ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : A Love to Kill (PG-13)[Yuri]

    ลำดับตอนที่ #4 : + + Chapter 3 + + [Fixed : แก้คำผิด]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 53


    ปังงงงงง !!!!
    เพล้งงงง !!!!
    เสียงปืนและเสียงกระจกที่ดังขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนที่กระสุนนัดหนึ่งจะพุ่งตรงเข้าที่แขนของผู้ก่อการร้าย ทำให้วิถีกระสุนที่พุ่งเข้าใส่เจสสิก้าเบนออกและถากที่สีข้างของเธอเล็กน้อยเท่านั้น
    เจสสิก้าไม่รอช้า เธอใช้จังหวะที่คนร้ายเสียการทรงตัวเตะเข้าที่ข้อเท้าของเขาอย่างเต็มแรงจนเสียหลักล้มลงกับพื้น นายตำรวจที่อยู่ข้างๆ จึงฉวยโอกาสดังกล่าวตรงเข้ามาทำการจับกุมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
    ขอบคุณที่ช่วย…”
    เจสสิก้าพูดสนทนากับหน่วยแกมม่าเบาๆ พร้อมกับเอามือจับที่บริเวณสีข้างของตัวเอง
    อาการแสบที่เกิดขึ้นทำให้เธอขยับตัวลำบากเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ เจสสิก้าเดินไปเก็บปืนของเธอที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาพร้อมกับเตรียมพร้อมที่จะลุยต่ออีกครั้ง
    แมท ! ทางนั้นเป็นไงบ้าง ?”
    /ยังไม่พบใครเลย…/
    พูดยังไม่ทันจบ เสียงปืนก็ดังแทรกขึ้นมาทันที
    /ปังงงง !!!!/
    ก่อนที่สายจะถูกตัดไป
    แมท ! แมท !!!”
    ไม่มีการตอบรับจากคู่สนทนา อีกทั้งเสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายทำให้เธอกลับยิ่งรู้สึกเป็นห่วงแมทธิวขึ้นมา
    ชึ้นไปชั้นบน ไปๆ !!”
    เธอออกคำสั่งกับลูกทีม ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งเรียงกันขึ้นไปยังชั้นบน
    ตูมมมมมม !!!!!
    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้พวกเธอต้องหมอบต่ำเพื่อหาที่กำบัง ก่อนที่เศษหินและเศษปูนจะค่อยๆ ถล่มลงมาจนบันไดขึ้นไปยังชั้น 4 นั้นใช้งานไม่ได้
    เจสสิก้ารีบวิ่งผ่านห้องต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว เพื่อจะตรงขึ้นไปยังชั้น 4 แต่เสียงที่ดังแว่วๆ ทำให้เธอต้องหยุดชะงักลงทันทีพร้อมกับการให้สัญญาณมือหยุด
    เจสสิก้าเดินย้อนกลับมายังห้อง 304 และได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังร้องโอดครวญอยู่ทางด้านใน เธอจึงให้สัญญาณบุกเข้าไปทันที
    ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นตัวประกันคนหนึ่งถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้ และที่สำคัญ เธอได้รับบาดเจ็บอยู่ด้วยนั่นเอง
    ไม่เป็นไรครับ พวกเรามาช่วยแล้ว…”
    พบตัวประกัน 1 คนที่ห้อง 304 ขอย้ำให้เตรียมหน่วยแพทย์เอาไว้ให้พร้อมด้วย หน่วยแกมม่าให้การสนับสนุนการช่วยเหลือตัวประกันด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน…”
    /รับทราบ…/
    พาตัวประกันออกไปยังที่ปลอดภัยที่เหลือแยกกันคนหาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้รอดชีวิตด้วย
    ครับ !!”
    ลูกทีมของเธอตอบกลับ ก่อนที่เจสสิก้าจะวิ่งออกมาจากห้องดังกล่าว และตรงไปยังบันไดกลางอย่างรวดเร็ว เพื่อขึ้นไปช่วยเหลือเพื่อนที่อยู่บริเวณชั้น 4
    เมื่อขึ้นมาถึง สิ่งที่เธอพบกลับเป็นนายตำรวจที่นอนเจ็บอยู่กับพื้น ซึ่งมีบาดแผลจากการโดนยิงที่บริเวณขา
    ไหวรึเปล่า ?”
    ไหวครับ !” นายตำรวจคนนั้นตอบกลับมาในลักษณะที่กัดฟันแน่น ซึ่งทำให้เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่าแผลนั้นคงจะเจ็บเอามากๆ เพราะขนาดเธอที่โดนแบบถากๆ ยังรู้สึกเจ็บเลย
    แกมม่า ได้ยินแล้วตอบด้วย…”
    /นี่แกมม่าทราบแล้วเปลี่ยน/
    คอยดูต้นทางแล้วยิงสนับสนุนชั้นด้วย ชั้น 4 บันได้กลางกำลังจะเดินลงไป มีคนได้รับบาดเจ็บอีก 1 ส่งคนเข้ามารับตัวที เจสสิก้าพูดพร้อมกับค่อยๆ พยุงร่างของนายตำรวจคนนั้นขึ้นและค่อยๆ ประคองเขาลงมายังชั้น 1 โดยลิฟท์ที่ยังคงใช้งานได้อยู่ ก่อนที่ทางทีมตำรวจอีกชุดหนึ่ง จะส่งคนเข้ามาช่วย และแบ่งเป็นกำลังเสริมให้กับเธอ
    เจสสิก้าเดินกลับขึ้นไปยังบันไดไปยังชั้น 4 อีกครั้ง ก่อนที่จะไล่ถีบประตูเข้าไปทีละห้องๆ
    ปึงงงง !!!!
    เจสสิก้ายังคงไล่เปิดประตูเข้าไปทีละห้องอย่างใจเย็น ปืนยังคงตั้งเอาไว้ระดับสายตาและพร้อมที่จะทำการยิงได้ทุกเมื่อ เธอก้าวเดินเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง และพยายามเดินให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
    กึกกึก
    เธอค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างช้าๆ โดยหลีกเลี่ยงการเดินเหยียบเศษข้าวของที่แตกกระจัดกระจาย เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังจนศัตรูนั้นรู้ตัว
    เจสสิก้าเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดและเห็นตัวประกันอีกคนหนึ่งถูกมัดเอาไว้ เธอจึงรีบเดินเข้ามาช่วยทันที
    อื้อออออๆๆ
    ท่าทางที่ดูตกใจของตัวประกัน โดยเหมือนกับกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หางตาของเธอเหลือบไปเห็นบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
    พลั่คคคคค !!!
    พันท้ายปืนที่ถูกฟาดเจ้าที่ท้ายทอยของเจสสิก้าอย่างแรงทำให้เธอทรุดลงกับพื้นทันที แต่ด้วยความโชคดีที่เธอหันไปเห็นก่อน การหลบนั้นจึงทำได้อย่างฉิวเฉียดแบบพอดิบพอดี แต่เพราะรัศมีของส่วนที่ยื่นออกมาเพียงเล็กน้อยทำให้เธอหลบมันไม่พ้น
    ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จับเธอเป็นตัวประกันอีกคนเลยดีไหมเนี่ย แสบนักนะ
    เจสสิก้าเอื้อมมือไปหยิบเศษไม้ที่หักอยู่ข้างๆ ฟาดเข้าที่หน้าแข้งของชายคนนั้นอย่างแรง โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
    อ๊ากกกกก !!!”
    ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างทำให้เขากระโดดอย่างลืมตัว ก่อนที่จะล้มลงเอามือกุมที่หน้าแข้งของตัวเองด้วยความเจ็บปวด
    หนอย นังตัวดี !!”
    พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปคว้าเอาปืนที่หล่นอยู่ข้างๆ ขึ้นมา
    ปังงงง !!!
    กระสุนหนึ่งนัดถูกยิงใส่เข้าที่มือของผู้ก่อการร้ายตรงหน้าโดยไร้ความลังเล ก่อนที่เจสสิก้าจะเหยียบบริเวณแผลซ้ำและเตะให้ปืนนั้นกระเด็นออกไปจากระยะ
     
