ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #40 : Chapter 30 | เริ่มงานประมูล

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 63



    Chapter 30



    “คืนนี้สามทุ่ม ที่ตึกสุสานจะมีการประมูลมัมมี่ราชินีคอลโก้”

    ดัลทอลเน่ หัวหน้าบอดี้การ์ดของลูกสาวแก๊งนอสทราดชี้แจงหน้าที่แก่ลูกน้องแต่ละคน “อิวาเร็นคอฟ โทจีโน่ เวเซ่ พวกนายรับผิดชอบการประมูล”

    “แค่สามคนจะไหวเรอะ?” สมาชิกคนนึงแย้งขึ้นมา

    “เขาให้คนซื้อเข้าร่วมแค่กลุ่มละสามคนเท่านั้น ห้ามนำอาวุธ เครื่องบันทึก เครื่องมือสื่อสารพกพาเข้าไป ส่วนฝ่ายรักษาความปลอดภัยในบริเวณงาน— พวกสมาคมมาเฟียที่ทำการประมูลใต้ดินเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด”

    คุราปิก้ายืนนิ่งฟังหัวหน้าของตนอธิบาย ดวงตาสีชาภายใต้คอนแทคเลนส์สีดำหลุบต่ำ เก็บข้อมูลทุกอย่างลงในหัว

    “วิธีนี้ทำให้แทบไม่เคยเกิดปัญหาขึ้นเลย เพราะขืนทำทะเล่อทะล่ามีหวังกลายเป็นศัตรูกับมาเฟียทั้งโลกแน่”

    ดัลทอลเน่กวาดสายตามอง “ในงานนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน เพราะงั้นฝ่ายมาเฟียเลยไม่ติดกล้องวิดีโอเอาไว้ พวกเราเองก็ต้องทำเป็นลืมเรื่องทะเลาะวิวาทตอนอยู่ข้างบนให้หมด นั่นคือกฎ”

    ไม่มีกล้อง ไม่มีอาวุธ


    แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่มีผู้ใช้เน็นสายแปรสภาพเข้าไปปะปนในงานด้วยนี่


    คุราปิก้าสบตากับเซ็นริทสึ หญิงตัวเล็กที่มีหน้าตาน่ากลัวผิดกับน้ำเสียงที่เอ่ยออกมา -- มิวสิคฮันเตอร์สาวเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานชวนให้สบายใจ กับชนเผ่าคูลท์ที่มีแต่เพลิงแค้นสุมอยู่ในอก

    เขากับเธอถูกสั่งให้จับตาดูประตูด้านหน้าร่วมกัน

    ร่างเล็กที่มีดวงตาปูดโปนกับฟันซี่ใหญ่เหมือนหนูมองตามแผ่นหลังเพื่อนร่วมทีม เจ้าของผมสีทองสั้นที่เสียงหัวใจเต้นอย่างหนักหน่วงแต่เชื่องช้า เป็นเสียงแห่งความอาฆาตแค้นที่พร้อมทำทุกอย่างให้บรรลุเป้าหมาย

    เหล่าบอดี้การ์ดหลายคนที่ต้องทำหน้าที่ในงานประมูลครั้งนี้เริ่มเคลื่อนตัวแยกย้าย

    เอามัมมี่ราชินีคอลโก้มาให้เด็กสาวนามเนออนผู้เป็นดวงใจของนายจ้าง -- นั่นคือคำสั่ง

    พรึ่บ

    แผ่นกระดาษที่ถูกเขียนด้วยลายมือขยุกขยิกแต่เป็นระเบียบถูกคลี่ออก ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเซ็นโคคุเคลื่อนอ่านทุกตัวอักษรอย่างเงียบงัน

