ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #47 : บทที่ 21 : จุดเปลี่ยน [End SS2]

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 64


    บทที่ 21 : จุดเปลี่ยน


     “ศาสตราจารย์!!!” เด็กสาวกรีดร้อง มือของสเนปกระชากเธอให้กลับเข้ามาและเหวี่ยงร่างบางเข้าใส่เดรโกเต็มแรง ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา มือเรียวจับต้นแขนของเฮเลนเอาไว้แน่น มันสั่นเทาและเต็มไปด้วยความกลัว ใบหน้าของเดรโกซีดเผือด เขายกร่างของเฮเลนขึ้นพาดบ่า 

    “ปล่อยฉัน!!” เธอกรีดร้อง “ปล่อยฉัน! ไอ้พวกเลว!!

    “ออกไปจากที่นี่ซะ!!” สเนปพูด เขาผลักพวกผู้เสพความตายให้ออกไปโดยมีเดรโกที่อุ้มร่างของเธอวิ่งนำหน้าลงไปก่อนตามด้วยเกรย์แบ็กและสองพี่น้องร่างม่อต้อตามลงมา ระเบียงทางเดินเต็มไปด้วยฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่ว ดูเหมือนว่าเพดานครึ่งหนึ่งพังลงมา ร่างเล็กที่ดิ้นขลุกขลักอยู่บนบ่าของเดรโกเหมือนจะไม่ได้ทำให้พวกเขาสนใจเลยแม้เพียงนิดเดียว

    “เรียบร้อย! ถึงเวลาไปแล้ว!!” สเนปตะโกนเรียกผู้เสพความตายที่อยู่ข้างล่างเสียงดัง เดรโก แท็คและเขาผ่านการตลุมบอนมาได้โดยไม่เป็นอะไรสักนิด เฮเลนจิกบ่าของเดรโกแน่น ถึงดัมเบิลดอร์จะเคยบอกว่าเดรโกจะต้องทำแบบนี้และเขาจะต้องเป็นคนฆ่าดัมเบิลดอร์ก็ตาม แต่ยังไงมันก็ยังทำใจไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น มันทำไม่ได้!

    ไม่มีใครทำได้หรอก!!

    เดรโกพาเธอวิ่งผ่านร่างของเนวิลล์ที่นอนกองอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเขาตายรึยัง เฮเลนไม่อาจห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้ ความเกลียดชังก่อตัวขึ้นมาในใจอย่างไม่อาจะควบคุม เธอเกลียสเนป เธอเกลียดแท็คและสำคัญที่สุดเธอรู้สึกเกลียดเดรโกขึ้นมาจับใจ เกลียดที่เขาหันไปหาแท็ค เกลียดที่ทำตามแผนไม่ได้ ถึงแม้สุดท้ายเธอจะหาเหตุผลอะไรไม่ได้ มันก็ยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

    คำสาปบินหวือผ่านพวกเขาไปไม่รู้กี่ครั้ง ผ่านห้องโถง ผ่านระเบียงทางเดินออกไป พวกเขาวิ่งลงบันไดหินอ่อนข้างหน้า เฮเลนเห็นนาฬิกาแก้วคะแนนของพวกเขาถูกคำสาปกระแทกจนแตก ทับทิม มรกตแม้กระทั่งเพชรไหลทะลักออกมาบนพื้นหินเสียงดัง จนในที่สุดก็ลงมาถึงสนามอันมืดมิด

    เฮเลนเห็นร่างของแฮร์รี่วิ่งตามลงมา ในขณะที่เธอถูกเดรโกแบกวิ่งตัดผ่านสนามมุ่งหน้าไปยังประตูโรงเรียน อากาศยามราตรีเย็นยะเยือกกรีดแทงร่างกายของเฮเลนราวกับมีดแหลม มีแสงวาบและเสียงตะโกนดังขึ้นเป็นระยะ

    “เฮเลน!!” แฮกริดตะโกน “ปล่อยเธอนะ”

    เขาพยายามหยุดผู้เสพความตายร่างใหญ่ที่วิ่งตามเดรโกมา ลมหายใจที่แสนเย็นเยือบเหมือนจะฉีกปอดของเฮเลนให้แหลกกลายเป็นชิ้นๆ และอาการเจ็บปวดในอกเหมือนกำลังถูกไฟไหม้ลุกลาม เฮเลนเห็นผู้เสพความตายชี้ไม้ไปทางแฮกริด เธอกรีดร้องไม่เป็นภาษา ต้องไม่ใช่เขา! ต้องไม่ใช่แฮกริดอีกคน!!