    /นี่เบต้า ได้ยินแล้วตอบด้วย/
    อัลฟาได้ยินแล้ว เปลี่ยนเจสสิก้าตอบกลับไป เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานของเธอปลอดภัยดี เธอจึงค่อยๆ ถอยออกมาจากบริเวณนั้น โดยที่ไม่ลืมที่จะใช้กุญแจมือล๊อคตัวคนร้ายเอาไว้กับเสาเหล็กข้างๆ
    ทางนั้นเป็นไงบ้าง รายงานผลด้วย ?”
    /นายตำรวจในทีมได้รับบาดเจ็บ 1 นายที่บริเวณชั้น 4 เพราะ ปะทะกับผู้ก่อการร้ายโดยบังเอิญ.../
    ไอนั่นชั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว
    /นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 2 คนที่บริเวณชั้น 5 ของอาคาร จากการโดนเศษปูนหล่นมาทับ ตอนนี้กำลังทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่.../
    ทราบแล้ว... กำลังจะขึ้นไปช่วยสมทบเดี๋ยวนี้แหล่ะ
    /ท่านครับ สถานการณ์ชั้น 3 เคลียร์ พบตัวประกันอีก 4 คน ทำการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้วครับ !/
    ลูกทีมของเธอที่แจ้งเข้ามา หลังจากที่ทำการช่วยเหลือตัวประกันและผู้ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว เจสสิก้าจึงเดินย้อนกลับมายังจุดที่เธอจับผู้ก่อการร้ายเอาไว้
    เอ้า ! ไปได้แล้ว !!”
    เธอพูดพร้อมกับพยุงตัวของผู้ก่อการร้ายขึ้นมาโดยการเอามือไพร่หลังเอาไว้
    นังตัวดี อย่าคิดว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้เลยแล้วกัน !”
    สิ้นเสียงของเขา เสียงระเบิดก็ดังขึ้นทันที
    ตูมมมม !!!
    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้นายตำรวจที่อยู่ทางด้านนอกรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมทั้งแมทธิวด้วย
    เขาหันกลับไปมองดูแมนชั่นที่ค่อยๆ ถล่มลงมาทีละน้อยๆ อย่างตกใจ
    เจสสิก้า !!!”
    ปล่อย ! ผมจะเข้าไปช่วยเธอ !!”
    แมทธิวตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับพยายามสลัดตัวให้หลุดจากเหล่าตำรวจที่ขัดขวางเขาเอาไว้
    บอกให้ปล่อย !!!”
     
