ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #45 : บทที่ 19 : เซ็กตัมเซมปร้า

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 64


    บทที่ 19 : เซ็กตัมเซมปร้า 


    ชั่วโมงคาถาในวันต่อมาแฮร์รี่และเฮเลนเล่าเรื่องทั้งหมดให้รอนและเฮอร์ไมโอนี่ฟัง แฮร์รี่ไม่ลืมที่จะเสกคาถา มัฟฟลิอาโต ใส่คนที่อยู่ใกล้ๆ ก่อน สองคนค่อนข้างทึ่งเมื่อเฮเลนได้เล่าถึงตอนที่เธอไปหาทางดูตรามารที่แขนของแท็ค แฮร์รี่ดูเคืองๆ ไม่น้อยเลย ส่วนเฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าผิดหวังแรงๆ

    “ฉันไม่เคยรู้เลยนะ!” เฮอร์ไมโอนี่บอก “ทำไมเขาถึงเป็นผู้เสพความตาย”

    “ฉันก็ไม่ได้หลอกถามด้วยว่าเขาเป็นตั้งแต่ตอนไหน!” เฮเลนตอบ

    “ขนาดแค่หลอกดูตรามารนะ” แฮร์รี่พูด “ถ้าหลอกถามนี่ต้องสละอะไรบ้าง! พอเลยยัยบ้า”

    เขาเลื่อนมือมาผลักหัวเฮเลนจนแทบหงาย เหมือนกับว่านอกจากเดรโกแล้วแฮร์รี่ค่อนข้างไม่ชอบใจที่คนอื่นจะมาแตะต้องตัวน้องสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของเขาอย่างเธอ เฮเลนยิ้มแหยๆ ก่อนที่แฮร์รี่จะเล่าเรื่องฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์ให้ทั้งสองฟัง พวกเขามีท่าทางขนลุกขนพองพอสมควร

    “ว้าว!” รอนร้องเมื่อทั้งสองเล่าทุกอย่างจบ “พวกเธอจะได้ไปกับดัมเบิลดอร์ แล้วจะพยายามทำลาย...”

    “รอน! เธอกำลังทำให้หิมะตก” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วคว้าข้อมือรอนและเปลี่ยนทิศทางไม้กายสิทธิ์ของเขาลงมาจากเพดาน ซึ่งเริ่มมีเกล็ดสีขาวโปรยลงมา เฮเลนเห็นว่าลาเวนเดอร์มองเฮอร์ไมโอนี่เขม็งจากโต๊ะที่ติดกัน

    “โอ๊ะ ขอโทษที” รอนร้อง พลางปัดหิมะออกจากบ่า “รู้สึกเหมือนมีรังแคเลย”

    เขาหันมาปัดหิมะออกจากบ่าเฮอร์ไมโอนี่ ลาเวนเดอร์ที่มองมาน้ำตาร่วงในทันที รอนเหมือนรู้สึกผิดอย่างมหันต์จึงรีบหันหลังให้เธอ

    “เราเลิกกันแล้ว” รอนกระซิบ “เมื่อตอนที่เขาเห็นฉันลงมาจากหอนอนกับเฮอร์ไมโอนี่ แน่ล่ะ เขาไม่เห็นพวกเธอ ก็เลยคิดว่ามีแค่เราสองคน”

    “แล้วนายไม่เสียใจเหรอ” เฮเลนถาม

    “ไม่เลย” รอนรับ “มันแย่ไปหน่อยที่เขาตะโกนเสียงดัง แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เป็นคนบอกเลิก”

    “ตาขาว” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เป็นคืนที่แย่มากนะ จินนี่กับดีนก็เลิกกันแล้วเหมือนกัน”

    เฮเลนหันไปมองแฮร์รี่ที่ยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้ทัน เมื่อสังเกตเห็นเขาจึงรีบทำหน้าเรียบเฉย

    “อ้าว ทำไมล่ะ”

    “เรื่องไม่เป็นเรื่อง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “จินนี่บอกว่าเขาพยายามช่วยเธอปีนผ่านช่องรูปภาพเหมือนกับเธอเข้าเองไม่ได้ แต่พูดก็พูดเถอะ สองคนนั่นก็ระหองระแหงกันมาตั้งชาติแล้ว”

    เฮเลนเห็นแฮร์รี่มองไปที่ดีน ก็คงจะเป็นตอนที่เขาบังเอิญสะบัดแขนไปโดนจินนี่

    “มันคงจะทำให้แฮร์รี่ลำบากใจเรื่องควิดดิชน่าดู!” เฮเลนแขวะ แฮร์รี่หันมาแบะปากใส่เธอ

    “ก็คงใช่”

    เฮเลนแกว่งไม้กายสิทธิ์เปลี่ยนน้ำส้มสายชูตรงหน้าตัวเองทันทีเมื่อเห็นศาสตราจารย์ฟลิตวิกเดินเข้ามาใกล้ในขณะที่รอนส่งเสียงเตือนแฮร์รี่ว่าเขาเดินเข้ามาแล้ว ตรงโต๊ะนี้มีเพียงสองคนที่เปลี่ยนน้ำส้มสายชูเป็นเหล้าองุ่นได้

