ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #43 : บทที่ 17 : ตรามาร

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 64


    บทที่ 17 : ตรามาร


    ท้องฟ้าสีสดใสเริ่มปรากฏเหนือหอคอยเล็กๆ บนปราสาทบ้างแล้ว แต่สัญญาณของฤดูร้อนนี้ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกคุกกรุ่นในใจของเฮเลนดีขึ้นเลย ทั้งการหาหลักฐานพิสูจน์เรื่องแท็คว่าเขาเป็นผู้เสพความตายจริงหรือไม่ แถมแฮร์รี่ก็กำลังพยายามเริ่มต้นบทสนทนากับซลักฮอร์นเพียงแต่ว่าเขาไม่อยากคุยกับแฮร์รี่เรื่องนี้เสียเท่าไหร่นัก

    วันนี้ทั้งสี่นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งในลานปราสาท เฮอร์ไมโอนี่และรอนกำใบปลิวของกระทรวงเรื่อง ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับการหายตัวและวิธีหลีกเลี่ยง เพราะทั้งสองคนจะต้องสอบในบ่ายวันนั้นเอง แต่โดยทั่วไปแล้วใบปลิวไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการประสาทเสียได้เลย รอนสะดุ้ง (รอบที่สิบของวัน) และพยายามหลบหลังเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งเดินเลี้ยวหัวมุมมา

    “ไม่ใช่ลาเวนเดอร์” เฮเลนพูดพลางขมวดคิ้ว

    “เหรอ” รอนบอก ดูผ่อนคลายลง “ก็ดี”

    “แฮร์รี่ พอตเตอร์ใช่ไหม” เด็กหญิงคนนั้นพูด “ฉันเอานี่มาให้ค่ะ”

    “ขอบใจ” แฮร์รี่รับม้วนกระดาษนั้นมา เมื่อเด็กหญิงคนนั้นเดินออกไปแล้วเขาจึงพูด “ดัมเบิลดอร์บอกเราเอาไว้ว่าจะไม่มีการพบกันอีกจนกว่าจะได้ความทรงจำมานี่”

    “บางทีเขาอาจจะต้องการตรวจดูว่าเธอทำไปถึงไหนแล้วก็ได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่ออกความเห็น ขณะที่แฮร์รี่คลี่ม้วนกระดาษ แต่แทนที่จะพบลายมือของดัมเบิลดอร์เขากลับเห็นตัวหนังสือยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบและอ่านได้ยากมากเนื่องจากรอยด่างใหญ่ๆ ทั่วแผ่นทำให้หมึกซึมเลอะเทอะ เฮเลนหรี่ตามองข้อความพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ


    แฮร์รี่ เฮเลน รอนและเฮอร์ไมโอนี่

    อาราก็อกตายแล้วเมื่อวาน แฮร์รี่กับรอน พวกเธอคงเคยพบเขาแล้วและรู้ว่าเขาน่ะพิเศษแค่ไหน     เฮอร์ไมโอนี่กับเฮเลนฉันรู้ว่าเธอคงจะชอบเขา มันจะมีความหมายสำหรับฉันมากๆ เลยถ้าพวกเธอจะย่องลงมางานฝังศพเขาตอนค่ำวันนี้ ฉันกะว่าจะทำราวๆ พลบค่ำซึ่งเป็นเวลาที่เขาชอบน่ะ ฉันรู้ว่าพวกเธอไม่ควรออกมาข้างนอกตอนดึก แต่พวกเธอมีผ้าคลุมล่องหนนี่ ไม่อยากขอหรอกนะ แต่ฉันฝังเขาคนเดียวไม่ได้แน่ๆ

                                                                                                                       แฮกริด


    “แย่จริง” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เราควรไปหาเขาไหม”

    “เขาประสาทไปแล้ว!” รอนพูดอย่างเดือดดาล “ไอ้ตัวนั่นบอกให้พรรคพวกมันกินฉันกับแฮร์รี่ มันบอกพวกนั้นว่าเชิญเลยตามสบาย! แล้วนี่แฮกริดคิดว่าเราจะลงไปที่นั่น ไปร้องห่มร้องไห้ให้เจ้าตัวขนยุ่บยั่บน่าขยะแขยงนั่นเหรอ!!

    “ไม่ใช่แค่นั้น” เฮเลนพูด “เขาขอให้เราออกจากปราสาทไปตอนกลางคืน เราจะลำบากแค่ไหนถ้าถูกจับได้”

    “เราเคยไปหาเขาตอนกลางคืนมาก่อนนะ” แฮร์รี่บอก

    “ใช่ แต่เพื่อทำอะไรแบบนี้รึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ย้อน “เราเสี่ยงมาหลายครั้งแล้ว ถ้าบอกให้ไปช่วยมันสิก็ว่าไปอย่าง”

    “ฉันยิ่งอยากไปน้อยกว่านี้อีก” รอนแบะปาก “เธอไม่ได้เจอมัน เฮอร์ไมโอนี่ เฮเลน ฉันเชื่อได้เลย มันตายดีกว่าตอนมันเป็นๆ เยอะ”

    “แฮร์รี่ เธอคงไม่คิดว่าจะไปหรอกนะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม “เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มกับการถูกกักบริเวณเลย”