    ทางด้านของเจสสิก้าที่ยังคงติดอยู่ภายในตัวอาคารที่ค่อยๆ ทรุดลงทีละน้อยๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ขาขวาทำให้เธอต้องหันไปดู
    เศษกระจกที่ปักทิ่มอยู่ทำให้เธอค่อยๆ ดึงขากลับเข้ามาหาตัว พร้อมกับกัดฟันแน่นและดึงเอาเศษกระจกนั้นออก
    บ้าชะมัด !!”
    เธอสบถออกมาก่อนที่จะเห็นเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล เจสสิก้าพยายามมองหาของที่จะใช้ในการห้ามเลือด และพบราวตากผ้าและเสื้อผ้าที่กองกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้า ไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก
    เธอคว้าเอาเสื้อที่กองอยู่ขึ้นมาตัวหนึ่ง ก่อนที่จะนำเสื้อตัวนั้นมาพันรอบแผลของเธอเอาไว้ และรัดมันจนแน่นเพื่อเป็นการห้ามเลือด
    หึหึ ฮะๆๆ
    เสียงหัวเราะชวนหมั่นไส้ดังขึ้นทำให้เจสสิก้าต้องหันไปมอง
    พยายามไปก็เท่านั้น ยังไงเธอก็ไม่รอดอยู่ดี...
    เจสสิก้าค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมาพร้อมกับจ้องไปที่ชายคนนั้น
    แกต่างหากที่ไม่รอด...
    ร่างของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่เหลือแต่เพียงร่างกายครึ่งบน ครึ่งล่างของเขาถูกคอนกรีตขนาดใหญ่ทับจนแหลกละเอียด ซึ่งจากที่ดูแล้วเขาเองก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
    เชิญแกตายไปคนเดียวเถอะ !”
    พูดจบเธอก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที โดยที่ไม่เหลียวหลังกลับไปมองอีกเลย
    นี่เจสสิก้า ได้ยินแล้วตอบด้วย
    /.../
    บ้าชะมัด !”
    เครื่องมือสื่อสารที่ถูกตัดสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้
    เจสสิก้าพยายามคิดหาทางออกจากในสภาวะกดดันดังกล่าว เธอค่อยๆ กัดฟันและเดินมาหยุดอยู่ที่ขอบหน้าต่าง และเห็นรถดับเพลิงและตำรวจที่อยู่ภายนอกต่างก็ทำงานกันอย่างวุ่นวายเลยทีเดียว
    ตูมมมมมมม !!!!
    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้อาคารนี้เริ่มจะถล่มเร็วกว่าเดิม
    เพล้งงงง !!!
    เจสสิก้าหยิบเศษหินข้างๆ ตัวเขวี้ยงออกไปยังภายนอก พร้อมกับมายืนอยู่ตรงหน้าต่างบานดังกล่าว
    เฮ้ !!!”
    /แกมม่า B พบตัวเธอแล้วครับ อยู่ที่ ชั้น 4 ของอาคาร/
    ว่าไงนะ ?”
    แมทธิวถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
    /แกมม่า B พบตัวเธอแล้วครับ/
    ได้ยินดังนั้น แมทธิวจึงรีบออกมาจากรถสังเกตการณ์ทันที สายตาของเขาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังโบกไม้โบกมือขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณชั้น 4
    “Oh my gosh…”
    เจสสิก้า !!”
    เขาตะโกนเรียกเธอพร้อมกับชี้ให้ทางหน่วยดับเพลิงรีบทำการช่วยเหลือเธอออกมาอย่างเร่งด่วน
    เธอนี่มันบ้าชะมัดเลย !”
    แมทธิวพูดกับเจสสิก้าทันทีที่เธอลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว เขารู้สึกโล่งอกและดีใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก จะมีก็เพียงที่ขาของเธอเท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร
    เอาน่ะ จบลงด้วยดีก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
    เจสสิก้าพูดและทำท่ายักไหล่สบายๆ เหมือนกับไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่เธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาบาดแผลต่อไป
     