    "ไม่นะ แฮกริด!!!" เธอกรีดร้องเสียงแหบแห้งและดูเหมือนจะเริ่มสำลักน้ำตา

    เฮเลนเหลือบไปมองร่างของแฮร์รี่ที่วิ่งตามมา เขาล้มหน้าคะมำจากผู้เสพความตายสองคนที่ตามหลังเขามา แต่ดูเหมือนเขาจะหันไปแช่งใส่พวกนั้นได้และลุกขึ้นยืนวิ่งตามหลังมาติดๆ ผู้เสพความตายผมบลอนด์เล็งคำสาปบทแล้วบทเล่าใส่แฮกริดแต่ว่ามันไม่สะเทือนผิวแข็งแกร่งที่ได้จากแม่ที่เป็นยักษ์ของเขาเลย เดรโกและแท็คยังคงวิ่งโดยมีสเนปตามไล่หลังมาติดๆ ไม่นานก็คงจะไปพ้นประตูใหญ่

    “แฮร์รี่!!” เฮเลนตะโกน “แฮร์รี่!! ช่วยฉันด้วย!!

    “วิ่งเข้าเดรโก! แท็ค!!

    สเนปตะโกนเมื่อเห็นคำแช่งปลิวผ่านเฉียดเขาไปเพียงนิด เขาหันกลับไปเผชิญหน้ากับแฮร์รี่ ทั้งสองหยุดยืนอยู่ตรงนั้นและในขณะเดียวกันแสงสีส้มก็ระเบิดขึ้นที่บ้านของแฮกริด กระท่อมของเขากำลังถูกไฟไหม้!

    “เจ้าเขี้ยว!!” แฮกริดแผดเสียงดังลั่น เฮเลนเห็นเขาวิ่งกระโจนเข้าไปในกระท่อม ผู้เสพความตายคนหนึ่งชี้ไม้กายสิทธิ์ไปหาแฮร์รี่ เขาล้มลงและดูเหมือนว่าจะโดนคำสาปกรีดแทง!

    “ปล่อยฉันเดรโก!!!

    เฮเลนตะโกนเสียงดังลั่น พยายามสะบัดตัวอีกครั้งถึงแม้จะรู้ดีว่ามันไม่เป็นผลก็ตาม สองแขนแข็งแรงรัดเอวเธอแรงขึ้นในขณะที่ร่างของแฮร์รี่เล็กลงไปทุกที ไม่มีใครพูดอะไรเลยแม้แต่แท็คก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นดัมเบิลดอร์หรือแฮร์รี่ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเหรอ! เป็นได้แค่คนที่ถูกแบกขึ้นบ่าแล้วลากออกมาโดยไม่ได้ช่วยอะไรเลย!

    “ปล่อย!!” เฮเลนชักไม้กายสิทธิ์ออกมาจากเสื้อ แต่ก่อนที่จะได้ร่ายคาถาอะไร ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อ! แท็คใช้คาถาไร้เสียงสะกดให้เธอหยุดนิ่งทั้งที่มือกำไม้กายสิทธิ์เอาไว้แน่น ไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆ เล็ดรอดออกมาอีก ไม่มีการใช้กำลังใดๆ อีกแล้ว ในที่สุดทั้งสามคนก็หลุดออกมาพ้นประตูโรงเรียน ดวงตากลมโตทำได้เพียงแค่มองโรงเรียนของเธอถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตา...

