คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : So Cute![No.3] : รับน้อง..เพื่อนใหม่.2[[เชล]]
So Cute![No.4] : รับน้อง..2[[เชล]]
“ น้องเชลครับ พี่ก็ไม่ได้เป็นเกย์ แต่ถึงจะเป็น พี่ก็เป็นกับน้องเชลคนเดียว~”
เด็ดมากครับประโยคนี้ ผมหันไปเจอสายตาหลายคู่กำลังมองด้วยหลายอารมณ์ บ้างก็ซึ้ง(ตาแดงอย่างกับจะร้องไห้) บ้างก็โก่งคอทำท่าว่าจะอ้วก บ้างก็สงสัย บ้างก็อึ้ง หลายอารมณ์จริงๆ ผมกวาดสายตาไปเรื่อยๆ จนเจอกับคนๆหนึ่งที่อารมณ์แตกต่างจากคนอื่น คือ มันเหมือนเป็นอารมณ์หงุดหงิด ปนโกรธ หน้าจากหล่อๆกลายเป็นเหมือนโกรธใครมาสิบชาติ จะมีใครซะอีกถ้าไม่ใช่ ไอ้พี่แกรม
“ เอ่อ...”
“ น้องเชลครับ พี่มีเรื่องจะบอกน้องเชลครับ” พี่นายน์ครับ หัวหน้าพี่ว้ากเดินเข้ามา
“ คือว่า ที่จริงแล้ว......”
.
..
.
..
“ เชล!”
“ อ่ะ..อืม! ฮึ่ย? ฝน! ”
“ ถึงแล้วเชล แหม...แทนทีจะอยู่คุยเป็นเพื่อนเรา ไง๊มาหลับตั้งแต่ขึ้นรถอย่างนี้ล่ะ” ฝนพูดพร้อมกับเก็บกระเป๋าของตัวเองไปด้วย
เอ๊ะ! หรือเมื่อกี้นี้... เราฝันหรือ?
“ เร็วๆเชล ไปลงเรือกัน ” ฝนกวักมือเรียกให้ผมเร่งตามเธอลงไป ผมก็ลงไปเจอกับไอ้ปัน
เลยแนะนำฝนให้ปันรู้จัก ไอ้ปันก็แนะนำ ฟอนต์ สาวสวย(น่ารัก><) ที่ไอ้ปันไปนั่งๆข้างๆให้ผมรู้จัก จากนั่นเราก็ลงเรือไปเกาะครับ เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่พอควร เขาบอกว่า ใช้เวลาเดินทางไป 40 นาที
ระหว่างนั้น เราสี่คนก็คุยกันอย่างสนุกสนานบนเรือแหละครับ คุยไปคุยมาก็ได้เพื่อนใหม่อีก2คน หรือ1คู่ คือมันเป็นแฟนกันอ่ะครับ ผู้หญิงค่อนข้างน่ารักเลยทีเดียว ชื่อ กวี(ผู้หญิงห่านไรว่ะ? ชื่อกวีเนี่ย!)
ส่วนผู้ชายก็หล่อครับสมกัน ชื่อ โบ(อ้าวว มันสลับกัน) จนเมื่อเรือถึงเกาะพี่ว้ากเกอร์ก็พาไปที่พักให้ผู้ชายพักห้องล่ะสี่คน ผู้หญิงห้องล่ะสองครับ โดยให้จัดกันเอง (คณะผมมันง่ายๆสบายๆ แอบติสๆ 55) โดยพี่แกบอกว่า ไอ้ป้ายที่แจกให้เมื่อเช้าเนี่ย พี่แกอำเล่นครับ เพราะว่าที่จริงมันเป็นป้ายคำใบ้สุดท้ายในการตามล่าหาพี่รหัส สำหรับคนที่หาพี่รหัสตัวเองไม่เจอ =____=;;
ผมก็นอนกับไอ้ปัน กับโบ เหลืออีกคนหนึ่ง ไอ้โบเลยไปชวนเพื่อน ร.ร.เก่าที่ไม่รู้จักแต่มันบอกว่าคุ้นหน้า ให้มานอนด้วยกัน
“ เฮ้ยๆๆ นี่จุฬาป่ะ? ”
โบครับ โคตรหน้าด้านเดินไปก็ไปสะกิดเค้าตอนเค้าเหม่อๆ ไอ้จุฬาก็เอ๋อๆ มันสะดุ้งแล้วเรียกหันกลับมาครับ โอ้วว คุณพระ คนหรือหิมะ ขาวเกินหน้าเกินตา =__= เด็กแว่นครับ หน้าบ้านๆถึงขั้นดูดี สูงประมาณผม(ร้อยเจ็ดสิบนิดๆ) ผมสั้นสไลด์ เอ่อ..แล้วกูจะมาสังเกตมันทำเพื่อ?
