ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #45 : [เด็กช่าง's Series] YeolKris BaekDo TaoHun - TaoHun Part 5 [End of Part]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 57


    Title: เด็กช่าง's Series - TaoHun Part 5 [End of Part]
    Pairing: Chanyeol x Kris // Baekhyun x D.O. // Tao x Sehun
    Author: BettyNoona
    Note: ความรักนั้นมีหลายรูปแบบ อยู่ที่เราว่าเราจะประคองความรักของเราให้ไปในทางไหน
     
     
     
    Note2: ใครที่จองเด็กช่างไว้ก็รอรับที่บ้านนะคะ ส่วนใครที่อยากได้เพิ่มเติมก็เมลหรือทวิตเข้ามาสอบถามนะคะ เพราะพิมพ์เกินมานิดหน่อย (ย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ)
     
     
    Note3: ไม่อยากให้จบเลยแหะ.... ถ้าเกิดมีภาคต่อของเด็กช่าง จะดีไหมนะ...?
     
     
    __________________________________
     
     
     
    สามวันแล้วที่เซฮุนไม่ได้เจอจื่อเทาเลย ตื่นมาก็ไม่เจอ พอตอนที่เขาจะเข้านอนบ้านข้างๆก็ยังไม่มีใครกลับมาเลย เซฮุนหลับก่อนที่ใครบางคนจะกลับมา ข้อความหรืออะไรจากใครสักคนก็ไม่มี... ลืมกันแล้วหรือเปล่านะ ทำไมถึงไม่ติดต่อมาเลยนะ.. ใครกันที่บอกว่าจะไม่ทิ้งกัน
     
    เซฮุนยังไม่ได้หลับตั้งแต่เมื่อคืน นั่งดูทีวีตั้งแต่เมื่อเย็นและก็นั่งยาวถ่างตารอทั้งคืน อยากจะรู้ว่าคนข้างบ้านน่ะจะกลับมาเมื่อไหร่ อยากจะถามให้รู้เรื่อง อยากจะคุยให้เข้าใจว่าตกลงที่มันหายๆไปเนี่ย หายไปไหน ทำอะไรและอยู่กับใคร ... หวังว่าคำตอบคงจะไม่ใช่เธอคนนั้น
     
    นั่งรอนานหลายชั่วโมงจนผ่านมาถึงเช้าวันใหม่แล้วก็ยังไร้วี่แวว อีกสักพักใหญ่ๆก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล่นมาจอดที่บ้านข้างๆ เซฮุนรีบกระเด้งตัวขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปดูก่อนที่จะผลักบานประตูใหญ่หน้าบ้านออกไปก็ได้ยินเหมือนเสียงของเทาที่พูดกับใครสักคน
     
    “อ๊ะ..” เซฮุนผลักประตูออกไปอย่างตกใจ ใครอีกคนก็หันมามอง รถคันนั้นแล่นออกไป มองตามหลังแล้วก็รู้สึกไม่คุ้นกับรถคันนั้นเอาซะเลย
     
    “ตื่นเช้าจังวะมึง” เทาส่งยิ้มมาให้ เซฮุนก็พยักหน้ารับแกนๆ จะให้บอกหรือไงล่ะว่ายังไม่นอนน่ะ
     
    “เอ่อ.. เพิ่งกลับเหรอวะไปไหนมา” เทาหาวก่อนที่จะพยักหน้าตอบ
     
    “ไปดูโรงงานที่ต่างจังหวัดกับพ่อมาน่ะ” เซฮุนมองคนตรงหน้าแล้วก็สะดุดกับเนคไทที่อยู่บนคอ
     
    “ใครผูกเนคไทให้มึงน่ะ” เทามองก่อนที่จะจับปลายมันขึ้นมาแล้วหัวเราะเบาๆ
     
    “กูผูกเองน่ะ ฝึกไว้ไม่อยากรบกวนมึงเพราะต้องผูกแทบจะทุกวัน” ไม่รู้แต่ทำไมแต่รู้สึกเจ็บแปลบๆในด้านในอกซ้ายจังเลย สิ่งที่เขาเคยได้ให้และเป็นคนเดียวที่ทำให้ได้ ตอนนี้คงไม่เหลือแล้วสินะ ความสำคัญของโอเซฮุนถูกลดลงอีกแล้ว
     
    “แล้วนี่มึงจะไปไหน” เซฮุนกระพริบตาสามปริบซ่อนอาการวูบไหวทางสายตาไว้ก่อนที่จะชี้มือไปอีกด้าน
     
    “จะไปตลาดน่ะ ว่าจะไปซื้อโจ๊กไปด้วยกันไหม” รอดตัวไปนะโอเซฮุนจะบอกได้ไงล่ะว่าก็ออกมาหานายนั่นแหละ! บอกออกไปอายตายเลย
     
    “ไม่ล่ะไปเถอะ ไม่ต้องเผื่อนะกูขอนอนดีกว่า” เทายกมือบิดขี้เกียจแล้วก็เดินหาวเปิดประตูเข้าบ้านไปเลย เซฮุนที่มองตามอยู่ก็ได้แต่มองตามด้วยความสับสน จะก้าวเท้าตามไปบานประตูนั้นก็ปิดเสียแล้ว ฮวางจื่อเทาไม่เคยทิ้งเซฮุน ไม่เคยปล่อยให้เขาไปไหนคนเดียวแล้วทำไม......? เขาคงหมดความสำคัญแล้วจริงๆสินะ
     
    “เซฮุนมายืนอะไรที่หน้าบ้านล่ะลูก” เซฮุนหันไปมองก็เห็นว่าพ่อกับแม่มายืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบโต 
     
    “เปล่า” บอกไว้แค่นั้นก็เดินกลับเข้าบ้านไปเลย เมื่อไม่มีใครอีกคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทำไมหรือจื่อเทาจะลืมเขาไปแล้วนะ
     
    “แม่กับพ่อมีขนมมาฝากเซฮุนเยอะแยะเลยนะ” คุณแม่เดินตามเข้ามาพร้อมกับข้าวของเยอะแยะ เซฮุนเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วเปลี่ยนช่องรายการไปเรื่อยๆ
     
    “วางไว้เถอะครับ ถ้าอยากกินจะไปหยิบเอง” พ่อกับแม่หันหน้ามามองกันเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ลูกชายของเธอมักจะทำท่าเย็นชาแบบนี้เสมอเวลาที่พวกเขาไปทำงานที่อื่นนานๆ
     
    “แล้วเซฮุนกินข้าวหรือยังล่ะ ไปชวนเทามากินข้าวสิเดี๋ยวแม่จะทำข้าวเช้าให้” คุณแม่ลูบหัวลูกชายที่รักแล้วก็แย้มยิ้มอย่างเอ็นดูแต่เซฮุนกลับหันมาสาดสายตาเย็นชาใส่แล้วก็ลุกขึ้นเดินหนีขึ้นห้องนอนของตัวเองไปเลย พ่อกับแม่ก็ได้แต่มองตามไปอย่างเป็นห่วงเท่านั้น
     
     
     
    เซฮุนล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วก็ปิดเปลือกตาลง เอื้อมมือหยิบมือถือมากดดูก็ไม่เห็นอะไรสักอย่างก็เลยส่งข้อความไปหาใครบางคนที่ตอนนี้อาจจะหลับไปแล้ว เซฮุนจงใจค้างไว้ที่โปรแกรมแชทหน้านั้น มันขึ้นว่าอ่านแล้วแต่ใครคนนั้นก็ไม่ยอมตอบกลับ ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกร้อนๆที่หัวตายังไงชอบกล
     
