ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    .Idea Cage.

    ลำดับตอนที่ #42 : satan possessed an angel...?

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 64


    *อาจมีคำหยาบปนมาบ้างเล็กน้อย แต่จะพยายามเซ็นเซอร์เท่าที่ทำได้นะคะ

    // ขอเปลี่ยนอิมเมจนิดหน่อยนะคะ คือว่าไปค้นมาดี ๆ แล้วนักวาดเขาไม่ให้รีโพสต์น่ะค่ะ แง้ ;;___;;


    ______________________________________________________________________________


    Application


    “ ชื่อคณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัยครับ ถ้าชื่อยาวไปก็เรียกว่าที่รักก็ได้
    หรือถ้ายังคิดว่ายาวไปอีกก็เรียกว่าทูนหัวไปเลยครับ แต่ถ้ายังคิดว่ายาวไปอยู่ดีก็เรียกว่ายาหยีก็ได้ครับ ”


    “ เฮ้ยพี่ ผมมีเรื่องจะบอกพี่อะ คือผมชอบพี่มาก ชอบมาสามปีแล้ว ผมทำทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างก็เพื่อพี่
    ผมไปคัดเลือกนางรำ เล่นละครเวที ไปเป็นดรัมเมเยอร์ เรียนหนังสือให้เก่งก็เพื่อพี่
    แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมควรจะทำมากที่สุด และน่าจะทำมาตั้งนานแล้วคือบอกกับพี่ตรง ๆ ว่า... ขอยืมเงินหน่อยครับ ”



    // CR. 
    @S2ocks777 //



    บทบาท : [11] other



    ชื่อ-นามสกุล : คณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัย เจราร์โด ( คำอ่านของชื่อ : คะ-นา-ทิบ-อะ-ชิ-ระ-ฉัน-ทัด-ทะ-นัน-วอ-ระ-นน-วัด-ทะ-นะ-ไช | คำอ่านของนามสกุล : เจ-รา-โด ) | Kanathipachirachanthadthananworanonwadthanachai Gerardo



    ความหมายของชื่อ : 

    คณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัย แปลว่า ผู้เป็นหัวหน้าคนนั้น เกิดมาด้วยความพึงพอใจ และเป็นผู้ที่คล่องแคล่ว มีทรัพย์มากมายอีกทั้งยังมีจิตใจอันประเสริฐ ชิงชัยชนะมาด้วยความบริสุทธิ์ ก่อผลเป็นความเจริญรุ่งเรือง | เจราร์โด แปลว่า ความแข็งแรง,แข็งแกร่ง

    คณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัย เจราร์โด / ผู้เป็นหัวหน้าคนนั้น มีความรู้มากมายและแข็งแกร่ง เกิดมาด้วยความพึงพอใจ และเป็นผู้ที่คล่องแคล่ว มีทรัพย์มากมายอีกทั้งยังมีจิตใจอันประเสริฐ ชิงชัยชนะมาด้วยความบริสุทธิ์ ก่อผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองอย่างน่าประทับใจ



    ชื่อเล่น/ชื่อที่เรียก : คนโปรด , ค็อกเทล - Khonprod,Cocktail ( จริง ๆ แล้ว 'คนโปรด' คือชื่อเล่นจริง ๆ ที่พ่อแม่เขาตั้งให้ตั้งแต่เกิด แต่เพราะเพื่อน ๆ ของเขารู้สึกขนลุกซู่ทุกทีที่ต้องเรียกแบบนั้น จึงลงความเห็นให้เจ้าตัวนึกชื่อเล่นของตนเองขึ้นมาใหม่ แล้วชื่อ 'ค็อกเทล' จึงถือกำเนิดขึ้นมาเอาตอนที่เขาอายุได้ 9 ปี เพื่อน ๆ ทุกคนเขาจึงเรียกด้วยชื่อนี้มาตลอดจนโต จะมีแค่ครอบครัวของเขาเท่านั้นที่ยังเรียกเขาว่าคนโปรดอยู่ จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องชื่อเรียกอะไรหรอก เขามักจะตามใจความสบายปากของคู่สนทนาเสมอ ทว่าลึก ๆ แล้วออกจะอยากให้เรียกว่าคนโปรดด้วยซ้ำ, ก็มันน่ารักดีออกนี่นา )



    เพศ : ชาย



    สัญชาติ : อิตาลี



    เชื้อชาติ : ไทย-อิตาลี



    วันเกิด : 14 กุมภาพันธ์



    อายุ : 16 ปี



    สายพันธุ์ที่อยู่ในตัว : หมาป่าสีเทา (Canis lupus หรือ Grey Wolf)



    อาชีพ : นักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่ 1



    ที่อยู่ : บ้านที่อยู่ในประเทศไทยตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครเขตลาดพร้าว นอกจากนี้ครอบครัวของเขาก็ยังมีบ้านอยู่ที่ประเทศอิตาลีด้วย ตั้งอยู่ที่กรุงโรมซึ่งเป็นเมืองหลวง เขาไม่ค่อยได้ไปบ่อยนัก เว้นแต่ช่วงปิดเทอมแล้วก็มีอารมณ์อยากไป (...) ปัจจุบัน พอได้เข้าโรงเรียนสัตว์น้อย เขาก็สิงอยู่ในหอพักชายมากกว่าจะกลับมาที่บ้านเสียอีก ไม่ว่าจะหลังไหนก็ตามทีเถอะ



    ส่วนสูง/น้ำหนัก : 189 เซนติเมตร 78 กิโลกรัม



    รูปร่างลักษณะ :

    เด็กผู้ชายที่ดูราวกับหมาป่าหุ้มหนังแกะ, ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทีเป็นมิตร แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็แอบร้ายอยู่เหมือนกัน หากมีคนที่อยากแกล้ง (ด้วยความเอ็นดู) หรือแค่อยากกวนประสาทใครจริง ๆ ล่ะก็, คนโปรดเป็นคนหน้าตาดีในระดับของเทพบุตรทีเดียว กระนั้นก็คงพูดไม่ได้ว่าดูดีที่สุดแล้วหรอก เขาคงเส้นอยู่ในสไตล์จัดจ้าน (?) นิด ๆ มากกว่า คนโปรดเป็นเด็กร่าเริงตามวัยที่ควรจะเป็น เล่นซุกซนในแบบที่สร้างบรรยากาศดี ๆ ฟุ้งกระจายพาให้ผู้คนยิ้มแย้มได้ ฉะนั้นแล้ว แค่เห็นหน้าคนโปรด ผู้คนก็ล้วนแล้วแต่มองว่ารอบตัวคงได้สนุกสนานเฮฮาอีกแน่, แต่ในขณะเดียวกัน ไอ้เด็กนี่มันก็ร้ายใช่เล่น ถึงจะยิ้มและพูดจาน่ารัก ๆ อยู่ แต่ก็อาจก่อกวนคนนั้นทีคนนี้ทีเป็นว่าเล่นเลยก็ได้ หลากหลายการกระทำ ทำให้เขาดูเหมือนกับคนอันตรายที่ไม่อันตราย (?) อยู่ใกล้ได้อย่างสบายใจแต่ก็กลัวโดนแกล้ง (?) เหมือนกับซาตานที่ลงมาสิงร่างเทวดาตัวน้อย (?) สรุปแล้ว บรรยากาศรอบตัวหมอนี่ก็ถือว่าดีนะ... แต่ก็แอบน่าระแวงเหมือนกัน, ระแวงในเชิงที่ว่ามันจะก่อกวนหรือแกล้งแหย่อะไรอีกรึเปล่านี่แหละ ยิ่งแกล้งแล้วหันมาตีหน้าซื่อจนโกรธไม่ลงนี่ยิ่งน่ากำหมัดใหญ่เลย


    รูปตาเรียวคมสมเป็นนักล่า แก้วตาสีเขียวหม่น ๆ ไม่ต่างอะไรจากหลุมมนต์ดำที่พร้อมจะสูบเอาผู้คนลงไป—สีตาของคนโปรดเป็นแบบนั้น และถึงมันจะฟังดูน่ากลัวไปเสียหน่อย แต่เอาจริง ๆ แล้ว แววตาของเขาสุกประกายสดใสจะตายไป มันให้ความรู้สึกว่าน่ารักมากกว่าน่ากลัวจริง ๆ นะ แพขนตายาวสีอ่อนคลี่คลุมเปลือกตา เส้นคิ้วโค้งตัวสวย คั่นด้วยสันจมูกโด่งเป็นสันตามสายพันธุ์เด่นรับกับริมฝีปากกระจับสีแดงเรื่อได้รูป เรือนผมสีเงินเป็นประกายสีเขียวอ่อน ๆ ยามต้องแสงก็ดูน่ารักไปอีกแบบ เข้ากันกับผิวขาวอมชมพูดูสุขภาพดี, คนโปรดเป็นคนตัวสูงและมีกล้ามเนื้อในแบบของคนที่เล่นกีฬา บวกกับเชื้อพันธุ์ที่ทำให้เขาทั้งแข็งแรงและโดดเด่นกว่าเพื่อน ๆ ชาวไทยนิดหน่อย เขามีแผลตามตัวประปรายอันมาจากช่วชีวิตที่ผ่านมาทั้งอุบัติเหตุ ความซุ่มซ่าม และประสบการณ์ต่าง ๆ นา ๆ แม้จะไม่ใช่แผลใหญ่อะไรนัก แต่ก็มีให้เห็นได้เรื่อย ๆ ทั้งตามแขนขา หรือไม่ก็ฝ่ามือ ข้อเท้า อะไรทำนองนั้นเลยล่ะ


    คนโปรดชอบอะไรที่มีสีสันมาก ๆ, เขาเป็นคนประหลาดที่ชอบใส่เสื้อสีตามวัน วันจันทร์ใส่สีเหลือง วันอังคารสีชมพู วันพุธสีเขียว วันพฤหัสสีส้ม วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง วันอาทิตย์ก็สีแดง ในตู้ของเขามีเสื้อผ้าเยอะมาก เพราะนอกจากจะมีหลายสีแล้ว ทุก ๆ สีก็ยังมีแยกย่อยออกไปตามฤดูกาลอีกทั้งหนาว ร้อน ฝน เขามีสไตล์การแต่งตัวและการเลือกจัดเสื้อผ้าที่ดีมาก บวกกับทุนเดิมหน้าตาก็เป็นใจให้ใส่อะไรก็ดูดีอยู่แล้วจึงไม่ค่อยมีปัญหากับการเลือกชุดในแต่ละวันเท่าไหร่ คนโปรดสามารถใส่เสื้อผ้าสีทึบ ๆ ได้หากว่ามันจำเป็น แต่เขาแค่ไม่ชอบเพราะมันดูไร้สีสันไปหน่อยแค่นั้นเอง... ส่วนมากแล้ว เขามักจะใสเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ไม่ก็เสื้อยืดทับด้วยเสื้อคลุมตัวนอกที่เป็นสีตามวัน กางเกงสามส่วน รองเท้าผ้าใบ ถุงเท้า และกระเป๋าเป้, โดยรวมแล้ว สไตล์ของเขามีหลายหลากมาก บางวันอาจดูเหมือนเด็ก บางวันอาจสุขุมหล่อเร้าใจ บางวันอาจคล้ายคนปัญญาอ่อน (...) ขึ้นมาได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องเครื่องประดับ อันนี้ก็คงแล้วแต่ว่ามันจะมีอะไรแมชกับเครื่องแต่งกายของเขาไหม ถ้ามีก็จะใส่ เช่นพวกสร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน กำไลข้อเท้าอะไรแบบนี้, แต่ของที่ใส่ประจำก็คือนาฬิกาข้อมือดิจิตอลสีชมพูอ่อน จิวทับทิมแท้กับจิวโลหะสีดำที่หูข้างซ้ายเท่านั้น



    ลักษณะนิสัย : 

    เด็กนี่มันตัวโตอย่างกับหมีนัก, อายุไม่มาก แถมมีแววจะสูงขึ้นได้อีกนิดหน่อยด้วย มองดูแล้วก็น่าอิจฉาเหมือนกัน ขณะเดียวกัน ก็น่าหมั่นไส้ไม่ต่างกันด้วย คนโปรดเป็นเด็กหนุ่มวันสิบหกปีที่แสนสดใสอย่างกับหลุดออกมาจากอนิเมะสักเรื่อง รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าจนตาหยีปิด ท่าทีกระดี๊กระด๊าเบ่งบานเป็นประกายกับการใช้ชีวิตเสมือนเป็นแบตเตอร์รี่พลังงานที่ไม่มีวันหมดอายุ คนโปรดเป็นคนยิ้มง่ายหัวเราะง่าย อีกทั้งยังเป็นมิตรและรู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แล้วคนส่วนมาก ก็ค่อนข้างที่จะชอบเด็กแบบเขา ไม่แปลกเลยหากเดินไปไหนมาไหนจะมีแต่คนทักทายตลอด ไม่เพียงแค่นั้น พวกลุง ๆ ป้า ๆ น้า ๆ หรือใครอีกหลาย ๆ คนก็มักจะหอบหิ้วเอาขนมหรือของที่ตัวเองขายมาแบ่งปันให้เขาด้วย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้เอ่ยปากเขา นั่นน่ะ เป็นการให้ที่เหมือนกับผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กนั่นแหละ... พวกเขาก็คงเอ็นดูคนโปรดแบบนั้นเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม คนโปรดไม่ใช่คนสุภาพนอบน้อมอยู่ในกรอบขนาดนั้นหรอก เขาออกจะขี้เล่น ทะเล้น แป้นแล้น กวนประสาทติดหยอกล้อเชิงสนุกสนานกับคนอื่น ๆ ได้ดี ทำให้บทสนทนาระหว่างเขาไม่เคยน่าเบื่อเสียมากกว่า หลาย ๆ คนจึงชอบที่จะคุยกับเขา, พวกลุง ๆ ป้า ๆ เองก็บอกว่าคุยกับคนโปรดแล้วสนุกดี คนโปรดไม่ใช่คนที่จะหยิบเอาปมด้อยหรือข้อด้อยข้อจำกัดของใครมาพูดในเชิงตลกขบขัน เขาเป็นเด็กจำพวกที่เข้าใจเรื่องพวกนี้ดี จึงแยกแยะออก และสร้างสีสันในการคุยเรื่องที่น่ารักน่าฟังจริง ๆดีกว่า และนั่นก็คงเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนประทับใจในตัวเขาจริง ๆ นั่นแหละ


    คนโปรดเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูไปด้วยความสนุกสนานไม่ว่าทั้งกับคำพูดหรือการกระทำ, เขาซุกซน ว่องไว รวดเร็ว แต่ก็พ่วงมาด้วยความกระฉับกระเฉงขยันขันแข็ง พอถูกคุณยายข้างบ้านเรียกก็วิ่งปรู๊ดเข้าไปหา ช่วยทำนั่นทำนี่ให้ พอจบภารกิจแล้ว ยายแกก็เอ็นดูจนทำขนมอร่อย ๆ ให้ทานเหมือนกัน ในระหว่างที่ทำงานหรือทำอะไรอยู่ เจ้าเด็กนี่ก็ชวนคุยแบบไม่หยุดปาก ไม่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบจนอึดอัด ไม่ปล่อยให้คนรอเหงาเสียจริง ๆ ดูแล้วเขาก็ไม่เหนื่อยเลยด้วยนะ ที่พูดไปชวนคุยไปทำงานไปด้วยแบบนี้ กลับสนุกสนานมีพลังงานในการทำยิ่งกว่าเดิมเสียอีกต่างหาก คนรอก็ได้แต่มองแล้วสงสัยไปเถอะ แต่กลับกัน ถ้าหากทำงานร่วมกันจริง ๆ แล้วคนโปรดเอาแต่ชวนคุยด้วยแบบนี้จะหงุดหงิดรำคาญใจเอาได้น่ะสิ, แบบว่า... ยังไงดีล่ะ ก็คนโปรดทำงานไปพูดไปด้วยได้นี่ แต่คนอื่นก็อาจจะทำไม่ได้เพราะทั้งรำคาญและเสียสมาธิเอาน่ะสิ ได้ควาดใส่เข้าให้ แล้วหลังจากนั้น พอถูกดุเรื่องที่พูดมากตอนทำงาน เจ้าเด็กค็อกเทลก็จะร้องว่า "ง่า" "เง้อ" "งื้อ" "หงุม" เอาด้วย มันเป็นคำอุทานจำพวกที่ตกใจผสมน้อยใจที่เขาติดปากมานานแล้ว... แล้วก็น่าหมั่นไส้มากด้วย ไม่รู้ว่าเด็กนี่ไปเอาภาษาไทยกลุ่มคำแบบนี้มาจาไหน มันออกจะน่าหยิกปากมากกว่าน่ารักน่าเอ็นดูนะนั่น, ด้วยความที่คนโปรดเป็นคนมีพลังงานสูงผิดปกติประหนึ่งยอดมนุษย์ ฉะนั้นต่อให้พูดไปทำงานไปหัวเราะไปยังไงเขาก็เหนื่อยแค่ชั่วแวบเดียวเดี๋ยวก็หายได้แล้ว ไม่มีสัญญาณอาการที่บอกว่าเขาจะเสียงแหบหรือเป็นลมไปเลยสักนิด เรื่องแบบนี้นับเป็นอะไรที่หลาย ๆ คนพากันประหลาดใจ แต่ก็ชินไปบ้างแล้ว... ก็นะ ทำใจให้ชิน ๆ ไปจะดีกว่ามานั่งหาคำตอบของทฤษฎีพิลึก ๆ มากมายในตัวเด็กนี่ตั้งเยอะนี่นา ครั้นจะเอ่ยถาม เจ้าตัวเองก็หาคำตอบที่ฟังดูมีสาระให้ไม่ได้ด้วยสิ


    ค็อกเทล หรือก็คือคนโปรดเป็นคนที่พูดมาก แถมกวนประสาทอีกต่างหาก จะบอกว่านั่นเป็นเพียงการสร้างสีสันให้โลกใบนี้ (?) ก็คงถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะเกินกว่าครึ่งหนึ่งของภารกิจในชีวิตประจำของเขา ก็มักจะเป็นการไปแหย่คนนั้นคนนี้ที่ดูแล้วน่าแกล้งให้หงุดหงิดเล่น (?) ทำนองว่า คนโปรดเป็นพวกโรคจิตชนิดหนึ่ง (?) ที่มองว่าคนบางคนหงุดหงิดใส่แล้วน่ารักดี ขู่แง๊ว ๆ ใส่อย่างกับลูกแมวเลย มันน่าแกล้งนัก แล้วเขาก็ไม่ค่อยสลดเวลาโดนด่าด้วย ผนวกกับร่างกายที่บึกบึนแข็งแรงแกร่งกล้าพอที่จะทนรับการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม ต่อให้โดนตบโดนต่อยก็ไม่บุสลาย (...) ไปง่าย ๆ ค็อกเทลทนมือทนเท้าดีมาก อึดเยี่ยงแมลงสาบ หน้าด้านเยี่ยงแผ่นคอนกรีต อย่างไรแล้ว ถ้าเขาอยากแกล้งใคร หรืออยากวอแวใครก็คงไม่ล้มเลิกไปง่าย ๆ หรอก, อย่างไรก็ตาม ถึงจะบอกว่าคนโปรดชอบวอแวคนอื่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบคุกคามใครหรอกนะ อย่างน้อย ๆ ก็มีขอบเขตอยู่เหมือนกัน เขาไม่ได้เล่นแบบไม่รู้กาลเทศะจนเป็นเรื่องวุ่นวายแน่นอน ที่สำคัญคือเขาไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของใคร อย่างเช่นการต่อว่าข้อด้อยหรือดูถูกความสามารถของคนอื่น ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ทำแน่ ๆ หากแต่ ถ้าเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะแซวกันได้ขำ ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ไม่เคยพลาดหรอก คนโปรดคิดก่อนทำเสมอ และไม่เคยแกล้งอะไรใครในเชิงที่มันรุนแรงจนทำร้ายจิตใจใครด้วย, สิ่งที่เขาทำ มันเป็นเหมือนกับการเย้าแหย่เล่น ๆ ไม่รุนแรงมากเสียมากกว่า แต่พอเห็นท่าไม่ดีก็หยุดเหมือนกัน เพราะถ้าแกล้งมาก ๆ เข้าก็อาจจะถูกเกลียดก็ได้นี่นะ (อ่า หรือถูกเกลียดไปแล้วก็ไม่รู้)


    ทักษะการพูดจากของคนคนนี้จะว่าดีก็ดี แต่จะว่าพูดมากไปก็ใช่เหมือนกัน, เขาเป็นที่รักของอาจารย์ และลุง ๆ ป้า ๆ รอบ ๆ โรงเรียนเพราะอาการที่คุยกับใครก็ได้นี่แหละ ไหลตามน้ำได้หมดทุกอย่าง เม้ามอยร่วมวงบทสนทนาได้หมดทุกเรื่อง คุยกันเรื่องบ้านพักคนชรากับยายข้างบ้านเขาก็ทำมาแล้ว หรือจะให้มานั่งเม้ามอยเรื่องของสาว ๆ ก็ได้เหมือนกัน อยู่ในข้อจำกัดของพวกที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ปรับสภาพตัวเองเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา เพราะแบบนั้นเขาจึงรู้จักคนนั้นคนนี้เยอะแยะไปหมด คุยกับหลาย ๆ คนอย่างที่เส้นเสียงไม่เคยพัง เรียกง่าย ๆ ว่าเขาเป็นคนคุยเก่ง แต่สไตล์ของเขา ก็ออกจะขี้อ้อนหน่อย ๆ เง้างอเง้อง้า (?) จนน่าบีบคอเสียให้ขาด บางทีน่ะนะ พูดดี ๆ แบบปกติไม่ได้ เป็นต้องดัดเสียงให้ลีบเล็กเหมือนคนขาดอากาศหายใจอีกต่างหาก สำหรับบางคน นั่นอาจน่าเอ็นดู แต่ก็มีสำหรับบางคน ที่มันน่าหมั่นไส้นักนะไอ้ด็กนี่, เขาน่ะ ชวนคุยเก่ง ตบมุกเก่ง ชงบทสนทนาทุกรูปแบบได้อย่างกับเซียนมาเอง จะพูดคนเดียวก็ทำได้เหมือนกัน คุยอย่างออกรสชาติอย่างกับว่าเคยเจอเรื่องนั้นมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว และไหนจะสกิลชอบแซวชอบแหย่อีก พ่วงมาพร้อม ๆ กับความยกยอชื่นชมไม่ขาดปาก จะแบบไหนคนโปรดก็ถนัดทั้งนั้น (จะให้ด่าใครก็ถนัดเหมือนกัน เพียงแต่อันนั้นเขาเลือกที่จะไม่ทำเพราะมันไม่ดีน่ะสิ) บทจะชมก็อวยไส้ขาด บทจะแหย่ก็กระตุกหนวดบ่อยจนน่ายิงทิ้ง ความพอดีเรื่องการพูดแทบไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของไอ้หมอนี่เลยจริง ๆ จะถามวามันเป็นข้อดีได้ไหม ก็คงแล้วแต่คนแล้วแต่สถานการณ์จริง ๆ นั่นแหละ เพราะบางครั้ง ความช่างยอของคนโปรดก็ทำให้ครูหลาย ๆ คนปราบปลื้มจนเห็นเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้เหมือนกันนะ พอเป็นแบบนั้น เจ้าคนโปรดก็ได้ทียอใหญ่เพื่อหวังผลประโยชน์เชียว กระนั้น เขาก็ไม่ใช่เด็กเลวอะไรที่คิดจะโกยผลประโยชน์ในเชิงอาชญากรรมหรอก อย่างมากก็แค่คะแนนความประพฤติเอง...


    พูดกันว่าเด็กคนนี้มีปฏิกิริยาตอบรับกับการถูกเรียกชื่อไวมาก, แบบว่า ก็เขาเป็นคนที่อยากคุยอยากเล่นกับทุก ๆ คนไง พอถูกเรียกก็เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ เตรียมตัวกระดิกหางดิ๊ก ๆๆ รอแล้วนะนั่น (?) ใครเรียกก็หันหมด ไม่ว่าจะแค่ยิ้มทักทายหรืออะไรก็ตามทีเถอะ ถ้ามีเรื่องให้ช่วยเขาก็ยินดีจะช่วย แต่บางครั้งก็จะปฏิเสธถ้ารู้ตัวว่าตนเองจะถูกหลอกใช้เข้าแล้ว คนโปรดเป็นเด็กน่ารักสดใส ร่าเริง แถมเป็นที่รักของใครหลาย ๆ คน ทว่าก็ไม่ใช่เด็กที่สุภาพขนาดนั้น ไม่ได้เชื่อฟังคนนั้นคนนี้ไปหมดด้วย ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เด็กหยาบคาย และเกเรไม่ฟังใครเช่นกัน เขาแค่อยู่ในกรอบของเจ้าลูกหมาผู้เชื่อฟังแต่คนที่หวังดีกับตนเอง หรือไม่ก็คนรอบตัวที่สนิทสนม ใครจะมาหลอกใช้ เจ้าตัวก็ย่อมรู้ดี เป็นหมาก็ย่อมเห่าใส่ เป็นคนโปรดก็ย่อมหันหลังให้อย่างไม่สนใจไยดี เห็นแบบนี้น่ะ เขาฉลาดมองคนและรู้เท่าทันกว่าที่คิดนะ จากภายนอกแล้ว คนโปรดเหมือนจะเป็นเด็กที่ดูใสซื่อ เชื่อฟังเขาไปเสียหมด แต่เอาเข้าจริง ๆ หมอนี่น่ะ ฉลาด เจ้าเล่ห์ แล้วก็สันทัดเรื่องการมองคนเป็นที่สุดเลยล่ะ เพราะการเป็นที่รักของผู้ใหญ่หลาย ๆ คนจึงดูได้เปรียบอีกทั้งถ้าเขาออดอ้อนขออะไรจากผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ คนพวกนั้นก็ย่อมใจอ่อนยวบ เพราะเท่าที่ผ่านมา คนโปรดก็มีพฤติกรรมดีมาตลอด ขึ้นหิ้งเป็นลูกชายสุดที่รักของคนเหล่านั้นไปแล้ว, ต่อให้อาจารย์บ่นดุด่าบ้าง แต่สายตากลับเอ็นดูมากกว่าเสียกว่าจะเอือมระอา


    เด็กขี้วอแว ขี้เหงา ชอบคุยชอบเล่นกับเพื่อน ๆ หรือกับคนอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ, และแน่นอน เพราะการที่เขาสามารถเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ดีนี่แหละ เขาถึงได้ไม่เคยเหงาเลย ดั่งคำนิยามลอย ๆ ที่ว่า "ใคร ๆ ก็รักคนโปรดทั้งนั้นแหละ ก็เพราะคนโปรดน่ารักไง" แม้ว่าจะแอบมีคนหมั่นไส้อยู่บ้าง แต่นั่นก็คงจะเป็นส่วนน้อยไปแล้ว เพราะส่วนมาก ก็โดนเจ้าเด็กนี่ครอบงำจิตใจ (?) ไปเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าคนโปรดเป็นคนเลวที่แสร้งแกล้งทำเพื่อผลประโยชน์อะไรหรอก... ต้องบอกว่าหลงใหลในออร่าเจ้าเด็กเทวดาตัวใหญ่แสนน่ารักน่าจะถูกกว่า ใคร ๆ ต่างก็มองว่าเด็กนี่เป็นเทวดาคอยนำพาความสว่างสดใสเจิดจ้ามาสู่ผืนอผ่นดินกันทั้งนั้น แต่สำหรับบางคน ก็อาจจะเป็นเด็กเปรตไปเลยก็ได้ เพราะคงจะมีอยู่บ้างนั่นแหละที่รำคาญความขี้วอแวของเขาน่ะ ทว่าคนโปรดก็หาได้สนใจไม่ เขากลับชอบเสียอีกที่ได้แกล้งแหย่คนนั้นคนนี้ ยิ่งชอบเข้าไปอีก เขาน่ะ มันซาตานในร่างของเทวดาตัวน้อยชัด ๆ นิสัยขี้แกล้งขี้แหย่ แถมแอบร้ายและเจ้าเล่ห์นิด ๆ ในแบบที่คนส่วนมากมองไม่ออกเพราะมัวแต่หลง (ในภาพลักษณ์เทวดาผู้น่ารัก) ยิ่งทำให้น่าหงุดหงิดไปกันใหญ่เลย คนอย่างคนโปรดใช่ว่าจะใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองทำร้ายใคร เขาแค่แกล้งเล่นมากกว่า อาจเพื่อความสนุกสนาน เอ็นดู หรืออะไรก็ตามเท่าที่ความบันเทิงในใจของเขาจะบอกกล่าวออกมา, แน่นอนว่าถึงแม้มันจะไม่ได้ร้ายแรงเข้าขั้นทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย แต่ดูจะเป็นการทำลายประสาท (?) ให้อีกฝ่ายแทบจะเป็นบ้ารายวันมากกว่ามั้ง...


