ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR,Varia] ยัยหน้าใสพิชิตหัวใจคุณชายวาเรีย

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3 : เบียกคุรันและบอสที่แท้จริงของวาเรีย

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 60


    Chapter 3 : เบียกคุรันและบอสที่แท้จริงของวาเรีย

    การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนานกินเวลาไปมาก  เพราะสึนะกับเบียกคุรันก็ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่บ่อยๆคนดูก็ลุ้นบ้างหวาดเสียวบ้างตามประสา  ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟากอดคนตัวเล็กไม่ปล่อย  ตอนลุ้นก็กอดแน่นตอนหวาดเสียวก็ยิ่งกอดแน่นเข้าไปใหญ่จนผู้ที่โดนกอดครางในลำคออย่างไม่สบอารมณ์  ตอนนี้ก็เหมือนกันมาเรียลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกถึงแรงบีบรัดอึดอัดจนทนไม่ไหวต้องตื่นขึ้นมา

    ร่างบางกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงก่อนจะยกหัวออกจากบ่าของใครไม่ได้นอกจากแซนซัส  เพราะขนนกที่ติดปอยผมบ่งบอกถึงตัวเจ้าของเป็นอย่างดี  มาเรียมองไปที่การต่อสู้ตรงหน้าสึนะกำลังใช้ x-burnner ปล่อยพลังไฟไปที่เบียกคุรัน  ร่างบางก็เดิ้งตัวขึ้นมาทันทีทำให้แซนซัสตกใจผละมือออกจากเธอ  มาเรียหันมาขอบคุณพลางใส่พลังไฟเข้าไปในกล่อง  คทาแก้วความยาวครึ่งเมตรอยู่ในมือเธอทันที  แล้วร่างของมาเรียก็พุ่งเข้าไปกลางพลังไฟของสึนะที่ปล่อยออกมา

     

    เบียกคุรัน TALK

    ผมหายเจ็บแล้วทั้งๆที่แผลบนตัวมีมากเหลือเกิน  ยิ่งเมื่อโดนพลังไฟของสึนะครั้งล่าสุดยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรียกว่าแทบไม่เหลือซากเลยที่เดียว  แต่ตอนนี้ผมรู้สึกถึงความร้อนที่อยู่รอบตัวเหมือนถูกโอบกอดอยู่ความร้อนแผ่เข้ามาถึงตัวทำให้เขาอุ่นแปลกๆ อุ่น..อบอุ่น  เจ้าของผมสีเงินประกายม่วงยกยิ้ม  ยิ้มที่มาจากความสุขในหัวใจจริงๆ  ไม่ใช่ยิ้มที่เขาปั้นขึ้นมาเพื่อบดบังความเหงาในจิตใจ นี่บนสวรรค์เหรอเนี่ย  ผมอดคิดเพ้อฝันไม่ได้ก่อนจะกระชับก้อนความอุ่นนั้นจนแน่นและซุกไซร้หน้าเข้าไป

    “โอ๊ย!

    เสียงเล็กๆดังขึ้นใกล้หูผมจึงค่อยๆยกเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก  เมื่อสายตาปรับคุ้นกับแสงแล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อยเนื่องจากสิ่งที่เห็นคือใยสีชมพูเส้นเล็กหลายร้อยเส้น  เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าคือคนของวองโกเล่ที่เข้ามาขัดขวางโกสต์ทำให้เขาได้พลังไปไม่มากเท่าที่ควร  ใยสีชมพูที่เห็นเมื่อครู่ก็ผมของยัยตัวเล็กนี่สินะแถมยัยนี่ยังกอดเขาอยู่อีกด้วย  ดูเหมือนผมจะจ้องยัยตัวเล็กนี่มากไปจนหน้าเธอขึ้นสีแดง  อย่างกับเชอร์รี่แหน่ะคิดเหรอว่าคนอย่างผมจะเปรียบสีแดงกับมะเขือเทศ  ให้ตายเถอะ..ผมเกลียดผักนะ

    “เอ่อ..ฉันช่วยรักษาคุณอยู่น่ะ  ตอนนี้แผลภายนอกหายไปแล้วแต่ข้างในยังไม่หาย  ค..คือ ฉันปิดแผลก่อนน่ะคุณจะได้ไม่เสียเลือดมาก  อ..เอ่อ..ไม่ต้องห่วงนะฉันเป็นคนของวองโกเล่ก็จริงแต่ไม่ทำอะไรคุณหรอก  ที่กอดนี่ก็ไม่ได้ทำอะไรนะ!!  ต้องกอดเพราะพลังไฟของฉันจะได้เข้าไปรักษาคุณได้เร็วๆเยอะๆ ไง !#$#%(*&(*!@#$%

    ยัยหัวสีชมพูนี่โวยวายอะไรอีกเยอะแยะด้วยหน้าแดงจัดกับแก้มยุ้ยๆน่ากัดนั่น  แต่จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะไม่ค่อยสนใจนักหรอก  เขาซบหน้าลงไปที่ไหล่เธออีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา    ลมหายใจร้อนๆที่ออกจามาตัวเขากระทบเข้ากับต้นคอขาวๆของยัยนี่ทำให้เสียงพูดหยุดลงราวกับสับสวิตซ์   อา..ถ้าจูบยัยนี่จะเป็นยังไงนะ?

