คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #446 : 8 นงคราญที่อยากรวบรวมไว้ในฮาเร็ม
จริงๆผมคิดจะเขียนบทความ 10 อันดับตัวละครหญิงในไลท์โนเวลที่ชื่นชอบมากที่สุดมานานแล้ว
แต่ติดที่ว่าจะเฟ้นจะเค้นยังไง ผมก็เลือกตัวละครได้ไม่ครบ 10 ตัวซะที แต่เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยายมารีวิว ผมก็เลยตัดสินใจเขียนบทความ แสดงความคิโม่ยของตัวเอง
เป็นบทความ 8 นงคราญที่อยากรวบรวมไว้ในฮาเร็ม ที่จะกล่าวถึงตัวละครหญิง 8 คนจากไลท์โนเวล 8
เรื่อง ที่ผมหลงรักซะจนอยากเอามาไว้ในฮาเร็มของตัวเอง
ก่อนที่ไปดูรายชื่อตัวละครทั้ง
8 ขอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจข้อตกลงเบื้องต้นกันก่อนนะครับ
1.
พฤติกรรมติกรรมของตัวละครหญิงต่อไปนี้ผมจะอ้างอิงถึงเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์แปลไทยนะ
ต่อให้เนื้อหาล่าสุดสาวคนนี้ไปทำเรื่องไม่ดีไม่งาม ไปชอบคนอื่นนอกจากพระเอกผมก็ไม่เอามาคิด
2.
อันดับ 1-8 นี่ไม่ได้เรียงตามความชอบนะ
นึกเรื่องคนไหนออกก่อนก็เอามาเขียนก่อนครับ
3.
เรื่องที่จะเอามาเล่าต่อไปนี้มีการสปอยล์เนื้อเรื่องในนิยาย
ถ้าไม่อยากโดนสปอยล์ก็ไม่ต้องอ่านนะครับ
นงคราญหนึ่ง เรม จากเรื่อง Re:ZERO รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก ลิขสิทธิ์โดย Animax
Re:ZERO เป็นเรื่องราวของตัวเอกนัตสึกิ
สุบารุที่อยู่ดีๆก็หลุดไปต่างโลก และได้พบกับฮาล์ฟเอล์ฟผมเงินนามเอมิเลีย
(ตอนแรกเธอใช้ชื่อว่าซาเธียร่า) ต่อมาเอมิเลียและสุบารุโดนมือสังหารฆ่าตายทั้งคู่
แต่สติของสุบารุได้ย้อนกลับมายังช่วงเวลาประมาณหนึ่งวันก่อนถูกฆ่า สุบารุจึงตระหนักว่าตัวเองมีความสามารถย้อนเวลาเมื่อตาย
และเขาก็ตั้งเป้าหมายที่จะปกป้องเอมิเลียให้ได้
เรมนั้นปรากฏตัวในนิยายเล่มสอง โดยเธอและพี่สาวฝาแฝดแรมทำงานเป็นเมดให้กับรอสวาลขุนนางที่สนับสนุนเอมิเลีย
ลักษณะของเรมนั้นจะเป็นน้องสาวผู้สมบูรณ์แบบที่ทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว
ขณะที่แรมจะเป็นพี่สาวไม่ได้เรื่องที่ไม่มีเรมแล้วทำอะไรแทบไม่ได้
แต่ในวัยเด็กนั้นฐานะของทั้งคู่สลับกันอย่างสิ้นเชิง
เรมและเรมเกิดมาเป็นเผ่ายักษ์ไม่สมประกอบที่มีเขาแค่อันเดียวทำให้คนในเผ่าคิดเอาไปฆ่าตั้งแต่เด็ก
แต่เพราะแรมนั้นมีพลังเวทมหาศาลเหนือกว่ายักษ์ทั่วไปที่มีสองเขาทั้งคู่จึงถูกไว้ชีวิต
เรมที่มีพลังเวทน้อยกว่ายักษ์ทั่วไปจึงเหมือนอาศัยใบบุญพี่สาวให้มีชีวิตรอด
และมีปมว่าตัวเองนั้นด้อยค่ากว่าพี่สาวมาโดยตลอด
ต่อมาหมู่บ้านยักษ์โดนสาวกแม่มดทำลาย
แรมได้เอาตัวปกป้องเรมจนสูญเสียเขาและพลังเวท
เหตุการณ์นี้ทำให้เรมเคารพบูชาพี่สาวมาก แต่ก็ยิ่งเป็นสร้างปมในจิตใจของเธอว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้พี่สาวเสียพลังเวทไป
ทำให้เรมเป็นคนที่มักดูถูกตัวเอง
จนกระทั่งสูบารุได้โผล่เข้ามาเอาตัวปกป้องเธอจากสัตว์ปีศาจ
และบอกว่าเธอเป็นคนสำคัญ ซึ่งนั่นก็ได้คลายเงื่อนปมในจิตใจของเธอ และทำให้เธอตกหลุมรักสุบารุ
เอาจริงๆแล้วในบทคฤหาสต์รอสวาลที่เรมปรากฏตัวเป็นครั้งแรกนั้น
ผมไม่ได้ประใจเธอเท่าไหร่ อ่านๆไปแยกเธอกับแรมแทบไม่ออกด้วยซ้ำ
แถมมันยังเป็นบทที่ทำให้ผมเซ็งเพราะๆตอนแรกสุบารุนั้นทำคะแนนกับแรมค่อนข้างดีแต่ดันตายแล้วรีเซ็ต
พอมาลูปใหม่ก็ปักธงเรมได้คนเดียว และยังมีฉากแรมไปนัวเนียกับรอสวาลอีกต่างหาก
ทำให้ไม่ปลื้มเพราะพระเอกเก็บฝาแฝดไม่ครบ
จนกระทั่งเนื้อเรื่องบทเมืองหลวงที่เป็นจุดทำให้ผมชอบเรมมากๆ
และหลายๆคนที่ได้ดูอนิเมเนื้อหาช่วงนี้ ถึงกับพร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Rem:Zreo ทีเดียว
คนเขียนก็ตอบสนองแฟนโดยการเขียนเนื้อเรื่องโลกคู่ขนาน ที่เรมกับสุบารุหนีไปด้วยกันในช่วงนี้และสร้างครอบครัวมีลูกด้วยกัน
แต่สุดท้ายแกก็เอาเธอมาสร้างดราม่าทำลายตับคนอ่านในเล่มต่อๆไปอยู่ดีล่ะนะ
จุดที่ผมชอบเรมก็คือเธอเป็นผู้หญิงที่รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ในบทเมืองหลวงนั้นเป็นจุดตกต่ำสุดๆของสุบารุ เรียกว่าตัวละครทุกตัว(รวมทั้งเอมิเลีย)
คนอ่าน ตัวสุบารุเอง กระทั่งพัดลมเห็นแล้วยังส่ายหน้าหนี
มีเพียงเรมคนเดียวเท่านั้นที่ยังเชื่อมั่นในตัวสุบารุ คอยค้ำจุนไม่ไปหน
และยอมสละร่างกายและชีวิตปกป้องสุบารุโดยไม่ลังเล
นอกจากนั้นเธอยังเป็นคนที่คิดถึงความสุขของคนที่รักอย่างแท้จริง
ตอนที่สุบารุชวนเธอหนีไปด้วยกันนั้นแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เธอปรารถนาอย่างยิ่ง
แต่เธอก็เลือกปฏิเสธเพราะดูออกว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วสุบารุจะเสียใจภายหลัง
แม้กระทั่งตอนที่สุบารุกล่าววาจาที่ทำให้แฟนๆก่นด่าสาปแช่งว่า “ฉันรักเอมิเลีย”
เธอก็เพียงแต่ตอบแบบยิ้มๆว่า “ถ้างั้นเรมขอเป็นที่สองค่ะ” ผู้หญิงอย่างนี้ล่ะครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้าได้เป็นแฟนชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
นงคราญสอง นางาโตะ ยูคิ
จากเรื่อง Suzumiya Haruhi Series
ลิขสิทธิ์โดยบงกช
ซี่รี่ Suzumiya Haruhi เป็นเรื่องของตัวเอกเคียว(ซึ่งเป็นชื่อเล่น
ผ่านมา 11 เล่มยังไม่รู้ชื่อจริงเขาเลย)
ที่เป็นเด็กหนุ่มธรรมดา ได้มาพบสาวสวยนิสัยประหลาดในวันเปิดเรียน
เธอมีนามว่าฮารุฮิ ซึ่งมาพร้อมกับคำพูดเปิดตัวอันน่าจดจำว่า “ฉันไม่สนคนธรรมดา
แต่ถ้าใครเป็นมนุษย์ต่างดาว คนจากอนาคต หรือเอเลี่ยนก็มาคุยกับฉันได้”
ต่อมาฮารุฮิก็ได้ลากเคียวมาก่อตั้งกองกำลัง SOS ซึ่งเป็นชมรมสำหรับตามหาคนหรือเรื่องราวแปลกประหลาด
