ลำดับตอนที่ #46
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #46 : far away
lI It seems as though I can grab all of these things in my dreams. ll
____________________________________________________
APPLICATION
"ฉันทำมันได้ เพราะฉันอยากที่จะทำ"
บท:: { 4 } Goldie.
ชื่อ:: ฮอลลี่ คาร์เมน l Holly Carmen
ความหมายชื่อ:: ฮอลลี่ - ต้นไม้ฤดูหนาว ถูกกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ l คาร์เมน - เสียงเพลง, สวนผลไม้ l ฮอลลี่ คาร์เมน - { เสียงบรรเลงขับขานถึงชีวิตนิรันดร }
ชื่อเล่น:: -
*มักบอกให้คนอื่นเรียกตนเองด้วยนามสกุล ไม่สะดวกใจจะถูกเรียกด้วยชื่อจริง เว้นแต่จะเป็นคนที่สนิทกันมาก ๆ หรือคนในครอบครัว*
ชั้นปี:: 1
อายุ:: 16 ปี
ฝั่ง:: เดสท์ (ผู้ทำลาย)
ระดับพลังเวทย์:: ต่ำ
ส่วนสูง/น้ำหนัก:: 175ซม. l 56กก.
รูปร่างลักษณะ::
ฮอลลี่ คาร์เมน เด็กสาวเจ้าของเรือนร่างและใบหน้าสะสวยที่โดดเด่นสะดุดตาไปเสียหมด รูปร่างแบบนั้นบวกกับบุคลิกท่าทางทำให้เธอดูโตกว่าวัยไปมาก เด็กสาวที่มักทาริมฝีปากของเธอให้เป็นสีแดงก่ำกำมะหยี่ มันขับให้ผิวหน้าของเธอดูขาวผ่องขึ้น โดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าอะไรดี และถึงแม้จะถูกบ่นถึงความแก่แดดบ่อยครั้ง ฮอลลี่ก็ไม่เคยสนใจและยังตบแต่งใบหน้าของเธอต่อไปอยู่ดี ดวงตาสีน้ำผึ้งคู่นั้นเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจอยู่เสมอ เส้นผมสีแพลทตินั่มบลอนด์เป็นอีกสิ่งที่ดูราวกับจะสร้างขึ้นมาเพื่อเธอเท่านั้น มันถักทอเหยียดตรงสวยจรดละรอบเอวคอดกิ่ว สัดส่วนของเธอไม่ได้เด่นชัดมากนัก แต่ก็พอมีประสาเด็กสาววัยสิบหก มิหนำซ้ำยังดูเป็นสัดส่วนเว้าโค้งที่เข้ารูปพอดีมือพอสมควรเลยด้วย เป็นเด็กสาวที่มีเรือนร่างเเบบลีน ๆ ที่เรียกได้ว่าสุขภาพดีคนหนึ่งเลยล่ะ
โดยปกติเเล้ว ผู้หญิงตัวสูงก็มักจะไม่ใส่ส้นสูง เพราะไม่งั้นเวลาไปเดินกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นคงดูขัดตาแย่ แต่ฮอลลี่กลับไม่สนใจเรื่องนั้น เธอสนแค่ว่าเธอใส่แล้วมันสวย เธอถึงได้ใส่ รองเท้าส้นสูงหรือบูทส้นสูงเป็นของคู่กายฮอลลี่ พอ ๆ กับลิปแมทสีกำมะหยี่ที่ดูเกินอายุนั่น เธอเป็นคนที่แต่งตังด้วยแฟชั่นที่ทำให้ดูโตกว่าวัย เสื้อเชิ้ตโทนสว่าง (ขาว, ครีม, ฟ้าอ่อน ฯลฯ) ที่มักมีการเล่นทรงแขนเสื้อให้ดูโปร่ง ฮอลลี่ชอบที่จะสวมกางเกงขายาวทรงกระบอก สีสันของพวกมันเป็นโทนเย็นและเข้มเป็นหลัก หรืออาจเป็นสีเบจ ปกติเเล้วเธอจะปล่อยผมให้ยาวเหยียดตรงและสวมที่คาดผม โดยที่ไม่ได้ไปทำอะไรกับทรงผมมากนัก มีการตบแต่งใบหน้าด้วยเครื่องสำอางค์บาง ๆ ที่ไม่แน่นมากจนเกินไป (ยกเว้นริมฝีปาก)
อุปนิสัย::
• E N E R G E T I C
ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยพลังงานในการทำสิ่งต่าง ๆ ฮอลลี่ คาร์เมน คือคนแบบนั้น ผู้คนมักเห็นเธอหนึ่งในตัวแทนอาสาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยิบย่อยอย่างการทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ การเข้าค่ายฝึกอบรมต่าง ๆ หรือเรื่องใหญ่ ๆ อย่างการอาสาเป็นหัวหน้าทีมก็ดี ฮอลลี่พร้อมที่จะทำหมดทุกอย่าง แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม เด็กสาวคนนี้ เพราะมีความมั่นใจสูง ผสานกับความตั้งมั่นในตัว ก็เลยไม่ค่อยจะมีอะไรให้เกรงกลัวสักเท่าไหร่ เธอถึงได้ตัดสินใจลงมือทำเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างไม่กลัวว่าอาจจะล้มเหลว เพราะต่อให้ล้มเหลวไปแล้วอย่างไร ฮอลลี่ก็จะกลับมาลุกยืนแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งอยู่ดี
คนที่ไม่เคยหยุดนิ่งและหวังจะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ความคิดของเธอคือ คนที่พยายามก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย ต่อให้บนโลกนี้ การประสบความสำเร็จจะต้องใช้หลายสิ่งหลายอย่างเข้าช่วย เธอก็ยังคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมาก ๆ พอ ๆ กับโชคภาคก็ยังเป็นความพยายามอยู่ดี กับเรื่องไหนที่ไม่เคยทำก็ให้ลองทำ เพราะทุกคนนั้นมีครั้งแรกกันทั้งนั้น แต่เมื่อผ่านเข้าครั้งที่สอง สาม และสี่ เธอก็เชื่อว่าเธอจะทำมันได้ดีขึ้นจากเดิมที่เคยทำอะไรไม่เป็นเลยอย่างแน่นอน ดังนั้นฮอลลี่จึงพยายามฝึกฝนอยู่เสมอ แม้บางครั้งจะรู้สึกขี้เกียจหรือเหนื่อยจนอยากจะลงไปดิ้น เธอก็ยังไม่เลิกพยายามอยู่ดีนั่นแหละ
ปากของเธอที่ขยับไปพร้อม ๆ กับแขนและขา คำบ่นที่ยาวประมาณสามกิโลว่าเหนื่อยแสนเหนื่อย ไม่อยากทำแล้ว ไม่อยากฝึกแล้ว ฮอลลี่ชอบบ่นกับตัวเองอยู่บ่อย ๆ แต่ก็พยายามไม่ให้ใครมาได้ยินเพราะกลัวคนอื่นจะพาลไม่อยากทำไปด้วย ตัวเธอนั้นก็เพียงแค่อยากบ่นไปเรื่อยเท่านั้น เธอคิดว่าการบ่นมันคือการบริหารจิตใจอย่างหนึ่ง อย่างถ้างานมันยากเหลือเกิน แล้วเราได้พูดออกมาบ้างว่า "โคตรยาก" เลย มันก็คงทำให้โล่งใจได้บ้าง แต่ก็นั่นแหละ บ่นไปงานมันก็ไม่เสร็จ มือเลยต้องขยับตามอยู่ด้วยนี่ไง เรียกว่าถึงจะบ่นจนน่ารำคาญ งานเธอมันก็เสร็จพร้อมกันกับที่บ่นจบพอดีนั่นแหละ