    อีกหนึ่งวันที่ผ่านพ้นไปโดยที่ไม่มีวี่แววของเจสสิก้า ยูริรู้สึกเป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก เพราะตามปกติแล้ว เจสสิก้าจะต้องมาตรงเวลาเสมอๆ
    นี่ก็ผ่านไป 2 วันแล้วนะ ทำไมเธอถึงหายไปเลยล่ะเจสสิก้า
    ยูริเฝ้าเป็นกังวลแต่กับเธอ จนงานทุกอย่างในร้านนั้นตกไปเป็นของซูซี่อย่างช่วยไม่ได้
    หรือว่าเธอจะเป็นอะไรไป
    สายตาของเธอยังคงจับจ้องออกไปยังนอกร้านอย่างมีความหวัง
    แสงแดดอ่อนๆ สีส้มที่สาดส่องเข้ามายังภายในร้าน อีกทั้งยังความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วทุกบริเวณทำให้บรรยากาศในตอนนี้ดูเหงาๆ
    ยูริยังคงนั่งเหม่อมองออกไปยังนอกร้านอย่างเศร้าๆ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
    เธอหันมาหาซูซี่ที่นั่งเล่น PSP อยู่อย่างเมามันส์ พร้อมกับพูดขึ้น
    ฝากดูร้านด้วยแปปแล้วกัน ขอไปเดินเล่นหน่อย…”
    พูดจบเธอก็เดินออกไปจากร้านทันที ปล่อยให้ซูซี่มองตามแผ่นหลังของเธอไปและนึกในใจ
    เค้าเป็นอะไรของเค้านะ
     