“ อ่ะ...เฮ้ย! โบ? ” ไอ้จุฬาตาเหลือกอย่างกับเห็นผี หน้าซีดแล้วก็เสือกซีดอีกอย่างกับไม่มีเลือดอยู่บนหน้า แล้วจู่ๆ หน้าก็แดง อ้าวว กูตามอารมณ์มึงไม่ทัน เมื่อกี้ตกใจตอนนี้มันหน้าบึ้งครับ หน้าก็แดง ราวกับโกรธไอ้โบมาสิบปี
“ เอ่อ..ฬาไปนอนกะเราป่ะ?” โบเกาหัวแกรกๆ แบบงงๆ มันคงงงกับอารมณ์โคตรแปรปรวนของจุฬาพอๆกับพวกผมอ่ะแหละ
“ อืม” จุฬาตอบแล้วหน้ามันก็กลายเป็นปกติ แต่ก็ยังซึมๆแปลก ไอ้โบเลยแหละแนะผมกะปันให้รู้จัก จากนั้นเราก็ไปห้องพัก
มาถึงห้องพัก ผมก็วางกระเป๋าที่เตียงอีกเตียงนึง ไอ้โบวางอีกเตียง ไอ้ปันเดินมาแล้ววางที่เตียงเดียวกับผม
ห้องกว้างดีครับ ที่นี่เป็นเกาะในอ่าวชื่อดังครับ ค่าพักก็แพงพอควรแต่ทางโรงแรมเขาเห็นว่ามารับน้องมั้งครับเลยลดให้นิดหน่อย โดยร่วมเลยไม่แพงมากครับ
“ เฮ้ย!! เรา ไม่นอนนะแบบบนี้ !!” เสียงไอ้จุฬาร้องขึ้นดังลั่น ผมก็รีบเดินจากระเบียงกับเข้าห้องทันที ไอ้โบที่งีบอยู่ก็ดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจเหมือนๆกับผม ส่วนไอ้ปันที่มันเข้าห้องน้ำไปพอกหน้า(มันพอกหน้าจริงๆครับ โคลนจากทะลาปบลาๆๆอะไรไม่รู้ ) มันก็วิ่งออกมาด้วยความตกใจทั้งๆที่หน้ามันก็ยังพอกไม่ถึงครึ่ง
“ จุฬาเป็นไร?”
“ เรา...เรา..ไม่นอนเตียง..นั่น” อ้าว? ไมว่ะ ไหนว่ามาจากโรงเรียนเดียวกัน ไม่รักกันไว้เถิดอ่ะ?
“ อ้าว???? ”
“ เรา.. เราอยากนอนกับ...”
จุฬาบิดไปบิดมา แบบอายๆแล้วก็ชี้ไปเตียงผม อ๋อ..อยากนอนเตียงกู เฮ้ย!! ได้ไงอ่ะ ผมกะไอ้ปันรักกันปานจะกลืนกิน จะให้เราแยกจากกันได้ไง อ๊ากกกกกก เชลไม่ยอมอ่ะ T^T
“ เราขอนอนกับเชลนะ”
“ เอ่อ..จุฬา เราว่า .ให้เชลนอนกับปะ...” ไอ้โบพูดขึ้นแต่ก็โดนจุฬาหันไปมองตาขวางจนไอ้โบต้องเงียบไปเลย
“ นะ นะ ถือว่าเราขอล่ะ ” แล้วจุฬามันก็อ้อนครับ ทำตาวิ้งๆ มีออร่าเปล่งประกาย! ผมก็เลยมองหน้าไอ้ปันทีมันก็พยักหน้าเพราะมันพูดอะไรไม่ได้เนื่องจากโคลนที่อยู่ครึ่งหน้าของมัน
“ อ่า...ก็ได้ๆ” แล้วไอ้ฬา ก็...วิ่งเร็วเท่าความไวแสงไปวางของของตัวเอง พร้อมจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยากไม่เกรงใจใคร แล้วมันก็วิ่งกับมาที่กระเป๋าอีกใบ(มันมีหลายกระเป๋ามากกก) หยิบพวกโฟมล้างหน้าอะไรเทือกๆเนี่ย วิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำ (ทั้งที่ไอ้ปันสุดที่เลิฟของผมกำลังพอกหน้าอยู่)<<ไอ้ในวงเล็บ หุบปาก!!
