ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF+FANART GOT7 [AllxJackson] By Silverfeather29

    ลำดับตอนที่ #44 : [SF] BABY-BROTHER (MarkSon)

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58


    BABY-BROTHER

    [MARKSON]

     

     

     

     

     

     

    “ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ โค้งหัวให้เล็กๆแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าผิดหวัง ใช้ปากกาในมือขีดฆ่าชื่อบริษัทในกระดาษยุ่ยๆ ไล่ตามองลายขีดฆ่าเกือบแปดแห่งแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยัดทั้งกระดาษและปากกาลงในเสื้อโค้ทสีตุ่นส่งๆ มองปลายเท้าในรองเท้าแบรนด์ดังสีมัวฝุ่นก้าวเดินไปตามเส้นทางในถนนสายธุรกิจช้าๆอย่างไร้จุดหมาย

     

    มาร์คเป็นชายหนุ่มอายุ 27 ที่กำลังหางานทำหลังจากตัดสินใจไม่ขอทำงานในบริษัทของครอบครัวต่อเพราะต้องการประสบการณ์เพิ่มเติม เดินออกมาหางานทำตามบริษัทต่างๆโดยใช้แค่วุฒิปริญญาตรี ทั้งที่มาร์คเองก็จบเอกบริหารธุรกิจมาแล้วแท้ๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะง่าย แต่พอเอาเข้าจริงๆทุกอย่างก็ยากลำบากไปเสียหมด ไฟในใจที่ลุกเหิมในตอนนั้นกำลังค่อยๆแผ่วลงเรื่อยๆ

     

    เดินย่ำต๊อกๆมาหยุดอยู่บนสะพานเชื่อมต่อระหว่างฝั่งเมือง มองทิวทัศน์สูงต่ำของตึกรามบ้านช่องยามเที่ยงในวันที่ฟ้าสลัวๆคล้ายฝนจะตก ยกมือนับวันเวลาด้วยใจเหี่ยวเฉา

     

    ...สามเดือนแล้วที่ยังไม่ได้งาน...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาคงไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าไฟเดือนนี้แน่ๆ

     

    มาร์คดึงสติตัวเองกลับมารีบรับมือถือในประเป๋านึกลิงโลดในใจ คิดว่าบริษัทที่ไปสัมภาษณ์ไว้จะโทรกลับมาคอนเฟิร์มงาน แต่พอได้ยินเสียงอ่อนหวานในประโยคแรก ชายหนุ่มก็ถอนหายใจแบบปลงโลก

     

    “มาถอนหายใจใส่ตั้งแต่ประโยคแรกคืออะไรยะ!

     

    “ว่าไงครับพี่มาเรีย มีอะไรรึเปล่า”ถามเนือยๆ ออกเดินไปจากที่เดิมแบบไม่เร่งรีบนัก หูก็คอยฟังเสียงหวานของพี่สาวในสาย

     

    “มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อย...ไม่สิ ฉันจะจ้างนาย”

     

    “หืม? จะใจดีกับผมรึไง?”แค่นหัวเราะหยอกล้อกับคนปลายสาย

     

    “ไม่ย่ะ เอาเป็นว่ารีบกลับมาที่ห้องนายภายในสามสิบนาทีแล้วกัน โอ๊ะ! ต้องวางสายแล้วล่ะ”

     

    มาร์คมองหน้าจอแสดงเวลาในการโทรงงๆ ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเรียกแท็กซี่แถวนั้นไปส่งที่คอนโดกลางกรุงของตัวเอง

     

    .

    .

    .

    .

    .