    แม้ในยามหลับน้ำตาก็ยังคงไหลริน .... เซฮุนหลับไปพร้อมกับเรื่องมากมายในหัวและอาการเจ็บแปลบที่หัวใจอีกแล้ว เจ็บที่ใครอีกคนไม่รักษาสัญญา เจ็บที่ใครอีกคนทำตัวเหมือนไม่มีเขาอยู่ในสายตาและเจ็บที่ใครอีกคนคงจะลืมเขาไปแล้ว
     
    “กูเจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
     
     
     
    เซฮุนที่หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ลืมตาขึ้นก็เห็นว่าท้องฟ้ากำลังจะมืด คว้ามือถือมากดดูก็ไม่มีอะไรสักอย่างจากคนที่รอแต่ดันมีจากคนอื่นเสียนี่ ปลายนิ้วกดเข้าที่หน้าแชทของชานยอล อยากจะขอคำปรึกษาแต่ก็นะ ตัวเขาเองยังไม่ที่จะพูดและยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าใคร นอกจากคนนั้นแค่คนเดียว
     
    พอลงมาด้านล่างก็เห็นคุณพ่อกับคุณแม่นั่งดูทีวีอยู่ เซฮุนเดินเลี้ยวเข้าไปที่ห้องครัวมองเห็นกับข้าวที่คุณแม่ที่ทำไว้ให้ ลากเก้าอี้นั่งแล้วเริ่มกินข้าวทันที เวลาที่กินข้าวคนเดียวมันสบายตัว สบายหู ไม่มีคนแย่งกินก็จริงแต่มันก็เหงาเกินไป เหงาจนคนกำลังกินข้าวกินไม่ลงรู้สึกตัวร้อนๆขึ้นมากะทันหัน
     
    “ฮัลโหลมึงตื่นหรือยัง” เมื่อทนอาการเหงาไม่ไหวเซฮุนก็กดโทรหาใครคนที่คิดถึงทันที 
     
    “ตื่นแล้ว โทรมาทำไมวะ” 
     
    “ตื่นแล้วก็มาที่บ้านดิ มากินข้าวกัน” แม้ว่าจะโดนถามแบบนั้นแต่เซฮุนก็เลือกที่จะไม่สนใจ 
     
    “โทษว่ะ พอดีออกมาข้างนอกแล้ว”
     
    “แล้วทำไมไม่บอกวะ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ” เซฮุนขมวดคิ้วฉับ อยากวีนแต่ก็วีนไม่ออก อยากจะบอกให้มันกลับแต่ก็ฟังแล้วเหมือนฝั่งนั้นอยู่ในที่เงียบผิดปกติ อาจจะมีธุระ
     
    “โทษว่ะลืมๆ” 
     
    “นี่มึงกล้าลืมกูเหรอ?? แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน” 
     
    “อยู่ที่... จื่อเทาคะคุณพ่อให้มาตามค่ะ...” เพียงแค่ได้ยินเสียงของหญิงสาวลอดออกมา เซฮุนก็กดตัดสายทิ้งทันที ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกแย่ชะมัดเลย รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย
     
    “บ้าที่สุด” เซฮุนยกมือขึ้นปาดหยดน้ำที่แก้มก่อนที่จะก้มหน้ากินข้าวต่อ แม้จะเฝ้ารอแต่โทรศัพท์ก็ไม่ดังอีกเลย
     
    ..บางทีตัวเขาอาจจะต้องฝึกกินข้าวคนเดียวแล้วก็ต้องอยู่คนเดียวให้ชินเสียแล้วสิ เหมือนที่ใครบางคนฝึกผูกเนคไทจนเป็น..
     
     
     
     
    บางครั้งเซฮุนก็เคยคิดนะว่า.... เราก็เป็นแค่เพื่อนกันแต่ทำไมตัวเขาเองจะต้องรู้สึกไม่พอใจตลอดเวลาที่จื่อเทาทำท่าว่าสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเขาเองและจะยิ่งไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเมื่อไอ้เพื่อนตัวดีพูดถึงใครมากเกินความจำเป็น จื่อเทาไม่เคยแสดงท่าทีรำคาญหรือไม่พอใจเลยสักครั้งที่เซฮุนเอาแต่ใจหรือเลี้ยงด้วยลำแข้ง เจ้าตัวก็ขำขันแล้วพยายามหาทางเอาคืนจนได้
     
    บนโลกใบนี้มีความลับ... โอเซฮุนก็เช่นกัน ตัวเขาเองก็มีความลับ... โอเซฮุนไม่ได้ชอบหลีหญิงไปทั่วหรอก แต่ที่ต้องทำก็เพราะไม่อยากให้เทาสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง ไม่รู้ว่าความคิดนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่แต่รู้แค่เพียงว่ามันก็นานพอจนตัวเขาลืมที่จะคิดถึงมันไปแล้ว ยิ่งเวลาที่เซฮุนยิ่งทำตัวใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน เทาก็จะยิ่งหันมามองเขาแม้ว่าจะกำลังเล่นเกมจีบสาวกันอยู่ก็เถอะ
     
    การที่เพื่อนจะมีใครสักคนไว้ให้คิดถึงแทนตัวเขาที่เป็นแค่เพื่อนตั้งแต่เด็ก เขาก็ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมโอเซฮุนถึงไม่อยากจะแสดงความยินดีนี้เลยสักนิดให้ตายก็พูดไม่ได้หรอกว่า ‘ยินดีด้วยที่มีแฟน’ น่ะ
     
    เซฮุนที่กำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังมืดลงแล้วก็ถอนหายใจ บางทีเขาควรจะทำสมองให้โล่งแล้วก็ลืมๆเรื่องอะไรไปบ้าง บางทีเขาอาจจะไม่ต้องมาทุกข์ใจ กังวลแล้วก็รอคอยเสียงโทรศัพท์เข้าแบบนี้ก็ได้
     
    “ไงมึงเจอตัวมึงพอดีเลยนะ” นี่ก็ไม่รู้ว่าเคราะห์หามกรรมซัดหรืออย่างไรถึงได้เจอคู่อริแถวนี้ พอหันมองรอบตัวก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองเดินมาไกลเหมือนกัน เดินจนหลุดเข้ามาอยู่ในดงของพวกคู่อริน่ะสิ
     
    “แต่กูไม่ได้อยากเจอมึงนิ” จะเดินหนีแล้วเพราะไม่มีอารมณ์จะวิวาทกับใครแต่มันก็ทู่ซี้จับแขนไว้เสียอย่างนั้น
     
    “แต่กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับมึง” เซฮุนกรอกตาไปมา
     
    “ถ้าจะคิดบัญชีเมื่อชาติเศษไว้รอให้กูอารมณ์ดีกว่านี้ก่อนก็แล้วกันตอนนี้ไม่มีอารมณ์ ปล่อย!” เซฮุนสะบัดแขนออกแล้วเดินหนีแต่อีกฝ่ายก็ตามมาขย้ำคอเสื้อแล้วจัดการปล่อยหมัดใส่ซะเลย อ้าว.. แบบนี้องค์แม่ก็ลงสิครับ!!
     