“ เฮ้ย!!! จะ..จุฬา! ทำไรเนี่ย!!” ปันร้องเสียงหลงเลยครับ ผมรีบเข้าไปดูแต่ปรากฏว่า
ไอ้จุฬามันเอาโคลนของไอ้ปันใส่ขยะ แล้วก็จัดการวางของตัวเองแทน ส่วนที่ไอ้ปันร้องเพราะ ไอ้จุฬามันจับไอ้ปันกด! เอ่อ..หมายถึงกดลงไปในอ่างล้างหน้าเพื่อล้างโคลนเมื่อกี้ อ้าววว=____=;;
“ ปันปัน เคยดูฉลากก่อนใช้มั้ย?!!”
“ อะไรกันเล่า!” ไอ้ปันตะคอกทั้งๆที่ยังเช็ดหน้าตัวเองอยู่ จุฬาก็คงกลัวมั้งครับ เพราะไอ้ปันหน้าโคตรดุ
“ คือ เมื่อ..เช้าเราดูข่าวว่าโคลนยี่ห้อเนี่ย มันไม่ได้อย. มีคนหน้าเละไปแล้วนะ! แต่เราก็ขอโทษด้วย เราเห็นปันปันกำลังใช้ เรา..ฮึก..เรากลัว..ฮืออออ กลัวปัน อึก ปัน หน้าเละ ฮืออ ขอโทษที่..ระ..เราตกใจไปหน่อย ฮือออออออออออออออ” อ้าวเวรกรรม ==________________== วันนี้ผมทำหน้าอย่างงี้ กี่รอบแล้วว่ะ?
“ เฮ้ย..จุ..จุฬา เรา ไม่ได้ตั้งใจนะ เราขอโทษ เราก็ต้องใจที่จู่ๆนายก็กดหัวเราลงน้ำ” คราวนี้เป็นไอ้ปันที่ตกใจ จุฬาแมร่งร้องไห้ราวกับเขื่อนแตกอย่างไงอย่างงั้น
“ ฮืออออออออออออออออออออออออ ฮืออออออออ”
“ เฮ้ยย..คือ เราไม่ได้ตั้งใจ หยุดร้องนะ หยุดร้องๆ โอ๋ๆๆ ”
ตอนนี้ปันมันรวบไอ้จุฬามากอดแล้วโยกตัวราวกกับจุฬาเป็นเด็กๆ ส่วนไอ้จุฬาก็กอดตอบครับ แบบว่ากอดกันกลมราวกับพ่อลูก แม้ความสูงจะไม่ต่างมาก แต่ขนาดตัวต่างโคตร! มันเหมือนพ่อกับลูกชัดๆ
“ โอ๋ๆๆ เราไม่โกรธจุฬา นะ นะ นะ หยุดร้องเร๊ว! เดี๋ยวเลี้ยงขนม ”
พวกมึงกี่ขวบกันแล้วฟร่ะ มาเลี้ยงขนม ง้อกันเนี่ย??
