คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ★BlackMail ฉบับที่ 3 : Plan Step Three - -* [100%]
BlackMail ★
Chapter III : Plan Step Three ^[]^
หลังจากที่ผมเสร็จธุระกับรถคันงามของไอ้ปิงก็รีบแจ้นเข้าห้องเรียนไซโคด้วยความเร็วแสง ถือเป็นโชคดีอย่างมากมายของผมที่วันนี้อาจารย์สุดโหดแกเข้าสาย นี่ถ้าอาจารย์แกไม่เข้าสาย แล้วผมเกิดไม่มีสิทธิ์สอบวิชานี้ขึ้นมาจริงๆ บ้านไอ้ปิงได้ลงข่าวหน้าหนึ่งว่าเกิดเพลิงไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ โทษฐานที่มันทำให้ผมสายมากกว่าเดิม -..-
ผมเข้าห้องมาทันเวลาเช็คชื่อเกือบจะพอดิบพอดี ตอนที่ผมเข้ามาเป็นเวลาที่อาจารย์กำลังขานชื่อไอ้กันต์เพื่อนผม ซึ่งชื่อมันกับชื่อผมห่างกันแค่ชื่อของไอ้ปริ้นท์คั่นไว้เท่านั้น หลังจากโล่งใจที่มาทันขานชื่อผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆไอ้กันต์อันเป็นเก้าอี้ตัวเดียวของแถวที่ว่าง
“ เกรียนอิท มึงมาเรียนไซโคเป็นด้วยหรอวะ? ”
พอก้นผมถึงเก้าอี้เท่านั้นแหละ ไอ้คนข้างๆมันหันมากระซิบกวนประสาทใกล้หูผมแล้วมันก็เนียนแกล้งทำเป็นตั้งใจเรียนต่อ อ้าว
มึงพูดงี้หาเรื่องกูนี่หว่า - -*
“ เกรียนกันต์ แล้วมึงมาเรียนเป็นด้วยหรอวะ? ”
ผมหันไปกระซิบมันตอบด้วยประโยคที่กวนประสาทไม่แพ้กัน ผมเห็นไอ้คนนั่งข้างๆผมอมยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มของมัน แต่จะว่าไปผมก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นกันต์มันมาเรียน เพราะปรกติมันเป็นท่านเทพในการโดด วิชาไหนไม่เช็คชื่ออย่าหวังจะได้เห็นหน้าหล่อๆกวนๆของมันโผล่มา ขนาดวิชาที่เค้าเช็คชื่อกันมันยังหาเรื่องโดดอยู่ร่ำไป แล้วนับประสาอะไรกับไซโคที่มีจำนวนครั้งในการโดดได้สูงกว่าวิชาอื่นๆทั่วไป ด้วยเหตุชะนี้เลยทำให้ไอ้เกรียนนี่กลายเป็นคนที่เจอตัวยากที่สุดในกลุ่ม แต่ถ้าอยากเจอมันจริงๆก็ตามหาได้แถวร้านอินเตอร์เน็ทชื่อโอโซนแถวๆหลังมอ
“ กูมาตามจีบสาว
^[]^ ” มันหันมากระซิบกระซาบผมอีกพลางชี้นิ้วไปที่แถวข้างหน้าถัดไปสองสามแถว
ผมมองตามนิ้วมือมันไปก่อนจะไปสะดุดสายตาอยู่ที่แผ่นหลังกว้างๆกับทรงผมที่เหมือนสกินเฮดเริ่มยาว ไม่บอกก็รู้ว่าใคร=..= ก็มันจะมีสักกี่คนที่มั่นใจในใบหน้าของตัวเองมากจึงถึงขั้นกล้าตัดทรงนี้ นี่ผมก็พึ่งรู้นะเนี่ยว่าปิงมันก็เรียนไซโคsectionเดียวกับผม หรือจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าเรียนเลยไม่รู้ว่าใครเค้าทำอะไรกันมั่ง -..-
“ คนไหนวะ
มึงอย่าบอกนะว่าไอ้ผู้ชายที่ตัดสกินเฮดหัวเกรียนๆนั่น! O.o ”
ผมหันไปกระซิบกับไอ้กันต์อีกครั้งอย่างตื่นเต้น เชี๊ยกันต์มึงอย่าบอกกูนะว่ามึงเป็นเกย์ แล้วไอ้เกรียนตัวที่นั่งข้างๆผมมันก็หันมาพยักหน้าแทนคำตอบเบาๆ...เวนแล้วไหมหล่ะเพื่อนกู ฟันผู้หญิงไปมากจนกรรมตามทันกลายเป็นเก้งไปแล้วหรอวะ T..T
“ เชี๊ยกันต์! มึงแม่งเป็นเก้งหรอวะ!! ”
