ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proving Love พิสูจน์หัวใจ ใครใช่เนื้อคู่!

    ลำดับตอนที่ #4 : เจอแล้ว...เนื้อคู่=[]=!(Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 56


    THE' FARRY
    2
    เจอแล้ว…เนื้อคู่ =[]=!
     
        ((พี่…))
     
        หือ ลากเสียงยาวอย่างนี้ หรือว่ากำลังเตรียมใจจะสารภาพรัก! อร้ายยย พูดมาเลยค่ะ คำว่า ‘คบกับพี่ด้วยเถอะ’ หรือ ‘พี่รักเม็ดสี’ กรี๊ด แค่คิดก็หน้าแดงไปถึงตูดแล้ว >///< (?) แล้วเราก็จะลงเอยกันด้วยดี แต่งงาน มีลูก มีหลาน มีเหลน มีโหลน แล้วก็แก่และตายไปพร้อมกัน(เริ่มเพ้อ)
     
        ((พี่…))
     
        โอ้ยยย ไม่ต้องเตรียมใจนานขนาดนั้นค่ะ เม็ดสีรับรักพี่อยู่แล้ว
     
        ((พี่ขออวยพรให้ใช้ชีวิตอยู่ที่โคราชอย่างมีความสุขนะ^^  อ้อ อย่าลืมซื้อของฝากมาให้พี่ด้วยล่ะ ไม่งั้นพี่งอน))
     
        พูดออกมาแล้ววว >0<
        เห?
        “พี่ไม่ได้จะสารภาพ…”
     
        ((หือ สารภาพอะไรอหรอ))
     
        “เปล่าค่ะT__T”
     
        ((อืม งั้นแค่นี้นะคะ พี่ไปละ))
     
        “ค่ะ”
     
        ติ๊ด
     
        กรี๊ด แห้ว…แห้วรับประทานอีกแล้วค่ะ ฉันแห้วทั้งปีอย่างที่ยัยเหม็นเขียวบอกจริงๆด้วยT0T!!
     
     
     
    ครึ่งชั่วโมงต่อมา
     
       …
     
       …

        เอาอีกแล้ว…มันเอาอีกแล้ว!! ไอ้เพื่อนบ้า ไปถามทางยังไงตั้งครึ่งชั่วโมงวะคะเนี่ย ป่านนี้คงจะถามจนรู้ไปทุกซอกทุกมุมในโคราชแล้วสิ -*- ให้ตายเถอะ! รวมๆแล้ว วันนี้ฉันเสียเวลารอไอ้เพื่อนบ้ากว่าชั่วโมงครึ่งแล้วนะ

        ฉันยืดคอมองหาสองเพื่อนบ้า แต่ก็ไร้วี่แววตัวตนของมัน =__= แต่ฉันจะไม่เดินหาเหมือนอย่างเคยหรอกนะ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรอีกรึเปล่า ไม่แน่ว่าฉันอาจจะไปวนลอดประตูเมืองอีกเป็นครั้งที่ 4 แล้วก็อาจจะมีเนื้อคู่คนโคราชเป็นสองคน(มั่ว) อีกอย่างฉันขี้เกียจลากกระเป๋าเดินทางไปๆมาๆให้เมื่อยแขน เพราะมันไม่ใช่แค่ใบเดียว แต่มันมี 3ใบ (ของเหม็นเขียวกับนมข้นด้วยน่ะ) แต่ละใบก็ไม่รู้จะหอบอะไรกันมานักหนา หนักอึ้งอย่างกับใส่ควายมาทั้งตัว ตอนนี้ฉันก็เลยเอากระเป๋านมข้นทับกระเป๋ายัยเหม็นเขียวแล้วฉันก็นั่งทับกระเป๋านมข้นอีกที(เพราะความแค้น -_-^^)

        ปึก!

        “โอ้ย…”

        “ฮ่วยยยย ไผสิมานังอะไรตรงหนี่เนี่ยยย”

        ผู้ชายร่างใหญ่ ผิวดำคล้ำ เสื้อผ้าขาดวิ่น โดยเฉพาะตรงกางเกงที่ขาดไม่รู้กี่รู  ผมหยิกหยอยกะเซอะกะเซิง หน้าตาอัปลักษณ์ ดั้งหัก ตัวเหม็นหึ่ง และสกปรกอย่างกับไม่ได้อาบน้ำมาสามวัน รวมๆแล้วคือไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง =__=เดินมาสะดุดฉัน(ที่กำลังนั่งทับกระเป๋ายัยนมข้นอยู่)แล้วล้มลงมาทับฉัน แต่ไร้ซึ่งคำว่าขอโทษแถมยังบ่นภาษาอะไรให้ฉันฟังก็ไม่รู้

        เขาลุกขึ้นยืนแล้วก็มองหน้าฉันคิ้วขมวด เฮอะ! ไม่ขอโทษ บ่นภาษาต่างดาว แล้วยังมองหน้าหาเรื่องอีกงั้นหรอ ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงน่ารักแต่ฉันก็ไม่อภัยคนนิสัยไม่ดีอย่างนี้หรอกนะ ไอ้บ้า!