• L E A D E R S H I P
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของเธอ นั่นคือฮอลลี่เป็นคนที่มีทักษะการเป็นผู้นำในตัวสูงมาก อาจเพราะเธอเป็นคนที่จริงจังอย่างมากในเวลาทำงาน รวมถึงมีสายตากว้างไกล สามารถวางแผนจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างดีก็ด้วย ความกล้าแสดงออก ความมั่นอกมั่นใจ ความแน่วแน่ที่ทำให้คนรอบตัวรู้สึกเชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถทำได้ ฮอลลี่มีบุคลิกที่ผ่าเผย ไหล่จะเหยียดและใบหน้าเชิดขึ้น แต่ค่อนข้างจะบกพร่องในเรื่องการเข้าใจอารมณ์ของผู้ร่วมงานพอสมควร ก็เลยชอบทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งไปบ้างระหว่างการทำงาน ฮอลลี่เป็นคนเสียงต่ำ พอพูดเรื่องงานแล้ว ก็เสียงดุโดยอัตโนมัติ คนที่มาคุยด้วยบางทีก็เลยอาจจะเกร็ง ๆ หน่อยล่ะนะ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอจัดการงานได้ดีจริง ๆ โดยเฉพาะกับเรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ฮอลลี่น่ะ ชอบเจอแต่เรื่องเหนือความคาดหมาย จนทุกคนรอบตัวเธอประทานสมญานาม 'ที่รักของความซวย' ให้เลยล่ะ ไม่ว่าจะพยายามทำเรื่องอะไรก็มักจะเจอเรื่องซวย ๆ วิ่งตามติดกันมาเหมือนกับเวรกรรมตามตัว หรือต่อให้เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันง่าย ๆ ก็ยังซวยได้ ไขกุญแจห้องพักอยู่ดี ๆ ลูกกุญแจดันหักคารูเลยซะอย่างนั้น แต่แน่นอนว่าคนไม่ยอมแพ้ย่อมไม่มีวันตาย (?) โดยง่าย การพยายามเสาะหาวิธีการแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่ฮอลลี่ถนัดมาก ๆ เรียกได้ว่าใช้หมองนั่งมาธิ แก้ไขสถานการณ์กันแบบฉับพลัน นาทีต่อนาทีเลยทีเดียว
สายไฟท์เตอร์ที่ไม่ยอมให้ใครมาเหยียบหัว ทุกคนมักจะรู้จักฮอลลี่ในความโด่งดังจากหลากหลายด้าน แต่ด้านที่โด่งดังที่สุดสำหรับเธอ นั่นคือความเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอของเธอเอง สำหรับการถกเถียงนั้นเป็นอะไรที่ยอมให้กันได้หากมีเหตุผลมากพอ ที่สนับสนุนว่ารูปแบบงานอีกอย่างดีกว่า เธอยอมรับได้ง่าย ๆ ถ้ามีของที่ดีกว่ามาเสนอ เพราะส่วนตัวฮอลลี่ก็ไม่คิดจะชิงดีชิงเด่นในกลุ่มตัวเองอยู่แล้ว เธออยากให้มันออกมาดีที่สุดด้วย แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายแล้วเธอไม่เก็ทความเลิศเลอที่อีกฝ่ายอยากนำเสนอ ฮอลลี่ก็พร้อมงัดภูเขาทั้งลูกมาทุ่มใส่หัวเพื่อโต้เถียงทันทีเช่นกัน และถ้าสมตติเปลี่ยนให้มันกลายเป็นงานเดี่ยวไปล่ะก็ รับรองเลยว่าแม่ไฟท์เตอร์คนนี้ พร้อมจะทำทุกอย่างให้ตัวเด่นและเลิศที่สุด แบบว่าเอาให้ตาแตกตายกันไปข้างเลยล่ะ —
• F U S S Y
จู้จี้ จุกจิก จุ้นจ้าน สามจ.จานที่ทำเอาคนอื่นอยากเท้าก่ายหน้าผากกับนิสัยของฮอลลี่ในด้านนี้ ฮอลลี่มักคอยชี้นิ้วจ้ำจี้จ้ำไชคอยบอกจุดที่ผิดพลาดให้ทุกคนในทีมตลอด แต่เธอก็เป๊ะระดับว่าแม้แต่มิลเดียวยังไม่ยอมให้ผิดไปจากความตั้งใจของตัวเอง เข้มงวดกับทุกคนมากจนเพื่อน ๆ หลายคนอดจะบอกว่าโคตรน่ารำคาญเลยใส่หน้าซะไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าฮอลลี่แคร์ไหม? ก็จะบอกตรง ๆ เลยว่า ไม่ - แคร์, ใครจะด่าใครว่าอะไรก็แล้วแต่เหอะ ก็เธออยากให้งานมันดีอะ ใครจะทำไมเธอล่ะ หรือถ้าจะเอาแต่ด่าไม่ทำงานก็โน่นเลย ไปทำเองคนเดียว เชิญ
ความจุกจิกเรื่องมากของฮอลลี่เป็นอะไรที่กล่าวขานกันมาก ๆ ทั้งในหมู่คนรอบตัวเธอ พวกเขาบอกว่า ฮอลลี่ คาร์เมน น่ะเรื่องเยอะ อันนี้ไม่ได้ อันนั้นไม่เอา อยากได้แบบนี้ก็คือแบบนี้ ก่อนที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง ฮอลลี่มักวาดภาพแผนผังการดำเนินงานต่าง ๆ ไว้ให้หัวเป็น step ไปเรื่อย ดังนั้นถ้าเกิดมันดันมีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นมาทำให้แผนการไม่เป็นไปตามเดิม ก็จะเห็นฮอลลี่ทำหน้าตาบูดบึ้ง ไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ แต่ถ้ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงเธอก็จะ อ่า เอ่อ เค แล้วก็ช่างมันไปแบบไม่ค่อยจะช่างมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเมื่อไหร่มันเกิดจากความไม่รับผิดชอบของคนในทีม ฮอลลี่จะหงุดหงิดมากถึงขนาดที่ปล่อยรังสีเยือกแข็งออกมาใส่ชาวบ้านได้เลยทีเดียวล่ะ