    “แต่ฉันว่าเขาคงจะเสียใจมากเลยนะ” เฮเลนพูด นึกถึงภาพแฮกริดร้องไห้ในบ้านวันนั้น “ถ้าเกิดเป็นฉัน ฉันก็คงอยากให้ใครสักคนอยู่ข้างๆ ตอนที่ตัวเองกำลังอ่อนแอเหมือนกัน”

    แฮร์รี่ถอนหายใจ เขาดูลำบากใจไม่น้อยที่ได้ยินเธอพูดแบบนี้

    “ฉันรู้” เขาบอก “แต่ฉันว่าแฮกริดคงต้องฝังอาราก็อกโดยไม่มีพวกเรา”

    “ใช่แล้ว!” เฮอร์ไมโอนี่รับคำ สีหน้าโล่งใจ “เออนี่ ชั่วโมงปรุงยาบ่ายนี้คงแทบไม่มีใครเลยเพราะทั้งหมดคงต้องไปสอบ พยายามให้ซลักฮอร์นใจอ่อนสักนิดสิตอนนั้น!

    “ครั้งที่ห้าสิบเก้าจะโชคดี เธอคิดว่างั้นเหรอ” แฮร์รี่ถามอย่างขมขื่น

    “ก็ใช้น้ำยานำโชคสิ” เฮเลนพูดขึ้นทันที “ไม่คิดจะใช้มันหน่อยเหรอ”

    แฮร์รี่หันไปมองหน้าเฮเลน สีหน้าเรียบเฉย

    “น้ำยานำโชค?” เขาทวนคำ “ไม่รู้สิ ฉันอยากจะเก็บไว้...”

    “เก็บไว้ทำไม!” รอนตั้งคำถาม

    “อะไรจะสำคัญกว่าความทรงจำนี้อีกล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    แฮร์รี่ไม่ตอบแต่ทำท่าคิด เฮเลนเองก็คิดไม่ตกว่าจะใช้น้ำยานำโชคในเรื่องอะไรอีกดีต่อจากนี้ จิบน้อยๆ ที่เคยใช้ไปเพราะเดรโกมันส่งผลออกมาได้ดีเลยทีเดียวถ้าหากว่ามันไม่หมดฤทธิ์เสียก่อน และถ้าหากว่าเธอลองนำมันมาใช้เกี่ยวกับเรื่องของแท็คมันจะเป็นไปได้ดีไหม เพราะยังไงก็คงไม่มีอะไรที่ได้ความช้าไปกว่านี้แล้ว

    “แฮร์รี่ ยังอยู่กับเราหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง ดึงแฮร์รี่และเฮเลนออกจากความคิดของตัวเอง

    “เอ่อ... อยู่สิ” แฮร์รี่ตอบ “ถ้าบ่ายนี้ยังทำให้ซลักฮอร์นพูดไม่ได้ ฉันจะใช้น้ำยานำโชคแล้วก็ลองใหม่ตอนค่ำ”

    “งั้นก็ตกลงตามนี้” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างกระฉับกระเฉง “จุดหมาย ใจแน่วแน่ เจตนาสุขุม!

    “โอ๊ย หยุดเถอะ” รอนขอร้อง “ฉันรู้สึกพะอืดพะอมจะแย่แล้ว... บังฉันที!

    รอนดึงเฮเลนให้เลื่อนตัวไปบังเขาและหลบอยู่หัลงเธอทันทีที่มีเด็กผู้หญิงอีกสองสามคนโผล่เข้ามาในลานปราสาท เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจออกมาอย่างรำคาญ

    “ไม่ใช่ลาเวนเดอร์หรอก” เฮเลนพูด ขยับตัวออก

    “แล้วไป” รอนว่า แอบมองตามไปให้แน่ใจ “ให้ตาย สองคนนั้นดูไม่ดีเลยนะ”

    “สองพี่น้องมอนต์โกเมอรี่ไง” เฮอร์ไมโอนี่บอก “แน่ล่ะ เขาต้องไม่มีความสุขอยู่แล้ว เธอไม่ได้ยินข่าวเรื่องน้องชายเขาเหรอ”

    “ฉันตกข่าวไปแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง” รอนพูด

    “น้องชายเขาถูกมนุษย์หมาป่าทำร้าย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “ลือกันว่าแม่ของเขาปฏิเสธไม่ยอมช่วยพวกผู้เสพความตาย แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เด็กนั่นอายุแค่ห้าขวบเอง เขาตายที่เซนต์มังโก พวกนั้นช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ได้”

    “เขาตายเหรอ” แฮร์รี่และเฮเลนพูดพร้อมกัน

    “แต่มนุษย์หมาป่าไม่ฆ่าคนไม่ใช่เหรอ พวกเขาแค่ทำให้กลายเป็นพวกเดียวกันนี่” เฮเลนพูดต่อ

    “บางทีก็ฆ่า” รอนตอบ มีสีหน้าเคร่งขรึมผิดกว่าที่เคย “ฉันได้ยินว่ามันจะเกิดขึ้นได้เวลามนุษย์หมาป่าพวกนั้นมันเขี้ยวจนลืมตัว”

