คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3 : เบียกคุรันและบอสที่แท้จริงของวาเรีย
Chapter 3 : เบียกคุรันและบอสที่แท้จริงของวาเรีย
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนานกินเวลาไปมาก เพราะสึนะกับเบียกคุรันก็ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่บ่อยๆคนดูก็ลุ้นบ้างหวาดเสียวบ้างตามประสา ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟากอดคนตัวเล็กไม่ปล่อย ตอนลุ้นก็กอดแน่นตอนหวาดเสียวก็ยิ่งกอดแน่นเข้าไปใหญ่จนผู้ที่โดนกอดครางในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้ก็เหมือนกันมาเรียลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกถึงแรงบีบรัดอึดอัดจนทนไม่ไหวต้องตื่นขึ้นมา
ร่างบางกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงก่อนจะยกหัวออกจากบ่าของใครไม่ได้นอกจากแซนซัส เพราะขนนกที่ติดปอยผมบ่งบอกถึงตัวเจ้าของเป็นอย่างดี มาเรียมองไปที่การต่อสู้ตรงหน้าสึนะกำลังใช้ x-burnner ปล่อยพลังไฟไปที่เบียกคุรัน ร่างบางก็เดิ้งตัวขึ้นมาทันทีทำให้แซนซัสตกใจผละมือออกจากเธอ มาเรียหันมาขอบคุณพลางใส่พลังไฟเข้าไปในกล่อง คทาแก้วความยาวครึ่งเมตรอยู่ในมือเธอทันที แล้วร่างของมาเรียก็พุ่งเข้าไปกลางพลังไฟของสึนะที่ปล่อยออกมา
เบียกคุรัน TALK …
ผมหายเจ็บแล้วทั้งๆที่แผลบนตัวมีมากเหลือเกิน ยิ่งเมื่อโดนพลังไฟของสึนะครั้งล่าสุดยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรียกว่าแทบไม่เหลือซากเลยที่เดียว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกถึงความร้อนที่อยู่รอบตัวเหมือนถูกโอบกอดอยู่ความร้อนแผ่เข้ามาถึงตัวทำให้เขาอุ่นแปลกๆ อุ่น..อบอุ่น เจ้าของผมสีเงินประกายม่วงยกยิ้ม ยิ้มที่มาจากความสุขในหัวใจจริงๆ ไม่ใช่ยิ้มที่เขาปั้นขึ้นมาเพื่อบดบังความเหงาในจิตใจ ‘นี่บนสวรรค์เหรอเนี่ย’ ผมอดคิดเพ้อฝันไม่ได้ก่อนจะกระชับก้อนความอุ่นนั้นจนแน่นและซุกไซร้หน้าเข้าไป
“โอ๊ย!”
เสียงเล็กๆดังขึ้นใกล้หูผมจึงค่อยๆยกเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก เมื่อสายตาปรับคุ้นกับแสงแล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อยเนื่องจากสิ่งที่เห็นคือใยสีชมพูเส้นเล็กหลายร้อยเส้น เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าคือคนของวองโกเล่ที่เข้ามาขัดขวางโกสต์ทำให้เขาได้พลังไปไม่มากเท่าที่ควร ใยสีชมพูที่เห็นเมื่อครู่ก็ผมของยัยตัวเล็กนี่สินะแถมยัยนี่ยังกอดเขาอยู่อีกด้วย ดูเหมือนผมจะจ้องยัยตัวเล็กนี่มากไปจนหน้าเธอขึ้นสีแดง อย่างกับเชอร์รี่แหน่ะ! คิดเหรอว่าคนอย่างผมจะเปรียบสีแดงกับมะเขือเทศ ให้ตายเถอะ..ผมเกลียดผักนะ
“เอ่อ..ฉันช่วยรักษาคุณอยู่น่ะ ตอนนี้แผลภายนอกหายไปแล้วแต่ข้างในยังไม่หาย ค..คือ ฉันปิดแผลก่อนน่ะคุณจะได้ไม่เสียเลือดมาก อ..เอ่อ..ไม่ต้องห่วงนะฉันเป็นคนของวองโกเล่ก็จริงแต่ไม่ทำอะไรคุณหรอก ที่กอดนี่ก็ไม่ได้ทำอะไรนะ!! ต้องกอดเพราะพลังไฟของฉันจะได้เข้าไปรักษาคุณได้เร็วๆเยอะๆ ไง !#$#%(*&(*!@#$%”
ยัยหัวสีชมพูนี่โวยวายอะไรอีกเยอะแยะด้วยหน้าแดงจัดกับแก้มยุ้ยๆน่ากัดนั่น แต่จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะไม่ค่อยสนใจนักหรอก เขาซบหน้าลงไปที่ไหล่เธออีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา ลมหายใจร้อนๆที่ออกจามาตัวเขากระทบเข้ากับต้นคอขาวๆของยัยนี่ทำให้เสียงพูดหยุดลงราวกับสับสวิตซ์ อา..ถ้าจูบยัยนี่จะเป็นยังไงนะ?