    “ตายซะเถอะมึง!!” เซฮุนจัดการกำคอเสื้อมันแล้วปล่อยหมัดคืนสองทีรวดก่อนที่ตัวเองจะลงไปกองกับพื้นด้วยความไม่ระวังเมื่ออีกฝ่ายที่ก้าวถอยแล้วยันเท้าเข้าใส่ที่ท้อง จะลุกก็ไม่ขึ้นแล้วด้วยความที่ผอมบางและแรงถีบจากอีกฝ่ายก็มากพอควรก็เล่นเอาจุกจนลุกไม่ขึ้นเลย
     
    “มึงนั่นแหละที่จะตาย” ถมน้ำลายใส่พื้นเสร็จก็เดินหนีไปเลยเพราะวันนี้ตัวต่อตัวหรอกก็เลยได้หยุดแค่นี้ เซฮุนมองตามด้วยสายตาเครียดแค้น คอยดูเถอะมึงกูเอาคืนแน่!! ถ้าตอนนี้มีไอ้ลูกแพนด้าอยู่เขาก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้หรอก
     
    “ตลกว่ะกู” เซฮุนที่ยังนั่งกองอยู่พื้นใช้มือกุมท้องแล้วหัวเราะให้ตัวเองเบาๆ เพราะอยู่ตัวคนเดียวเขาก็กลายเป็นคนไม่ได้เรื่องเลยสินะ
     
    “กูควรลืมมึงใช่ไหมจื่อเทา” คำถามที่ไม่มีคำตอบและคงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้นอกจากเจ้าตัวเอง
     
     
     
     
     
    วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายจริงๆแล้วเพราะเป็นวันสอบปฏิบัติที่ถูกเลื่อนก่อนที่จะปิดเทอมกัน แน่นอนว่าวันนี้เซฮุนต้องตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปโรงเรียน รอยช้ำที่มุมปากก็ยังพอให้เห็นแต่รอยช้ำที่ท้องยังไม่จางเลย ตั้งมั่นไว้แล้วว่าถ้าหายเมื่อไหร่มันจะต้องได้รับบทลงโทษแน่นอน
     
    เซฮุนเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นว่ารถคันนั้นที่เคยเห็นว่าส่งเทาเมื่อสองวันก่อนจอดอยู่หน้าบ้าน เอาเถอะถึงอยากรู้แต่ก็ไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นตอนเช้าๆนักหรอก วันนี้มาโรงเรียนค่อนข้างลำบากนิดหน่อยเพราะยังคงเจ็บอยู่หน่อยๆเวลาขยับตัวเร็วๆ เซฮุนยืนโหนรถประจำทางพร้อมกับกุมท้องตัวเองไว้ด้วย รอยช้ำเมื่อเช้าที่ดูก็สีสวยเชียวล่ะ น่าดูชมเหลือเกิน
     
    ที่โต๊ะประจำมีชานยอล น้องคริส แบคฮยอนและคยองซูนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เซฮุนสูดลมหายใจแล้วพยายามเดินเข้าไปให้เป็นปกติเหมือนเดิม จะบอกได้ยังไงล่ะว่าโดนอะไรมา อายตายเลย
     
    “พี่เซฮุนมาแล้ว” น้องคริสที่หันมาเห็นก็ยิ้มแล้วโบกมือให้ ทุกสายตาหันมามอง เซฮุนเดินเข้าไปลงนั่งที่เก้าอี้ตัวประจำ
     
    “ไอ้เทาอ่ะ” แบคฮยอนถามแต่เซฮุนก็แค่ส่ายหน้าเบาๆ
     
    “เซฮุนหน้าไปโดนอะไรมา!!” คยองซูที่เห็นรอยช้ำที่มุมปากของเพื่อนที่นั่งก้มหน้าแล้วก็รีบลุกขึ้นมานั่งข้างเพื่อนทันที จับใบหน้าให้หันมาก็เห็นรอยช้ำที่มุมปากจริงๆ
     
    “ก็ไม่มีอะไรหรอก โดนจัดนิดหน่อย” 
     
    “ใครวะ พวกเดิม?” เซฮุนพยักหน้าตอบชานยอล
     
    “แล้วโดนตรงไหนอีกหรือเปล่า” คยองซูพร้อมกับจับมือของเพื่อนขึ้นมาสำรวจ เซฮุนหัวเราะเบาๆ
     
    “ไม่มี นี่สบายจิ๊บๆ” พยายามหัวเราะเบาๆเพื่อไม่ให้สะเทือนแต่คยองซูจะไม่เชื่อเอาซะเลย
     
    “แล้วจะไปเอาคืนเมื่อไหร่” ชานยอลถามแต่ก็โดนน้องคริสสกัดดาวรุ่ง ฟาดขาเข้าให้จนเจ้าตัวสะดุ้งเลย
     
    “น้องคริสเคยบอกไว้ว่ายังไงพี่ชานยอล!” คนเคยมีชนักติดหลังก็ยิ้มเอาใจแล้วโน้มคอกอดเด็กน้อยอย่างหยอกเอิน
     
    “รู้หรอกน่า ถามเฉยๆ” น้องคริสชี้หน้าคาดโทษไว้แล้วเรียบร้อย 
     
    “เฮ้ยอยู่กันพร้อมหน้าเลย” จื่อเทาเดินเข้ามาแล้วก็ส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างแบคฮยอนเพราะคยองซูนั่งอยู่ข้างเซฮุน
     
    “เออมีสอบนิไม่อยู่ได้ไงวะ” แบคฮยอนหันไปจิกสายตาใส่ เทาก็หัวเราะแล้วเตะขาเพื่อนตัวเตี้ยไปสักที
     
    “กวนล่ะมึง” แบคฮยอนต่อยขาเทาไปหนึ่งที จื่อเทาต่อยคืนกลับมาสองที โอเคเจ๊า(?)กัน
     
    “เย็นนี้ไปกินหมูกระทะกัน ฉลองสอบเสร็จ” ชานยอลเสนอโดยมีน้องคริสเป็นลูกคู่ แบคฮยอนกับคยองซูก็เห็นดีเห็นงาม จื่อเทาก็โอเค เซฮุนก็เลยต้องยอมพยักหน้าตามไป 
     
     
    อึดอัดไหม.. ก็ขอบอกเลยว่านิดหน่อยแต่โอเซฮุนไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าไอ้คนที่มาช้าสุดนั่นมันจะเห็นไหมว่าเขามีรอยช้ำที่มุมปาก เห็นแต่ไม่สนใจหรือไม่สนใจที่จะมอง ขอตัวลุกออกมาเพราะบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ทุกคนก็เลยไม่ได้ว่าอะไร เซฮุนเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆแล้วก็กุมท้องไปด้วย ถ้าวันนี้ไม่มีสอบเขาก็คงจะขอนอนนิ่งๆดีกว่า ถึงจะไม่ได้เจ็บอะไรแต่มันรู้สึกหน่วงๆ
     
    เจ้าตัวคิดว่าจะเดินไปใช้ห้องน้ำที่อาคารที่ต้องใช้สอบปฏิบัติซะเลยจะได้ไม่เสียเวลาแต่ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกที่ช่องท้องมันตึงๆ หน่วงๆจนแทบจะก้าวขาไม่ออกก็เลยเดินไปหลบพักที่ข้างซอกตึกเรียน ยืนพิงหลังแล้วหายใจเข้าลึกๆ ยืนหลับตาพิงหลังได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีใครมาแตะเข้าที่แก้ม
     
    “ไปทำอะไรมาวะ” พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นดวงตาคมที่ทอดมองลงมา เซฮุนมองสบดวงคู่นั้นก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา
     