    “มนุษย์หมาป่านั่นชื่ออะไร” แฮร์รี่ถามอย่างรวดเร็ว

    “เห็นข่าวบอกว่าชื่อ เฟนเรีย เกรย์แบ็ก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

    “ฉันรู้จัก... เป็นคนบ้าที่ชอบทำร้ายเด็ก! ลูปินเล่าให้ฟังว่าหมอนี่แหละที่กัดเขา” แฮร์รี่พูดน้ำเสียงขุ่นเคือง

    “แฮร์รี่ นายต้องเอาความทรงจำมาให้ได้นะ” เฮเลนบอก “มันจะหยุดยั้งโวลเดอมอร์ได้ เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเพราะเขาทั้งนั้นเลย”

    เสียงระฆังดังขึ้นในปราสาท ทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนี่กระเด้งตัวลุกขึ้นยืน มีสีหน้าหวาดหวั่น

    “พวกเธอทำได้” แฮร์รี่บอกทั้งสองคน เขาและเฮเลนบอกลาเฮอร์ไมโอนี่และรอนหน้าห้องโถงใหญ่ก่อนจะแยกกันเพื่อเดินไปที่คุกใต้ดิน ระหว่างทาง เดรโกเดินเข้ามาสมทบกับพวกเขาโดยมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

    “เกิดอะไรขึ้นเดรโก” แฮร์รี่เอ่ยถาม “หน้าตาไม่ดีเลยนะ”

    “ข่าวของเกรย์แบ็กทำให้ฉันหงุดหงิด” เขาตอบ “มันกำลังทำให้แย่ลง แม่ฉันผวาไปหมด อยากให้ฉันกลับบ้านจะแย่แล้ว”

    “นายยังกลับไม่ได้” เฮเลนพูด “นายยังไม่ได้...”

    “ฉันทำไม่ได้หรอก!” เดรโกสวนขึ้นทันที “ฉันจะฆ่าดัมเบิลดอร์ได้ยังไง”

    ทั้งสามคนเงียบเสียงลง ไม่มีใครคิดอะไรออกหลังจากนั้น มีนักเรียนเพียงสี่คนในชั้นเรียนปรุงยาบ่ายวันนั้น คือแฮร์รี่ เฮเลน เดรโก และเออร์นี่ บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้โหวงแหวงและอึมครึม ดูเหมือนการที่ไม่มีใครในห้องเรียนทำให้พวกเขามีสมาธิมากเกินไปจนน่าอึดอัด

    “ทุกคนยังอายุน้อยเกินไปที่จะสอบหายตัวใช่ไหม” ซลักฮอร์นถามอย่างใจดี “ยังไม่สิบเก้ากันเหรอ”

    ทุกคนส่ายหน้า

    “ถ้าอย่างนั้น” เขาพูดต่ออย่างร่าเริง “ในเมื่อเหลือแค่ไม่กี่คน เรามาทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่านะ ฉันอยากให้เธอต้มอะไรที่สนุกสนานมาให้ฉัน”

    “ฟังดูดีเชียวครับอาจารย์” เออร์นี่พูดน้ำเสียงดูประจบประแจง ตรงกันข้าม ทั้งสามคนไม่ยิ้มสักนิด

    “อาจารย์หมายถึงอะไรคะ” เฮเลนถาม “ที่ว่าสนุกสนาน”

    “ทำให้ฉันประหลาดใจสิ!” ซลักฮอร์นตอบพลางยิ้มกว้าง

    เฮเลน แฮร์รี่และเดรโกมองหน้ากันและเริ่มคิดแล้วว่าการเรียนในครั้งนี้เป็นการเสียเวลา แฮร์รี่เสนอว่าควรปรุงน้ำทิพย์อิ่มเอิบใจ ส่วนเดรโกเสนอว่าควรจะปรุงน้ำยาสร้างความบันเทิง แต่เฮเลนคิดว่าควรจะปรุงน้ำยาหัวเราะมากกว่า ทั้งสามจึงแยกกันปรุงน้ำยาคนละตัวเพื่อเร่งให้ชั่วโมงเอื่อยเฉื่อยนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    เออร์นี่ดูหัวเสียที่ความตั้งใจจะเด่นเกินหน้าแฮร์รี่วันนี้ไม่ได้ผล การปรุงยาตามหนังสือของเจ้าชายเลือดผสมของเขายังเป็นไปได้ด้วยดี เฮเลนได้รับคำชมเรื่องน้ำยาหัวเราะ ส่วนน้ำยาสร้างความบันเทิงของเดรโกนั้นได้แค่พอผ่านเท่านั้น เฮเลนและเดรโกรีบเก็บข้าวเก็บของและส่งสายตาเป็นกำลังใจให้แฮร์รี่เล็กน้อย

    เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เออร์นี่ เฮเลนและเดรโกออกจากห้องไปทันทีทิ้งให้แฮร์รี่อยู่ในห้องปรุงยาเพียงลำพังกับซลักฮอร์น เฮเลนเห็นเออร์นี่ดูหัวเสียเล็กน้อยและบ่นกระปอดกระแปดเรื่องการเอาชนะแฮร์รี่ พอตเตอร์

