ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] The Spirit Memories…ความทรงจำนิรันดร์กาล

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 1. The Beginnig

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 56


       

     +❥ Free theme mouse. naru
     

     

    Chapter 1

     

                    25 ธันวาคม 201X

    เมืองเล็กๆ ที่ประเทศอิตาลีในตอนนี้มีหิมะโปรบปรายลงมาราวกับละอองฝน สวยงามหากแต่ก็หนาวเหน็บ...ถือเป็นโชคดีของปีนี้ที่อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไหร่นัก แต่ถนนทุกสายของที่นี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ จัตุรัสกลางเมืองมีผู้คนมากมายพากันเดินขวักไขว่สวนกันไปมา บางคนก็ก้าวเท้าอย่างเร่งรีบเพื่อจะได้กลับไปหาเตาผิงอุ่นๆที่บ้าน บางคนก็พาลูกๆหลานๆออกมาตกแต่งต้นคริสมาสต์ยักษ์ บางคนก็เดินจับมือกันตามประสาคนรัก และบางคนก็จับกลุ่มคุยกันตามประสาสมาคมแม่บ้านเพื่อรอให้ร้านค้าต่างๆเปิดโปรโมชันลดราคาช่วงเทศกาล

    “นี่เธอ...ฉันได้ยินมาว่าบ้านหลังใหญ่บนเนินเขาน่ะ! มีคนมาอยู่แล้วนะ”

    “จริงเหรอ ท่าทางครอบครัวนี้คงรวยน่าดูซื้อบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นได้เนี่ย”

    “เอ...เห็นว่าเป็นแค่เด็กสองคนพี่น้องเองนะ คนพี่เป็นผู้ชายจบมหาลัยแล้ว ส่วนคนน้องเป็นเด็กผู้หญิงอายุเพิ่งจะ 16 เองมั้ง”

    “อ้าว...แล้วพ่อแม่เด็กล่ะ! เป็นพี่น้องกันจริงๆแน่นะ  ไม่ใช่ว่าหนีตามกันมาหรอกเหรอ”

    “ฉันว่าหน้าไม่ค่อยเหมือนกันนะ...อาจจะหนีตามกันมาจริงๆก็ได้มั้ง”

    “เธอเนี่ย! ฉันแค่พูดให้คิดเฉยๆ ถ้ามันไม่จริงเด็กนั่นจะเสียหายนะ”

    “อ้าวเหรอ! ช่างเถอะๆ...อ๊ะ! ร้านนั้นมีลดราคานี่นา รีบไปกันเถอะ!!

    และแล้วเสียงพูดคุยก็เงียบลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆไกลออกไป เมื่อแน่ใจว่าไปกันหมดแล้วชายหนุ่มจึงค่อยๆก้าวออกมาจากอีกด้านของต้นคริสมาสต์ขนาดยักษ์ใช่แล้ว...เขาอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรก และอยู่นานพอที่จะได้ยินคำครหาต่างๆนาๆ ลำพังถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะไม่สนใจแล้วเดินหนีไปตั้งแต่แม่บ้านนี่เริ่มจับกลุ่มนินทาด้วยซ้ำไป แต่เขา...คือคนที่อยู่ในคำนินทานั่นไงล่ะ และตอนนี้เขากำลังอารมณ์ไม่ดี...ไม่ดีมากด้วย

    “ยัยพวกปากมากเอ๊ย...แก่จะตายอยู่แล้วยังขี้นินทาอีก”

    ถ้านินทาแค่เขาน่ะ เสียหายเท่าไหร่เขาก็ไม่สนหรอก ทำไมต้องพาดพิงไปถึงน้องสาวของเขาด้วยล่ะ ยัยนั่นยิ่ง...