และก็ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกสามคน
เรื่องราวได้เปิดเผยในภายหลังสมาชิกแต่ล่ะคนที่มาเพิ่มนั้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา
แต่เป็นเอเลี่ยน คนจากอนาคต และผู้มีพลังจิต
และฮารุฮิคือผู้พลังระดับพระเจ้าสามารถดลบันดาลทุกสิ่งได้ดังปรารถนาเพียงแต่เธอไม่รู้ตัว
เนื้อเรื่องต่อมาจึงเป็นการที่เคียวต้องคอยดูแลอารมณ์ของฮารุฮิไม่ให้เธอทำลายโลกโดยไม่รู้ตัว
นางาโตะ ยูกิ
เป็นสมาชิกคนที่สามที่เข้ากองกำลัง SOS ถัดจากฮารุฮิกับเคียว จริงๆจะเรียกว่าเข้าร่วมก็ไม่ถูกนัก
เพราะเดิมเธอเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรม
ต่อมาฮารุฮิมายึดห้องชมรมเป็นฐานปฏิบัติการกองกำลัง
ทำให้ถูกผนวกเข้ามาเป็นสมาชิกกองกำลังด้วย
หลังจากเธอเข้ากองกำลังไม่นานเคียวก็ได้รับรู้ว่าตัวจริงของเธอคือตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นโดย
“หน่วยรวมข้อมูลที่มีความคิด”
ซึ่งน่าจะคล้ายๆเอเลี่ยนที่มีพลังระดับพระเจ้าแบบในตำนานคธูลู
และมีน่าที่คอยจับตาดูฮารูฮิที่มีพลังระดับพระเจ้า
ลักษณะของยูกินั้นอาจจะกล่าวว่าเธอเป็นแม่แบบสาวคูลถัดจากอานายามิ
เรย์ก็ได้ เธอเป็นสาวร่างเล็กสวมแว่นนิสัยเงียบขรึม
บางทีก็คล้ายๆหุ่นยนต์ที่ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์ แต่เธอก็การมักมีแสดงอารมณ์เล็กๆ
ผ่านทางกิจกรรมต่างๆเช่นการอ่านหนังสือ การเล่นเกม
หรือการแต่งคอสเพลย์แม่มดเพื่อแสดงภาพยนตร์ โดยส่วนผสมระหว่างสาวหุ่นยนต์กับสาวคูลนี้เอง
ทำให้ยูกิแสดงสเน่ห์ที่มัดใจผม คือการเป็นหญิงสาวที่อดทน แม้ปกติแล้วเธอจะดูมั่นคงแบบเครื่องจักร
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกรู้สาอะไร แต่เธอเก็บงำความเจ็บปวดเอาไว้ข้างใน
จนชวนให้อยากปกป้องเหลือเกิน
ยกตัวอย่างเหตุการณ์ช่วงปิดเทอมฤดูที่ฮารูฮิเกิดรู้สึกค้างคาใจ
จนทำให้เกิดการวนลูปในช่วงฤดูร้อนถึง 15,532 รอบ ทุกครั้งที่ช่วงปิดเทอมหมดลงเวลาก็จะย้อนกลับมาช่วงก่อนปิดเทอม
ความทรงจำของทุกคนจะถูกรีเซ็ตยกเว้นเคียวที่จะจำเรื่องราวได้ในบางรอบและยูกิที่ความทรงจำไม่ถูกรีเซ็ตซักครั้ง
ในนิยายเคียวที่ได้ความทรงจำคืนไม่กี่รอบก็หน่ายใจ คนที่ได้ดูอนิเมแล้วต้องเจออีเว้นซ้ำ
8 ตอนก็แช่งชักผู้กำกับไป แต่ยูกิที่ต้องทำกิจกรรมเดิมๆถึง 15,532
รอบนี่มันจะเป็นความทุกข์ระดับไหนกัน
หลังเหตุการณ์วนรูปในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนถูกแก้ไข
แม้ว่าจะยูกิจะไม่บอกออกมาตรงๆ แต่เหตุการณ์นั้นก็น่าจะสร้างความเครียดแกเธอมาก
จนนำไปสู่อีเว้นการหายตัวไปของฮารุฮิ ที่พลังของยูกิเกิดอาลาวาด
จนทำให้เกิดโลกคู่ขนานที่ฮารุฮิหายตัวไป อีเว้นนี้ยังทำให้เกิดเนื้อเรื่องการหายตัวไปของนางาโตะ
ยูกิ ที่เป็นเรื่องราวของยูกิในโลกคู่ขนาน ที่เปลี่ยนจากสาวคูลเป็นสาวขี้อายแทน
แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ปลื้มเท่าไหร่
เหมือนอ่านโดจินที่มีตัวละครชื่อและหน้าตาเหมือนยูกิมากกว่า
นอกจากเหตุการณ์นี้ก็มีอีกหลายครั้งที่ยูกิเก็บงำความเจ็บปวดไว้
เช่นตอนไปเที่ยวภูเขาหิมะที่เธอถูกผลจากมนุษย์มิติเล่นงานจนไม่สบาย
ซึ่งทุกครั้งเคียวก็มักจะละอายใจเพราะเอาแต่พึ่งพาเธอแบบโนบิตะพึ่งพาโดราเอม่อนแต่กลับไม่เคยสังเกตความลำบากของเธอเลย
และยิ่งทำให้คนอ่านชอบเธอมากขึ้น
จะบอกว่าเธอเป็นตัวละครที่คนอวยมากสุดในเรื่องก็ไม่เกินไป
เพราะตัวละครอื่นๆนั้นไม่ค่อยมีพัฒนาการทางอารมณ์เท่าไหร่ ฮารุฮิไฮเปอร์ตลอด
เคียวตบมุกไปเรื่อย มิคุรุก็ขายแต่บทซุ่มซ่าม โคอิซึมิก็เอาลับลมคมใน
มีแต่ยูกิที่คอยแสดงความเติมโตราวกับเครื่องจักรที่ค่อยๆเรียนรู้ความเป็นมนุษย์
ซึ่งคาแรคเตอร์แบบนี้มักจะเป็นที่รักของคนอยู่แล้ว
ฮารุริกับมิคุริเปลี่ยนคอสตูมเป็นสิบอิมแพ็คยังไม่เท่ายูกิถอดแว่นเลย
ในนิยายนางาโตะ ยูกิ
อาจจะเป็นผู้มีพลังพระเจ้าเป็นรองแค่ฮารุฮิเท่านั้น
แต่เธอคือผู้หญิงที่ผมอยากดูแลเอาใจใส่มากที่สุดแล้วครับ
นงคราญสาม คาโต้ เมกุมิ จากเรื่อง วิธีปั้นสาวบ้านให้มาเป็นนางเอกของผม ลิขสิทธิ์โดย Zenshu
นิยายเป็นเรื่องของตัวเอกอากิ โทโมยะ
ที่ไปพบผู้หญิงคนหนึ่งบนเนินท่ามกลางกลีบดอกซากุระโปรปราย และเขาก็ได้เก็บหมวกของเธอที่ปลิวมาได้พอดี
ฉากการพบเจอที่เหมือนกับหลุดมาจากเกมจีบสาว ทำให้โอตาคุแบบโทโมยะตกหลุมรักเธอในทันที
ก่อนที่จะมารู้ความจริงที่ชวนช็อคว่า จริงๆแล้วผู้หญิงคนนั้นคือ คาโต้ เมกุมิ เพื่อนร่วมชั้นที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
ด้วยความที่รับไม่ได้ว่าสาวที่ชอบดันมีคาแรคเตอร์จืดจางไม่เหมือนกับสเปคที่ตั้งไว้
โทโมยะจึงตัดสินใจทำเกมจีบสาวที่มีคาโต้เป็นตัวเอก
โดยตั้งชมรมที่ประกอบเพื่อนสมัยเด็กเอริรินักวาดโดจินเป็นผู้วาดภาพ
รุ่นพี่อุตาฮะที่เป็นนักเขียนมาเป็นคนเขียนบท และเมงุมิมาร่วมกลุ่มในฐานะตัวเอกของเกม
พูดตรงๆช่วงแรกๆนี่ผมไม่ได้ประทับใจอะไรเมงุมิเลยครับ
ที่ซื้อนิยายมาอ่าน ก็เพราะอ่านมังงะรูทเพื่อนสมัยเด็กทวินเทล
แล้วรู้สึกโดนใจกับตอนที่ตัวเอกขอคืนดีกับเพื่อนสมัยเด็ก จนลองซื้อนิยายมาอ่าน
พอมาย้อนคิดดูแล้ว อยากจะฟ้องคนเขียนข้อหาหลอกลวงผู้บริโภคจริงๆ
ถ้าเทียบเสปคกับผู้หญิงแต่ล่ะคนแล้วเมงุมิอาจะไม่ได้สุดยอดเท่าไหร่
เธอไม่ใช่คนที่มีสเน่ห์ที่สุด
ไม่ใช่คนที่รักพระเอกมากที่สุด และก็ไม่ใช่คนที่เสียสละเพื่อกลุ่มมากที่สุด
(สาวๆเรื่องนี้โดนพระเอกใช้แรงงานทาสจนล้มพับกันเกือบหมด)
ถ้าจะมีอะไรที่เหนือกว่าชาวบ้านก็คงเป็นสกิลตีเนียน
สวมบทภรรยาหลวงใช้ข้าวของห้องพักพระเอกแบบเนียนๆ
แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดที่ทำให้ผมชอบเธอมากขนาดนี้ จุดที่ทำให้ผมรู้สึกดึงดูดจริงๆก็คืออารมณ์เสียดายครับ
ประมาณว่าผู้หญิงดีๆแบบเธอคู่ควรกับผู้ชายที่ดีกว่านี้
อากิ โทโมยะ พระเอกของเรื่องนี้ผมจัดให้เป็นพระเอกสายฮาเร็มยอดแย่เลย
เพราะนอกจากจะบื้อตั้งแต่ต้นยันจบแล้ว ยังมักสนใจความต้องการของตนเองมากกว่าสาวๆ
ซึ่งบรรดาสาวๆในเรื่องช่วงแรกก็ถูกฝืนลากตัวเข้ากลุ่มมาสนองความเอาแต่ใจของโทโมยะทั้งนั้น
แต่ก็ไม่มีคนไหนที่ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเท่าคาโต้
เพราะสาวๆแต่ล่ะคนจะมีอีเว้นท์ปักธงในอดีตหมด มันก็เลยพอซับพอร์ตเนื้อเรื่องว่าทำไมสาวๆแต่ละคนรู้สึกดีกับพระเอก
และยอมทำตามที่พระเอกต้องการ แต่คาโต้นี่ไม่ใช่แบบนั้นเลย
เธอแทบจะรู้จักพระเอกมาก่อนแต่ก็ยอมตามน้ำมาเรื่อย จนตอนอ่านช่วงแรกก็สงสัยว่าเธอง่ายไปหรือเปล่า
ลองนึกภาพดูนะอยู่ดีๆก็ถูกเพื่อนร่วมชั้นชายที่ไม่เคยคุยด้วยเข้ามาวิจารณ์เสียๆหายๆ
หาว่าคาแรคเตอร์จืดจางบ้าง ไปเที่ยวกับญาติก็โดนบ่น มันใช่เรื่องของเอ็งเหรอฟะ
สาวๆทั่วไปเจอแบบนี้น่าจะตบพระเอกหน้าหันไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่เมงุมิก็ยังร่วมทำกิจกรรมกับพระเอกเรื่อยมา
จากผู้หญิงธรรมดาที่ไม่เคยสนใจการ์ตูนกับเกมเลย
จนในที่สุดกลับสามารถเขียนโปรแกรมเกมได้ มันค่อนข้างสุดยอดนะ
และเธอยังเป็นพวกทำงานเบื้องหลังที่คอยประสานความสัมพันธ์ของคนในกลุ่ม
ต่างกับพระเอกที่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่มเพราะเป็นคนตั้งเป้าหมายทำเกมเฉยๆ
แต่ก็บื้อทั้งเรื่องงานและเรื่องความสัมพันธ์จนเกือบทำเหลวหลายครั้ง
เมงุมิจะเซนต์ดีกว่าในเรื่องคน เธอมักจะดูออกว่าใครไม่พอใจ หรือมีความสามารถแค่ไหน
เช่นตอนที่พระเอกอาสาเขียนสคิปเกม เธออ่านขาดว่าพระเอกไม่น่าจะทำเสร็จคนเดียว
เธอจึงมาช่วยทำด้วย และก็เป็นดังที่เธอคาด
ถ้าพระเอกไม่ได้ความช่วยเหลือจากเธอล่ะก็เกมคงไม่เสร็จแน่นอน
แต่กว่าพระเอกจะเห็นความดีของเธอในฐานะรองหัวหน้ากลุ่มก็ปาไปเจ็ดเล่ม
จนอยากด่าว่าควายแว่นจริงๆ
ด้วยความที่เธอโดนให้ความสำคัญน้อยกว่าที่ควร
เธอจึงเป็นผู้หญิงที่ผมอยากบอกเธอว่า เธอคือคนสำคัญสำหรับผม
นงคราญสี่ ฮาเนคาว่า ซึบาสะ จากเรื่อง Monogatari Series ลิขสิทธิ์โดย Dexpress
Monogatari Series เป็นเรื่องราวของ อารารากิ โคโยมิ ที่บังเอิญไปพบแวมไพร์ใกล้ตายนามว่า คิสช็อต
อะเซโรล่า โอไรออน ฮาร์ทอันเดอร์เบลด
และได้สละเลือดเนื้อเพื่อช่วยคิสช็อตจนกลายเป็นแวมไพร์
แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือตาลุงโอชิโนะ เมะเมะ จนกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อีกครั้ง
หลังจากนั้นอารารากิก็ได้พบกับหญิงสาวที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับภูติ(ไคอิ)อีกหลายคน
และคอยให้ความช่วยเหลือพวกเธอเรื่อยมา
ซี่รี่ผมเริ่มจากดูอนิเมเพราะบทความแนะนำจากบทความแคมมี่
ในฐานะแนวฮาเร็มแล้วผมคิดว่าสอบตก เพราะมีการวิน มีหักธง แถมมีตัวละครหญิงปันใจ
แต่มันก็ยังเป็นซี่รี่ที่อัดแน่นด้วยตัวละครหญิงน่ารักน่ากอดมากมาย ทั้งชิโนบุจัง
มาโยอิจัง โอโอโนกิจัง แต่ถ้าจะให้ผมเลือกหญิงสาวที่ผมติดใจมากที่สุดในซีรี่นี้ล่ะก็ชื่อแรกที่ปรากฏในใจก็คือ
ฮาเนคาว่า ซึบาสะ สาเหตุที่ผมติดใจเธอก็เพราะว่าน่าสงสารครับ
นอกจากชีวิตของเธอจะดราม่าแล้ว เธอยังเป็นตัวละครหญิงที่โดนคนแต่งปู้ยี่ปู้ยำมากที่สุด
ฮาเนคาว่า ซึบาสะ เป็นตัวละครหญิงคนแรกที่ปรากฏตัวในปกรณัมของเหล่าภูตที่เป็นเล่มแรกของซีรี่
ตัวเธอเป็นสาวแว่นมาดหัวหน้าห้องที่ใจดี ฉลาด ดูเพอร์เฟค คำพูดติดปากของคือ
“ไม่ได้รู้ไปหมด แค่รู้เท่าที่รู้เท่านั้น” เธอค่อนข้างสนิทสนมกับอารารากิ
ซึ่งการเข้ามาเกี่ยวพันระหว่างฮาเนคาว่าและอารารากิก็ได้เปิดเผยในบทหลังๆ
และในปกรณัมของตำหนิ
ฮาเนคาว่าคือเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ก็มาทักอารารากิ
หลังจากที่อารารากิถูกแวมไพร์เล่นงาน ฮาเนคาว่าก็เป็นอีกคนที่เข้ามาช่วยเหลือเขาถึงขั้นเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง
โดยเธอให้เหตุผลว่า “นั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนควรทำ”
ตอนดูเมะฉากนี้ในโรงผมรู้สึกว่าเธอนี่ฮีโรอินสุดๆ อะไรจะเท่ได้ขนาดนี้
แต่หลังจากบทนี้อ.นิชิโอะก็ได้เริ่มเปิดเผยเนื้อในของฮาเนคาว่าที่ออกจะบิดเบี้ยวต่างจากเปลือกนอกที่เธอแสดง
ในปกรณัมของวิฬาร์
<นิลบท> ได้มีการเล่าถึงชาติกำเนิดของฮาเนคาว่าซึ่งค่อนข้างน่าเศร้า
เธอเป็นเด็กกำพร้า โดยเมื่อเธอยังทารกแบเบาะอยู่นั้น
แม่เธอได้ผูกคอตายเหนือเปลของเธอ เปลี่ยนซากศพของตัวเองแทนโมบายเด็กเล่น
แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือตัวฮาเนคาว่าในวัยนั้นกลับจำเหตุการณ์นั้นได้
ต่อมาฮาเนคาว่าก็ได้เวียนไปอยู่กับผู้อุปถัมน์หลายคน
และเปลี่ยนชื่อนามสกุลอยู่หลายครั้ง จนได้มาอยู่กับสามีฮาเนคาว่า
ซึ่งความสัมพันธ์ในครอบครัวฮาเนคาว่าก็ย่ำแย่ พ่อ แม่ ลูก
สามคนนั้นต่างคนต่างอยู่โดยสิ้นเชิง
จะเรียกว่าเป็นคนแปลกหน้าที่ต้องมาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็ไม่ผิด
เพราะต่างคนก็ไม่เคยพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์อะไรกันเลย โดยเฉพาะฮาเนคาว่าที่เป็นลูกสาวนั้นถึงกับไม่มีห้องหับของตัวเองในบ้านด้วยซ้ำ
แต่อาศัยหลับนอนตามพื้นระเบียง สมบัติติดตัวก็มีแค่มือถือกับเสื้อผ้าไม่กี่ตัว
สภาพแวดล้อมที่ชวนอึดอัดจนเสียสติแบบนี้ แต่ฮาเนคาว่าก็อดทนอยู่เรื่อยมา
โดยบอกตัวเองว่ามันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้