    “วันนี้จะไปที่ห้องต้องประสงค์อีกไหม” เฮเลนกระซิบถาม เดรโกพยักหน้าน้อยๆ

    “เหมือนว่าฝั่งนั้นติดต่อเข้ามาหลายครั้งเกินไปแล้ว” เขากระซิบตอบ “ถ้าเกิดว่าฉันไม่รีบเร่งทำให้มันสำเร็จ ทางนั้นต้องรู้แน่ว่าฉันกำลังทำอะไร”

    “งั้นเจอกันตอนเข้าพบดัมเบิลดอร์นะ” เฮเลนพูด เขาพยักหน้าแล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับห้องนั่งเล่นของตนเอง ไม่ถึงสิบนาทีแฮร์รี่ก็ตามเธอเข้ามา ดูจากใบหน้าแล้วเขาคงไม่พอใจกับการตอบรับของซลักฮอร์นเท่าไหร่ สงสัยว่าคงจะพลาดอีกตามเคย

    “ฉันคิดว่าฉันเองก็จะใช้น้ำยานำโชคล่ะ” เฮเลนพูดขึ้นหลังจากแฮร์รี่นั่งเงียบอยู่นาน “ถ้าเกิดว่าไม่ได้ใช้ สงสัยว่าฉันจะหาหลักฐานมาจับแท็คเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ”

    “มันก็ถูกของเธอ” เขาตอบ “จริงๆ เราควรจะมีพยาน แต่เราใช้เดรโกไม่ได้”

    “แต่ใช้นายได้นะแฮร์รี่” เฮเลนพูด

    “ฉันกลายเป็นคนที่ควรจะไปโผล่ในห้องต้องประสงค์ตั้งแต่เมื่อไหร่ยัยบื้อ”

    แฮร์รี่หรี่ตามอง ที่เขาพูดก็ถูกเมื่อแฮร์รี่จำเป็นจะต้องไปเอาความทรงจำของซลักฮอร์นมันทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปอยู่ในห้องต้องประสงค์พร้อมกับเธอหรือเดรโกได้ ทั้งสองนั่งคิดอะไรได้ไม่นานนัก ช่วงบ่ายแก่ๆ เฮอร์ไมโอนี่กับรอนก็โผล่มาโดยท่าทางของรอนไม่ค่อยดีนัก

    “เฮ้!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกทันทีที่ปีนเข้ามาในช่องรูปภาพ “ฉันสอบผ่าน!

    “ดีจริง” เฮเลนว่า

    “แล้วรอนล่ะ” แฮร์รี่ถาม

    “เอ่อ... เขาเกือบผ่าน” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ ขณะที่รอนเดินไหล่ห่อเข้ามาในห้อง ดูท่าทางอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง “โชคร้ายที่ผู้คุมสอบเห็นคิ้วของเขาค้างครึ่งอยู่ข้างหลัง”

    เฮเลนอยากจะหัวเราะแต่เมื่อมองสีหน้าของรอนแล้วก็ต้องอุดปากตัวเองเอาใว้ให้มิด

    “แล้วเรื่องซลักฮอร์นว่าไง”

    “ไม่ได้เรื่อง” แฮร์รี่ตอบเมื่อรอนเข้ามาสมทบ “โชคร้ายนะรอน แต่คราวหน้าฉันกับเฮเลนก็ไปสอบด้วย นายต้องผ่านแหละ...”

    “ฉันก็หวังว่านะ!” รอนพูดอย่างหัวเสีย “แต่แค่ครึ่งคิ้ว! ยังกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย”

    “ฉันเข้าใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูดปลอบใจ “เข้มงวดมากจริงๆ”

    ช่วงอาหารเย็น เสียงงึมงำแช่งผู้คุมสอบหายตัวดังระงมทั่วห้องโถงและรอนก็ดูรื่นเริงขึ้นเล็กน้อยตอนเดินกลับห้องนั่งเล่นรวม พวกเขาเดินปรึกษากันเรื่องซลักฮอร์นและความทรงจำจนไปถึงห้องนั่งเล่น

    “แล้วสรุปนายจะใช้น้ำยานำโชคไหม” รอนตั้งคำถาม

    “ฉันคิดว่าคงต้องใช้แล้ว” แฮร์รี่ตอบ “ฉันไม่คิดว่าต้องใช้ทั้งขวดหรอกนะ เหมือนอย่างเฮเลนที่จิบเดียว ฉันคิดว่าไม่น่าใช้เวลาทั้งคืน สองสามชั่วโมงก็คงเรียบร้อย”

    “แต่ฉันจิบไม่ถึงอึกด้วยซ้ำไปแฮร์รี่” เฮเลนว่า “สงสัยครั้งนี้ก็คงต้องสักอึก”

    แฮร์รี่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เนื่องจากเพิ่งเห็นซลักฮอร์นเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่และรู้ว่าเขาชอบกินอาหารนานๆ ทั้งสี่จึงอ้อยอิ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมพักหนึ่ง และเมื่อเริ่มเห็นว่าดวงอาทิตย์คล้อยต่ำอยู่ระดับเดียวกับป่าต้องห้าม พวกเขาก็ตัดสินใจว่าได้เวลาแล้วและหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยว่าเนวิลล์ ดีน และเชมัสอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมพวกเขาก็แอบขึ้นไปที่หอนอนชาย