“ ฮึก! จริงนะ *o* ”
อ้าววว ได้ผลซะงั้น? เวรจริงกับพวกนิสัยเด็กเนี่ย - _ - ผมคว้ากล้องตัวเก่งออกมาคล้องคอไว้เตรียมไปถ่ายรูปครับ ผมชอบเล่นกล้องหนุกดี ^^
จากนั้นผมก็เดินออกมาข้างนอกครับ เน้นว่างข้างนอกโรงแรมก็ว่าได้ ผมหลบมาที่ทะเลครับ ตอนนี้ก็มีวิดวะ ที่มาด้วยกันอ่ะ รับน้องที่หาดอยู่ ส่วนคณะผมให้น้องพักผ่อนครับ แต่อันที่จริงคงไม่อยากเจอวิดวะมากกว่า ฮ่าๆๆ ผมคิดนะ เพราะพรุ่งนี้วิดวะมันพักผ่อนส่วนเรารับน้องกัน
ทะเลที่นี่สวยครับ หาดทรายขาวก็ว่าได้ ผมมองไปจนสุดสายตา เจอเกาะเล็กเกาะน้อยเต็มไปหมด บรรยากาศสวยโฮก จนอย่างจะเก็บภาพเอาไว้ อ๊ะ! แล้วกูจะอยากทำไมในเมื่อก่อนออกจากห้องก็คว้าลูกสาวมาด้วย อิอิ ลูกสาวผมชื่อ แคนนอล ผมมีลูกชายอีกอันคือ นิกคอน 555 เลยหยิบออกมาคล้องคอทำหน้าที่ตากล้องต่อไป
วิวสวยสุดตรีนจริงๆ ผมสนุกอยู่กับการซูมเข้าออก หามุมสวยๆ ถ่ายเพลินมาก ไม่ดูเวลาเลยด้วยซ้ำ
“ น้องเชล!”
“ฮะ?” อีพี่ปอหน้าหม้อนี่หว่า =___= เอาไงดีว่ะ ฝันร้ายคงไม่กลายเป็นจริงหรอกใช่มั้ย ต่อให้พี่แกหม้อก็ไม่หม้อมาถึงผมหรอก
“ แหม..มาถ่ายรูปคนเดียวแบบนี้ สนใจรับนายแบบหล่อๆน่ารัก เท่ห์ ดูดีแบบพี่เป็นแบบมั้ยครับ ”
พูดมาได้ไม่อายปากบ้างรึไงว่ะคนเรา หล่อ(ตรงไหน) น่ารัก(ใช้อะไรมอง) ดูดี(ดูอย่างอื่นจะดีว่า) แบบนี้เนี่ยนะ สู้ไอ้พี่แกรมบ้าไม่ได้สักนิด ! เฮ้ย? เมื่อกี้เรานึกถึงไอ้แกรม? ได้ไงเนี่ย นึกได้ไง
แล้วผมก็ถ่ายรูปต่อไป ไม่ได้สนใจพี่ปอหน้าหม้อ ที่ติดผมแจเลย พอจะถ่ายมุมโน่น พี่แกก็รีบวิ่งไปเก๊กท่าไว้ ให้ตายเถอะ! คิดว่ามึงหล่อรึไง? ผมก็ได้แต่ทำเฉย แม้ว่าพี่แกจะยืนบังวิว! ทำหน้าชิล! จนผมพลาดมุมดีๆไปเยอะเหมือนกัน ชิส์~ พอเวลาผ่านไป จากคำว่า ‘เฉย’ มันได้แปรปันตรงกับคำว่า ‘เริ่มรำคาญ’ และต่อมาได้มีวิวัฒนการกลายเป็น ‘รำคาญอย่างเต็มรูปแบบ’ ติดผมแจขนาดนี้ ยิ่งบวกกับฝันระหว่างที่หลับบนรถทำให้เกิดคำถามในใจ ไอ้ผมก็ไม่ใช่คนอยากรู้แต่ไม่อยากถาม สำหรับผม ทุกเรื่องต้องชัดเจน!(กลายเป็นนโยบายหาเสียงแล้ว)
“ พี่ปอ ถามจริง จีบผมป่ะเนี่ย? ”
“ ครับ ^^” มึงก่อนตอบบ้างก็ดี
“ เฮ้ย!!!” ร้องซิครับ ตกใจ๊ตกใจ ไม่คิดว่าถามเล่นๆ(?) แต่เสือกตอบหน้าตาย - - * อย่างไม่อายฟ้าอายดิน ไอ้ฉิบหาย ต่อไปเชลจะไม่ถามโดยไม่คิดแล้ว จะรูดซิปปากให้ปิดสนิทเลย TT_TT เฮ้อ~ เซ็งครับ กับความหล่อตัวเอง(-_-)
“ ฮ่าๆๆๆ พี่ล้อเล่น น้องเชลนี่อารมณ์ขันนะครับ แหม...คิดได้ไงครับว่าพี่จีบ ” พี่ปอหลุดกร๊ากออกมาแล้วโอบไหล่ผมพร้อมกับหัวเราะแบบ ‘ขำกลิ้ง’ เพราะพี่แกคงจะขำมากเลยจับท้องไปด้วย งอตัวไปด้วย เราสองคนจะล้มหน้าจุ่มทรายกันอยู่แล้ว ผมไม่ผิดนะที่ถามไปอยากนั้นน่ะ เพราะว่า ผมแค่ไม่มั่นใจก็เลยถาม มันไม่ผิดหรอกใช่มั้ย?