    “อย่าโกหกกู แล้วไอ้รอยนี่จะมาได้ยังไง” เทาดีดหน้าผากของเซฮุนเบาๆก่อนที่จะลูบใกล้รอยช้ำนั้นเบาๆ
     
    “ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกมึงก็โวยวายไป กูแค่เผลอไปนิดเดียวเอง” เทาเลิกคิ้วอย่างสงสัย
     
    “แน่ใจนะว่าไม่ได้เจ็บที่ไหนอีก.... แล้วใครตื๊บมึงไอ้พวกนั้นเหรอ?” เมื่อเซฮุนพยักหน้าเทาก็เลยถามต่อ เซฮุนกรอกตาไปมาแล้วยอมจำใจพยักหน้าซ้ำอีกรอบ รู้กันว่าพวกนั้นคือใคร
     
    “เดี๋ยวเย็นนี้กูไปเอาคืนให้ รับรองมันตายคาตีนกูแน่” เซฮุนหัวเราะ
     
    “เอาให้มันจริง” เทายักคิ้วให้
     
    “ของมันแน่อยู่แล้ว” เทาหันออกไปมองข้างนอกก่อนที่จะก้มลงทาบริมฝีปากลงไปเบาๆแล้วผละออก เซฮุนที่รู้สึกจะเป็นจะตายก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยเริ่มรู้สึกว่าตัวเองใจง่ายเกินไปไหมยกโทษให้มันทุกอย่างเลย 
     
    ถ้าความรู้สึกที่มีมันเหนียวแน่นเหมือนความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนก็คงดีสินะ จะได้ไม่ต้องมาคิดอะไรไปเองคนเดียว แค่นี้ก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว
     
     
     
     
     
    สอบปฏิบัติวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเกินไปกว่าที่เคยเข้าเรียนมาและแน่นอนว่าพวกเขาทำมันได้ผ่านฉลุยแน่อยู่แล้ว เทาเดินไม่ห่างเซฮุน ไม่ว่าเซฮุนจะก้าวซ้ายหรือขวาก็จะมีลูกแพนด้าตัวโตๆเดินตามไปด้วยจนเซฮุนหันไปค้อนอยู่บ่อยครั้งแต่เจ้าตัวก็ได้แต่หัวเราะ
     
    เทาคอยเดินตามเพราะเห็นว่าเซฮุนเดินแปลกๆหรอกและแอบเห็นว่าเซฮุนยกมือกุมท้องบ่อยๆ ไอ้เพื่อนของเขาเป็นอะไร? หรืออาจจะเป็นตอนที่มีเรื่องกัน? ก็รู้สึกเจ็บที่ใจดีที่เห็นคนสำคัญเจ็บตัวแบบนี้ตอนที่เขาไม่ได้อยู่ด้วย เจ็บแปลบๆดีเหมือนกันนะ
     
    หลังจากกริ่งสัญญาณหมดชั่วโมงสอบดัง ทุกคนก็วางมือและจัดการส่งใบงานให้อาจารย์คุมสอบที่เดินมาเก็บแล้วก็เริ่มทยอยกันออกจากห้องไป เซฮุนเดินออกมาพร้อมกับเทาที่กำลังคุยกันว่าคืนนี้จะเล่นเกมกันทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอนมันกัน
     
    แต่แล้วก็ต้องมีมารมาขัดจนได้ เสียงเรียกของโทรศัพท์เจ้าตัวปัญหา เซฮุนหันไปมองก็ได้ยินว่าคนข้างตัวตอบรับกับปลายสายที่เป็นคุณพ่อแล้วก็วิ่งนำพวกเขาออกไปเลย เซฮุนมองตามหลังของเทาที่วิ่งไกลออกไปแล้วก็รู้สึกชาไปทั้งร่าง ไอ้ที่เคยพูด เคยสัญญาไว้ก่อนหน้านี้มันก็คงกลายเป็นความว่างเปล่าไปแล้วสินะ โอเซฮุนคนโง่.. โง่ที่ใจง่าย
     
    “ไหวไหมน่ะมึง” ชานยอลที่อยู่ใกล้ๆก็จับแขนของเซฮุนไว้ เซฮุนหันไปมองแล้วก็พยักหน้ารับ
     
    “เซฮุนกลับบ้านไปนอนไหม” คยองซูมองมาด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับมือที่แตะที่ไหล่
     
    “โทษทีแล้วกันรู้สึกไม่สบายว่ะ” ข้ออ้างโคตรจะห่วยแตกบรมเลยเถอะแต่ทุกคนก็ไม่ได้ขัดอะไร มองหน้ากันเหมือนจะรู้ว่าเพื่อนน่ะป่วยจริง.... โอเซฮุนกำลังป่วยใจ
     
     
     
     
     
    จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลยว่ากลับมาบ้านได้อย่างไร พูดกับแม่ที่วันนี้อยู่บ้านว่าอย่างไร ทำกิจวัตรอะไรบ้างพอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เดินมาถึงจุดเดิมเมื่อวานที่มีเรื่องกันเสียแล้ว มองเห็นหลังของคู่อริอยู่ไม่ไกลด้วยอารามที่กำลังหงุดหงิดและมีอะไรมากวนทั้งใจและความคิดเซฮุนก็วิ่งเข้าไปถีบยันหลังมันทันที เสียงผู้หญิงที่มากับมันร้องกรี๊ดแล้วยืนตกใจ
     
    เซฮุนจัดการกระชากคอเสื้อของคนที่โวยวายมาซัดปลายหมัดสองทีซ้อนแล้วตามด้วยเตะเข้าที่สีข้างมันอีกหนึ่งที ระบายจนสะใจและรู้สึกอะไรหนักๆในใจได้ระบายออกไปบ้างเซฮุนก็รู้สึกดีขึ้นแต่ทว่ารู้สึกเจ็บที่ท้องมากขึ้นกว่าเดิม กว่าจะพยุงตัวกลับมาบ้านได้ก็แทบจะล้มทั้งยืน เวลาอยู่ตัวคนเดียวนี่มันลำบากแบบนี้เองสินะ
     
    “เซฮุนลูก อย่าลืมเก็บของนะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เซฮุนที่นอนแผ่อยู่บนเตียงยกหัวขึ้นมองบานประตูห้องที่คุณแม่เคาะอยู่ด้านนอก เหมือนจะจำได้ลางๆว่าจะต้องไปหาย่าที่แถบชานเมืองเพราะจะต้องพาคุณย่าไปหาหมอและตัวเขาจะต้องไปเฝ้าบ้านให้เพราะบางทีพ่อกับแม่อาจจะต้องนอนเฝ้าคุณย่าที่โรงพยาบาล
     
    “ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ากูหายไปบ้าง มึงจะคิดถึงกูเหมือนที่กูคิดถึงมึงไหม” พึมพำกับตัวเองก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเก็บเสื้อผ้า ไม่ได้หวังให้มาตามหรอกแต่ก็แค่หวังว่าจะโทรมาหากันบ้างก็เท่านั้นเอง
     
    เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘ยิ่งหวังก็ยิ่งไม่ได้ดั่งใจ’ ไหม? ตอนนี้เซฮุนรู้ซึ้งดีเลยล่ะ นั่งกอดเข่ามองมือถือที่นิ่งเงียบมาสองวันแล้ว พูดตามตรงเลยว่าอยากจะเขวี้ยงมันทิ้งมากแต่ก็ทำไม่ได้ อยากจะปามันให้แตกไปเลยจะได้ไม่ต้องสนใจก็ทำไมไม่ได้อีก เซฮุนถอนหายใจทิ้งอีกสักเฮือกก่อนที่จะคว้ามันขึ้นมากดเบอร์โทรออก
     
    “เป็นไงเป็นกัน” รอสายอยู่เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับและไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรเซฮุนก็สวนประโยคยืดยาวไปเสียแล้ว
     
    “ทำไมมึงไม่โทรหากูห๊ะ! ตายให้หนอนแดกแล้วหรือไง มึงไม่ห่วงกูเลยใช่ไหมอยากตายใช่ไหมฮวางจื่อเทา!!!!”
     