    “เอาล่ะ” แฮร์รี่พูดพลางดึงขวดใบเล็กออกมาจากในถุงเท้าที่ม้วนไว้ในหีบ เฮเลนไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องซ่อนมันเอาไว้ในถุงเท้าด้วย “ฉันจะกินล่ะนะ”

    เขายกขวดขึ้นดื่มอย่างระมัดระวัง เฮเลนเองก็หยิบขวดในเสื้อคลุมขึ้นมายกดื่มเช่นกันและคาวนี้เธอหวังว่าจะสามารถทำให้แท็คเผยความจริงออกมาได้ว่าเขาเป็นผู้เสพความตายจริงๆ และซ่อนอะไรเอาไว้ใต้เสื้อคลุมข้างซ้าย

    “เป็นไงบ้างเธอสองคน” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ

    เฮเลนเหมือนกับความรู้สึกเดิมกลับมา ความรู้สึกกังวลใจหายไปฉับพลันและรู้สึกว่าตัวเองทำได้ทุกอย่างแถมยังคิดว่าเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำให้แท็คเผยความจริงออกมาได้ ง่ายกว่าการดึงให้เฟร็ดกับจอร์จกลับมาสอบ ส.บ.พ.ส. ที่พวกเขาพลาดไปเมื่อปีที่แล้วเสียอีก

    “เยี่ยมไปเลย” แฮร์รี่บอก “เยี่ยมจริงๆ เอาล่ะ! ฉันจะลงไปกระท่อมแฮกริด”

    “อะไรนะ” รอนกับเฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกัน

    “เธอต้องไปหาซลักฮอร์น!” เฮอร์ไมโอนี่ย้ำ

    “ไม่ใช่” แฮร์รี่บอกอย่างมั่นใจ “ฉันต้องลงไปกระท่อมแฮกริด ฉันรู้สึกว่าจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นที่นั่น”

    “ฉันเองก็คิดว่าควรจะลงไปที่ลานปราสาท” เฮเลนพูดไปยิ้มไป “มันอาจจะช่วยให้อะไรดีขึ้นได้แน่ๆ”

    รอนและเฮอร์ไมโอนี่มองหน้ากันทำท่าทางไม่อยากเชื่อ

    “มันเป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำ” แฮร์รี่พูดต่อ “พวกเธอเข้าใจไหม”

    “ไม่” รอนและเฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกันอีกครั้ง

    “นี่มันใช่น้ำยานำโชคจริงๆ รึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ดูท่าทางกังวล เฮเลนและแฮร์รี่ไม่ได้มีทีท่าอะไรพิเศษ เขาเหวี่ยงผ้าคลุมขึ้นมาคลุมตัวเฮเลนและเขาก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะคิกคัก เฮอร์ไมโอนี่ตกใจยิ่งกว่าเดิม

    “ไว้ใจเถอะน่า” เฮเลนพูด “เรารู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร เนอะแฮร์รี่”

    “ใช่!” แฮร์รี่ตอบน้ำเสียงมั่นใจ “หรืออย่างน้อยนำโชคก็รู้”

    ทั้งสองเดินนำไปที่บันไดโดยมีรอนและเฮอร์ไมโอนี่ตามมาทางข้างหลัง ที่เชิงบันไดแฮร์รี่และเฮเลนแทรกตัวลงไปช้าๆ และพบเข้ากับลาเวนเดอร์ยืนอยู่หน้าประตูพอดี เสียงตวาดแว้ดของลาเวนเดอร์ดังขึ้นทันทีที่เห็นว่ารอนและเฮอร์ไมโอนี่โผล่มาจากหอนอนชายพร้อมกัน เฮเลนได้ยินเสียงรอนอึกอักในขณะที่ถลาข้ามห้องไปพร้อมกับแฮร์รี่

    การผ่านช่องรูปภาพออกไปเป็นเรื่องง่าย เธอเห็นจินนี่กับดีนเดินผ่านเข้ามาพอดี เฮเลนรู้สึกว่าแฮร์รี่สะบัดตัวไปโดนจินนี่นิดหน่อย

    “อย่าดันฉันดีน” จินนี่พูดน้ำเสียงหงุดหงิด “เธอทำแบบนั้นอยู่เรื่อยเลย”

    รูปภาพเหวี่ยงปิดตามหลัง เฮเลนได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันตามหลังนิดหน่อย สองพี่น้องก้าวอาดๆ ไปในปราสาทโดยไม่ต้องย่องเลย เพราะไม่เจอใครเลยแม้แต่คนเดียวระหว่างทาง แต่เฮเลนไม่รู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย

    เฮเลนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องไปนั่งที่ลานปราสาทตอนนี้ ไม่เห็นรู้เลยว่าแท็คจะเข้ามาเกี่ยวด้วยได้ยังไง แต่เธอรู้สึกว่าเธอกำลังเดินไปถูกทางที่จะได้คำตอบจากปากเขา เธอแยกกับแฮร์รี่ระหว่างทางและพบว่าโชคดีมากที่ไม่เจอฟิลช์แถวนั้น เฮเลนคิดว่ามันคงจะดีนะที่แอบไปเดินผ่านหน้าห้องโถงเสียหน่อยเผื่อว่าจะเจออะไรสนุกๆ ดังนั้นเธอจึงลากขาสองข้างให้เดินไปตรงหน้าห้องโถงทันทีและเธอไม่รู้สึกประหลาดใจเลยที่เห็นแท็คยืนอยู่หน้านาฬิกาทรายเก็บคะแนนบ้าน