“ น้องเชล.. ถึงพี่ปอจะหน้าหม้อ เอ้ย! หน้าหล่อ แต่พี่ปอก็ไม่ใช่ไม่เลือกนะครับ ฮ่าๆๆ”
เออ! ดี! ขำเข้าไปน่ะมึง อย่าหยุดขำนะสัด! <<ใจจริงอยากพูดแบบนี้นะครับ แต่ติดกับมันเป็นรุ่นพี่ ขืนปล่อยลูกน้องออกไปแค่ขบๆเบาไม่ถึงกัด ก็อาจมีความผิดในข้อหา ‘ปีนเกลียว’ ได้ ไอ้พี่ปอแม่งก็ จริงจังกับการขำเกิน เจ้าประคู๊ณ ขอให้ขำจนหายใจไม่ทันด้วยเถิดสาธุ
“ ไอ้ควายเอ๊ย!”
ไม่ไหวครับสุดจนทน จนต้องแอบสบถด่ามันนิดๆ เพราะมันนั่นเล่นหัวเราะซะวิดวะที่รับน้องอยู่ไม่ห่างหันควับมากันทั้งภาค(วิดวะมันรับภาคใครภาคมันครับ) ไม่หันก็มีแต่ชายสี่ห้าคนที่กำลังปั่นจิ้งหรีดอย่างขะมักเขม้นจนหน้าแดงอยู่ ผมถึงบางอ้อทันทีว่า ภาคนี้กำลังเล่นเกมกัน
“ เมื่อกี้ว่าอะไรน่ะครับ” อ้าวไอ้ห่า? หูดีจริงน่าได้รับรางวัล หูหมาจมูกมดมากๆ
“ เปล่าครับพี่ แต่ตอนนี้พี่หยุดหัวเราะก่อนนะครับ วิดวะทั้งภาคหันมามองหมดแล้ว”
พี่ปอหยุดหัวเราะแล้วเงยหน้าไปมองกลุ่มวิดวะที่มองเราอยู่ก่อนแล้ว จากที่อารมณ์ดีแบบฉุดไม่อยู่ กลายสภาพหน้ามาเป็น โกรธแค้นใครมาเป็นระยะเวลานานประมาณชาติเศษ ผมมองหน้าพี่ปอ ที่เหมือนนัยน์ตามีรังสีบางหลายจ้องไปที่ใครบางคน ผมมองตามรังสีนั่นไป ก็พบกับผู้ชายที่หล่อโฮกจนอยากจะเอากล้องที่แขวนคอมากดชัตเตอร์ส่งไปให้พี่ก้อง(ตากล้องประจำ) ได้ดูเป็นขวัญตาถ้าไม่ติดว่าหน้ามันก็..ไม่ต่างจากพี่ปอเลย เพียงแค่มันดูโกรธกว่าชาติเศษ กลายเป็น 10ชาติไปแล้ว คนห่าไรว่ะ หล่อจริงอะไรจริง หล่อมากครับ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าม.นี้จะมีคนหล่อกว่าผม แว้ก>< ได้ไงอ่ะ ผมต้องหล่อสุดในม.เด่ะ!
“ น้องครับ!! บอกไอ้หมาไซบีเรียนฮัสกีหน้าภาชนะหุงต้ม ให้หุบตูดของมัน แล้วไสกะบาลกลวงๆออกจากบริเวณนี้ด้วยครับ!!”