    “นี่มันหมายความว่ายังไงครับ พี่มาเรีย...”ชายหนุ่มทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองของเล่นรวมถึงเสื้อผ้าและของใช้เด็กเล็กหน้าห้องตัวเอง หันไปมองพี่สาวตัวเองที่กำลังอุ้มสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เขาไม่ค่อยถูกโรคด้วยอย่าง เด็กในอ้อมกอดโอ๋เอ๋ไปมา

     

    “ฉันต้องรีบไปทำโครงการที่ซานฟรานซิสโกสามเดือน มันเป็นงานเร่งด่วน แล้วทีนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครจะดูแลแจ็คสันได้ ฉันก็เลยจะมาฝากให้นายเลี้ยงแจ็คสันหนึ่งเดือน”

     

    “แต่พี่ก็รู้ว่าผม...”

     

    “นายไม่ถูกกับเด็ก...นายก็แค่คิดไปเอง นายเคยเลี้ยงหรือเจอเด็กจริงๆจังๆรึไงล่ะ”

     

    มาร์คเถียงไม่ออก เขาไม่เคยเจอ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะชอบได้ แค่ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของเด็กเล็กๆก็ทำเอาเขาประสาทเสียแล้ว

     

    “นั่นแหละ แค่เดือนเดียว ฝากดูแลแจ็คสันด้วย ลูกพี่เลี้ยงไม่ยากหรอก แค่กินอิ่มนอนหลับแจ็คสันก็อยู่ได้แล้ว”

     

    ...ให้มันจริงเถอะครับ...มาร์คบ่นในใจขณะเอื้อมมือไปรับเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมกอด เขาเจอเด็กคนนี้ก็ตอนที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ มาเจออีกทีก็ตอนสามขวบเข้าไปแล้ว แก้มยุ้ยแดงฝาด ปากแดงจัดจิ้มลิ้มตัดกับผิวสีขาวราวกับหิมะ ตัวกลมป้อมในชุดเอี๊ยม ดวงตากลมโตแววใสราวกับลูกหมาตัวเล็กๆมองเขาอย่างสนอกสนใจ ก่อนที่ปากอิ่มเล็กจะยิ้มกว้างเห็นเหงือกสีชมพูแดงที่มีฟันซี่เล็กเรียงยังไม่ครบดี

     

    ...น่ารัก...

     

    มาร์คยิ้มตอบเด็กน้อยในอ้อมแขนที่ร้องอ้อแอ้ปัดป่ายมือเล็กจับใบหน้าเขาอย่างต้องการจะเล่นด้วย

     

    “ชือ ชือ ไอแอมแจ็คจั๋น แจ็คจั๋น”

     

    “ฉันชื่อมาร์ค มาร์คน่ะ”

     

    พอเห็นปากเล็กพยายามจะพูดตาม ชายหนุ่มก็ทวนชื่อตัวเองอีกรอบด้วยความเอ็นดู

     

    “มาร์ค!!!

     

    มาเรียมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มพอใจ ก็บอกแล้วว่ามาร์คไม่ได้ไม่ชอบเด็กหรอก แต่แค่ไม่เคยสัมผัสเองเฉยๆ เธอเดินไปอุ้มแจ็คสันกลับคืนมา หอมแก้มยุ้ยใสของเด็กชายที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่รู้ความ

     

    “ม๊าคงคิดถึงแจ็คสันแย่เลย อย่าดื้อกับพี่เขามากนะรู้ไหม เดี๋ยวม๊าจะรีบกลับมาหา เข้าใจไหมครับ”

     

    “ม๊า ม๊า”เด็กน้อยจับเสื้อมารดาไม่ยอมปล่อยเหมือนรู้ความหมายของประโยคนั้น ดวงตากลมโตคลอน้ำน่าสงสาร ปากแดงเรียกชื่อม๊าตัวเองไม่หยุด จนคนเป็นแม่ร้องไห้ตาม ปลอบประโลมเด็กน้อยจนผล็อยหลับไป ยื่นกลับมาให้มาร์คที่ขนของเข้าห้องจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จูบลาบนแก้มนิ่มก่อนเดินออกไปด้วยความอาวรณ์

     