    โดยปกติแล้วเขาเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่ตลอด ซื่อตรงไปหมดทุกเรื่อง จริงจังจริงใจมากพอจะเอ่ยกล่าวออกไปตรง ๆ แต่ก็มีบางเรื่องที่คิดว่าถ่าโกหกหรืออ้อมค้อมได้ก็ต้องทำเหมือนกัน, ถ้าหากมีคนที่ชอบมากจริง ๆ คนโปรดก็คงจะพูดออกไปตรง ๆ และแสดงออกอย่างชัดเจนกว่าเดิมนั่นแหละ เพียงแต่คนรอบข้างอาจไม่ค่อยรู้สึกด้วย เพราะคิดว่าเด็กนี่มันก็วอแวกับทุกคนไปหมด คงบอกชอบแค่เล่น ๆ เท่านั้น, เรียกง่าย ๆ ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของคนโปรดเป็นกรรมที่ส่งผลย้อนหลังเสียแล้ว คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองไปอีกสักพักเลยล่ะ ว่าจริงใจ แล้วก็ชอบจริง ๆ ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะอีกฝ่ายแล้วก็คนรอบ ๆ ตัวเขามักจะคิดว่าเขาเล่นตลอดเวลาอยู่เรื่อยเลย, จริงอยู่ที่ในเวลาปกติแล้วคนโปรดชอบแหย่ชอบแซว แล้วก็ชอบเกาะแกะคนนั้นคนนี้ แต่สำหรับมนุษย์ปกติแล้วนั้น มันก็ต้องมีบางช่วงเวลาที่มีคนที่ชอบจริง ๆ นี่นาเนอะ..., แล้วก็นะ เขาน่ะ ไม่ได้ซื่อ ๆ ใส ๆ มากขนาดนั้นด้วย กับเรื่องใต้สะดือก็ดันรู้มาเยอะเพราะลุงดันบอกสอนเอาไว้เพื่อกันไม่ให้หลงผิดตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว สำหรับคนไทยอาจดูเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ลุงของเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น เขากลับคิดว่า ถ้าเด็กไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละผิด เพราะงั้นจึงต้องสอนให้รู้ถูกรู้ผิดไปตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยดีกว่า, แต่ไม่ว่ายังไง ต่อให้รู้เยอะ คนโปรดก็ไม่เล่นมุกใต้สะดือที่ทำให้อีกฝ่ายอึดอัดเด็ดขาด และไม่คุกคามใครด้วย เขาให้เกียรติทั้งสองเพศ และเข้าใจดีในเรื่องของการคุกคามทางเพศว่ามันเลวร้ายอย่างไร ดังนั้นจึงไม่ทำ, ส่วนเรื่องความรักในตอนนี้... อาจเรียกได้ว่ายังไม่มีเป็นตัวเป็นตนเท่าไหร่ แต่รอให้มีความรักกับใครสักคนจริง ๆ เข้าเถอะ ได้ตามเกาะติดเป็นปลิง เอ่ยปากชม แซว แหย่ แล้วก็วอแวมันทั้งวันแน่ เอาข้าวสารเสกมาสาดใส่ก็ไม่หายหรอกนะ ตามติดตูดจนน่ายิงทิ้งเลยล่ะไอ้เด็กนี่น่ะ, แถมยังชอบตีเนียนด้วย มันลื่นนักนะ ไอ้เด็กนี่


    คนโปรดเป็นคนฉลาด เรียนดี และเล่นกีฬาได้ดีในระดับหนึ่ง จะบอกว่าเขามีพรสวรรค์ก็อาจไม่ผิดเท่าไหร่ เพียงแต่มันก็ไม่ได้เก่งกาจไปซะทุกทาง เขาแค่ใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนเรียนรู้น้อยกว่าใครเท่านั้นเอง เรื่องภาษาก็พูดได้ถึงสามภาษาด้วยกันคือภาษาบ้านเกิด ภาษาอังกฤษและภาษาไทย เขาเรียนรู้อะไรได้ไว อีกทั้งยังปรับตัวเข้ากับสิ่งต่าง ๆ ได้ไวราวกับเป็นกิ้งก่า (?) ด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน เจ้าคนโปรดก็อยู่ได้อยู่แล้ว หาเพื่อน หาพี่ หาน้อง หาคนรู้จัก หาคนรักได้ไวจนน่าอิจฉา เสมือนกับพระเจ้าลำเอียงความรัก เทไปให้เขาผู้นั้นเพียงคนเดียว เรื่องที่เขาทำไม่ได้ มันก็พอมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย อย่างเช่นเรื่องทำอาหาร งานประดิษฐ์ ร้องเพลง ถักผ้า บลา บลา บลา... ทุก ๆ อย่างล้วนแล้วแต่ 'ห่วยแตก' ลึกลงไปถึงขั้นนรกอเวจี คนที่รักและคอยอวยเขาก็ได้แค่ยิ้มแหย ๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นไรหรอกไปซะอย่างนั้น, อย่างกับว่าความดีที่คนโปรดทำมาทั้งหมดมันสามารถทดแทนในส่วนนี้ได้ ซึ่งนั่นก็อาจจะจริงนั่นล่ะ... เพราะถึงรสชาติอาหารจะแย่ แต่หมอนี่ก็ทำการบ้านถูกทุกข้อ ทำเสร็จไวหมดทุกวิชา ทั้งยังขยันพอที่จะทำการบ้านทุกวิชาเสร็จก่อนหกโมงเย็นทุกวันด้วย เพื่อน ๆ ของเขาก็เลยได้บารมีในการขอลอกไปเต็ม ๆ เลยล่ะ, คนโปรดเองก็เป็นคนมีน้ำใจเหมือนกัน พอถูกขอลอกก็ไม่ได้คิกมากอะไร และเพราะชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว พอถูกขอให้ช่วยก็ยอมช่วยอย่างเต็มกำลัง หากแต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่... แม้ภายนอกจะดูเหมือนหมาโง่มาก ๆ ก็เถอะ แต่เอาจริง ๆ แล้ว คนโปรดน่ะ สัดทัดในเรื่องการมองคนมาก ๆ เลยนะ มองผ่านแววตาและท่าทางไม่นานเขาก็ตัดสินได้แล้วว่าคนคนนี้มาดีหรือมาร้าย เพียงแต่เขาก็แค่ประพฤติตัวตามปกติ ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกไป และตีตัวออกห่างด้วยท่าทีนุ่มนวล, ทว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมถอย เขาก็อาจจะมีบ้างที่ข่มขู่ทางสายตาหรือคำพูดเพียงเล็กน้อย แต่นั่นคงจะเป็นเวลาที่คนโปรดโมโหจริง ๆ เท่านั้น คนโปรดไม่ค่อยโกรธใครเท่าไหร่ แต่ถ้าโกรธขึ้นมา มันก็น่ากลัวมากจริง ๆ นะ เขาไม่ได้โวยวายกระโตกกระตาก แต่กลับเงียบ แสยะยิ้ม แสดงกลิ่นอายสัตว์นักล่าออกมาจนทำเอาเหยื่อแทบทรุดลงไปเลยทีเดียว แล้วมันก็อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความโมโหของเขาด้วย อาจไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ทว่าถ้าฝ่ายนั้นเริมก่อน มันก็ไม่แน่หรอก... เขาน่ะ ฉลาดแกมโกงจะตาย เป็นพวกที่ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ(แบบเงียบ ๆ)เสียด้วย ระวังหลังให้ดีล่ะ ถ้าหากจะไปเป็นศัตรูกับเขาล่ะก็ เด็กนี่ก็ไม่ได้ใสซื่อรักไปซะทั้งหมดหรอก ที่บอกว่าแอบร้ายน่ะ ยังร้ายได้มากกว่านั้นอีก แค่เขาไม่ได้ร้ายกับใครไปทั่ว แล้วก็ไม่ได้อยากข่มขู่ใครเป็นว่าเล่นก็เท่านั้นเอง, เรียกง่าย ๆ ว่าสันดานยังเป็นเด็กดีอยู่ถึงจะแอบดื้อเป็นบางครั้งบางคราวก็ไม่ผิดอะไรล่ะมั้ง?


    เด็กอย่างคนโปรด ใช่ว่าจะเอาแต่ใจอะไร แต่แค่เป็นเด็กที่อยากได้รับความสนใจในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง ประมาณว่า แค่มีคนทักทายบ้างก็เป็นอันสุขใจแล้ว อย่างน้อย ๆ เขาก็มีตัวตนนะ ยังใช้ชีวิตได้ตามปกตินะ อะไรทำนองนั้นน่ะ... เขาค่อนข้างที่จะกลัวคนรอบข้างเกลียดอยู่เหมือนกัน (สำหรับคนที่เขารักและแคร์น่นะ ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก), ปกติแล้วเด็กนี่น่ะ เป็นคนใจเย็น แล้วก็มีความอดทนสูงมาก มีความเป็นผู้นำ ผู้ตาม และมีความเป็นผู้ใหญ่ครบพร้อมในคนเดียวทั้ง ๆ ที่ยังอายุแค่นี้ เพียงแต่ตอนโกรธก็น่ากลัวเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่ว่าไป เขาไม่ได้แสดงออกด้วยการปะทุร้ายตรง ๆ ขนาดนั้น คนโปรดนั้นไม่ประมาทและทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูโง่หรอก ต่อให้โกรธ แต่เส้นฟางสติก็ยังต้องอยู่กับเนื้อกับตัวเสมอ คนโปรดเป็นคนแรงเยอะ และเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความที่ครอบครัวของเขาช่วยฝึกฝนให้ แล้วพ่อของเขาก็เป็นถึงมาเฟียในอิตาลีด้วย แม้ว่าสมัยนี้จะไม่ได้มีการสู้รบก่อการร้ายกันตรง ๆ อีกแล้ว แต่พ่อแม่ของเขาก็อยากให้เขาฝึกเอาไว้ป้องกันตัวมิใช่ทำร้ายผู้อื่น, อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคนโปรดจะยังเป็นเด็ก แต่เขาก็เอาใจคนอื่นเป็นเหมือนกัน เป็นที่รองรับอารมณ์ของคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นความอดทนและการจัดการอารมณ์ของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก คนโปรดจัดการกับตัวเองได้ดี อีกทั้งยังเลือกแสดงออกได้เหมาะสมอีกด้วย แยกแยะเรื่องที่จริงจังกับอารมณ์เล่น ๆ ขำขันก็เก่ง นับเป็นเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงจนน่าชื่นชมมากจริง ๆ เลยล่ะ ก็เพราะถ้าอยู่กับเขา คงไม่มีวันที่เขาจะเป็นไฟใส่ก่อนแน่ ๆ, หรือถ้าคุณจะเป็นไฟ เขาก็จะเป็นน้ำคอยโอบชะโลมเอง คอยปลอบโยนจนกว่าจะใจเย็นเลยล่ะ หรือจะเป็นเรื่องอารมณ์อ่อนไหว เจ้าตัวคนโปรดก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณไปจนจบปัญหาได้เหมือนกัน คอยดูแลเอาใจใส่ คอยเป็นกำลังใจ แรงผลักดัน และจับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง, ถึงภายนอกจะดูเป็นเด็กหน้าซื่อตาใสและแอบร้ายก็เถอะ แต่เนื้อแท้ก็เป็นเด็กดีมาก ๆ คนหนึ่งเลยนะจะบอกให้