    “เอาล่ะหนุ่มๆ” ศาสตราจารย์ฟลิตวิกพูดพลางมองรอนและแฮร์รี่อย่างตำหนิ “คุยให้น้อยลงหน่อย ไหนทำให้ดูหน่อยซิ”

    แฮร์รี่กับรอนชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นพร้อมกันและตั้งสมาธิสุดกำลัง ชี้ไม้ไปที่ขวดน้ำส้มสายชูของตน น้ำส้มสายชูของแฮร์รี่กลายเป็นน้ำแข็ง ส่วนของรอนระเบิด! เฮเลนหลุดเสียงหัวเราะออกมาลั่น

    “เอาล่ะ! การบ้านพิเศษของเธอสองคน” ศาสตราจารย์ฟลิตวิกพูด ส่งสายตาปรามๆ ไปยังเฮเลน “ฝึก!

    ทั้งสี่คนมีเวลาว่างตรงกันอย่างหาได้ยากหนึ่งชั่วโมงหลังวิชาคาถา พวกเขาเดินกลับไปที่ห้องเล่นรวมพร้อมกัน รอนดูสบายใจเมื่อยุติความสัมพันธ์กับลาเวนเดอร์ได้เสียทีและเฮอร์ไมโอนี่ดูหน้าตาชื่นบานผิดปกติ เฮเลนคิดว่าสักวันหนึ่งรอนอาจจะพอใจที่จะคบหากับเฮอร์ไมโอนี่อย่างเปิดเผยเสียที เธอเองก็ไม่ชอบที่เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นความลับไปตลอดจนเรียนจบเท่าไหร่นัก

    “แคตี้!” แฮร์รี่ร้องขึ้นหลังจากปีนช่องรูปภาพเข้าไป “เธอหายแล้วเหรอ”

    “ฉันหายแล้ว!” เธอตอบอย่างมีความสุข “พวกเขาให้ฉันออกจากเซนต์มังโก้เมื่อวันจันทร์ ฉันไปอยู่กับพ่อแม่มาสองวันแล้วก็กลับมานี่เมื่อเช้านี้ ลีแอนน์เล่าให้ฉันฟังแล้วเรื่องแม็คล้ากเก้นแฮร์รี่...”

    “มันแย่มาก” เฮเลนบอก “ฉันอยากรู้จริงๆ ว่ามีใครไปแช่งเขาหรือยัง!

    หลายคนส่งเสียงหัวเราะออกมา รวมไปถึงแคตี้ด้วย เฮเลนยินดีที่ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ

    “ยังไงเราก็ยังพอจะมีทางได้ถ้วยล่ะน่า เออนี่แคตี้...”

    “ฉันจำไม่ได้แฮร์รี่” แคตี้พูดขึ้นทันที “ใครๆ ก็ถามฉันทั้งนั้น แต่ฉันไม่รู้ สิ่งที่จำได้คือฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำร้านไม้กวาดสามอัน”

    “ถ้างั้นเธอก็เข้าไปในห้องน้ำจริงๆ ใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “ฉันจำได้ว่าฉันผลักประตูเปิด” แคตี้ตอบ “หลังจากนั้นความจำฉันก็ว่างเปล่าจนถึงสองสัปดาห์ก่อนที่เซนต์มังโก้ ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ ไม่แปลกใจเลยถ้าศาสตราจารย์มักกอนนากัลจะลงโทษให้ฉันคัดลายมือ ถึงจะเป็นวันแรกที่ฉันกลับมาก็เถอะ”

    เธอคว้ากระเป๋าและหนังสือก่อนจะรีบตามเพื่อนๆ ไป ทั้งสี่คนนั่งลงที่โต๊ะติดหน้าต่างและคุยกันในเรื่องสิ่งที่แคตี้เล่าให้ฟัง

    “ถ้างั้นคนที่ให้สร้อยแคตี้ก็ต้องเป็นเด็กผู้หญิง” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เพราะว่าห้องน้ำผู้หญิงนี่”

    “มาดามโรสเมอร์ทา” เฮเลนพึมพำ “แท็คบอกว่าเขาสะกดใจมาดามโรสเมอร์ทา”

    “แต่ว่าคนที่ถูกสะกดใจ จะสะกดใจอีกคนหนึ่งต่อได้เหรอ” รอนถาม “บ้าน่า”

    “ฉันไม่คิดแบบนั้น” แฮร์รี่พูด “ฉันหมายถึงแท็คน่าจะได้ไปที่ฮอกส์มี้ดวันนั้น”

    พวกเขาปรึกษากันไปเรื่อยๆ จนเกือบหมดชั่วโมงว่าง คนที่ไม่ยินดีนักที่แคตี้กลับมาคือดีนเพราะเขาจะไม่ได้เล่นตำแหน่งเชสเซอร์แทนเธออีกต่อไป ตลอดสองสัปดาห์เฮเลนไปดูการฝึกซ้อมควิดดิชได้ดังเดิม ทีมกริฟฟินดอร์ดูมีความสุขมากที่กำจัดแม็คล้ากเก้นออกไปได้