    “เปิดสไกท์ไว้ด้วย พี่จะพยายามติดต่อมาทุกเย็น ถ้าแจ็คสันเป็นรอยนิดเดียว...”นิ้วเรียวสวยปาดคอตัวเองทำหน้าดุให้เจ้าน้องชายได้รู้ว่าเธอหวงลูกชายสุดที่รักในอ้อมแขนชายหนุ่มขนาดไหน

     

    “ไปเถอะน่า ตกเครื่องผมไม่รู้นะ”มาร์คถอนหายใจมองพี่สาวตัวเองที่อาลัยอาวรณ์ไม่เลิก กว่าจะไปได้ก็ลีล่าไม่รู้กี่ท่า

     

    ชายหนุ่มล็อคห้องอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กไปนอนบนเบาะที่เขาปูไว้หน้าทีวี แจ็คสันหลับปุ๋ย คิ้วขมวดแน่น จมูกรั้นเล็กและเปลือกตาบางแดงก่ำเพราะร้องไห้ มองไปมองมาก็อดใช้นิ้วเขี่ยปมคิ้วให้คลายออกเบาๆ

     

    “เอาล่ะ...งานยากแล้วล่ะมาร์ค”เอ่ยปากบอกกับตัวเอง ถอนหายใจลุกขึ้นเตรียมข้าวของในห้อง เขาเคยเลี้ยงเด็กก็จริง แต่ก็พอรู้ว่าควรทำอะไรเพราะตอนมาเรียท้องใหม่ๆก็เป็นเขาเองนี่แหละที่หาข้อมูลให้พี่สาวขาโหดคนนั้นว่าควรดูแลเด็กแบบไหน เผลอๆมาร์คจะรู้ดีมากกว่ามาเรียเสียอีก...

     

    จัดของทำอะไรเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็บ่ายกว่าๆแล้ว มาร์คเดินกลับมาปลุกเจ้าตัวเล็กที่ยังนอนหลับอุตุให้ตื่นมากินข้าวเที่ยง เปลือกตาบางกระพริบปรือ อ้าปากหาวกว้าง พลิกตัวนอนคว่ำไม่อยากตื่นอย่างน่าเอ็นดู

     

    “ไม่ได้นะแจ็คสัน ลุกมากินข้าวก่อนเร็ว”

     

    “ม๊า ม๊า”

     

    ...ตื่นมาก็ถามหาแม่เลยไหมล่ะ...

     

    มาร์คอุ้มเด็กน้อยที่หันหน้าซ้ายขวามองหาคนคุ้นเคย พอไม่เห็นก็แบะปากจะร้องไห้อีกรอบ มือป้อมกำลังจะยกเช็ดน้ำตาก็มีผ้าขนหนูผืนนิ่มปาดน้ำตาออกให้เบาๆ

     

    “ม๊ามาเรียไปทำงาน ตอนนี้”

     

    “ฮึก...เจียเอ่อคิดถึงม๊า”

     

    ...บางคำก็พูดชัดแฮะ นึกว่าจะอ้อแอ้ทุกคำซะอีก แล้วก็เจียเอ่อ? ชื่อจีน...

     

    เพราะพวกเขาเป็นตระกูลที่มาจากโซนเอเชีย ก็เลยไม่แปลกที่จะมีชื่อจีน แต่เขาก็เพิ่งรู้ว่าแจ็คสันมีอีกชื่อว่าเจียเอ่อด้วย

     

    “เป็นผู้ชายต้องอดทน ไม่ร้องไห้ง่ายๆนะครับ”

     

    “อื้อ เจียเอ่อเป็นเดะดี เจียเอ่อจะไม่ย้องไห้!”เด็กน้อยตอบรับทำท่าทางจริงจัง แต่มันกลับดูน่าเอ็นดูเสียมากกว่าในเมื่อเจ้าตัวสูงไม่ถึงสองฟุต แถมตัวยังป้อมอ้วนกลมอย่างกับลูกฟุตบอล มาร์คลองแกล้งดันตัวหลานตัวเล็กเบาๆ กลายเป็นว่าแจ็คสันม้วนตัวเป็นก้อนกลมล้มหวืดกลิ้งหลุนสองรอบไปนอนแหมะอยู่บนขอบฟูก

     

    มาร์คหลุดหัวเราะพรืดกลั้นขำไม่ไหวในขณะที่เด็กตัวเล็กร้องไห้จ้าเพราะโดนแกล้ง

     

    “แง้!!!