    “หวัดดี” เฮเลนเอ่ยทักเสียงสดใส แท็คสะดุ้ง

    “มืดแล้วนะครับ” เขาไม่ได้ทักตอบ “มาทำอะไรตรงนี้เหรอครับเฮเลน”

    “แค่อยากไปนั่งที่ลานปราสาทนิดหน่อยน่ะ” เธอตอบ น้ำเสียงยังสดใสเช่นเดิม “ไปก่อนนะ”

    เฮเลนเดินออกมา ไม่ได้ฟังเสียงเรียกของแท็คเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วบริเวณให้แน่ใจว่าฟิลช์ไม่ได้อยู่ที่นั่น และแน่นอนว่าเขาต้องไม่อยู่ เพราะอะไรก็ไม่อาจทราบได้ ทุกอย่างดูจะราบรื่นไปเสียหมด เฮเลนนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่นั่งประจำ ดวงตากวาดมองเหล่าดวงดาวที่เริ่มจะประกายแสงแข่งกัน

    “นี่!” ในที่สุดแท็คก็ตามเธอมาจนได้ “ผมไม่คิดว่ามันจะดีถ้าเกิดคุณอยู่ที่นี่ ถ้าฟิลช์มา...”

    “ฉันอยากสูดอากาศหน่อยน่ะ” เธอตอบ “ถ้ากลัวนักก็นั่งเฝ้าซะเลยสิ”

    เด็กสาวไม่ได้ประชดแถมยังตบลงบนที่ว่างข้างๆ กายเบาๆ เป็นเชิงบอกให้เขานั่งลงด้วย แท็คทำท่ามึนงงนิดหน่อยแต่ก็ยอมนั่งลงโดยดี เขาดูต่างจากตอนที่อยู่กับเดรโกมากเสียจนเฮเลนยังแอบแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีผลอะไรในเรื่องที่ต้องการจะรู้อยู่แล้ว

    “แปลกนะครับ” แท็คเอ่ยขึ้นหลังจากเฮเลนปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม “ปกติแล้วคุณจะไม่ยอมเชิญให้ผมนั่งลงข้างคุณเลย”

    “งั้นเหรอ” เธอยักไหล่ “บางทีก็อาจจะแค่อยากให้มีคนนั่งเป็นเพื่อนน่ะ”

    แล้วก็เงียบไปอีก น้ำยานำโชคสั่งให้เธออยู่เงียบไปเรื่อยๆ โดยไม่พูดอะไร ดวงตามองท้องฟ้าราวกับว่ามีเสียงจากดวงดาวกำลังกระซิบพูดคุยกัน

    “ผมแปลกใจอีกเหมือนกันที่เห็นคุณ” แท็คเริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่สิ มันแปลกที่คุณโผล่มาตอนนี้ต่างหาก”

    “แต่มันแปลกกว่าที่เด็กปีสี่ไม่ยอมอยู่ในห้องนั่งเล่น” เธอพูด หันหน้าไปหาแท็ค “นายออกมาทำอะไรงั้นเหรอ ไม่มีเด็กที่ไหนอยากออกมาตอนนี้หรอกเพราะการบ้านช่วงท้ายเทอมนี่จะเยอะมากเลยเชียวล่ะ”

    “ผมออกมาสูดอากาศ” เขาพูด “มีเรื่องให้ผมต้องคิดอีกเยอะเลยล่ะครับ”

    “เรื่องอะไรล่ะ” เฮเลนตั้งคำถาม แท็คทำท่าคิดอยู่พักหนึ่ง

    “ก็หลายเรื่องครั้บ” เขาตอบ “แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคุณ”

    “เรื่องฉัน?” เฮเลนทวนคำ “ฉันไปมีอิทธิพลในความคิดของนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

    “ก็ไม่นานมานี้” เขาพูดเสียงเรียบ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันที เฮเลนทำเป็นไม่สนใจรอยยิ้มนั้น

    “งั้นแสดงว่านายให้ความสำคัญฉันมากเป็นพิเศษเลยล่ะสิ” เฮเลนยิ้ม “รู้สึกดีที่รู้แบบนั้น”

    แท็คหัวเราะเบาๆ ออกมา รอยยิ้มที่เฮเลนไม่ค่อยได้เห็นจากใบหน้าขรึมๆ นี่นัก ยกเว้นจะเป็นตอนที่เขาอยู่กับเดรโก แต่รอยยิ้มนั้นจะเป็นการแสยะยิ้มหรือการยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แบบเมื่อสักครู่เสียมากกว่า

    “นายดูดีมากเลยนะตอนยิ้ม” เธอพูดต่อ แท็คชะงัก “ลองยิ้มบ่อยๆ สิ เผื่อสักวันฉันอาจจะชอบนายก็ได้”

    ดวงตากลมโตมองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทนั้น มันไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ เหมือนอย่างเคย แต่ว่าประกายเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นกำลังบอกให้เธอพูดกับเขาต่อไปและทำอะไรก็ได้ให้เขาคิดว่ากำลังจะได้เธอไปครอง ร่างบางขยับเข้าไปเบียดชิดกับแท็คมากขึ้นโดยมือเล็กเลื่อนไปสัมผัสใบหน้าเขาอย่างแผ่วเบา เด็กหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะถอยหลังหนีแต่อย่างใด เขายังคงนั่งนิ่งมองการกระทำนั้นด้วยรอยยิ้มประหลาด

    “ขอโทษด้วยที่วันนั้นฉันคงวุ่นวายมากไป” เฮเลนพูดต่อ “เรื่องแขนซ้ายของนาย มันไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”

    “ครับ” เขาตอบ ดวงตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าเธอเลย “ไม่ได้เป็นอะไรครับ”

    ในตอนนี้เองที่เฮเลนเห็นว่าร่างของแท็คเริ่มสั่นน้อยๆ เธอจึงชะงักเอาไว้แค่นั้นแล้วลุกขึ้นยืน

    “ฟิลช์กำลังจะมา!” เธอโพลงขึ้น ความรู้สึกบอกให้เธอพูดไปแบบนั้น “ไปจากตรงนี้เถอะ”

    เด็กสาวจับมือแท็คให้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แท็คมีท่าทีมึนงงแต่ก็ยอมลุกขึ้นและวิ่งตามร่างบางออกไปจากลานปราสาท มีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งสองคนที่ดังกึกก้องไปในระเบียงทางเดินเงียบเชียบไร้ผู้คนในเวลานั้น เฮเลนลากเด็กหนุ่มเข้าไปแอบในห้องเรียนห้องหนึ่งก่อนจะเข้าสู่บันไดเวียน

    “หวังว่าตรงนี้คงปลอดภัย” เฮเลนพูดพลางหอบน้อยๆ

    “ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยครับ” แท็คถาม สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ในเมื่อผมไม่เคยเห็นฟิลช์ผ่านไปแถวนั้นเลยสักคืน”

    “นายรู้?” เฮเลนถาม “ออกมาที่นั่นทุกคืนเลยเหรอ”

    “ไม่เชิงหรอกครับ” เขายักไหล่ “ก็ผมบอกแล้วว่าผมมีเรื่องให้คิดแล้วก็มีเรื่องต้องทำด้วย”

    “เกี่ยวกับฉันอีกล่ะสิ” เฮเลนหลุบตาลงมองมือเรียวยาวของแท็คช้าๆ “ถ้ามันเป็นเรื่องของฉันทำไมนายไม่บอกมาเลยว่ามันเกี่ยวกับอะไร”

    “มันยากน่ะสิครับ” เขาพูด เลื่อนมือมาประคองใบหน้าเธอให้เงยขึ้นสบตาเขาเบาๆ “ถ้าเกิดว่าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม ผมคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีที่จะบอกให้คุณรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่”

    “ทำไม”

    “ไม่รู้สิครับ” เขายักไหล่ “เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญล่ะมั้ง”

    เฮเลนเงียบเสียงลง หูได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินวนไปวนมาแถวๆ หน้าประตูที่พวกเขายืนอยู่ แท็ค เลื่อนมือซ้ายขึ้นมาปิดริมฝีปากบางเอาไว้เบาๆ และเฮเลนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้โอกาสที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงแขนซ้ายของเขา มือเล็กเลื่อนไปสัมผัสแขนซ้ายเบาๆ และดึงมือของเขาออกจากริมฝีปาก

    แท็กมีสีหน้างุนงงอีกครั้งเมื่อเด็กสาวเลื่อนสองแขนขึ้นไปวางพาดบนไหล่และดึงคอเขาให้โน้มลงมาใกล้ๆ ริมฝีปากบางประทับลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา อะไรก็ตามที่ความรู้สึกสั่งให้ทำเพราะน้ำยานำโชคนั้นไม่ได้ทำให้เฮเลนคิดได้เลยว่ามันผิดหรือถูก และดูเหมือนแท็คนั้นจะอึ้งไปเมื่อได้รับสัมผัสนั้นจากเธอ

    “เอ่อ...” เขาเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไร”

    “แน่นอน” เฮเลนยิ้ม ถอนริมฝีปากออก มือเล็กเลื่อนไปสัมผัสแขนซ้ายของเขาอีกครั้งและดูเหมือนครั้งนี้แท็คจะไม่ได้ดึงมันหนีหรือถอยหลังหนีเธอเลยแม้แต่ก้าวเดียว “แล้วทีนี้บอกฉันได้รึยังว่านายกำลังคิดเรื่องอะไร”

    “บางทีผมคิดว่ามันน่าจะมีข้อแลกเปลี่ยนมากกว่าแค่จูบนะครับ” เขาว่าแล้วยกแขนขึ้นรวบร่างเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเรียน ดวงตาคมมองจ้องเข้าไปในดวงตาสีเขียวของเธอ เฮเลนยิ้มออกมาบางๆ ในขณะที่แท็คเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เธออีกครั้งเพื่อฉกชิงความหวานจากริมฝีปากของเธอไป

    ปากบางพรมจูบไล่ลงมาที่คางและไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงใบหู โชคร้ายของแท็คที่ในขณะที่เขากำลังหลงในกลิ่นกายของหญิงสาว แขนเสื้อคลุมก็เลื่อนลงมา ดวงตากลมโตมองไปยังรอยแผลเป็นรูปหัวกะโหลกสีดำบนท่อนแขนของเขาทันที น้ำยานำโชคกำลังบอกให้เธอจดจำทุกรายละเอียดของมันโดยที่ไม่ให้เขารู้ตัว ตรามาร ที่เธอเห็นทำให้รอยแผลเป็นบนหน้าผากรู้สึกแสบร้อนขึ้นมาทันที!