    คำทำนายจากเน็นสายพิเศษของเนออน นอสทราดที่ถูกส่งมาให้นายจ้างของเขา

    ซีริลหมุนกระสุนในรังเพลิงแก้เซ็ง พวกเขาสองคนได้รับความเป็นส่วนตัวก่อนเริ่มงานอยู่พอสมควร ด้วยชื่อเสียงและบรรยากาศรอบตัวล้วนทำให้นายจ้างวางใจไม่ใช่น้อย

    “นอกจากนายจ้างของเราแล้ว ยังมีหัวหน้ามาเฟียแก๊งอื่นได้รับคำทำนายแบบเดียวกันอีกสามสี่คน” เขายื่นกระดาษให้น้องชายต่างมารดาเอาไปวิเคราะห์บ้าง


    ซีริลเอียงหัวมอง เอ่ยเสียงงึมงำ

    “คนที่ไปงานประมูลจะถูกฆ่า”

    “ใช่ ก่อนหน้านี้คนของเราก็ส่งข่าวมาบอกว่าอาจมีคนบุกมางานประมูลใต้ดิน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพวกไหน”

    ดวงตาสีแดงเสี้ยวของน้องสามเลื่อนขึ้นมาสบตา

    “พี่จะเอายังไง?”

    “ก็ไม่ทำอะไร” เซ็นโคคุพับกระดาษเก็บลงปกเสื้อด้านใน “หน้าที่ของเราอย่างมากก็แค่เข้าไปเตือนนายจ้าง ถ้าเขายืนกรานจะร่วมงานประมูลจริง ๆ ก็ทำตามหน้าที่ไปนั่นแหละ”

    ชายหนุ่มผมสีเทาสั้นประบ่าปัดรังเพลิงเข้าล็อก ก่อนจะลุกขึ้นมายืนข้างกัน

    “ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้หมายความตามนั้นไปซะหมด” มือปัดผมด้านข้าง ซีริลยิ้มรู้ทัน “เรื่องชักจูง... ไม่สิ เกลี้ยกล่อมคนน่ะ พี่เป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว”

    เซ็นโคคุหัวเราะ


    “เคยเห็นพี่ชายคนนี้ทำพลาดไหมล่ะครับ?”



    “ยังไม่ถึงเวลา”

    คุโรโร่เอ่ยเมื่อเห็นเด็กสาวทำหน้าสงสัยยามสมาชิกแมงมุมครึ่งนึงออกไปทำหน้าที่ปล้นเปิดงานประมูล แม้จะแค่แวบเดียว แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเขาอยู่ดี

    คุเรฮะก้มกัดช็อกโกแลตในมือต่อ ไม่ได้ตอบอะไร

    บางทีคนพวกนี้ก็คงมีช่วงรอคอยเวลาที่เหมาะสมคล้าย ๆ กับเธอ -- หางตาเหลือบเห็นปาคูโนด้าหยิบขนมที่ส่วนใหญ่มีแต่รสชาติไม่หวานมาวางให้เพิ่ม

    ยังกะวางแผนให้เธออยู่กินยาว ๆ อย่างนั้นแหละ

    “เมื่อก่อนเห็นออกจะชอบของหวาน แปลกใจจริงที่ตอนนี้เธอชอบอะไรขม ๆ ไปซะแล้ว”

    เด็กสาวเลิกคิ้วสูง ปาคูโนด้าหัวเราะเบา ๆ มือจิ้มจมูกหยอกพลางเอ่ยต่อ

    “โดยเฉพาะชูครีมน่ะ”


    ชูครีม...?


    ปุ

    มือหนาข้างที่ว่างวางลงบนหัวทุย ๆ ของเด็กน้อยข้างกาย โยกไปมาเล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทของคุโรโร่ยังคงไม่ละสายตาไปจากหนังสือที่อ่านอยู่แต่อย่างใด เขาเอ่ยเสียงเรียบ

    “เวลามีอะไรมากระทบจิตใจหนัก ๆ ก็ทำให้บางคนอาจปฏิเสธบางอย่างที่ทำให้นึกถึงมันไปเลยก็ได้”

    “หมายถึงอะไร?”