เธอคนนี้มีนิสัยชอบจุ้นจ้านในเรื่องของชาวบ้านเขาในเชิงที่เหมือนจะดีก็ไม่ดี ก้ำกึ่งเพราะเจตนาประสงค์ดี แต่การกระทำกับวาจามันดูโหดร้ายชอบกล ฮอลลี่ติดนิสัยชอบคอมเมนต์งานชาวบ้าน และด้วยความเป็นปากแบบนั้น มันก็เลยฟังดูเหมือนหาเรื่องชวนตีนิดหน่อย ทั้งที่ความจริงฮอลลี่ก็แค่อยากให้เพื่อนทำออกมาได้ดีเหมือนกันก็แค่นั้นเอง ใครสนิทกันก็คงพอรู้ว่านั่นไม่ได้ตั้งใจด่าหรอก ก็จะมีด่ากับเตือนกลับนิดหน่อย แต่ถ้าไม่สนิทนี่ก็น่าจะได้วางมวยกันอยู่ — นอกจากนี้แล้วหูตาเธอยังไวเป็นสับประรด นิสัยที่ชอบฟังเรื่องเม้าท์มอยกับความสอดรู้สอดเห็นในตัวโดยกำเนิด ทำให้ฮอลลี่รู้เรื่องคนโน้นคนนี้เยอะแยะไปหมด เป็นเหยี่ยวข่าวชั้นยอดที่ชอบนั่งกระดิกรอฟังเรื่องชาวบ้านคุยกันแบบลืมไปแล้วว่าโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่ามารยาทอยู่ บางทีก็โดนด่าเพราะเรื่องนี้บ่อย ๆ เหมือนกันล่ะนะ แต่ถึงจะสอดรู้ยังไงก็ไม่ใช่พวกปากโป้งขนาดนั้นหรอก เธอเก็บเงียบได้นะไม่อยากให้เธอบอก แต่ถ้าบังเอิญฮอลลี่ไม่ชอบหน้าคุณ..อันนี้ก็เอาไว้ค่อยคุยกันเนอะ *ยิ้มหวานหยด —*
• S H R E W I S H
คำถามที่ฮอลลี่มักได้รับมาบ่อย ๆ จากคนรอบตัว นั่นคือตอนเด็กแม่เธอให้เธอกินกรรไกรเป็นอาหารเหรอ? ริมฝีปากสวย ๆ นั่นพ่นคำเจ็บแสบออกมาได้ไม่รู้จักหยุด ทั้งการโต้เถียงด้วยเหตุผลในตอนแรกที่อาจกลายเป็นการจิกกัดกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านในตอนหลัง สมองของฮอลลี่ นอกจากจะมีเรื่องจำเป็นกับความรู้ทั้งหลายแหล่เเล้ว ยังมีคลังคำศัพท์เพื่อด่าโดยเฉพาะเอาไว้เยอะมาก บางครั้งก็หลุดสบถด่าคำที่ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเอาซะเลย เป็นการกระทำที่ทำให้เธอดูป่าเถื่อนขึ้นมาซะดื้อ ๆ ขัดกับหน้าสวย ๆ งามหยาดเยิ้มนั่นสิ้นดำ แต่พวกคำด่าที่หยาบคายจนรับไม่ได้นั่นก็จะหลุดออกมาเฉพาะตอนตบะเเตกเท่านั้นแหละ
ฮอลลี่เก่งอย่างมากในเรื่องของการประชดประชันหรือการพูดจิกกัดแซะแบบทางอ้อม ชอบทำให้คนอื่นเขากระอักเลือดกันบ่อย ๆ ด้วยคำพูดที่ฟังดูโหดร้ายชอบกล ซึ่งมักจะพบเห็นได้ในตอนที่พูดเกี่ยวกับงาน หรือต้องโต้เถียงใครเขา คุยกันปกติก็มีหลุดแซะบ้าง แต่ก็จะพยายามคุมปากตัวเองเท่าที่จะทำได้เหมือนกัน เพราะฮอลลี่ก็ไม่ได้คิดว่าความปากดีปากจัดของเธอมันน่าภูมิใจขนาดนั้นหรอก บางทีก็ปากไวจนเผลอด่าคนอื่นจนเป็นเรื่องเหมือนกันน่ะสิ แล้วมันก็น่าปวดหัวมาก ๆ เลยด้วย ไม่ใช่ว่าเธอกลัวการที่จะต้องทะเลาะกับใครหรอก..เธอกลัวจะโดนแม่กับน้องสาวบ่นต่างหาก
ถ้าสมมติว่ามีคนที่ทำผิด ฮอลลี่จะไม่ปลอบใจอะไรทั้งนั้น เธอจะตำหนิเพื่อให้สำนึกและรับฟัง บางคนคงนึกภาพฮอลลี่ที่ด่าอีกฝ่ายจนยับ แต่ — โอเค ยอมรับว่าบางครั้งก็ประมาณนั้นแหละ แต่นั่นมันเฉพาะกับคนที่เกลียดขี้หน้าเท่านั้นแหละ ส่วนคนอื่นเธอก็แค่ต้องการจะดุเพื่อให้เขาสำนึกเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าทำผิดแล้วยังลอยหน้าลอยตา คิดว่าคนอื่นจะปกป้องตัวเองได้ แบบนั้นน่ะหน้าด้านนะ? คนเราทำผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ โอเคไหม?
• E M O T I O N A L
ต้นเหตุของความวายป่วงทั้งปวง นั่นคือปรอทความอดทนที่ต่ำเสียเหลือเกิน เจ้าอารมณ์อย่างกับว่าประจำเดือนมาอยู่ทั้งสามสิบสามสิบเอ็ดวันอะไรอย่างนั้น เจอเรื่องขัดใจหน่อยก็หน้าหงิกแล้ว หรือถ้าต้องมาเถียงกับมนุษย์ป้าอะไรพวกนี้ บางทีก็อาจจะเห็นฮอลลี่ถอนหงอกคนแก่ได้เหมือนกัน เธอมันใจห้าว ห้าวจนบ้า บ้าจนน่าหน่าย เคยถึงขนาดวิ่งไปต่อยเพื่อนผู้ชายมาแล้วด้วยก็มี ฮอลลี่ไม่ค่อยมีบรรทัดฐานคำว่า 'ความแตกต่างทางเพศสภาพและกายภาพ' ในหัวเท่าไหร่ คิดแต่ว่าหงุดหงิดจนทนไม่ไหว ก็เลยต้องหาที่ระบาย อย่างการแหกปากร้องหรือกระโดดถีบใครสักคนแถวนั้นก็ได้ อะไรแบบนั้นเป็นต้น
แต่เพราะโดนด่าโดนบ่นเรื่องนี้จนหูจะฉีกอยู่แล้ว ก็เลยต้องพยายามนั่งท่อง พระบิดา พระบุตร พระจิตร อยู่ในใจย้ำแล้วย้ำอีก เพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองเท่าที่จะทำได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ทำได้ดีกว่าแต่ก่อนอยู่พอสมควร แต่ถ้าโดนแหย่เข้ามาก ๆ ก็พ่นไฟเป็นก๊อตซิล่าได้เหมือนเดิม เวลาโกรธแล้วจะไม่มีคนเอาอยู่ซะเท่าไหร่ อาการเหมือนเด็กที่พร้อมเหวี่ยงทุกคนออกนอกโลกเพื่อวิ่งเข้าไปซัดไอ้คนปากดีดังกล่าว ซึ่งจะเห็นฮอลลี่ปรี๊ดแตกแบบนี้แค่กับคนเดิม ๆ หน้าเดิม ๆ เท่านั้นแหละ กล่าวก็คือ ฮอลลี่ต่อให้จะมีนิสัยอย่างนี้ ก็ไม่ใช่คนที่ตั้งแง่เป็นศัตรูกับเขาไปทั่ว ออกอาการ ตีกันวันนี้เดี๋ยววันมะรืนก็ลืมสุด ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น การควบคุมสีหน้าและน้ำเสียงก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก เธอเก่งการแสดงมากที่สุดในชีวิต แต่โชคไม่ดีที่ฮอลลี่ชอบทำเหมือนกับว่าแสดงไม่เก่งเอาซะเลย อีกหนึ่งประโยชน์ของการเก่งการแสดง นั่นคือการแสร้งจีบปากจีบคอยั่วโมโหคนที่เกลียดขี้หน้า แล้วสับสวิตซ์โหมดเป็นเด็กดีที่น่ารักต่อหน้าครูบาอาจารย์อย่างไว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสนิทกันมาก ๆ ก็จะพอรู้ทันแหละว่าแม่คุณแสร้งทำไปงั้น ไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใด (แล้วก็จะโดนด่าตามระเบียบ..) เป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับคำด่ามากพอกับคำชมในความสามารถของเธอ แต่ฮอลลี่ก็ยังดูมีความสุขอย่างเคย ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามใจตนไปเรื่อยอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น และแน่นอน..นี่ก็ยังเป็นอีกข้อเสียที่ทำให้ทุกคนต้องคอยปรามเธอห่าง ๆ ว่ามันอาจจะพาความวุ่นวายมาให้เธอในภายหลังก็ได้นะ..ฮอลลี่