    จินนี่ไม่ได้ดูแย่ลงเลยที่เลิกกับดีน เธอทำให้ทุกคนหัวเราะได้ด้วยซ้ำ เธอเลียนแบบรอนที่หน้าเสาประตูหรือล้อเลียนท่าที่แฮร์รี่ตะเบ็งเสียงสั่งแม็คล้ากเก้นก่อนถูกน็อคสลบและนั่นทำให้เฮเลนส่งเสียงหัวเราะลั่น แฮร์รี่เหมือนอยากจะขอความคิดเห็นจากเธอหรือเฮอร์ไมโอนี่ แต่เฮเลนคาดว่าเขาคงทนสายตารู้ทันของเธอไม่ได้

    การแข่งขันระหว่างบ้านกริฟฟินดอร์และเรเวนคลอใกล้เข้ามา เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้จะตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะเลิศ เดรโกบ่นว่าเขาไม่น่าแพ้เรเวนคลอในนัดก่อนหน้าเลยเพราะบ้านสลิธีรินอยู่ในลำดับที่สี่เนื่องจากหลายครั้งที่เขาไปซ้อมแต่ไม่ได้ลงแข่ง

    ท่ามกลางความวุ่นวายเรื่องการแข่งขัน แฮร์รี่ เฮเลนและเดรโกไม่ได้ลืมความต้องการอย่างแรงกล้าเรื่องของแท็คว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อไป พวกเขาแอบนัดพบกันในชั่วโมงที่ตรวจสอบดีแล้วว่าเด็กปีสี่ไม่น่าออกมาในตอนนั้น บ่อยครั้งที่ทั้งสามเห็นเขาหายไปจากแผนที่ตัวกวนซึ่งเดรโกออกความเห็นว่าแท็คกำลังติดต่อไปยังฝั่งของร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์โดยอาจจะส่งข่าวเรื่องของเขาไปด้วยว่าเขาทำงานคืบหน้าไปแค่ไหนแล้ว

    สองสามวันก่อนแข่งขันกับเรเวนคลอทั้งสามออกมาพบกันอีกครั้งเพราะรอนรีบวิ่งเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดไปอาเจียน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่รีบไปหาศาสตราจารย์เวคเตอร์เรื่องการบ้านวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ จริงๆ เธอเกือบลากเฮเลนไปด้วยแล้วถ้าเกิดว่าเฮเลนไม่ได้ตอบว่าเธอไม่สงสัยอะไรเรื่องนี้ ทั้งสามเดินอยู่บันไดชั้นเจ็ดพลางมองดูแผนที่ตัวกวนไปด้วย แฮร์รี่ทึกทักว่าแท็คต้องไปอยู่ที่ห้องต้องประสงค์อีกแน่นอนแต่ปรากฏว่าไม่ใช่แบบนั้น

    “เขาอยู่นั่น” เฮเลนชี้ไปยังจุดเล็กๆ ที่อยู่ในห้องน้ำชายชั้นหก

    “เขาอยู่กับใครน่ะ” เดรโกถามพลางเพ่งมองจุดเล็กๆ ข้างๆ เขา

    “เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ!” แฮร์รี่ตอบ “หรือว่าที่เมอร์เทิลพูดถึงวันนั้นคือแท็คเหรอ! หมอนั่นไปร้องไห้ในห้องน้ำชายงั้นเหรอ”

    “หา?” เดรโกและเฮเลนพูดขึ้นพร้อมกัน

    “เมอร์เทิลบอกว่าหมอนั่นเข้าไปร้องไห้ กล้าแสดงอารมณ์หลายอย่าง” แฮร์รี่บอก “เป็นคนน่าสงสารที่ถูกรังแก!

    “เหมือนเดรโกในห้อง...” เฮเลนเงียบลงทันทีที่เดรโกส่งสายตาเคืองๆ มาให้ “ไม่พูดก็ได้!

    “ดีครับที่รัก” เขายิ้ม แต่แฮร์รี่หรี่ตามองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

    “อย่ามาทำแบบนี้ต่อหน้าฉันเดรโก” เขาพูด “เดี๋ยวก็แช่งซะหรอก!

    “ขอโทษครับคุณพอตเตอร์” เดรโกลากเสียงเชิงล้อเลียน เฮเลนหัวเราะคิกคักก่อนที่สามคนจะเดินลงไปเบื้องล่างทันที แฮร์รี่กับเดรโกเข้าไปข้างในและบอกให้เฮเลนคอยอยู่ข้างนอก เด็กสาวไม่สบายใจที่เห็นแบบนั้น โชคร้ายของเธอที่มันเป็นห้องน้ำชาย แน่นอนว่าแฮร์รี่ไม่ยอมให้เธอเข้าไปแน่อยู่แล้ว!

    เฮเลนเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องน้ำแต่ไม่กี่นาทีเธอก็เห็นแท็คพรวดพราดออกมาวิ่งหนีไปจากตรงนั้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเอร์เทิลจอมคร่ำครวญว่า “ฆาตกรรมในห้องน้ำ!