     

     

     

     

     

     

    กิจวัตรประจำวันของมาร์คแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้รับดูแลแจ็คสัน ผ่านมาแค่สองสัปดาห์มาร์คก็กลายเป็นอาที่หลงหลานเข้าขั้นโคม่า

     

    ...ใครบอกว่าไม่ชอบเด็กครับ...ไม่จริ๊ง!!! มาร์คโคตรรักเด็กเลย...

     

    พอทำอาหารง่ายๆเตรียมไว้ให้เสร็จก็เดินเข้าไปในห้องนอนที่ตอนนี้ถูกเนรมิตกลายเป็นสวรรค์สำหรับเทวดาตัวน้อยบนเตียงนอน

     

    มาร์คยิ้มกว้างนั่งมองดูเด็กน้อยในชุดนอนลายอียอร์เต็มตัวที่กำลังนอนหลับปุ๋ย แก้มแดงยุ้ยนูนเพราะเจ้าตัวนอนตะแคงข้างกอดหมอนข้างใบเล็ก มาร์คใช้นิ้วเขี่ยแก้มยุ้ยด้านนั้นเบาๆ คิ้วบางขมวด ปากจิ้มลิ้มยู่มุบมิบซุกหน้าลงกับหมอน

     

    “ขี้เซาๆจริงๆเลยเจ้าตัวเล็ก ตื่นได้แล้วครับ”

     

    “อุ้ม มัคอุ้ม”ส่งเสียงงุ้งงิ้งอ้อนคุณอาตั้งแต่เช้า มาร์คยิ้มโอบหลานตัวเล็กขึ้นมาพาดบ่าพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ วางเด็กน้อยที่ยังขยี้จมูกขยี้ตางัวเงียลงบนซิงก์ล้างหน้า มาร์คจับมือเล็กไม่ให้ขยี้จมูกตัวเองแดงไปมากกว่านี้ ใช้ผ้าอ้อมชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดล้างหน้าให้ หยิบแปรงสีฟันลายการ์ตูนชื่อดังบีบยาสีฟันส่งให้แจ็คสันไปแปรงเอง ยืนดูจนแน่ใจว่าเด็กน้อยแปรงสะอาดแล้วก็ส่งแก้วน้ำให้แจ็คสันได้บ้วนปาก ใช้ผ้าสะอาดเช็ดหน้าให้อีกรอบ อุ้มเด็กน้อยออกไปที่ห้องครัว

     

    มาร์คกินข้าวเสร็จก็ท้าวคางมองเด็กน้อยข้างๆที่กินเลอะเทอะเหมือนเคย รอบปากอิ่มเปื้อนซอสสปาเก็ตตี้ แก้มยุ้ยเคี้ยวหนุบหนับพองกระเพื่อมขึ้นลงเหมือนพวกกะรอกเก็บอาหารข้างกระพุ้งแก้ม มือเรียวหยิบทิชชู่บรรจงเช็ดให้ ยิ้มตอบดวงตากลมที่เหลือบกลับมามอง

     

    พอเห็นมาร์คยิ้ม แจ็คสันก็ยิ้มตามอย่างไร้เดียงสา ชายหนุ่มเลยฉวยโอกาสก้มหอมแก้มยุ้ยแดง ลุกขึ้นเก็บจานเสร็จก็กลับมายกกล่องของเล่นให้แจ็คสันที่เดินเตาะแตะวิ่งนั่งแบะเล่น แจ็คสันเป็นเด็กค่อนข้างไฮเปอร์ หยิบนั่นนี่วิ่งวุ่นไปทั่วบ้าน แต่ก็เก่งพอจะไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ไม่เหมือนเด็กบางคนที่วิ่งลิ่วจนชนประตูบ้างโต๊ะบ้างอย่างที่มาร์คกังวลในตอนแรก