    สิบนาทีต่อมา

    ชายหนุ่มใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก็ถึงที่หมาย...บ้านหลังใหญ่ที่อยู่บนเนินเขาไงล่ะ แต่ก่อนที่เขาจะเอื้อมไปเปิดประตูรั้ว เสียงใสๆที่ฟังยังไงก็เดาออกว่าเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงก็เอ่ยทักขึ้นมาราวกับว่ากำลังรอให้เขากลับมาอยู่ตลอดเวลา

    “กลับมาแล้วเหรอคะพี่...ดูสิคะเนวี่ก็รอพี่อยู่เหมือนกันน้า”

    ภาพตรงหน้าเรียกรอยยิ้มเล็กๆจากเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

    ภาพของหญิงสาวผมบลอนด์หยักศกที่กำลังอุ้มลูกแมวสีขาวไว้แนบอก

    ภาพรอยยิ้มที่หาได้ง่ายดายหากแต่สวยงามยิ่งกว่าใครจากเด็กผู้หญิงคนนี้

    ภาพความร่าเริงของน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา...

    แต่เห็นเธอมานั่งตากหิมะอยู่นอกบ้านแทนที่จะนั่งรอหน้าเตาผิงอุ่นๆอย่างนี้แล้วทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพถึงแม้จะนั่งตรงระเบียงก็เถอะแต่มันก็โดนละอองหิมะเหมือนกันนะ คิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบหุบรอยยิ้มแล้วเอ็ดเธอแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่นักทันที

    “เอลออกมานั่งตากหิมะอย่างนี้ทำไม ก่อนออกไปพี่ก็บอกแล้วนี่ว่าไม่ต้องรอ...ทำไมถึงชอบฝืนสังขารตัวเองอย่างนี้นะ”

    ถึงจะดูเล็กน้อยสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเด็กสาวที่ชื่อเอเซล เวอร์วานี่นั่นก็เพียงพอแล้ว...ที่จะทำให้ดวงตาที่ประดับรอยยิ้มของเธอหม่นแสงลงไป เล่นเอาคนที่เพิ่งทำร้ายจิตใจน้อยสาวแบบไม่ได้ตั้งใจอย่างเอเดน วี. เฟอร์ราสเตอร์ รีบลนลานปลอบน้องสาวทันที

    “อืม...พี่กลับมาแล้ว พี่ขอโทษที่พูดอย่างนั้น พี่แค่เป็นห่วงเอลเฉยๆ” มือใหญ่เอื้อมไปลูบเบาๆแบบปลอบขวัญ

    “พี่ไม่ผิดหรอกค่ะ เอลผิดเองที่ไม่ฟังพี่ เอลแค่เหงา...แค่อยากมารอพี่”

    เมื่อเห็นว่าคนเป็นน้องพูดตอบด้วยเสียงสั่นๆและรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ฝืนเต็มทีกลับมา ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เขาจึงรีบหาทางแก้สถานการณ์นี้ก่อนที่เด็กสาวจะร้องไห้ออกมาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงเลือกจะเสนอในสิ่งที่เคยห้ามน้องสาวมาตลอด

    “เอลอยากออกไปเดินเล่นมั้ย เอลไปเดินเล่นได้นะ เดี๋ยวพี่ไปทำอะไรให้กิน เอลจะได้ไม่เหงาด้วย”

    “จริงๆเหรอคะ เอลออกไปเดินเล่นได้จริงๆเหรอคะ!

    “อือฮึ...แต่อย่าลงไปถึงข้างล่างนะ เอาผ้าพันคอพี่ไปพันไว้ด้วย ถ้ารู้สึกเหนื่อยก็ต้องกลับมาทันที โอเคนะ”

    “โอเคค่ะ เอลสัญญา นี่เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ที่ดีที่สุดเลย ไปกันเร็วเนวี่”

    เฮ้อ...หวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องนะ เขาแค่อยากให้น้องสาวตัวเองได้มีชีวิตแบบปกติธรรมดาเหมือนเด็กสาวทั่วๆไปบ้าง ไม่ใช่ต้องมาอยู่แต่ในบ้านแบบนี้ อยากให้ร่าเริงกว่านี้...แข็งแรงกว่านี้...แข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะโรคบ้าๆนั่นได้ยิ่งพอได้เห็นรอยยิ้มสดใสและดวงตาเป็นประกายนั่นแล้ว เขาก็ยิ่งคิดว่าครั้งนี้เขาตัดสินใจถูก

    แต่...มันจะถูกจริงๆน่ะหรือ

    .