คุณพระ ! พี่คนหล่อๆ ตะโกนข้ามน้ำข้ามทะเล(อันที่จริงข้ามเก้าอี้ผ้าใบสองอัน) บอกผม!! วู้ๆๆๆ คนหล่อๆเนี่ยเขาปากหมาไม่ต่างกันจริงๆ ผมรู้แล้วแหละครับว่าทำไมผมถึงปากมาหคงเพราะผมเป็นคนหล่อนี่เอง อิอิ
“ เอ่อ..ขอโทษครับพี่ ไปเหอะพี่ปอ”
ก้มหัวน้อยๆเป็นการขอโทษแล้วผมก็เอาศอกกระทุ้งพี่ปอเป็นการ ‘สะกิด’ บอกให้รีบๆกลับถิ่นเรา เดี๋ยวมีเรื่อง เพราะผมรู้ว่า ไอ้คณะข้างๆเนี่ยมันเถื่อน ดิบ เลว สาด ชาตินรกขนาดไหน (ใครอยู่วิดวะผมขอโทด TT วิดวะม.ผมมันเหี้ยจริงๆ) แต่ผมว่ามันก็บางคนอ่ะครับ แต่ผมคงซวยเจอแต่คนที่กล่าวมา ณ ข้างต้นทั้งนั้นมากกว่า เซ็งจิต!
“ โอ้ยๆๆ น้องเชลอย่าไปเชื่อฟังมัน ก็แค่เสียง ไส้เดือนพาวเวอร์ ที่ได้ทีก็เห่าหอนไม่แพ้กูหรอกว่ะ แต่พี่เนี่ยเป็นหมา หน้าที่ก็ต้องเห่าต้องหอนเป็นธรรมดา ไม่เหมือนไส้เดือนพาวเวอร์ ไม่มีเสียงยังเสือกมาเห่าแข่งอีก”
นั่นไง! เขาทั้งคู่มีปัญหากับปากได้อีก -*-
ตอนนี้คนเริ่มมองมากันใหญ่แล้วครับ แล้วพี่นายน์ ซุปเปอร์ว้ากเกอร์ประจำคณะก็เดินมาสบทบอีกคน พี่นายน์เดินเขามาด้วยสีหน้าเป็นห่วงพร้อมแตะไหล่พี่ปอเป็นเชิงปราม
เวรตะไลแล้ว ฝ่ายผมมีสาม ฝ่ายมันมีไม่ต่ำกว่าสามสิบ(แค่พวกว้ากเกอร์กับพี่ปีสามอดีตว้ากเกอร์) ถ้ามีศึกมวยทะเลกันละก็ ถาปัตเสียกับเสีย
เลือดคณะมันแรงครับ แม้ว่าจะอยู่คณะนี่ไม่กี่สัปดาห์ แต่ความรักคณะมันแพร่เข้าซีรีบรัมตั้งแต่วินาทีแรกที่ย่างก้าวเข้ารั้วของ ‘ถาปัต’ ก็ว่าได้
พี่หล่อหรือชื่อในวงการว่า ไส้เดือนพาวเวอร์ อย่างที่พี่ปอเรียก เดินมาแล้วครับพุ่งตรงมาหมายจะซัดหมัดแซกกลางหน้าพี่ปอหรือไอ้หมาไซบีเรียนฮัสกีหน้าภาชนะหุงต้ม ดูจากหน้าพี่แกคงจะหมายซัดให้เส้นเลือดฝอยแตกออกมาเป็นเลือดกำเดา หรือไม่ก็ ช้ำกระพุ้งแก้มจนเขียวแน่ๆ พี่ไส้เดือนพุ่งมากระชากคอเสื้อพี่ปอหน้าหม้ออย่างรวดเร็วพร้อม ยกแขนเตรียมงัดเต็มที่ แต่ผมเห็นท่าไม่ดี มือเลยไวไปจับหมับที่กำปันพี่แกที่ใหญ่กว่ามือเยอะ แต่ไม่เหนือบากกว่าแรงเท่าไร พี่ไส้เดือนหันหน้ามามองผมอย่างเคืองๆ ตาขวางเชียว ชิชะ รู้จักเชลน้อยไม่นิดนะครับ
“ ผมว่าปัญญาชนไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหานะครับ หึหึหึ”
แทบจะไม่เชื่อหูว่าเป็นเสียงของผมเอง แหะๆ เวลาแบบนี้ ไอ้ความเป็นผู้ใหญ่ในจิตใต้สำนึกก็ออกมาโชว์ผสมกับสันดานเก่าของคนหล่อ ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายได้โล่!