     

    แจ็คสันเดินเตาะแตะมาหามาร์คที่กำลังนอนคว่ำเล่นโน้ตบุ๊กอยู่บนพื้น เจ้าตัวเล็กทำเป็นชะเง้อมอง กระโดดลงบนหลังชายหนุ่มที่ร้องจุกด้วยน้ำหนักที่เพิ่มมากะทันหัน แจ็คสันที่ยังไม่รู้เรื่องก็ปีนมาเกาะหัวอาตัวเองมองหน้าจอที่มีแต่ตัวอักษรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด

     

    “มัคๆ คิดถึงม่ามี๋ เปิดๆ”มือป้อมๆหยิกผมมาร์คไป ก็ชี้ๆหน้าจอไป

     

    “โอ๊ยๆ มาร์คเจ็บนะครับ ได้ๆ เดี๋ยวมาร์คเปิดให้”ยอมหลานตัวเล็ก เปิดหน้าจอสไกด์ขึ้นมาติดต่อพี่สาวแท้ๆตัวเอง รอไม่ถึงนาที ภาพหญิงสาวในชุดทำงานก็ทำให้แจ็คสันดิ้นใหญ่ มาร์ครีบอุ้มเด็กตัวเล็กไว้มานั่งบนตักกอดตัวนุ่มนิ่มไม่ให้พุ่งเข้าหาจอคอม

     

    “ม๊า ม๊า~~~~~

     

    “แจ็คสัน~~~~

     

    ...พอกันทั้งแม่ทั้งลูก...

     

    ภาพที่เห็นคือปากแดงเปื้อนลิปสติกของมาเรียที่ลืมตัวจูบกล้องเข้าเต็มเปา หญิงสาวสะดุ้งรีบหาผ้ามาเช็ดๆมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยดวงตาที่เอ่อคลอ

     

    “ม่ามี๊คิดถึงแจ็คสันจังเลยลูกก มาร์คแกล้งอะไรลูกชายแม่รึเปล่า กินดีอยู่ดีนะ”

     

    “โทษนะครับคุณพี่สาว เพิ่งติดต่อไปเมื่อคืนก็คำถามเดิมนะ”

     

    “ฉันจะคุยกับลูก นายน่ะเงียบไปเลย”

     

    มาร์คกลอกตาแรงใส่พี่สาวผู้ติดลูกนั่งเงียบมองแม่ลูกสื่อสารกันผ่านหน้าจอเกือบชั่วโมงด้วยภาษาที่เขาก็ไม่เข้าใจ ก่อนจะปิดไปมาเรียหยิบหูกระต่ายน่ารักน่าชังมาให้ลูกชายดู หน้าจอดับพรึบ แจ็คสันหันมามองเขาใช้ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองนิ่งๆจนมาร์คต้องเอ่ยปากถามว่ามีอะไร?

     

    “มัคๆ อีสเตอร์ล่ะ อีสเตอร์”

     

    มาร์คร้องอ๋อในใจ จริงสิอีกสองสัปดาห์ก็เป็นวันอีสเตอร์นี่นะ ลืมไปโบสถ์ตอนเช้าเสียสนิท เอาจริงๆเขาก็ไม่ได้เข้านานแล้ว ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ห้องนี้นี่แหละ โบสถ์ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องขึ้นบัสไปอีกสามสาย นานๆเข้าเขาเลยไม่ไปเสียเลย

     

    “อืม อีสเตอร์ แจ็คสันอยากได้อะไรเหรอ?”