    “อยู่แบบนี้สบายดีนะ”

    “ค่ะ  ฉันกำลังรักษาคุณอยู่แต่คงไม่หายดี  คุณก็ไปรักษาตัวให้หายดีจริงๆก่อนค่อยกลับมา”

    555  นี่เธอช่วยฉันอยู่นะ  ฉันฆ่าคนในแก๊งเธอไปเท่าไหร่ไม่รู้รึไง  ตอนนั้นฉันสนุกมากเลยล่ะ”

    ผมพูดด้วยน้ำเสียงติดจะฟังดูโรคจิตนิดๆ  แต่ก็นะ...เบียคุจางนี่นา~

    “ฉันก็เคยเป็นเหมือนคุณมาก่อนค่ะ  เกิดมาบนโลกใบนี้รอบๆตัวมีแต่คนไม่จริงใจใส่หน้ากากเข้าหากัน  จิตใจสกปรกคิดไม่ซื่อคิดจะเอาเปรียบตลอดเวลา  น่าสะอิดสะเอียนแต่ก็ทนอยู่ไปเรื่อยๆ  จนปู่ทาลโวและรุ่นที่9พาฉันมาในโลกนี้  แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นที่ของฉันขึ้นมาน่ะค่ะ”

    โอ๊ะ! เธอคิดเหมือนผมเลย  ใช่..มนุษย์น่ะบางทีก็น่าสะอิดสะเอียน  แต่ที่นี่คงไม่ใช่ที่ของผมหรอกมั้ง  ก็ในโลกนี้ผมเป็นอาชญากรนี่นา  เหมือนยัยตัวดีจะรู้ความคิดผม 

    “แต่ว่าที่นี่ก็เป็นที่ของคุณนะคะ  คุณแค่เข้าใจผิดนิดหน่อย...ในการวางตัว”

    “เหรออออออออออออออ   ฉันควรไปอยู่ตรงไหนล่ะ  ไปเข้ากับวองโกเล่ให้พวกมันจิกหัวสั่งน่ะเหรอ?”

    ผมทำหน้าตายียวนกวนส้นสุดๆ  ยัยนี่ทำตาโตตกใจมันต้องทำหน้าโกรธสิ  เป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่ผมเดาทางไม่ได้ 

    “ไม่ใช่นะคะ  ฉันหมายถึงแทนที่จะเป็นปรปักษ์กันเราเป็นพันธมิตรกันดีกว่า”

    “?????”

    “มาเป็นเพื่อนกันค่ะ!!

    พูดจบยัยนี่ก็ปล่อยผมออกจากอ้อมกอดแล้วคว้ามือผมมาจับทั้งสองข้าง  แถมทำหน้าจริงจังสุดๆ  เพิ่งมีคนขอผมเป็นเพื่อนครั้งแรกเลยนะเนี่ย  ยัยตัวเล็กนี่มันเกินความคาดหมายจริงๆ

    555  เธอชื่ออะไรล่ะ  เป็นเพื่อนกันไม่รู้ชื่อมันก็แปลกๆอยู่นา~

    “มาเรียค่ะ  มาเรีย  กาลิเวีย”

    “มาเรียจังนี่เบียคุจังนะ”

    “อือ!!  เบียคุจัง  ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนจ๊ะ แต่นายต้องไปรักษาตัวอีกสักพักนะ  นายบาดเจ็บหนักมากเลย  ฉันคงรักษานายให้หายดีไม่ได้”

    “ว้าเพิ่งเป็นเพื่อนกันต้องจากกันแล้วเหรอ”

    “ไว้หายดีนายค่อยมาหาฉันก็ได้  โลกที่นายจะไปน่ะการแพทย์เจริญมากเลยนะ แป๊ปเดียวเท่านั้นแหละ”

    “งั้นผมฝากคิเคียว  ซาคุโร่ แล้วก็บลูเบลด้วยนะ  มาเรียจัง”

    “อื้มจะดูแลให้ดีที่สุดเลย

    มาเรียบีบมือผมแน่นแล้วจ้องตาผมเหมือนให้คำสัญญา  ผมจะลองเชื่อเธอดูแล้วกันวองโกเล่ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก  ผมยิ้มอีกครั้งแล้วโน้มตัวไปจูบแก้มนุ่มๆของมาเรียก่อนจะปล่อยมือเธอออกไปจากแสงขาวนวลนี่แล้วเข้าไปอีกโลกนึง...