    แอบเป็นคนสกินชิพหน่อย ๆ แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่เคยมีแฟนเลยก็ตาม (...) ส่วนมากแล้ว เขามักจะชอบโผกอดแม่ หอมแก้มพ่อ หรืออะไรทำนองนี้บ่อย ๆ โดยด่าก็เยอะ แต่ก็ไม่สลดสักครั้ง เดาว่าถ้าเขามีแฟน แฟนของเขาก็คงจะต้องโดนสกินชิพบ่อยเหมือนกัน และถึงจะบอกว่าคนโปรดไม่สลดเวลาโดนดุ นั่นก็เพราะไม่มีใครดุเขาแบบจริงจังน่ะสิ หากขู่ด้วยสีหน้าจริงจังสักหน่อย เจ้าหมานี่ก็หูลู่หางตกได้นะ และคงเดาได้อีกนั่นแหละ ว่าในอนาคต เจ้าหมานี่ก็ต้องกลัวเมียมากแน่ ๆ เคารพเสียยิ่งกว่าอะไรเลยก็คงได้กระมัง คนโปรดไม่ได้อยากทำให้ใครโกรธจริงจัง เพราะงั้นถ้าลองแกล้ง ๆ เป็นลมไปหรือโมโหจัด ๆ ขึ้นมา เขาก็จะรีบขอโทษและจะยอมทำทุกอย่างเพื่อชดใช้เลยจริง ๆ นั่นก็เป็นอีกเหตุผล ที่พี่สาวของเขาตีตราว่าโตไปน้องชายของเธอจะต้องอยู่ใต้อำนาจเมียแน่นอน คนที่ขึ้นอย่างหมา(ป่า)ลงอย่างหมา(บ้าน)ก็มีถมไปนี่เนอะ?, เห็นแบบนี้น่ะ คนโปรดเป็นพวกที่แคร์คนอื่นมาก ๆ เลยนะ สำหรับเพื่อน คนในครอบครัว หรือใครก็ตามที่เขารัก ถึงจะทำงานบ้านไม่ค่อยจะได้ แต่ก็เอาใจใส่รายละเอียดของคนนั้นคนนี้ได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ใช้อะไรก็ทำหมด ถ้าทำไม่ได้ก็จะพยายามทำ พยายามฝึก พยายามที่จะให้คนอื่นพอใจ ไม่อยากให้พวกเขาผิดหวัง เพราะงั้นจึงได้ไม่พูดอะไรออกมาเลยเวลาที่ตัวเองกลัวหรือทำอะไรพลาดไปแม้เพียงเล็กน้อย, คนโปรดแคร์คนรอบข้างมาก และอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ มันจึงทำให้เขาแบกรับน้ำหนักของอะไรเอาไว้ค่อนข้างมาก จะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นก็กลัว จะบ่นกับครอบครัวก็กลัวอีก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจใคร แต่เพราะรักและไม่อยากให้มารู้สึกแย่ตามไปด้วย เขาจึงปลีกตัวออกไปอยู่คนเดียวและหาทางออกด้วยตัวเองเสียมากกว่า ถึงจะเกิดเป็นแผลในใจบ้างก็ไม่เป็นไร ถึงจะพลาดพลั้งไปแล้วเขาโดนเหยียบอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน แผลครั้งนี้ที่เป็นแผลสดก็จะค่อย ๆ หายไป กลายเป็นแผลเป็นเท่านั้นเอง... ไม่นานมันก็ไม่เจ็บเหมือนครั้งแรกอีกแล้ว คนโปรดคิดเช่นนั้น จากนั้นก็ยิ้มรับวันใหม่เรื่อยไป...



    ลักษณะการพูดจา :

    น้ำเสียงค่อนข้างทุ้มต่ำ และแหบพร่าเล็กน้อย มันฟังดูน่ากลัว แต่อีกมุมนึงมันก็ฟังดูเซ็กซี่ไปอีกแบบเหมือนกันนะ... แต่เพราะคนโปรดชอบทำเสียงทะเล้น บ้างก็ดัดเสียงแหลมอย่างตั้งใจจะกวนประสาท ผู้คนก็เลยไม่ค่อยรู้ ว่าน้ำเสียงจริง ๆ ของคนโปรดทันฟังดูเป็นผู้ใหญ่ แหบพร่า แล้วก็ชวนหลงใหลแค่ไหน และถึงแม้เขาจะทะเล้นไปหน่อยก็ยังคงความสุภาพเอาไว้ในระดับกลาง ๆ ไม่ให้น่าเกลียดเกินไปด้วย เขาเป็นคนที่สุภาพกับผู้ใหญ่ หรือคนที่ไม่รู้จักกัน โดยจะใช้ตัวแทนว่า "ผม" และแทนคนอื่นว่า "คุณ/เธอ/นาย" ตามโอกาส อาจจะมีบ้างที่เรียกตามสถานะเช่น "พี่/น้อง/อาจารย์" อะไรแบบนั้น โดยจะมีคำสุภาพ และหางเสียงอย่างคำว่า "ครับ" ปนไปด้วยบ่อย ๆ ส่วนถ้าเป็นกับเพื่อน ๆ ในประเทศไทยที่สนิทกันดีอยู่แล้ว เขาก็จะใช้คำว่า "เรา" ไป ซึ่งการคุยกับเพื่อน คนโปรดก็ไม่ได้สุภาพนัก แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเกินเยียวยาอะไร เรียกได้ว่าพอเหมาะนั่นแหละ ส่วนสำหรับเพื่อนในต่างประเทศ สรรพนามของเขาก็จะสุภาพกว่า อย่าง "ผม/เธอ/นาย/คุณ" มีหางเสียงบ้างตามความเหมาะสม ด้วยความที่แต่ละประเทศมีระดับภาษาและความเคยชินที่ต่างกันออกไป คนโปรดจึงมีสรรพนามการเรียกที่แยกย่อยออกไปค่อนข้างมาก แต่เขาก็จำได้นะ


    ตัวอย่างที่ 1 ;

    "คนโปรด มานี่หน่อยซิ" เสียงร้องเรียกดังออกมาจากปากแม่ของเขา

    "คร้าบ" ส่วนเจ้าของชื่อเองก็ส่งเสียงขานรับอย่างว่าง่ายพร้อมกับเดินเข้าไปหาคนเป็นแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาซึ่งห่างออกไปไม่ไกลจากจุดเดิมที่เขานั่งอยู่นัก "มีอะไรครับแม่ ผมว่าพักนี้ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนะ"

    "ก็ไม่ได้จะเรียกมาดุอะไรสักหน่อย ร้อนตัวรึเปล่าน่ะเรา" คนเป็นแม่กอดอกแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ "แม่แค่จะถามว่าเราจะกลับไทยเมื่อไหร่ อยากไปเที่ยวที่ไหนก่อนกลับรึเปล่า หืม?"

    "ผมคิดว่าจะกลับประมาณอาทิตย์หน้านะครับ เพื่อน ๆ คิดถึงผมจะขาดใจตายหมดแล้ว" คนโปรดหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ คนเป็นแม่ "ขนาดครูสมัยประถมก็ยังคิดถึงผมเลย แม่ต้องดีใจนะ ที่มีลูกชายน่ารักขนาดนี้"

    "จะจริงเร้อ" แล้วเธอก็ส่งเสียงสูงขึ้นจมูกอย่างล้อเลียนเขา "คงไม่ได้ถูกเหม็นขี้หน้าหมดแล้วหรอกนะ หลงตัวเองซะขนาดนี้"

    "โห่แม่ ไม่จริงหรอกครับ" คนโปรดเบ้ปาก "เชื่อใจในตัวลูกชายแม่หน่อยสิ, งั้นเอางี้นะ เดี๋ยวผมคอลมาหาเลยเอ้า!"

    "จ้า ๆ ยังไงก็ระวังตัวเข้าล่ะ จะกลับก็เตรียมตัวเช็คของให้ดี ๆ ด้วยนะ"

    "คร้าบบบ" คนเป็นลูกส่งเสียงสูงขึ้นจมูกตอบกลับไปเช่นกัน


    ตัวอย่างที่ 2 ;

    "อ้าว ค็อกเทลเหรอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" เสียงของคุณป้าเจ้าของร้านข้าวแกงหน้าซอยที่คนโปรดคุ้นเคยดังขึ้น และเสียงเรียกของเธอก็ทำให้เขาหันไปมองก่อนจะส่งยิ้มให้ จากนั้นก็ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหา

    "ผมเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เองครับ คุณลุงคุณป้าไม่อยู่ด้วย ผมเหงามากเลยเนี่ย" ทำหน้าหงอพร้อมกับส่งเสียงอิดออด ๆ เหมือนลูกหมาหงอยไม่มีผิด "ผมก็เลยต้องทำความสะอาดบ้านเองเลยครับเนี่ย กับข้าวก็ทำไม่เป็นด้วย"

    "โถ่หนูเอ๊ย งั้นเดี๋ยวป้าทำให้แล้วกันนะ ไปหาที่นั่งไป เรื่องเงินทองไม่ต้องจ่ายก็ได้ ไป ๆๆ" ไม่พูดเปล่า ยังดึงแขนเด็กหนุ่มให้เดินตามเข้าร้านไปเสียด้วย, เพราะคนโปรดมักจะมาช่วยล้างจานให้ที่ร้านบ่อย ๆ คุณป้าก็เลยแสนปลื้ม การจะให้กินฟรีมื้อสองมื้อก็ไม่เห็นเป็นไรไปเลย

    "โหยป้า จะดีเหรอ ของซื้อของขายเลยนะ"

    "แหม ทำพูดไป ทำท่าเหมือนจะปฏิเสธแต่ก็ยิ้มแป้นเชียวนะ"

    "แฮะ ๆ ก็ผมหิวพอดีนี่นา" คนโปรดเกาท้ายทอยแก้เขิน "งั้นเอาเหมือนเดิมนะครับป้า เอากระเพราหมูไม่ใส่ใบกระเพรา" 

    "จ้า ๆ"

    ถึงแม้คำสั่งของเขาจะดูแปลกพิลึกไปหน่อย แต่เจ้าของร้านก็เข้าใจดี ว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ค่อยชอบผักนัก, แม้ในใจจะแอบหมั่นเขี้ยว แต่พอเห็นคนตัวโตหิวโซมาแบบนี้ก็แกล้งไม่ลงหรอก สงสาร...


    ตัวอย่างที่ 3 ;

    "พี่ ๆ พี่ครับ ๆ พี่คนที่น่ารัก ๆ อ่า คนนั้นอ่า" เพราะการเปิดภาคเรียนใหม่จำเป็นจะต้องตามหาพี่รหัส คนโปรดที่ได้รับคำใบ้แล้วจึงไม่ลังเลที่จะวิ่งว่อนตามหาเจ้าของแผ่นกระดาษคำใบ้ในมือทันที 

    "..." แต่อีกฝ่ายกลับดูเหมือนจะเหลือบมองเขาแค่แวบเดียวก่อนจะหันกลับไปอย่างไม่แยแสอะไร

    "อ่าว เง้อ ทำไมเมินกันแบบนั้นล่ะครับ" เด็กน้อยส่งเสียงโอดครวญ ก่อนจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไปติด ๆ "ง่า พี่ครับ ๆ พี่คนน่ารัก พี่ใช่พี่รหัสผมรึเปล่าอ่า ทำไมเมินกันแบบนี้อ่า งื้อ"

    "โอ๊ย! เป็นเหี้-อะไรเนี่ย! กูอยู่มอหกเว้ย!" 

    "ทำไมขี้ดุจังล่ะครับ ผมแค่ถามเองนา" แต่มันก็ดูจะไม่ค่อยสลดเท่าไหร่เลย ทั้ง ๆ ที่ไปทำให้เขารำคาญซะขนาดนั้น... "เฮ้ยพี่ แต่ผมว่าพี่ตอนโมโหนี่น่ารักดีนะครับ เป็นสายพันธุ์อะไรเหรอ นางฟ้าหรือนางสวรรค์ หรือนางนพมาศ พี่ขโมยหัวใจผมไปแล้วนะ"

    "ฉันเป็นผู้ชาย" ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มใจเย็นลงแล้ว---หรือไม่ก็พยายามทำตัวใจเย็นลงเพราะเห็นว่าเป็นเด็กนี่ล่ะ "ส่วนพวกมอห้าน่ะอยู่ตึกเรียนฝั่งนู้นโน้น ฉันไม่ใช่พี่รหัสนาย แล้วก็ถอยออกไปได้แล้ว ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี"

    "เด็กก็รักเป็นมั้ยพี่ ทำไมพี่ปฏิเสธผมแบบไร้เยื่อไยแบบนี้อะ" พูดจบก็เบ้ปากบีบน้ำตา เล่นเอาอีกฝ่ายเกาหัวแกร็ก ๆ จากที่หงุดหงิดเพื่อนมาก่อนหน้ากลายเป็นงงเต๊กกับให้เด็กนี่เข้าให้แล้ว, ทำไมมันปรับอารมณ์ไวขนาดนั้นวะนั่น?

    "พี่อะ พี่ไม่เข้าใจอะ เด็กแล้วไงอะ เดี๋ยวโตแล้วปะ"

    "...เป็นอะไรของมึงเนี่ย ปกติรึเปล่าวะ"

    "แม่หนูโมย่า แม่ปลานีโม่น้อยของพี่ ทำไมพูดไม่เพราะเลย"

    "โอ๊ย!!"

    พนันได้เลยว่าถ้ารุ่นพี่คนนั้นคุยกับคนโปรดนานกว่านี้ได้เส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนวัยอันควรแน่...


    ตัวอย่างที่ 4 ;

    "เฮ้ย ค็อกเทลการบ้านคณิตได้ทำรึยังน่ะ ขอลอกหน่อยได้เปล่า?" เสียงของเพื่อนสนิทของเขาดังขึ้นข้างหู ขณะที่เขากำลังทานขนมเค้กอยู่ที่โต๊ะประจำของตัวเอง

    "เสร็จแล้ว แต่ไม่ให้ลอกหรอก แบร่" ทำเสียงเหมือนกับแลบลิ้น ทว่าเอาจริง ๆ ขนมก็ยังเต็มปากอยู่เลย...