• S L E E P M O D E
เอเนอร์จี้แรง เป็นเจ้าแม่ดราม่าควีนยังไง มันก็ต้องมีช่วงที่หมดก๊อกกันบ้างแหละ หลายคนมักจะแอบมีคำถามอยู่ในใจกันตลอด ว่าฮอลลี่เหนื่อยไม่เป็นเลยหรือไงนะ..แต่ถ้าใครสนิทกับฮอลลี่มาก ๆ ก็จะพบว่าฮอลลี่เองก็ยังเป็นแค่เด็กสาววัยสิบหก ที่สามารถมีด้านเหนื่อยล้าท้อใจแบบคนอื่นได้เหมือนกัน เพียงแค่เธอนิ่งกว่า แสดงออกถึงความเศร้าน้อยกว่า ฮอลลี่เหมือนเด็กจอมงอแงโวยวาย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ให้ความรู้สึกโตกว่าวัย สองขั้วอารมณ์ที่ขัดแย้งกันแต่กลับผสมผสานในตัวคน ๆ เดียวได้อย่างลงตัว เมื่อผ่อนคลายก็อยากจะเป็นเด็กบ้าบอคนหนึ่ง เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่อยากร้องไห้ และคิดเสมอว่าต้องเข้มแข็งเข้าไว้ จะได้ไม่ถูกใครว่าดูถูก หรือทำให้คนรอบตัวห่วงเอาได้
ช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก ๆ หรือมีเรื่องให้คิดเยอะจนรู้สึกข้างในมันปั่นป่วนไปหมด ฮอลลี่จะดูเงียบลงจนสังเกตเห็นได้ แต่ถ้าเข้าไปถาม เธอก็จะกลอกตาใส่แล้วบอกว่าคุณน่ะคิดมากไปเองทั้งนั้นนั่นแหละ น้อยคนมากที่ฮอลลี่จะยอมพูดออกมาว่า 'เหนื่อยจัง' และถึงจะสนิทขนาดนั้นก็ใช่ว่าจะยอมพูดออกมาง่าย ๆ อยู่ดี มันต้องสุดทนมากแล้วจริง ๆ นั่นแหละ เธอถึงจะเดินไปกอดหมับใครสักคนที่ว่าเพื่อขอชาร์ตพลังงาน นอนอิงซบไหล่หลับพักสายตาสักแป๊บ ให้ตัวเองได้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ และไม่ต้องหวาดระแวงอะไรเพราะได้อยู่กับคนที่สนิทใจด้วยขึ้นมาได้บ้างก็เท่านั้น
ฮอลลี่ติดนิสัยชอบกอดชอบจับ อาจเพราะการแสดงออกของความรักและสนิทสนมจากที่บ้าน ก็เป็นการกอดการหอมเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงชอบเผลอเข้าใกล้เพื่อน ๆ ของเธอมากกว่าระยะที่จำเป็นอยู่บ่อย ๆ แต่ฮอลลี่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก แค่รู้สึกว่ามันเป็นคอมฟอร์ทโซนของตนเท่านั้นเอง เพื่อน ๆ เองก็รู้ดี เลยไม่ได้บ่นอะไรนัก เวลาโดนกระโดดกอดใส่ หรือถูกกอดหมับจากด้านหลัง แล้วเอาคางเกยหัวเหมือนเจ้าลูกหมีติดแม่แบบนั้นน่ะ
• D I S T A N C E
สร้างระยะห่างกับคนที่ไม่สนิทอย่างรุนแรง ภาพลักษณ์ที่ดูไหลรื่นมีเอเนอร์จี้แบบนี้ อาจจะทำให้หลายคนติดความคิดที่ว่าก็คงจะสนิทด้วยง่าย ๆ คุยด้วยได้ไม่มีปัญหาอะไรเว้นแต่ปากมันจะไม่ตรงกัน แต่เปล่าเลย ฮอลลี่น่ะ ที่สุดของความเข้าใกล้ไม่ได้เลยล่ะ ภายนอกเธอดูยิ้ม ๆ หยักคิ้วลิ่วตา เล่นสนุกหยอกเย้ากับเพื่อนรอบตัว แต่กลับกลายเป็นว่าถ้าเดินไปถามเธอว่าใครที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอบ้าง ฮอลลี่ก็หยักไหล่แล้วบอกว่า 'มันมีซะที่ไหนล่ะ' ได้อย่างหน้าตาเฉย เรื่องหนึ่งที่แสร้งทำไม่ได้เลยนั่นคือการทำตัวเหมือนเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ฮอลลี่ไม่ค่อยชอบอะไรแบบนั้นสักเท่าไหร่ เพราะงั้นต่อให้จำเป็นยังไง ในเรื่องของความสัมพันธ์ เธอก็จะตอบอย่างตรงไปตรงมาเสมอว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ ดังนั้นถ้าสมมติว่าพูดว่าชอบ ก็จะแปลว่าชอบแบบตรงตัวเลยล่ะ
สิ่งหนึ่งที่เหล่าท่านชายทั้งหลายสัมผัสได้จากฮอลลี่ นั่นคือเธอตั้งระยะห่างกับพวกเขาสูงมาก แถมยังอคติอย่างหนักหน่วง ระดับที่ว่าเจอหน้าก็ทำสายตาเย็นชาทักทายใส่กันซะแล้ว ฮอลลี่ไม่ชอบเข้าใกล้ผู้ชาย และก็ไม่สนิทใจด้วยอีกต่างหาก ถ้าสมมติว่าไม่ได้เป็นเพื่อนกันมานาน ฮอลลี่ก็แทบจะไม่เข้าไปคุยเล่นหรือหยอกล้ออะไรด้วยเลย หรือถ้ามีใครมาคุยกับเธอ เธอก็จะทำเฉย ๆ ไป แต่วาจาแสดงออกอย่างชัดเจนโคตร ๆ เลยว่าไม่ได้อยากประสานมิตรสนิทอะไรด้วยเลย แต่ก็มีผู้ชายบางกลุ่มที่ฮอลลี่ไม่ตั้งแง่ด้วย แค่รักษาระยะห่างเหมือนคนทั่วไปเหมือนกัน นั่นคือพวกที่มีนิสัยอ่อนโยนและนุ่นวลแบบจริง ๆ ไม่ใช่แค่การแสดงออกอย่างผิวเพินนะ..ไอ้คนที่ทำเหมือนแสนดีแต่ไส้ในกลวงนี่สิ จะทำเธออี๋แหวะยิ่งกว่าเดิมเอา
ถ้าถามว่าทำไมฮอลลี่ต้องตั้งระยะห่างกับทุกคนขนาดนี้..มันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากเป็นพิเศษหรอก เธอแค่เชื่อใจคนยาก และนิสัยแบบเธอ ก็ไม่ได้จะดึงดูดคนดี ๆ เข้ามาในชีวิตนัก ก่อนจะมาเป็นคนที่ปิดกั้นชาวบ้านขนาดนี้ เธอเคยยอมให้หลายต่อหลายคนเข้ามาในชีวิตของเธอได้อย่างอิสระมาก่อน และมันก็เป็นอะไรที่ทำให้เธอเรียนรู้เรื่องของการ 'ดูคนให้เป็น' ติดตัวมาในที่สุด ก็นะ..ชีวิตมันแต่เรื่องน่าปวดหัวนี่นา ถึงเธอจะอายุแค่สิบหกก็เถอะ..