    เฮเลนไม่สนใจอีกต่อไปว่าจะเป็นห้องน้ำชายหรือไม่ เธอเปิดประตูวิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำทันที เด็กสาววิ่งเข้าไปหาเดรโกที่นอนอยู่บนพื้น เลือดกระฉูดออกมาจากใบหน้าและอกราวกับถูกกรีดด้วยของแหลมคม ไม้กายสิทธิ์ของเขากระเด็นอยู่อีกทางพร้อมกับแฮร์รี่ที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ร่างกายสั่งกระตุกอยู่บนพื้นราวกับกำลังยื้อชีวิตของตัวเอง

    “แฮร์รี่!!” เฮเลนตะโกนใส่เขา “นายทำอะไร นายใช้คาถานั้น ในหนังสือนั่นใช่ไหม!

    “เซ็กตัมเซมปร้า” เขาอ้าปากค้าง “ไม่... ฉันไม่ได้!

    เหมือนเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังพูดอะไร เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญกรีดร้องเสียงดังสนั่น เฮเลนเอื้อมมือไปจับใบหน้าเขาอย่างแผ่วเบา ในใจกลัวเหลือเกินว่าเขาจะเป็นอะไรไป เธอทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งมองและก้มลงฟังเสียงหัวใจของเขาว่ายังเต้นอยู่หรือเปล่าเท่านั้น ในหัวพยายามคิดว่าคาถาอะไรที่เธอควรใช้ตอนนี้หรือน้ำยาอะไรที่ใช้ได้เพื่อรักษา

    “คิดสิเฮเลน!” เธอพูดกับตัวเอง “คิดให้ออก!!

    ร่างของเดรโกยังคงชักอยู่ตรงหน้า น้ำตามากมายไหลพรั่งพรูออดกมาจากดวงตากลมอย่างสุดจะกลั้น นอกจากในหัวจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว เฮเลนรู้สึกเหมือนว่าสติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่างหาก

    “ได้โปรด!” เธอก้มลองกอดร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น “ได้โปรด อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ!!

    แต่แล้วประตูก็เปิดผลัวออกมา สเนปพรวดพราดเข้ามาในห้อง ใบหน้าดูเคร่งเครียด เขาผลักเฮเลนจนกระเด็นออกไปอีกทางและนั่งลงคุกเข่าเหนือร่างของเดรโก ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาและวาดไม้ไปตามแผลที่คำสาปของแฮร์รี่ทำเอาไว้ พลางพึมพำคาถาอะไรสักอย่างที่เฮเลนฟังไม่ชัดนัก เลือดเหมือนจะไหลช้าลง ตอนนี้เหมือนบาดแผลกำลังรักษาตัวเองอยู่

    เฮเลนยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นและแฮร์รี่ยังได้แต่จ้องมองผลงานของไม้กายสิทธิ์ของตัวเองจนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าร่างของทั้งสองก็เต็มไปด้วยเลือดและน้ำเช่นกัน เมอร์เทิลร้องโหยหวนอยู่เหนือหัวในขณะที่สเนปเสกคาถาต้านคำสาปเป็นครั้งที่สาม เขาพยุงปีกเดรโกลุกขึ้นยืน

    “เธอต้องไปห้องพยาบาล คงจะมีแผลเป็นอยู่บ้าง แต่ถ้าเธอกินดิตทานีทันทีก็อาจจะหลีกเลี่ยงได้ พอตเตอร์! ตามฉันมาด้วย” สเนปหันมาสั่งเฮเลน เด็กสาวไม่รอช้าลุกขึ้นยืนช่วยเขาพยุงเดรโกในทันที “ส่วนแฮร์รี่ พอตเตอร์ คอยอยู่ตรงนี้”

    สองสามนาทีพวกเขาก็มาถึงห้องพยาบาล สเนปไม่ได้บอกกล่าวอะไรมาดามพรอมฟรีย์มากนักแต่พูดเพียงแค่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุทางเวมนตร์ เขาสั่งให้เฮเลนคอยเฝ้าเดรโกจนกว่าจะได้สติ ไม่มีสักวินาทีที่เธอจะไม่เชื่อฟังคำสั่งนั้น มาดามพรอมฟรีย์รีบหาน้ำยาดิตทานีมาทันทีและจัดแจงให้เขาดื่ม

    หลายชั่วโมงผ่านไปจนเฮเลนไม่รู้ว่ากี่ชั่วโมงแล้ว เดรโกรู้สึกตัวขึ้นและมองเฮเลนด้วยสายตาเหนื่อยล้า เด็กสาวไม่รอช้าที่จะรินน้ำจากเหยือกมาส่งให้เขาพลางปาดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าออกไปอย่างลวกๆ

    “ใครรังแกให้เธอร้องไห้กันเนี่ย” เขาพูดหลังจากริมฝีปากซีดๆ นั้นจิบน้ำไปแล้ว

    “ตัวเฟอร์เร็ตสีขาว!” เฮเลนตอบเสียงขุ่น “มันเกือบตายแล้ววันนี้”

    เดรโกสำลักน้ำ เขายื่นแก้วคืนให้เฮเลนทันที

    “แหม” เขาลากเสียง “ยังอุส่าห์จะจำได้อีกนะ เรื่องน่าขายหน้าพรรคนั้น”

    “นายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม” เธอถาม มองใบหน้าซีดๆ ของเขาด้วยแววตาเป็นห่วง เดรโกพยักหน้าน้อยๆ