    "เฮ้ยไม่เอาดิเพื่อน เอาน่า ขอลอกหน่อย เอาไว้จะเลี้ยงขนมนะ นะ ๆๆๆ" อีกฝ่ายแทบจะไหว้ร้องขอเขาอยู่แล้ว และนั่นก็ทำให้คนโปรดอดขำไปไม่ได้เลย, ปกติแล้วเพื่อนของเขาก็ไม่ใช่คนขี้เกียจเหรอ แต่บางวันก็ลืมบ้างอะไรบ้าง ซึ่งเขาก็เข้าใจดีเลยล่ะ

    "งั้นเย็นนี้เอาบิงซูน้า" ส่งเสียงสูงพร้อม ๆ กับหยิบสมุดการบ้านออกมาจากกระเป๋า ส่งให้เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

    "แต้งกิ้วว เอาไว้จะขุนให้พุงกางเลย"

    "ไม่เอาหรอก เพราะว่าถ้าอ้วน เราจะไม่หล่อเอาได้นะ"

    "อ๋อ จ้าา" เพื่อนของเขาส่งเสียงสูง "ขอให้มีคนมาชอบเร็ว ๆ แล้วกันนะ พ่อหนุ่มมาเฟีย"

    "ยังไม่ได้เป็นมาเฟียสักหน่อย ใจเย็น ๆ ก่อนสิ..."

    "ในอนาคตเดี๋ยวก็เป็นเองแหละ เออ แล้วมันจะเหมือนในหนังปะ แบบ ยิงกันเลือดสาดงี้"

    "จะยิงกันได้ยังไงล่ะ แบบนั้นมันผู้ก่อการร้ายชัด ๆ" คนโปรดเบ้ปาก "เราทำงานร่วมกับตำรวจด้วยซ้ำไปนา ถ้าเราโตแล้วเราเท่ขึ้น นายก็อย่ามาหลงรักเราเข้าล่ะ เราไม่ให้อภัยหรอกนะ"

    "เออ แล้วแต่เลยเถอะ..."


    ตัวอย่างที่ 5 ;

    บรรยากาศในตอนนี้มันเงียบสนิท... และเงียบมาก

    ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นคนโปรดตอนโมโหเท่าไหร่, ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่มีเลยต่างหาก

    เรื่องที่ทำให้คนโปรดโกรธมีน้อยมาก และคนที่ทำให้เขาโกรธได้ ก็คงจะต้องพิจารณาตัวเองบ้างแล้วล่ะ

    ก่อนหน้านี้คนโปรดกำลังนำสมุดวาดภาพของเพื่อน ๆ ไปส่งที่โต๊ะครู แต่แล้วขณะที่กำลังเดินเข้าอาคารเรียนก็ดันมานักเรียนจากนอกโรงเรียนเดินเข้ามาชนเขา เหยียบย่ำสมุดวาดภาพที่เพือช่อน ๆ อุตส่าห์ตั้งใจวาดจนเละไปหมด

    จริง ๆ แล้วโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้ามา เพียงแต่ถ้าได้รับอนุญาตให้มาทำธุระเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ก็เข้ามาได้ตามความเหมาะสม

    แต่สิ่งที่ไม่เหมาะสมก็คือการกระทำของพวกเขานี่ล่ะ

    "อ่า..." เสียงของคนโปรดเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากในที่สุด, ในเวลาที่เขาโมโห ดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีทองประกายวาววับราวกับใบมีด---สัญญาณแห่งนักล่าที่น่าเกรงขามกำลังตื่นตัว แต่เพราะมันทำให้เพื่อน ๆ ของคน แล้วก็คนรอบ ๆ ตัวตกอกตกใจกันไปหมดแล้ว เขาจึงข่มมันลงไปด้วยการหลับตาลง ฉีกยิ้ม และเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง

    ครานี้ดวงตาของเขากลับมาเป็นสีเขียวหม่นดังเดิมแล้ว

    เหตุผลที่พวกเขาตกใจ ก็คงเพราะสีตาและท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขานี่แหละ, ใคร ๆ ก็คิดว่าคนโปรดอารมณ์ดีตลอดเวลานี่นะ...

    พอโกรธสักที ก็คงไม่แปลกที่จะรู้สึกตกใจเช่นนั้น

    "รักษามารยาทสักหน่อยก็ดีนะครับ... ไม่ใช่นักเรียนของที่นี่ แต่จงใจมาสร้างความเดือดร้อนแบบนี้นี่...ดูไร้ยางอายจัง สังคมของพวกคุณสั่งสอนกันมายังไงนะ" พูดไปพรางก้มเก็บของไปพราง, แน่ล่ะ เขาจงใจด่าคนพวกนั้น แต่ไม่ได้ตะคอกตรง ๆ หรอก

    ทว่าแค่นั้นมันก็ทำให้พวกเขาหวั่นเกรงได้เหมือนกันนะ... เพราะบรรยากาศรอบ ๆ ตัวคนโปรดตอนนี้ มันอึดอัดเหลือเกิน

    เด็กคนนี้ไม่เหมือนเดิมเลย



    ประวัติ : 

    มีพ่อเป็นมาเฟีย ใคร ๆ ก็ว่าเท่...รึเปล่านะ?

    โจนาธาน เจราร์โด, มีสายพันธุ์สิงโตอยู่ในตัว และเป็นผู้ชายผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในอิตาลี ไม่เพียงแค่นั้น ชื่อเสียงของตระกูลของเขายังเป็นที่น่านับถือไปในอีกหลาย ๆ ประเทศอีกด้วย และมาเฟียที่ว่านี้ก็ใช่ว่าจะทำแต่เรื่องผิดกฎหมายตามแบบละครไทยอย่างเดียว...

    ตระกูลเจราร์โดเป็นตระกูลมาเฟียเก่าแก่ และมีชื่อเสียงมายาวนาน ภายหลังจากสงครามอาชญากรรม ระหว่างแก๊งเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กรมตำรวจต้องเริ่มทำการกวาดล้างขึ้นในยุคสมัยก่อน ๆ จึงเปลี่ยนให้กลุ่มแก๊งมาเฟีย จากครอบครัวต่าง ๆ เริ่มทำการปรับตัวมาทำธุรกิจแบบถูกกฏหมาย โดยใช้อิทธิพลของแก๊งมาเฟีย ช่วยในการจัดการปัญหาต่างๆแทน  และธุรกิจของครอบครัว ก็ดำเนินกันมาอย่างลับ ๆ เรื่อยมา โดยการให้การสนับสนุนนักการเมือง รวมไปถึงการให้ความร่วมมือในเรื่องต่างๆ เพื่อยืดหยุ่นกับกรมตำรวจและเอฟบีไอ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงบนสื่อในฐานะมาเฟีย

    ในปัจจุบันบทบาทของมาเฟียอิตาลี มักไปอยู่ในรูปแบบธุรกิจถูกกฏหมายแทบจะทุกอย่างแล้ว, และตระกูลเจราร์โดก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นทั้งตัวอย่างที่ดี แล้วก็เป็นที่น่าเกรงขามต่ออาชญากรทั้งหลายด้วย

    ตระกูลเจราร์โดประกอบธุรกิจถูกกฎหมายมากมายทั้งของเล่นเด็ก นมผง หรืออะไรก็ตามที่เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับของเล่นเด็ก นอกจากนั้นก็ยังมีพวกแบรนด์กระเป๋ากับรองเท้าที่เป็นที่นิยมเอามาก ๆ อีกด้วย มีทั้งในแบบที่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพงแตะหกหลักเลยทีเดียว

    คนในตระกูลของเขาล้วนแล้วแต่มีความสามารถ ประกอบอาชีพต่างกันออกไป น้อยคนนักที่จะเป็นนักธุรกิจ แต่เมื่อเป็นก็มักจะรุ่งโรจน์ ซึ่งนั่นก็ทำให้ตระกูลของเขาร่ำรวยอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ

    คนโปรดหรือก็คือ คณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัย เจราร์โด เป็นลูกคนที่สองของชายผู้ที่เป็นเสมือนกับผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน เป็นทั้งผู้ชายที่เก่งกาจ ฉลาด เข้มงวด แต่ก็มีมุมที่อ่อนโยน

    เขาคนนั้นได้มาทำธุระทางธุรกิจที่ประเทศไทยก่อนจะได้พบกับ ฐานิกา อนันตาญา หรือก็คือ แก้ว ที่เป็นลูกสาวเจ้าของห้างสรรพสินค้าและฟิตเนสชื่อดังในกรุงเทพมหานคร ที่มีสาขาย่อย ๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ, เธอเป็นสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอก ครอบครัวของเธอเรียกได้ว่าร่ำรวยมั่งคั่ง แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียง และมากไปด้วยอำนาจแบบเขา ทว่ามันก็เหมือนกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง ที่ทำให้เขาได้เข้าไปทำความรู้จักกับเธอ

    ครั้งแรกที่เจอกันคือในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในตัวเมือง ก่อนได้เริ่มให้อีเมลล์ติดต่อกัน แม้จะแยกจากกันไปด้วยธุระของแต่ละคน ทว่าก็ยังคุยกันอยู่ตลอด กระทั่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และลงเอยด้วยการแต่งงานกันในท้ายที่สุด

    การแต่งงานของพวกเขาผ่านไปได้ด้วยดี, เนื่องด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย แม้แต่ทางฝั่งครอบครัวของโจนาธานเองก็ไม่ได้เคร่งอะไรนัก พวกเขากลับยกยอผู้หญิงคนนั้นเสียยิ่งกว่าใคร---ใครจะคิดล่ะ ว่าตระกูลมาเฟียที่น่าเกรงขามนั้น จริง ๆ แล้วกำลังอยากได้หลาน แล้วก็ดันหลังให้เจ้าคนแข็งทื่อนี่รีบ ๆ หาคนรู้ใจให้ได้เสียที

    ทุก ๆ อย่างดำเนินผ่านไปอย่างราบรื่น, ไม่มีปัญหาระหว่างญาติ ๆ และไม่มีความขัดแย้งใด ๆ เกิดขึ้น

    พวกเขาเข้ากันได้ดี อีกทั้งยังพร้อมที่จะช่วยเหลือกันในอนาคตต่อไปนี้อีกด้วย


    คนโปรดเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ดีแบบนั้นนั่นล่ะ

    พ่อของเขา ที่ถึงแม้จะดูเป็นคนเข้มงวดและน่ากลัวนิด ๆ แต่เอาจริง ๆ แล้วเขาก็เป็นคนใจดีอ่อนโยนอยู่เหมือนกัน เพียงแต่แสดงออกไม่เก่งเท่าไหร่

    ในตอนที่ยังเด็ก คนโปรดและพี่สาวจึงถูกเคี่ยวเข็ญอยู่พอสมควร ถูกฝึกฝนให้มีทักษะความสามารถหลากหลาย, ทุกคนในตระกูลล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์นักล่า และพวกเขาก็เช่นกัน เพราะแบบนั้นจึงจำเป็นจะต้องควบคุมพลังตามสายพันธุ์ของตนเองให้ได้ด้วย

    มันจะแย่แน่ ถ้าหากพวกเขาควบคุมไม่ได้และเผลอไปทำร้ายใครเข้า, นอกจากจะทำให้ชื่อเสียงตระกูลสั่นคลอนแล้ว ผู้คนก็คงหวาดกลัวจนไม่ไว้วางใจผู้ที่มีสายพันธุ์สัตว์นักล่าอยู่ในตัวอีกแน่ ๆ

    แม้จะมีบ้างที่กดดันจนเกิดความเครียด แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เป็นพ่ออย่างโจนาธานก็รู้จักผ่อนปรนเมื่อสังเกตท่าทีของลูกสาวและลูกชายที่เปลี่ยนไป, เขาจะมอบการดูแลให้อย่างเหมาะสม แต่ก็ไม่ได้จามใจมากจนเสียคน

    คนโปรดเกิดในประเทศอิตาลี แม่ของเปลี่ยนสัญชาตไปแล้ว แต่ก็ยังมาช่วยพี่ ๆ ของตนเองดูแลธุรกิจที่ไทยบ้างเป็นบางครั้งบางคราว

    เขาอยู่อิตาลีได้ถึงตอนที่อายุหกขวบก็ย้ายไปเรียนที่ไทย, เขาอาศัยอยู่กับตายายที่นั่นไปพร้อม ๆ กับการฝึกฝน พอปิดเทอมก็กลับอิตาลีเพื่อที่จะไปเรียนรู้และซ้อมทักษะต่าง ๆ กับพ่อต่อ

    ส่วนพี่สาวของเขา ส่วนมากมักจะหมกตัวอยู่ที่อังกฤษเสียมากกว่า, พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ใช้วีซ่าในการเรียนต่างประเทศ ไม่มีใครเปลี่ยนสัญชาติเสียที

    ช่วงชีวิตของคนโปรดนั้นเรียบง่าย จะมีขรุขระบ้างก็อาจจะเป็นเรื่องความยากของทักษะที่พ่อสอน หรือไม่ก็บทเรียนต่าง ๆ

    คนโปรดถูกสั่งสอนมาอย่างดี และทั้งครอบครัวฝั่งแม่หรือพ่อก็ดีเช่นกัน, โชคดีที่แม้จะเป็นตระกูลใหญ่โต พวกเขาก็ใช่ว่าจะถือตัว กลับกัน พวกเขากลับเป็นกันเองแล้วก็เฮฮาได้มากเกินกว่าที่คนภายนอกจะคาดถึงเสียอีก

    แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าชีวิตของเขาจะไม่ได้จมจ่อมอยู่กับสภาพสังคมภายในครอบครัวแย่ ๆ ก็ใช่ว่าคนโปรดจะไม่เคยรู้จักกับความมืดหม่นและความเจ็บปวด, เขารู้ดี และค่อนข้างที่จะเข้าใจด้วย แต่แค่สัมผัสไม่ถึง เพราะไม่เคยเจอมากับตัว

    เขาจึงพยายามจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ หากมีโอกาส

    อย่างน้อย ๆ ถ้านี่เป็นสิ่งที่เขาทำได้ เขาก็จะทำ, เช่นเดียวกันกับพี่สาวของเขา ที่ถึงแม้จะทะเลาะกับเขาบ่อย ๆ แต่อย่างไรแล้ว เราก็เป็นพี่น้องกัน คงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะเกลียดกันเข้าไส้จริง ๆ

    พวกเราต่างก็เข้าใจกัน แล้วก็มีอุปนิสัยคล้ายกันหลายอย่างด้วย


    ตอนเด็ก ๆ คนโปรดเดินทางไปกลับต่างประเทศบ่อยมาก เขาเรียนที่ไทย แต่ก็กลับบ้านที่อิตาลีตอนปิดเทอม แต่ก็มีบ้างที่เดินทางไปประเทศอื่น ๆ เพราะตามธุระของพ่อไป, และเพราะคนโปรดเป็นพวกที่คุยเก่ง ยิ้มง่าย อัธยาศัยดี เขาจึงมีเพื่อนเยอะแยะไปหมด ไปที่ไหนก็ได้เพื่อนใหม่ที่นั่น

    ในกล่องข้อความของเขา ก็คงมีประวัติแชทจากเพื่อนหลากหลายประเทศเยอะแยะไปหมด

    แต่ถึงอย่างนั้น... คนโปรดก็ไม่เคยมีแฟนเลยสักคนตั้งแต่เกิด

    มันฟังดูน่าเศร้านะ... แต่พี่สาวของเขาก็ไม่ต่างกันนักหรอก

    ภาพลักษณ์ของลูกสาวและลูกชายมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิตาลีคงทำให้คนยางส่วนอบหวาด ๆ ไม่น้อย แม้ว่าเนื้อแท้ของพวกเขาจะไม่ได้โหดร้ายอะไรเลยก็เถอะ..., ซึ่งพ่อของพวกเขาเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้นเสียด้วย

    ในปัจจุบัน พ่อและแม่ของเขาอาศัยอยู่ในอิตาลี และอาจจะมีบ้างที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำธุระ, พี่สาวของเขาอยู่ในอังกฤษ ส่วนตัวเขาที่ตั้งแต่อายุ 16 มาก็ไม่ได้ไปกลับต่างประเทศบ่อยเท่าตอนเด็กอีกแล้ว เขาสิงอยู่ที่ไทยเป็นส่วนใหญ่ อยู่ในบ้านกับลุงและพี่ชายทที่ซึ่งเป็นลูกชายของลุงของเขา และมีสถานะเป็นลูกพี่ลูกน้องสุดเท่คนหนึ่ง

    คนโปรดเข้าเรียนในโรงเรียนสัตว์น้อยตามคำแนะนำของลูกพี่ลูกน้องคนนั้น เขาใช้วีซ่าเรียน และแม้จะจ่ายเลมราคานักศึกษาต่างประเทศ ครอบครัวของเขาก็ไม่ได้ขัดสนอะไรอยู่แล้ว

    คนโปรดใช้ชีวิตวนเวียนไปกับอะไรเดิม ๆ เพื่อรอพบกับรักแท้ (?) ไปวัน ๆ อยู่อย่างนั้น

    เด็กคนนั้น เติบโตมาด้วยสภาพสังคมที่ดี เรียนรู้และเข้าใจความเจ็บปวด พร้อมจะช่วยเหลือคนอื่น และฉลาดพอที่จะไม่ถูกหลอกง่าย ๆ

    ...ทว่าในอนาคต เขาคงมีเรื่องให้เรียนรู้อีกเยอะเลยล่ะ


    TO BE CONTINUED…



    งานอดิเรก : 

    ➙ เล่นกีฬา - เขาเล่นกีฬาได้หลายอย่าง แล้วก็ค่อนข้างที่จะเก่งไปหมดด้วย พอถูกชวนก็วิ่งแจ้นเข้าไปอย่างไม่ลังเลเลยล่ะ หรือถ้าจะต้องเล่นคนเดียว เขาก็อาจจะไปว่ายน้ำ วิ่งรอบสนาม กระโดดยาง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เหงื่อออก เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีเลยล่ะนะ

    ➙ ฝึกทำอาหาร - จริง ๆ แล้วทำอาหารไม่ค่อยเป็น แต่ชอบฝึก ผลออกมาก็คือกินไม่ค่อยได้เท่าไหร่ รสชาติขาดอะไรไปหมดเสียทุกรอบ แต่คนโปรดก็รู้สึกสนุกดีเหมือนกันที่ได้ลองทำ ใส่นั่น ทดลองนี่ไปเรื่อย ถึงจะพังแต่ก็สุขใจนะ (?)

    ➙ ออกกำลังกาย - ไม่ต่างอะไรจากการเล่นกีฬาเท่าไหร่ คนโปรดชอบเสริมสร้างกล้ามเนื้อของตัวเอง แล้วเขาก็ไปที่ฟิตเนสของแม่ค่อนข้างบ่อยด้วย เพราะแบบนั้นเขาจึงเป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรงแบบที่เห็นนี้ไงล่ะ

    ➙ เล่นเกม - แม้จะไม่ได้เล่นเก่งมากมายอะไร และอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่เขาก็ชอบเล่นเกมเพื่อคลายเครียดจริง ๆ นั่นแหละ, โอ้ แต่ไม่ใช่เกมต่อสู้หรืออะไรอย่างที่นิยมกันหรอก คนโปรดชอบเล่นเกมแต่งตัวและเกมโอโตเมะมาก ๆ แถมชอบเปย์เงินไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันบาทต่อเดือนด้วยนะ (...)

    ➙ ดูหนัง/ละคร/ซีรีส์/อนิเมะ - ดูแล้วก็อินตามอยู่เรื่อย บางวันนั่งดูในห้องเรียนก็ร้องไห้ฟูมฟายเพราะอินกับบทอยู่ตรงนั้นแหละ คร่ำครวญถึงตัวละครที่ตายจากไปอย่างน่าอนาถาจนเพื่อน ๆ ของเขาได้แค่กลอกตาอย่างเอือม ๆ เลยทีเดียว



    ความสามารถพิเศษ :

    ➙ การเรียนรู้ด้านทักษะวิชาการ - เพราะเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เขาจึงสามารถเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ไวทุก ๆ วิชา แม้ว่างานประดิษและพวกวิชาศิลปะอันต้องใช้ฝีมือเขาจะทำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ก็เถอะ แต่ถ้าเรื่องทฤษฎี การคิดคำนวณ ความจำ อะไรพวกนี้เขาก็ถนัดมากจริง ๆ นะ

    ➙ ทักษะการป้องกันตัว - ด้วยความที่พ่อของเขาเป็นมาเฟีย แล้วก็ยังช่วยสอนวิชาความรู้ต่าง ๆ ให้ รวมไปถึงทักษะการต่อสู้ด้วย คนโปรดจึงซึมซับมันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาเรียนรู้ทักษะการต่อสู้หลายแขนง และนำมาประยุกต์ใช้แบบผสมผสานได้ดี ร่างกายของเขาแข็งแรงมาก แล้วเขาก็เป็นคนแรงเยอะด้วย ฉะนั้นหากคิดจะสู้จริง ๆ คนโปรดก็สามารถล้มคนที่ตัวโตกว่าตัวเองได้เหมือนกันนะ

     การตบมุก (...) - เรียกได้ว่ายิงมุกอะไรมา ต่อให้มันแป้กแค่ไหน คนโปรดก็พร้อมที่จะขำกร๊าก หรือไม่ก็ต่อมุก ตบคำ เล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ เลยทีเดียว เขาไม่ปล่อยให้มุกของใครแห้งเหือดไปหรอกนะจะบอกให้

    ➙ การพูดชักจูง/การเจรจา - เพราะเป็นคนคารมดี อีกทั้งยังประพฤติตัวดีเป็นที่รักของคนอื่น ๆ มาตลอด การเกลี้ยมกล่อมคนอื่นก็เก่ง เพื่อน ๆ ของเขาเลยมักจะดันหลังให้เขาไปขอให้ครูเลื่อนเดดไลน์อยู่เรื่อยเลยล่ะ...

    ➙ ภาษา - ปัจจุบันเขาสามารถพูดอ่านเขียนได้แล้วทั้งหมดสามภาษาคืออิตาลี อังกฤษ (สำเนียงอเมริกัน) และภาษาไทย ขณะนี้กำลังเรียนรู้ภาษาจีน เกาหลี และญี่ปุ่นอยู่ เหตุผลเพราะชอบซีรีส์และอนิเมะมาก ๆ แต่ขี้เกียจอ่านซับแล้วเท่านั้นเอง...



    สิ่งที่ชอบ : 

     อากาศหนาว - อาจเป็นเพราะสายพันธุ์ของเขาด้วย ที่ทำให้เขาชอบอากาศเย็น ๆ ยิ่งเย็นติดลบได้ยิ่งดี เขาสามรถอยู่ภายใต้อากาศแบบนั้นได้โดยที่สวมเสื้อผ้าไม่กี่ชั้นเลยทีเดียว ก็เพราะมันเป็นความพิเศษตามสายพันธุ์เขานี่นะ

    ➙ งานวัด - สุดแห่งแหล่งรวมความสนุก! ทั้งเครื่องเล่น เกม และของกิน ต่าง ๆ นา ๆ บลา ๆๆๆ เขาชอบมันมาก ๆ มักจะวิ่งแจ้นและเดินวนไปวนมาในงานวัดไม่เลอกราไม่ยอมกลับสักที ทุกวันนี้ก็เฝ้าถามเพื่อนอยู่นั่นแหละว่าจะมีงานวัดวันไหนบ้าง เตรียมพร้อมที่จะไปเต็มที่แล้วนั่น

    ➙ เนื้อสัตว์ - ในที่นี้รวมหมดทั้งเนื้อหมู ไก่ ปลา วัว และอื่น ๆ อีกมากมาย เขาชอบเนื้อตามสายพันธุ์ของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะไปมองคนอื่นที่มีสายพันธุ์พวกนี้แล้วน้ำลายยืดใส่หรอก... เขาจะตื่นเต้นกับแค่อาหารตรงหน้าเท่านั้นแหละ

    ➙ สวนสนุก - นี่ก็เป็นอีกแหล่งรวมความสนุกเหมือนกัน สวนสนุกก็สนุกสมชื่อ เขาชอบเครื่องเล่นทุกเครื่องแหละ ไม่ว่าจะหวาดเสียวหรือไม่ น่ากลัวรึเปล่า ก็ยังเล่นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเสมอเลย

    ➙ ของหวาน - ทั้งขนม ลูกอม บลา ๆๆ เขาทานมันเข้าไปในแต่ละวันเยอะมาก ๆ ราวกับเป็นอาหารเสริมพลังงานไปแล้ว แต่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนสักที และนั่นก็เป็นข้อดีที่เพื่อน ๆ ของเขาพากันอิจฉาล่ะนะ

    ➙ การหยอกเย้า/แกล้งคนอื่น - ในที่นี้ไม่ใช่การแกล้งรุนแรงอะไร เขาชอบมองปฎิกิริยาตอบรับของผู้คน และสนุกไปด้วยกัน แต่ถ้ามองดูแล้วคิดว่าอีกฝ่ายไม่โอเคก็จะไม่ทำเด็ดขาด ยังไงเขาก็แยกแยะถูกผิดออกนะ



    สิ่งที่ไม่ชอบ :

     ผัก - อาจไม่ใช่ผักทุกชนิด แต่ส่วนมากก็ไม่ชอบอยู่ดี รู้สึกว่ามันเคี้ยวยากกว่าเนื้อยังไงก็ไม่รู้สินะ? แต่ถ้าเป็นน้ำผักเขาก็สามารถกินได้นะ แต่ถ้าเป็นผักชิ้นหรือผักสด เขาก็ไม่ค่อยปลื้มรสชาติเท่าไหร่น่ะ

     แดดร้อน ๆ - มันทำให้เกิดผลเสียหลายอย่าง ไม่ใช่เพราะว่าเขาแพ้แดดหรอก ทั้งทำให้ผิวเสีย เหงื่อออก ไหนจะเรื่องกลิ่นตัวที่เขาเป็นกังวลอีก ภาพลักษณ์ของเขาอาจจะดํแย่ลงก็ได้ เพราะงั้นพกร่ม ทาครีมกันแดด และหาเสื้อคลุมเอาไว้ตลอดเวลาจะดีมากเลยล่ะ

    ➙ รสขม - เช่นยาเม็ดเป็นต้น หรือแม้แต่ผักเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน จะว่าไงดี.. ไอ้เด็กนี่มันไม่ค่อยกินผักแต่ก็แข็งแรงกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเลยนะนั่น แถมพอป่วยก็ไม่ค่อยอยากกินยาด้วย แต่ก็ดันหายไวกว่าเขาเหมือนกัน พระเจ้าลำเอียงชัด ๆ 

    ➙ รถติด - เพราะการติดแหง็กอยู่ที่เดิมเป็นชั่วโมง ๆ กำลังทำให้เขาเป็นบ้า นั่งอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนก็ทำให้จิตใจของเขาห่อเหี่ยวไปหมดแล้ว คนโปรดอยากเล่น คนโปรดอยากขยับตัว คนโปรดอยากเที่ยว ได้โปรดขยับรถที (?)