• P R O T E C T
เพื่อนมีน้อย เราต้องรักษาเอาไว้ให้มั่น ติดเพื่อน ติดแม่ ติดน้องมาก ๆ บางทีถ้ามีแฟนก็จะติดแฟนด้วย มีมายเซ็ทว่าฉันเจ๋ง ฉันเก่ง ฉันเริศ แต่ขณะเดียวกันก็สำนึกในสันดานตัวเองจนแอบคิดบ่อย ๆ ว่าใครเขาจะมาอยากสนิทกับเธอหนอ..ดังนั้นถ้าสมมติมีคนหลวมตัว (?) หลุดมาเป็นเพื่อนเธอสักครั้งแล้ว ฮอลลี่ก็จะเกาะอีกฝ่ายไว้หมับ ไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกเลย ยิ่งถ้ารู้ใจกันยิ่งเกาะแน่น ไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนที่ว่าด้วยตลอดระดับที่อีกนิดก็เป็นวิญญาณยังตามติดแล้ว แต่ถ้าสมมติเพื่อนบอกว่าอยากได้พื้นที่ส่วนตัว ฮอลลี่ก็จะให้โดยไม่ว่าอะไร แค่คอยมองดูห่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีปัญหาอะไรก็เท่านั้น
รักเพื่อนมาก ๆ จริง ๆ เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเพื่อนของเธอ ใครจะมาว่ามาด่าเพื่อนเธอย่อมไม่ได้ ครอบครัวของเธอก็ด้วย ถึงจะดูเป็นคนแรง ๆ แข็งกระด้างและมีมุมใจร้ายอยู่เยอะ แต่ความจริงแล้วก็มีความรู้สึกที่อ่อนนุ่มอยู่บ้างบางส่วนเช่นกัน ฮอลลี่ชอบช่วยเหลือคนรอบตัวเธอ ไม่ใช่แค่เพื่อนที่สนิทกันหรอก อย่างงานกลุ่มงานห้อง ถึงเธอจะเสนอตัวทำเพราะอยากเด่นด้วยก็ใช่ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครทำ แล้วทุกคนจะลำบากก็อีกส่วน บางครั้งอาจเห็นฮอลลี่แวบไปช่วยงานคนนู้นคนนี้ด้วยตอนที่ทำงานตัวเองเสร็จแล้วก็มีเหมือนกันนะ
ฮอลลี่น่ะ ไม่ชอบเห็นคนรอบตัวเธอเศร้า เพราะงั้นถ้าใครทำให้พวกเขาเศร้า เธอก็พร้อมจะเตะโด่งอีกฝ่ายออกนอกโลกไปเลยเหมือนกัน ขณะเดียวกัน การที่เธอมีนิสัยน่าหนักใจสำหรับหลายคน มันก็ทำให้เธอแอบเศร้าอยู่ด้วย ความน้อยใจหรืออาจจะเป็นการบ่นด่าตัวเองบ้างบางครั้งว่าทำไมเธอถึงนิสัยไม่น่ารักเอาซะเลยนะ? แน่นอนว่าอาการซึมกะทือเป็นหมาหงอยแบบนี้ เธอไม่แสดงออกให้ใครเขารู้หรอก..น่าอายจะตายไป
ลักษณะการพูด::
ฮอลลี่ คาร์เมน ลักษณะน้ำเสียงที่กระฉับกระเฉง ชัดถ้อยชัดคำ และฟังดูติดดุเล็กน้อยด้วยความเจ้ากี้เจ้าการของเธอ มีโทนเสียงต่ำเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเด็กสาวคนอื่น ๆ ฮอลลี่ไม่ได้มีเสียงหวานนุ่มรื่นหูแบบพวกสาวน้อยคนอื่น ซึ่งพวกเด็กผู้ชายก็ชอบใช้เรื่องนี้มาบอกให้เธอหุบปากซะบ้าง แต่แน่ล่ะว่าฮอลลี่ไม่สนหรอก นอกจากนี้เธอยังขยันพูดขยันบ่นตลอดเวลาอีกต่างหาก ถ้อยคำจู้จี้นั่นถูกเอ่ยออกมาด้วยความเร็วระดับที่ว่าทำให้ผู้ฟังหูอื้อได้เลยนะ ปกติเเล้วโทนเสียงของเธอจะเหวี่ยงไปมาพอสมควรเลยล่ะ แต่เมื่อไหร่ที่เธอรู้สึกเหนื่อยหรือเศร้า น้ำเสียงก็จะเรียบนิ่งแผ่วเบาขึ้นมาทันทีเลยล่ะ
การแทนตัวนั้นมักเป็นสรรพนาม ฉัน อยู่เสมอ ไม่ว่าคุยกับใครก็ตาม ฮอลลี่เรียกคนอื่นว่า คุณ/เธอ/นาย หรือไม่ก็จะเรียกด้วยนามสกุลเท่านั้น เว้นแต่จะเป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงจะยอมเรียกด้วยชื่อ เป็นมนุษย์ที่ไม่ชอบเรียกชื่อเล่นและไม่ชอบให้ชาวบ้านมาย่อชื่อตัวเอง ดังนั้นจะหน้าหงิกสุด ๆ หากไปเรียกเธอด้วยชื่อพิสดารเข้า เผลอ ๆ จะไม่หันด้วย, ฮอลลี่จะใส่หางเสียงเฉพาะบางโอกาสเท่านั้น เป็นคนที่มักเผลอหลุดคำลงท้ายจำพวก ย่ะ/ยะ ออกมาบ้างเมื่อเกิดอารมณ์ประชดประชัน แล้วโดยพื้นฐานก็ไม่ได้มีอารมณ์สุภาพจ๋าอะไรขนาดนั้น บางทีถ้าตบะเเตกขึ้นมา ก็อาจสบถคำหยาบกับเขาได้เหมือนกันนะ
{ ตัวอย่างประโยคสนทนา }
• first situation
"เขาว่าทอมมี่แอบคบอยู่กับลอร์เรน" วงสนทนาเปิดบทขึ้นโดยเด็กสาวคนหนึ่งที่มีท่าทีกระตือรือร้น เรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาโดยรอบ เว้นเพียงแต่ใครอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ ดวงตาสีน้ำผึ้งหรี่ลงเล็กน้อย ไม่มีท่าทีตื่นเต้นใด ๆ จนอีกฝ่ายต้องร้องโวยขึ้นมา "โธ่คาร์เมน! นี่น่ะมันเรื่องลับสุดยอดเลยนะ"
"ลับอะไร..ฉันรู้มาเป็นชาติแล้ว"
ดวงตากลมโตของคนตรงหน้าเบิกกว้างจนเกือบถลนออกมานอกเบ้า ฮอลี่ถึงกับต้องเอนหลังหลบ เมื่อโดนพุ่งชาร์จเข้าให้ในเวลาต่อมา
"พูดเป็นเล่น! เรื่องนี้น่ะฉันถามมาจากเจ้าตัวเลยนะ เเล้วเขาก็บอกว่ายังไม่เคยบอกใครด้วย"
"คนไหนล่ะที่เธอไปถามมา?"
เด็กสาวตรงหน้าทำท่าทีงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ยอมตอบมาตามตรง "ทอมมี่น่ะสิ เขาเป็นเพื่อนฉัน"
"อ่าหะ" พลันเมื่อได้ยินคำตอบ ฮอลลี่ก็พยักหน้ารับทำความเข้าใจทันที เธอบิดตัวออกจากการจับกุมของเพื่อนสาว ยกมือทัดเส้นผมด้วยท่าทางที่ชอบใช้ทำเวลาเบื่อหน่าย หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ โดยไม่วายบอกทิ้งท้ายไว้ให้ด้วยว่า
"เขาควรจะรู้นะว่าผู้หญิงบางคนก็มีนิสัยชอบอวดช่างโอ้น่ะ"
• second situation
"แปดโมงห้าสิบห้า"
ทันทีที่ฝ่าเท้าของใครคนหนึ่งย่างเข้ามาในระยะการได้ยิน ริมฝีปากปาดทาเฉดสีแดงก่ำกำมะหยี่พลันเอ่ยขึ้นทันที ดวงตาวาววับที่จดจ้องนาฬิกาข้อมืออยู่เหลือบขึ้นมองเพื่อนร่วมกลุ่มงานในครั้งนี้ ที่มือซ้ายถือแก้วกาแฟ ในขณะที่มือขวากำลังลูบท้ายทอยป่อย ๆ ทำหน้าประมาณว่า 'ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา'
"พอดีว่าฉันลืมตั้งนาฬิกาปลุกน่ะ" เด็กสาวตรงหน้ากล่าวพลางหัวเราะ แต่เพราะสีหน้าที่นิ่งสนิทกับแววตาดุจัดนั่น จึงต้องกลืนเสียงหัวเราะทั้งหมดลงคอไป ทำทีหงอยเศร้าสำนึกผิด ซึ่งก็ไม่ได้ดูจริงสักเท่าไหร่นักในสายตาของฮอลลี่
"สายนิดเดียว--"
"ยี่สิบห้านาที ฉันไม่คิดว่านั่นเรียกว่านิดเดียว"
"ก็มันสุดวิสัย--"
"บ้านฉันเรียกว่าประมาทและขาดความรับผิดชอบ"
ริมฝีปากที่กำลังอ้าออกเป็นอันหุบฉับลงอย่างไว ไม่ว่าจะขยับปากเพื่อเอ่ยกล่าวหาข้ออ้างให้ตัวเองสักแค่ไหน ฮอลลี่ก็ยังโต้กลับมาได้อยู่ดี มิหนำซ้ำยังไม่ยอมปล่อยให้เธอพูดจนจบประโยคอีกต่างหาก ริมฝีปากสีสดนั่นรัวคำพูดตอกใส่เธอยับซะจนไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว
• third situation
ศรีษะเล็กพิงลงบนหลังของเพื่อนคนหนึ่งท่ามกลางอาการสะดุ้งของอีกฝ่าย หากกระนั้นฮอลลี่กลับยังทำเพียงแค่ขยับมุมหน้าให้สามารถอิงซบลงไปได้อย่างถนัดถนี่ เธอส่งเสียงงึมงำในลำคอออกมาเมื่อคนที่กำลังยืมตัวเป็นที่หมอนอิงชั่วคราวนั้นเกิดขยับกระดุกกระดิกตัวขึ้นมา แต่ก็แน่ล่ะ..เป็นใครเขาก็ตกใจทั้งนั้นนั่นแหละ..เล่นเดินเข้ามาฟุ่บใส่กันดื้อ ๆ แบบนี้น่ะ
"ฮอลลี่" ริมฝีปากขยับเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสาว ฝ่ามือยกขึ้นเอื้อมไปแตะผิวแก้มนุ่มที่ประดับเครื่องสำอางค์จาง ๆ ของอีกฝ่ายเอาไว้แผ่วเบา "เหนื่อยเหรอ?"