    คุเรฮะแหงนหน้ามองคนโยกหัว ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของหัวหน้าแมงมุมเท่าไหร่ ยกเว้นหญิงสาวผมสีบลอนด์สั้นที่ชะงักมือ

    ดวงตาสีดำมืดมนเรียบเฉย

    ส่งรอยยิ้มบางมุมปากมาให้แค่นั้น

    คุเรฮะยักไหล่ไม่ใส่ใจ คนในแก๊งนี้ใช่ว่าจะมีคนปกติซะที่ไหน จะพูดอะไรชวนให้หัวหมุนหน่อยก็คงไม่แปลก


    อีกด้านหนึ่งไม่ไกล -- มีใครบางคนเดาะลิ้นไม่สบอารมณ์


    ตัวตลกที่ถูกลืมทำหน้าเหมือนเด็กขัดใจยามถูกแย่งของเล่น รอยยิ้มเริ่มตึงเมื่อหัวหน้าแมงมุมผมเรียบแปล้ประหนึ่งใช้เจลหลายกระปุกไม่ยอมปล่อยเด็กตาคมของเขามาให้ซะที

    เด็กมันก็นั่งแทะขนมอยู่ข้างกัน เฉยเมยต่อสิ่งรอบข้างสุด ๆ

    หงุดหงิดจริง

    “...”

    และดูเหมือนการเดาะลิ้นซ้ำไปซ้ำมาของเขาจะไปกระตุ้นต่อมความรำคาญของคุเรฮะเข้า เด็กหูผีเกินคนหันมา ตาคม ๆ นั่นกระตุกยิกใส่

    ในเสี้ยวนัยน์ตา เขาเห็นความรู้ทันแฝงอยู่ในนั้น

    คุเรย์ทำเป็นพ่นลมหายใจออกจมูก มือข้างนึงยื่นขนมในมือมาทางเขา ขยับนิด ๆ ให้รู้ว่าเรียกหา


    ‘งั่ม!’

    “อี๋ ขมปี๋เลย!”


    เด็กสาวผมสีดำสั้นมองคนที่โผล่มากัดมุมขนมในมือไปคำนึงในพริบตา ผู้ใหญ่ตัวโตทำเป็นหลับตาแลบลิ้นใส่ เมินสายตาเอือมระอาของหัวหน้าแมงมุมและสมาชิกอีกสองสามคนในรังไป

    แหงล่ะ เธอกินของหวานซะที่ไหน


    ‘ห้องใต้ดินที่จู่ ๆ ก็ขึ้นราคาอย่างไม่มีวี่แวว

    จะกลายเป็นที่นอนสำหรับท่าน

    อย่าขึ้นลงบนไดที่ไม่เคยขึ้น

    แล้วก็อย่าวิวาทกับใครด้วยเรื่องของตัวเลข’

    โคลงสี่วรรคแรกของเด็กสาวนักทำนายในแวดวงมาเฟียผุดขึ้นมาในหัว นั่นทำให้ลูกชายคนโตของคราวน์สายหลักลักลอบออกมาสังเกตการณ์งานประมูลที่กำลังเริ่มขึ้น

    เขาเกลี้ยกล่อมให้นายจ้างไม่มางานประมูลนี้ได้สำเร็จ แม้ไม่รู้ว่าการตายของนายจ้างจะเกิดขึ้นในงานประมูลรอบไหน แล้วจะหยุดยั้งอนาคตในคำทำนายจากเน็นนั้นได้หรือไม่

    —นั่นไม่ใช่เรื่องของเขา

    งานประมูลนี้นายจ้างตัดใจไม่เข้าร่วม นั่นทำให้เขาอ้างว่าจะออกมาสังเกตการณ์เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์คร่าว ๆ ไม่เป็นที่สงสัยเท่าไหร่

    บางอย่างในหัวส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น

    และเซ็นโคคุก็เชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเองมากพอซะด้วย


    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! 