“อยู่แบบนี้สบายดีนะ”
“ค่ะ ฉันกำลังรักษาคุณอยู่แต่คงไม่หายดี คุณก็ไปรักษาตัวให้หายดีจริงๆก่อนค่อยกลับมา”
“555 นี่เธอช่วยฉันอยู่นะ ฉันฆ่าคนในแก๊งเธอไปเท่าไหร่ไม่รู้รึไง ตอนนั้นฉันสนุกมากเลยล่ะ”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงติดจะฟังดูโรคจิตนิดๆ แต่ก็นะ...เบียคุจางนี่นา~
“ฉันก็เคยเป็นเหมือนคุณมาก่อนค่ะ เกิดมาบนโลกใบนี้รอบๆตัวมีแต่คนไม่จริงใจใส่หน้ากากเข้าหากัน จิตใจสกปรกคิดไม่ซื่อคิดจะเอาเปรียบตลอดเวลา น่าสะอิดสะเอียนแต่ก็ทนอยู่ไปเรื่อยๆ จนปู่ทาลโวและรุ่นที่9พาฉันมาในโลกนี้ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นที่ของฉันขึ้นมาน่ะค่ะ”
โอ๊ะ! เธอคิดเหมือนผมเลย ใช่..มนุษย์น่ะบางทีก็น่าสะอิดสะเอียน แต่ที่นี่คงไม่ใช่ที่ของผมหรอกมั้ง ก็ในโลกนี้ผมเป็นอาชญากรนี่นา เหมือนยัยตัวดีจะรู้ความคิดผม
“แต่ว่าที่นี่ก็เป็นที่ของคุณนะคะ คุณแค่เข้าใจผิดนิดหน่อย...ในการวางตัว”
“เหรออออออออออออออ ฉันควรไปอยู่ตรงไหนล่ะ ไปเข้ากับวองโกเล่ให้พวกมันจิกหัวสั่งน่ะเหรอ?”
ผมทำหน้าตายียวนกวนส้นสุดๆ ยัยนี่ทำตาโตตกใจมันต้องทำหน้าโกรธสิ เป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่ผมเดาทางไม่ได้
“ไม่ใช่นะคะ ฉันหมายถึงแทนที่จะเป็นปรปักษ์กันเราเป็นพันธมิตรกันดีกว่า”
“?????”
“มาเป็นเพื่อนกันค่ะ!!”
พูดจบยัยนี่ก็ปล่อยผมออกจากอ้อมกอดแล้วคว้ามือผมมาจับทั้งสองข้าง แถมทำหน้าจริงจังสุดๆ เพิ่งมีคนขอผมเป็นเพื่อนครั้งแรกเลยนะเนี่ย ยัยตัวเล็กนี่มันเกินความคาดหมายจริงๆ
“555 เธอชื่ออะไรล่ะ เป็นเพื่อนกันไม่รู้ชื่อมันก็แปลกๆอยู่นา~”
“มาเรียค่ะ มาเรีย กาลิเวีย”
“มาเรียจัง~ นี่เบียคุจังนะ”
“อือ!! เบียคุจัง ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนจ๊ะ แต่นายต้องไปรักษาตัวอีกสักพักนะ นายบาดเจ็บหนักมากเลย ฉันคงรักษานายให้หายดีไม่ได้”
“ว้า~ เพิ่งเป็นเพื่อนกันต้องจากกันแล้วเหรอ”
“ไว้หายดีนายค่อยมาหาฉันก็ได้ โลกที่นายจะไปน่ะการแพทย์เจริญมากเลยนะ แป๊ปเดียวเท่านั้นแหละ”
“งั้นผมฝากคิเคียว ซาคุโร่ แล้วก็บลูเบลด้วยนะ มาเรียจัง”
“อื้ม! จะดูแลให้ดีที่สุดเลย”
มาเรียบีบมือผมแน่นแล้วจ้องตาผมเหมือนให้คำสัญญา ผมจะลองเชื่อเธอดูแล้วกันวองโกเล่ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก ผมยิ้มอีกครั้งแล้วโน้มตัวไปจูบแก้มนุ่มๆของมาเรียก่อนจะปล่อยมือเธอออกไปจากแสงขาวนวลนี่แล้วเข้าไปอีกโลกนึง...