    “ไม่หรอก” เขาตอบ “แต่เจ็บใจชะมัดเลยที่หมอนั่นปัดคำแช่งมาใส่ฉัน”

    เดรโกว่าพลางกำมือแน่น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธเคือง

    “มันเกิดอะไรขึ้นในนั้น” เฮเลนถาม “ใครแช่งอะไร”

    “แฮร์รี่น่ะ” เขาตอบ พยายามสงบสติอารมณ์ “หมอนั่นร่ายคำสาปที่ฉันไม่เคยได้ยิน แต่แท็คหลบมันได้ ฉันไม่คิดว่าหมอนั่นจะอ่อนแอถึงขั้นร้องไห้หรอกพูดตามตรง ตอนเราเข้าไปเหมือนหมอนั่นกำลังหัวเราะอยู่มากกว่า”

    “เขาปัดคำสาปใส่นายเหรอ”

    “ใช่” เดรโกพยักหน้าน้อยๆ “ฉันปัดทิ้งไม่ทันน่ะ สงสัยว่าฉันคงต้องเรียนการป้องกันตัวอย่างจริงจังซะแล้ว”

    “เพิ่งรู้ตัวเหรอ” เฮเลนพูด น้ำเสียงกวนๆ เดรโกเบ้หน้า เขามองแหวนที่นิ้วของเธออีกครั้งพลางยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ถอดมันออกเลย

    “เดรโก!!” เสียงของใครบางคนตะโกนดังลั่น ประตูห้องพยาบาลเปิดออกพร้อมกับร่างของแพนซี่ พาร์กินสันโผล่เข้ามาพร้อมน้ำตานองหน้า เฮเลนรู้ได้ทันทีว่าเมอร์เทิลปากโป้งไปเล่าข่าวทุกอย่างให้คนอื่นๆ ฟังหมดแล้วและแน่นอนว่าแฮร์รี่จะต้องโดนประณามอย่างแน่นอนที่ทำเรื่องแบบนี้

    “แกมาทำอะไรที่นี่!” เดินเข้ามาถึง แพนซี่ก็เอ่ยถามด้วยเสียงแสบแก้วหูทันที

    “ศาสตราจารย์สเนปสั่ง” เฮเลนตอบ “และฉันก็เป็นห่วงเดรโกด้วย”

    “เขาไม่ใช่แฟนเธอ ยัยโง่!” แพนซี่ตวาดแว้ด “แฝดเธอทำร้ายเขา เธอยังจะมีหน้ามานั่งตรงนั้นอีกเหรอ!

    “เงียบนะ!” เฮเลนพูดกลับแม้เดรโกจะส่งสายตาเตือนแล้วว่าเธอไม่ควรต่อล้อต่อเถียงกับแพนซี่ แต่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถทำให้เฮเลนฉุดอารมณ์ตัวเองไว้ได้จริงๆ

    “หุบปากของเธอไปเลยถ้าจะมาแว้ดๆ รบกวนคนป่วย!” เฮเลนว่า “มันไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะมายุ่งว่าฉันควรทำอะไรหรือฉันต้องทำอะไร เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ!

    “ทำไมไม่บอกตัวเองล่ะ!” แพนซี่สวน “เธอมัน...”

    แลงล็อก! เฮเลนร่ายคำสาปในใจแพนซี่เงียบเสียงไปทันทีทำท่าเหมือนมีอะไรจุกเข้าที่คอ เฮเลนหันกลับไปหาเดรโกพร้อมกับยักไหล่ให้เขาเป็นเชิงไม่แคร์ว่าการแช่งนั้นจะโดนทำโทษจากใครบ้าง เดรโกยิ้มและยื่นมือไปยีผมเธอเบาๆ ในขณะที่แพนซี่วิ่งแจ้นออกไปนอกห้องพยาบาลด้วยสายตาแค้นเคือง

    ไม่ถึงสองชั่วโมงเหมือจะมีคนแก้คำสาปปากของแพนซี่ถึงอยู่ไม่สุข นิกหัวเกือบขาดลอยลิ่วเข้ามาในห้องพยาบาลพร้อมกับบอกกับเฮเลนเรื่องที่แฮร์รี่ทำ เดรโกและเธอปฏิเสธที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง แต่พูดแค่เพียงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ สุดท้ายแล้วแฮร์รี่ก็ถูกสเนปสั่งกักบริเวณทุกวันเสาร์ตลอดเทอมโดยมีศาสตราจารย์มักกอนนากัลสนับสนุนอย่างเต็มที่

    ในที่สุดวันแข่งควิดดิชก็มาถึง เฮเลนเดาว่าแฮร์รี่คงเสียใจน่าดูที่ไม่ได้ลงแข่งขันในนัดนี้เพราะเขาต้องไปอยู่กับสเนป ช่วงการแข่งขันเฮเลนเฝ้าเดรโกอยู่ในห้องพยาบาล เขาแอบบ่นพึมพำเรื่องแผลพวกนี้จะเป็นแผลเป็นหรือเปล่าและค่อนข้างงอแงเหมือนเด็กเลยทีเดียว

    “มันไม่เป็นแผลเป็นหรอกน่า!” เฮเลนพูด ครั้งที่ร้อยห้าสิบแล้วมังที่เดรโกบ่น “ถ้ามันเป็นแผลเป็นก็ไม่เห็นเป็นไรนี่! ฉันสนใจที่ไหนล่ะ...”