    ตึกที่มีการประมูลเริ่มส่งเสียงเอะอะ ร่างสูงผมสีน้ำเงินแซมแดงหยุดชะงัก ลอบมองต้นเหตุของเสียงจากมุมนึงของทางเดินหน้าห้องประมูล

    แสงของอะไรสักอย่างสะท้อนเข้าดวงตา

    มือสังหารหนุ่มกระโดดหลีกอย่างว่องไว แต่สิ่งนั้นก็ตามมาติด ๆ จนเริ่มจับสังเกตได้

    เซ็นโคคุเร่งออร่าคลุมดวงตาเพื่อใช้เงียว เห็นชัดเจนว่าเป็นลวด -- เส้นด้ายที่สร้างขึ้นจากเน็น!

    ‘นี่มัน—!?’


    ตูมมม!!


    “ชิ สายเสริมพลังเรอะ”

    มาจิจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ ควันสีเทาคลุ้งไปทั่วบริเวณ กับดักเน็นของเธอหายไปบ่งบอกว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่ผู้ใช้เน็นฝีมือธรรมดาซะแล้ว

    “...มาจิ?”

    ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้าง

    หันขวับไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว -- ชายหนุ่มผมสองสียืนใกล้เธอระยะประชิด มือข้างนึงสลายออร่าที่เพิ่งใช้ออกไป

    “นาย...”

    “เป็นเธอจริง ๆ ด้วย”

    ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นดูคมคายขึ้นจากเมื่อก่อนมาก แต่ท่าทางเป็นผู้ใหญ่กับรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั่นไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมสักนิด

    แววตาของมาจิค่อย ๆ สงบลง เธอหันซ้ายขวา นึกดีใจที่พวกพ้องย้ายกันไปจัดการส่วนของตัวเองอย่างรู้หน้าที่ ทำให้ตรงนี้ไม่มีใครสังเกตว่ามีผู้ชายตัวสูงในชุดสูทยืนอยู่ข้างเธอ

    นิ้วมือขยับสองสามที วางกับดักด้ายเน็นใหม่อย่างคล่องแคล่ว ระหว่างนั้นดวงตาสองคู่ยังคงจ้องมองกันไม่ห่างไปไหน


    “เจอนายก็ดี ฉันจะได้ถาม—”

    “เรื่องคุเรฮะสินะ”


    แววตาคมไหววูบ มาจิสูดหายใจเข้าลึก

    ต่างจากดวงตาเซ็นโคคุที่อ่อนลง เขาคาดเดาถูกว่าเรื่องอะไรที่ทำให้แมงมุมสาวสั่นคลอนความนิ่งเฉยในตัวได้

    ...เพราะสำหรับเธอกับเขา เราต่างรู้ดีว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ความรู้สึกในอกมันหนักหน่วงขนาดนี้…

    “ถ้าเจอกับเด็กคนนั้นแล้ว เธอก็น่าจะเข้าใจเรื่องได้นะมาจิ”

    “แต่นั่นก็เป็นแค่การคาดเดาของหัวหน้าเท่านั้น”

    เป็นครั้งแรกที่เธอแย้งคำพูดของคุโรโร่เมื่อได้มาเจอกับคน ๆ นี้

    มือของเธอกำแน่นขึ้นจนแทบจะจิกลงไปในเนื้อ


    “บอกฉันมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...”


    เซ็นโคคุทำสีหน้าหนักใจ นิดเดียวก็ยังไม่พ้นคนที่จับความรู้สึกคนเก่งอย่างมาจิ หญิงสาวพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองเผลอใช้ด้ายเน็นรัดตัวคนตรงหน้าเป็นการข่มขู่

    “...เป็นเรื่องภายในน่ะ”

    “เรื่องภายในบ้าอะไร!?”