     

    “ไข่ๆ กระต่ายๆ แจ็คสันอยากเล่นๆ”

     

    “หา?”เป็นอีกหนึ่งประโยคที่มาร์คไม่เข้าใจ แจ็คสันยังคงรบเร้ามาร์คด้วยประโยคเดิมๆ ต้องยกสายเสียเงินค่าโทรข้ามประเทศไปหาพี่สาวอีกรอบ จนในที่สุดก็รู้ว่าเป็นเกมที่พี่สาวพาแจ็คสันเล่นเมื่ออีสเตอร์ปีก่อน เดือดร้อนคุณอาคนดี ต้องหอบหิ้วเจ้าหนูจ้ำม่ำใส่ตะกร้าอุ้มแบกขึ้นหลังไปซุปเปอร์มาเก็ต

     

    ซุปเปอร์มาเก็ตประดับตกแต่งด้วยริบบิ้น ไข่และกระต่าย เจ้าตัวน้อยตะกายอยากดูนั่นดูนี่จนมาร์คต้องดุให้ไม่ทำเสียงดัง ก้อนโมจิเดินได้เลยเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะออกอาการดิ้นอีกเมื่อผ่านซุ้มทำกิจกรรมในซุปเปอร์ที่มีพนักงานในชุดบันนี้กระโปรงสีขาวมุ้งมิ้งใส่หูกระต่ายอันใหญ่พูดโปรโมทอยู่ด้านหน้า

     

    “อุ๊ย คุณพ่อคะ ลูกสาวน่ารักจังเลยค่ะ”

     

    มาร์คเดินต่อ เพราะไม่คิดว่าเป็นคำเรียกตัวเอง แต่แจ็คสันก็ดิ้นหัวเราะอ้อแอ้จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง ชี้มาที่ตัวเองเพื่อต้องการย้ำว่าใช่ตนหรือ?

     

    “ค่ะ คุณพ่อนั่นแหละค่ะ เชิญคุณพ่อกับลูกสาวมาเล่นกิจกรรมเล็กๆน้อยๆกับเราด้วยนะคะ”

     

    “เอ่อ...”ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไป “ผมไม่ใช่พ่อนะครับ ผมเป็นอา ส่วนนี่แจ็คสันเป็นผู้ชายครับ ไม่ใช่ผู้หญิง”

     

    “อ้าว ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงขอเชิญร่วมสนุกกับเราด้วยนะคะ”

     

    กำลังจะเอ่ยปฏิเสธไปเพราะอยากรีบไปรีบกลับ แต่เห็นแจ็คสันดูท่าทางสนอกสนใจเลยพยักหน้าตอบรับเดินเข้าไปในซุ้ม

     

    “กติกาง่ายๆเลยค่ะ ให้คุณอากัดไข่แป้งไว้นะคะ แล้วล่อให้เจ้าตัวเล็กกินค่ะ ถ้าทุบสถิติของคนก่อนหรือกินจนหมดก็รับของขวัญพิเศษเป็นเงิน xxxx ไปเลยค่า”

     

    พอมาร์คได้ยินจำนวนเงินก็ตาลุกวาว ไม่นึกว่าซุ้มเล็กๆแบบนี้จะมีรางวัลใหญ่ได้ ต้องขอบคุณเจ้าตัวเล็กจริงๆที่ทำให้เขาไม่เดินผ่านไป

     

    มาร์คกัดแป้งอบที่ทำเป็นรูปไข่รสชาติก็เป็นหมั่นโถทั่วไปไว้ มือเรียวจับแจ็คสันนั่งตัก เจ้าตัวเล็กมองเขาตาแป๋วไม่เข้าใจว่าคุณอาคนดีต้องการให้ตนทำอะไร นั่งนิ่งอยู่นานจนมาร์คต้องยื่นหน้าเข้าไป ดันปลายขนมกับปากอิ่มแดงดุนดันพร้อมส่งสายตาอ้อมวานให้เด็กตัวเล็กให้กินมันเสียที