ด้วยอารามตกใจทำให้ผมลืมตัวพูดซะดังจนทำให้หลายคนในห้องหันมามอง ไอ้กันต์รีบตะครุบปากผมไว้ก่อนที่มันจะตบหัวผมด้วยแรงควายๆของมันหนึ่งที
เจ็บนะมึงไอ้เชี๊ยนี่
“ ดังหาเตี่ยมึงดิ่! นั่นมันพี่รหัสน้องเค้า กูแค่จะไปขอเค้าเป็นพี่เทค ไอ้จ๊าดง่าวอิท ”
กูจะไปรู้กับมึงหรอไอ้ฟายกันต์ แล้วไอ้แสสนี่ตบหัวกูไม่พอ ด่าเตี่ยกูอีก แถมแม่งด่ากูโง่ด้วย จะมากเกินไปละ เดี๋ยวพ่องเอาไฟแช็กลนขนหน้าแข้งแม่งเลยหว่ะ =..=
“ กูจะรู้กับมึงมั้ย แล้วนี่มึงจะเล่นเทคข้ามคณะเลยหรอวะ - -* ”
ผมหันไปกระซิบกระซาบกับไอ้กันต์ต่อ สายตาพลางมองแผ่นหลังของไอ้ปิงที่มันดูตั้งใจเรียนมากมาย ผมเห็นมันก้มๆจดๆตลอดเวลาที่อาจารย์แกสอน หน้าตามึงโคตรไม่ให้เป็นเด็กขยันอ่ะ =..=
แล้วหนึ่งคาบเรียนของผมก็หมดไปกับการปรับทุกข์ของทั้งผมและไอ้กันต์ ผมบอกมันเรื่องน้องหยกตบกลางโรงอาหารคณะมนุษย์ฯแล้วขอเลิก ปรากฏว่าไอ้เพื่อนเลวนี่แทบจะปล่อยขำก๊ากกลางห้องสโลป แต่ดีที่ผมปิดปากมันทัน แถมมันยังมีหน้ามาบอกด้วยว่าคนอย่างผมเศร้าได้ไม่เกินหนึ่งวันหรอก -..- หนอย
มึงนะมึง กรูอกหักทีไรเห็นเป็นเรื่องตลกตลอดT..T
ส่วนสาเหตุที่ไอ้คนที่ขึ้นชื่อว่าตามหาตัวยากที่สุดในกลุ่มได้เสนอหน้ามาเรียนนี้ ก็เพราะว่ามันกำลังตามจีบสาวอยู่ครับ มันบอกน่ารักมาก เป็นน้องรหัสไอ้ปิง แล้วพอกันต์มันรู้ว่าปิงเรียนไซโคด้วยก็เลยหน้าด้านตามมาเรียนอย่างที่เห็น
อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปเองหรือเปล่า ผมเริ่มรู้สึกว่าชีวิตผมเริ่มเกี่ยวพันกับไอ้ปิงมากขึ้นโดยที่ผมไม่ต้องการสักเท่าไร ผมก็แค่กะว่าอีกสักประมาณเดือนนึงหรือสองเดือนก็พามันไปที่บ้านแล้วให้มันแกล้งเป็นแฟนหลอกๆให้ก็เท่านั้น แล้วนี่มันอะไรกัน เจอหน้ามันก็ตั้งแต่จอดรถ เข้าห้องเรียนก็ยังเจอหน้ามันอีก เพื่อนผมก็ดันไปชอบน้องรหัสมันด้วย อะไรมันจะเจอกันแล้วเจอกันอีกได้ขนาดนี้ มหาลัยก็ออกจะกว้างขวาง -0-
แล้วอาจารย์ท่านก็พูดประโยคที่ผมและอีกหลายคนรอคอย “ แล้วเจอกันชั่วโมงหน้าค่ะ
” ผมโดนแรงควายๆของไอ้กันต์ดึงให้ลุกขึ้นก่อนที่มันจะลากผมตรงดิ่งไปยังไอ้หัวสกินเฮดเริ่มยาวที่นั่งถัดไปสองสามแถวทันที จะลากกูไปด้วยเพื่อ? - -*
แล้วไอ้กันต์มันก็แตะเบาๆที่บ่าของไอ้ปิงเชิงเรียก ไอ้หล่อนั่นหันมามองหน้าผมกับเพื่อนด้วยสีหน้าเบลอๆเหมือนคนพึ่งตื่น มันหันมาจ้องผมแล้วฉีกยิ้มจนเห็นเหล็กดัดฟัน ยิ้มทำไมมึ๊ง
หน้ากูเหมือนหม่ำชะชะช่าหรอ? =..=
Now Loading
40% ^[]^
ตอนนี้กันต์ ปิงแล้วก็ผมนั่งอยู่ร้านกาแฟและเบเกอรี่ข้างหอสมุดของมหาลัย เนื่องจากกันต์มันบอกมีเรื่องจะคุยกับไอ้ปิงยาวก็เลยย้ายที่คุยมาเป็นที่ร้านฝ้ายนี่แทน และเป็นการซวยอย่างมากของผมที่ไม่มีเรียนอะไรต่อจากไซโค เลยถูกลากมารวมหัวอยู่ด้วยอย่างช่วยไม่ได้
แล้วมันสองคนก็คุยกันไปอย่างถูกคอราวกับลืมกันไปแล้วว่ายังมีผมอีกคนที่นั่งอยู่ด้วย ผมก้มลงดูดช็อคโกแล็ตปั่นในแก้วแบบไม่มีความหมายอะไร ถ้ามึงจะคุยกันเองก็ได้แบบนี้แล้วจะลากกูมาเพื่อ?