“ ยุ่งจังว่ะ มึง! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ริมาด่ากูว่า ไม่มีปัญญาหรือ หึ! ทั้งมึงทั้งรุ่นพี่ ปากนี่ เปิดฟาร์มเดียวกันด้วยแหะ!”
“ ถึงจะเป็นเด็ก แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ และผมคิดว่าตัวเองมีวุฒิภาวะมากกว่าคนที่ บอกว่าโตกว่าบางคนนะครับ”
ต๊ายย! ตาย! กลัวนะครับหาใช่ไม่กลัว แต่ต้องสะกดจิตตัวเองไว้ว่า ห้ามกลัว ห้ามเสียศักด์ศรีเด็กถาปัตเด็ดขาด !!
หมับ!
“ ไอ้เด็กเวร!”
มือมันสะบัดออกจากผมและปล่อยพี่ปอออก มันทำท่าว่าจะประเคนหมัดให้ผมเพื่อชำระแค้นแทน ผมก็เชิดหน้าให้มันต่อยอย่างท้าทาย เข้าซิมึง ต่อยกูเลย ไม่กลัวเว้ย!
เหมือนมีเทพเทวาองค์ใดเห็นใจผม ในจังหวะที่มันจะต่อยก็มีผี รักกับยมมากอดแล้วลากมันออกหากจากตัวผมนิดนึง ไม่ให้มันเตะต่อยผมถึง ผมว่าไอ้พี่หล่อเนี่ยมันก็คงจะเป็นคนอารมณ์ร้อนเอาโล่ทีเดียว
คงจะใกล้ถึงเวลาทานอาหารเที่ยงมั้งครับคนทั้งคณะผม และคณะมันแต่ภาคอื่น เลยมายื่นมุงดูแบบบางๆ ไม่หนาตามากเท่าไร หรือจะเป็นเพราะเสียงมีไส้เดือนตะโกน ว่า ‘ปล่อยกูๆ’ หรือ ‘ กูจะซัดมัน’ ไม่ก็ ‘ไอ้เด็กเวร’ ฯลฯ ที่จะคิดออกในในสภาพที่โดนเพื่อนรัดไว้ตั้งสองคน
“ ไอ้เพื่อนเหี้ยยยยย!! ปล่อยยยยยยยย!!!!! ไอ้เด็กเวรรร!! มึง! มึง! เมิงงงงงง!!!!!!!!”
เอาๆๆ ดิ้นเข้าไป แหกปากอย่างกับควายโดนเชือด ทีเด็ดแล้วครับทีนี่ เวลาที่ผมรอคอยจะตอกมันกลับก็มาถึง คนเต็มหาดแล้ว อิอิ มึง! ไอ้ไส้เดือน หึหึๆ มาน้อมรับความสะใจของกูซะดีๆ
“ เอ้า! จะแหกปากทำไมครับ? จะให้คนทั้งเกาะได้ยินรึไง ไม่อายบางหรือ หรือคำว่า หน้าด้านมันบดบัง”
ผมเน้นหนักที่ หน้าด้าน กระแทกแบบจุใจให้มันสะอึกไปเลย
“ เฮ้ย! น้องขอโทษมันซะ เรื่องจะได้จบๆ พี่ไม่อยากให้เพื่อนพี่ทำร้ายคนไม่มีทางสู้ ยิ่งมันบ้าๆด้วย”
ไอ้พี่หนึ่งในคู่หู รักยมถล่มโลกพูดขึ้นอย่างหน่ายๆ(ผมครีเอตฉายาพี่แกเองนะ) มีหรือผมจะยอม