    “ไปเถอะคุณมัลฟอย” แท็คพูดเสียงเย็น เขาจับแขนเดรโกเอาไว้แน่นก่อนที่ความมืดจะเข้าปกคลุมรอบกายและเด็กสาวก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย

    แสงไฟที่แยงตาทำให้ดวงตากลมรู้สึกว่าจะต้องเปิดออก เฮเลนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสีส้มทอดผ่านเตียงกว้างสีเขียวแก่มีระเบียงม่านอยู่ด้านบน ร่างสูงโปร่งของเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดนั่งอยู่ปลายเตียง เขาใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะราวกับว่ากำลังทุกข์ทรมานกับอะไรบางอย่างและเหมือนกำลังกรีดร้องโดยไร้เสียงออกมา

    แผลเป็นบนหน้าผากรู้สึกแสบร้อนขึ้นมาพร้อมกับรอยแผลเป็นบนฝ่ามือซ้าย เฮเลนยกมือขึ้นมาสัมผัสไปยังแผลอย่างแผ่วเบา ถึงจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนแต่เธอก็อยากจะขอภาวนาให้ทุกสิ่งที่ได้เห็นเป็นเพียงแค่ความฝัน ดัมเบิลดอร์จะต้องยังไม่ตาย และแฮร์รี่จะต้องไม่เป็นไร เขาจะต้อง...

    “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างตรงปลายเตียงเอ่ยถามเมื่อเขาได้ยินเสียงสะอื้นที่เฮเลนเก็บเอาไว้ไม่มิด เดรโกขยับตัวเข้ามานั่งริมขอบเตียงข้างๆ กับเธอ ดวงตาคมสีฟ้าซีดบวมเป่งอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าเขาเองก็ผ่านการร้องไห้มาเช่นกัน “นี่ห้องฉันเอง -- ขอโทษนะ ที่ต้องพามาทั้งที่ไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลยสักอย่าง”

    เฮเลนยังคงนิ่งเงียบและมองหน้าเขา ความเกลียดชังที่ถาโถมเข้ามาส่งผลให้เธอขยับถอยห่างจากเข้าโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกชอบพอเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นการที่เขาหักหลังเธอและแฮร์รี่โดยการไปบอกแท็ค ว่าพวกเขาจะไม่อยู่ที่นั่นในคืนนั้นยิ่งทำให้เฮเลนมีความรู้สึกติดลบกับเดรโกมากขึ้นอีก

    ภาพของดัมเบิลดอร์ที่หงายหลังตกลงไปจากหอดูดาวยังติดอยู่ในหัวสมองของเฮเลนอย่างไม่อาจจะสลัดออกไปได้ มือเล็กปาดน้ำตาออกจากใบหน้าพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงโดยยังไม่ได้ละสายตาจากเดรโก เธอคิดไม่ออกเลยว่าแฮร์รี่จะเป็นยังไงบ้างหรือว่าแฮกริดจะช่วยเจ้าเขี้ยวออกมาจากกระท่อมที่ลุกเป็นไฟของเขาได้ไหม เธอคิดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว

    หลังจากที่เห็นดัมเบิลดอร์ตาย เธอก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่าปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้ไขได้อย่างราบรื่น

    “ฉันรู้ว่าเธอคงเกลียดฉันแล้ว” เขาพึมพำ "แต่ฉันทำทุกอย่างตามคำแนะนำของดัมเบิลดอร์ -- เขาขอร้องให้ฉันทำแบบนั้น"

    เฮเลนยังคงเงียบ

    “ที่จริงมีอีกคำสั่งหนึ่งที่ฉันได้รับหลังจากนั้น” เดรโกยังคงพูดต่อ “แท็คเป็นคนเอามาบอกฉันเอง จอมมารต้องการตัวเธอมากและเขาเริ่มระแคะระคายแล้วว่าฉันกำลังร่วมมือกับดัมเบิลดอร์ ฉันเข้าไปหาเขาในช่วงก่อนที่พวกเขาจะเรียกเธอกับแฮร์รี่ไปพบ ดัมเบิลดอร์บอกฉันว่าให้ฉันบอกกับแท็ค...”