    “ขอโทษค่ะ.. จื่อเทาไม่อยู่ค่ะ มีอะไรจะฝากไว้ไหมคะ” เซฮุนที่ได้ยินเสียงของผู้หญิงก็ดึงโทรศัพท์ออกมามองหน้าจอ กำมือแน่นจนมือสั่นเหมือนกับหัวใจที่กำลังสั่นไหวขั้นรุนแรงจนทำให้ไม่ได้ยินเสียงของปลายสาย
     
    “เซฮุนๆๆ ไอ้ฮุน!!” เจ้าของชื่อจัดการตัดสายทิ้งไปเสียแล้ว ปิดเครื่องให้ด้วยไม่ต้องให้ใครได้โทรหาอีกเลย ขอบอกเลยว่าโกรธที่สุด โกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว โกรธจนน้ำตาไหลอีกแล้ว นี่เขาเสียน้ำตาไปมากแค่ไหนกันนะ? คงจะมากจนไม่อยากจะคำนวณแล้วมั้ง
     
    “จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยฮวางจื่อเทา!!!” ให้ศีล ให้พรเสร็จเซฮุนก็ล้มตัวลงนอนแล้วตั้งมั่นว่าเขาจะต้องเคลียร์ตัวเองให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะกลับบ้านไปเจอหน้ากับใครบางคน เขาจะต้องไม่หลงเหลือความรู้สึกแบบนี้อีก เขาจะต้องกลับมาเป็นตัวของตัวเองให้ไวที่สุด ถ้าไม่เช่นนั้น... ตัวเขาก็คงนอนจมน้ำตาตาย
     
    เจ็บนะแต่ก็ต้องรักตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้เซฮุนรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นอะไรถึงได้กระวนกระวายจะเป็นจะตายแบบนี้ ตัวเขากำลังรู้สึก ‘รัก’ ใครอีกคนที่เป็นเพื่อนกัน รักในแบบที่เกินเพื่อนไปแล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นจะรู้สึกหึงหวงทำไมตอนที่ได้ยินเสียงผู้หญิงอื่นมารับสายแทน ก็แปลกดีนะทั้งๆที่อยู่ใกล้กันมากกว่าใครแต่กลับไม่รู้สึกถึงความรู้สึกในใจ
     
    ดันมารู้ว่ารักเขาตอนที่สายไปแล้ว ... ยังไม่ทันได้รู้สึกว่าเรารักกันก็อกหักซะแล้วสิ โอเซฮุนนี่เก่งทุกอย่างยกเว้นเรื่องของตัวเองจริงๆนั่นแหละ ความรู้สึกเคยชินที่อยู่ด้วยกันก็ทำให้ลืมไปว่าภายใต้ความรู้สึกนั้นมันมีอะไรซ่อนอยู่ เขาจะได้พูดออกไปไหมนะสักวัน
     
    จะมีโอกาสได้พูดหรือเปล่านะ หรือตัวเขาควรที่จะลบลืมมันออกไปดี? ปล่อยให้เราห่างกันจนลืมเลือนกันไปเอง..
     
    “น่าสมเพชตัวเองชะมัด” หัวเราะให้ตัวเองแล้วก็ปิดเปลือกตากั้นทุกสิ่งอย่างให้ตกอยู่ในห้วงสีรัตติกาล ปล่อยหยดน้ำไหลรินไปโดยที่ไม่สนใจมัน ขอเป็นครั้งสุดท้ายที่จะรู้สึกว่าตัวเองโง่และหลังจากนั้นโอเซฮุนจะลุกขึ้นยืนด้วยความเข้มแข็งเหมือนเดิม
     
     
     
     
    “เซฮุนๆๆ ไอ้ฮุน!!” จื่อเทาแทบจะตะโกนลั่นห้องอาหารในโรงแรมเลยเมื่อแย่งโทรศัพท์จากหญิงสาวที่เริ่มจะก้าวก่ายชีวิตเขามากขึ้นทุกที พอกดโทรไปอีกครั้งอีกฝ่ายก็ปิดเครื่องไปซะแล้ว เทาหันไปมองจ้องหญิงสาวที่ยังนั่งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้อย่างโมโห ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่บ้านเขาและที่บ้านของหล่อนพยายามทิ้งเขากับหล่อนให้ได้มาทานมื้อค่ำใต้แสงเทียนด้วยกันแต่เคยถามไหมว่าตัวเขาต้องการหรือเปล่า
     
    “ผมว่าคุณก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผมมากไปแล้วนะ” หญิงสาวที่หน้าตาน่ารักหันมองจื่อเทาด้วยสีหน้ายิ้มเล็กน้อย
    “ก็ฉันรำคาญ”
     
    “แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมารับโทรศัพท์ของผม คุณกับผมเราก็ไม่ได้รู้จักมักจี่กันถึงขั้นที่จะมารับสายให้ ผมลืมทิ้งไว้นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรับมันได้” เมื่อกี้เขาลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วนึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะก็เลยเดินกลับมาเอาแล้วเป็นไงล่ะเจอแจ็คพ็อตเลย ป่านนี้ไอ้เพื่อนตัวแสบมันจะเป็นยังไงบ้างนะ เซฮุนร้องไห้อยู่หรือเปล่าวะ รู้สึกไม่ดีหรือเปล่าวะ.. กูอยากไปหามึงจังเลย
     
    “แต่ยังไงฉันก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่คุณจะต้องหมั้นด้วยอยู่ดี” จื่อเทาถอนหายใจ แบบนี้สินะที่น้องคริสเคยบอกไว้ว่าบางทีเขาอาจจะขยาดการจีบผู้หญิงไปเลยก็ได้ เยือกเย็น เอาแต่ใจและชอบบงการไปเสียทุกอย่าง มันทำให้จื่อเทารู้สึกไม่ชอบใจแต่ก็พูดไม่ได้
     
    “แล้วคุณคิดเหรอว่าผมจะหมั้นกับคุณ? หึ.. คิดเองเออเองเพ้อเจ้อจริงๆ” เทากระตุกยิ้มแล้วเดินออกไปเลยไม่สนใจว่าเธอจะตะโกนเรียกหรือจะกรีดร้องอะไรทั้งนั้น
     
    เทารีบนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปทันทีแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าบ้านข้างๆเขาปิดไฟเงียบและล็อคประตูบ้าน เซฮุนไปไหน? กดเช็คข้อความทั้งหลายก็ไม่มีบอกว่าใครอีกคนอยู่ไหน ฮวางจื่อเทาร้อนใจจนแทบจะบ้าก็เลยลองโทรไปถามไถ่จากคุณแม่ของเซฮุนก็ได้ความว่ามาบ้านคุณย่าเพราะต้องพาท่านไปหาหมอก็เลยโล่งใจได้นิดหน่อยแต่เขาก็อยากเจอเซฮุนตอนนี้จริงๆ
     
    เทายืนมองหน้าต่างห้องนอนของเซฮุนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ไอ้คำกล่าวที่ว่าไม่ได้เห็นหน้าเจ้า เห็นหลังคาบ้านเจ้าก็ยังดี คงใช้กับตัวเขาไม่ได้ เพราะเขาอยากเห็นหน้าของคนที่ทำให้เขาร้อนใจแบบนี้เสียมาก บางทีเขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะก่อนที่เซฮุนจะเริ่มรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ ก็รู้หรอกว่าทำตัวแย่มากแต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะก็ทั้งพ่อและแม่บังคับเขานินะ เพราะถ้าไม่ทำเขาจะถูกส่งตัวไปที่อื่นที่ต้องห่างกับเพื่อนตัวขาวนั่น เขาไม่ยอมหรอก!
     
