Review Light Novel โดยอคติล้วนๆ

ลำดับตอนที่ #454 : เกท หน่วยรบตะลุยโลกต่างมิติ เล่ม 3 เริ่มชาตินิยมแล้ว

สำนักพิมพ์: Dexpress

ราคาปก: 279 บาท

แนวเรื่อง: Action, Fantasy, Military

แต่งเรื่อง: Takumi Yanai

แปล: SUNNICOF

สถานะปัจจุบัน: ภาคหลักตีพิมพ์ออกมา 5 เล่มจบแล้ว ภาคไกเด็นมีอีก 5 เล่มน่าจะจบแล้ว มีแบบ LN ที่เอาแบบนิยายมาแบ่งครึ่งแล้วเติมภาพประกอบเข้าไป ได้ทำเป็นอนิเมแล้ว ดูรูปปกเล่มอื่น CLICK รีวิวเล่มแรกๆที่นี่  เล่ม 1   เล่ม 2

เรื่องย่อ:

ในปี 20XX ‘เกท (ประตูสู่โลกต่างมิติ)’ ได้ปรากฏขึ้นกะทันหัน ณ กรุงโตเกียว ย่านกินซ่า ‘พื้นที่พิเศษ’ ที่อยู่อีกฟากนั้นมีทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ที่ยังไม่มีใครแตะต้องและจักรวรรดิอันเกรียงไกร

หลังจากองค์จักรพรรดิทรงประชวรกะทันหัน รัชทายาทซอลซาลจึงขึ้นกุมอำนาจแทนมาตรการอันกร้าวร้าวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจักรวรรดิกับญี่ปุ่นเลวร้ายลงจนก่อเกิดความโกลาหลขึ้นใน ‘พื้นที่พิเศษ’ ทีละน้อยทางรัฐบาลญี่ปุ่นที่กังวลต่อสถานการณ์จึงส่งกองกำลังทางอากาศเข้าประจำการและเริ่มปฏิบัติการพิเศษครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันนั้น นายทหารโอตาคุอิตามิโยจิพร้อมกลุ่มสาวจากต่างโลกต่างเดินทางไปหาซอลซาลเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงพิเนียกำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศ!กองกำลังต่างประเทศทั้งอเมริกา จีน และรัสเซียเองก็เริ่มย่างก้าวเข้ามาใน ‘พื้นที่พิเศษ’ทำให้เรื่องราวดำเนินเข้าสู่จุดไคลแม็กซ์!

นิยายแฟนตาซีสุดอลังการได้เปิดฉากตำนานสะท้านแผ่นดินในเล่มสามนี้แล้ว!

ความคิดเห็นหลังจากอ่านจบ:

                เล่มนี้ค่อนข้างมีหลายประเด็น และมีการเปลี่ยนมุมมองตัวละครเยอะมาก ถ้าจะให้สรุปคร่าวๆ อิตามิพาเลเล่มาเผยแพร่ผลงานในงานประชุมวิชาการเพื่อเอาตำแหน่งจอมเวท ซึ่งระหว่างนั้นจักรพรรดิโดนวางยาจนล้มป่วย องค์ชายโง่เลยยึดอำนาจ และก็เริ่มบ้าอำนาจจนเริ่มกระทบกระทั่งกับญี่ปุ่น พวกอิตามิที่เดินทางกลับมายังเมืองหลวงจักรวรรดิ จึงข่มขู่องค์ชายโง่ให้อุจาระหดโดยใช้พลซุ่มยิง และก็รับตัวองค์หญิงกับจักรพรรดิออกจากเมืองไป

                แม้ว่าเล่มที่ผ่านๆมาจะมีการแสดงแสนยานุภาพทางทหาร และความศิวิไลซ์ของญี่ปุ่นที่เหนือกว่าโลกแฟนตาซีอารายธรรมยุคกลางแบบทิ้งห่าง แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าคนเขียนอวยประเทศญี่ปุ่นเท่าเล่มนี้ เพราะมันเล่นเปรียบเทียบระบบการเมืองประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการแบบชัดเจน

                คนเขียนเรื่องนี้ผมว่าแกก็ชาตินิยมพอตัวนะ แต่ก็ไม่ถึงกับโอเวอร์จนรับไม่ได้ (แม้ว่าจะมีคนบอกว่าตั้งแต่เล่มสี่ไปจะอวยชาติตัวเองจนเลี่ยนก็เถอะ) คือมันก็มีส่วนเหมือนหนังฮอลิวู๊ดที่มักอวยทหารกับนักการเมืองอเมิริกาเป็นฮีโร่กู้โลก  เล่มนี้ก็มีการชูทหาร ข้าราชการ นักการเมืองที่มีคุณธรรมเข้าช่วยเหลือชาวต่างโลกที่โดนเผด็จการกดขี่ ยิ่งท่านฑูตที่ปกป้องโลลินี่หล่อมาก

 

แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้มันอวยได้มีชั้นเชิงกว่าหนังอเมริกันอยู่บ้าง ตรงที่มีการใช้วิธีอวดความมีประสิทธิภาพของระบบญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าทหารกับนักการเมืองเขาจะมีพวกไม่ได้เรื่องเห็นแก่ตัวอยู่ แต่เพราะสังคมญี่ปุ่นค่อนข้างเคร่งครัดกับกฎระเบียบ ทหารทำตามวินัยไม่ออกนอกติกา นักการเมืองกลัวโดนสื่อตรวจสอบไม่ออกนอกลู่นอกทาง ทำให้เวลาคนดีจะทำเรื่องดีก็สามารถทำได้โดยง่าย

                แม้ว่าจะรู้อยู่ว่าที่เขียนมันเป็นการอวยชาติตัวเอง (จริงๆญี่ปุ่นก็มีด้านมืดเยอะ ยิ่งการเคร่งระเบียบที่ทำให้ประชาชนเครียดเกิน) แต่มันก็ทำให้ผมสะเทือนใจอยู่ดี เพราะเมื่อหวนนึกไปถึงประเทศด้อยพัฒนาบางแห่ง ที่แม้แต่นิยายเวลาจะเขียนอวยทหารอวยรัฐบาลส่วนใหญ่ก็ทำแบบแบนๆ เช่นให้เป็นพระเอกเป็นทหารรูปหล่อ จิตใจดี รักสถาบัน พูดง่ายคือพวกพระเอกเทวดา แต่ไม่ค่อยมีการนำเสนอว่าทหารมีความสามารถเก่งกลยุทธอะไรเลย จะอวยว่าทหารเก่งก็คือยกพลไปถล่มพวกผู้ร้ายที่ยุโธปกรณ์ด้อยกว่าเท่านั้น หรือเวลาจะอวยนักการเมืองก็จะแค่ว่าคนนี้เป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ไม่โกงกิน แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องมีผลงาน วางนโยบายให้ประเทศพัฒนายังไงเลย

                แถมนิยายประเทศนี้เวลาให้นักการเมืองเป็นตัวร้ายก็มักจะชั่วแบบไร้มิติ คือชั่วอย่างเดียว เข้ามาโกงกินเอาประโยชน์เข้าตัวอย่างเดียว ซึ่งมันก็ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงเท่าไหร่ เพราะปัญหาการโกงกินในปัจจุบันมันเป็นเรื่องเชิงนโยบายที่ไม่สามารถแยกขาวดำได้ชัดเจนแบบที่นิยายชอบทำ

                เช่นนาย A ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าจังหวัดหนึ่ง พอได้เป็นผู้ว่าแล้วนาย A ก็เทงบทำการพัฒนาหมู่บ้าน ก. ที่มีคนเลือกตัวเองเยอะ ขณะที่คนหมู่บ้าน ข.  ที่ไม่ค่อยมีคนเลือกตัวเองก็ไม่ได้รับการพัฒนาเท่าไหร่ อาจจะดูเหมือนนาย A ไม่เที่ยงธรรม แต่สิ่งที่เขาทำก็คือการทำตามสัญญาก่อนเลือกตั้ง ว่าถ้าได้เป็นผู้ว่าจะสร้างนู่นสร้างที่เป็นประโยชน์กับคนหมู่บ้านก.ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ของจังหวัด ซึ่งถ้าไม่ทำตามสัญญษก็ถือว่าผิดกฏหมาย

                พอเวลาผ่านไปคนหมู่บ้าน ข. ที่ร็สึกว่าตนเองได้รับความเหลื่อมล้ำก็ทนไม่ไหว ออกมาเดินประท้วงมีแกนนำออกมากล่าว หาว่านาย A เป็นคนขี้โกงบลาๆ และเรียกร้องให้นาย A ออกจากตำแหน่ง ซึ่งนาย A ก็ไม่ยอมเพราะถือว่าตนเองเป็นผู้ว่าตามกฏหมาย ถ้าไม่พอใจก็ไปเลือกตั้งใหม่ซึ่งผลก็เหมือนเดิม เพราะตอนนี้ประโยชน์ของคนหมู่บ้าน ก. ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ได้ผูกติดกับผลประโยชน์นาย A ไปแล้ว เมื่อการเลือกตั้งไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ สุดท้ายรบอบประชาธิปไตยก็ล่มสลาย และก็พลอยทำให้คนทั้งจังหวัดได้รับผลกระทบด้วย

              นอกเรื่องไปไกลสรุปก็คือ ผมชื่นชมนิยายเล่มนี้ที่อวยประเทศญี่ปุ่นโดยเน้นประสิทธิภาพของหน่วยงานมากกว่า คุณสมบัติส่วนบุคคล ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้เห็นในนิยายบางประเทศล่ะนะ

ระดับความพึงพอใจ: 4/5 อ่านแล้วละเหี่ยใจกับประเทศด้อยพัฒนาบางประเทศ