     

    ในที่สุดก็เหมือนว่าคำอ้อนวอนของมาร์คจะได้ผล กลีบสีแดงจัดอ้าขึ้นใช้ปากที่มีฟันยังไม่ครบซี่กัดขนมปังไปคำหนึ่ง พอกินไปหนึ่งคำแจ็คสันก็ดูจะชอบใจกับรสชาติ อ้าปากงับคำแล้วคำเล่า จนขนมเหลือแค่ที่มาร์คกัดไว้ในปากเท่านั้น ชายหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นก็โดนมือป้อมแปะแก้มดังเพี๊ยะ สะดุ้งหลับตาเพราะความแสบบนแก้มก่อนวินาทีถัดมาจะเบิกตากว้างมองเจ้าของสัมผัสหยุ่นนิ่มที่แตะเข้าที่ปากเขา

     

    แจ็คสันปีนตักเขย่าเท้าตามมากินขนมในปากเขา ดวงตากลมเหมือนลูกหมามองแค่ขนมใน ขณะที่คุณอาคนดีมองปากสีแดงฉ่ำใต้จมูกนิ่ง กลืนน้ำลายลงคอ เผลอคิดว่าน่าจูบขึ้นมาในชั่ววินาที

     

    จุ๊บ

     

    ต้องโทษปฏิกิริยาร่างกายของชายหนุ่มที่ประสานกับความคิดได้ดีเกินไป รู้ตัวอีกทีปากสวยของคุณอาก็แตะปากแดงฉ่ำจิ้มลิ้มของเด็กในอ้อมกอด ตาโตสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ ยิ่งทำให้คุณอาคนดีย่ามใจลงน้ำหนักบดกลีบปากแดงน่าลิ้มลองต่อ

     

    ถ้าไม่มีเสียงหวีดยินดีของคุณบันนี่สาวสวยในซุ้มล่ะก็นะ...

     

    “กรี๊ดดดด แจ็คพ็อตแตกค่า เป็นคู่อาหลานที่น่ารักจริงค่ะ บลาๆๆๆ”

     

    “มัคๆ เมื่อกี้มัคทำอะไรอ่ะ”เจ้าเด็กตัวอ้วนป้อมในอ้อมแขนเขย่าคอเสื้อคุณอาคนดีอย่างนึกสงสัย มาร์คยิ้มอารี ลูบเส้นผมนุ่มนิ่มแผ่วเบา

     

    “ก็...จุ๊บๆเป็นรางวัลให้แจ็คสันไงครับ”

     

    “เย้! แจ็คสันได้รางวัลล่ะ ถ้าแจ็คสันเป็นคนดี แจ็คสันจะได้รางวัลอีกใช่ไหม?”

     

    มาร์คได้แต่ยิ้มให้กับเด็กที่กระโดดโลดเต้นไปรอบๆ

     

    ...อืม รางวัลของเด็กดี...

     

     

     

     

     

     

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านอีกทีก็ค่ำแล้ว มาร์คให้แจ็คสันไปอาบน้ำในขณะที่เขาเอาไข่พลาสติกลวดลายสีสันสวยงามไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆในห้อง

     

    ...เกมหาไข่...เกมที่ครอบครัวของแจ็คสันจะเล่นกันในวันอีสเตอร์ ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็ดูชื่นชอบที่จะสวมบทบาทเป็นนักสำรวจตามล่าหาไข่เสียเหลือเกิน

     

    “มัคๆ เสร็จแย้วๆ”

     

    แจ็คสันในชุดกระต่ายสีฟ้าอ่อนมีหางกลมปุกปุยอยู่ด้านหลังกระโดดดึ๋งๆออกมาอย่างรื่นเริง ยิ้มกว้างขวางเห็นฟันไม่กี่ซี่น่ารักน่าชัง มาร์คกวักมือเรียกหลานรัก นั่งลงสวมหูกระต่ายสีเดียวกันกับชุดบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มไม่แพ้หางปุกปุย มองชอบใจ ก้มลงฟัดแก้มฟัดคอผิวเนื้อนิ่มหอมกลิ่นสบู่ให้แจ็คสันหัวเราะดิ้นเร่าๆเพราะจั๊กจี๋