“ เอาเป็นว่านายตกลงให้เราเป็นพี่เทคน้องนายได้ใช่ป่ะ ”
ผมหันมามองไอ้กันต์ที่กำลังทำหน้ากระดี๊กระด๊าดีใจได้น่าถีบสุดๆ พอๆกับไอ้อีกคนที่แม่งเอะอะนึกอะไรไม่ออกก็ยิ้มไว้ก่อน แล้วผมก็ขอลงความเห็นว่ามึงนี่มันบ่มีไก๋จริงๆไอ้ปิง -..-
ผมที่กำลังจะตักชีสเค้กเข้าปากเป็นอันต้องหยุดชะงักลงเมื่อรู้สึกถึงสายตาจากโต๊ะรอบข้างที่กำลังโฟกัสมา- -* ก็คงไม่แปลกอะไรที่หลายคนจะหันมามอง ก็ไอ้สองตัวที่กำลังนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงในสายตาชาวบ้านเค้าตอนนี้ ต้องยอมรับว่ามันสองตัวแม่งหล่อโคตร! ทั้งปิงที่เรียกว่าหล่อบวกกับดูดี แต่เมื่อเพิ่มไอ้กันต์ไปด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมันคาบตำแหน่งรองเดือนคณะมารับประทานอย่างชิลๆ ทำให้ผมซึ่งก็หล่ออยู่พอตัวรู้สึกด้อยไปเลยเมื่อนั่งอยู่ในโต๊ะนี้ -____________-
ผมวางช้อนลงข้างจานเค้กเสียงดังแกร๊งทำให้มันสองตัวที่ดูจากสายตาคนภายนอกยังไงก็ไม่พ้นคำว่ากระหนุงกระหนิงกันอยู่หันมามอง มันสองตัวมองผมอย่างงงๆว่าผมเป็นอะไร แต่ก่อนที่ใครในโต๊ะของเราจะได้อ้าปากพูดอะไร ผมก็ชิงพูดก่อน
“ เฮ้ยกูกลับละนะ พอดีจอดรถไว้ตึกHB
”
ผมบอกพวกมันแค่นั้นแล้วเดินออกมาจากร้านทันที ไอ้ยินเสียงไอ้กันต์ตะโกนอะไรไล่หลังมาสักอย่างแต่ฟังไม่รู้เรื่องและผมก็ไม่คิดจะเดินกลับไปฟังด้วย
ผมก้มหน้าก้มตาเดินแบบไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ ที่ผมเคืองๆนี่ไม่ใช่เพราะว่านั่งอยู่กับพวกมันแล้วความหล่อของผมดูด้อยลงหรอกนะ=..= ผมแค่เคืองๆที่มันมากันสองคนก็คุยกันได้แล้วจะลากผมมาเป็นตัวประกอบฉากเพื่อ?
“ อิท! ” ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆวิ่งตามมาจึงหันไปมอง
ผมหันไปเจอใบหน้าเหลอหลาเหมือนคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิดของไอ้ปิงซึ่งเป็นคนที่กำลังวิ่งตามผมมา จะว่าไปมันก็ไม่มีใครผิดหรอก ทั้งกันต์ทั้งปิงแล้วก็ผมด้วย ถึงผมจะรู้สึกเหมือนตัวเองผิดที่จู่ๆก็เดินออกมาก็เถอะ แต่ยังไงคนอย่างไอ้อิทก็ไม่มีวันผิดหรอก ใครจะผิดก็ช่างแต่ผมไม่ผิด! =..=
“ ตามมาทำไมเนี่ย! ”
ผมหันไปทำเสียงดุใส่มัน มันวิ่งมาทันผมแล้วและกำลังเดินไปด้วยกัน ปิงยิ้มตามแบบฉบับของมันก่อนจะตอบประโยคคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบสักเท่าไรของผม
“ ใครบอกเราตามอิทมาแค่ขอเดินไปด้วยเฉยๆ รถเราก็จอดที่HBเหมือนกัน ^^ ”
มันตอบผมด้วยรอยยิ้ม ผิดกับผมที่กำลังหน้าบูดยิ่งกว่าเก่า จะยิ้มทำไมนักหนา....เดี๋ยวกูก็ต่อยให้จมูกโด่งๆของมึงนั่นยุบลงไปซะหรอก -..- พอพูดถึงรถผมก็เงียบไปแทบจะทันทีพลางแอบอมยิ้มเล็กๆโดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็น หึหึ
กวนตรีนให้ได้ตลอดรอดฝั่งนะมึง! พอถึงตอนที่มึงเห็นสภาพรถตัวเองแล้วก็ขอให้กวนตรีนกูให้ได้เท่าเดิมนะเว้ย!