ซึ่งในบทนี้อารารากิเริ่มคิดว่าตัวเองหลงรักฮาเนคาว่าเนื่องจากเหตุการณ์ร่วมเป็นร่วมตายที่ผ่านมา
แต่เมื่อเขาได้พบฮาเนคาว่าที่หน้ามีแผลจากการถูกพ่อตบความรู้สึกนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไป
ตอนแรกเขาก็รู้สึกโกรธพ่อของฮาเนคาว่า
แต่พอได้เห็นฮาเนคาว่าอธิบายอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่ามันช่วยไม่ได้
ถ้าผู้ใหญ่คนไหนถูกเด็กหญิงอายุน้อยกว่ามาทำเป็นรู้ดีใส่ก็ต้องโกรธกันทั้งนั้น
คำพูดที่เหมือนกับเป็นคนดี เข้าใจโลก แม้ว่าตัวเองจะเพิ่งโดนตบมา
ทำให้อารารากิที่เพิ่งคิดว่าตัวเองอาจตกหลุมรักฮาเนคาว่า กลับคิดไปว่า
“ยัยนี่น่าขยะแขยง” ซึ่งปกติแล้วคนเราก็มักจะหมั่นไส้คนที่ทำตัวเป็นคนดีอยู่แล้ว
คนเขียนยังให้ตาลุงโอชิโนะมาอธิบายว่า
ฮาเนคาว่านั้นเป็นคนที่ชอบทำตัวเป็นคนดีสมบูรณ์แบบจนที่อยู่ด้วยจะรู้สึกอึดอัด
ต่อมาฮาเนคาว่าได้ช่วยฝังศพแมวที่ถูกรถชนทำให้เธอถูกภูติแมวเข้าสิง
และเข้าไปทำร้ายพ่อแม่เพื่อระบายความเครียดในใจ
ซึ่งภายหลังภูติแมวก็ได้บอกถึงสิ่งที่ทำให้เห็นความบิดเบี้ยวของฮาเนคาว่ายิ่งขึ้น
“ตอนที่เจ้านายฝังศพข้า เธอไม่ได้มีความรู้สึกสงสารเลยซักนิด
ก็แค่คิดว่าทำสิ่งที่ควรทำเท่านั้น”
ซึ่งเป็นการบอกถึงตัวตนของฮาเนคาว่าที่ดูจากเปลือกนอกแล้วเหมือนเป็นคนดี
แต่จริงแล้วเป็นคนผิดปกติ ที่ต่อให้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบแต่ถ้าสมควรทำก็จะทำ
ต่อให้เจอเรื่องที่ทำให้ทรมานแต่ก็จะอดทนเหมือนไม่มีอะไร กระทั่งเหตการณ์ที่เธอช่วยเหลืออารารากิก่อนนี้
ก็แค่อาจะจะทำไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรทำเฉยๆก็เป็นได้
ในตอนจบบทแมวดำ
อารารากิยอมรับว่าความรู้สึกที่มีให้ฮาเนคาว่านั้นเกินความรักไปไกล
แต่เขาก็ไม่คิดจะสารภาพรักกับฮาเนคาว่าหรือคบกับเธอ พูดง่ายคือเทครับ
เหตุผลก็คือเรารู้สึกดีๆกับเธอนะ แต่นิสัยเธอน่าขยะแขยง คบไปก็คงไม่รอด
เป็นแค่เพื่อนดีกว่า อ่านจบแล้วอาจจะรู้สึกขัดๆ
แต่ถ้าคนเขียนให้ทั้งคู่คบกันก็อาจจะไม่เกิดประเด็นดราม่าให้แต่งต่อได้ล่ะนะ
ถ้าหากเนื้อเรื่องกำหนดให้ฮาเนคาว่าเป็นยัยโรคจิตที่ชอบทำตัวเป็นคนดี
ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว เหมือนกับผู้หญิงบางคนที่โอชิโนะเคยเตือนอารารากิ
มันก็คงไม่ดราม่าเท่าไหร่ แต่ภายในเปลือกที่ดูสมบูรณ์แบบ เข้าอกเข้าใจ
และเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สา ภายในฮาเนคาว่าก็เป็นสาวน้อยธรรมดาที่มีรัก มีอิจฉา
มีเกลียด ในเล่มสองของปกรณัมของเหล่าภูติเมื่อเธอรู้ว่าอารารากิคบกับเซ็นโจกาฮาระ
ก็เครียดจนถูกแมวภูติสิงอีกครั้ง ต่อมาในบทปกรณัมของวิฬาร์ <เสตบท> เมื่อเห็นพ่อแม่บุญธรรมรักกันเธอก็อิจฉาจนสร้างภูตเสือออกมาเผาบ้านวอดวาย
(เอาจริงเธอน่าจะเป็นตัวละครที่อิทฤทธิ์เยอะรองจากคิสช็อตแล้วมั้งเนี่ย)
แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ไม่แสดงออก แม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่ต่อต้าน
กระทั่งในยามที่คิดเธอคิดจะกลับตัวใหม่ก็ไม่อาจเรียกชายที่รักคืนมาได้แล้ว ฮาเนคาว่าจึงเป็นตัวละครที่น่าสงสารสุดๆ
ผมอาจบอกไม่ถูกว่ารักหรือชอบตรงไหนได้ชัดเจน แต่ผมอยากให้สาวน้อยที่น่าสงสารคนนี้มีความสุขจริงๆ
แถมอีกนิดสำหรับทฤษฎีที่โยงว่านักสิบขี้ลืมคือฮาเนคาว่า
ผมปัดตกครับ เพราะในปกรณัมปนเปนั้นมีฉากที่อารารากิครอสกับนักสือขี้ลืม
ดังนั้นถ้าเธอเป็นฮาเนคาว่าเนื้อเรื่องจะขัดแย้ง และที่สำคัญผมคิดว่าเมื่อเธอไปจากอารารากิจริงๆก็ควรไปอย่างมีความสุข
ไม่ใช่กลายเป็นคนความจำเสื่อมโดนผูกติดกับสนง.ที่ไหนไม่รู้็นฮาเนคาวเนอเรองจขดแยงกน
นงคราญห้า สเตฟานี่ โดร่า จากเรื่อง No Game No Life ลิขสิทธิ์โดย
Animax
No Game No Life เป็นเรื่องของสองพี่น้อง
ชิโระ กับ โซระ ซึ่งเป็นฮิคกี้นีทติดเกม และใช้ชื่อ “ คูฮาคุ” แข่งเกมประเภทต่างๆและไม่เคยแพ้จนกลายเป็นตำนานมาเมือง
ต่อมาทั้งคู่แข่งเกมหมากรุกชนะเทพเจ้าที่ชื่อ เทย์โตะ จึงถูกอัญเชิญมายังโลกที่เรียกว่าดิสบอร์ด
ซึ่งผู้คนในโลกนี้ถูกควบคุมโดยบัญญัติ 10 ประการ
ทำให้ไม่สามารถทำร้ายกันโดยตรงได้ แต่ต้องตัดสินทุกอย่างด้วยเกมแทน
ใครแข่งเกมแล้วแพ้ก็ต้องยอมทำตามที่เดิมพันไว้ก่อนแข่ง
ในโลกนี้ดิสบอร์ดก็มีเผ่าพันธุ์ต่างๆทำสงครามแย่งชิงดินแดนผ่านทางเกม
โดยดินแดนที่โซระกับชิโระได้เหยียบย่างเป็นที่แรกคือเมืองของอิมานิตี้หรือเผ่ามนุษย์ที่กำลังหลังชนฝา
เพราะเสียดินแดนและสิทธิ์ต่างๆไปมากมายเนื่องจากแพ้ในการแข่งเกมกับเผ่าอื่นติดต่อกัน
จนเหลือแค่เมืองหลวงอยู่แห่งเดียว ซึ่งทั้งคู่ก็ตกลงจะช่วยเหลือ สเตฟานี่ โดร่าหรือสเตฟ
หลานสาวของอดีตราชาเผ่าอิมานิตี้ที่ตายไปแล้ว ไปแข่งเกมกับเผ่าอื่นๆเพื่อกอบกู้เผ่าอิมานิตี้
แม้ว่าปัจจุบันเรื่องโนเกมโนไลฟ์จะมีตัวละครหญิงเพิ่มขึ้นมากมาย
จนเกือบจะเป็นฮาเร็มหลากเผ่าพันธ์แบบกลายๆ ทั้งยังอุดมด้วยตัวละครโลลิน่ารักๆ
เช่นชิโระ อิสึนะ ไฮโร หรือจิบริลที่สวยโหดได้มีเสน่ห์ (น่าเสียดายที่หลังๆเริ่มฮาร์ดคอร์เกินจนความน่ารักลดลง)
แต่ตัวละครหญิงที่ผมอวยสุดลิ่มทิ่มประตูทุกครั้งที่รีวิวแต่ล่ะเล่มก็คือสเตฟนี่ล่ะ
สเตฟนั้นเป็นตัวละครที่ถูกเซ็ตให้เป็นคนที่เล่นเกมไม่เก่งและสติปัญญาไม่ได้สูงนัก
เนื่องจากโนเกมโนไลฟ์เป็นนิยายที่มีเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายในการแข่งเกมอยู่มาก
จึงจำเป็นที่ต้องมีตัวละครที่มีสติปัญญาระดับค่าเฉลี่ยมาเพื่อใช้อธิบายลูกเล่นของพวกตัวละครฉลาดๆให้คนอ่านเข้าใจ