     

    ฟัดจนพอใจแล้วก็ส่งตะกร้าให้แจ็คสันที่วิ่งวุ่นไปรอบห้อง ค้นจนข้างของเขากระจุยกระจาย แปลกที่มาร์คเอาแต่ยิ้มตาเยิ้มมองการเคลื่อนไหวของหลานตัวป้อมว่าน่ารักน่าเอ็นดูโกรธไม่ลงไปเสียหมด

     

    แจ็คสันหาไข่ใบสุดท้ายใต้เบาะนอนเล่นของตัวเองเจอ วิ่งลิ่วๆหอบตะกร้ามาหาชายหนุ่ม ยิ้มกว้างจนตาเหลือคแค่ขีดเล็กแต่ก็พราวระยับสดใส

     

    “แจ็คสันหาครบแล้ว!!! เย้ๆ มัค ของขวัญล่ะ รางวัล”

     

    “หืม...มาร์คไม่ได้เตรียมให้นี่สิ”

     

    ...ลืมจริงๆนะ...

     

    เจ้าตัวเล็กทำหน้าหงอยไปนิดหน่อย ก่อนจะร้องอ๋อปีนขึ้นมาบนตักคุณอา นิ้วป้อมจับๆปากคุณอาที่ยิ้มกริ่มอารมณ์ดี

     

    “จุ๊บๆ จุ๊บรางวัลเด็กดี”

     

    “อ่าฮะ”ส่งเสียงแสร้งว่าเพิ่งนึกออก มือเรียวประคองแก้มกลมยุ้ยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แจ็คสันหลับตารอรับรางวัลจากคุณอาพี่เลี้ยงที่แนบริมฝีปากลงกับกลีบดอกไม้สีแดงสด บดเบาๆเพราะกลัวว่ากลีบจะช้ำ บดคลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    ...กระต่ายน้อยช่างไม่รู้ว่าโดนหมาป่าเจ้าเล่ห์หลอก...

     

    “แจ็คสันเป็นเด็กดีใช่ไหม?”เอ่ยถามหลังคุณอาให้รางวัล (?) จนพอใจแล้ว

     

    “ครับ แจ็คสันเป็นเด็กดี เป็นคนเก่งที่สุดของมาร์คเลย”

     

    “เย้! ม๊ากลับมาจะอวดม๊า”

     

    “อย่าบอกเรื่องรางวัลกับม๊าล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวม๊าอยากได้รางวัลขึ้นมา แจ็คสันจะไม่ได้รางวัลจากมาร์คอีกเลยนะ”แกล้งขู่ ซึ่งเอาจริงๆมาร์คก็แค่กลัวว่าพี่มาเรียจะเอามีดมาเฉาะหัวข้อหาทำให้ลูกชายสุดรักสุดหวงของเจ้าตัวใจแตก

     

    “ง่ะ งั้นแจ็คสันจะปิดปากไว้”มือป้อมปิดปากตัวเอง ตากลมเหลือบซ้ายขวาระแวดระวัง น่ารักจนโดนมาร์คหอมแก้มซ้ำ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะมีความสุขกันตลอดทั้งมือค่ำ

     

     

     

     

     

     

     

     

    มาร์ควางแผนไว้ในใจว่าซัมเมอร์นี้เขาต้องแย่งชิงตัวแจ็คสันจากมาเรียให้ได้...

     

    เอาชื่อมาร์คต้วนคนหลงหลานเป็นประกัน!!!







































    ...........................................................
    หมั่นไส้อิคนหลงหลานแรง...
    ปล.แก้ไขส่วนสูงนะคะ เมื่อคืนเบลอแรง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×