คำถามที่เอ่ยถามขึ้นนั้นไม่ได้รับการตอบกลับในทันที และมันเป็นเช่นนั้นนานจนชวนให้รู้สึกกระวนกระวาย หากไม่ติดว่าฮอลลี่ดันพยักหน้ารับเบา ๆ ขึ้นมาซะก่อน ปลอยผมนุ่มสีแพลทตินั่มบลอนด์คลอเคลียเข้ากับช่วงไหล่และลำคอของอีกคน ก่อนที่เด็กสาวตัวสูงจะพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า
"ขอพักสายตาหน่อยนะ.."
แล้วจากนั้นลมหายใจก็สม่ำเสมอ ผล็อยหลับไปในที่สุด
• fourth situation
"เฮ้ คาร์เมน" ร่างของเพื่อนร่วมคลาสชายคนหนึ่งทรุดกายนั่งข้างกาย ถ่ายน้ำหนักลงมาด้านหลังแล้วเอนเก้าอี้เข้าหา จ้องสายตามองเด็กสาวเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์แพลทตินั่มตรงโต๊ะเรียนตัวถัดไป เธอยังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือแฟชั่นของเธอเหมือนเดิม เพียงแต่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นการบอกให้เขาเอ่ยธุระของตนซะ
"ทำไมต้องให้คนอื่นเรียกเธอด้วยนามสกุลด้วย"
ร่างผอมเพรียวหลุดชะงักออกมาเล็กน้อย เห็นดวงตาคมสวยแหล่มองมาเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปจ้องหนังสือในมือเธอต่อ
"แล้วทำไมถึงเรียกคาร์เมนไม่ได้ หรือกลัวฉันไม่หัน?"
"ก็ไม่ใช่แบบนั้น" เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ "แต่มันดูเหมือนไม่สนิท"
"แล้วนี่เราสนิทกัน?"
พลิกหนังสือไปหน้าถัดไป สีหน้าเฉยชา ไม่แสดงท่าทีอะไรเลยเว้นเพียงการยกยิ้มออกมาบาง ๆ แต่รอยยิ้มของเธอที่แสดงอยู่บนหน้านั้น มันกลับบอกชัดเสียเหลือเกินว่า 'เลิกพล่ามแล้วไสหัวไปไหนก็ไปสักทีเถอะน่า' แบบไม่มีการปิดบังสักนิดนี่สิ
• fifth situation
เสียงซุบซิบดังไปทั่วทั้งห้อง สายตามากมายจับจ้องไปยังร่างสองร่างที่ยืนกอดอกเท้าสะเอวประจันหน้ากันอยู่ตอนนี้ ดวงตาคมกริบส่งกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วประชันกันดุเดือด ในขณะที่เด็กสาวตัวสูงดูนิ่งสงบกว่า..จนกระทั่งตอนที่เธอขยับปากเอ่ยพูดนั่นแหละ
"ฮ่า!" ริมฝีปากบิดยิ้มหัวเราะอย่างประชดประชัน ฮอลลี่กลอกตาเสียครึ่งครั้ง ฟาดมือลงบนโต๊ะที่มีแบบงานวางอยู่สองสามใบ "เนี่ยนะที่เรียกว่าใช้ได้!?"
"ก็ดีกว่าของเธอแล้วกัน ไออ้แผนงานพรรค์นี้ก็มีแต่พวกผู้หญิงบ้าบอเท่านั้นนั่นแหละที่จะเห็นด้วย!"
"แล้วไอ้ของ ๆ นายที่มันมีแต่เรื่องสัปดนนี่ดีมากเลยมั้งไทตัส ให้พระเจ้าเป็นพยานเถอะ นี่มันโคตรเฮงซวยเลย!"
"ว่าไงนะ!" เด็กหนุ่มที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำเลือดขึ้นหน้าเลือดอดตวาดขึ้น เขาตะคอกกลับไปเสียงดังว่า "คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะไม่กล้าต่อยรึไงห๊ะ!?"
"ก็มาดิไอ้กร๊วกเอ๊ย!!"