    “แต่ฉันสนใจนี่” เดรโกว่า “ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งฉันแต่งงานกับเธอไปแล้วเธอเกิดเห็นแผลพวกนี้แล้วหมดอารมณ์ขึ้นมาล่ะ! แฮร์รี่ต้องรับผิดชอบ!!

    ใบหน้าของเฮเลนร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด มือเล็กฟาดลงบนหน้าท้องของเขาอย่างแรง

    “ตลก!” เธอพูด “อะไรมันจะขนาดนั้น นายเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ!

    “ก็เปล่า!” เขาตอบ “ฉันก็อยากให้ภรรยาภูมิใจไหม อย่างน้อยก็เรือนร่างอันเซ็กซี่ของฉันเชียวนะ”

    เฮเลนรู้สึกเหมือนกับว่าอยากสาปให้เขากลายเป็นเฟอร์เร็ต! บางทีมันอาจจะช่วยให้เขาเงียบเสียงลงไปได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างน้อยตัวเฟอร์เร็ตก็ไม่พูดจาแบบนี้ล่ะนะ

    “นี่นายไม่เครียดแล้วรึไงเนี่ย!” เฮเลนถาม “นี่อย่าลืมนะว่าต้องทำอะไร”

    “ไม่ลืมหรอกน่า” เดรโกตอบ น้ำเสียงสลดลงเล็กน้อย “แต่ช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับเธอมันมีน้อยนี่”

    “แล้วตัวเฟอร์เร็ตที่ไหนไล่ฉันตอนต้นเทอมล่ะ” เธอเหน็บ “พูดซะตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องห่างแล้ว”

    “ก็ฉันเป็นห่วงนี่” เขาพูดพลางแบะปาก ทำท่าเหมือนตัวเองน่ารักซะไม่มี

    “ค่ะ!” เฮเลนว่า “เข้าใจค่ะว่าห่วง พ่อคุณ!

    ได้ทีเฮเลนก็เลื่อนมือไปยีผมเขาบ้าง เธอแอบคิดในใจว่าจะมีความสุขแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ... วินาทีที่เธอเห็นเขาจมอยู่ในกองเลือด เธอพูดอะไรไม่ออกแถมคิดไม่ออกด้วยว่าจะทำยังไงให้เขารอด นอกจากร้องไห้ในสถานการณ์แบบนั้น มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ มันก็คงไม่แปลกที่ทั้งสองจะเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้

    “ได้ทีทำใหญ่เลยนะ!” เขาว่า “อย่าให้ถึงตอนฉันหายบ้างก็แล้วกัน”

    “แน่นอน” เฮเลนพูด “จนกว่าจะหายนะ”

    เธอยิ้มกว้าง ก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากเขาอย่างแผ่วเบาก่อนจะขอตัวกลับไปที่ห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์หลังจากที่มาดามพรอมฟรีย์สั่งให้เดรโกกินยาและนอนพักผ่อน เฮเลนสังเกตว่าเสียงเชียร์จากสนามเงียบลงแล้ว บางทีการแข่งขันควิดดิชคงจบลงไปได้สักพักแล้ว ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้เธอก็คงจะเห็นเองในห้องนั่งเล่นรวม

    “ควิดอากิส” เธอพูดกับสุภาพสตรีอ้วน รูปภาพเหวี่ยงเปิดออก เสียงการเฉลิมฉลองดังออกมาจากช่องด้านหลังเธอ และภาพที่เฮเลนเห็นเป็นอันดับแรกที่เข้าไปก็คือแฮร์รี่กับจินนี่กำลังจูบกัน!

    เสียงผิวปากของคนในห้องดังขึ้น เฮเลนเห็นดีนบีบแก้วแตกคามือและโรมิลด้า เวนเขวี้ยงอะไรสักอย่างลงพื้น เฮเลนยิ้มหน้าบานไม่ต่างจากเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนรอนยืนกำถ้วยรางวัลและมีสีหน้าราวกับว่าถูกอะไรสักอย่างตีเข้ากลางแสกหน้า สักพักเขาก็สะบัดหัวเป็นเชิงเข้าใจ

    ไม่นานทั้งสองคนก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นเหลือเพียงพวกเขาไม่กี่คนที่ยังฉลองชัยชนะกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่น เฮเลนเองก็ร่วมแสดงความยินดีในครั้งนั้นด้วย เฮอร์ไมโอนี่วิ่งเข้าไปกระโดดกอดคอรอน เสียงผิวปากดังขึ้นอีกครั้ง

    “ไม่จูบหน่อยเหรอ!” เฮเลนร้องเชียร์ ทั้งสองหันมามองหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู

    ทำไงได้ในเมื่อเหมือนกับว่าความรักกำลังเบ่งบานในใจของใครหลายคนในสถานการณ์แบบนี้ ก็ควรให้มันเบ่งบานต่อไปจนกว่าทุกอย่างจะทำลายมันจนหมดสิ้น