    .

    .

    สวนหย่อมภายในตัวบ้าน

    หญิงสาวผมบลอนด์กำลังก้มลงเด็ดดอกไม้ออกจากกอออกแรงดึงเบาๆให้ดอกไม้สองสามดอกมาอยู่ในมือ ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงต้องกลับเข้ามาในสวนแทนที่จะเดินออกไปเลย ก็เพราะเธอคิดว่าหากได้เจอเพื่อนบ้านผ่านมาซักคนก็น่าจะมีของขวัญอะไรให้เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์บ้าง...มันคงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีน่าดู

      “เสร็จแล้วล่ะ! เนวี่อย่าวิ่งรอบขาๆเอลสิ เดี๋ยวเอลเผลอเหยียบเอานะ” เธอหันไปเอ็ดเจ้าลูกแมวจอมดื้อเบาๆ

    และดูเหมือนว่ามันจะฟังรู้เรื่องมันจึงเลิกพัวพันขาของเธอแล้วแล้ววิ่งไล่เจ้าจิ้งเหลนโชคร้ายที่บังเอิญผ่านมาไปยังถนนหน้าบ้านที่ลาดลงเนินด้านล่างแทน เล่นเอาเธอร้องเรียกมันเสียงหลง เพราะมันยังเป็นแค่ลูกแมวแถมสีของมันยังกลมกลืนไปกับหิมะอีกด้วย

      เนวี่! เนวี่กลับมาหาเอลนะ เอลไม่ว่าแล้วก็ได้...อย่าวิ่งไปที่ถนนแบบนั้นสิ! แฮก แฮก”

    อาจจะเป็นเพราะเธอทั้งตะโกนทั้งวิ่งตามเธอจึงเหนื่อยจนหอบออกมา ลมหายใจที่ออกมาล้วนกลายเป็นไอลอยบดบังการมองเห็นของเธอไปไม่น้อยแต่เธอก็ยังพอหาเจ้าลูกแมวตัวน้อยแสนซนของเธอได้อยู่...เจ้าตัวเล็กนั่นวิ่งไปถึงอีกฟากของถนนแล้วซึ่งนั่นอันตรายมาก เพียงแต่เธอวิ่งตามมันไม่ไหวแล้ว ร่างเล็กๆหอบจนตัวโยน แต่เธอก็ยังคงส่งเสียงเรียกให้ลูกแมวของเธอกลับมาหาไม่หยุด

    “กลับมาทางนี้เนวี่..ทะ...ทางนั้นมันอันตรายนะ เอลบอกให้กลับมาไง”

    ในที่สุดเสียงของเธอก็ดึงความสนใจจากลูกแมวน้อยสีขาวปุกปุยได้ มันละความสนใจจากจิ้งเหลนที่หนีเข้าไปในพุ่มไม้ข้างทาง แล้ววิ่งข้ามถนนกลับมาหาเธอ...ซึ่งดูจากตรงนี้ ดูเหมือนตัวของมันจะจมหายลงไปในหิมะทั้งตัวเลยทีเดียว

    เมื่อเห็นว่าลูกแมวกำลังกลับมาเธอค่อยๆถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่มันก็โล่งได้ไม่นานเมื่อหางตาเธอเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็ว

    “อ๊ะ! ระวัง!!!

    ตีก! เอี๊ยดด!! บรืนนน!!