แต่แทนที่เด็กสาวนั้นจะกลัว กลับกลายเป็นว่าเธอกลายเป็นฝ่ายพุ่งเข้าใส่เสียแทน กลายเป็นเรียกให้เสียงกรี๊ดดังสนั่น ร้อนถึงคนแถวนั้นต้องรีบวิ่งลนลานไปตามอาจารย์มาห้ามสถาการณ์ตอนนี้เลยทีเดียว
ประวัติความเป็นมา::
ชอบ::
• ความสมบูรณ์แบบ [ ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เสพติดมันไป..แต่มันก็ทำให้เธอกลายเป็นพวกช่างบ่นจู้จี้จุกจิกไปโดยปริยายเลยล่ะ ]
• เพลงแนว R&B [ สำหรับฮอลลี่มันช่วยทำให้หัวแล่น เธอชอบเปิดเพลงผ่านลำโพงอัดดัง ๆ ในตอนที่ทำงานอยู่ ]
• การแสดง [ ความฝันอย่างหนึ่งคืออยากจะได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เธอหลงรักมันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ]
• ลิปสติกสีแดงกำมะหยี่ [ เธอคิดว่าสีนี้เข้ากับเธอที่สุด และต่อให้จะโดนด่าว่าแก่แดด ถ้ามีโอกาสเธอก็ไม่พลาดจะทาเพื่อเสริมความมั่นใจให้ตัวเองหรอก ]
• แตงโม [ ถ้ายิ่งเป็นแตงโมแช่เย็นจะยิ่งชอบ ติดนิสัยชอบเดินไปหั่นเเตงโมมากินระหว่างนั่งอ่านหนังสือหรือเล่นโซเชียลเล่นไปแล้วด้วย ]
• คำชม [ เหมือนกับเด็ก ๆ ที่พอได้รับคำชมก็จะดีใจและกระตือรือร้น แต่ฮอลลี่น่ะเก็บอาการเก่งจะตาย คนอื่นไม่ค่อยรู้หรอกว่าเธอกำลังดีใจหรือตื่นเต้นที่ได้รับคำชมจากการพยายามสร้างงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา แต่ถ้าให้สังเกต ก็จะพบว่านอกเหนือจากหน้านิ่ง ๆ นั่นแล้ว หูของเธอกำลังเป็นสีแดงก่ำอยู่ล่ะ ]
• อิสระ [ ทั้งทางความคิดและการกระทำ ฮอลลี่จะไม่ยอมให้ใครมารั้งเธอจากสิ่งที่เธอต้องการจะทำ แต่บางครั้งก็บ้าบิ่นมากเกินไปจนถูกตักเตือนเสียหูชาบ่อย ๆ นี่สิ ]
ไม่ชอบ::
• เรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่คิด [ เธอมักหงุดหงิดเสมอเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะมันจะทำให้เสต็ปในหัวเธอมันพังครืนหมดเลยน่ะสิ! ]
• นกแก้ว [ เธอเกลียดเสียงแหลม ๆ ที่คอยพูดตามของมัน..เห็นแล้วอยากจับมาถอนขนซะให้หมด--- ]
• กลิ่นเหม็น / กลิ่นฉุน [ มันแสบจมูก เพราะแบบนั้นเลยไม่มีใครเห็นฮอลลี่ฉีดน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุนสักครั้ง ]
• การออกกำลังกาย [ มันเหนื่อย แล้วมันก็ร้อนมากด้วย! ออกกำลังกายอยู่ทุกวันก็บ่นไปด้วยตลอด เผาผลาญพลังงานทางปากเก่งสุด ๆ ]
• พริกไทย [ รสสัมผัสมันแรงเกินไปสำหรับเธอ ฮอลลี่กินไม่ได้ มันจะเผาลิ้นเธอเอาถ้ากินเข้าไป ]
• ชา [ ขม..ขมจนจะอ้วก แต่ถ้าโดนถามว่าดื่มชาไม่เป็นเหรอ ก็จะคว้ามากระดกรวดเดียวด้วยอินเนอร์ไม่ยอมแพ้สุด ๆ--- ]
เกลียด::
• สถานที่ที่หนาวจัดหรือร้อนจัดจนเกินไป [ ตัวเธอมันเป็นพวกขี้ร้อนขี้หนาวไปหมด การไปอยู่ในสภาพอากาศที่สุดขั้วขนาดนั้นเลยทำให้รู้สึกหงุดหงิด และไม่อยากขยับตัวขึ้นมาน่ะสิ ]
• ผู้ชาย [ การพบเจอมนุษย์เพศพ่อที่แสนเฮงซวยอย่างต่อเนื่อง มันทำเอาฮอลลี่มีอคติกับพวกผู้ชายไปโดยอัตโนมัติเลย ]
กลัว::
• การสูญเสียความฝัน [ สำหรับฮอลลี่ ชีวิตของเธอมันจืดชืดจนน่ารำคาญ และความฝันเหล่านั้นที่เธอมี ก็เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยทำให้เธอสามารถจุดประกายไฟให้ชีวิตได้ ดังนั้นการสูญเสียมันไป ไม่อาจไล่ตาม ไม่อาจจดจำ ไม่อาจทำได้ ล้วนแต่เป็นฝันร้ายที่เธอไม่ต้องการจะยอมรับมันทั้งสิ้น ]
แพ้::
• เหล็กในผึ้ง [ เมื่อถูกต่อย จะทำให้เกิดอาการทรมานเป็นอย่างมาก ร่างกายจะบวมและแดง โดยเฉพาะในส่วนที่ถูกต่อย มีอาการหายใจติดขัดและวิงเวียนศีรษะ จำเป็นจะต้องให้แพทย์ตรวจดูอาการโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ]
งานอดิเรก::
• ออกกำลังกาย [ ต่อให้เกลียดแค่ไหนก็ต้องหุ่นดีไว้ก่อน ฮอลลี่มักจะออกกำลังกายในช่วงเช้าด้วยการจ็อกกิ้งและโยคะ การคาร์ดิโอในช่วงเย็น/บ่าย ]
• ดูหนัง [ ดูเพื่อความเพลิดเพลินแล้วหนึ่ง ดูเพราะตามดาราที่ชอบอีกสอง และดูเพราะเก็บเกี่ยวเทคนิคอีกสาม ]
• บ่น (?) [ เรียกว่างานอดิเรกได้ไหม --- เเต่เธอบ่นมันทุกเวลาเช้าสายบ่ายเย็นเลยนะ ]
• ทำความสะอาดบ้าน [ วิธีคลายเครียดยอย่างหนึ่งคือการทำความสะอาด เวลาคิดโจทย์ไม่ออกก็ชอบลุกมาล้างจานเล่นบ่อย ๆ ]
• เข้าชมรม [ ส่วนหนึ่งเพราะอยากไปซ้อมแต่อีกส่วนคือไม่รู้จะทำอะไร ถ้าว่างมาก ๆ แล้วนึกอะไรไม่ออกก็จะเข้าชมรมเป็นหลักนี่แหละ ]
ชมรมที่สังกัด:: ชมรมการแสดง
ความสามารถพิเศษ::
• การแสดง [ เพราะเป็นสิ่งที่ฝึกและคลุกคลีมาแต่เด็ก ฮอลลี่แสดงสีหน้าท่าทีทุกอย่างได้อย่างแนบเนียนแม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นก็ตาม และเพราะแบบนั้น เธอถึงเป็นนักโกหกยอดเยี่ยมที่ปกปิดสายตาและท่าทางแท้จริงได้อย่างหมดจดเลยยังไงล่ะ ]
• การวางแผน [ มีสายตาที่มองเห็นภาพในหัวได้กว้างไกล วิสัยทัศน์ดี จึงทำให้เป็นนักวางแผนที่เก่งกาจคนหนึ่ง ]
• สกิลทำความสะอาด [ จะขัดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมท่อก็อกก็มาเถอะ ฮอลลี่ทำได้เนี้ยบจัดหมดนั่นแหละ ]
• เย็บชุด [ ทั้งการเย็บมือหรือการเย็บจักร เธอมีความประณีตละเอียดอ่อนในเรื่องนี้สูงมาก ]
• ดวงตา [ สายตาดีกว่าคนปกติมาก ๆ มองเห็นได้อย่างแม่นยำชัดเจน มักสังเกตเห็นจุดเล็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย ถ้าใช้ให้หาเข็มตกบนพื้น ก็จะสามารถเจอเข็มได้ภายในหนึ่งนาที ผิดกับคนอื่นที่อาจจะถึงขั้นต้องคลานหา เพราะขนาดที่เล็กเกินไปนั่น ทั้งนี้ฮอลลี่ยังตาไวมากอีกด้วย เห็นแวบ ๆ ผ่านหางตาก็รู้เเล้วล่ะ ]
อาวุธ::
• ลูกดอก [ มักพกลูกดอกปาเป้าติดตัวไว้ตลอด เป็นลูกดอกเหล็กที่แหลมมาก ถ้าปาเข้าเบ้าตาก็ตาบอดได้เลยล่ะ..แถมเธอยังปาเป้าแม่นซะด้วยสิ ]
เพิ่มเติม::
- ไม่ชอบพกกระเป๋า เป็นผู้หญิงที่พกมือถือแล้วยัดเงินสดใส่กระเป๋ากางเกง ไม่กลัวทำหายด้วย
- เเต่งหน้าครั้งเดียวคือก่อนออกจากห้อง จากนั้นจะศพหรือไม่ก็ให้คุกกี้ทำนายเอาเลย ขี้เกียจพกเครื่องสำอางค์ติดตัว ยกเว้นแค่ลิปเท่านั้นที่พกไว้ด้วยตลอด
- ทำอาหารเป็นแต่ไม่ถึงกับอร่อย เป็นอินเนอร์ที่ว่าถ้าหิวก็เดินไปทอดไข่กิน แต่ถ้าขี้เกียจก็จะเดินไปซื้อกินเอาเลย จบ
- เป็นผู้หญิงที่แรงเยอะกว่าค่าเฉลี่ยนมาตรฐานมาก แถมเพราะออกกำลังก็เลยมีกล้ามเนื้อมากกว่าที่คิดด้วยสิ
- จะขี้เกียจออกไปวิ่งมาก ๆ ในช่วงเช้า ต้องให้เมลิซ่ากับคุณแม่ช่วยกันขุดอยู่นานมากกว่าจะยอมลุกจากเตียงได้ พออยู่คนเดียวก็จะต้องตั้งนาฬิกาปลุกกองเท่าบ้าน ปลุกถี่ติดกันมันทุกสองนาที นานเป็นชาติน่ะกว่าจะลุกออกมาได้
- ฮอลลี่เป็นโฮโมเซ็กชวล เธอชอบผู้หญิง และไม่เคยมีความคิดว่าตัวเองจะสามารถชอบผู้ชายได้ด้วย
- หลังจากที่รู้ว่าวงการบันเทิงมันมีระบบเส้นสายที่เหนียวแน่นมากกว่าที่คิด ฮอลลี่ก็พยายามผลักให้ตัวเองโด่งดังในหลาย ๆ ด้านเท่าที่จะทำได้ เพราะถึงเธอจะไม่ได้มาจากตระกูลร่ำรวย แต่ถ้าเป็นคนมีชื่อ เธอก็คิดว่าอย่างน้อยพวกเขาก็คงมองว่าเธอก็ทำเงินได้เหมือนกันน่ะสิ
- Carmen Family'
•Farther: Michael Ryker (???) - หลังจากฟ้องหย่า พวกเธอสามแม่ลูกไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีกเลย
•Mother: Barbara Carmen (Alive) - พนักงานบริษัทการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง
•Brother: Meliza Carmen (16 yrs.) - นักเรียนชั้นไฮสคูล
______________________________________________
O T H E R P R O F I L E
______________________________________________
Meliza Carmen [16 yrs.]