เช่นเดียวกับพวกแนวสืบสวนเช่น โฮล์มต้องมีวัตสัน โคนันต้องมีพวกสารวัตต่างๆ มาเป็นตัวแทนคนอ่านทำความเข้าใจทริคในแต่ละคดี
แต่สเตฟนี่ค่อนข้างอาภัพกว่าตัวละครพวกนั้น เพราะมีหลายครั้งที่เธอโดนตัวละครอื่นเหยียดๆเรื่องความฉลาด
แถมแข่งเกมก็ไม่เคยชนะใคร และบ่อยครั้งที่แข่งเกมแพ้โซระจนโดนเอารัดเอาเปรียบ
แต่ขอยืนยันครับว่าสเตฟไม่ใช่พวกโง่ไร้ความสามารถครับ
สเตฟนั้นแข่งเกมไม่เก่งเพราะเธอเป็นคนซื่อๆตรงๆ
ไม่ถนัดหลอกคนอื่นและมักจะถูกหลอกง่ายๆ กระนั้นเธอก็เป็นคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยมครับ
เห็นได้จากตอนที่โซระและชิโระแข่งเกมจนได้เป็นราชาของอิมานิตี้
แต่พวกงานบริหารบ้านเมืองนั้นโยนให้สเตฟทำหมด เพราะทั้งคู่ถนัดเล่นเกมไม่ถนัดการเมือง
และเสพติดใช้ชีวิตแบบนีต ซึ่งเสตฟก็สามารถจัดการงานๆต่างได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
หรือตอนที่ไปแข่งเกมกับเผ่าเงือก
ที่ทุกคนต้องไปอวตารไปเป็นนักเรียนม.ปลายในเกมจีบ เพื่อจีบราชินีเงือก
โซระกับชิโระไปอยู่ในเกมก็กลายเป็นพวกมืดมนไม่มีคนคบ
แต่สเตฟนี่กลายเป็นพวกเรียลจูมีคนมาห้อมล้อม
ยิ่งในเล่ม Practical War Game ที่เป็นรวมตอนสั้น
ได้มีตอนที่อวยสเตฟสุดๆ คือเธอต้องการยกระดับตัวเองให้แข่งเกมชนะโซระได้จนสติแตกและต้องล้มหมอนนอนเสื่อไป
ซึ่งระหว่างนั้นงานบริหารกลุ่มพันธมิตรเผ่าต่างๆที่เข้ามาเป็นพวกเดียวกัน
จึงต้องให้โซระกับชิโระดูแล แต่ถึงจะรวบรวมความช่วยเหลือจากบุคลาการคนอื่นๆเท่าที่หาได้
โซระก็ยอบรับว่าพวกเขามีความสามารถทำงานแทนสเตฟได้แค่ไม่กี่วัน
ถึงแม้เขาจะสามารถเล่นเกมชนะดึงเผ่าอื่นมาเป็นพวกได้
แต่คนที่จะสามารถบริหารกลุ่มที่รวมตัวกันจนมีขนาดใหญ่แบบนี้ได้มีเพียงสเตฟคนเดียวเท่านั้น
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าแม้สเตฟจะเล่นเกมไม่เก่ง
แต่เธอก็เป็นคนที่คอยสนับกลุ่มอยู่เบื้องหลัง แม้ว่าจะโดนแกล้ง โดนดูถูก หรือกระทั่งล้างสมองจนเป็นโรคจิตทีละนิด
ก็ยังคงทำงานหนักเพื่อกลุ่มโดยไม่เคยเกี่ยง
ยิ่งบทที่ต้องเล่นเกมทอยลูกเต๋ากับเผ่าเทพนี่ทำผมหลกรักเธอเลย เนื้อหาของเกมนี้คือเป็นเกมทอยลูกเต๋าให้ไปถึงเส้นชัยโดยตอนเริ่มทุกคนจะมีลูกเต๋าสิบลูก
และพอทอยไปเทิร์นหนึ่งลูกเต๋าจะลดลงไปทีละลูก แต่อุปสรรคของเกมคือจำนวนช่องเยอะมาก
ถ้าอยากไปให้ถึงเส้นชัยจะเป็นต้องยืมลูกเต๋าจากเพื่อน
แต่เนื่องจากเผ่าเทพได้ใส่คนทรยศเข้ามาในกลุ่มพระเอก แถมถ้าลูกเต๋ษหายหมดคนๆนั้นจะต้องตาย
ทำให้ไม่มีใครไว้ใจกล้ามอบลูกเต๋าให้คนอื่น สุดท้ายกลายเป็นว่าทุกคนล้วนหักหลังต้องมาฟาดฟันกันเองหมด
มีแต่สเตฟนี่ล่ะครับที่เริ่มมาก็ยอมยกลูกเต๋าให้โซระหมดเลย เรียกว่าไม่มีความระแวง
ความคิดคดแม้แต่น้อย น่ารักซะไม่มี
ยิ่งกว่านั้นเกมทอยเต๋านี่
การเดินทางไปแต่ละช่องต้องเดินทางข้ามพื้นทีเป็นระยะทางไกล
บางทีก็ต้องผ่านทะเลทรายหรือภูเขา
ซึ่งอดีตฮิคกี้สองพี่น้องไม่มีทางเดินทางได้เองแน่
แต่เพราะมีสเตฟคอยช่วยเหลือทั้งช่วยด้านหาอาหารการกิน หาที่นอนหลับพักผ่อน
บางทีก็แปลงตัวเป็นภาหนะลากรถให้บ้าง อุ้มให้ขี่หลังบ้าง สุดท้ายโซระกับชิโระจึงมาถึงเส้นชัยจนสำเร็จ
แม้ว่าบทเล่นเกมกับเผ่าเทพจะมีการโชว์ปมดราม่าโชว์ความเกมของตัวละครหลายคน
แต่ก็มีสเตฟนี่ล่ะครับที่ผมรู้สึกว่าความดีของเธอเข้าตาจนโดนใจที่สุด
สเตฟานี่ โดร่า
เป็นหญิงสาวที่ผมอยากเดินตรงไปจับไหล่และบอกว่าเธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
นงคราญหก ชิกุมะ ริกะจากเรื่อง ชมรมคนไร้เพื่อน ลิขสิทธิ์โดย Luckpim
ชมรมคนไร้เพื่อนเป็นเรื่องราวของโคดากะ
เด็กหนุ่มที่มีหน้าตาหน้ากลัวเหมือนนักเลงทำให้ไม่มีเพื่อน ซึ่งเขาก็ได้บังเอิญไปเห็นโยโซระที่เป็นคนไม่มีเพื่อนเหมือนกันกำลังพูดคุยกับเพื่อนในจินตนาการ
โยโซระจึงบังคับให้โคดากะมาก่อตั้งชมรมเพื่อนบ้าน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะหาเพื่อนและกลายเป็นพวกเพียบพร้อม
หลังจากนั้นก็มีตัวละครอื่นๆทยอยเข้าชมรมมา
และก็ร่วมกันทำกิจกรรมชมรมแบบไร้แก่นสาร
จุดเด่นของชมรมคนไร้เพื่อนก็คือเป็นเลิฟคอมที่อุดมไปด้วยสาวสวยเสียของ
เป็นนิยายที่ผมยกให้สนุกขึ้นหิ้งเลยล่ะ น่าเสียดายที่ช่วงท้ายๆคนเขียนหักจบได้ WTF ซึ่งก็ถือเป็นสไตล์ของอ.โยมิเขาล่ะนะ
ที่มักจะเขียนแต่ล่ะเรื่องไม่ยาวนักแล้วก็มักจะมีตอนจบที่ค่อนข้างเหนือการคาดเดาคนอ่าน
ที่จบดีๆก็น่าจะมีแต่เนคุโรมะ แต่ก็ถือว่าหักมุมพอสมควร เพราะเนื้อเรื่องปูมาให้ดราม่าแต่อยู่ดีๆดันหักจบแฮปปี้กันทุกฝ่ายซะงั้น
ก็รอลุ้นอยู่ว่าเรื่องคงจะดีถ้ามีน้องสาวซักคนจะจบยังไง
แม้ว่าเรื่องชมรมคนไร้เพื่อนจะมีสาวๆโมเอะระดับพรีเมี่ยมอยู่หลายคน
แต่ตัวละครที่ผมขอเทคะแนนให้ไม่ใช่นางเอกหลักแบบโยโซระหรือเซนะ หรือนางฟ้าโคบาโตะ(แต่เธอก็ติดท๊อปตัวลฃะครน้องสาวในดวงใจนะ)
แต่เป็นชิกุมะ ริกะ สาวนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ที่ชอบเล่นมุขเสื่อม
และชอบอ่านโดจินหุ่นยนต์จำจี้กันนี่ล่ะ
ชิกุมะ ริกะ
เป็นรุ่นน้องโคดากะหนึ่งปี เธอเป็นนักเรียนห้องวิทยาศาสตร์
หรือเป็นนักเรียนพิเศษที่เป็นอัจฉริยะทำให้ไม่ต้องเข้าเรียนกับนักเรียนปกติ
และมักจะใช้เวลาทำการทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ วันหนึ่งได้เกิดอุบัติเหตุในการทดลองทำให้เธอหมดสติและได้โคดากะช่วยออกมาจากห้องวิทยาศาสตร์
ทำให้เธอสนใจในตัวโคดากะและมาเข้าชมรมเพื่อนบ้าน
แม้ว่าจะเข้าชมรมด้วยเหตุผลข้างต้น
แต่นอกจากโคดากะแล้วก็มีริกะนี่ล่ะที่เป็นคนจริงจังกับการหาเพื่อนมากที่สุดในชมรม