    “บอกเขาว่าคืนนั้นเราจะไม่อยู่ใช่ไหม” เฮเลนเอ่ยปากขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน “ฉันรับไม่ได้ ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ต้องเกิดอยู่แล้วก็ตามเดรโก ดัมเบิลดอร์ต้องการให้เธอฆ่าเขา ฉันรู้ว่ามันอาจจะต้องเป็นแบบนั้นแต่ว่าฉันไม่เข้าใจ...”

    “ฉันกลัว” เขารับ ก้มลงมองมือตัวเอง “ก่อนจะออกไปลาเมียร้องโอดครวญเสียงชวนขนลุก ฉันยังจำได้ว่ามันเป็นฟินิกซ์ที่จะร้องออกมาเมื่อถึงเวลาที่มีคนจะตาย มันทำให้ฉันกลัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะกลัวเรื่องที่เธออาจจะถูกเกรย์แบ็กกัดเอาหรือว่าเรื่องที่แม่จะต้องถูกทำร้าย ฉันทำอะไรได้เหรอเฮเลน ช่วยบอกฉันที ฉันควรตายไปซะใช่ไหม -- ตอนนั้นดัมเบิลดอร์บอกฉันว่าจะต้องบอกแท็ค ถ้าไม่บอกแท็คจอมมารจะจับได้ว่าเรากำลังทำอะไรกัน”

    ดวงตาคมเริ่มมีน้ำสีใสเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของเขาบอกได้ว่าเขาไม่ได้กำลังโกหกอย่างแน่นอน ความโกรธและเกลียดชังคนตรงหน้าเริ่มเบาบางลง เฮเลนคิดว่าถ้าหากมีเพนซิฟก็คงจะดีเธอจะได้รู้ว่าดัมเบิลดอร์มีสีหน้ายังไงตอนที่คุยเรื่องนี้กับเดรโก เขาจะยังคงยิ้มและพร้อมที่จะตายเหมือนเคยใช่ไหม หรือว่าความจริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะตายเหมือนกัน

    “ฉันขอโทษ -- ฉันบอกใครเรื่องนี้ไม่ได้ แม้แต่เธอ” เดรโกหลุบตาลง เขาร้องไห้อีกแล้ว นี่เป็นอีกครั้งที่เฮเลนเห็นน้ำตาของเขา มือเล็กเอื้อมขึ้นไปสัมผัสใบหน้าของเดรโกอย่างแผ่วเบา ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าใสอย่างเบามือ บางครั้งดัมเบิลดอร์อาจจะต้องการการให้อภัยในสิ่งที่เขาได้กระทำผิดพลาดไป มาคิดดูอีกทีเดรโกได้ทำอะไรนอกเหนือคำสั่งดัมเบิลดอร์หรือเปล่า

    จริงๆ แล้วคือไม่เลย เขาทำตามคำสั่งดัมเบิลดอร์ทุกอย่าง ไม่มีบิดเบือนไปเลยแม้แต่นิดเดียว

    ร่างสูงขยับเข้ามากอดเฮเลนเอาไว้แน่น แผ่นหลังกว้างสั่นสะท้าน มือเล็กลูบผมของเขาไปมาอย่างปลอบโยน เดรโกจะต้องแบกรับอะไรเอาไว้มากมายเหลือเกิน มากมายเสียจนแม้แต่แฮร์รี่ก็คงจะยังไม่รู้ ป่านนี้เขาคงจะโกรธเดรโกเป็นฟืนเป็นไฟและตามล่าฮอร์ครักซ์พร้อมกับสาปแช่งเดรโกไปด้วยอย่างแน่นอน

    “ไม่เป็นไร” เธอไม่มีคำพูดอะไรจะพูดออกมามากกว่านี้อีก "ไม่เป็นไรแล้วนะ -- เธอทำได้ดีมากแล้ว"