Status :: Alive
{ น้องสาวฝาแฝดคนละฝาของฮอลลี่ ค่อนข้างจะเป็นคนที่เก็บตัวไม่น้อย
มักจะดูซึมเซาเวลาที่ต้องอยู่กับคนอื่น แต่จะยิ้มมากขึ้นเมื่อได้อยู่กับครอบครัวของเธอเอง }
______________________________________________________________________________
R O L E P L A Y
ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่ได้เข้ามาในรั้วโรงเรียน แปง เด ปีส คะ?
:: ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเล็กน้อยโดยอัตโนมัติแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัว เป็นการแสดงออกถึงความภูมิใจอย่างหนึ่ง "ก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ" แต่ถึงแม้ว่าเธอจะภูมิใจที่ตนเองสามารถเข้ามาเรียนในแปง เด ปีสได้แล้ว ฮอลลี่กลับไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นขนาดนั้น ดวงตาเธอมีประกายแสงวูบวาบปรากฏอยู่ลึก ๆ ซึ่งนั่นคือร่องรอยของการคาดหมายในบางสิ่งนั่นเอง "แต่มันก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นนั่นแหละค่ะ หลังจากเข้ารับการศึกษาแล้ว ฉันจะทำให้ทุกคนลืมชื่อ ฮอลลี่ คาร์เมน ไม่ลงเลยล่ะ"
มีความเห็นอย่างไรกับฝั่งตรงกันข้ามกับตนเองคะ?
:: ราวกับได้ยินเสียง "เหอะ" ดังลอดออกมาจากลำคอของเด็กสาววัยสิบหก ใบหน้าผินเบนไปอีกทาง คิ้วที่พันยับขมวดทบเข้าหากันสื่อถึงความไม่ชอบได้อย่างดีเพียงแค่ต้องมาพูดคุยถึงหัวข้อนี้ "ก็เป็นพวกที่พอได้ลองเจอดูก็พอเข้าใจเลยล่ะค่ะ ว่าทำไมพวกรุ่นพี่ถึงได้ไม่ชอบหน้าอีกฝั่งขนาดนั้น" ฮอลลี่กล่าวด้วยน้ำเสียงกึ่งฉุนไม่น้อย ริมฝีปากขยับบ่นไม่ยอมหยุดราวกับว่าลืมตัวไปแล้วว่าควรจะรักษามารยาทสักหน่อย
ไม่ทราบว่าคุณได้คาดหวังอะไรจากการเข้ามาศึกษาหรือเข้ามาสอนในโรงเรียนแห่งนี้รึเปล่าคะ?
:: หลังสิ้นคำถาม อาการชะงักงันปรากฏขึ้นมาให้เห็นทันทีในชั่วอึดใจ ฮอลลี่เงียบไปนานเสียจนผู้เอ่ยปากสัมภาษณ์ต้องเอ่ยทักเธอซ้ำอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำผึ้งจึงเหลือบกลับไปสบมองกับอีกฝ่าย พลันรอยยิ้มมุมปากน้อย ๆ แย้มยกขึ้นมาประดับอย่างเงียบเฉียบ "นั่นสินะคะ คงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นใหม่ ๆ ล่ะมั้ง?" ตอบออกไปแบบนั้น ทั้งที่ความคิดในหัวสวนทางไปอีกฝั่งโดยสิ้นเชิง ฮอลลี่หลุบตาต่ำ '..ต้องสร้างชื่อเสียงให้มากกว่านี้..ไม่ให้ใครมาขโมยความฝันของฉันไปอีก..' ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ และเผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
คำถามสุดท้ายแล้วนะคะ คุณคิดว่าตนเองเป็นคนอย่างไรคะ?
:: "อะไรกัน คำถามแบบนั้นน่ะ" เป็นอีกครั้งที่ฮอลลี่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เด็กสาวถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก รู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่ชวนให้คิดเยอะแปลก ๆ แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับคนแบบ ฮอลลี่ คาร์เมน มันก็มีอยู่ไม่กี่คำตอบหรอก ริมฝีปากแย้มยิ้มสวยมั่นอกมั่นใจ เชิดใบหน้าขึ้นทั้งดวงตาที่วาวแสงระยิบระยับออกมาอย่างไม่มีขีดจำกัด "เป็นคนที่สุดยอดที่สุดในโลกยังไงล่ะคะ" ..ถึงจะแค่ในโลกของเธอเองก็เถอะ, เด็กสาวไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกไปแต่อย่างใด
______________________________________________________________________________
P A R E N T M E E T I N G
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ทางนี้ชื่อเครสค่ะ ขอทราบชื่อคุณผู้ปกครองหน่อยนะคะ
:: รันรันคนเดิม คนนี้นี่เอง---
เรื่องนี้ค่อนข้างดาร์กแต่ก็มีโรแมนซ์บ้างเล็กน้อย ไม่ทราบว่าคุณผู้ปกครองโอเคกับพวก LGBT+ มั๊ยคะ? ถ้าน้องที่ส่งมาไม่มีคู่หรือไม่ได้เป็นนอร์มอลจะพอรับได้มั๊ยคะ?
:: คำตอบเดิมกับใบแรกนะคะ
ข้อนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องโรแมนซ์เล็กๆน้อยๆในเรื่องอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ปกครองอยากให้น้องมีคู่หรือโสดคะ?
:: เช่นเดิมเลยค่ะ จะให้น้องได้ลองมีชีวิตรักดู หรือจะให้น้องเป็นสายเผือก (?) กินป๊อปคอร์นมองดูความรักของคนอื่นอย่างห่าง ๆ ห่วง ๆ และใส่ใจก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย ฮา
ถ้าลูกคุณติดเข้าไปในเรื่องก็มีโอกาสที่จะตายหรือเสียชีวิตอยู่นะ โอเคกับแบบนั้นรึเปล่าคะ? (แต่ถ้ารับไม่ได้ก็คงต้องรับให้ได้อยู่แล้วน่ะนะ //เหงื่อตก)
:: รับได้แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ <3
ขอบคุณสำหรับตัวละครนะคะ ขอให้โชคดีติดบทกันนะ! ไว้เจอกันในคอมเม้นท์ค่ะ <3
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น