     

    มาเรียลืมตาขึ้นมาอีกทีก็นั่งอยู่บนโซฟาสีแดงตัวเดิมแต่เจ้าของมันกลับไม่อยู่  ร่างบางมองไปรอบๆก็เห็นแซนซัสหยิบปืนออกมา  ท่ามกลางเสียงห้ามของสึนะ  มาเรียรีบวิ่งไปและผลักมือของแซนซัสที่ตั้งใจจะยิงศีรษะของคิเคียวเบี่ยงออกไป

    ปัง!!

    กระสุนปืนเฉียดผมของคิเคียวไปเพียงนิดเดียว  ทำเอาคนรอบๆตกอกตกใจไปกันหมด ไม่มีใครพูดอะไร.... แซนซัสมองร่างเล็กด้วยแววตาดุดันและเอ่ยปากในที่สุด

    “อย่ามายุ่ง  เธอไม่มีสิทธิ”

    “มีสิ!

    เสียงเล็กแต่ทรงอำนาจของรีบอร์นขัดขึ้นมา ทุกคนล้วนฉงนกับคำพูดเมื่อครู่

    “เพราะ...เธอเป็นบอสของวอริเออร์ควอลิตี้”

    “ท่านแซนซัสต่างหาก!!

    เลวี่เถียงเสียงดังพลางและต้องงอตัวล้มลงกับพื้นแทบทันทีเพราะรีบอร์นหยิบรองเท้าสึนะปาใส่ตามมาด้วยเสียงโวยวายของสึนะที่ต้องเดินไปเก็บรองเท้าของเขาคืน

    “เดิมที...วาเรียเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้ครอบครองไฟธาตุดารา  แต่ในรุ่นที่2-9ไม่มีใครพบธาตุนี้อีกเลยวาเรียจึงถูกเปลี่ยนเป็นหน่วยฆ่าสังหารแทน  แต่ในตอนนี้เราได้พบผู้ครอบครองไปธาตุดาราแล้ว  วอริเออร์ควอลิตี้จึงต้องกลับมาคุ้มครองเธออีกครั้ง”

    แซนซัสดูแปลกใจและจ้องหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าอย่างประเมินค่าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก  มาเรียเองก็กำลังรักษาคิเคียวที่ถูกโจมตีอย่างหนักโดยไม่สนใจรอบข้าง 

    “ชั้นขอให้พวกเขาไปอาศัยที่ปราสาทวาเรียสักพักได้ไหมคะ?”

    มาเรียเอ่ยปากถามอย่างไม่เจาะจงแต่ทุกคนก็ทราบดีว่าเธอถามใคร 

    “นานเท่าไหร่?”

    “เอ่อ..ประมาณ 2-3 เดือน”

    “ให้มันแน่!!

    “3 เดือนค่ะ!

    แซนซัสหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไป    ไม่รู้ล่ะ...เอาเป็นว่าตกลงไปแล้วนะ

    “ไป!!  รีบๆลุก  รีบเดิน!!

    เลวี่เตะซาคุโร่เร่งให้ลุกอย่างหยาบคายร่างเล็กเห็นก็ทนไม่ได้รีบเข้าไปห้าม

    “คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ!  พวกเขาเข้าพักในฐานะแขกของฉัน  ไม่ใช่เชลย”

    มาเรียปัดรอยเท้าของเลวี่ที่หลังของซาคุโร่ออกแล้วหันไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับสมาชิกวอริเออร์ควอลิตี้ 

    “สวัสดีค่ะ  ฉัน มาเรีย กาลิเวีย  ธาตุดาราที่จะมาอยู่กับพวกคุณตั้งแต่นี้เป็นต้นไปค่ะ  จะพยายามปรับตัวให้มากที่สุดค่ะ  ส่วนเรื่องสมาชิกมีลฟิโอเล่ที่จะอยู่กับเรา 4 เดือน  ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ไม่พอใจ  แต่พยายามเป็นมิตรไว้ดีกว่านะคะ”

    ร่างเล็กโค้งอย่างนอบน้อมและยิ้มให้ทุกคนราวกับประกวดนางงาม

    “ชิชิชิ  ฉันว่าวาเรียจะกลายเป็นโบสถ์ก็คราวนี้แหละ”

    “เป็นโบสถ์ก็ดี  ได้เงินบริจาคด้วย”

    มาม่อนเริ่มคิดเลขบวกลบรายได้ที่จะได้จากการตั้งโบสถ์

    “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะฮ้าป่านนี้บอสโกรธแยแล้ว”

    “งั้นเดี๋ยวฉันตามไป  รอกันด้วยนะโว้ยยย”

    สควอลโล่วิ่งออกไปหากลุ่มสึนะอีกทางด้านหนึ่ง  มาเรียก็เดินตามหลังเหล่าสมาชิกวาเรียกับมีลฟิโอเล่อีก 3 คน

     

     

     






    © Tenpoints!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×