    วันต่อมาข่าวของแฮร์รี่กำลังคบกับจินนี่และเธอคบกับเดรโกเหมือนจะแพร่ออกไปไวกว่าที่คิด นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่ดูจะไม่เดือดร้อนกับเรื่องซุบซิบ แต่เฮเลนพบว่าตัวเองกำลังเดือดร้อนเป็นอย่างมากเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าแผนจะเสียไปหมดเพราะแท็คจะต้องรับรู้เรื่องนี้ด้วย และเธอหวังอย่างเต็มที่ว่าแท็คคงไม่ได้ปากพล่อยพูดเรื่องคืนนั้นออกไป

    “เธอคิดไหมว่าเขาน่าจะซุบซิบเรื่องที่ดีกว่านี้” จินนี่เอ่ยขึ้นขณะที่เธอนั่งอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นรวม พิงขาของแฮร์รี่และอ่านหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ต “อาทิตย์นี้ผู้คุมวิญญาณบุกทำร้ายหลายที่ แต่โรมิลด้า เวนถามฉันคือจริงรึเปล่าที่แฮร์รี่สักรูปฮิปโปกริฟฟ์ไว้ที่หน้าอก”

    เฮเลน รอนและเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะครืน แฮร์รี่ยิ้มออกมานิดหน่อย

    “แล้วเธอตอบไปว่าอะไรจินนี่” เฮเลนถาม

    “ฉันบอกว่าเป็นรูปมังกรฮังการีหางหนามต่างหาก” จินนี่ตอบ “ดูบึกบึนกว่าตั้งเยอะ!

    “ขอบใจ” แฮร์รี่พูด ยิ้มกว้าง “แล้วเธอบอกเขาว่ารอนสักรูปอะไร”

    “รูปพิกมี่พัฟ แต่ไม่ได้บอกหรอกนะว่าสักที่ไหน”

    รอนทำหน้าบูดเบี้ยวในขณะที่เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะจนแทบหงายหลัง

    “ระวังเถอะ” เขาพูด “แค่เพราะฉันตกลงให้พวกนายคบกันไม่ได้หมายความว่าฉันจะเปลี่ยนใจไม่ได้”

    “เปลี่ยนใจ?” จินนี่ทวน “ที่จริงพี่บอกเองนี่ว่าพี่อยากให้เป็แฮร์รี่มากกว่าไมเคิลหรือดีน”

    “ใช่ฉันเคย” รอนรับ “แต่ฉันคิดว่าแฮร์รี่คงเข้าใจแน่”

    “ใช่ เข้าใจมากเลย” แฮร์รี่หรี่ตามองเฮเลน เด็กสาวเงียบเสียงทันทีเธอเลิกหัวเราะและหันไปคุยเรื่องสอบ ว.พ.ร.ส.กับจินนี่ที่ใกล้เข้ามาแล้วแทน หลายวันผ่านไปจนล่วงเลยมาถึงเดือนมิถุนายน เด็กที่ชื่อจิมมี่ พีกส์ปรากฏตัวขึ้น เขาถือม้วนกระดาษแข็งมาด้วย เฮเลนคิดว่าคงเป็นจดหายจากดัมเบิลดอร์ เหมือนกับว่าเขารู้ว่าเดรโกออกจากห้องพยาบาลแล้วยังไงอย่างนั้น

    “เขาต้องการให้ไปหาเขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!

    แฮร์รี่พูดพร้อมมองใบหน้าเฮเลนที่อึ้งไม่แพ้กัน เธอแอบเป็นห่วงนิดหน่อยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเดรโกเพิ่งจะออกจากห้องพยาบาลได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่จะว่าก็ว่าเถอะ พ่อเฟอร์เร็ตก็ดูเหมือนจะสบายดีไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่...มั้ง

    “รีบไปดูเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก

    ทั้งสองลงไปจากห้องนั่งเล่นรวมและรีบเร่งเดินไปยังห้องอาจารย์ใหญ่ทันทีแต่พวกเขาก็พบกับเดรโกอยู่ที่ระเบียงทางเดินชั้นเจ็ดพร้อมกับพยุงศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์เอาไว้ด้วย

    “เกิดอะไรขึ้นเดรโก” แฮร์รี่ถาม

    “พวกเธอไม่น่าถามเขาหรอกนะ!” เธอตอบเสียงสูง “ฉันกำลังเดินเล่นอยู่...”

    “อาจารย์พยายามเข้าไปในห้องต้องประสงค์” เดรโกตอบ “ฉันเดินผ่านมาพอดี”

    “ฉันก็แค่อยากฝากอะไรในห้องนั้นเท่านั้นแหละ!” เธอพูด “แต่ฉันเจอคนอื่นอยู่ในนั้นน่ะสิ”

    เดรโก แฮร์รี่และเฮเลนหันมองหน้ากันในทันที

    “ใครอยู่ในนั้นครับ!” เดรโกพูดทันที

    “ไม่รู้หรอก” ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ตอบ “ฉันเดินเข้าไปแล้วได้ยินเสียงคน หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงใครในห้องนี้เลย”

    “พวกเขาพูดว่าอะไรครับ” แฮร์รี่ถาม

    “ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร” เธอตอบ “แต่ได้ยินเสียงโห่ร้อง”