    ➙ วาซาบิ - แม้จะผสมในซูชิก็ไม่อร่อย ไม่เลย ไม่! เขาแสบลิ้นแสบคอร้อนปากจะตายอยู่แล้ว หน้าตาบู้บี้หมดแล้วนะนั่น 

    ➙ น้ำขิง - ถ้าใส่น้ำตาลก็ชอบ แต่ถ้าเป็นน้ำขิงแบบเพียว ๆ คงไม่ไหว มันเผ็ดแบบแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ ต่อให้มีประโยชน์ แต่เขาก็คิดว่ามันอร่อยไม่ลงเลยจริง ๆ หน้าตาบู้บี้อย่างกับโดนเหยียบหางไปหมดเวลาที่ของแบบนั้นไหลเข้าไปในปากไม่ว่าจะบังเอิญหรือไม่ก็ตาม



    สิ่งที่เกลียด : 

     คนที่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น - เพราะไม่ใช่ปัญหาของตัวเองจึงไม่ต้องใส่ใจก็ได้ ไอ้คำพูดแบบนั้นเขายิ่งเกลียดไปกันใหญ่เลย คนโปรดไม่ค่อยปลื้มคนพวกนี้เท่าไหร่ มันน่าหงุดหงิดด้วยซ้ำ ที่พอสร้างปัญหาแล้วพาลให้คนอื่นเดือดร้อนเนี่ย ยิ่งไม่ช่วยรับผิดชอบอะไรแล้วทำลอยนวลยิ่งน่าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่เลย ถึงเขาจะไม่ได้ชี้หน้าด่า แต่ก็ใช่ว่าจะส่งสายตาเเป็นมิตรไปให้หรอกนะ

    ➙ พวกที่ชอบดูถูก/เหยียดหยามผู้อื่น - อันนี้ก็ไม่ต่างจากข้อแรกเท่าไหร่... จริงอยู่ที่คนโปรดชอบแกล้งชอบแซว แต่เขาก็ไม่เคยเกินเลยใคร ไม่เคยคุกคามให้อีกฝ่ายอึดอัดหรือรู้สึกแย่ แล้วเขาก็ไม่ชอบด้วยถ้าเห็นคนพวกนี้น่ะ เป็นไปได้ก็อยากจะด่า แต่เขาคงไม่ได้ด่าใครหยาบ ๆ โดยตรงหรอก อาจจะเป็นการพูดอ้อมค้อม แต่ก็ด่าเจ็บนะ...

    ➙ ยุง - เพราะมันเป็นพาหะนำพาโรค อีกทั้งยังชอบสูบเอาเลือดของเขาไปอีก เสียงก็น่ารำคาญ ไม่ได้มีสิ่งไหนดีเลย พอตบเข้าหน่อยเลือดก็สาดเต็มมืออีก (...) คนโปรดไม่ถูกใจสิ่งนี้จริง ๆ นะ



    สิ่งที่แพ้ : -



    สิ่งที่กลัว : 

    ➙ การถูกทิ้ง - ในที่นี้หมายถึงการถูกเกลียดจากคนรอบข้างแบบไม่เหลือใครเลยจริง ๆ คนโปรดไม่ได้ต้องการความรักเหลือล้นขนาดนั้น แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำใจไม่ได้ถ้าโลกใบนี้จะไม่มีใครรักเขาเลย มันทำให้เขาสับสนและไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่อใครน่ะสิ หรือถ้าแค่การถูกเพื่อนตัดขาดแบบคนสองคน แค่นั้นก็ทำให้คนโปรดเสียสูญได้แล้ว เพราะถ้าใครก็ตามที่เขาเคยรัก เขาก็จะผูกพันมาก ถูกทิ้งเข้าหน่อยก็เสียใจไปเป็นเดือน ๆ เลย ไม่ว่าจะจากกันไปในทางที่ดีหรือไม่ก็เถอะ ถ้าเริ่มด้วยรักและจบด้วยจากเขาย่อมไม่ยินดีอยู่แล้ว

    ➙ โคลนดูด - ตอนเด็ก ๆ เล่นซนไปหน่อย ไหลตกบ่อโคลนซะอย่างนั้น แล้วไป ๆ มา ๆ พอถูกลุงช่วยขึ้นมาได้ก็เข็ดเลยทีนี้... เขาไม่ค่อยกล้าเดินเฉียดมันเท่าไหร่ อาจไม่ได้แสดงความกลัวแบบกระโตกกระตาก แต่เหงื่อก็แตกพลั่ก แถมเสียงสั่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ



    สเปคคนที่ชอบ : "คนที่แกล้งแล้วสนุก / โมโหแล้วดูน่ารัก" - อันนั้นแหละสเปคเขา เป็นความสนใจในแบบที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยจริง ๆ ...ไม่รู้สิ แค่ชอบเฉย ๆ แต่เขาก็ดันมองว่าทุกคนน่ารักหมดแหละ แค่ใครจะตรึงใจได้มากกว่ากันแค่นั้นเอง... โดยหลัก ๆ แล้วเขาชอบคนอายุมากกว่า ชอบที่จะอาศัยจังหวะแล้วพูดออกไปด้วยประโยคที่ว่า "เด็กก็รักเป็นปะวะพี่" หรือ "เด็กแล้วไงอะ เดี๋ยวก็โตแล้วปะ" อะไรแบบนั้น ซึ่งดูจากสภาพตอนนี้เขาก็ตัวใหญ่กว่ารุ่นพี่บางคนซะอีกนะ ถ้าตัวโตอีกหน่อยก็ล้มทับพวกเขาแบนแล้วมั้ง...



    ข้อมูลเพิ่มเติม :

    ➙ จริง ๆ แล้วชื่อจริงของคนโปรด เป็นชื่อที่พ่อแม่และพี่สาวพยายามตั้งให้ แต่เพราะเลือกกะนไม่ได้สักที ก็เลยฟิวชั่นรวมกันไปเลย ดังนั้นนี่ก็เลยเป็นคณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัยที่มาจาก คณาธิป+อชิระ+ฉันทัช+ธนัน+วรนน+วัฒนชัย นั่นเอง

    ➙ ตอนที่เขานำเอาลักษณะพันธุ์บางส่วน หรือสัญชาตญาณนักล่าของหมาป่าออกมา ดวงตาของเขามักจะเปลี่ยนไปเป็นสีทองอำพันเสมอเลย แต่ถ้าคืนสู่สภาพปกติ ดวงตาคู่นั้นก็กลับมาเป็นสีเดิมเช่นกัน

     "อาราเบลล่า เจราร์โด" - พี่สาวของเขาก็ไม่ได้ต่างจากเขาเท่าไหร่ คือ สวยใส หน้าซื่อ ๆ แต่ร้ายลึก ฉลาด แยบยลและเจ้าเล่ห์นัก ( imageX ) เธอมีสายพันธุ์ของเสือชีตาร์อยู่ในตัว ปัจจุบันเธอมีอายุ 22 ปี ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังภายในอังกฤษด้วยทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวน คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งผลการเรียนของเธอก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจเอามาก ๆ เลยเสียด้วย นอกจากนี้ เธอก็ยังวางแผนจะเรียนกฎหมายต่อเพื่อเป็นนักการเมืองไปพร้อม ๆ กับบริหารธุรกิจต่อจากพ่อให้ได้ด้วยล่ะนะ

    ➙ เหตุผลที่ชื่อของคนโปรดดูไทยจ๋าขนาดนั้นก็เพราะเป็นความต้องการของแม่ ที่อยากตั้งชื่อของลูกคนแรกเป็นชื่อแนว ๆ ยุโรปเสียหน่อย ส่วนคนน้องก็อยากได้แบบไทย ๆ บ้าง, แต่ก็นะ ชื่อยาวหน่อย...

    ➙ จริง ๆ แล้วคนโปรดขับรถเป็นทั้งรถจักรยานยนต์ และรถเก๋ง แต่ส่วนมากเลือกที่จะขึ้นรถเมย์แทน เพราะขี้เกียจขับ (...)

    ➙ ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่หอ เขาก็เข้าร้านสะดวกซื้อบ่อยขึ้น ทำให้เขาดองขนมกับน้ำไว้ในตู้กับตู้เย็นเยอะมาก ๆ ในแต่ละวันเชียวล่ะ เขากินเยอะขึ้น แต่น้ำหนักก็ยังเท่าเดิมเพราะออกกำลังกายสม่ำเสมอนั่นเอง

    ➙ เขาเป็นคนมีกล้ามนะ แม้จะไม่ได้ใหญ่โตเว่อร์วังอะไร แต่สำหรับเด็กอายุสิบหกที่มีร่างกายสมบูรณ์แบบแบบนี้ก็หาดูได้ยากจริง ๆ นั่นแหละ

    ➙ คนโปรดสั่งของออนไลน์มาที่หอบ่อยมาก และมาก ๆ เลยล่ะ รูมเมทของเขาบ่นประจำ แต่เขาก็ไม่ค่อยฟัง ส่วนมากเขาจะเปย์ของเกี่ยวกับอนิเมะ ไม่ก็นิยาย ซีรีส์ที่ชอบ ไม่ก็เกมที่กำลังเล่นอยู่นั่นแหละ

    ➙ ด้วยความที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องเงิน คนโปรดจึงดูหนังมันทุกเรื่องที่เข้าโรงเลยล่ะ แต่ถ้าไม่มีเวลาก็จะไม่ไป ถ้ามีก็ไปดูให้ครบ ดูให้หมด แล้วแอบมาเขียนบันทึกรีวิวเงียบ ๆ กะว่าในอนาคตจะเป็นยูทูปเบอร์ด้านนี้นี่เอง

    ➙ คนโปรดยิงปืนและใช้อาวุธต่าง ๆ เป็น แต่ไม่ค่อยใช้ และไม่เคยพกอาวุธอันตรายมาในที่สาธารณะด้วย เขาแค่ใช้เป็นเพราะการฝึกที่พ่อบอกให้ทำเท่านั้น เขาไม่ได้คิดจะไปทำร้ายใครจริง ๆ สักหน่อย 

    ➙ ส่วนมากแล้วเขาจะส่งข้อความคุยกับพ่อแม่และพี่สาวในไลน์กลุ่ม เพราะแต่ละคนต่างก็ไม่ว่าโทรหรือคอลกันเท่าไหร่เลย

    ➙ คนโปรดชอบได้ทุกเพศ แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่ได้สนใจใครจริงจังนัก แต่ถ้ามี ก็จะวิ่งแจ้นเข้าไปหาอย่างไม่ลังเลเลยล่ะ ทว่าถ้าอีกฝ่ายไม่อยากเล่นด้วยจริง ๆ แบบว่า จริงจังมาก ๆ เขาก็จะยอมถอย ไม่คุกคาม ไม่ทำให้อีกฝ่ายอึดอัดหรอกนะ

    ➙  เขาพกขนมติดกระเป๋าไว้เยอะมาก ทั้งหมดนั่นเอาไว้กินเองยามปากว่าง แต่ในห้องก็กินเหมือนกัน ถ้าครูไม่เห็นล่ะก็ดีไป แต่ถ้าเห็นก็โดนด่าอยู่เหมือนกัน กระนั้นก็ไม่เคยถูกลงโทษจริง ๆ จัง ๆ สักที

    ➙ ครอบครัวของคนโปรดวางแผนให้เขาทำหน้าที่ต่อจากพ่อในตอนที่เรียนจบมหาวิทยาลัและมีความรู้ความสามารถมากพอ อาจต้องใช้เวลาศึกษาอยู่กับพ่อสักสองสามปี กล่าวคือ เขาเป็นมาเฟียเต็มตัวในช่วงอายุประมาณ 25-26 ปีได้ ซึ่งพ่อของเขาก็ค่อนข้างเชื่อในตัวเขาพอสมควร ถึงแม้คนโปรดจะติดเล่นไปบ้าง แต่สัญชาตญาณและสายเลือดของเขาก็ยังไม่จางหายไปหน่อยแน่นอน และคนโปรดในช่วงนั้น ช่วงที่เติบโตขึ้น ก็คงได้มีความสุขุม นิ่งเฉยเพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เพราะการรักษามาดมาเฟียต่อสังคมนั้นสำคัญมาก เขาน่าจะได้เป็นผู้นำตระกูลคนถัดไป คงทำเป็นเล่นไปไม่ได้หรอก... นอกจากนั้นแล้ว ตระกูลของเขาก็มีคนใหญ่คนโต นักธุรกิจ และผู้ร่ำรวยมากมายด้วย การที่คนโปรดเป็นผู้นำตระกูลแบบนี้ แปลว่าเขาก็ต้องรักษาภาพลักษณ์จริง ๆ นั่นแหละ


    ______________________________________________________________________________


    INTERVIEW

                ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องหลังจากปล่อยให้คนโปรดรอมาเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งมันก็ออกจะทำให้เขารู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ก็กังวลอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นลืม หรือเพราะเขาเซ่อซ่าเข้ามารอผิดวันกันแน่ พอเห็นว่าคนใหญ่คนโตมาสายแบบนี้เขาก็เลยแอบนิ่วหน้าไปนิดหน่อยเลยล่ะ กระนั้นชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็ยังคงยิ้ม ขยับตัวให้นั่นในท่าที่สบายที่สุดก่อนจะเอยทักทายขึ้น

                “ที่รักครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ นี่ผมมาสายนิดเดียวเองนะเนี่ย” ยิ้มร่าพร้อมกับโบกมือป้อย ๆ อย่างไม่คิดจะสำนึก พอดีผมสะดุดยอดหญ้าล้มลงไปบาดเจ็บนิดหน่อยน่ะ มาสายเลย หวังว่าคุณคงจะยกโทษให้ผมนะ พูดอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูด ซ้ำยังจะเอ่ยต่ออีก โอเค เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมชื่อลูซิเฟอร์นะครับ อย่างที่รู้กันว่าผมเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้ ไม่ทราบกว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับ?”

                คนโปรดกระพริบตาปริบ ๆ ---บทจะเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนไวปานนี้เลยเรอะ?