ขณะที่สาวๆคนอื่นดูแล้วเข้าชมรมมาด้วยเหตุผลแอบแฝงมากกว่า เวลามาทำชมรมก็ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง
โยโซระอ่านหนังสือ เซนะเล่นเกม ยูคิมูระชงชา มีแต่ริกะที่คอยหาเกมหาอุปกรณ์มาให้ทุกคนทำกิจกรรมร่วมกัน ตอนที่ทุกคนร่วมกันทำภาพยนต์
เธอก็หักโหมทำงานตัดต่อจนกระทั่งล้มหมอนนอนเสื่อไป
ขอสารภาพว่าผมเริ่มมาชอบริกะตอนช่วงท้ายๆเรื่อง
ที่ชมรมพบมรสุมเนื่องจากสาวๆแต่ล่ะคนต่างก็ชอบโคดากะจนชมรมเผจิญวิกฤตจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
เป็นช่วงที่โคดากะใช้มุขอะไรนะไม่ได้ยินมาประวิงเวลา ซึ่งบรรดาสาวๆและคนอ่านต่างก็เห็นว่าวิธีนี้ห่วยแตกสิ้นดี
จนถึงกับตั้งฉายาว่าโคดากากทีเดียว
แต่นอกจากโคดากะแล้วก็มีริกะนี่ล่ะครับที่พยายามรักษาความสัมพันธ์ของทุกคนในชมรม
ซึ่งมันทำให้ผมประทับใจนะเพราะสาวๆแต่ล่ะคนนี่จะโยโซระ เซนะ หรือยูคิมูระ
จะมากจะน้อยก็มีความเห็นแก่ตัวเอาแต่ใจกันทั้งนั้น
มีแต่ริกะนี่ล่ะครับที่มีความคิดเสียสละเพื่อกลุ่ม เพราะเธอเห็นว่าทุกคนเป็นเพื่อน
และเธอคือสาวคนแรกที่โคดากะคบเป็นเพื่อนด้วย
ต่อมาโคดากะตัดปัญหาโดยตั้งใจว่าจะไม่คบกับสาวคนไหนในชมรมเป็นแฟน
และถึงจะมีแฟนแล้วเขาก็จะให้ความสำคัญกับเพื่อนๆในชมรมมาก่อนอยู่ดี
ซึ่งมันก็ทำให้สาวๆแต่ล่ะคนนกกันเป็นแถบ ยูคิมูระลงทุนออกจากชมรมเพื่อคบกับโคดากะ
แต่สุดท้ายเธอก็ถูกโคดากะทิ้งเพราะต้องการให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่า
ส่วนเซนะหรือเนื้อนี่โดนโคดากะบอกเทกันตรงๆ แม้ว่าโคดากะจะพอมีใจให้เซนะอยู่บ้าง
แต่ด้วยนิสัยของเธอถ้าโคดากะคบด้วยล่ะก็ทั้งชมรมวงแตกแน่
ส่วนโยโซนะนี่อนาถสุดเนื่องจากความรักของเธอมันหนักอึ้งเกินไป จนโคดากะไม่แม้แต่จะเอาเธอไปไว้ที่จุดสตาร์ทด้วยซ้ำ
มีแต่ริกะนี่ล่ะครับที่แตกต่างจากเพื่อน
คือเธอเป็นผู้หญิงที่โคดากะคิดละเมิดข้อห้ามขอเป็นแฟนด้วย แถมยังสารภาพรักแบบอ้อมๆ
แต่เธอปฏิเสธครับ ขอบอกว่าฉากนั้นผมสะใจว่ะครับ
แต่พออ่านจบแล้วถือว่าน่าเสียดายเหมือนกันเพราะบทสรุปของเธอดูแล้วไม่เปิดช่องให้มาเจอกับโคดากะในอนาคตได้เลย
ยูคิมูระนี่อย่างน้อยก็เคยคบกันแล้ว เซนะก็ยังมีอีเว้นไปเรียนมหาลัยเดียวกัน
โยโซระที่มาทำงานกับตระกูลของเซนะก็น่าจะยังพอมีโอกาศเจอกันอยู่
มีแต่ริกะนี่บล่ะครับที่จะจิ้นว่าเธออาจจะมาลงเอยกับโคดากะในอนาคตได้ค่อนข้างยาก
สำหรับผม ชิกุมะ ริกะ
คือผู้หญิงแบบที่ถึงจะคบเป็นแฟนไม่ได้ก็อยากเป็นเพื่อนก็ยังดี
นงคราญเจ็ด คุจิคาวะ ฮาโตโกะ จากเรื่อง พลังป่วนก๊วนเหนือธรรมชาติ ลิขสิทธิ์โดย Zenshu
พลังป่วนก๊วนเหนือธรรมชาติ ป็นเรื่องของอันโด
จุรัยและสมาชิกชมรมวรรณกรรมอีกสี่คน ที่อยู่ดีๆก็ได้รับพลังพิเศษขึ้นมา โดยที่สาวๆชมรมวรรณกรรมแต่ล่ะคนนั้นได้พลังเทพๆอย่างหยุดเวลาได้
ควบคุมธาตุต่างๆได้ มีแต่จุรัยผู้เป็นจูนิเบียวกลับมีพลังแค่เสกไฟสีดำที่เอาไว้ให้ดูเท่แต่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้
เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นเลิฟคอมเกี่ยวกับการใช้พลังพิเศษเล่นสนุกสนานไปวันๆของคนในชมรม
และมีการสอดแทรกประเด็นดราม่านิดหน่อย (แต่เล่มหลังๆเริ่มดราม่าเข้มข้น)
ฮาโตโกะ นั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของจุรัยและเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรม
ผู้มีพลังควบคุมธาตุทั้ง 5 ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นสาวซึนเดเระนมแบนแบบเพื่อนสมัยเด็กพิมพ์นิยม
แต่ผมก็ยกย่องเธอเป็นตัวละครเพื่อนสมัยเด็กในอุดมคติ ถ้ามีการจัดอันดับเพื่อนสมัยเด็กในดวงใจก็คงติดอันดับท๊อปๆแน่
(น่าจะมีแต่เทลบลูนี่ล่ะที่ทำแต้มเพื่อนสมัยเด็กเหนือกว่า
แต่เนื่องจากนิยายยังไม่มี LC เลยไม่เอาเธอมาจัดอันดับในบทความนี้)
ฮาโตโกะนั้นเป็นผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยและยิ้มแย้มอยู่เสมอ
เมื่อมาเข้าคู่กับจุรัยที่เป็นจูนิเบียวขี้โวยวายแล้ว กลับดูเหมือนคุณแม่ใจดีชอบโอ๋ลูกต้องคอยรับมือกับลูกชายเฮี้ยวๆที่ทำตัวเป็นจูนิเบียวซะมากกว่า
บทบาทของฮาโตโกะช่วงแรกๆก็คือ แสดงท่าทีไม่เข้าใจเวลาจุรัยเล่นมุขจุนิเบียว
จนคนเล่นเกิดอาการเสียเซลฟ์แทน
แม้ว่าจะมีบุคลิกดูสงบเสงี่ยม
แต่ตอนเด็กๆเธอก็มีความซุกซนเหมือนเด็กทั่วไป
สมัยเรียนประถมเธอไปกดออดสัญญาณหนีไฟเล่น ทำให้คนทั้งโรงเรียนหนีออกจากอาคารหมด
ฮาโตโกะที่กลัวความผิดก็ได้ไปแอบอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงเรียน
และคนที่หาเธอเจอก็คือจุไร และเขาก็ได้ให้กำลังใจเธอไปขอโทษทุกคน
ซึ่งเป็นอีเว้นเริ่มต้นที่ฮาโตโกะเริ่มชอบจุรัย
หลังจากที่เริ่มสนิทสนมกันจุรัยที่เป้นโอตาคุก็มักจะแนะนำมังงะหรือไลท์โนเวลที่ตัวชอบให้ฮาโตโกะอ่าน
แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องพวกนี้สนุกตรงไหน
หรือไอ้ตรงที่จุรัยบอกว่าดีนี่มันสุดยอดยังไง จุรัยก็ได้แต่พยายามอธิบายไป
แต่ก็ไม่เป็นผลจนต้องถอนใจเฮือกๆ ในชีวิตจริงก็มีคนแบบฮาโตโกะนะ
พวกที่เข้าไม่ถึงความสนุกของเรื่องแต่ง ถ้าเผลอไปคุยเรื่องการ์ตูนกับคนพวกนี้ล่ะก็
รับรองเสียเซลฟ์หนัก
จนกระทั่งทั้งคู่ขึ้นชั้นม.ต้น
จุไรกับฮาโตโกะก็ได้คบหากับซางามิและทามากิแฟนสาวของซางามิ ทั้งสี่คนจับกลุ่มเที่ยวเล่นกันเหมือนวัยรุ่นทั่ว
สำหรับจุไรนั้นซางามิกับทามากิเป็นคู่รักในอุดมคติและต่างเป็นเพื่อนคนสำคัญ
แต่เรื่องราวกลับพลิกผันสุดท้ายซางามิกับทามากิก็เลิกรากัน เพราะทามากิเป็นสาวใจแตกเนื่องจากขาดความอบอุ่นในวัยเด็ก
จนนอกใจซางามิ แถมยังมาอ่อยจุรัยอีกต่างหาก