    “เสียงโห่ร้อง?” เฮเลนทวน

    “อย่างดีอกดีใจ” เธอพยักหน้าพร้อมคำตอบ “เป็นเสียงผู้ชาย ฟังดูมีความสุขมากๆ เหมือนกำลังจะฉลองกัน พอฉันร้องถามว่าใคร”

    “อาจารย์น่าจะรู้ได้โดยไม่ต้องถามนี่ครับ” แฮร์รี่พูด เขาคงหงุดหงิดที่เธอไม่พูดสักที

    “ตาพยากรณ์” เฮเลนตอบแทน “ไม่ได้ถูกกำหนดให้ใช้มองเห็นอะไรแบบนี้นะ มันใช้ได้เฉพาะเรื่องที่อยู่นอกเหนือสามัญสำนึก”

    “แล้วเสียงนั่นบอกรึเปล่าครับว่าเป็นใคร” เดรโกถามเสียงสั่น เฮเลนรู้สึกได้ว่าเขาเริ่มรู้แล้วว่าใคร

    “ไม่ได้บอก” เธอตอบ “ทุกอย่างมันมืดลงไป แล้วฉันก็ถูกทุ่มออกมานอกห้อง”

    พวกเขาไม่พูดอะไรต่อจนกระทั่งศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์เดินจากไป ทิ้งปริศนาเอาไว้ให้พวกเขาสามคนด้วยว่าศาสตราจารย์สเนปเป็นผู้ได้ยินคำพยากรณ์...

    “ไม่อยากจะเชื่อ” เดรโกพูด “เขาเป็นคนได้ยินคำพยากรณ์”

    “และฉันคิดว่าตอนนี้นายควรเบาเสียง” เฮเลนพูดเสียงเบาลง “มีคนอยู่ในนั้น อย่าลืมสิ”

    “แล้วพนันได้เลยว่าพวกนั้นมาแล้ว” แฮร์รี่บอก “นายจะโดนอะไรบ้างเดรโก ไม่อยากจะคิดเลย”

    “ไม่รู้” เดรโกตอบ “แต่ฉันคิดว่าอาจจะไม่มากก็น้อย แต่เราไปพบศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เถอะ ฉันคิดว่าแท็คคงเล่าเรื่องฉันให้พวกนั้นฟังหมดแล้ว มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว”

    ทั้งสามรีบเร่งสาวเท้าไปหน้าห้องอาจารย์ใหญ่ทันที พร้อมกับแฮร์รี่ที่สาปแช่งสเนปไปตลอดทาง สเนปคือคนที่นำข่าวเรื่องการพยากรณ์ไปบอกโวลเดอมอร์ สเนปและปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ร่วมกันส่งโวลเดอมอร์ไปฆ่าพ่อแม่ของพวกเขา ไม่มีอะไรมีความหมายไปมากกว่านี้แล้วสำหรับแฮร์รี่และเฮเลน

    “ฉันสัญญาว่าจะพาพวกเธอไปใช่ไหม”

    “อาจารย์พบแล้วเหรอครับ ฮอร์ครักซ์อีกอัน” แฮร์รี่ถาม เฮเลนรู้สึกว่าเขาสงบอารมณ์ตัวเองได้บ้างแล้ว

    “ฉันคิดว่าอย่างนั้น” ดัมเบิลดอร์ตอบ “มันซ่อนอยู่ที่ถ้ำในชายฝั่ง ห่างจากที่นี่ไปหลายไมล์ ถ้ำที่ฉันพยายามหาให้เจอมานานแล้ว จำได้ไหมถ้ำที่ทอม ริดเดิ้ลเคยขู่เด็กสองคนจากโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าระหว่างการเที่ยวประจำปีของเขาไงล่ะ”

    “ได้ครับ” เดรโกตอบ “มันป้องกันไว้ยังไงครับ”

    “ฉันไม่รู้ ฉันแค่สงสัย ซึ่งมันอาจจะผิดทั้งหมดก็ได้” ดัมเบิลดอร์ลังเล “แต่ฉันพูดเอาไว้แล้วว่าพวกเธอไปกับฉันได้ แต่ฉันขอเตือนว่ามันเป็นงานที่อันตรายมาก”

    “เราจะไปค่ะ” เฮเลนยืนยัน

    “งั้นฟังฉัน ฉันจะพาพวกเธอไปโดยมีเพียงเงื่อนไขเดียวคือพวกเธอจะต้องเชื่อฟังคำสั่งทุกประการของฉันและไม่มีการตั้งคำถามใดๆ ทั้งนั้น”

    “ตกลงครับ” แฮร์รี่และเดรโกตอบ

    “ขอให้เข้าใจให้ชัดเจน ว่าฉันหมายความว่าทุกอย่าง แม้แต่คำสั่งว่า วิ่ง,ซ่อน,หนี หรือกลับไป พวกเธอจะต้องทำ ให้คำมั่นกับฉันได้ไหม”

    ทั้งสามพยักหน้า

    “ถ้าฉันบอกให้พวกเธอทิ้งฉันและรักษาชีวิตตัวเอง เธอก็ต้องทำ”

    “เรา...”

    “เฮเลน”

    เด็กสาวเม้มปากเป็นเส้นตรง

    “ค่ะ ศาสตราจารย์”



    ติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×