    ยูริเดินออกมาตามทางเรื่อยๆ ท้องฟ้ายามเย็นที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ จนแสงอาทิตย์นั้นค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปทีละน้อยๆ แสงไฟตามท้องถนนที่ค่อยๆ ติดขึ้นมาทีละดวงๆ ทำให้ท้องถนนเริ่มประดับไปด้วยแสงไฟ
    สายลมที่สัมผัสกับผิวกายของเธออย่างอ่อนๆ ให้ความรู้สึกหนาวเหน็บยิ่งนัก อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่เย็นลงหรืออาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าที่บาง ทำให้เธอรู้สึกหนาวกายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
    ตอนนี้ เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะเจสสิก้า
    ยูริพูดกับตัวเองเบาๆ และเงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้าอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ดวงอาทิตย์นั้นลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า และดวงดาวที่เห็นอยู่กระจัดกระจายกันออกไป ทำให้รู้สึกว้าเหว่ขึ้นมา
    ยูริเดินมาหยุดอยู่ที่ช๊อปแห่งหนึ่ง เสียงเพลงที่ดังแว่วออกมาเบาๆ ทำให้เธอต้องหยุดอยู่กับที่เพื่อฟังบทเพลงดังกล่าว พร้อมกับหลับตาลงและยิ้มออกมาบางๆ
     
    I found myself today…
    Oh, I found myself and ran… away
    Something pulled me back
    The voice of reason I forgot, I had…
    All I know is you not here to say
    What you always used to say…
    But, it’s written in the sky… tonight
     
    ยูริก้าวเดินออกมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่จะเริ่มต้นฮัมเพลงไปเบาๆ
    So I won’t give up…
    No I won’t break down
    Sooner than it seems life… turns around
    And I will be strong, Even if it’s all goes wrong…
    When I’m standing in the dark I’ll still believe…
    ยูริเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเจสสิก้า
    “Someone’s watching over… me”
     
    หลังจากที่ได้เดินเที่ยวเตร่มาจนพอใจแล้ว ยูริจึงตัดสินใจเดินกลับมายังร้านของตน และลงมือปิดร้าน ซูซี่หลังจากที่ช่วยเธอเสร็จจึงเดินเข้ามาหาใกล้ๆ พร้อมกับพูดขึ้น
    เจ้านายคะ…”
    อะไรรึ ?”
    เธอหันไปถามขณะที่เลื่อนประตูเหล็กปิดหน้าร้าน
    พรุ่งนี้ขอลานะคะ…”
    จะไปไหนงั้นรึ ?”
    ก็พรุ่งนี้มันวันหยุดไงคะ เลยว่าจะขอเดินทางกลับไปหาครอบครัวบ้างน่ะค่ะ…”
    ก็เอาสิพรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว
    ยูริตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ก่อนที่เธอและซูซี่จะแยกกัน
    ยูริมองตามหลังซูซี่ที่ค่อยๆ ไกลออกไปอยู่สักพัก ก่อนที่เธอเองก็จะเดินกลับเข้าไปยังในบ้านของตัวเองบ้าง
    เธอเดินขึ้นมายังห้องนอนชั้นสองของตัวเอง พร้อมกับหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมากางและกดเปิดเอาไว้ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป สายน้ำอุ่นๆ ที่ไหลสัมผัสร่างกายลงไปสู่พื้นให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หลังจากการทำงานภายในหนึ่งวัน
    หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอจึงเดินกลับมาในห้องนอน และหยิบโน๊ตบุ๊คนั้นมาวางและปืนขึ้นไปนอนเล่นบนเตียงอย่างสบายอารมณ์
    เธอกดเลือกเพลงฟังสบายๆ ขณะที่เลือกดูปืนรุ่นต่างๆ ไปด้วย
    รุ่นนั้นก็ดีรุ่นนี้ก็สวย
    เธอเลือกดูปืนรุ่นต่างๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว เธอกดปิดเครื่องไปก่อนที่จะพลิกตัวนอนหงายขึ้น และสูดหายใจเข้าลึกๆ
    สายตาของเธอเหลือบหันไปทางนาฬิกาบนผนังห้องอีกครั้งหนึ่ง
    จะเที่ยงคืนอยู่ละ
    เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปปิดสวิตไฟบริเวณหัวนอน จนบรรยากาศภายในห้องนั้นมืดสนิท แสงจันทร์อันน้อยนิดที่สาดแสงเข้ามาทำได้แค่เพียงมองเห็นภาพได้อย่างเลือนลางเท่านั้น
    ยูริถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง และผลิกตัวหันหลังให้กับหน้าต่าง ก่อนที่เธอจะผลอยหลับไปในที่สุด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×