    ปิศาจสองตัวต่อสู้กันอยู่ในใจของเธอ ตัวหนึ่งคือความโกรธเกรี้ยวที่เขาปล่อยให้สเนปฆ่าดัมเบิลดอร์ แต่อีกตัวหนึ่งกลับร้องขอให้เธอให้อภัยเขา เพราะบางทีดัมเบิลดอร์อาจไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ใดๆ ขาดสะบั้นจากกันอีกโดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่เขาเป็นคนดึงให้กลับมาเข้าใจกันด้วยตัวเอง

    “จอมมารอยู่ที่นี่” เดรโกพูดอู้อี้ใบหน้ายังซุกอยู่บนบ่าของเฮเลน “เขาอยู่ที่นี่ -- อยู่ที่คฤหาสน์ของฉัน -- เขาออกคำสั่งให้ฉันพาเธอมาที่นี่โดยห้ามให้มีแม้แต่รอยแผลหรือรอยถลอก เขาต้องการตัวเธอในสภาพสมบูรณ์ที่สุด”

    ประโยคสุดท้ายเปล่งออกมาพร้อมกับสองแขนที่กระชับร่างของเธอแน่นขึ้น

    “เขาต้องการเธอมาแทนลูกแก้วพยากรณ์ที่แตกไป” เขาพูดต่อ “เขาเคยพินิจใจแฮร์รี่ได้และรู้ว่าเธอมีตาพยากรณ์แล้วยังเคยพยากรณ์เรื่องของเขาออกมาด้วย และฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องให้เธอดูแน่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาจะฆ่าแฮร์รี่หรือต้องการฆ่าใครสักคน -- ฉันไม่อยาากให้เธอมาเจอเรื่องแบบนั้นเลย”

    “มันยากมากนะ” เฮเลนตอบ เสียงสั่นเครือ “ฉันบอกไม่ได้ว่าฉันจะสามารถพยากรณ์ได้ดั่งใจเขาเดรโก -- บางครั้งฉันก็แค่เห็น...”

    “ฉันรู้” เขาพึมพำ “แต่ถ้าฉันไม่พาเธอมา เขาบอกเขาจะตามไปฆ่าเธอ... ฉันทนไม่ได้หรอกเฮเลน พูดตามตรงตอนนั้นฉันขอให้เธอเกลียดฉันแล้วพาตัวเธอมาทั้งที่เธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อฉัน ฉันยังจะรู้สึกผิดน้อยกว่านี้ซะอีก”

    เฮเลนเงียบ เธอพูดอะไรไม่ออก เดรโกผละออกจากอ้อมกอดของเธอช้าๆ ดวงตาสีฟ้าซีดยังฉ่ำไปด้วยรอยเปียกรอบดวงตา เฮเลนเลื่อนมือไปปาดน้ำตาของเขาออกอีกครั้ง เธอไม่เคยเห็นเขาอ่อนแอได้ขนาดนี้ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ทั้งในใจยังหวาดกลัว

    “ฉันกลัวว่าจะไม่มีเธออยู่”

    เขาพูดอีกครั้งเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เฮเลนมากขึ้นเรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่แตะกัน จริงๆ ในใจของพวกเขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรแก่เวลา ทั้งความเศร้าเสียใจและความตายคงไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ความรู้สึกแบบนี้ประทุขึ้นมาเลย เพียงแต่เวลานี้กำลังบอกให้พวกเขารู้ว่า ถ้าหากไม่ได้แสดงมันออกมาก็คงไม่อาจเหลือเวลาใดให้แสดงออกมาอีกแล้วว่าหัวใจของพวกเขากำลังร้องเรียกหากันเพียงใด

    “ขอโทษที่บางทีฉันอาจจะพูดมันช้าไป” เดรโกเอ่ยหลังจากถอนริมฝีปากออก “ฉันรักเธอ -- รักเธอมากจริงๆ นะ”

    แขนซ้ายรวบเอวบางให้แนบชิดกับร่างกายของเขามากขึ้นไปอีกก่อนจะก้มลงจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากบางอีกครั้งและอีกครั้ง ร่างของทั้งสองแนบชิดกันมากกว่าที่เคย...