        “ชนคนอื่นแล้วหัดพูดคำว่าขอโทษด้วย…”

        “งามหลายยยย *O*”

        “หะ?” หลังจากที่ไอ้บ้านี่จ้องหน้าคิ้วขมวดใส่ฉัน มัน(เปลี่ยนสรรพนามแล้ว)ก็ตะปบบ่าฉันทั้งสอง
    ข้างแทน แล้วก็ทำหน้าหื่นบ้ากามใส่

        “ผู้สาวช่างงามแท้ มาเป็นเมียข่อยเถอะ =.,=”

        เอาละสิ สถานการณ์เริ่มไม่ไว้วางใจ ไอ้บ้านี่มันทำหน้าหื่นใส่ฉันกว่าเดิมแล้วอ้ะ มือนี่ก็เกาะแกะไม่
    เลิก อ๊ะ
    ..มันเริ่มเปลี่ยนจากบ่ามาเป็นแขนแล้ว >_< ส่วนภาษาที่มันพูดฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
    หรอกเพราะพูดเร็ว และสำเนียงที่ฟังได้ยากมาก แต่ที่ฉันแปลออกอยู่คำนึงคือ

        ‘เมีย’!!

        “เมียเมออะไรฉันไม่รู้เรื่อง ออกไปเลยนะไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ >_<” ฉันพยามยามแกะมือปลา
    หมึกของนายหื่น(เรียกงี้ก่อนแล้วกัน)ออก แต่มันก็ไม่ยอมปล่อยเลยอ่ะ เอาไงดีๆ มันทำหน้าหื่นดับ
    เบิ้ลแล้ว TOT

        “ฮ่วยยยยย เข้าใจยากแท้น่อ ข่อยเว่า*ว่า มา-เป็น-เมีย-ข่อย-เถอะ”

       “กะ กรี๊ดดดดดดดดด”

        เข้าใจแล้ว มันบอกว่าให้ฉันไปเป็นเมียมันอ่ะ กรี๊ด ไม่ยอมหรอกนะที่คนน่ารักอย่างฉันจะไปเป็น
    เมียคนหน้าตาอัปลักษณ์อย่างนี้  ใครก็ได้ช่วยด้วย
    TOT

        อ๊ะ…เดี๋ยวนะ

        “ขอถามอะไรอย่างนึงสิ”

        “ฮ่วยยย อะไรอี๊ก”

        “เป็นคนที่ไหนหรอ”

        “หือ”

        “เป็นคนที่ไหน”

        “โคราชน่ะสิ”

        กรี๊ดดด ใช่เลย มันต้องเป็นผลมาจากไอ้ที่ฉันไปเดินวนลอดประตูเมืองนั่นแน่ๆเลยTOT! ไม่เอานะ
    ท่านย่าโม ถ้าเนื้อคู่ของฉันเป็นคนโคราชจริง ฉันไม่อยากมีเนื้อคู่สุดอัปลักษณ์อย่างนี้หรอกนะ TOT

        ฉันอาศัยช่วงที่มันกำลังพูดรีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนี ฉันหลับหูหลับตาวิ่งไปด้านหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่
    จะทำได้ และตะโกนร้องช่วยด้วยๆตลอดทาง ดีอยู่อย่างที่คนตัวเล็กๆอย่างฉันวิ่งหลบคนได้ค่อนข้าง
    สะดวก ส่วนคนตัวใหญ่ๆอย่างมันคงได้แต่วิ่งเอื่อยๆช้าๆตามรูปร่างของมันนั่นแหละ

        “ฮ่วยยยยย เจ้าจะแลน*หนีทำไม ข่อยเหนื่อยรู้มั๊ยยยยย”

        กรี๊ดดดดดด ผิดคาด TOT! ทำไมคนตัวใหญ่อย่างมันถึงวิ่งเร็วได้ขนาดนี้เนี่ย ฉันอุตส่าห์วิ่งเลี้ยวลดคดเคี้ยวหลบคนมหาศาลให้มันตามไม่ทันแล้วนะ แต่ทำไมมันยังวิ่งอยู่ด้านหลังอยู่เลยล่ะTOT ระ หรือว่าพลังของความเป็นเนื้อคู่ซึ่งกันและกัน กรี๊ดด ไม่ได้นะๆ