    แต่ตอนนี้เขาจะทำให้ทุกอย่างให้ได้เซฮุนกลับมาเหมือนเดิม ไม่ว่าหัวใจของเราจะคิดตรงกันไหมเขาก็จะไม่สนแล้ว!
     
     
     
     
    หลังจากที่กลับมาบ้านได้ก็ปิดทุกช่องทางที่จะให้ใครติดต่อสื่อสารได้ ขนาดที่ว่าเจ้าตัวต้นเรื่องจะมายืนเคาะประตูห้องหรือจะปีนระเบียงมาหาก็ตาม โอเซฮุนขอนอนนิ่งๆอยู่กับความเงียบเหงาและตัวเองไปก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความผิดหวัง แค่เท่านี้ก็ปวดใจจะแย่อยู่แล้ว
     
    โอเซฮุนไม่ใช่พวกมาโซที่จะหยิบมีดมากรีดตัวเองแล้วชื่นชอบกับความเจ็บปวด ไม่ใช่พวกที่จะทนความเจ็บปวดได้นานๆแล้วไม่ล้มหรอกนะ ทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยหวั่นเกรงสิ่งใดในโลกนี้แต่กลับกลายเป็นคนที่กลัวความรักไปเสียอย่างนั้น ความรักช่างมีอานุภาพร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะรับรู้และทันตั้งตัวได้ทันจริงๆ
     
    เสียงเคาะประตูระเบียงเงียบไปนานแล้วเซฮุนตัดสินใจที่จะลงไปด้านล่างเพื่อหาข้าวกิน นี่มันก็จะเที่ยงอยู่แล้ว เขาหวังว่าลงไปแล้วจะไม่เจอใครที่ยังไม่อยากเจอตอนนี้หรอกนะ ขอทำใจก่อนดีกว่าแต่พอลงมาก็แทบจะหน้าทิ่มตกบันไดเมื่อได้ยินบทสนทนาของพ่อกับแม่ที่กำลังเตรียมตัวจะไปข้างนอกกัน
     
    “ก็ดีนะคะถ้าจื่อเทาจะหมั้นกับเด็กคนนั้น ดูก็เรียบร้อยแล้วก็เป็นคนดีมากเสียด้วย”
     
    “แต่ผมว่าทั้งจื่อเทากับเด็กคนนั้นยังเด็กไปนะ แต่ก็ดีนะก็หมั้นกันไว้ก่อนไว้อนาคตค่อยแต่งงานกัน”
     
    คำว่าแต่งงานมันวนเวียนในหัวจนหัวหมุน เซฮุนตกใจแล้วก็ใจหายวาบเมื่อภาพในหัวมาเป็นฉากๆเลย ภาพที่เทากับผู้หญิงคนนั้นจะแต่งงานกัน ยิ้มให้กัน มองตากัน หัวเราะด้วยกันจนพาลไปถึงเจ้าตัวน้อยที่เป็นโซ่ทองคล้องใจ จับมือกันไปจนแก่เฒ่า.... ที่ข้างกายที่เคยเป็นของตัวเขาจะต้องเป็นของคนอื่น ความใจดี การเอาใจใส่ที่เธอคนนั้นจะได้รับ ทั้งๆที่มันเป็นของเขา!
     
    “ไม่เอานะเว๊ย!!!” เซฮุนตะโกนออกมาจนพ่อกับแม่สะดุ้งตกใจ เจ้าตัววิ่งลงมาจากบันไดแล้วก็มองพ่อกับแม่ด้วยสีหน้าดื้อรั้น
     
    “ไม่ให้แต่ง ยังไงมันก็แต่งไม่ได้ ไม่ต้องมาพูดเลยว่าดี!!” เหวี่ยงเสร็จก็วิ่งออกจากบ้านไปเลย ไม่ได้นะ จะอะไรก็ได้แต่ห้ามแต่งงาน ห้ามยึดที่ข้างกายของเขาให้คนอื่นเขาไม่ยอม!!
     
    “เดี๋ยวเซฮุนลูกจะไปไหน!!” คุณพ่อลุกขึ้นคว้าแขนไว้ เซฮุนหันมาสะบัดทิ้งด้วยสีหน้าไม่พอใจ
     
    “ปล่อยนะจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง! ยังไงก็ไม่ให้แต่ง จะหมั้นอะไรก็ไม่ได้ด้วย! ยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด!!” เมื่อลูกชายไม่ฟังและไม่คิดที่จะรับฟัง คุณพ่อก็เลยยอมปล่อยมือ เอาเถอะไปเคลียร์กันเองก็แล้วกัน รั้งไว้ก็คงไม่อยู่ เมื่อคุณพ่อปล่อยมือเซฮุนก็รีบวิ่งออกจากบ้านทันที หน้าบ้านข้างๆมีรถคันใหญ่จอดอยู่ มองเห็นลางๆเหมือนจะเห็นหญิงสาวคนนั้นในรถและเทาที่กำลังจะขึ้นรถคันนั้นไป
     
    “ฮวางจื่อเทา!!!” ตะโกนเรียกเสียงดัง เทาหันมามองก็ต้องแปลกใจที่อยู่ๆเซฮุนก็วิ่งมาคว้าแขนเขาไว้
     
    “ห้ามหมั้นกับใครนะเว๊ย แต่งงานก็ไม่ได้กูไม่ยอม!” ใบหน้าของเซฮุนขมวดมุ่นดูจริงจัง เทาที่เห็นก็พยายามจับแขนเพื่อนไว้
     
    “เดี๋ยวมึงพูดอะไรวะ” เซฮุนที่กำลังจะพูดต่อก็ชะงักแล้วมองหน้าของเขาที่มองมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
     
    “ก็เมื่อกี้พ่อกับแม่กูบอกว่ามึงจะหมั้นกับผู้หญิงคนนั้น” เทาขมวดคิ้วแล้วหันไปมองด้านหลังเห็นเธอคนนั้นที่นั่งอยู่ในรถหันมามอง 
     
    “กูไม่ยอมนะ ไม่ว่ายังไงกูก็ไม่ยอมมึงจะไปหมั้นหรือจะไปแต่งงานกับใครก็ไม่ได้กูไม่ให้ไป” เซฮุนมองหน้าของเพื่อนตั้งแต่เด็กแล้วก็กัดริมฝีปากตัวเองอย่างช่างใจ ตัวเขาจำได้ที่พวกเขาตกลงเล่นเกมกัน ถ้าใครตกหลุมรักก่อนคนนั้นแพ้แม้จะเสียหน้าเสียศักดิ์ศรีแต่โอเซฮุนขอยอมแพ้ แพ้ต่อฮวางจื่อเทา เขาไม่สามารถเสียคนนี้ไปได้จริงๆ
     