     

    ณ ห้องพยาบาล ฮอกวอตส์

    “ฉันไม่สนใจหรอกว่าหน้าตาเขาจะเป็นยังไง!” เฟลอร์พูดเสียงดัง “ฉันจะสนไปทำไม ฉันคิดว่าฉันสวยพอแล้วสำหรับเราสองคน รอยแผลทั้งหมดนั่นแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของสามีฉัน!!” เธอผลักนางวีสลีย์ออกไปอีกทางและฉวยยาทามาจากมือของเธอ “แล้วฉันจะทำนั่นเองด้วย!

    นางวีสลีย์ผงะไปชนสามี เธอจ้องมองเฟลอร์ซับแผลให้บิลด้วยสีหน้าพิกล ไม่มีใครพูดอะไรเลยหรือแม้แต่จะขยับด้วยซ้ำ

    “คุณยายมิวเรียลของเรา” นางวีสลีย์พูดหลังจากนิ่งอยู่นาน “มีมงกุฎที่สวยงามมาก ฉันแน่ใจว่าฉันกล่อมคุณยายให้เธอยืมใช้ในวันแต่งงานได้ -- คุณยายรักบิลมาเลยนะรู้ไหม -- เธอใส่แล้วมันต้องสวยมากแน่ๆ”

    “ขอบคุณค่ะ” เฟลอร์ตอบเสียงหวาน “ฉันมั่นใจว่ามันต้องสวยมากๆ”

    “คุณเห็นไหม!” เสียงเครียดๆ ดังขึ้น ท็องส์จ้องลูปินเขม็ง “เฟลอร์ยังต้องการแต่งงานกับบิล เธอยังไม่เห็นสนใจเลย!

    “มันต่างกัน” ลูปินตอบ “บิลจะไม่ได้เป็นมนุษย์หมาป่าเต็มตัว เป็นคนละกรณี...”

    “แต่ฉันก็ไม่สนเหมือนกัน!” ท็องส์พูด คว้าเสื้อคลุมลูปินมาเขย่า “ฉันพูดกับคุณสักล้านครั้ง...”

    แฮร์รี่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เข้าใจกระจ่างขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะความหมายของสิ่งต่างๆ และแล้วก็ไม่ใช่ซีเรียสที่ท็องส์หลงรัก...

    “แต่ฉันก็บอกเธอล้านครั้งแล้ว” ลูปินพูด “ว่าฉันแก่เกินไป จนเกินไปและอันตรายเกินไป”

    “ฉันก็บอกคุณอยู่เสมอว่าคุณน่ะยึดถึงเรื่องตลกๆ ไม่เข้าเรื่องรีมัส!

    “ผมไม่ทำอะไรตลกเลยนะ” ลูปินตอบอย่างมั่นคง “เธอควรคู่กับหนุ่มที่สมบูรณ์พร้อม...”

    “แต่เธอต้องการคุณ” นางวีสลีย์พูด ยิ้มน้อยๆ “จะว่าไปรีมัส ผู้ชายหนุ่มที่สมบูรณ์ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแบบนั้นไปตลอดนี่”

    ลูปินเงียบไป แฮร์รี่หันไปมองเฮอร์ไมโอนี่กับรอนโอบกอดกันอยู่ที่ข้างๆ เตียงของบิล ดูเหมือนว่าเพื่อนทั้งสองคงจะเข้าใจกันขึ้มามากกว่าเดิมแล้ว จินนี่เดินเข้ามากุมไหล่เขาไว้เบาๆ อย่างปลอบใจ

    “นี่ไม่ใช่เวลาพูดแบบนี้” ลูปินพูดอีกครั้ง “ดัมเบิลดอร์ตายแล้ว...”