                เออ เอาเถอะ ยังไงก็คงไม่ค่อยต่างจากเขาอยู่แล้วนี่นา

                "ก่อนอื่น--- ทีหลังก็ระหว่าง ๆ หน่อยนะครับผอ. สะดุดยอดหญ้าทุกวันมันไม่ดีนา... ถ้าสักวันพิการไปใครจะมาบริหารแทนล่ะเนอะ แย่ ๆ" ส่ายหัวช้า ๆ ขณะเดียวกันก็ยังหัวเราะไปด้วย "เอ้ย แต่อันนี้ผมไม่ได้แช่งนะครับ แค่พูดถึงเฉย ๆ" ว่าจบก็สูดลมหายใจเข้าปิดช้า ๆ "และสำหรับชื่อของผม... ขอให้ผอ.ทำใจให้ว่างเปล่าและฟังให้ดี ๆ นะครับ น้อยคนมากที่จะจำชื่อของผมได้หลังจากฟังไปแค่ครั้งเดียว"

                ความจริงแล้ว ยอกจากพ่อแม่ของเขา พี่สาว แล้วก็ตัวเขาเองก็ยังไม่เคยมีใครจำได้เลยต่างหาก...

                "ชื่อ คณาธิปอชิระฉันทัชธนันวรนนวัฒนชัย เจราร์โด ครับ ชื่อเล่นชื่อค็อกเทล ของที่ชอบคือขนมหวาน ของที่ไม่ชอบคือผัก ส่วนสเปคยังไม่ตายตัวครับ แต่หลัก ๆ แล้วผมชอบคนแก่กว่านะ ให้ความรู้สึกเหมือนพ่อแม่ผมดี ผมชอบอากาศเย็น ไม่ชอบอากาศร้อนครับ" ...พูดยืดยาวออกไป ทั้ง ๆ ที่ประโยคหลัง ๆ นั่นไม่มีใครถามสักนิด

                “อา... เป็นชื่อที่เพราะดีนะครับนั่นน่ะ” ลูซิเฟอร์ยิ้ม ว่าแต่มันมีความหมายรึเปล่าครับ ถ้ามี แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะนั่นน่ะ?” จากนั้นเขาก็ขยับตัว โน้มตัวเข้ามาเท้าคางลงกับโต๊ะ ขณะจ้องมองฝ่ายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้า

                "ตายจริง มองกันแบบนั้นผมก็เขินนะ" พูดเสียงแหลมพร้อมกับหัวเราะร่วน "จะว่ามีมันก็มีแหละครับ แต่มันก็ยาวพอ ๆ กับเชื่อเลยนา เพราะงั้นฟังให้ดี ๆ นะครับ อย่าสติหลุดไปเชียว"

                ท้าวความออกไปแบบนั้น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดอีกรอบ

                "แปลรวม ๆ กันก็ ผู้เป็นหัวหน้าคนนั้น มีความรู้มากมายและแข็งแกร่ง เกิดมาด้วยความพึงพอใจ และเป็นผู้ที่คล่องแคล่ว มีทรัพย์มากมายอีกทั้งยังมีจิตใจอันประเสริฐ ชิงชัยชนะมาด้วยความบริสุทธิ์ ก่อผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองอย่างน่าประทับใจ ครับ" ปล่อยลมออกไปแบบนั้นก่อนจะผ่อนลมหายใจช้า ๆ อย่างคลายความล้า "นั่นแหละครับ ความหมายอลังการไปหน่อย แต่ผมชอบนะ ผอ.ล่ะครับ?"

                งั้นเหรอครับ… ผมชอบจัง” เขายิ้ม ชอบคุณด้วย” จากนั้นเขาก็หัวเราะ โอ๊ะ อันนี้ผมพูดจริงนะ ผมชอบคุณจริง ๆ เลยล่ะ… อ่า ว่าแต่ คุณเป็นสายพันธุ์อะไรเหรอครับ?”

                "เฮ้ย เฮ้ย เดี๋ยวสิครับ ถ้าชอบผมแบบนี้มันผิดนา ผมยังอายุแค่สิบหกเอง" ขึ้นเสียงสูงทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเล่น ก่อนจะหัวเราะในเวลาต่อมา "โอเคครับ มุกผอ.นี่ก็ใช้ได้เลยแฮะ ถึงจะเข้าใจยากไปหน่อย แต่ผมว่าผมชอบแหละ" เขาโครงศีรษะเล็กน้อย

                "อ่า ส่วนเรื่องสายพันธุ์..." เขาทำท่านึก "อ้อ ผมเป็นหมาป่าครับ หมาป่าสีเทาน่ะ ที่มันเท่ ๆ น่ะครับ แต่ในภาพยนตร์ชอบทำให้ผมดูเป็นตัวร้ายอยู่เรื่อยเลย ทั้ง ๆ ที่ผมก็น่ารักขนาดนี้อ่า"

                “โอ้ งั้นเหรอครับ อันนั้นผมก็ชอบเหมือนกันแฮะ ยอดเยี่ยมไปเลย เขาพยักหน้า ก่อนจะยืดหลังตรงอีกครั้ง เอ่ยถามต่อทันที ที่บรรยากาศเป็นยังไง คุณชอบโรงเรียนนี้รึเปล่าครับ?”

                "ก่อนอื่นนะ ผมว่าผมชอบผอ.จัง ดูท่าจะอวยผมไปหมดเลยนะครับเนี่ย แต่แหม ก็แหงแหละเนอะ ในเมื่อผมน่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจไหว" เอนหลังพิงพนักพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นราวกับพึงพอใจในอะไรบางอย่างสุด ๆ "เอ้อ แต่ผมก็ชอบตัวเองเหมือนกันนะครับ"

                หลังพูดจบเขาก็กลับมานั่งหลังตรงดังเดิมเพื่อรักษามารยาทไว้

                "อะแฮ่ม! และสำหรับบรรยากาศของที่นี่... ผมว่ามันดีมาก ๆ เลยครับ สะดวกสบายแถมหรูหราไปหมด ผมชอบนะครับ เพื่อน ๆ ของผมก็บอกแบบนั้นกันหมด ตอนมาครั้งแรกผมก็ตื่นเต้นมาก ๆ เลยด้วย"

                “อ๋างั้นเหรอ แล้วคุณมีอะไรอยากจะเสนอมั้ยครับ อย่างให้เพิ่มเติม หรือปรับปรุงอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนนี้น่ะ ผมรับฟังนักเรียนทุกคนเสมอเลยล่ะ” ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองไปยังคนโปรดก่อนจะเอ่ยช้า ๆ ชัด ๆ และผมก็จับตามองนักเรียนทุก ๆ คนเสมอเลยด้วย

                รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง กระนั้นมันก็ค่อนข้างดูประหลาดเหมือนกับผืนน้ำที่สั่นไหวไม่แน่นอนจนมองไม่ออกว่ามีสิ่งใดกันที่อยู่ด้านใน คนโปรดก็รู้สึกว่ามันดูแปลก ๆ ...ราวกับเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างที่ทำให้เขาเริ่มเป็นกังวลขึ้นมา

                แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง---เอาเถอะ ช่างมัน ทำเป็นยิ้มไปก่อนดีกว่า

                "อ่า...ครับ จะว่าไปก็ไม่ได้มีอะไรอยากเสนอเป็นพิเศษหรอกครับ อาจจะแค่อยากให้ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องรถลางนิดหน่อย เพราะแต่ละตึกบางทีก็ห่างกันค่อนข้างไกลน่ะครับ..." พูดจบก็เม้มปากแน่น

                ไอ้คำว่าจับตามองนี่มันติดตรึงในใจเขาจริง ๆ แฮะ, แต่ก็ไม่กล้าทักท้วงอะไรออกไปมากมายเลย

                อ่า... แต่ช่างมันเถอะ

                “โอเคครับ… เข้าใจล่ะ” เขาผงกหัว อืม งั้นคำถามสุดท้ายแล้วนะ คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนเหรอ โอ๊ะ รวมถึงผมด้วยนะ ผมอยากฟังจากปากพวกคุณจัง ว่าพวกคุณมองว่าผมเป็นคนยังไง

                หืม? รูปแบบคำถามเปลี่ยนไปแล้วแฮะ?

                อ่า... เป็นคงยังไงน่ะเหรอ

                "ก็...ผอ.ก็เป็นคนตลกดีนะครับ ผมชอบนะ แล้วก็คงเป็นคนที่เก่งมาก ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นคงประคับประคองโรงเรียนนี้มาไม่ได้ อีกอย่าง ผมว่า ผอ.ก็เหล่ท่อหล่อเท่ดีมาก ๆ เหมือนกันน้า" พูดยกยอจบก็อมยิ้ม

                "อ้อ และสำหรับตัวผม ผมก็หล่อเหมือนกันครับ ออกจะเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกที่ใคร  ๆต่างก็เอ็นดูด้วยล่ะนะ" ...แล้วก็ไม่วายยกยอตัวเองเหมือนกัน "ผมไม่ได้โมหรอกนครับ ลองถามป้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงเรียนเอาก็ได้นา"

                ขอบคุณครับ… เอาล่ะ ทีนี้ก็หมดธุระแล้ว สามารถกลับบ้านได้เลยนะครับ” ลูซิเฟอร์ฉีกยิ้มอีกรอบ แล้วก็นะ ถ้าเป็นไปได้ อย่าลืมไปติดตามไอจีของผมด้วยนะ ผมอัพเดททุก ๆ สองชั่วโมงเลยล่ะ—

                "โอ้ ได้ครับ ได้เลย แล้วเอาไว้ติดตามผมกลับด้วยนะ" คนอายุน้อยกว่าตอบรับด้วยรอยยิ้ม "แล้วก็ขอบคุณสำหรับวันนี้เช่นกันนะครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ แล้วถ้าเจอครั้งหน้า ก็อย่าลืมเอ็นดูผมให้มาก ๆ ล่ะ!"

     

    ______________________________________________________________________________


    TALK TO JACINDA

    สวัสดีคุณผู้ปกครองค่ะ! ทางนี้ชื่อเจนนะคะ ทางนั้นชื่ออะไรเอ่ยย

    : สวัสดีค่า เด่กอ้วงเองคุ้บ

    นึกยังไงถึงมาสมัครเรื่องนี้คะ

    : จริง ๆ ไม่มีอะไรมากนอกจากอยากหาแนวแก้เครียดไว้บ้างค่ะ ส่วนมากก็ลงแต่นิยายเครียด ๆ มาเยอะแล้ว 555555

    มีเหตุผลอะไรถึงเลือกบทนี้รึเปล่าคะะ

    : อยากปั่นเด็กน่ะค่ะ เด็กที่ให้ความรู้สึกว่า เออ เด็กนี่มันร้ายนะ อะไรแบบนี้ 55555 แต่ก็อาจจะสั้น ๆ สักหน่อยนะคะ พอดีไม่มีอะไรตีกรอบก็เลยออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง ;;w;; อีกอย่างคืออยากลอง ๆ ปั่นลูกมาเฟียสายเพี้ยนนิด ๆ (?) ด้วยค่ะ 55555

    เรื่องนี้ไม่ได้ดาร์คอะไรมาก แต่ก็มีดราม่า และพวกปมอะไร ๆ เข้ามาบ้างนิดหน่อย อาจจะมีการบาดเจ็บบ้างอะไรบ้าง พอจะรับได้ไหมคะ?

    : ได้แน่นอนค้าบ

    เรื่องนี้จะเป็นแนว LGBT+ ซะ 90% เลยนะคะ พอจะรับได้มั้ยเอ่ย

    : รับได้ค่ะ เดี๋ยวเค้าช่วยพายเรือเอง!!!

    ถ้าหากว่าไม่ผ่านบทที่ต้องการ จะรับกลับหรือยัดบทดีคะ

    : ยัดเลยก็ได้ค่ะ ไหน ๆ ก็ลงตัวรองแล้ว 55555

    อยากให้เลือกระหว่าง พระอาทิตย์ กับ พระจันทร์ พร้อมกับเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาหน่อยค่ะ เอาให้เข้ากับคาร์ของลูก ๆ เลยก็ได้ค่ะ เค้าอาจจะมีเซอร์ไพรส์นิด ๆ  หน่อย ๆ 555555

    : ด้วยความที่น้องเป็นหมาป่า งั้นพระจันทร์แล้วกันนะคะ 555555 เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้มีอะไรมากเลยค่ะ เราคิดว่ามันเหมาะเพราะพ่อหนูเค้าก็ดูอันตรายแต่ก็เป็นเหมือนกับแสงสว่างอะไรแบบนั้นน่ะค่ะ แบบว่าเป็นตอนกลางคืนที่ดูน่ากลัว แต่แสงจันทร์ก็ทำให้อุ่นใจ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยอันตรายอยู่ดี เอ๊ะ ยังไงนะ 55555555

    อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวละคร หรือเนื้อเรื่องรึเปล่าคะ ลอง ๆ เสนอมาได้น้า

    : อยากเห็นคนอ่านหรือเรียกชื่อน้องแล้วลิ้นพันน่ะค่ะ 5555555555 หยอกค่ะ อาจจะเป็นบทไปจีบหรือไปคลั่งรัก (?) ใครสักก็ได้ จริง ๆ ก็อยากปั่นบทที่ 1 นะคะ แต่ปั่นไปปั่นมารู้สึกเขออกนอกทางมากไปเลยมาลงบทนนี้ดีกว่า ให้น้องไปคลั่งรักคนอื่นก็ได้ค่ะ แง 55555

    เราอาจจะอัพช้ามากด้วยความที่เคลียร์งานด้วย แล้วก็เคลียร์เรื่องหลักในไอดีอื่นด้วย คงไม่ว่ากันนะคะ ;w;

    : ไม่เป็นไรคั้บผ้ม เอาเท่าที่สะดวกเลย เค้าติดตามทุกเรื่องอยู่แน้ว!

    หมดคำถามแล้ว ยังไงก็ขอให้ทุก ๆ คนโชคดีมีชัยค่า /////7/////


    ______________________________________________________________________________

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×