        “ฮ่วยยยยย เจ้าสิไปไสสส”

        “ฮ่วยบ้าฮ่วยบออะไร ฉันฟังไม่รู้เรื่อง TOT!  ช่วยด้วยๆ” 

        ฉันรีบเร่งฝีเท้าและตะโกนช่วยด้วยให้ดังกว่าเดิมทั้งๆที่ตอนนี้ฉันแทบจะไม่มีเสียงแล้ว  แต่ก็ไร้ซึ่ง
    คนสนใจเหมือนกับฉันเป็นเพียงส่วนเกินของสังคม แง คนโคราชใจร้าย
    ! …โอ๊ะ นั่นไง ตรงนั้นมี
    ซอยอยู่ ถ้าฉันเลี้ยวไปตรงนั้นมันต้องไม่เห็นฉันแน่ …ว่าแล้วฉันก็รีบหักมุมวิ่งเลี้ยวไปในซอยนั้น และ
    ปรากฏว่า

         ซอยตัน!!

        “ฮะๆ ในที่สุดก็จับได้แล่วว~”

        กรี๊ดด ไอ้พลังควาย! แกเห็นว่าฉันเลี้ยวมาตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย TOT  เอาไงดีล่ะ จะวิ่งต่อก็ไม่ได้เพราะซอยมันตัน อีกอย่างฉันก็หมดแรงแล้วด้วย

        “ยะ…อย่าเข้ามานะ”

        “มาเป็นเมียข่อยเถ๊อะ!!”  

        “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”

        ผลัก!

        ตุบ!

        ผลัวะ!

        ในตอนที่ฉันกำลังก้มหน้ารับชะตากรรมเนื้อคู่อัปลักษณ์ก็มีชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามา แล้วจัดการต่อย
    เตะ กระทืบ เฮดล็อค โชล์คแสลม สเปียร์ (ดูมวยปล้ำเยอะไปหน่อย = =;;) จนนายหื่นสลบเหมือดจม
    กองเลือด ตาค้างเห็นไม่เห็นตาดำ สยองหนักไปกว่าเดิมเลยอ่ะ

        “เป็นอะไรรึเปล่า” ชายปริศนาหันมาถามฉันที่เพิ่งยืนมองการต่อสู้ที่เขาชนะอย่างขาดลอย 

        “ไม่เป็นไรหรอก…โอ๊ะ O.O”

        อุแม่เจ้า! คนที่มาช่วยฉันหล่อมากเลยอ่ะ ร่างสูงโปร่ง ผิวเนียนขาวจัด ผมสีน้ำตาลเข้มปรกหน้า
    เล็กน้อย หน้าใส ตาเรียวคม จมูกโด่งและริมฝีปากบางแดงระเรื่อที่ผู้หญิงอย่างฉันต้องอิจฉา นี่มัน
    ผิดกับมนุษย์อัปลักษณ์ที่กำลังจะปล้ำฉันตะกี้นี้อย่างแรงเลยนะเนี่ย

        “ไม่เป็นไรก็ดี งั้นฉันไปนะ”

        “เดี๋ยว”

        “หือ?”

        “นายใช่คนโคราชรึเปล่า” เอ๊ะ นี่ฉันก็ถามแปลกๆ คนหล่อ จมูกเป็นสันอย่างเขาจะเป็นคนโคราช
    ได้ยังกันเนอะ

        “อืม..ฉันเป็นคนโคราช”

        “หา O_o!”

     
    * เว้า แปลว่า พูด
    *แลน แปลว่า หนี

         
         ในที่สุดตอนที่2ก็เสร็จแล้ว เย้>O< ตอนนี้เขียนช้ามากๆเลย เพราะว่าต้องมีภาษาอีสานด้วย

         คือ ไรเตอร์ไม่เก่งอีสาน แงTOT ใครคนอีสานก็ช่วยบอกกันหน่อยเด้อ (อุ๊ยตาย เผลอ)

         บอกไว้ก่อนนะคะว่านี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้จะดูหมิ่นคนโคราชเลยนะ

         เพราะจริงๆแล้วตอนเด็กๆไรเตอร์ก็อยู่เคยโคราชนะ แต่พูดอีสานไม่เป็นเลย (ได้อย่างไร -_-;;)

         เข้าเรื่องนิยาย อยากถามว่า ชอบเม็ดสีกันรึเปล่า?

         ดูเหมือนจะนิสัยไม่น่ารักเอาซะเลย พยายามแล้วนะ

         แต่มันออกมาเป็นแบบนี้อ่ะ แง TOT
       


     


     

          เม้นเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์หน่อยนะจ้ะ

     



                  

         
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×