    “กูคิดว่า... กู... รักมึง อย่าไปแต่งงานกับใครเลยนะ กูขอร้อง” เทาช้อนแก้มของเซฮุนแล้วปาดเช็ดหยดน้ำตาให้ เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่านะว่าเวลาตัวเองร้องไห้เนี่ยดูน่าแกล้งขนาดไหน
     
    “เกมของเราก็จบแล้วสิ” เทาระบายยิ้มแล้วคว้ามือของเซฮุนให้เดินตามเข้าไปในบ้านของตัวเองที่มีพ่อกับแม่ของเทาและพ่อกับแม่ของเด็กคนนั้นนั่งอยู่ที่โซฟา ทุกสายตาหันมามองที่เด็กทั้งสอง เทากุมมือของเซฮุนให้เดินมาหยุดที่ตรงหน้าของทุกคน
     
    “พ่อครับ แม่ครับผมเพิ่งรู้นะแต่ขอบอกไว้เลยว่าผมไม่แต่งงานหรือหมั้นกับใครคนไหนทั้งนั้น ขอโทษคุณลุงกับคุณป้าด้วยนะครับแต่ผมคงแต่งกับลูกสาวพวกคุณไม่ได้จริงๆ” เทาพูดแล้วก็ก้มหัวลง เซฮุนหันไปมองด้วยสีหน้าตกใจ
     
    “ทำไมล่ะมีอะไรหรือเปล่าจื่อเทา” เทามองใบหน้าของคุณลุง พ่อของเธอแล้วก็ยิ้มนิดหน่อย
     
    “มีครับ ผมไม่ชอบคนที่มายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของผม ผมพยายามเลี่ยงให้สุภาพที่สุดแล้วนะครับแต่ไอ้การที่เขาเข้ามายุ่งแล้วก็ทำให้เพื่อนผมรู้สึกแย่นี่ผมไม่ชอบครับ”
     
    “เดี๋ยวจื่อเทาแล้วทำไมถึงไม่แต่ง เหตุผลแค่นี้เหรอ?” คุณแม่เอ่ยถาม เทาพยักหน้า
     
    “ใช่ครับ ถ้าเซฮุนไม่อยากให้แต่งผมก็ไม่แต่งและแน่นอนว่าผมก็จะไม่ให้มันแต่งเหมือนกัน ไปบอกคุณแม่เซฮุนได้เลย เมื่อกี้ที่แม่ไปบ้านนู้นมาก็ไม่คิดนะว่าจะไปพูดเรื่องนี้” 
     
    “จะบ้าหรือไง!!” คุณพ่อตวาดเสียงดัง เทายักไหล่ใส่
     
    “ไม่ได้บ้าก็รู้อยู่ว่าไม่ชอบให้มาบังคับ ถามจริงนะพ่อก่อนที่พ่อจะหาใครมาให้ผมเนี่ย ศึกษานิสัยหรือมารยาทมาหรือยัง? โคตรจะยุ่งกับชีวิตผมอ่ะ นี่ยอมให้มากแล้วนะเพราะเห็นเป็นผู้หญิงหรอกนะไม่งั้นล่ะก็จับไปขายมาเลย์แล้วเหอะ” เทาส่ายหน้า เซฮุนพยายามดึงมือของเทาไม่ให้พูดไร้มารยาทแบบนั้น
     
    “แล้วถ้าไม่แต่งงานกับคนที่แม่หาให้ ยังไงสักวันแกก็ต้องแต่งงานอยู่ดี” คุณแม่พูด เพราะพ่อแม่ของฝ่ายหญิงช็อคตาตั้งไปแล้ว
     
    “ยังไงก็ไม่แต่ง พ่อกับแม่เคยบอกว่าให้ผมดูแลน้องใช่ไหม?” เทายกมือที่จับกับเซฮุนขึ้นมาชูแล้วก็ยิ้มให้
     
    “ก็นี่ไงอยู่ด้วยกันดูแลกันนี่แหละ ไม่ต้องแต่งงานดีออกไม่เปลืองสินสอดด้วย จัดว่าเด็ดนะจะบอกให้” หัวเราะแล้วก็คว้ามือเซฮุนออกจากบ้านไปเลย เซฮุนก็หันมาขอโทษขอโพยแล้วก็ฟาดมือใส่หลังมันไปสักป้าบ
     
    “ไปพูดแบบนั้นได้ยังไงไอ้นี่นิ!!” แต่คนโดนว่าก็ไม่สลดยังจะมาหัวเราะเสียงร่าอีก ฝ่ายหญิงที่ตอนแรกบอกว่าจะไม่เข้ามาในบ้านก็ช่างเถอะนั่งรอในรถไปเถอะ เทาพาเซฮุนกลับบ้านของเซฮุนก็สวนกับพ่อแม่ของเซฮุนที่กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อไปซุปเปอร์ เทาก็เลยบอกให้ท่านทั้งสองไปกินข้าวนอกบ้านเสียเลยแล้วมื้อนี้จะเลี้ยงดูแลลูกเขาเอง
     
    “มึงพูดจริงหรือเปล่า” หลังจากที่ไม่มีคนอื่นในบ้านและจับให้เซฮุนนั่งลงที่โซฟาได้ เทาก็เอ่ยถามทันที คนโดนถามก็ทำหน้ามึน
     
    “ไม่ต้องมาทำเนียน มึงรักกูจริงหรือเปล่า” เซฮุนก้มหน้าลงกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้ารับเบาๆ
     
    “ตอบดิวะอย่าพยักหน้า” เทายื่นเท้าไปแตะเท้าเซฮุนสักที คนโดนเตะก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วทำสีหน้าหงุดหงิดใส่
     
    “เออกูรักมึง ถ้าไม่อย่างนั้นจะไปห้ามไม่ให้มึงแต่งงานทำไม”
     
    “หึงกูอะดิ” เทาเท้าเอวแล้วยักคิ้วให้ ซึ่งเซฮุนก็หันหน้าไปทางอื่นแล้วพยักหน้ารับ
     
    “เออหึงมึงมากด้วย” เทาระบายยิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ก่อนที่จะกอดเซฮุนไว้
     
    “กูก็รักมึงเหมือนกัน” เซฮุนผละตัวออกแล้วเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัว เทาส่งยิ้มให้ตอบแทนคำถามในใจของคนมองว่าจริงหรือเปล่าไปด้วยในตัว
     
    “กูรักมึงมานานมากแล้วแต่มึงบอกว่าไม่อยากมีแฟน ไม่อยากมีคนรักกูก็เลยไม่รู้จะทำยังไง” เทาหันหน้าไปอีกด้านแล้วเกาท้ายทอยแก้เขิน เซฮุนยิ้มแล้วนั่งกอดอกพิงหลังกับพนักโซฟา
     
    “งั้นกูก็ไม่ใช่คนเดียวที่แพ้เกมนี้น่ะสิ” เซฮุนหัวเราะ เทาก็หัวเราะตามไปด้วยแล้วก็พยักหน้ายอมรับ เพราะถ้าว่ากันจริงๆฮวางจื่อเทานี่แหละคนแพ้
     
    “แต่กูยังยืนยันคำเดิมนะ กูไม่อยากมีแฟนหรือคนรัก เราเป็นแบบเดิมได้ไหมไม่ได้เป็นแฟนกันแต่รู้ว่าเรารักกัน” เทาย้ายกายมาลงนั่งข้างๆแล้วดึงเซฮุนมาป้อนจูบให้ลึกๆ
     