    “กรี๊ดดดดดดด!! ไม่นะ!!! อึก! โอ้ยย”

    ชายหนุ่มวางของทุกอย่างในมือลงทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของน้องสาวจากทางหน้าบ้าน เขาไม่สนใจแม้แต่จะปิดแก๊สด้วยซ้ำ...สองขารีบเร่งไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด เพียงไม่นานก็ถึงและภาพที่เห็นทำให้เขาแทบทรุดลงไปนั่งกับพื้น

    ภาพหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่มีรอยเลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่ว ย้อมสีขาวบริสุทธิ์ให้กลายเป็นสีแดงชาดและท่ามกลางกองเลือดนั่นมีก้อนอะไรบางอย่างสีขาวปุกปุยอยู่...ข้างๆกันมีน้องสาวของเขาล้มอยู่ มือขวาของเธอยกขึ้นกุมหัวใจ และริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูระเรื่อนั่นเม้มติดแน่นจนห้อเลือด แต่นั่นยังไม่เท่ากับลมหายใจขึ้นไอเนื่องจากอากาศเย็นที่ดูจะรวยรินเต็มที

    “พ่ะ...พี่คะ อึ่ก!

    ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กๆกระตุกอีกครั้งและแน่นิ่งไป หากถึงร่างกายจะไร้เรี่ยวแรงเพียงไหนจะแต่สองขาก็ยังก้าวออกไปเรื่อยๆเมื่อถึงตัวน้องสาวเขาก็ตะโกนเรียกและเขย่าร่างเล็กนั่นเบาๆ

    “เอเซล!อดทนไว้นะพี่จะพาเธอไปโรงพยาบาล! เอเซล!! ตื่น!!! พี่บอกให้ตื่นไงเอล!!!

    เมื่อไม่เห็นการตอบสนองของน้องสาวมือที่เริ่มสั่นเทาค่อยๆยกขึ้นไปอังที่จมูกเล็กๆ ส่วนมืออีกข้างก็ยังประคองกอดน้องสาวไว้แน่นราวกับไม่ยอมรับความจริงในข้อนี้

    “ม่ะ...ไม่หายใจแล้ว เอล ฮึก...มันเป็นความผิดพี่ พ่ะ...พี่ขอโทษ กลับมานะเอล...พี่ขอโทษ!!

    ใช่...มันเป็นความผิดของเขา เป็นเพราะเขาตัดสินใจผิดพลาดเป็นเพราะเขาบอกให้น้องออกมาเดินเล่นทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นโรคหัวใจเพียงแค่อะไรทำให้ตกใจนิดหน่อยก็ถึงแก่ชีวิต แต่เขาก็ยังปล่อยให้เธอออกมา เขาปล่อยให้น้องตาย...เขาเป็นคนทำให้เธอตาย...

    “เอเซล!!!!!

    …We wish you a Merry Christmas,
    We wish you a Merry Christmas,
    We wish you a Merry Christmas,
    And a Happy New Year…

    พี่คะ...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่มั้ยคะ

    พี่ไม่มีวันทิ้งเธอ พี่จะปกป้องเธอเองนะ

    พี่สัญญาแล้วนะคะ'
     



     

    - คึคึคึ(?) เอาไปสี่สิบเปอร์ก่อนนะค้า พอไปอ่านของคนอื่นในเซ็ตเดียวกันทำให้รู้สึกว่า นี่ฉันเวิ่นเยอะไปมั้ยT^T อ่า...ก็นะ เราอยากให้รู้ถึงสาเหตุการตายและความสัมพันธ์ที่ชัดเจน หวังว่านักอ่านคงจะไม่เบื่อการเวิ่นเว้อของเราชิมิ>__<
                   - มาต่อแบบทีละนิด ฮ่าฮ่า= =; เอาน่า ดีกว่าไม่มาอัพแล้วกันเนอะ มีรีไรท์ใหม่นิดๆด้วย
                   - จบแล้วววว อ่านจบมีใครอยากสมัครเข้าเป็นแฟนคลับคุณพี่ชายบ้างรึเปล่า


      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×