มาเรียลืมตาขึ้นมาอีกทีก็นั่งอยู่บนโซฟาสีแดงตัวเดิมแต่เจ้าของมันกลับไม่อยู่ ร่างบางมองไปรอบๆก็เห็นแซนซัสหยิบปืนออกมา ท่ามกลางเสียงห้ามของสึนะ มาเรียรีบวิ่งไปและผลักมือของแซนซัสที่ตั้งใจจะยิงศีรษะของคิเคียวเบี่ยงออกไป
ปัง!!
กระสุนปืนเฉียดผมของคิเคียวไปเพียงนิดเดียว ทำเอาคนรอบๆตกอกตกใจไปกันหมด ไม่มีใครพูดอะไร.... แซนซัสมองร่างเล็กด้วยแววตาดุดันและเอ่ยปากในที่สุด
“อย่ามายุ่ง เธอไม่มีสิทธิ”
“มีสิ!”
เสียงเล็กแต่ทรงอำนาจของรีบอร์นขัดขึ้นมา ทุกคนล้วนฉงนกับคำพูดเมื่อครู่
“เพราะ...เธอเป็นบอสของวอริเออร์ควอลิตี้”
“ท่านแซนซัสต่างหาก!!”
เลวี่เถียงเสียงดังพลางและต้องงอตัวล้มลงกับพื้นแทบทันทีเพราะรีบอร์นหยิบรองเท้าสึนะปาใส่ตามมาด้วยเสียงโวยวายของสึนะที่ต้องเดินไปเก็บรองเท้าของเขาคืน
“เดิมที...วาเรียเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้ครอบครองไฟธาตุดารา แต่ในรุ่นที่2-9ไม่มีใครพบธาตุนี้อีกเลยวาเรียจึงถูกเปลี่ยนเป็นหน่วยฆ่าสังหารแทน แต่ในตอนนี้เราได้พบผู้ครอบครองไปธาตุดาราแล้ว วอริเออร์ควอลิตี้จึงต้องกลับมาคุ้มครองเธออีกครั้ง”
แซนซัสดูแปลกใจและจ้องหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าอย่างประเมินค่าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก มาเรียเองก็กำลังรักษาคิเคียวที่ถูกโจมตีอย่างหนักโดยไม่สนใจรอบข้าง
“ชั้นขอให้พวกเขาไปอาศัยที่ปราสาทวาเรียสักพักได้ไหมคะ?”
มาเรียเอ่ยปากถามอย่างไม่เจาะจงแต่ทุกคนก็ทราบดีว่าเธอถามใคร
“นานเท่าไหร่?”
“เอ่อ..ประมาณ 2-3 เดือน”
“ให้มันแน่!!”
“3 เดือนค่ะ!”
แซนซัสหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไป ไม่รู้ล่ะ...เอาเป็นว่าตกลงไปแล้วนะ
“ไป!! รีบๆลุก รีบเดิน!!”
เลวี่เตะซาคุโร่เร่งให้ลุกอย่างหยาบคายร่างเล็กเห็นก็ทนไม่ได้รีบเข้าไปห้าม
“คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ! พวกเขาเข้าพักในฐานะแขกของฉัน ไม่ใช่เชลย”
มาเรียปัดรอยเท้าของเลวี่ที่หลังของซาคุโร่ออกแล้วหันไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับสมาชิกวอริเออร์ควอลิตี้
“สวัสดีค่ะ ฉัน มาเรีย กาลิเวีย ธาตุดาราที่จะมาอยู่กับพวกคุณตั้งแต่นี้เป็นต้นไปค่ะ จะพยายามปรับตัวให้มากที่สุดค่ะ ส่วนเรื่องสมาชิกมีลฟิโอเล่ที่จะอยู่กับเรา 4 เดือน ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ไม่พอใจ แต่พยายามเป็นมิตรไว้ดีกว่านะคะ”
ร่างเล็กโค้งอย่างนอบน้อมและยิ้มให้ทุกคนราวกับประกวดนางงาม
“ชิชิชิ ฉันว่าวาเรียจะกลายเป็นโบสถ์ก็คราวนี้แหละ”
“เป็นโบสถ์ก็ดี ได้เงินบริจาคด้วย”
มาม่อนเริ่มคิดเลขบวกลบรายได้ที่จะได้จากการตั้งโบสถ์
“ไปขึ้นเครื่องกันเถอะฮ้า~ ป่านนี้บอสโกรธแยแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวฉันตามไป รอกันด้วยนะโว้ยยย”
สควอลโล่วิ่งออกไปหากลุ่มสึนะอีกทางด้านหนึ่ง มาเรียก็เดินตามหลังเหล่าสมาชิกวาเรียกับมีลฟิโอเล่อีก 3 คน
© Tenpoints!
ความคิดเห็น