ผมกับไอ้หัวเกือบเกรียนนี่เดินข้ามถนนระหว่างภาควิชาหนึ่งของคณะวิทยาศาสตร์กับคณะมนุษย์ฯ นั่นเท่ากับว่าลานจอดรถอยู่ข้างหน้าของพวกเราแล้ว ผมตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อกำลังคิดว่าไอ้ปิงจะทำหน้ายังไงตอนเห็นสภาพรถตัวเอง มันจะยังยิ้มร่าโชว์เหล็กดัดฟันยางสีน้ำเงินของมันได้ไหม
ผมสอดส่ายสายตาหาบริเวณที่รถไอ้ปิงกับรถผมจอดไว้ใกล้ๆกัน แต่ต่างกันที่ว่าผมจอดตรงขาวแดง-0- ก็จะให้ทำยังไงละครับ รีบก็รีบจะให้ไปวนหาที่จอดเป็นรอบที่ห้าก็คงไม่ไหวก็เลยจอดขาวแดงแม่งเลย -..- แต่ฉับพลันที่ผมกำลังขึ้นบันไดต่างระดับเพื่อไปที่ลานจอดรถนั่นเองงผมก็เห็นฝูงชนไม่ต่ำกว่ายี่สิบคนกำลังมุงอะไรบางอย่างอยู่ พอเหลือบไปมองไอ้ปิงที่กำลังทำหน้างงๆไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำขึ้นมาอย่างสะใจ
ผมเห็นมันเดินตรงดิ่งแซงผมเข้าไปที่ๆมันแย่งผมและจอดรถไว้เมื่อเช้า ฝูงชนแหวกทางให้มันกับผมที่จ้ำตามมันไปติดๆ แจ๊สสีแดงคันงามที่มันจอดไว้เมื่อเช้า ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างไปจากรถที่จอดอยู่ในสุสานรถเลย ล้อทั้งสี่ไม่มีลมเหลือพอที่จะให้เคลื่อนไปไหนได้ แต่นั่นคงไม่น่าตกใจเท่ากับตัวอักษรที่พ่นจากสเปรย์สีดำตัดกับกระโปรงรถสีแดงสดที่ผมบรรจงพ่นไว้เป็นคำว่า...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
BASTARD
ผมเหล่มองไอ้ปิงที่ตอนนี้นิ่งสนิทราวกับShut downตัวเองไปแล้ว มันไม่ได้แสดงอะไรออกมาทางสีหน้า นอกจากอาการที่นิ่งผิดปรกติของมันตอนนี้ แต่นั่นทำให้ผมแอบรู้สึกผิดเล็กๆกับสิ่งที่ทำลงไป นี่ผมจะแกล้งมันแรงไปรึเปล่าครับ? =[]=
Talk Talk Talk:
เอ่อ เอาเป็นว่า ขอแถลงการณ์เล็กน้อยถึงคำว่า BASTARD ที่เฮียอิทพ่นบนรถพี่ปิงนะคะ พอดีมันเป็นคำสบถประจำตัวของพี่ชายไรเตอร์ -0- (บอกชาวบ้านเค้าเพื่อ?) มันแปลออกมาประมาณว่า ไอ้เลว ประมานนี้นะคะ ส่วนที่แปลว่าลูกไม่มีพ่อ ก็ถูกนะคะ แต่คำนี้มันเป็นสำนวนอ่าค่ะ แปลได้ประมาน ไอ้เลว จริงๆนะเออ ขอหล่ะอย่าแปลตรงๆเลยนะคะว่าลูกไม่มีพ่อ ลูกนอกสมรส พอดีพ่อพี่ปิงเค้าก็ยังอยู่ดีมีสุขค๊า
PS. BASTARD อ่านว่า บาสเทิด ค่ะ =..= อย่าเอาไปใช้เลยเนอะมันหยาบ ฝรั่งถือนะคะ (แต่ฝรั่งเองก็ชอบสบถคำนี้) และก็ไม่ได้แปลว่า ลูกคุณตัวด้วยนะคะ เพราะลูกคุณตัวคือ Son of a bitch ค่ะ ^^’
beyo ng
ความคิดเห็น