“ พี่ก็บอกเพื่อนพี่ซิครับ บอกผมทำไม ก็เห็นมาผมอยู่เฉยๆ อ๋อ..แล้วที่พี่บอกว่า ผมไม่มีทางสู้เพื่อนพี่น่ะ คิดผิดแล้ว มือก็มี ตีนก็มี ไม่เห็นมาจะแปลกตรงไหน เพียงแต่ผมเลือกจะไม่ใช้กำลังมากกว่า คงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ด้วยว่า ผมมีในสิ่งที่เพื่อนมีไม่มี ส่วนเพื่อนมีในสิ่งที่ผม พี่ปอ พี่นายน์ หรือใครๆไม่มี”
เงียบ อึ้ง ตอนนี้กลายเป็นสงครามขนาดย่อมแล้ว ฉิบหายล่ะกู ยิ่งคนเริ่มเยอะๆ ทั้งสองคณะอยู่ นี่ผมอาจเป็นต้นเหตุสงครามโลกครั้งต่อไปก็ได้ เอาไงดีว่า เสียงในใจเริ่มหวั่นๆ ใจนึงอยากถอย อีกใจอยากชนะ ยิ่งมีเสียงซุบซิบนิดๆให้พอฮึกเหิม! เอาล่ะเชล! มึงก้าวมาไกลเกินกว่าจะให้มันจบง่ายๆ ถ้าจะมีเรื่องจริงๆ ขอไว้ลายอย่างผู้ชนะดีกว่า!
“ อะไรที่กูไม่มี อะไรที่มึงไม่มี ห่ะ!”
พี่หล่อว่าจบก็สะบัดไอ้คู่หูรักยมจนหลุด พี่ทั้งสองหันมาไว้อาลัยให้ผมสองวิ ประมาณว่า กูเตือนมึงแล้ว แต่ผม ! ต้องชนะเท่านั้น แม้ว่าจะแอบกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ เอาว่ะ! ต้องสู้!
“ พี่ไม่มีคำว่า ‘ผู้ดี’ ในสันดาน ส่วนผมก็ไม่มีคำว่า ‘ป่าเถื่อน’ ในจิตใต้สำนึก ” เป็นการแบ่งชนชั้นทางภาษาอย่างสวยงาม สันดาน กับ จิตใต้สำนึก ^^
“ อูยยยยยย ”
เป็นเสียงเดียวกัน ทั้งคณะผมและคณะพี่หล่อ หึหึ ตอนนี้พี่ปอที่เห็นหน้าไอ้พี่ไส้เดือนเริ่มมีน้ำโหหนัก พี่ปอวิ่งมากอดผมไว้ เอ่อ... ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่หล่อก็เพิ่มดีกรีความโกรธแบบแสนเท่าจากที่โกรธอยู่ ให้ตายกูจะรอดมั้ย? ไอ้เชี่ยนั่นก็ขบกรามเป็นสันด้วยความโกรธ มือก็กำหมัดแน่น
“ มึง! ห้ามทำไรน้องกู ถึงมันจะปากเสียเข้าขั้นหมา แต่มันก็พูดความจริงตามประสาเด็กใสซื่อ เห็นนกเป็นนก เห็นไม้เป็นไม้ เห็น ผู้ดีเป็นผู้ดี เห็นสถุนเป็นสถุน! น้องกูไม่ผิด”
โห! ผมไม่เคยคิดว่าพี่ปอจะมีมุมนี่ พี่แกไม่ได้มีดีแค่กวนตีนคนไปวันๆจริง ซึ้งใจโคตรจนผมโผกระโดดกอดพี่ปอตอบ แง๊~ คุณพ่อ คุณช่วยผมด้วย ไอ้ความกลัวออกจากสมองกูที TT
“ ไอ้..ไอ้! โว้ยยยยยยยยยยยยย กลับโว้ย! ไอ้เอกไอ้โม ” จากนั้นพี่ไส้เดือนก็ลากสังขารกลับไปที่ภาคของตัวเองพร้อมกับไอ้คู่หูรักยมที่ชื่อ เอกกับโม
เฮ้อ~ หวังว่าจะจบลงแค่นี้นะ
--------------\\
เม้นท์ให้หน่อยจิ^^
ภัสจะได้มีกำลังใจ
ความคิดเห็น