดเยอะเกินไปแล้วสินะคะ?..แหะ ๆ"
มีความเห็นอย่างไรกับฝั่งตรงกันข้ามกับตนเองคะ?
:: ดวงตาเรียวรีขยับกะพริบตาเสียหนึ่งครั้งเพื่อเรียบเรียงความคิด รอยยิ้มเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อหัวข้อสนทนาวนมาที่ประเด็นนี้ "ฉันคิดว่าพวกเขามีความโดดเด่นเป็นของตัวเองค่ะ เหมือนกับที่พวกเรา (ครีเอ) เองก็มีเอกลักษณ์ของตนอยู่ในตัว" ฝ่ามือขยับกุมเข้าหากัน เป็นท่าทีที่แสดงออกไปโดยธรรมชาติ โดโ
เรสหลุบสายตาต่ำเล็กน้อย เสียงของเธอค่อนข้างแผ่วลงเมื่อได้กล่าวประโยคต่อไปออกมา "..มันเลยน่าเศร้านิดหน่อย..ที่เหมือนเราจะอยู่ด้วยกันเเบบสันติวิธีไม่ค่อยได้นัก"
ไม่ทราบว่าคุณได้คาดหวังอะไรจากการเข้ามาศึกษาหรือเข้ามาสอนในโรงเรียนแห่งนี้รึเปล่าคะ?
:: "ฉันคิดว่าที่นี่จะมอบผลตอบแทนให้กับความพยายามของฉันได้น่ะค่ะ" โดโลเรสกล่าวตอบไปตามตรง เป็นคำตอบที่เรียบง่ายและไม่ได้มีอะไรพิเศษหวือหวามากนัก "แต่ถ้าถามสิ่งที่คาดหวังในการเข้าร่วมการศึกษา บางทีตอนนี้ก็คงเป็นการเริ่มพยายามที่จะเข้าใจคนของฝั่งเดสท์ เผื่อว่าวันข้างหน้าความบาดหมางของสองฝั่งจะลดลงบ้างล่ะมั้งคะ?"
คำถามสุดท้ายแล้วนะคะ คุณคิดว่าตนเองเป็นคนอย่างไรคะ?
:: "มีคนเคยบอกว่าฉันเหมือนกับดอกลาเวนเดอร์ล่ะค่ะ" เธอกล่าวออกมาทั้งหัวเราะกลั้ว ติดตลกขบขันเล็กน้อย หากก็แสดงสายตาที่เป็นประกายระยับที่สื่อถึงความยินดีในหัวใจออกมาเช่นกัน "..คงดีไม่น้อยถ้าฉันเป็นแบบนั้นได้จริง ๆ อย่างที่คน ๆ นั้นเคยว่าเอาไว้นะคะ" ว่าจบ เธอก็ยกยิ้มออกมา เป็นการบอกกล่าวทางอ้อมว่าตนได้จบบทสนทนาสำหรับหัวข้อคำถามครั้งนี้เรียบร้อย
______________________________________________________________________________
P A R E N T M E E T I N G
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ทางนี้ชื่อเครสค่ะ ขอทราบชื่อคุณผู้ปกครองหน่อยนะคะ
:: รันรันคนเดิม เพิ่มเติมคือพาลูกสาวคนสุดท้ายมาส่งล่ะค่ะ //w
เรื่องนี้ค่อนข้างดาร์กแต่ก็มีโรแมนซ์บ้างเล็กน้อย ไม่ทราบว่าคุณผู้ปกครองโอเคกับพวก LGBT+ มั๊ยคะ? ถ้าน้องที่ส่งมาไม่มีคู่หรือไม่ได้เป็นนอร์มอลจะพอรับได้มั๊ยคะ?
:: คำตอบเดิมกับใบแรกนะคะ
ข้อนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องโรแมนซ์เล็กๆน้อยๆในเรื่องอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ปกครองอยากให้น้องมีคู่หรือโสดคะ?
:: แอบรู้สึกเหมือนบทนี้มีการปูเรื่องความรักมาด้วย--แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ค่อยอยากวางใจ (?) เท่าไหร่ค่ะ ฮือ 5555 อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องติด จะให้น้องสมหวังหรือผิดหวัง อันนี้ก็ตามแต่ความต้องการของคุณเครสได้เลยค่ะ
ถ้าลูกคุณติดเข้าไปในเรื่องก็มีโอกาสที่จะตายหรือเสียชีวิตอยู่นะ โอเคกับแบบนั้นรึเปล่าคะ? (แต่ถ้ารับไม่ได้ก็คงต้องรับให้ได้อยู่แล้วน่ะนะ //เหงื่อตก)
:: รับได้แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ <3
ขอบคุณสำหรับตัวละครนะคะ ขอให้โชคดีติดบทกันนะ! ไว้เจอกันในคอมเม้นท์ค่ะ <3
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น