    “ตามใจมึง เพราะยังไงกูกับมึงก็แยกกันไม่ได้อยู่แล้วถึงมึงไม่ต้องการกูก็จะอยู่กับมึง” เซฮุนเอื้อมมือไปกอดรอบคอของเทาแล้วรั้งให้โน้มต่ำลงมา
     
    “ใครบอกว่ากูไม่ต้องการมึงล่ะ กูน่ะต้องการมึงที่สุดเลย” เซฮุนรั้งเทาให้เข้ามารับจูบ กดจูบบดเบียดกัน เทารั้งเอวเซฮุนให้เข้ามาใกล้แล้วสอดปลายลิ้นเข้าเกี่ยวกะหวัดกัน ป้อนจูบลึกพร้อมกับสองมือที่คอยตระคองกอดกันไม่ยอมปล่อย ต่อให้ตายก็ไม่ยอมปล่อยหรอก
     
     
     
     
     
     
    เสียงเคาะประตูดังขึ้นเพราะตอนที่เข้ามาไม่ได้ปิดประตูใหญ่ไว้ เทาที่นอนหนุนตักเซฮุนด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียวขยับตัวลุกขึ้น เซฮุนก็คว้าเสื้อของตัวเองที่อยู่ที่พื้นแถวนั้นมาสวมก่อนที่จะเดินไปหน้าประตู เพราะก่อนหน้านี้เขาสั่งพิซซ่ามาสงสัยว่าจะมาส่งแล้ว
     
    “เซฮุน~” เทาส่งเสียงเรียก เซฮุนที่กำลังใส่เสื้อไปแล้วก็ก้าวเท้าเดินไปที่ประตูก็ส่งเสียงเบาๆตอบรับ
     
    “เซฮุน~~” เสียงกระเง้ากระงอดดังมาอีกเลยทำให้เซฮุนที่กรอกตาไปมาอย่างรำคาญไอ้ลูกแพนด้านักก็เลยหันกลับไปมอง
     
    “อะไรของมึง” ลูกแพนด้ายิ้มกว้างใส่จนตาหยี
     
    “รักมึงนะ” เทาทำมือเป็นรูปหัวใจแล้วก็ส่งให้ คนที่อยู่ๆโดนบอกรักก็เขินเลยน่ะสิ
     
    “ไอ้บ้า!” เซฮุนที่อยู่ก็รู้สึกร้อนๆก็รีบหันหน้ากลับไปเลย รีบเดินไปที่ประตูไม่สนใจไอ้คนด้านหลังอีกเลย คนที่กำลังเขินและยิ้มค้างก็เปิดประตูออกไป เด็กส่งพิซซ่าที่เห็นรอยยิ้มน่ารักๆจากคนน่ารักก็เกิดอาการหยุดชะงักไป
     
    “เท่าไหร่ครับ” ถามไปสองรอบก็ไม่ตอบ ไอ้คนที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาเห็นว่ามันตะหงิดๆก็เลยเดินมาโอบเอววางคางเกยไหล่เซฮุนไว้ ดวงตาคมตวัดมองเด็กส่งพิซซ่าคนนั้นพอโดนมองด้วยสายตาดุใส่ก็เลยสะดุ้งแล้วรีบละล่ำละลักแจ้งราคาแล้วส่งถุงอาหารให้ทันที รับเงินเสร็จก็รีบไปให้ไวเลย
     
    “มึงนี่จะเสน่ห์แรงเกินไปแล้วนะ มึงเป็นของกูห้ามไปยิ้มให้ใครอีก กูหวง” เทากดจูบที่ซอกคอแล้วขบเม้มให้เป็นรอยสีจางพร้อมกับมืออีกข้างก็ดึงประตูปิด
     
    “อือ.. กูก็เป็นของมึงอยู่แล้วนิ” เซฮุนเอียงคอให้คนด้านหลังได้ทำรอยตีตรา ถึงจะไม่ค่อยชอบแต่ก็หยวนๆให้สักครั้งก็แล้วกัน เห็นว่าพูดถูกใจหรอกนะ
     
    “พูดถูกใจแบบนี้อีกสักรอบดีมะ?” เซฮุนหัวเราะแล้วฟาดมือที่โอบเอวตัวเองแรงๆ
     
    “ถอยไปเลย กูหิวแล้ว” เทาทำหน้างอแล้วดึงเซฮุนให้หันมาหาก่อนที่จะดึงมือของเซฮุนจับเข้าที่ส่วนด้านล่างที่เริ่มพองตัวขึ้นแล้ว
     
    “สงสารลูกกูหน่อยดิ” เซฮุนเตะขาแล้วดึงมือออก
     
    “ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้คืนนี้ก็อด จบ” แล้วก็เดินอ้อมไปที่โซฟา จัดการวางกล่องพิซซ่าแล้วเตรียมนั่งกินเลย เทาเดินทำหน้างอเข้ามานั่งข้างๆ
     
    “มึงแม่งใจร้าย” เซฮุนหันไปยกยิ้มให้ เอียงคอใส่ทำท่าน่ารัก(ที่แอบเลียนแบบน้องคริสมา)
     
    “กูก็ไม่เคยใจดีนะ ไปหยิบแก้วน้ำมาเลยเอาน้ำแข็งมาด้วย” แล้วก็หันไปจัดการดึงขวดเป๊ปซี่ออกจากถุงเตรียมเปิดซะเลย เทาลุกขึ้นยืนแล้วทำหน้างอใส่ ทำเสียงขึ้นจมูกนิดหน่อยแล้วก็เดินไปเลย บ่งบอกเลยว่างอนมากแต่เซฮุนก็ไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่มองตามหลังไปแล้วก็หัวเราะเบาๆอย่างสุขใจ
     
    คงต้องขอบคุณเธอคนนั้นสินะที่ทำให้ได้รู้ใจของตัวเองแล้วก็คงต้องขอบคุณคนที่เดินหน้ามุ่ยมานั่งข้างกายนี่ด้วยที่ไม่ทิ้งเขาไปไหน ถึงจะมีบางเวลาที่ลืมกันไปก็เหอะแต่มันก็ทำให้รู้นะว่าเราสำคัญต่อกันและกันแค่ไหน ถึงจะไม่ได้ขยับสถานะแต่ความรู้สึกของเราก็ชัดเจนมากขึ้น
     
    “เลิกทำหน้าเป็นหมีแพนด้าป่วยได้แล้ว เดี๋ยวกูป้อน” พอบอกว่าจะป้อนเท่านั้นแหละลูกหมีแพนด้ายังไม่หย่านมแม่ก็เข้ากอดเอวแล้วเข้าอ้อนทันที อ้าปากรอเป็นลูกนกป้อนอาหารเลย เซฮุนหัวเราะแต่ก็ยอมป้อนนะ เวลาแบบนี้แหละที่ตัวเขาชอบทำไมจะต้องเล่นตัวด้วยล่ะเนอะจริงไหม?
     
    เวลาที่มีลูกหมีแพนด้ามาคอยวนเวียนนี่แหละคือความสุขของโอเซฮุน ฮวางจื่อเทาจะรู้ไหมนะ?
     
     
    “กูรักมึงนะ” เทาดึงเซฮุนเข้ามารับจูบหวานๆ เซฮุนยิ้มแล้วยกมือไล้แก้มของเทาเบาๆ
     
    “กูก็รักมึง” ทั้งคู่หัวเราะให้กันแล้วก็นั่งกินพิซซ่าไป ดูรายการทีวีไปด้วยกันอย่างสุขใจ
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×