    “ผนึกความทรงจำคุเรฮะให้ลืมทุกอย่างไปหมด ทำให้เด็กคนนั้นเปลี่ยนไปขนาดนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าเรื่องภายในอีกเรอะ—!!”

    ราวกับเส้นการควบคุมหลุดออกจากกัน มาจิพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อสูทของร่างสูงยกขึ้น

    ยิ่งคนตรงหน้าไม่มีท่าทีอะไรตอบรับกลับมา มันยิ่งตอกย้ำและทำให้พายุในอกเธอมันทวีคูณความโกรธเกรี้ยวขึ้นไปอีก เธอแค่นหัวเราะ รวดร้าว “มันคงง่ายกว่านี้ถ้าพวกฉันจะไปตามผู้ขจัดเน็นมา แต่ฉันแค่อยากจะรู้ความจริงจากใครสักคนก่อนก็เท่านั้น”

    สีหน้าของเซ็นโคคุเปลี่ยนไปฉับพลัน


    หมับ!


    “อย่าทำแบบนั้นจะดีกว่านะ”

    มือหนาคว้าข้อมือเพรียวมากำแน่น มาจิกัดฟันจ้องเขม็งจนเส้นเลือดผุดข้างขมับ

    “แค่เพราะอยากรู้ความจริง อย่างมากเธอก็แค่เสียใจ แต่เด็กคนนั้นจะตายทั้งเป็น”


    ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววเจ็บปวดไม่ต่างกัน แขนของแมงมุมสาวตกลงตามแรงโน้มถ่วงเมื่อมือหนาคลายออกอย่างทะนุถนอม

    ถ้อยคำสุดท้ายตอกย้ำรอยร้าวฝังลึก


    “ฉัน...ไม่อยากเสียคุเรฮะไปอีกคน”


    -----


    “นั่นใครน่ะ?”

    ซีริลเอ่ยถามเมื่อผู้เป็นพี่เดินกลับมา ตัวเขาแค่ตามมาสังเกตอยู่ห่าง ๆ หลีกเลี่ยงการปะทะเท่าที่จำเป็น แต่เพราะตาไวเลยเห็นสาวผมชมพูกับพี่ชายตัวเองในมุม ๆ นึงเข้า

    ชายหนุ่มผมสีเทาสว่างหรี่ตาจับผิด

    “ก็ดูสวยดี แต่พี่มีคู่หมั้นอยู่แล้วนะ”

    “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอกซีริล”

    เซ็นโคคุหัวเราะ มือขยี้ลงบนหัวน้องชายอย่างเอ็นดู ซีริลหน้ามุ่ย ไม่ทันมองว่ารอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ชายคนโตเฝื่อนลงไปจากเดิม

    พวกเขาพากันเดินออกมา หลบแก๊งโจรที่เข้ามาบุกงานประมูลอย่างไม่สนกลุ่มมาเฟียใด ๆ ซีริลลอบแปลกใจ พี่ชายดูรู้เส้นทางหลบหลีกดีเหมือนมีใครบอกทาง

    “ท่าทางงานนี้จะวุ่นวายกว่าที่คิด เราควรเตรียมพร้อมหากเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้จริง ๆ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยระหว่างทาง ผมยาวรวบต่ำปลิวสะบัดตามลม ซีริลพยักหน้ารับ

    “พี่รู้แล้วเหรอว่าใครบุกงานคราวนี้”

    “อืม เป็นแมงมุมไม่ผิดแน่”

    “งั้นสาวคนเมื่อกี้ก็แมงมุมสินะ” ซีริลทำเป็นชนไหล่พี่ชายเบา ๆ “แล้วพี่เป็นอะไรกับเขาอะ เห็นคุยกันซะนานเชียว!”


    “อา...”

    รอยยิ้มของเซ็นโคคุจางลงไปอีก


    “อดีตรักแรกน่ะ”


    __________C H E C K M A T E__________


    ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และกำลังใจค่ะ (◍•ᴗ•◍)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×