ส่วนซางามิเนื้อแท้ก็เป็นสวะที่สนใจแต่ตัวเอง ถ้าฝ่ายหญิงไม่มีจุดที่ไม่สเป็คก็จะเขี่ยทิ้งทันทีไม่สนอะไรทั้งนั้น
เหตุการณ์นั้นทำให้จุไรพบว่าตัวไม่ได้รู้จักเนื้อแท้ของคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนเลย
ทำให้เขาสิ้นหวังจนร้องไห้ออกมา ตอนนั้นเองที่ฮาโตโกะปรากฏตัวขึ้น
เธอถามว่าจุไรเป็นอะไร แต่จุไรก็พูดไม่ออกเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับฮาโตโกะที่ใสชื่อและไม่ประสีประสาเรื่องความรักชายหญิงยังไง
ตอนนั้นฮาโตโกะก็ร้องไห้ออกมาเหมือนกัน
เธออธิบายถึงไม่เข้าใจสาเหตุแต่ซางามิกับทามากิก็เป็นเพื่อนของเธอ
ถ้าทั้งคู่ระหองรแหงกันเธอย่อมเศร้า นอกจากนั้นผมคิดว่าอีกสาเหตุที่ฮาโตโกะร้องไห้ก็เพราะเธอเห็นจุไรในสภาพตรอมตรม
จนตัวเองก็พลอยใจสลายไปด้วยกัน
จากนั้นก็มาสู่ช่วงม.ปลาย
จูไรสามารถผ่านเรื่องราวครั้งนั้นและกลับมาจูนิเบียวเหมือนเดิม
ฮาโตโกะก็ยังคงความสัมพันธ์ของเพื่อนสมัยเด็กผูที่ไม่เข้าใจแต่ก็อยู่เคียงข้างจุไรเสมอ
จนกระทั่งทั้งคู่เข้าชมรมวรรณกรรมและพบกับโทโมยะ หัวใจของฮาโตโกะก็ค่อยหวั่นไหวขึ้นมา
โทโมโยะนี่ผมคิดว่าเป็นตัวละครที่คนเขียนอวย
เป็นนางเอกหลักขึ้นปกคนแรกด้วย บทของเธอคือเป็นโอตาคุแบบแอบๆอดีตจูนิเบียว
แต่ก็มักเผลอตัวรับมุกตบมุกกับจูไรเสมอ แม้ตอนแรกจะออกแนวคู่กัด
แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับจุไรก็ค่อยๆเพิ่มความใกล้ชิดขึ้น เพิ่มแฟคเตอร์ซึนเดเระอีกต่างหาก
แถมตอนที่จุรัยหดหู่สุดเพราะเรื่องซางามิกับทามากิก็กลับมาสดใสอีกครั้งเพราะได้โทโมยะพูดปลุกใจนี่เอง
เมื่อเห็นจุไรกับโทโมโยะแอบกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
ฮาโตโกะก็ถามว่าทั้งคู่กำลังพูดอะไรกัน ซึ่งจุไรก็ตัดบทไปว่าไม่ต้องสนใจหรอกเพราะยังไงฮาโตโกะก็คงไม่เข้าใจ ซึ่งนั่นเองทำให้ฮาโตโกะฟิวส์ขาด
หลั่งน้ำตานองหน้า พร้อมกับพูดระเบิดยาวสองหน้า พร่ำพร้าถึงความอึดอัดที่ผ่านมา
ตลอดมาแม้ว่าเธอไม่ค่อยเข้าใจจูไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่พยายามจะเข้าใจ
ฮาโตโกะนั้นจดจำทุกคำพูดของจุไรได้เสมอ แม้จะเป็นคำพูดที่พูดเล่นๆก็ตาม
เธอพยามทำความเข้าใจกับหนังสือที่จุไรมอบให้ มุกจูนิเบียวที่จุไรเล่น
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจเธอก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อที่จะอยู่เคียงข้างจุไรมาโดยตลอด
สุดท้ายจุไรกับฮาโตโกะก็ปรับความเข้าใจกันได้
และนั่นทำให้เธอแน่ใจในความรู้สึกตัวเอง ถึงกับประกาศต่อหน้าโทโมโยะว่าตัวเองชอบจูไร
แต่ก็เพราะบทของฮาโตโกะนี่ล่ะทำให้ผมหวั่นๆว่าเรื่องนี้จะไม่จบฮาเร็ม
เพราะคนเขียนดูจงใจยัดเยียดดราม่าให้เธอชอบกล
ทั้งที่จุไรเป็นคนที่ค่อนข้างนึกถึงจิตใจสาวๆทุกคนนะ
มีแต่เธอนี่ล่ะดันพลาดทำให้เสียใจ จนกลายเป็นดูดร๊อปไปเลยสำหรับพระเอกฮาเร็ม
แต่ยังไงผมก็ว่าเรื่องนี้ฮาโตโกะจะพบกับความสุขในตอนท้ายล่ะนะ
สำหรับผมก็ไม่อยากได้คนที่เข้าใจตัวเองไปซะทุกอย่างหรอกครับ
แบบนั้นมันอึดอัดเกิน แค่อยู่ด้วยกันเสมอ เวลาสุขก็หัวเราะไปด้วยกัน
เวลาเศร้าก็ร้องไห้ไปด้วยกัน แบบฮาโตโกะกับจุรัยแค่นี้ก็อบอุ่นหัวใจแล้วครับ
นงคราญแปด ริรี่รูก้า
อาเด้ จากเรื่อง มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน ลิขสิทธิ์โดย Zenshu
“มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน” หรือชื่อเล่นคือดันมาจิ
เป็นเรื่องในโลกแฟนตาซีที่บรรดาทวยเทพได้ลงมาจากสวรรค์
และใช้ชีวิตกับเหล่ามนุษย์ในฐานะแฟมิลี่ โดยทวยเทพจะมอบพรทำให้ความสามารถของมนุษย์เพิ่มขึ้น
แลกกับการที่มนุษย์จะต้องเป็นนักผจญภัยในดันเจี้ยน
หรือค้าขายเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูปูเสื่อเทพ
เบล คราเนล
ตัวเอกของเรื่องเป็นสมาชิกของเฮสเตียแฟมิเลีย ที่มีสมาชิกแค่เขากับเทพี “เฮสเตีย”
แถมฐานะการเงินก็ร่อแร่ ต้องพักอาศัยอยู่ในอาคารซ่อมซ่อ
ต่อมาเบลได้รับการช่วยชีวิตจากไอน์ วาเลนสไตน์ นักผจญระดับสูงผู้สังกัดโลกิแฟมิเลีย
ที่เป็นแฟมิลี่ใหญ่อันดับต้นๆ
นับจากนั้นเบลก็หลงใหลในตัวไอน์และพยายามเติบโตในฐานะนักผจญภัยเพื่อเข้าใกล้เธอ
ซึ่งนิยายส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องการผจญภัยของเบลในการฝึกฝนฝีมือ หาเงินหาทอง
รวบรวมพรรคพวก ขยับขยายแฟมิลี่
และได้เข้าช่วยเหลือผู้คน(ส่วนใหญ่ก็สาวๆนั่นล่ะ)ที่กำลังลำบาก
จุดขายของเรื่องดันมาจิก็มีมากมายเช่นการรวมปกรณัมต่างๆทั้งเทพกรีก
เทพนอร์ส เทพอินเดียเอาไว้ หรือฉากบู๊มันๆของตัวเอกสายเคะที่พยายามพัฒนาตนเองอย่างไม่ย่อท้อ
และที่ขาดไม่ได้ก็บรรดาคาแรคเตอร์หญิงแจ่มๆทั้งหลาย เช่นสาวคูลบิวตี้อย่างไอน์
สาวเอลฟ์สุดแกร่งอย่างริว ที่ต่างก็ได้มีภาคแยกของตัวเองเรียบร้อย หรือเฮสเทียท่านเทพสุดสดใสที่พกขีปนาวุธมาสองลูก
กับเฟรย่าเทพีสตอร์คเกอร์ ต่างก็มีแฟนคลับเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่กระนั้นตัวตัวละครหญิงที่ผมขออวยมากที่สุดในเรื่องก็คือ
รีรี่ ซัพพอร์เตอร์โลลิ ผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมครับ
รีรี่นั้นปรากฏตัวในเล่มสอง
โดยเธอเข้าตีมาสนิทขอจับกลุ่มกับเบลในฐานะซัพพอร์ตเตอร์ หรือก็คือคนขนของที่มีหน้าที่ขนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่ล่าได้จากมอนในดันเจี้ยน
ซึ่งตอนที่ดันมาจิฉบับอนิเมได้ฉายตอนที่รีรี่ปรากฏตัวนั้นเธอโดนคนดูประนามพอดู
เนื่องจากที่เธอมารวมกลุ่มเบลนั้นเพราะต้องการปอกลอก และขโมยมีดสั้นของเบล ซึ่งหนุ่มเบลแสนดีนั้นแม้จะเห็นพิรุธของเธอแต่ก็ไม่ว่าอะไร
ทำให้คนดูบางคนทนไม่ได้ต้องมาด่าเธอแทน