    มือเล็กผลักร่างของแท็คออกเต็มแรง ร่างสูงผงะ สีหน้าดูมึนงงยิ่งกว่าเก่า เฮเลนเลื่อนมือไปกุมหน้าผาก

    “เอ่อ” เธอเอ่ย “ฉันขอโทษนะ”

    “เป็นอะไรรึปละ...”

    “ขอตัวก่อน” เฮเลนรีบพูด “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย แล้วเจอกันนะ”

    เมื่อเสียงฝีเท้าหายไป เฮเลนก็รีบผลักประตูออกไปทันที ดูเหมือนน้ำยานำโชคเริ่มจะหมดฤทธิ์ลงเรื่อยๆ ร่างบางเดินมาพบแฮร์รี่ที่หน้าช่องรูปภาพ เขากำลังโวยวายกับสุภาพสตรีอ้วนอยู่เลยเชียว

    “คุณพูดเป็นเล่น!” แฮร์รี่ร้อง “ทำไมถึงเปลี่ยนตอนเที่ยงคืนด้วยล่ะ”

    “ก็เป็นแบบนี้ล่ะ” สุภาพสตรีอ้วนตอบ “ถ้าไม่ชอบก็ไปเจรจากับอาจารย์ใหญ่เองเถอะ เขากำชับเรื่องการรักษาความปลอดภัยนี่!

    “เยี่ยมเลย” เฮเลนพูด แฮร์รี่หันมาหาเธอทันที

    “มาแล้วเหรอ!” แฮร์รี่พูด “ฉันได้ความทรงจำมาแล้วล่ะ”

    “ดีเลย” เฮเลนพูดเสียงเอื่อย “ฉันก็เห็นมันแล้วเหมือนกัน”

    เงียบกันไปพักหนึ่ง

    “และถ้าดัมเบิลดอร์อยู่ที่นี่ฉันจะรีบแจ้นไปบอกเขาทันที!” เฮเลนว่า “แล้วก็ต้องรีบไปหาเดรโกด้วย เราจะได้ไปพร้อมกันเลยไง”

    “ท่านอยู่ที่นี่” เสียงดังขึ้นเหนือหัวทั้งสอง “เขากลับมาที่โรงเรียนเมื่อชั่วโมงก่อน”

    นิกหัวเกือบขาดลอยเลื่อนลงมาหาฝาแฝด หัวโคลงเคลงอยู่บนแผงคอเสื้อเหมือนเคย

    “ฉันได้ยินมาจากบารอนเลือด ซึ่งเขาเห็นว่าท่านกลับมา” นิกพูด “ตามที่บารอนเลือดบอก ดูเหมือนท่านจะอารมณ์ดี แต่ก็ดูอ่อนเพลียเล็กน้อย”

    “เขาอยู่ที่ไหน” แฮร์รี่เอ่ยถามท่าทางตื่นเต้น

    “อ๋อ ก็ขึ้นไปส่งเสียงครางบนหอดูดาวไง ใช้เวลาว่างเหมือนที่เขาโปรดปราน...”

    “ไม่ใช่บารอนเลือด” เฮเลนแย้ง “ดัมเบิลดอร์น่ะ”

    “อ๋อ! ในห้องทำงาน” นิกบอก “บารอนเลือดบอก ฉันคิดว่าเขาคงมีธุระก่อนเข้านอน”

    “ใช่” เฮเลนพูดเสียงสดใส

    “เขามีแน่!” แฮร์รี่พูดต่อ ทั้งสองไม่รอช้าที่จะวิ่งลงบันไดไปอีกครั้งโดยไม่สนใจเสียงสุภาพสตรีอ้วนที่ร้องเรียกตามหลังเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว

    “กลับมานะ! เอาละ ยอมแล้ว ฉันโกหก! ฉันไม่ชอบที่พวกเธอมาปลุกนี่!! รหัสผ่านยังเหมือนเดิมอยู่ เฮ้!!

    ไม่มีใครฟังเธออีกแล้ว เฮเลนยืมผ้าคลุมล่องหนจากแฮร์รี่และวิ่งไปตามเดรโกที่บ้านสลิธีรินในทันที โชคดีที่เดรโกกระซิบบอกรหัสผ่านห้องนั่งเล่นบ้านล่าสุดเอาไว้ให้เธอแล้วดังนั้นทุกอย่างมันจึงราบรื่นราวกับว่าช่วงเวลาสุดท้ายของน้ำยานำโชคยังไม่หมดไป!



    ติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×