    “ดัมเบิลดอร์คงจะมีความสุขมากกว่าใครๆ ถ้าเกิดจะมีความรักมาขึ้นอีกหน่อยในโลกนี้” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดขึ้น พอดีกับประตูห้องพยาบาลเปิดออก แฮกริดเดินเข้ามาพูดถึงเรื่องของการนำศพของดัมเบิลดอร์ย้ายไปแล้ว เสียงรำพันของฟอกซ์และนกฟินิกซ์สีเขียวอีกตัวหนึ่งอยู่ข้างๆ กัน แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนแต่คงเดาได้ไม่ยากว่ามันเป็นของใคร

    มติของอาจารย์ทุกท่านลงความเห็นว่าจะต้องเปิดฮอกวอตส์ต่อไปแม้จะไม่มีดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่พากันขึ้นไปบนหอดูดาวเพียงสามคน พวกเขาคุยกันเรื่องฮอร์ครักซ์และสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้น เดรโกหรือแม้แต่สาเหตุที่เฮเลนถูกพาตัวไป

    “เธอได้ฮอร์ครักซ์มาไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “มีคนเปลี่ยนมันไป” แฮร์รี่ตอบ ดวงตามองทอดไปยังร่างของฟอกซ์และฟินิกซ์อีกตัว “นี่เป็นของปลอม”

    เขาส่งสร้อยให้เฮอร์ไมโอนี่ รอนเดินเข้ามาสมทบทั้งสองคนด้วยท่าทางไม่สู้ดีนัก

    “ถึงจอมมาร” เฮอร์ไมโอนี่อ่านออกเสียง “ข้ารู้ว่าข้าคงตายไปแล้วก่อนที่ท่านจะได้อ่านจดหมายนี้ แต่ข้าอยากให้ท่านรู้ว่า ข้าเองคือผู้ค้นพบความลับของท่าน ข้าได้ขโมยฮอร์ครักซ์ที่แท้จริงไปแล้ว และตั้งใจว่าจะทำลายทันทีที่ทำได้ ข้าเผชิญหน้ากับความตายด้วยหวังว่าเมื่อท่านพบคู่ต่อสู้ที่เสมอกัน ท่านจะเป็นมนุษย์ที่ตายได้อีกครั้งหนึ่ง”

    “ร.อ.บ. ใครน่ะ” รอนถาม แฮร์รี่สายหน้า เสียงของฟอกส์เงียบลงไปแล้ว มันสองตัวทิ้งฮอกวอตส์ไปแล้ว ไปตลอดกาล เหมือนที่ดัมเบิลดอร์ได้จากโรงเรียนนี้ไป จากโลกนี้ไปตลอดกาล

    “ฉันจะไม่กลับมาอีก” แฮร์รี่พูด “ฉันจะต้องทำให้สำเร็จ”

    “เราจะไปด้วย” รอนว่า “นายต้องไม่ทิ้งพวกเรา”

    “ใช่แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ย้ำส่งฮอร์ครักซ์ปลอมคืนให้เขา “เธอต้องการเรา”

    แฮร์รี่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

    “ก็ได้” เขาพูด “ถ้าเฮเลนอยู่ด้วย ยัยนั่นก็คงไม่ยอมเหมือนกัน”

    “เธอว่าเขาจะปลอดภัยไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “ฉันคิดว่านะ” แฮร์รี่ตอบ “มีเดรโกอยู่ด้วย ฉันว่าฉันพอจะฝากชีวิตครอบครัวเพียงคนเดียวของฉันไว้ได้”

    มือของแฮร์รี่กุมฮอร์ครักซ์ปลอมเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร แม้จะมีทางอันคดเคี้ยวและมืดมนอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นอีกหนึ่งปี หรืออีกสิบปี เขาก็ยังคงหวังว่าจะมีวันสุดท้ายที่รออยู่ เพื่อที่จะได้สนุกสนานร่วมกับรอน เฮอร์ไมโอนี่และเฮเลน ครอบครัวของเขาที่ยังคงเหลืออยู่

    แม้ว่าเส้นทางในวันนี้จะยังมืดมน แต่แสงสว่างในวันข้างหน้าจะต้องยังคงอยู่เป็นแน่


    Season 2 E N D

     

    Ester egg

    “พวกมัลฟอยดูไม่มีความสุขเลยนะ”

    ในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นอีกครั้งในคฤหาสน์มัลฟอย เดรโกและนาร์ซิสซาเองก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ที่นั่น ใบหน้าที่ไม่แสดงออกถึงความสุขทำให้หนึ่งในองค์ประชุมหันมาหาสองแม่ลูกด้วยสายตาไม่น่าอภิรมย์ เดรโกสะดุ้งเฮือกเขาหันไปมองมารดาที่ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย ความกังวลใจแผ่ขึ้นมาในใจชั่วขณะหนึ่ง

    “คงไม่รู้สึกดีล่ะมั้ง” คนเดิมยังพูดต่อ “คนรักของแกไม่ใช่เหรอเดรโก! ยัยเด็กพอตเตอร์นั่นน่ะ”

    ทั้งโต๊ะส่งเสียงหัวเราะขึ้นมา ใบหน้าพึงพอใจของจอมมารจ้องมายังเขา เดรโกเม้มริมฝีปากแน่น ไม่โต้ตอบ เขาจะต้องระวังทุกคำพูดที่เขาจะพูดออกไปต่อจากนี้ เพราะมันจะไม่ได้ส่งผลถึงแค่ตัวเขาคนเดียวอีกต่อไปแล้ว -- มันจะส่งผลถึงเฮเลนด้วย ส่งผลถึงสาวน้อยตัวเล็กๆ ที่แสนบอบบางคนนั้น

    “รู้สึกยังไงนาร์ซิสซา” เขาพูดต่อ “ที่จะมีสะใภ้เป็นผู้ถูกเลือก!!

    เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกระลอก นาร์ซิสซาไม่ได้โต้ตอบอะไรไป เธอยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาสีฟ้าซีดจ้องมองพื้นโต๊ะอย่างว่างเปล่า เดรโกพยายามสงบสติของตัวเองและมองไปยังจอมมารที่บัดนี้ลูบหัวนากินีอยู่ด้วยรอยยิ้มกว้าง แท็คยืนอยู่ข้างๆ เขา ใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนกับทอม ริดเดิ้ลในวัยหนุ่มเผยยิ้มร้ายกาจออกมา

    “เงียบกันดีกว่าครับ” แท็คพูด “ผมว่าคุณมัลฟอยและคุณนายมัลฟอยคงไม่ดีใจนักที่ได้ยินแบบนั้น”

    “ฉันเองก็คงไม่ดีใจด้วยแท็ค” โวลเดอมอร์ว่า เสตาไปมองแท็คราวกับว่าเขารู้อะไรบางอย่าง

    “ผมไม่ได้มีอะไรสักหน่อยนะครับ” เขาตอบ ริมฝีปากยิ้มแย้มอย่างที่ไม่เคยเห็น “อีกอย่าง -- เรื่องที่โอลลิแวนเดอร์ถูกขังอยู่ชั้นใต้ดินที่บ้านหลังนี้ ก็คงไม่มีใครโง่พอเอามันไปแพร่งพรายแน่ -- เหลือเรื่องที่เราต้องจัดการอีกแค่อย่างเดียวเท่านั้นครับ ท่านพ่อ"

    “ดี” เขาพูดเสียงเรียบ โวลเดอมอร์ลุกขึ้นยืนตัวตรง นากินีเลื้อยลงไปอยู่ใต้เก้าอี้เขา “หวังว่าแกคงไม่มีปัญหาอะไรนะเดรโก”

    “ไม่ครับ” เด็กหนุ่มตอบด้วยเสียงสั่นเครือ “ไม่มีปัญหาครับท่าน”

    “ยอดเยี่ยม"


    ติดตามตอนต่อไป...

    จบซีซั่น 2 แล้วจ้าาา!! ให้เวลามโน 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป! (งวดนี้คงต้องนานกันหน่อย) หลังจากครบแล้วเราก็จะมาเริ่มกันต่อใน ซีซั่น 3 ของ "ถ้าหากแฮร์รี่ พอตเตอร์มีน้องสาวฝาแฝด!" กันอีกครั้ง ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดและคอยให้กำลังใจกันเสมอมา

    สำหรับตอนนี้ สวัสดีค่ะ  >3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×