อดีตของรีรี่นั้นน่าสงสารมากครับ
เธอเป็นเผ่าพารูม(ฮอบบิทนั่นล่ะ) พ่อแม่ของเธอเป็นสมาชิกของโซม่าแฟมิเลีย
ซึ่งโซม่าหรือที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยในชื่อพระโสม
นั้นสนใจแต่งานอดิเรกหมักเหล้าของตัวเองอย่างเดียว
ไม่ได้สนใจดูแลแฟมิเลียหรือความเป็นอยู่ของสมาชิกเลย
ใครจ่ายเงินให้พี่แกก็มาเป็นสมาชิกได้แล้ว แต่ก็ยังมีคนมาร่วมเป็นแฟมิเลีย
เพราะเหล้าเทพที่โซม่าผลิตนั้นเป็นเหล้าที่เลิศรสสุดยอด ใครได้ดื่มไปแม้จิบเดียว
ก็จะเกิดอาการเสพติด จนต้องพยายามหาเงินหาทองมาซื้อเหล้าเทพให้ได้ (ยาเสพติดชัดๆ)
ซึ่งพ่อแม่ของรีรี่เองก็เสียชีวิตในดันเจี้ยนเพราะต้องการหาเงินมาแลกกับเหล้าเทพ
รีรี่ที่กลายเป็นกำพร้าก็เหมือนกับทาสในเรือนเบี้ย
ถูกบีบให้เข้าเป็นสมาชิกโซม่าแฟมิเลียและคอยหาเงินเข้ากลุ่ม
แม้ว่าเมื่อโตมาแล้วเธอจะอยากออกจากแฟมิเลีย
แต่สมาชิกคนอื่นก็ตั้งเงื่อนไขว่าเธอต้องจ่ายเงินค่าออกจากกลุ่มซึ่งเป็นจำนวนมหาศาล
พอเธอแอบหนีออกจากแฟมิเลียไปอาศัยกลับครอบครัวอื่น
คนของแฟมิเลียก็จะเข้าไปกลั้นแกล้งจนไม่มีคนยอมให้เธออยู่ด้วย (มาเฟียชิบ)
ด้วยภูมิหลังแบบนี้ทำให้รีรี่กลายเป็นคนบ้าเงินและเกลียดนักผจญภัยมาก
เธอจึงเลือกอาชีพเป็นซัพพอร์ตเตอร์แต่ก็ไม่ได้คิดจะสนับสนุนนักผจญภัย
แต่เพราะต้องการจะหักหลังและหาโอกาศตบทรัพย์พวกนั้นต่างหาก การใช้ชีวิตแบบนั้นทำให้เธอถูกนักผจญภัยที่โดนนักผจญที่เป็นเหยื่อหมายหัว
แต่เพราะเธอมีสกิลแปลงร่าง
ทำให้สามารถแปลงสลับไปมาระหว่างร่างจริงที่เป็นพารูมสาวน้อยโลลิ
กับร่างสาวน้อยโลลิหูสัตว์เอาตัวรอดมาได้ ซึ่งสกิลแปลงร่างนี่เป็นไอเดียที่อัจฉริยะมาก
เพราะเราจะสามารถเสพได้ทั้งความโมเอะของโลลิคนแคระและโลลิหูสัตว์
ในตอนท้ายเล่มสองแม้ว่ารีรี่จะเริ่มซาบซึ้งกับความดีของเบล
แต่เธอก็ตัดสินใจทรยศเบลอยู่ดี เธอได้ขโมยมีดสั้นของเบลและทิ้งเขาไว้กลางฝูงมอนสเตอร์
แต่เหตุการณ์กลับพลิกผลันกลายเป็นว่าเธอโดนทรยศโดยสมาชิกของแฟมิเลียตัวเอง
และถูกปล่อยทิ้งให้ตายในดันเจี้ยน ซึ่งในตอนนั้นเบลก็ได้โผล่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้
รีรี่หลังน้ำตานองหน้าว่าเบลจะมาช่วยเธอที่ทรยศเขาทำไม
ซึ่งเบลก็ตอบว่าเพราะรีรี่เป็นเด็กผู้หญิง และเพราะรีรี่เป็นรีรี่
คนที่เบลรู้สึกเป็นห่วงและไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้ ซึ่งฉากนี้เป็นฉากที่ชอบมากๆของนิยายเรื่องนี้
แม้ว่าหลังจากนั้นเบลจะมีฉากช่วยสาวปักธงอีกหลายครั้ง
แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่มีฉากไหนหล่อเท่านี้เลย
หลังจากนั้นรีรี่ก็มักรวมกลุ่มกับเบลตะลุยดันเจี้ยนเสมอ
ซึ่งเธอก็พยายามทำหน้าที่เป็นชัพพอร์ตเตอร์ที่ขันแข็งและซื่อสัตย์ให้กับเบลเพื่อชดเชยความผิด
ในการผจญภัยของเบลที่มักจะเจอเรื่องอันตรายอยู่บ่อยครั้ง รีรี่ที่แม้จะมีตำแหน่งอยู่แนวหลังแต่เพราะสเตตัสที่ต่ำเตี้ยกว่าเพื่อน
จึงจะต้องได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ แต่ถึงแม้จะบาดเจ็บเลือดอาบยังไง
เธอก็มักจะพุ่งความสนใจไปที่เบลก่อนเสมอ
และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเบลเหนือกว่าตนเอง จนผมต้องแอบซึ้งอยู่บ่อยๆ
และในเล่มหกที่แฟมิเลียของเบลต้องเปิดกิลวอร์อีกอีกแฟมิเลียหนึ่ง
รีรี่ที่ต้องการออกจากโซม่าแฟมิเลียไปเข้าร่วมกับเฮสเทียแฟมิเลีย จึงไปเจรจากับเทพโซม่าโดยตรง
ซึ่งโซม่าก็ยื่นเงื่อนไขว่าขอเพียงรีรี่ดื่มเหล้าเทพเข้าไปแล้วยังพูดยืนยันคำเดิมได้เขาจะปล่อยรีรี่ออกจากกลุ่มไป
ซึ่งในอดีตก็เคยมีคนต้องการเหมือนกับรีรี่ แต่เมื่อได้ดื่มเหล้าเทพเข้าไปต่างก็รู้สึกสุขสมจนลืมเลือนเป้าหมายของตัวเองไปจนหมด
รีรี่ที่รับข้อเสนอของโซม่าได้ดื่มเหล้าเทพเข้าไป รสชาติของมันทำให้เธอรู้สึกเป็นสุขอย่างที่สุดจนเกือบกลายเป็นทาสของเหล้าเทพ
แต่ตอนนั้นใบหน้าของเบลก็ผ่านเข้ามาในหัวของเธอ ทำให้เธอได้สติอีกครั้ง
และขอยืนยันออกจากโซม่าแฟมิเลีย เพราะเธอต้องการอยู่ร่วมกับเบล
ซึ่งเป็นฉากที่ทรงพลังมากอย่างกับฉากนางเอกโดมืดที่โดนตัวร้าย NTR จน Mind Break ไปหลายรอบแต่ก็ยังแข็งใจกลับมารักพระเอกได้อีกครั้ง
และทำให้ผมชื่นชมรีรี่เพราะในบรรดาผู้หญิงที่มาชอบเบล มีแต่ความรู้สึกของเธอที่ผ่านการทดสอบจนดูทรงคุณค่า
ในเล่มแปดรีรี่เกิดอาการจิตตกเพราะไปทราบว่าเบลหลงใหลในตัวไอน์
มิหนำซ้ำความสามารถของสมาชิกของคนอื่นในแฟมิเลียต่างก็โดดเด่น
จนตัวเองดูแล้วแทบไม่มีความสำคัญกับเบลเลย ซึ่งคนที่มีภูมิหลังแบบรีรี่ก็มักจะมีปมทำให้ดูถูกตัวเองอยู่ด้วย
และในจังหวะนั้น ฟินน์ หัวหน้ากลุ่มของโลกิแฟมิเลีย
นักผจญภัยระดับสูงชาวพารูมก็ได้มาขอรีรี่แต่งงาน รีรี่ที่ตอนนั้นกำลังจิตตกหวั่นไหวไปกับข้อเสนอของฟินน์
แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธเพราะเธอเลือกที่อุทิศชีวิตทั้งหมดให้เบล แม้ว่าเขาจะรักคนอื่นหรือไม่เห็นความสำคัญของเธอก็ตาม
และที่เจ๋งก็คือต่อมาเบลได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกว่าเขาจะไม่ยอบยกรีรี่ให้กับฟินน์
แม้ตอนแรกเบลจะลังเลอยู่บ้าง เพราะฟินน์นั้นทั้งฝีมือ ทรัพย์สิน ฐานะ
ล้วนเหนือกว่าเบลมาก และน่าจะทำให้รีรี่มีความสุขได้มากกว่าเขา
แต่สุดท้ายเบลก็ไม่ยอมปล่อยรีรี่ไป เพราะเธอคือคนสำคัญที่เขาไม่ยอมเสียไป ซึ่งเป็นฉากที่เบลได้แสดงความหล่อออกมาสุดๆ
รีรี่จึงเป็นตัวละครหญิงในอุดมคติของผมครับ
คือไม่ใช่แค่น่ารักโมเอะ รักพระเอกหมดหัวใจเท่านั้น แต่ต้องมีความเป็นแม่ดันเปิดโอกาสให้พระเอกแสดงความหล่อด้วย
ถึงจะเป็นตัวละครหญิงที่เพอร์เฟค
ความคิดเห็น